Share

บทที่6

Author: ชุนกวงห่าว
ตอนแรกเธอเองก็ไม่อยากสนใจเสินหลีไอ้ดอกบัวสีขาว[1]นี้หรอก แต่เมื่อครู่นี้เธอนั่งอยู่ด้านหลังพวกเขา ได้ยินเสินหลีพูดโอ้อวดกับเพื่อนว่าวันที่เหลียงหยวนโจวกับสืออวี๋ลองชุดแต่งงานนั้นได้พาเธอไปด้วย ไม่เพียงแค่ให้เธอไปแถมยังให้เธอลองชุดแต่งงานด้วย แต่ยังผลักสืออวี๋เพื่อเธออีกด้วย

พอนึกถึงความเงียบและข้อเท้าที่บวมแดงของสืออวี๋ในวันนั้น ซ่งจื่ออินยังจะไม่เข้าใจสักที่ไหนกัน

เธอไม่ได้มีความอดทนเหมือนสืออวี๋ แค่ตบเสินหลีสองทีก็ยังถือว่าเบาไป

สีหน้าของเหลียงหยวนโจวมืดครึ้ม “นี่เป็นเรื่องระหว่างผมกับสืออวี๋ คุณไม่มีสิทธิ์มายุ่ง”

ในขณะที่พูด สายตาที่เย็นชาของเขาก็จ้องยังสืออวี๋ที่เพิ่งเดินมายืนอยู่ข้างซ่งจื่ออิน ในดวงตาเต็มไปด้วยความรังเกียจที่ไม่ปิดบังเลยแม้แต่นิด

“ผมคิดว่าให้เวลาคุณหลายวัน คุณจะใจเย็นลงได้ คิดไม่ถึงว่าคุณจะยุยงซ่งจื่ออินให้มาหาเรื่องเสินหลี”

สืออวี๋หน้าซีด “คุณคิดว่าฉันตั้งใจบอกเรื่องในร้านชุดแต่งงานวันนั้นให้จื่ออินงั้นเหรอ?”

“ไม่อย่างนั้นล่ะ? ไม่อย่างงั้นซ่งจื่ออินจะรู้ได้อย่างไร? ผู้หญิงร้ายกาจอย่างคุณ ไม่แปลกใจเลยที่ถูกตระกูลสือขับไล่ออกมา สิ่งที่ผมเสียใจที่สุด ก็คือเคยรักคุณ!”

ร่างกายของสืออวี๋สั่นไหวเล็กน้อย ก้าวถอยหลังสองก้าวโดยไม่รู้ตัว เหมือนจะล้มได้ตลอด

แปดปีก่อน เขาสารภาพรักกับเธอ บอกว่าสิ่งที่โชคดีที่สุดในชีวิตก็คือการได้เจอเธอ

แปดปีต่อมา เพื่อผู้หญิงอีกคน เขากลับบอกว่าสิ่งที่เสียใจที่สุดก็คือเสียใจที่เคยรักเธอ

นี่คือผู้ชายที่เธอรักมาแปดปี และคือผู้ชายที่เธอคิดจะใช้ชีวิตร่วมกัน

สีหน้าของซ่งจื่ออินเปลี่ยนไป รีบวิ่งไปตบเหลียงหยวนโจวหนึ่งที “เหลียงหยวนโจว หัวใจคุณถูกหมากินไปแล้วหรือไง? คุณมีหน้าพูดคำแบบนี้ออกมาได้ยังไง?!”

ตอนนั้นถ้าไม่ใช่เพราะอยู่กับเขา สืออวี๋ก็คงไม่ถูกตระกูลสือขับไล่ออกมา

ตอนนี้เขากลับเอ่ยคำพูดแบบนี้กับสืออวี๋ เพียงเพราะชู้สาวที่ไร้ยางอายคนหนึ่ง นี่มันต่างอะไรกับการเอามีดแทงใจเธอ?!

หลังจากพูดประโยคนั้นออกไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ เหลียงหยวนโจวก็เริ่มรู้สึกเสียใจและหงุดหงิด

หันไปมองสืออวี๋อย่างไม่รู้ตัว เธอยืนอยู่ด้านหลังซ่งจื่ออิน ก้มหน้าไว้มองไม่เห็นสีหน้า

เสินหลีที่อยู่ข้างๆสังเกตถึงความเปลี่ยนแปลงของเขาอย่างไว ดวงตาเป็นประกายวาบหนึ่ง รีบวิ่งไปตบหน้าซ่งจื่ออิน

ซ่งจื่ออินเคยเรียนซ่านโฉ่ว[2]มาก่อน แน่นอนเสินหลีย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเธออยู่แล้ว จึงถูกตบไปหลายครั้งอีก

เหลียงหยวนโจวก้าวไปข้างหน้าคิดอยากจะแยกทั้งสองออก แต่ก็แยกไม่ออกเลย แถมถูกข่วนที่หน้าอีกหลายทีด้วย ดูน่าสมเพชมาก

สถานการณ์วุ่นวายไปชั่วขณะหนึ่ง สุดท้ายก็เป็นพนักงานที่เข้ามาแยกผู้คนออกจากกัน

ซ่งจื่ออินไม่เป็นไร แต่เสินหลี ผมยุ่งเหมือนรังไก่ แก้มทั้งสองบวมอย่างเห็นได้ชัด ดูน่าสงสารยิ่งนัก

เธอหันมองเหลียงหยวนโจวด้วยความอ้อนวอน อยากให้เขาปลอบ

“ประธานเหลียง……”

แต่เหลียงหยวนโจวไม่สนใจเธอ มองไปที่สืออวี๋ที่ยืนเงียบอยู่ที่เดิมตลอด สีหน้าเคร่งขรึมเล็กน้อย

สืออวี๋ไม่ได้มองเขา ฝืนยิ้มให้ซ่งจื่ออิน “จื่ออิน เราไปกันเถอะ ฉันไม่อยากอยู่ตรงนี้แล้ว”

มื่อเห็นใบหน้าของเธอซีดเผือดจนไม่เหลือสีเลือดเลย ซ่งจื่ออินก็รู้สึกตึงเครียดในใจ

“โอเค”

เธอเดินไปข้างกายสืออวี๋ จับมือที่เย็นของสืออวี๋แล้วเดินออกไป

ระหว่างทางกลับ สืออวี๋มองออกไปนอกหน้าต่างด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไม่รู้คิดอะไรอยู่

ซ่งจื่ออินอยากเอ่ยปากพูดหลายครั้ง แต่สุดท้ายก็ทนเอาไว้

จนกระทั่งรถจอดที่ชั้นล่างบ้านของสืออวี๋ เธอจึงพูดว่า “อาอวี……คืนนี้ขอโทษนะ ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะฉันอารมณ์ชั่ววูบ ก็คงไม่……”

สืออวี๋หันมองเธอ “ไม่เกี่ยวกับแก วันนี้ฉันเหนื่อยแล้ว ไม่เรียกแกขึ้นไปนั่งแล้วนะ กลับไประวังตัวด้วยนะ”

“อาอวี……แกอย่าทำให้ฉันตกใจนะ ฉันกลัว”

เมื่อเห็นความกังวลในตาของซ่งจื่ออิน สืออวี๋อยากยิ้มให้เธอ แต่กลับพบว่าทำไม่ได้ จึงได้แต่ส่ายหน้า

“ฉันไม่เป็นไร นอนพักสักหน่อยก็หายแล้ว แกกลับไปเถอะ ไม่ต้องห่วงฉัน”

พูดจบ เธอเปิดประตูลงจากรถ

หลังจากเห็นซ่งจื่ออินขับรถจากไป สืออวี๋จึงค่อยเดินขึ้นตึก

กลับถึงบ้าน เธอนั่งอยู่บนโซฟาเป็นเวลานาน

จนได้ยินเสียงเปิดประตูดังขึ้น เธอจึงเงยหน้าขึ้นอย่างแข็งทื่อ

เหลียงหยวนโจวเดินเข้ามาจากประตู แสงไฟบนหัวส่องสว่างใบหน้าที่หล่อเหลาของเธอ หล่อและทำให้คนหลงใหลเช่นเคย แต่สืออวี๋กลับรู้สึกถึงเพียงความแปลกหน้า

เธอก้มหน้าไม่มองเขาอีก มือข้างๆบีบแน่นเล็กน้อย

เหลียงหยวนโจวนั่งลงตรงหน้าเธอ ไม่มีใครพูดอะไรเลย เสียงเงียบเหมือนแม้แต่เสียงเข็มตกก็ยังได้ยิน

ไม่รู้ผ่านไปนานเท่าไร เหลียงหยวนโจวจึงเอ่ยปากพูดขึ้นว่า “สืออวี๋ คืนนี้สิ่งที่ผมพูดในร้านอาหาร ไม่ได้ตั้งใจจะพูด คุณอย่าไปใส่ใจเลยนะ”

สืออวี๋ยิ้มเย้ยเล็กน้อย ตั้งใจจะพูด หรือในที่สุดก็พูดความในใจออกมาสักที?

บางที มีเพียงเขาเท่านั้นที่รู้

ถึงตอนนี้ เธอเองก็ไม่รู้แล้วว่าคำไหนของเขาเป็นจริง คำไหนเป็นเท็จ

เมื่อเห็นว่าสืออวี๋ไม่พูดอะไร เหลียงหยวนโจวก็ขมวดคิ้ว กำลังจะพูด โทรศัพท์ในกระเป๋าก็ดังขึ้น เป็นเสินหลี

เขาลังเลสักครู่ แต่ก็เลือกที่จะรับสาย

ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายพูดอะไรไป เหลียงหยวนโจวพูดด้วยสีหน้าที่จริงจัง “ผมจะไปเดี๋ยวนี้”

วางสาย เห็นสืออวี๋กำลังมองตัวเอง เหลียงหยวนโจวก็เม้มริมฝีปากที่บาง “เสินหลีอุบัติเหตุทางรถยนต์ ตอนนี้ผมต้องไปดูสักหน่อย”

สืออวี๋ยิ้มเย้ยบนมุมปาก “อุบัติเหตุทางรถยนต์แล้วยังมีแรงโทรบอกคุณด้วย ลำบากเธอแล้วจริงๆ”

เหลียงหยวนโจวขมวดคิ้ว จากนั้นก็นึกถึงคำพูดที่ตัวเองพูดในร้านอาหาร แล้วก็อดกลั้นความโกรธในใจไว้ “อวี่ เรื่องเล็กน้อยอย่าไปคิดมาก”

สืออวี๋หัวเราะในใจ สามีเพราะคำโกหกของผู้หญิงอีกคนจึงทิ้งเธอ ก็ยังคงต้องอดกลั้นความโกรธในใจไว้ กักความอดทนแล้วพูดออกมา “อาอวี ถือสารายละเอียดแบบนี้มันไม่มีความหมาย”

สืออวี๋รู้สึกขบขันที่คู่หมั้นของเธอทิ้งเธอไปเพราะคำโกหกงี่เง่าของผู้หญิงคนอื่น แต่กลับเรียกเธออย่าถือสากับรายละเอียด

เขาลุกขึ้นยืนเพื่อจะจากไป เสียงของสืออวี๋ดังมาจากข้างหลัง

"เหลียงหยวนโจว ขอแค่คุณอยู่ต่อ ฉันก็จะให้อภัยคุณ"

ฝีเท้าของเหลียงหยวนโจวหยุดชะงัก ใบหน้าแข็งทื่อ

หันไปมองสืออวี๋ เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำ "ผมรู้ว่าเพราะเรื่องคืนนี้ คุณเลยรู้สึกโกรธ แต่อุบัติเหตุทางรถยนต์ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อย มันเป็นเรื่องของความเป็นความตาย คุณอย่า……"

คำว่าอย่าใจแคบแบบนี้ยังไม่ทันได้พูดออกมา สืออวี๋ก็ขัดจังหวะเขาอย่างใจเย็น

"ฉันเข้าใจแล้ว คุณไปเถอะ เมื่อกี้ฉันแค่พูดเล่น"

เหลียงหยวนโจวรู้สึกว่าคืนนี้เธอมีบางอย่างผิดปกติ และความรู้สึกไม่สบายใจอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนก็ผุดขึ้นมา

"พอผมกลับมา เราค่อยคุยกันเรื่องวันแต่งงานอีกครั้ง"

คำพูดนี้ของเขานับว่าเป็นการปลอบประโลม อีกทั้งยังเป็นการยอมอ่อนแบบอ้อมๆ แต่สืออวี๋กลับไม่ตอบกลับอย่างผิดปกติ

"คุณไปยุ่งเถอะ"

เมื่อนึกถึงเมื่อกี้ทางปลายสายเสินหลีร้องว่าเจ็บตลอด เหลียงหยวนโจวก็ไม่ได้พูดอะไรอีก หันหลังและเดินจากไป

ประตูเปิดและปิด ห้องนั่งเล่นเงียบลงอีกครั้ง

สืออวี๋ลุกขึ้นเดินไปที่ห้องนอน หยุดตรงหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง เปิดกล่องเครื่องประดับ หยิบสร้อยเพชรอันหนึ่งออกมาแล้วโยนทิ้ง

สร้อยคอเส้นนี้เป็นเครื่องประดับที่มีคาราสูงที่สุดที่เหลียงหยวนโจวมอบให้เธอ เหตุผลที่เธอให้ความสำคัญกับมันมาตลอดไม่ใช่เพราะมันแพงที่สุด แต่เพราะสร้อยคอนี้เคยช่วยชีวิตเหลียงหยวนโจวไว้

ตอนนั้นเหลียงหยวนโจวกลับจากไปทำงานต่างประเทศมา เห็นสร้อยนี้โดยบังเอิญ จึงอยากซื้อให้เธอเป็นของขวัญ

แต่ตอนั้นเงินบนตัวของเขาไม่พอ โอนเงินข้ามประเทศก็ใช้เวลาไปไม่น้อย จึงพลาดเที่ยวบินที่บินกลับประเทศ

และต่อมาเที่ยวบินนั้นก็เกิดอุบัติเหตุในระหว่างบิน ผู้โดยสารและลูกเรือทั้งหมดบนเครื่องบินเสียชีวิต

สืออวี๋รู้สึกขอบคุณเขามาตลอดที่เห็นสร้อยนี้ เพราะถ้าไม่ใช่สร้อยนี้ เธอก็จะสูญเสียเหลียงหยวนโจวไปแล้ว

แต่ว่าการปรากฏตัวของเสินหลี ทำให้ความรักทั้งหมดของเธอกลายเป็นเรื่องตลก

ตอนนี้ในกล่องเหลือแค่แหวนเพชรฝีมือการประดิษฐ์ที่หยาบๆวงหนึ่ง

แหวนเพชรนี้เป็นแหวนที่เหลียงหยวนโจวทำด้วยตัวเองในปีแรกที่พวกเขาเริ่มคบกัน เมื่อเขายื่นแหวนให้เธอ สิ่งแรกที่เธอมองเห็นไม่ใช่เพชรบนแหวน แต่เป็นมือของเขาที่เต็มไปด้วยรอยแผลจากการขัดแหวน

ตอนให้เธอสวมแหวน เขาสัญญาว่าในอนาคตจะเปลี่ยนแหวนวงใหญ่และสวยกว่านี้ให้ เธอบอกเอาอะไรมาก็ไม่เปลี่ยน เธออยากได้วงนี้แหละ

ต่อมาเมื่อรู้ว่าเพื่อจะซื้อเพชรเม็ดนั้น เขาต้องทำงานส่งอาหารเป็นเวลาสองเดือนเต็ม ๆ และยังต้องลงมือขัดเพชรเอง ทำตัวเรือนแหวนด้วย……

สืออวี๋ฟังแล้วก็ว่าเขาโง่ ทั้งร้องไห้และหัวเราะ ในใจทั้งรู้สึกเจ็บปวดและซาบซึ้ง

แต่ตอนนี้นึกดูแล้ว คนที่โง่มันคือเธอต่างหาก

เธอหยิบแหวนขึ้น ใส่ที่นิ้วนาง

แหวนที่เคยพอดีกับนิ้ว ตอนนี้กลับหลวมขึ้นเป็นรอบใหญ่เลย

สืออวี๋ถอดแหวนออก มองอยู่นานจนตาเริ่มแสบร้อน ก่อนจะวางแหวนกลับเข้าที่เดิม

ให้โอกาศเขาครั้งสุดท้าย ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายแล้วจริง……

——————————————————————————————

[1]ดอกบัวสีขาว หมายถึง บุคคลที่ดูบริสุทธิ์ แต่อาจมีเจตนาซ่อนเร้น

[2]ซ่านโฉ่ว หมายถึง รูปแบบศิลปะการป้องกันตัวและกีฬามวยใช้เท้าอย่างหนึ่งของจีน
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 221

    เมื่อเห็นเขายิ้มมุมปาก ดูเหมือนจะไม่ใส่ใจเรื่องงานของตัวเองเลยสักนิด สืออวี๋ก็ยิ่งรู้สึกผิดในใจเขาคงแกล้งทำเป็นสบาย ๆ ก็เพราะไม่อยากให้เธอโทษตัวเองสินะเธอสูดหายใจเข้าลึก แกล้งทำเป็นประหลาดใจแล้วพูดขึ้นว่า: “ฉันก็นึกไม่ถึงเหมือนกันค่ะ ดูท่าต่อไปคุณก็จะเป็นหมอซือที่ค่าตัวหลายสิบล้านแล้วสินะคะ”“อืม เพราะงั้นคุณไม่ต้องห่วงผมหรอก หมอที่ค่าตัวหลายสิบล้านแบบนี้ โรงพยาบาลไหนบ้างจะไม่แย่งกันเอา”สืออวี๋พยักหน้า “พูดถูก โรงพยาบาลไหนได้ตัวคุณไปก็ถือว่ากำไรมหาศาลแล้ว”พอดีกับที่ลิฟต์มาถึง ทั้งสองจึงเดินเข้าไปด้วยกันเมื่อออกจากลิฟต์ ทั้งสองก็แยกย้ายกันตรงหน้าประตูพอกลับถึงบ้าน สืออวี๋ก็วางเสื้อผ้าที่ซื้อเมื่อตอนบ่ายไว้ตรงโถงทางเข้าบ้าน เปลี่ยนรองเท้า แล้วไปหยิบน้ำขวดหนึ่งจากตู้เย็น ก่อนจะเดินมาทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาในห้องนั่งเล่นเธอหยิบมือถือออกจากกระเป๋า ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจโทรออกไปยังเบอร์ของเหลียงหยวนโจว“อาอวี๋... ผมนึกไม่ถึงเลยว่าคุณจะยังติดต่อผมมา...”น้ำเสียงของเหลียงหยวนโจวเจือความดีใจและความรู้สึกแบบทำตัวไม่ถูก ราวกับย้อนกลับไปในช่วงที่เขากำลังจีบสืออวี๋ ที่

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 220

    “อืม ผู้ชายเฮงซวยแบบนั้น ก็ไม่มีอะไรให้ต้องเสียดายจริง ๆ นั่นแหละ เราไปกันเถอะ”อีกด้านหนึ่ง หลังจากเหลียงหยวนโจวอุ้มเสินหลีไปส่งที่รถ เขาก็ยืนอยู่ข้างรถและพูดด้วยสีหน้าเย็นชาว่า: “ผมยังมีธุระที่บริษัท เดี๋ยวให้คนขับรถส่งคุณไปโรงพยาบาล”พูดจบ ก็ทำท่าจะปิดประตูสีหน้าของเสินหลีเปลี่ยนไป เธอยื่นมือไปคว้าแขนเสื้อของเขาไว้ทันที “หยวนโจว คุณไม่ไปกับฉันเหรอคะ? ถ้าเผื่อลูกเป็นอะไรขึ้นมา…”เหลียงหยวนโจวพูดแทรกขึ้นมาอย่างหมดความอดทน “ผมไม่ใช่หมอ อีกอย่าง ต่อไปนี้ถ้าคุณเจอสืออวี๋ก็หลีกเลี่ยงเธอซะ พยายามอย่าไปปรากฏตัวต่อหน้าเธอ”“ว่าไงนะคะ?”เสินหลีมีสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ “คุณไม่แม้แต่จะถามสักคำว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้น ฉันถูกรังแกหรือเปล่า แต่กลับบอกให้ฉันเห็นสืออวี๋แล้วต้องเป็นฝ่ายหลีกเลี่ยง?”เรากำลังจะแต่งงานกันอยู่แล้ว เขาไปเข้าข้างสืออวี๋ได้ยังไง!“จำเป็นต้องถามด้วยเหรอ ด้วยนิสัยของสืออวี๋ ถ้าคุณไม่ไปหาเรื่องเธอก่อน เธอก็ไม่แม้แต่จะชายตามองคุณด้วยซ้ำ”“งั้นคุณก็หมายความว่าทั้งหมดเป็นความผิดของฉันงั้นสิ”เหลียงหยวนโจวหมดความอดทน เขามองเธออย่างเย็นชา แววตาหนาวเยียบ“รู้ตัวก็ดีแล้ว ที่ผม

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 219

    “ดูภายนอกก็ดูดี ไม่นึกเลยว่าจะทำเรื่องน่าขยะแขยงแบบนี้ได้!”“เหอะ ๆ ของทั้งเนื้อทั้งตัวรวมกันก็เกือบสิบห้าล้านแล้วมั้ง ผู้ชายคนนั้นก็คงรวยน่าดู ไม่อย่างนั้นจะรีบพุ่งเข้าไปจับขนาดนั้นเหรอ?” …เสียงซุบซิบดูแคลนรอบข้าง ยิ่งทำให้เสินหลีรู้สึกรังเกียจชืออวี๋มากขึ้นไปอีก เห็น ๆ อยู่ว่าตัวเองคุมแฟนไม่อยู่ มีสิทธิ์อะไรมาโทษเธอด้วยล่ะ? ถ้าเป็นรักแท้จริง ๆ คบกันปีสองปีก็แต่งงานกันแล้ว นี่เหลียงหยวนโจวคบกับเธอมาห้าปีแล้วยังไม่แต่ง ก็ได้แต่พูดว่าเขาไม่เคยคิดจะแต่งงานกับสืออวี๋เลยต่างหาก เธอแค่ปรากฏตัวได้ถูกจังหวะก็เท่านั้น เธอไม่ได้ผิดอะไรเลยยิ่งคิด เสินหลีก็ยิ่งโมโหขณะที่เธอกำลังจะโต้เถียงสืออวี๋ จู่ ๆ ก็รู้สึกปวดเกร็งที่ท้องขึ้นมาอย่างกะทันหัน“อ๊า... ท้องของฉัน...”เธอรีบกุมท้อง ใบหน้าซีดเผือดจนแทบไร้สีเลือดผู้คนที่มุงดูอยู่รอบตัวเธอรีบถอยห่างทันที บนใบหน้าของทุกคนมีแต่ความดูถูกเหยียดหยามและรังเกียจ กลัวว่าเสินหลีจะแกล้งพาลใส่พวกเขาเมื่อเห็นว่าทุกคนมีแต่ท่าทีเย็นชา ไม่มีใครยอมช่วยเรียกรถพยาบาลให้ เสินหลีจึงทำได้เพียงทนความเจ็บปวดที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ แล้วกดโทรศัพท์หาเหลียง

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 218

    ปกติถ้าพวกเขาอยากได้อะไรที่เกินเงินค่าขนมของตัวเอง ก็จะไปทำงานพาร์ทไทม์หาเงินซื้อเอง สมัยเรียนมหาวิทยาลัย การแต่งตัวและการกินอยู่ของซ่งจื่ออินก็ไม่ต่างจากคนส่วนใหญ่ เลยมีน้อยคนมากที่จะรู้ว่าเธอเป็นลูกสาวของประธานสือกรุ๊ปแม้ว่าตอนนี้คุณพ่อของเธอจะไม่จำกัดเรื่องเงินแล้ว แต่เสื้อผ้าที่ซ่งจื่ออินใส่ในชีวิตประจำวัน ส่วนใหญ่ก็ยังเป็นของที่ซื้อตามตลาดนัด“ได้”ซ่งจื่ออินลองเสื้อผ้าเสร็จ ก็เลือกซื้อชุดที่ค่อนข้างพอใจสองสามชุด พอรูดบัตรเสร็จก็ให้ทางร้านจัดส่งไปที่บ้านตระกูลซ่งโดยตรงทั้งสองคนกำลังจะเดินออกจากร้าน ร่างเพรียวบางร่างหนึ่งก็เดินเข้ามาในร้านพอดีพอเห็นว่าเป็นเสินหลี สีหน้าของซ่งจื่ออินก็เคร่งขรึมลงทันทีสืออวี๋เองก็ประหลาดใจไปชั่วครู่ แต่พอนึกถึงเรื่องที่เหลียงหยวนโจวเคยบอกว่าจะแต่งงานกับเสินหลี ก็ไม่รู้สึกแปลกใจอีกต่อไปเสินหลีในวันนี้แตกต่างจากเมื่อก่อนที่ดูเรียบง่ายจืดชืด เธออยู่ในชุดแบรนด์หรูสั่งตัด ผมยาวดัดลอนอ่อน ๆ ในมือหิ้วถุงช้อปปิ้งแบรนด์ไฮเอนด์หลายใบ บนข้อมือสวมนาฬิกาประดับเพชรแวนคลีฟแอนด์อาร์เพลส์ เผยให้เห็นความหรูหราประณีตตั้งแต่หัวจรดเท้าซ่งจื่ออินแค่นเสียงเ

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 217

    แต่ตอนนี้คือโอกาสที่จะได้อยู่กับสืออวี๋ และนี่อาจเป็นโอกาสเดียวในชีวิตของเธอ เขาไม่มีทางปล่อยมันไปเด็ดขาดเขากระดกไวน์แดงในแก้วจนหมดรวดเดียว ก่อนจะหันหลังเดินเข้าห้องนอนไปชั่วพริบตาเดียวก็ถึงบ่ายของวันรุ่งขึ้น สืออวี๋เพิ่งตื่นจากงีบหลับกลางวัน ก็ได้รับโทรศัพท์จากซ่งจื่ออิน“อาอวี๋ ฉันถึงหน้าประตูหมู่บ้านแกแล้ว แต่ยามไม่ให้เข้า ฉันรออยู่ข้างนอกนะ”“โอเค รอฉันสิบนาทีนะ”สืออวี๋รีบล้างหน้าล้างตา เปลี่ยนเสื้อผ้า หยิบมือถือกับกระเป๋าแล้วจึงออกจากห้องไปพอเดินมาถึงหน้าหมู่บ้าน เธอก็เห็นซูเปอร์คาร์สีชมพูของซ่งจื่ออินจอดอยู่ไม่ไกลทันทีที่ขึ้นรถ ซ่งจื่ออินก็ยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า: “เมื่อวานตอนที่ฉันเห็นโลเคชั่นหมู่บ้านที่แกส่งให้ ก็รู้สึกคุ้น ๆ อยู่เหมือนกัน เพิ่งจะนึกออกว่า ตอนที่โครงการนี้สร้าง บริษัทของพี่ชายฉันก็เคยมีดีลด้วยนะ รู้สึกว่าทางผู้พัฒนาโครงการจะแถมบ้านให้เขาสองหลังเลยล่ะ”สืออวี๋ฉายแววประหลาดใจ “บังเอิญขนาดนั้นเลยเหรอ”“ก่อนที่บริษัทซ่งซื่อจะเปลี่ยนสายธุรกิจ หลัก ๆ ก็ทำอสังหาริมทรัพย์นี่แหละ เคยร่วมมือกับผู้พัฒนาในเมืองเซินตั้งหลายเจ้า เดี๋ยวคืนนี้กลับไปฉันจะถามเขาดูว่าห้อ

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 216

    “ดูท่าว่า นายคงอยากกลับเมืองหลวงแล้วสินะ”ซือห่าวอวี่ยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ “คุณอาเล็กครับ ถ้าผมกลับไปเมืองหลวง ผมก็จะไปกินข้าวเย็นเป็นเพื่อนคุณปู่คุณย่าทุกวัน ทีนี้พอพูดมากเข้า เกิดผมเผลอหลุดปากพูดอะไรที่ไม่ควรพูดออกไป คุณอาเล็กก็น่าจะเข้าใจผมใช่ไหมครับ?”“ดูเหมือนว่าไม่กี่ปีที่ฉันไม่อยู่บ้าน นายจะเก่งกาจขึ้นเยอะเลยนะ รู้จักข่มขู่คนเป็นแล้วด้วย”สายตาของซือเยี่ยนเย็นชา ทั่วทั้งร่างมีไอความเย็นแผ่ซ่านถ้าเป็นปกติ ซือห่าวอวี่คงกลัวจนตัวสั่นไปแล้วทว่าตอนนี้ทั้งสองคนคือศัตรูหัวใจ เขาจะแสดงความขลาดกลัวออกมาแม้แต่น้อยไม่ได้เด็ดขาด มิฉะนั้นแล้วจะเอาอะไรไปสู้กับซือเยี่ยนได้ซือห่าวอวี่จ้องมองซือเยี่ยนตรง ๆ มุมปากประดับรอยยิ้ม “คุณอาเล็กครับ ทั้งหมดนี้ก็เพราะคุณอาสอนมาดี”หว่างคิ้วของซือเยี่ยนเต็มไปด้วยความเย็นชา “ถ้างั้นวันนี้ฉันจะสอนนายอีกเรื่องที่มันไม่มีความหวังน่ะ รีบตัดใจซะแต่เนิ่น ๆ จะดีกว่า ไม่อย่างนั้นคนที่จะเจ็บปวดทีหลังก็คือนายเอง”“คุณอาเล็กครับ ในสายตาคุณอา ผมอาจจะไม่มีหวัง แต่ในสายตาผม คุณอาต่างหากคือคนที่ไม่มีหวัง”ด้วยความที่ท่านย่าซือกับท่านผู้เฒ่าซือให้ความสำคัญกับซือ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status