Share

บทที่ 20

Penulis: นายกัวผู้เล่าเรื่อง
“หลี่โม่ อย่ามาล้อเล่นนะ!”

กู้หยุนหลานตกตะลึง แล้วก็รู้สึกโกรธมาก

ในตอนนี้หลี่โม่ยังคงคิดจะมาล้อเล่นอีกเหรอ?

เขาไม่รู้ความหมายของสัญญานี้ในครั้งนี้เหรอ?

หลี่โม่ต้องการอธิบายบางอย่าง แต่กู้หยุนหลานก็นอนลงหันหลังให้เขา

หลี่โม่จึงไม่มีทางเลือก นอกจากอยู่เงียบ ๆ

‘กู้หยุนหลาน คุณต้องแบกรับทุกสิ่งที่คุณต้องทนมาแทนคุณเอง’

‘คืนพรุ่งนี้ในงานเลี้ยงของตระกูลกู้ คุณถูกกำหนดให้กลายเป็นคนที่น่าอิจฉาของทุกคน!’

‘ตราบใดที่มันเป็นสิ่งที่คุณต้องการ ผม หลี่โม่ จะเตรียมมันให้คุณเอง!’

ในตอนเย็นของวันต่อมา ตระกูลกู้ได้จองห้องพักข้างในของโรงแรมสี่ดาวในเมืองฮั่นและจัดงานเลี้ยงกลางปี

ที่ประตูโรงแรม มีเรือนร่างสวยงามรอเป็นเวลานานด้วยความกระวนกระวายและความโกรธ

กู้หยุนหลานมาถึงนานแล้ว เฝ้าดูนาฬิกาที่ข้อมือของเธออย่างใจจดใจจ่อเพื่อรอหลี่โม่

ทำไมเขาถึงยังไม่มา?

วันนี้เขาแต่งตัวค่อนข้างดีเลย เขาจะไม่มาเหรอ? คงไม่หายหัวไปตอนช่วงเวลาสำคัญ ๆ แบบนี้หรอกนะ

ทุกคนต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงกลางปีของตระกูลกู้ ทุกครั้งที่หลี่โม่เป็นเป้าหมายของการเยาะเย้ยของทุกคน เขาทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากอยู่ที่งานเป็นตัวตลกให้ความบันเทิงกับทุกคน

ครั้งนี้หลี่โม่จะเปลี่ยนไปหรือไม่...

กู้หยุนหลานส่ายหัวและเลิกจินตนาการว่าหลี่โม่จะเป็นแบบนั้นอีก

“หยุนหลาน”

หลี่โม่วิ่งสองสามก้าวเข้ามาด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขาและพูดว่า “คุณรอมานานหรือยัง?”

กู้หยุนหลานเหลือบมองหลี่โม่ด้วยอารมณ์ที่เย็นชาและพูดด้วยความไม่พอใจ “ทำไมคุณถึงเพิ่งมาตอนนี้ ฉันขอให้คุณเปลี่ยนชุด ทำไมคุณถึงยังใส่ชุดเดิมอยู่?”

หลี่โม่แตะจมูกของเขาและพูดว่า “ผมไม่มีเสื้อผ้าเลย แล้วทุกปีมันก็เหมือนกันไม่ใช่เหรอ? ไม่เป็นไรหรอกน่า”

กู้หยุนหลานขมวดคิ้ว ใบหน้าของเธอไม่พอใจแต่เธอไม่ได้พูดอะไรมาก

แล้วจะคาดหวังอะไรได้อีก?

ในอดีตพวกเขาก็เป็นคนที่ถูกเยาะเย้ยมากที่สุดเสมออยู่แล้ว กู้หยุนหลานชินกับมันแล้วแหละ

แล้วคนไร้ค่าอย่าง หลี่โม่ ถึงเขาจะสวมชุดคลุมของราชวงศ์ เขาก็คงไม่เปลี่ยนไม่จากเดิมหรอก

และคืนนี้กู้ซิ่งเหว่ยจะไม่ยอมปล่อยอย่างแน่นอน

ดังนั้นกู้หยุนหลานจึงพูดอย่างเย็นชา “เอาล่ะ อีกเดี๋ยวคุณอย่าพูดอะไรถ้าฉันไม่ได้นะคะ ฉันจะให้คุณพูดอะไรก็ตามที่ฉันอยากให้คุณพูด คุณจะได้ไม่โดนพวกเขาเยาะเย้ย เข้าใจไหมคะ?"

หลี่โม่พยักหน้าหัวเราะเบา ๆ และดูไม่ค่อยสนใจเท่าไหร่

เมื่อเห็นท่าทีไม่สนใจของหลี่โม่ กู้หยุนหลานก็อยากจะชกเขาสักที

ไม้อ่อนดัดง่ายไม้แก่ดัดยาก!

ทั้งสองเดินเข้าไปในห้องโถงด้านข้างของโรงแรมและบุคคลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับตระกูลกู้ก็มาถึงแล้ว

ทันทีที่พวกเขาเข้าไปที่ประตู กู้หยุนหลานและหลี่โม่ก็รู้สึกถึงความไม่แยแสของตระกูลกู้ที่มีต่อพวกเขา

ในห้องโถงด้านข้างไม่มีที่นั่งว่างและญาติของตระกูลกู้ก็อยู่ด้วย

เมื่อเห็นกู้หยุนหลานมาพร้อมกับหลี่โม่ ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยการเยาะเย้ยและดูถูก รวมถึงไร้ยางอาย

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากพวกเขาเป็นครอบครัวเดียวกัน พวกเขาจึงทักทายด้วยรอยยิ้มจอมปลอม บ้างก็ประชดประชัน

“หยุนหลานมาแล้ว มานั่งตรงนี้เถอะ”

“หยุนหลาน วันนี้เธอสวยอีกแล้ว”

“นั่งลงสิ พ่อแม่ของเธอก็มาถึงแล้ว”

ญาติๆ ทักทายกู้หยุนหลานด้วยคำพูดต่าง ๆ บ้างก็แสดงความยินดีกับเธอ แต่สำหรับหลี่โม่เขาเป็นคนที่ถูกมองข้ามและถูกเมิน

แม้ว่าหลี่โม่จะผิดหวังในใจ แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เขาเคยชินกับเหตุการณ์แบบนี้แล้วและนั่งเงียบ ๆ กับกู้หยุนหลานตรงมุมห้อง

กู้เจี้ยนหมินและภรรยาของเขาหวังฟางนั่งอยู่ที่โต๊ะหลักและกำลังพูดคุยกับทุกคน

อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าสีหน้าของพวกเขาจะไม่ค่อยดีนัก

เมื่อเห็นหลี่โม่เข้ามา หวังฟางก็พ่นลมและตะโกนทันทีว่า “พามันมาทำไม? พาสุนัขมาด้วย ช่างโชคร้ายจริง ๆ !”

หวังฟางอารมณ์เสียมาก เมื่อเขาและกู้เจี้ยนหมินมาถึงก่อนเวลา พวกเขาถูกสะใภ้ใหญ่และสะใภ้เล็กเย้ยหยันดูหมิ่นต่อหน้าทุกคน

ทั้งหมดเป็นเพราะกู้หยุนหลานแต่งงานกับคนไร้ประโยชน์นั่น พวกเขาถึงโดนเยาะเย้ยแบบนี้

เมื่อคิดว่าถูกกลุ่มคนที่โต๊ะเยาะเย้ยอย่างไร หวังฟางรู้สึกโกรธมาก

แม้ว่าหลี่โม่จะนั่งอยู่ตรงหัวมุม แต่เขาก็ได้ยินเสียงแม่ยายดุด่า หลี่โม่ถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้และดื่มน้ำเย็นเงียบ ๆ

เพราะเป็นคนจน จึงถูกรังแก

ทันใดนั้น เสียงเยาะเย้ยของชายคนหนึ่งก็ดังขึ้นมาอย่างเย่อหยิ่งและไร้สาระ

“อุ๊ย ดูซินี่ใคร หลี่โม่หรือเปล่านะ จุ๊ ๆ มานั่งนี่ทำไม คุณเป็นคนดังในเมืองฮั่น ก็ต้องนั่งที่โต๊ะหลักสิ”

กู้ซิ่งเหว่ยล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงและเดินไปหาหลี่โม่อย่างโอ้อวด ทัศนคติของเขาหยิ่งผยอง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยการประชดประชัน

ในเวลาเดียวกัน เขายังเหลือบมองกู้หยุนหลานข้าง ๆ หลี่โม่และพูดประชดประชันว่า “กู้หยุนหลาน วันนี้เป็นงานเลี้ยงกลางปีของตระกูล เธอเอาไอ้ตัวน่าอับอายมาด้วยอีกแล้ว ไม่กลัวว่าคุณปู่จะไม่พอใจเอาเหรอ?

กู้ซิ่งเหว่ยดูเหมือนจะสนุกกับการทำให้หลี่โม่ต้องอับอาย เขาใช้โอกาสนี้เยาะเย้ยกู้หยุนหลานด้วยเช่นกัน เขาพยายามทำเป็นว่าเหนือกว่าในฐานะหลานชายคนโต

เกินเยียวยาจริง ๆ ครอบครัวของกู้หยุนหลานก็เป็นแค่ตัวตลก

โดยเฉพาะหลี่โม่คนนี้ช่างไร้ประโยชน์และขี้ขลาดเสียจริง!

การแสดงออกของหลี่โม่เริ่มบึ้งตึง ใบหน้าของเขาไม่พอใจ แต่เขาระงับความโกรธเอาไว้และนั่งอยู่ตรงนั้นโดยไม่พูดอะไรสักคำ

เห็นหลี่โม้ไม่สะทกสะท้านกู้ซิ่งเหว่ยรู้สึกหงุดหงิดมาก ดังนั้นเขาจึงยกมือขึ้นมาสะกิดหน้าหลี่โม่แบบยั่วยุและพูดว่า “โอ้ แกนี่มันขี้ขลาดจริง ๆ ใช่ไหม? แกไม่สามารถแม้แต่จะตอบโต้อะไรได้เลย”

กู้หยุนหลานรู้สึกไม่สบายใจที่เห็นกู้ซิ่งเหว่ยทำให้หลี่โม่อับอายแบบนี้

ท้ายที่สุด หลี่โม่ก็คือสามีของเธอ

“กู้ซิ่งเหว่ย พอได้แล้ว!”

กู้หยุนหลานลุกขึ้น เธอดึงมือของกู้ซิ่งเหว่ยออกไปและยืนอยู่ตรงหน้าหลี่โม่ราวกับนกอินทรีตัวเมียที่ปกป้องลูก

กู้ซิงเว่ยเยาะเย้ยสองสามครั้ง เรียกว่าหลี่โม่ไร้ประโยชน์อีกสองสามครั้ง จากนั้นก็เดินออกไป

หลังจากที่เห็นกู้หยุนหลานนั่งลง หลี่โม่ก็กระซิบ “ขอบคุณนะ”

เขาไม่คาดว่ากู้หยุนหลานผู้ซึ่งเคยดูถูกเขามาตลอดจะช่วยเขาได้จริง ๆ

อย่างไรก็ตามกู้หยุนหลานตอบอย่างเย็นชา “อย่าคิดมากเกินไปเลย ฉันแค่ไม่อยากให้คุณทำให้ฉันต้องอับอาย”

ตอนนี้เธออารมณ์เสียมาก แล้วถ้าคุณปู่ถามถึงความร่วมมือกับหรงคังกรุ๊ปล่ะ?

เธอจะโดนไล่ออกจริง ๆ เหรอ?

กู้หยุนหลานเสียใจมากในตอนนี้ เขาฟังคำพูดของหลี่โม่และตกลงที่จะเดิมพัน

หลี่โม่ยิ้มจาง ๆ เหมือนไม่ค่อยใส่ใจ

ไม่นานงานเลี้ยงอาหารค่ำก็เริ่มขึ้น

นายท่านกู้เดินถือไม้เท้าเข้ามาจากห้องโถงด้านหน้าโดยมีลูกชายคนโตของสะใภ้ใหญ่ช่วยประคองมาและนั่งลงที่โต๊ะหลัก

ทุกคนก็ลุกขึ้นทักทายชายชราว่า “สวัสดีครับ/ค่ะ คุณพ่อ”

“เอาล่ะ ทุกคนอยู่ที่นี่แล้ว เชิญรับประทานอาหารตามสบาย ๆ เลยนะ” นายท่านกู้กล่าวด้วยรอยยิ้มบนใบหน้าของเขา

ที่โต๊ะอาหารหลัก ครอบครัวของสะใภ้ใหญ่ตระกูลกู้และสะใภ้เล็กนั่งอยู่ที่โต๊ะเดียวกัน แต่กู้หยุนหลานและหลี่โม่ถูกจัดให้นั่งโต๊ะพร้อมกับพนักงานของบริษัทบางคน

สิ่งนี้ทำให้กู้หยุนหลานรู้สึกละอายใจมาก และกัดริมฝีปากด้วยความหงุดหงิด

กู้ซิ่งเหว่ยนั่งที่โต๊ะหลักกับคุณปู่ เขามองมาที่กู้หยุนหลานด้วยท่าทีพึงพอใจอย่างมีชัยชนะ

ใช่แล้ว เฃาจงใจจัดที่นั่งให้แบบนี้

กู้หยุนหลานหลานสาวที่แต่งงานแล้วยังคงมีความฝันที่จะเป็นหนึ่งในแกนหลักของตระกูลกู้!

เมื่อเห็นเสียงหัวเราะและความสนุกสนานที่โต๊ะหลักพร้อมกับการชนแก้ว แต่เมื่อมองไปที่พนักงานธรรมดาที่อยู่รอบตัวเธอนั้นช่างต่างกันสุด ๆ กู้หยุนหลานจึงเต็มไปด้วยความโกรธ

ในเวลาเดียวกันกู้หยุนหลานก็เกลียดหลี่โม่มากขึ้น ทั้งหมดนี้เป็นเพราะคนไร้ประโยชน์อย่างเขา!

“หยุนหลาน คุณอยากนั่งตรงนั้นเหรอ?” หลี่โม่ถามทันที

กู้หยุนหลานตอบอย่างไม่อดทน “ใช่ ฉันอยากนั่งตรงนั้น แต่เป็นไปได้เหรอ? นั่นคือที่ที่สมาชิกตระกูลกู้ควรนั่ง ฉันเป็นแค่หลานสาวที่แต่งงานกับคนไร้ประโยชน์ ฉันจะมีสิทธิ์อะไรไปนั่งตรงนั้น?”

“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ พ่อกับแม่จะโดนไล่ออกจากบ้านใหญ่ไหม?”

“หลี่โม่ ทั้งหมดนี้เป็นความผิดของคุณ! ทำไมคุณถึงไร้ประโยชน์ขนาดนี้!”

เมื่อพูดอย่างนั้น ดวงตาของกู้หยุนหลานก็แดงและน้ำตาก็ไหลออกมาอย่างไม่พอใจ

เธอเกลียดเขา!

เธอเกลียดที่หลี่โม่ไร้ความสามารถ!

หลี่โม่ผงะเมื่อมองดูสีหน้าเศร้าโศกบนใบหน้าของกู้หยุนหลาน เขารู้สึกเจ็บปวดอย่างสุดซึ้งในใจ

เขาไร้ประโยชน์จริง ๆ เหรอ?

ไม่ใช่!

หลี่โม่เป็นนายน้อยของแดนมังกรนะ!

เขามีอำนาจควบคุมทรัพย์สินกว่าหมื่นล้านบาท!

แม้ว่าจะตระกูลร่ำรวยในเมืองฮั่นจะรวมกันก็เทียบไม่ได้กับเศษเสี้ยวของเขาเลย!

เนื่องจากเขาและแม่ของเขาถูกขับไล่ออกจากแดนมังกรและอาศัยอยู่ในเมืองฮั่น เขาจึงซ่อนตัวตนของเขาไว้เป็นเวลาสี่ปี ทั้งหมดนี้เป็นเพียงเพื่อหลีกเลี่ยงความขัดแย้งภายในของแดนมังกรและการไล่ล่าจากผู้หญิงคนนั้น

เขาเบื่อชีวิตในแดนมังกร

หลี่โม่รักกู้หยุนหลาน เขาสามารถทำทุกอย่างเพื่อเธอได้!

หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง หลี่โม่ก็พูดอย่างจริงจังกับกู้หยุนหลานว่า “หยุนหลาน ถ้าคุณต้องการมันผมก็จะให้แน่ใจว่าคุณนั่งที่โต๊ะนั้น รวมถึงตำแหน่งหัวหน้าตระกูลกู้ด้วย ผมจะจัดให้คุณได้”

กู้หยุนหลานตัวสั่น มองหลี่โม่ด้วยความประหลาดใจแล้วจึงพูดอย่างเย็นชา “หลี่โม่ คุณกำลังพูดถึงเรื่องไร้สาระอะไร มันขึ้นอยู่กับคุณเหรอ?”

“ถ้าคุณเชื่อผม ผมจัดการให้คุณได้”

หลี่โม่พูดอย่างจริงจัง ดวงตาของเขาชัดเจนมาก

กู้หยุนหลานมองไปที่ดวงตาที่บริสุทธิ์ของหลี่โม่ด้วยความรู้สึกมึนงง

เธอไม่เคยเห็นหลี่โม่พูดแบบนั้นและเขาก็ดูจริงจัง

จริง ๆ แล้วเธอเกือบจะเชื่ออย่างนั้นแล้ว

อย่างไรก็ตาม ความจริงทำให้กู้หยุนหลานกลับมามีสติ เธอเหลือบไปยังโต๊ะหลักที่ดูสนุกสนานและพูดกับหลี่โม่ “เอาล่ะ ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว ฉันรู้ว่าคุณเป็นคนแบบไหน ถ้าคุณมีความสามารถจริง วันนี้เราคงไม่ต้องมานั่งตรงนี้หรอก”

‘หลี่โม่ คุณเริ่มพูดโม้แบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?’

กู้หยุนหลานโกรธมาก เธอตบตะเกียบบนโต๊ะและลุกขึ้นเดินไปห้องน้ำ

หลี่โม่ถอนหายใจและมองดูกู้หยุนหลานเดินออกไป หลังของเธอโค้งเล็กน้อย เขาแอบสาบานเงียบ ๆ ว่า "หยุนหลาน คุณจะได้รับความปรารถนาของคุณอย่างแน่นอน"

หลังจากนั้นไม่นานกู้หยุนหลานก็กลับมา ดวงตาของเธอบวมแดงเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเธอร้องไห้

หลี่โม่อยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ไม่สามารถพูดได้

เขารู้ว่ากู้หยุนหลานไม่ต้องการพูดกับเขาในตอนนี้

เมื่อมาถึงครึ่งทางของมื้อเย็น กู้ซิ่งเหว่ยลุกขึ้นยืน เขาเหลือบมองกู้หยุนหลานที่หน้าตาบูดบึ้งและไม่มีความสุขที่ด้านข้างของโต๊ะและถามว่า “กู้หยุนหลาน เรื่องความร่วมมือกับหรงคังกรุ๊ปเป็นยังไงบ้างเหรอ? ฉันได้ยินมาว่าเธอไปเจอนายน้อยของหรงคังกรุ๊ปมาแล้ว ก็หมายความว่า ลุล่วงแล้วใช่ไหม? ถ้าอย่างนั้นฉันขอแสดงความยินดีกับเธอล่วงหน้าเลยแล้วกันนะ มาครับทุกคนมาอวยพรและเฉลิมฉลองให้กับผู้อำนวยการกู้ที่ชนะความร่วมมือกับหรงคังกรุ๊ปกันเถอะครับ”

กู้หยุนหลานนั่งกัดฟันด้วยความหงุดหงิดจนเกือบจะปะทุอารมณ์!

กู้ซิ่งเหว่ยตั้งใจทำแบบนั้นแน่นอน!

นี่มันเป็นการยกย่องด้วยเจตนาแอบแฝง!

จะทำยังไงดี?

เธอไม่ได้พูดคุยเรื่องความร่วมมือด้วยซ้ำ และเธอก็...

“เป็นอะไรไปกู้หยุนหลาน เธอดูไม่ค่อยดีนัก ความร่วมมือไม่สำเร็จงั้นเหรอ??”

กู้ซิ่งเหว่ยยกแก้วขึ้นกลางอากาศ จากนั้นก็วางลงบนโต๊ะอย่างเย็นชาและกล่าวว่า “ถ้าฉันจำไม่ผิด เมื่อสองวันก่อนเธอใช้ตำแหน่งของผู้อำนวยการเป็นเดิมพัน”

กู้หยุนหลานเริ่มวิตกกังวลมากขึ้นเรื่อย ๆ น้ำตาเริ่มไหลออกมา

นายท่านกู้ถามอย่างใจเย็นว่า “หยุนหลาน เกิดอะไรขึ้น สัญญาได้รับการเซ็นหรือยัง?!”

“คุณปู่ คือฉัน...”

กู้หยุนหลานลุกขึ้นยืน ดูเป็นทุกข์มาก ดูเหมือนว่าเธออยากจะพูดและยอมรับอะไรบางอย่าง

แต่ทันใดนั้น หลี่โม่ที่อยู่ข้าง ๆ ก็จับมือเล็ก ๆ ที่สั่นเทาของเธอไว้เบา ๆ มองเธออย่างอ่อนโยน และพูดกับกู้ซิ่งเหว่ยและนายท่านกู้ว่า “หยุนหลานได้รับการเซ็นสัญญาจากหรงคังกรุ๊ปแล้ว”

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Komen (3)
goodnovel comment avatar
Somboon Piyobol
มีอำนาจแต่ไม่กล้าใช้ ตลกจริงๆ
goodnovel comment avatar
วีระพล แก้วรักษา
อ้างสารพัดวิธีการ​เกินกว่าจะรุ้เรื่องไปถึงตอนที่เท่าไรล่ะเซ็งว่ะ​กับวิธีการ​บ้าๆบอๆ
goodnovel comment avatar
วีระพล แก้วรักษา
ผัวแม่งเล่นน้ำเกินกวนประสาท​เกินไปยากเปิดเผยความลับ​สักทีปวดประสาท​โครตๆ
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terbaru

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 945

    คังหย่งอันกดหมายเลขของคังหย่งเฉียน แล้วพูดเสียงเข้ม "หย่งเฉียน ฉันได้ยินมาว่า แกกับเหวินซินมีปัญหากันเรื่องวิลล่าบนยอดเขาเหรอ?" “พี่ใหญ่ มีปัญหากันน่ะสิ ศิษย์พี่เกิ่งยังถูกทำร้ายจนเข่าหักแล้ว! ศิษย์พี่เกิ่งติดต่อกับอาจารย์โอวหยางไปแล้ว เรื่องนี้อภัยให้ไม่ได้แน่นอน!” คังหย่งเฉียนโกรธแค้นคังเหวินซิน ถ้าไม่ใช่เพราะคังเหวินซินพาหลี่โม่ไปที่นั่น เรื่องแบบนี้คงไม่เกิดขึ้น แต่ในเมื่อเกิดเรื่องขึ้นแล้ว คังหย่งเฉียนเองก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ ทำได้เพียงเอาความโมโหไปลงที่คังเหวินซินเท่านั้น “หย่งเฉียน ไม่ว่ายังไงก็ตาม แกต้องรับรองความปลอดภัยของเหวินซิน ฉันไม่สนว่า อาจารย์โอวหยางพวกเขาจะทำอะไรกับเพื่อนของเหวินซิน แต่พวกเขาจะทำร้ายเหวินซินไม่ได้เด็ดขาด!” “พี่ใหญ่ ฉันไม่กล้ารับประกันหรอก รับประกันได้แค่ลูกชายของพี่จะไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัสถึงตายเท่านั้น ถ้าอาจารย์โอวหยางต้องการลงโทษลูกชายของพี่จริง ๆ ฉันจะไปขวางได้ยังไง ฉันขวางไม่ได้หรอก ไม่กล้าขวางด้วย!" คังหย่งอันขมวดคิ้วแน่น หากคังหย่งเฉียนอยู่ต่อหน้าคังหย่งอันในตอนนี้ คังหย่งอันจะต้องตบเขาให้ตายคามือแน่นอน “หย่งเฉียน! แกเป็นอาข

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 944

    “ไอ้บัดซบเอ๊ย! ใครกล้ามาต่อกรกับฉันโอวหยางจื้อ มันผู้นั้นจะต้องตาย!” โอวหยางจื้อพึมพำอย่างด้วยความอาฆาตแค้น แล้วสั่งให้ลูกศิษย์ไปจองตั๋วเครื่องบิน ...... คังเหวินซินมาส่งหลี่โม่และคนอื่น ๆ ที่บ้าน หลังจากมองดูทั้งสามเดินเข้าไปข้างในแล้ว จึงสตาร์ทรถและขับออกไปอย่างช้า ๆ “อาเล็กถูกจัดการจนหมดท่าแล้ว ต้องบอกพ่อสักคำไหมนะ อาเล็กจะได้ไปตีไข่ใส่สีอีก” หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง คังเหวินซินก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วกดหมายเลขพ่อของเขาคังหย่งอัน “ฮัลโหล พ่อครับ ผมเพิ่งจะขายวิลล่าบนยอดเขาที่สวนหนานชุ่ยให้เพื่อผมไป ขายราคาต้นทุนน่ะครับ” คังหย่งอันขมวดคิ้ว "นั่นเป็นวิลล่าที่อาเล็กของแกจะเอาไม่ใช่เหรอ แกเอาไปให้เพื่อนได้ยังไง? ผู้จัดการฝ่ายขายว่ายังไงบ้าง?" คังเหวินซินอึ้งครู่หนึ่ง รู้สึกถึงความผิดปกติในคำพูดของคังหย่งอัน "พ่อ พ่อรู้ได้ยังไงว่าอาเล็กอยากได้วิลล่านั่น?” “อาเล็กของแกเคยบอกพ่อว่า วิลล่าหลังนั้นเป็นของขวัญที่เขาจะเก็บไว้ให้กับปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ในต่างประเทศโอวหยางจื้อ แกคงเคยได้ยินเกี่ยวกับโอวหยางจื้อมาบ้างใช่ไหม? เขาเคยรับหน้าที่เป็นผู้กำกับฉากแอ็คชั่นให้กับภาพย

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 943

    ในแผนกดูแลพิเศษของโรงพยาบาล คังหย่งเฉียนและคนอื่น ๆ นั่งล้อมรอบเตียง มองดูพี่เกิ่งค่อย ๆ ฟื้นคืนสติ เข่าที่หักของพี่เกิ่งได้รับการผ่าตัดแล้ว แต่หลังการผ่าตัด พี่เกิ่งจะได้แต่นั่งอยู่บนรถเข็นเท่านั้น “ซี๊ด ขากับเข่าฉันเป็นยังไงบ้าง?” พี่เกิ่งถามอย่างร้อนใจ “ศิษย์พี่ไม่ต้องกังวล ผ่าตัดเสร็จแล้ว เพียงแต่ระดับการรักษาของที่นี่ยังต่ำไปหน่อย หลังจากฟื้นตัวแล้วพี่ต้องนั่งรถเข็น” คังหย่งเฉียนพูดเสียงเบาหวิว “ไอ้บัดซบ! ฉันไม่อยากนั่งรถเข็น! ทำไมมันถึงเป็นแบบนี้!” พี่เกิ่งคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยว รู้สึกเลวร้ายไปทั้งร่างกาย ชีวิตบนรถเข็น ไม่ใช่ชีวิตที่พี่เกิ่งต้องการเลย ถ้าต้องนั่งรถเข็นแล้ว ต่อไปจะฝึกศิลปะการต่อสู้ หรือออกไปรังแกคนอื่นอย่างไร แล้วจะไปจีบสาว ๆ ได้อย่างไร! “ฉันจะย้ายโรงพยาบาล ฉันจะไปผ่าตัดที่โรงพยาบาลที่ดีที่สุด!” “พี่เกิ่งอย่าเพิ่งตื่นตูม หมอบอกว่า รอพี่ฟื้นตัวดีแล้ว ก็สามารถทำการผ่าตัดครั้งที่สองในโรงพยาบาลที่ดีกว่านี้เพื่อเปลี่ยนข้อต่อเทียมได้” คังหย่งเฉียนปลอบใจพี่เกิ่งไปพลางก็ขยิบตาให้กับพวกพี่น้องคนอื่น ๆ ส่งสัญญาณให้พวกเขารีบมาช่วยกันโน้มน้าว ศิษย์พี่ห

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 942

    พี่เกิ่งร้องโหยหวนออกมา รู้สึกว่าขาซ้ายพลิกกลับไปด้านหลัง พลันสูญเสียการทรงตัวและล้มหงายไปข้างหลังทันที พลั่ก พี่เกิ่งล้มหงายลงกับพื้น ปากก็ร้องโหยหวนอย่างน่าเวทนา คังหย่งเฉียนถูกกระตุ้นด้วยเสียงร้องของพี่เกิ่งจนตัวสั่นไปทั้งตัว เสียงวิ้ง ๆ ที่ดังอยู่ในหัวยิ่งชัดเจนขึ้นมาทันใด คังหย่งเฉียนกุมใบหน้าที่บวมแดงไปครึ่งหนึ่งมองไปทางศิษย์พี่เกิ่ง ดวงตาของคังหย่งเฉียนก็แทบจะหลุดออกจากเบ้า ศิษย์พี่เกิ่งที่คังหย่งเฉียนเคยคิดว่า แข็งแกร่งไร้เทียมทานนั้น ตอนนี้กำลังร้องคร่ำครวญราวกับสัตว์ร้ายที่กำลังจะตาย เมื่อมองขาขวาของพี่เกิ่งหักงอในองศาที่ผิดธรรมชาติ คังหย่งเฉียนก็รู้สึกว่า เลือดทั่วร่างกายเย็นเฉียบขึ้นมา นี่เป็นเรื่องที่มนุษย์สามารถทำได้อย่างนั้นเหรอ? นี่เป็นผลลัพธ์ที่สามารถใช้กำปั้นทำได้เหรอ? นี่มันซูเปอร์ไซย่าในตำนานหรืออย่างไรกัน?! พวกศิษย์น้องของพี่เกิ่งหลายคนต่างหวาดกลัวกับความเผด็จการของหลี่โม่ ทั้งกลุ่มพลันหมดความโอหังไปโดยสิ้นเชิง พวกเขาลากพี่เกิ่งขึ้นมาจากพื้นแล้ววิ่งตะบึงออกไปข้างนอกอย่างบ้าคลั่ง แม้แต่คำพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในที่นี้คือศิษย์

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 941

    คังเหวินซินรออยู่สามวินาที แต่ละวินาทีราวกับยาวนานเป็นปี รออยู่นานฝ่ามือของพี่เกิ่งก็ยังไม่ตบลงมาสักที คังเหวินซินจึงลืมตาขึ้น เมื่อเอียงหน้ามองเห็นฝ่ามือของพี่เกิ่งอยู่ห่างจากหน้าตนแค่เฉียดฉิว หัวใจของคังเหวินซินแทบจะกระโดดออกมาจากปาก หลังจากที่เห็นข้อมือของพี่เกิ่งถูกหลี่โม่คว้าไว้ คังเหวินซินถึงได้รู้สึกว่า หัวใจของตัวเองกลับเข้าที่ได้แล้ว คังเหวินซินที่สงบลงแล้ว รีบถอยไปหลบด้านหลังหลี่โม่ แล้วร้องตะโกนด้วยน้ำตาแห่งความซาบซึ้ง "อาจารย์!" “นายอย่าร้องไห้น่าสมเพชนักสิ มันทำฉันขายหน้านะ” หลี่โม่พูดด้วยรอยยิ้ม คังเหวินซินตะลีตะลานเช็ดเบ้าตา ไม่ยอมให้ตัวเองร้องไห้ออกมา พี่เกิ่งจ้องมองหลี่โม่อย่างโมโห แอบพยายามดึงข้อมือของตัวเองกลับมาอย่างลับ ๆ แต่ไม่ว่าพี่เกิ่งจะพยายามออกแรงแค่ไหน มือของหลี่โม่ก็ราวกับคีมปากเสือหนีบข้อมือของพี่เกิ่งเอาไว้แน่น จนข้อมือของพี่เกิ่งไม่มีทางสลัดหลุดได้เลย “ปล่อยมือฉัน!” พี่เกิ่งตวาดด้วยความโกรธเกรี้ยว “แกบอกให้ปล่อยก็ต้องปล่อยเหรอ? แกน่าจะอธิบายเรื่องที่จะลงไม้ลงมือกับลูกศิษย์ฉันเมื่อกี้นี้มาสักหน่อยไหม?” หลี่โม่พูดอย่างเย็นชา คังเหวินซินส

  • คุณชาย แห่ง ประตูมังกร   บทที่ 940

    กู้หยุนหลานมองไปยังหลี่โม่อย่างประหลาดใจ เมื่อเห็นหลี่โม่ขยิบตาให้ เธอจึงไม่พูดอะไรและเก็บความสงสัยไว้ในใจ ผู้จัดการหวังโบกมือให้พนักงานขายสาว พนักงานสาวที่ถือสัญญาอยู่แล้วเดินเข้ามาอย่างรวดเร็ว “ผู้จัดการหวัง นี่เป็นสัญญาของวิลล่ายอดเขาค่ะ แต่ราคานี้มัน…” สีหน้าของพนักงานสาวดูบูดเบี้ยวเล็กน้อย ถ้าขายวิลล่านี้ออกไปในราคาต้นทุน เธอคงไม่ได้รับค่าคอมมิชชั่นเลยสักแดง! ที่ผ่านมาเศรษฐีในเมืองฮั่นจำนวนมากต่างก็ถูกใจวิลล่าแห่งนี้ แต่เพราะมีการปิดกั้นการซื้อขาย เลยไม่ได้ขายอย่างเป็นทางการ เดิมทีพวกพนักงานสาวนั้นเตรียมพร้อมที่จะทำกำไรมหาศาลด้วยการขายวิลล่าหลังนี้หลังจากที่เปิดการขายแล้ว แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า ความฝันของพวกเธอกำลังจะมลายหายไปซะแล้ว “พวกเธอมีสิทธิ์พูดงั้นเหรอ? นี่คือการตัดสินใจของคุณชายใหญ่!” ผู้จัดการหวังตำหนิพนักงานขายสาว พนักงานสาวหดคอและปิดปากเงียบไม่กล้าพูดอีก ผู้จัดการหวังเปิดสัญญาตรวจดู หลังจากยืนยันความถูกต้องแล้ว เขาก็ถือสัญญาเดินไปหาหลี่โม่ “อ่านสัญญาดูก่อนนะครับ หากไม่มีปัญหาอะไร เราจะไปเซ็นสัญญาที่สำนักงานของผมกัน ผมไม่สามารถนำตราประทับอะไรพวกนั้นพกติดต

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status