Share

บทที่7

Author: ชุนกวงห่าว
เที่ยงคืน สืออวี๋ถูกเสียงเปิดประตูทำให้ตื่น

เธอเหลือบมองนาฬิกาปลุกบนหัวเตียง 02:16 น.

เหลียงหยวนโจวขยับตัวเบามาก ราวกับกลัวจะทำให้เธอตื่น

แต่สิ่งที่เขาไม่รู้ก็คือ ตั้งแต่ที่รู้ว่าเขานอกใจ การนอนของสืออวี๋ก็เริ่มแย่ลง เพียงแค่มีเสียงนิดเดียวก็ทำให้เธอตื่นทันที

ทว่าในเมื่อใจเขาไม่อยู่ที่เธอนายแล้ว จะไปสังเกตถึงเรื่องเล็กน้อยแบบนี้ได้อย่างไร

ตอนนี้เธอก็ไม่อยากคุยกับเขาพอดี จึงเลือกหลับตาแกล้งทำเป็นหลับ

เหลียงหยวนโจวเปิดตู้เสื้อผ้า หยิบชุดนอนเข้าไปอาบน้ำ

ในห้องอาบน้ำมีเสียงน้ำไหลดังแผ่ว ๆ ไม่นานนักเสียงนั้นก็เงียบลง

ประตูห้องอาบน้ำถูกเปิดออก เสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาแล้วหยุดที่ข้างเตียง

แม้จะหันหลังให้เหลียงหยวนโจว แต่สืออวี๋ก็รับรู้ได้ว่า เขาเปิดผ้าห่มด้านเขาแล้วเอนตัวลงนอน

ทันทีที่เตียงอีกฝั่งยุบลง ความมืดในห้องก็กลับมาเงียบสนิท จนได้ยินแม้กระทั่งลมหายใจของกันและกัน

สืออวี๋นอนไม่หลับอีก จึงนับแกะในใจแทน

เมื่อก่อนตอนนอนไม่หลับ เหลียงหยวนโจวมักจะเล่านิทานกล่อมเธอนอน บางครั้งก็เล่าถึงอนาคตให้เธอฟัง

บอกว่าเมื่อธุรกิจประสบความสำเร็จแล้ว จะซื้อบ้านที่มีหน้าต่างกระจกสูงใหญ่ให้เธอ บอกว่างานแต่งของพวกเขาจะจัดบนชายหาดมัลดีฟส์ บอกว่าอนาคตพวกเขาจะมีลูกสองคน ชายหนึ่งหญิงหนึ่ง……

ตอนนั้นพวกเขาจนมาก อัดกันอยู่ในห้องเช่าใต้ดินบนเตียงเล็กๆอันหนึ่ง แต่กลับมีเรื่องให้คุยอย่างไม่รู้จบ

ไม่เหมือนตอนนี้ ที่ต่างฝ่ายต่างเงียบงัน นอนเตียงเดียวกันแต่ฝันคนละอย่าง

คิดแล้วก็น่าสมเพชอยู่ไม่น้อย

สืออวี๋ไม่รู้ว่าตัวเองเผลอหลับไปตอนไหน พอลืมตาอีกที ก็เกือบแปดโมงแล้ว

รถของเธอเอาไปเข้าศูนย์ ทั้งสัปดาห์นี้เลยต้องนั่งรถไฟฟ้าไปทำงาน

จากบ้านไปที่สำนักงานกฎหมายใช้เวลาเดินทางราวสี่สิบห้านาที ปกติเธอตื่นเจ็ดโมงยี่สิบ วันนี้ไม่รู้ว่าทำไมนาฬิกาปลุกถึงไม่ดัง

พอล้างหน้าแปรงฟันแต่งตัวเสร็จ เดินออกจากห้องนอนกลับเห็นเหลียงหยวนโจวที่สวมชุดสูทนั่งทานอาหารเช้าอยู่ที่โต๊ะ สืออวี๋ชะงักไปนิด

เธอจำไม่ได้แล้วว่าครั้งสุดท้ายที่เหลียงหยวนโจวกินข้าวเช้าที่บ้านคือเมื่อไร

เห็นเธอยืนยิ่งกับที่ เหลียงหยวนโจวเอ่ยปากขึ้นมาก่อนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน “มากินข้าวเช้าสิ”

บนโต๊ะมีปาท่องโก๋กับน้ำเต้าหู้ เป็นอาหารเช้าที่สืออวี๋ชอบที่สุดในเมื่อก่อน

เมื่อก่อน ทุกครั้งที่พวกเขาทะเลาะกัน วันถัดมาเหลียงหยวนโจวมักจะตื่นมาทำปาท่องโก๋กับน้ำเต้าหู้ด้วยมือตนเอง แล้วปลุกสืออวี๋มากินข้าวเช้า

ปาท่องโก๋ที่เขาทำไม่เหมือนที่ขายทั่วไป แต่จะทำเป็นรูปหัวใจทุกครั้ง

ทุกครั้งที่เห็นปาท่องโก๋รูปหัวใจนั้น ความโกรธในใจของสืออวี๋ก็มักจะหายไปทันที

แต่ตั้งแต่เขานอกใจ เขาก็ไม่เคยทำอีกเลย เพราะเวลาทะเลาะกันเสร็จเขามักจะปิดประตูใส่เธอแล้วไม่สนสืออวี๋ จนกระทั่งเธอไปตามง้อขอคืนดีเอง

เธอนึกว่า เขาลืมนานแล้ว

ที่แท้เขาไม่ได้ลืม เพียงแค่ไม่อยากเหนื่อยใจทุ่มเทมาคอยเอาใจเธอเหมือนเมื่อก่อนเท่านั้น

การเปลี่ยนใจเป็นเรื่องที่ง่ายที่สุดในโลกใบนี้แล้วจริงๆ

“ไม่กินแล้ว ฉันจะไปทันงานไม่ทันแล้ว”

“กินเสร็จเดี๋ยวผมไปส่งคุณ”

สืออวี๋ชะงักไปครู่หนึ่ง ลังเลไปครู่หนึ่งสุดท้ายก็ตัดสินใจเดินไปที่โต๊ะอาหาร

พึ่งนั่งลง เหลียงหยวนโจวก็คีบปาท่องโก๋รูปหัวใจมาใส่ในจานของเธอ

“ไม่ได้ทำนานแล้ว คุณลองชิมดูฝีมือยังเหมือนเดิมหรือเปล่า”

สืออวี๋ก้มหน้ามองปาท่องโก๋ในจานอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะคีบขึ้นมากัดหนึ่งคำ

กัดเข้าไปแล้วนุ่มละมุน ยังเป็นรสชาติเดิม

เพียงแต่ทุกวันนี้ด้วยการกินที่ไม่ตรงต่อเวลาของเธอ ทำให้กระเพาะเธอไม่ดี อาหารแบบนี้จึงมันเกินไปสำหรับเธอ

เห็นสืออวี๋กินไปแค่คำเดียวแล้ววางลง เหลียงหยวนโจวขมวดคิ้วทันที

“รสชาติไม่โอเคเหรอ?”

สืออวี๋ส่ายหน้า “เปล่า อร่อยมาก แค่ตอนนี้ฉันไม่ค่อยชอบกินของมันๆ เท่านั้นเอง”

มือที่จับตะเกียบของเหลียงหยวนโจวกำแน่นจนข้อนิ้วซีดเผือด ความเงียบปกคลุมห้องรับประทานอาหาร

ผ่านไปพักใหญ่ เขาวางตะเกียบลง

“ถ้ามันเกินไปก็ไม่ต้องกินแล้ว ผมไปส่งคุณทำงาน ระหว่างทางแวะซื้ออย่างอื่นให้”

“อืม”

พอไปถึงลานจอดรถใต้ดิน โทรศัพท์ของเหลียงหยวนโจวก็ดังขึ้นทันที

เขากดตัดไปหลายครั้ง แต่ปลายสายกลับมุ่งมั่น โทรเข้ามาไม่หยุด

สืออวี๋ไม่ต้องดู ก็รู้ว่าเป็นเสินหลี

“คุณรับเถอะ บางทีอาจมีเรื่องด่วนอะไรก็ได้”

เหลียงหยวนโจวเหลือบมองเธอ ขมวดคิ้วแน่น

แต่สืออวี๋กลับไม่ได้มองเขา เพียงแค่ก้มลงมองปลายรองเท้าตัวเอง

เสียงโทรศัพท์ยังดังไม่หยุด สุดท้ายเหลียงหยวนโจวก็กดรับ

ในสายมีเสียงสะอื้นที่แผ่วเบาดังมา กับคำพูดขาดห้วงของผู้หญิงคนหนึ่ง สืออวี๋ได้ยินไม่ชัด

แต่พอวางสายแล้ว สีหน้าของเหลียงหยวนโจวก็ดูแย่ลงกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด

“ทางเสินหลีมีปัญหานิดหน่อย คุณเรียกรถไปเองแล้วกัน ผมไม่ไปส่งคุณแล้ว”

พูดจบไม่รอสืออวี๋ตอบ ก็รีบเดินไปที่รถของตัวเอง

สำหรับเขาแล้ว เช้านี้สืออวี๋กินปาท่องโก๋ที่เขาทำ ก็เท่ากับให้อภัยกับคำพูดที่เขาพูดในเมื่อคืนนี้แล้ว ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องเสียเวลาที่บนตัวของเธออีก

มองดูแผ่นหลังที่หายไปจากสายตา ใจของสืออวี๋กลับรู้สึกสงบมาก

ที่แท้ การไม่คาดหวังกับใคร ก็จะไม่รู้สึกเสียใจขนาดนั้นอีกแล้ว

เธอเรียกรถไปถึงสำนักงานกฎหมาย ก็เก้าโมงสิบหกแล้ว

พอเดินเข้าไปในสำนักงานกฎหมาย สืออวี๋ก็สัมผัสได้ถึงแววตาเวทนาของเพื่อนร่วมงานที่มองมาหาเธอ คงรู้เรื่องที่เกิดขึ้นในร้านอาหารในเมื่อคืนนี้กันหมดแล้ว

สืออวี๋ก้มหน้าลงอย่างไร้สีหน้า เดินไปยังโต๊ะทำงานของตัวเอง นั่งลงแล้วเริ่มทำงาน

เพิ่งจัดการเอกสารอันหนึ่งเสร็จ มือถือก็ดังขึ้น ซ่งจื่ออินส่งรูปถ่ายมาหนึ่งรูป

เป็นภาพที่เหลียงหยวนโจวนั่งป้อนข้าวต้มให้เสินหลีที่ข้างเตียงคนไข้

แม้ถ่ายได้เพียงหน้าด้านข้างของเหลียงหยวนโจว แต่เขายิ้มมุมปาก แววตาที่มองดูเสินหลีเต็มไปด้วยความอ่อนโยน เสินหลีเองก็เงยหน้ามองเขา ดวงตาเต็มไปด้วยความรักที่เกือบจะเอ่อล้นออกมา

แสงแดดลอดหน้าต่างส่องลงมาบนตัวพวกเขา ภาพนั้นดูอบอุ่นและกลมกลืน

ไม่มีเวลาส่งเธอไปทำงาน แต่กลับมีเวลาไปดูแลผู้หญิงอีกคนที่โรงพยาบาล ป้อนข้าวต้มให้อีกฝ่ายอีก

ที่จริงแล้ว เขารักหรือไม่รักนั้นแยกออกได้ง่ายมาก เป็นเธอเองที่ไม่ยอมเผชิญความจริง เลือกที่จะปกปิดความจริงเอาไว้

เพียงแต่สืออวี๋ไม่ยอมเผชิญ เลือกที่จะปิดตาเสแสร้งว่าไม่มีอะไร

ปลายนิ้วที่จับโทรศัพท์ของสืออวี๋ขาวซีด ผ่านไปสักพักถึงค่อยตอบซ่งจื่ออิน

【รูปถ่ายได้สวยดี】

อีกฝ่ายขึ้นสถานะกำลังพิมพ์อยู่นาน สุดท้ายก็ส่งมาแค่เครื่องหมายไข่ปลา

สืออวี๋ไม่ตอบอะไรอีก คว่ำโทรศัพท์แล้วตั้งหน้าตั้งตาทำงานต่อ

แต่ยังไม่ทันเริ่มเขียนเอกสาร เพื่อนร่วมงานข้างโต๊ะก็อุทานเสียงดังขึ้นมาว่า “ทนายสือ คุณรีบดูทวิตเตอร์เร็ว!”

มือที่กำลังเคาะแป้นพิมพ์ของสืออวี๋ชะงักไป หันไปมองเธอ “มีอะไรเหรอ?”

สีหน้าของเพื่อนร่วมงานแปลกประหลาดเล็กน้อย “คุณเปิดดูเองก็รู้แล้ว”

สืออวี๋หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและเปิดทวิตเตอร์ขึ้นมา สิ่งแรกที่เห็นคือหัวข้อฮอตเทรนด์อันดับหนึ่ง โดยมีสัญลักษณ์ ระเบิดสีแดงอยู่ด้านหน้า

#รักโรแมนติกของประธานบริษัทเทคโนโลยีเหยวฮ่าง#

เมื่อคลิกเข้าไป ก็พบว่าเป็นรูปที่ซ่งจื่ออินส่งให้เธอดูเมื่อกี้นี้ รูปที่เหลียงหยวนโจวกำลังป้อนข้าวต้มให้เสินหลีกิน ความคิดเห็นด้านล่างนี้ล้วนแต่เป็นคำอวยพร

"ชายหล่อหญิงสวย สะดุดตาจังเลย!"

"ผู้หญิงคนนี้คือเลขาของประธานเหลียง ช่างเหมือนเวอร์ชันชีวิตจริงของเรื่องท่านประธานจอมเผด็จการตกหลุมรักฉันเลย!"

"ความรักหวานๆแบบนี้เมื่อไหร่จะถึงตาฉันบ้าง ฉันก็อยากได้ท่านประธานจอมเผด็จการคนหนึ่งที่คอยป้อนข้าวต้มให้ฉันตอนป่วยเหมือนกัน!"

……

เห็นได้ชัดว่าทุกคนล้วนคิดว่าเสินหลีเป็นแฟนของเหลียงหยวนโจวแล้ว

เหลียงหยวนโจวไม่เคยเปิดเผยเธอให้คนภายนอกรู้ ในช่วงหลายปีนี้นอกจากเพื่อนใกล้ตัวของเขาก็แทบไม่มีใครรู้เลยว่าพวกเขาคบกัน ดังนั้นในสายตาคนอื่น เขาจึงยังคงเป็นหนุ่มโสดเนื้อหอมอยู่เสมอ
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 221

    เมื่อเห็นเขายิ้มมุมปาก ดูเหมือนจะไม่ใส่ใจเรื่องงานของตัวเองเลยสักนิด สืออวี๋ก็ยิ่งรู้สึกผิดในใจเขาคงแกล้งทำเป็นสบาย ๆ ก็เพราะไม่อยากให้เธอโทษตัวเองสินะเธอสูดหายใจเข้าลึก แกล้งทำเป็นประหลาดใจแล้วพูดขึ้นว่า: “ฉันก็นึกไม่ถึงเหมือนกันค่ะ ดูท่าต่อไปคุณก็จะเป็นหมอซือที่ค่าตัวหลายสิบล้านแล้วสินะคะ”“อืม เพราะงั้นคุณไม่ต้องห่วงผมหรอก หมอที่ค่าตัวหลายสิบล้านแบบนี้ โรงพยาบาลไหนบ้างจะไม่แย่งกันเอา”สืออวี๋พยักหน้า “พูดถูก โรงพยาบาลไหนได้ตัวคุณไปก็ถือว่ากำไรมหาศาลแล้ว”พอดีกับที่ลิฟต์มาถึง ทั้งสองจึงเดินเข้าไปด้วยกันเมื่อออกจากลิฟต์ ทั้งสองก็แยกย้ายกันตรงหน้าประตูพอกลับถึงบ้าน สืออวี๋ก็วางเสื้อผ้าที่ซื้อเมื่อตอนบ่ายไว้ตรงโถงทางเข้าบ้าน เปลี่ยนรองเท้า แล้วไปหยิบน้ำขวดหนึ่งจากตู้เย็น ก่อนจะเดินมาทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาในห้องนั่งเล่นเธอหยิบมือถือออกจากกระเป๋า ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจโทรออกไปยังเบอร์ของเหลียงหยวนโจว“อาอวี๋... ผมนึกไม่ถึงเลยว่าคุณจะยังติดต่อผมมา...”น้ำเสียงของเหลียงหยวนโจวเจือความดีใจและความรู้สึกแบบทำตัวไม่ถูก ราวกับย้อนกลับไปในช่วงที่เขากำลังจีบสืออวี๋ ที่

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 220

    “อืม ผู้ชายเฮงซวยแบบนั้น ก็ไม่มีอะไรให้ต้องเสียดายจริง ๆ นั่นแหละ เราไปกันเถอะ”อีกด้านหนึ่ง หลังจากเหลียงหยวนโจวอุ้มเสินหลีไปส่งที่รถ เขาก็ยืนอยู่ข้างรถและพูดด้วยสีหน้าเย็นชาว่า: “ผมยังมีธุระที่บริษัท เดี๋ยวให้คนขับรถส่งคุณไปโรงพยาบาล”พูดจบ ก็ทำท่าจะปิดประตูสีหน้าของเสินหลีเปลี่ยนไป เธอยื่นมือไปคว้าแขนเสื้อของเขาไว้ทันที “หยวนโจว คุณไม่ไปกับฉันเหรอคะ? ถ้าเผื่อลูกเป็นอะไรขึ้นมา…”เหลียงหยวนโจวพูดแทรกขึ้นมาอย่างหมดความอดทน “ผมไม่ใช่หมอ อีกอย่าง ต่อไปนี้ถ้าคุณเจอสืออวี๋ก็หลีกเลี่ยงเธอซะ พยายามอย่าไปปรากฏตัวต่อหน้าเธอ”“ว่าไงนะคะ?”เสินหลีมีสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ “คุณไม่แม้แต่จะถามสักคำว่าวันนี้เกิดอะไรขึ้น ฉันถูกรังแกหรือเปล่า แต่กลับบอกให้ฉันเห็นสืออวี๋แล้วต้องเป็นฝ่ายหลีกเลี่ยง?”เรากำลังจะแต่งงานกันอยู่แล้ว เขาไปเข้าข้างสืออวี๋ได้ยังไง!“จำเป็นต้องถามด้วยเหรอ ด้วยนิสัยของสืออวี๋ ถ้าคุณไม่ไปหาเรื่องเธอก่อน เธอก็ไม่แม้แต่จะชายตามองคุณด้วยซ้ำ”“งั้นคุณก็หมายความว่าทั้งหมดเป็นความผิดของฉันงั้นสิ”เหลียงหยวนโจวหมดความอดทน เขามองเธออย่างเย็นชา แววตาหนาวเยียบ“รู้ตัวก็ดีแล้ว ที่ผม

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 219

    “ดูภายนอกก็ดูดี ไม่นึกเลยว่าจะทำเรื่องน่าขยะแขยงแบบนี้ได้!”“เหอะ ๆ ของทั้งเนื้อทั้งตัวรวมกันก็เกือบสิบห้าล้านแล้วมั้ง ผู้ชายคนนั้นก็คงรวยน่าดู ไม่อย่างนั้นจะรีบพุ่งเข้าไปจับขนาดนั้นเหรอ?” …เสียงซุบซิบดูแคลนรอบข้าง ยิ่งทำให้เสินหลีรู้สึกรังเกียจชืออวี๋มากขึ้นไปอีก เห็น ๆ อยู่ว่าตัวเองคุมแฟนไม่อยู่ มีสิทธิ์อะไรมาโทษเธอด้วยล่ะ? ถ้าเป็นรักแท้จริง ๆ คบกันปีสองปีก็แต่งงานกันแล้ว นี่เหลียงหยวนโจวคบกับเธอมาห้าปีแล้วยังไม่แต่ง ก็ได้แต่พูดว่าเขาไม่เคยคิดจะแต่งงานกับสืออวี๋เลยต่างหาก เธอแค่ปรากฏตัวได้ถูกจังหวะก็เท่านั้น เธอไม่ได้ผิดอะไรเลยยิ่งคิด เสินหลีก็ยิ่งโมโหขณะที่เธอกำลังจะโต้เถียงสืออวี๋ จู่ ๆ ก็รู้สึกปวดเกร็งที่ท้องขึ้นมาอย่างกะทันหัน“อ๊า... ท้องของฉัน...”เธอรีบกุมท้อง ใบหน้าซีดเผือดจนแทบไร้สีเลือดผู้คนที่มุงดูอยู่รอบตัวเธอรีบถอยห่างทันที บนใบหน้าของทุกคนมีแต่ความดูถูกเหยียดหยามและรังเกียจ กลัวว่าเสินหลีจะแกล้งพาลใส่พวกเขาเมื่อเห็นว่าทุกคนมีแต่ท่าทีเย็นชา ไม่มีใครยอมช่วยเรียกรถพยาบาลให้ เสินหลีจึงทำได้เพียงทนความเจ็บปวดที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ แล้วกดโทรศัพท์หาเหลียง

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 218

    ปกติถ้าพวกเขาอยากได้อะไรที่เกินเงินค่าขนมของตัวเอง ก็จะไปทำงานพาร์ทไทม์หาเงินซื้อเอง สมัยเรียนมหาวิทยาลัย การแต่งตัวและการกินอยู่ของซ่งจื่ออินก็ไม่ต่างจากคนส่วนใหญ่ เลยมีน้อยคนมากที่จะรู้ว่าเธอเป็นลูกสาวของประธานสือกรุ๊ปแม้ว่าตอนนี้คุณพ่อของเธอจะไม่จำกัดเรื่องเงินแล้ว แต่เสื้อผ้าที่ซ่งจื่ออินใส่ในชีวิตประจำวัน ส่วนใหญ่ก็ยังเป็นของที่ซื้อตามตลาดนัด“ได้”ซ่งจื่ออินลองเสื้อผ้าเสร็จ ก็เลือกซื้อชุดที่ค่อนข้างพอใจสองสามชุด พอรูดบัตรเสร็จก็ให้ทางร้านจัดส่งไปที่บ้านตระกูลซ่งโดยตรงทั้งสองคนกำลังจะเดินออกจากร้าน ร่างเพรียวบางร่างหนึ่งก็เดินเข้ามาในร้านพอดีพอเห็นว่าเป็นเสินหลี สีหน้าของซ่งจื่ออินก็เคร่งขรึมลงทันทีสืออวี๋เองก็ประหลาดใจไปชั่วครู่ แต่พอนึกถึงเรื่องที่เหลียงหยวนโจวเคยบอกว่าจะแต่งงานกับเสินหลี ก็ไม่รู้สึกแปลกใจอีกต่อไปเสินหลีในวันนี้แตกต่างจากเมื่อก่อนที่ดูเรียบง่ายจืดชืด เธออยู่ในชุดแบรนด์หรูสั่งตัด ผมยาวดัดลอนอ่อน ๆ ในมือหิ้วถุงช้อปปิ้งแบรนด์ไฮเอนด์หลายใบ บนข้อมือสวมนาฬิกาประดับเพชรแวนคลีฟแอนด์อาร์เพลส์ เผยให้เห็นความหรูหราประณีตตั้งแต่หัวจรดเท้าซ่งจื่ออินแค่นเสียงเ

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 217

    แต่ตอนนี้คือโอกาสที่จะได้อยู่กับสืออวี๋ และนี่อาจเป็นโอกาสเดียวในชีวิตของเธอ เขาไม่มีทางปล่อยมันไปเด็ดขาดเขากระดกไวน์แดงในแก้วจนหมดรวดเดียว ก่อนจะหันหลังเดินเข้าห้องนอนไปชั่วพริบตาเดียวก็ถึงบ่ายของวันรุ่งขึ้น สืออวี๋เพิ่งตื่นจากงีบหลับกลางวัน ก็ได้รับโทรศัพท์จากซ่งจื่ออิน“อาอวี๋ ฉันถึงหน้าประตูหมู่บ้านแกแล้ว แต่ยามไม่ให้เข้า ฉันรออยู่ข้างนอกนะ”“โอเค รอฉันสิบนาทีนะ”สืออวี๋รีบล้างหน้าล้างตา เปลี่ยนเสื้อผ้า หยิบมือถือกับกระเป๋าแล้วจึงออกจากห้องไปพอเดินมาถึงหน้าหมู่บ้าน เธอก็เห็นซูเปอร์คาร์สีชมพูของซ่งจื่ออินจอดอยู่ไม่ไกลทันทีที่ขึ้นรถ ซ่งจื่ออินก็ยิ้มแล้วพูดขึ้นว่า: “เมื่อวานตอนที่ฉันเห็นโลเคชั่นหมู่บ้านที่แกส่งให้ ก็รู้สึกคุ้น ๆ อยู่เหมือนกัน เพิ่งจะนึกออกว่า ตอนที่โครงการนี้สร้าง บริษัทของพี่ชายฉันก็เคยมีดีลด้วยนะ รู้สึกว่าทางผู้พัฒนาโครงการจะแถมบ้านให้เขาสองหลังเลยล่ะ”สืออวี๋ฉายแววประหลาดใจ “บังเอิญขนาดนั้นเลยเหรอ”“ก่อนที่บริษัทซ่งซื่อจะเปลี่ยนสายธุรกิจ หลัก ๆ ก็ทำอสังหาริมทรัพย์นี่แหละ เคยร่วมมือกับผู้พัฒนาในเมืองเซินตั้งหลายเจ้า เดี๋ยวคืนนี้กลับไปฉันจะถามเขาดูว่าห้อ

  • คุณกับเลขาเกิดมาคู่กัน แล้วจะมาคุกเข่าในงานแต่งฉันทำไม?   บทที่ 216

    “ดูท่าว่า นายคงอยากกลับเมืองหลวงแล้วสินะ”ซือห่าวอวี่ยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ “คุณอาเล็กครับ ถ้าผมกลับไปเมืองหลวง ผมก็จะไปกินข้าวเย็นเป็นเพื่อนคุณปู่คุณย่าทุกวัน ทีนี้พอพูดมากเข้า เกิดผมเผลอหลุดปากพูดอะไรที่ไม่ควรพูดออกไป คุณอาเล็กก็น่าจะเข้าใจผมใช่ไหมครับ?”“ดูเหมือนว่าไม่กี่ปีที่ฉันไม่อยู่บ้าน นายจะเก่งกาจขึ้นเยอะเลยนะ รู้จักข่มขู่คนเป็นแล้วด้วย”สายตาของซือเยี่ยนเย็นชา ทั่วทั้งร่างมีไอความเย็นแผ่ซ่านถ้าเป็นปกติ ซือห่าวอวี่คงกลัวจนตัวสั่นไปแล้วทว่าตอนนี้ทั้งสองคนคือศัตรูหัวใจ เขาจะแสดงความขลาดกลัวออกมาแม้แต่น้อยไม่ได้เด็ดขาด มิฉะนั้นแล้วจะเอาอะไรไปสู้กับซือเยี่ยนได้ซือห่าวอวี่จ้องมองซือเยี่ยนตรง ๆ มุมปากประดับรอยยิ้ม “คุณอาเล็กครับ ทั้งหมดนี้ก็เพราะคุณอาสอนมาดี”หว่างคิ้วของซือเยี่ยนเต็มไปด้วยความเย็นชา “ถ้างั้นวันนี้ฉันจะสอนนายอีกเรื่องที่มันไม่มีความหวังน่ะ รีบตัดใจซะแต่เนิ่น ๆ จะดีกว่า ไม่อย่างนั้นคนที่จะเจ็บปวดทีหลังก็คือนายเอง”“คุณอาเล็กครับ ในสายตาคุณอา ผมอาจจะไม่มีหวัง แต่ในสายตาผม คุณอาต่างหากคือคนที่ไม่มีหวัง”ด้วยความที่ท่านย่าซือกับท่านผู้เฒ่าซือให้ความสำคัญกับซือ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status