Share

คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ
คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ
Author: หรงหรงจื่ออี

บทที่ 1

Author: หรงหรงจื่ออี
เสิ่นชิงซูกับฟู่ซือเหยียนแต่งงานกันลับ ๆ มาห้าปี เป็นสามีภรรยากันตามพฤตินัย หากว่าไม่มีความรักใคร่เข้ามาเกี่ยวข้อง

ไม่สิ น่าจะต้องพูดว่าเสิ่นชิงซูซ่อนเร้นความรู้สึกที่มีต่อสามีได้อย่างมิดชิดไร้ร่องรอยใดปรากฏมากกว่า

ในคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ เมืองที่เจริญรุ่งเรืองถูกปกคลุมด้วยหิมะอันขาวโพลน ทั่วทุกสารทิศมีแต่ความคึกคักครื้นเครง

เว้นแต่ในคฤหาสน์หนานซีที่ใหญ่โตโอ่อ่ากลับมีแค่เสิ่นชิงซูอยู่เพียงลำพัง

เธอต้มบะหมี่ง่าย ๆ ให้ตัวเองถ้วยหนึ่ง แต่กลับไม่กินสักคำ

มือถือบนโต๊ะอาหารกำลังเล่นภาพเคลื่อนไหวบนไทม์ไลน์ในแอปพลิเคชันไลน์หนึ่งอยู่...

ผู้ชายในจอมีนิ้วเรียวยาวเห็นข้อกระดูกชัดเจน มือข้างนั้นถือแหวนเพชรเม็ดเท่าไข่นกพิราบ ดันสวมเข้าไปที่นิ้วนางอันเรียวเล็กของหญิงสาวย่างแม่นยำ

ตามด้วยเสียงอ่อนหวานชดช้อยของหญิงสาวดังแว่วขึ้นมา “คุณฟู่ ขอฝากชีวิตที่เหลือด้วยนะ”

เสิ่นชิงซูจ้องนาฬิกาที่ข้อมือของชายในจอนิ่ง เครื่องหมายแสดงตัวตนซึ่งมีเพียงหนึ่งเดียวในโลก ความขมขื่นก็เริ่มทะลักเข้ามาในใจ

ภาพเคลื่อนไหวได้หยุดนิ่งลงแล้ว ทว่านิ้วมือกลับยังคงไม่อาจเลื่อนขยับ เธอทำได้แค่ยืนยันราวกับการทรมานตัวเองซ้ำ ๆ อยู่อย่างนั้น

เมื่อครึ่งปีก่อนหญิงสาวเป็นฝ่ายเพิ่มเพื่อนเธอในไลน์

นับแต่นั้นมา เธอก็มักได้เห็นสามีตัวเองผ่านไทม์ไลน์ของหญิงสาวอยู่เนืองนิตย์

แต่งงานแบบไม่เปิดเผยมาห้าปี จนมาวันนี้ เสิ่นชิงซูถึงเพิ่งรู้ว่าที่แท้สามีของเธอก็อบอุ่น โรแมนติกและใส่ใจรายละเอียดได้ถึงขนาดนี้ด้วย

บะหมี่ที่เมื่อครู่ยังมีควันพวยพุ่งเย็นชืดแล้ว

บะหมี่กินไม่ได้แล้ว เธอเพิ่งจะจับตะเกียบคีบขึ้นมา กลับเหมือนว่าไร้ซึ่งเรี่ยวแรง

เฉกเช่นเดียวกับการสมรสอันเลวร้ายนี้ของเธอ ไม่ควรถลำลึกไปมากกว่านี้อีก

เสิ่นชิงซูหลับตาลง น้ำตาร่วงเผาะ เธอลุกขึ้นกลับห้องไปล้างหน้าล้างตา ก่อนปิดไฟแล้วล้มตัวนอนลง

ดึกมากแล้ว ภายในห้องที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นกลับแทรกขึ้นมาด้วยเสียงปลดสายรัดเสื้อผ้า

เสิ่นชิงซูนอนตะแคงข้างอยู่บนเตียงหลังใหญ่

เธอรู้ว่าฟู่ซือเหยียนกลับมาแล้ว แต่ยังคงหลับตาปี๋แสร้งทำทีเป็นว่านอนหลับสนิท

เตียงด้านข้างยุบลงยวบ

ตามด้วยร่างกายใหญ่โตที่เข้ามาคร่อมอยู่บนตัวเธอ

หัวคิ้วของเสิ่นชิงซูขมวดเป็นปมเล็กน้อย

ชั่วอึดใจต่อมาชายกระโปรงชุดนอนถูกเลิกขึ้นสูง ฝ่ามือกระด้างแต่อุ่นร้อนเริ่มวางนาบลงมา...

เสิ่นชิงซูสะดุ้งตกใจ รีบลืมตาฉับพลัน

เค้าโครงองคาพยพอันคมคายบนใบหน้าหล่อเหลาอยู่ใกล้เพียงคืบ แว่นกรอบบางสีเงินวางคาดไว้บนสันจมูกที่สูงโด่ง

ไฟหัวเตียงดวงเล็กยังคงเปิดไว้ในค่ำคืน แสงนวลสีส้มตกกระทบบนกระจกแว่น

ดวงตาเฉี่ยวยาวหลังเลนส์แว่นของชายหนุ่มระคนด้วยความต้องการ

“ทำไมจู่ ๆ ถึงกลับมาล่ะคะ?”

เสียงของเธอนุ่มนวลละมุนละไมแต่กำเนิด

ชายหนุ่มจดจ้องหางตาอันแดงก่ำของเธอ คิ้วดกดำเข้มเลิกขึ้นเล็กน้อย “ไม่ต้อนรับเหรอ?”

เสิ่นชิงซูมองเข้าไปในแววตาลุ่มลึกสีดำขลับประหนึ่งหยกทมิฬของชายหนุ่มตรง ๆ ก่อนกล่าวอธิบายเสียงแผ่ว “เปล่า แค่คิดไม่ถึงนิดหน่อยน่ะ”

ปลายนิ้วอันเรียวยาวของชายหนุ่มแข็งกระด้างแต่ก็อบอุ่น ลูบไล้ผ่านใบหน้าอันนวลลออผุดผ่องของเธอเบา ๆ นัยน์ตาสีดำขลับมืดสนิท น้ำเสียงทุ้มต่ำที่น่าฟังดังขึ้น “ถอดแว่นตาออกซะ”

เสิ่นชิงซูขมวดคิ้วเล็กน้อย

ดวงหน้าถูกปลายนิ้วของเขาลูบไล้อย่างเบามือ เธอมองใบหน้าที่ทำให้เธอหลงรักหัวปักหัวปำมานานนับปี ในหัวพลันปรากฏภาพเคลื่อนไหวบนไทม์ไลน์เมื่อครู่นี้...

เธอที่ทำใจขัดอารมณ์เขาไม่ได้มาโดยตลอดปฏิเสธเขาด้วยสีหน้าเย็นยะเยือกเป็นครั้งแรก “ฉันไม่ค่อยสบาย”

“ประจำเดือนมาแล้วเหรอ?”

“ไม่ใช่ค่ะ ก็แค่…”

“งั้นก็อย่ามาทำให้เสียอารมณ์”

เสียงทุ้มต่ำเย็นชาตัดบทเธอที่กำลังจะอธิบาย นัยน์ตาลุ่มลึกเริ่มมืดมนดังบรรยากาศยามราตรี

เสิ่นชิงซูรู้ว่าเขาไม่ยอมปล่อยเธอไปง่าย ๆ แน่

ในชีวิตสมรสครั้งนี้ เธอคือฝ่ายที่ต่ำต้อยและยึดเอาความต้องการของเขาเป็นหลักเสมอมา

เสิ่นชิงซูรู้สึกชอกช้ำในใจ จึงน้ำตารื้นอย่างห้ามไม่อยู่

แว่นตาถูกชายหนุ่มโยนทิ้งไปที่ตู้ข้างหัวเตียง มือใหญ่ของบุรุษคว้าหมับเข้าที่ข้อเท้าอันเรียวเล็กและงดงามของเธอ...

ไฟดวงเล็กสีส้มที่หัวเตียงดับลง

ภายในห้องนอนเข้าสู่ความมืดมิด

การรับรู้ถูกเพิ่มขึ้นอย่างไร้ขีดจำกัด

ไม่ได้เจอกันหนึ่งเดือน ฟู่ซือเหยียนรุนแรงจนน่ากลัว

เสิ่นชิงซูขัดขืนแต่ไร้ผล สุดท้ายได้แต่กัดฟันฝืนทน...

หิมะนอกหน้าต่างตกหนักขึ้นทุกที ลมหนาวพัดกระโชกหวีดหวิว

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนแล้ว เสิ่นชิงซูเปียกโชกไปทั้งร่าง

รู้สึกไม่สบายท้องเล็กน้อย

นึกถึงเรื่องที่ประจำเดือนของตนยังไม่มาเสียที สุดท้ายเธอจึงเอ่ยออกไปว่า “ฟู่ซือเหยียน ฉัน…”

แต่บุรุษกลับไม่พอใจที่เธอวอกแวก จึงกระแทกร่างอย่างกระหน่ำยิ่งขึ้น

เสียงเล็กบางที่พูดไม่เป็นคำของเธอถูกชายหนุ่มกลืนกินไปพร้อมกับจุมพิตที่เอาแต่ใจไม่หยุด...

ครั้นเสร็จกิจ ท้องฟ้ายังไม่สว่าง

เสิ่นชิงซูเหนื่อยล้าจนแทบสติเลือนราง ท้องน้อยรู้สึกปวดหนึบ อาการไม่รุนแรง แต่ก็ไม่อาจมองข้ามได้

ได้ยินเสียงกริ่งโทรศัพท์แล้ว เธอจึงพยายามดึงสติไว้และลืมตาขึ้นมา

ภายในทัศนวิสัยอันพร่ามัว เห็นเพียงชายหนุ่มเดินไปรับสายที่ริมหน้าต่าง

ในห้องเงียบสงัด จึงสามารถได้ยินเสียงออดอ้อนที่ดังแว่วมาราง ๆ

เขากล่าวปลอบโยนปลายสายอย่างใจเย็น แต่หมางเมินไม่สนใจไยดีภรรยาที่หลับลึกอยู่ข้าง ๆ

ผ่านไปไม่นาน มีเสียงเครื่องยนต์ดังมาจากชั้นล่าง

ฟู่ซือเหยียนไปแล้ว

……

ครั้นตื่นขึ้นในวันถัดมา ที่นอนข้างกายยังคงเย็นเฉียบดังเดิม

เสิ่นชิงซูพลิกตัวทีหนึ่ง ลูบท้องน้อยเบา ๆ

ไม่ปวดแล้ว

กริ่งโทรศัพท์ดังขึ้น เป็นฉินฟางแม่ของฟู่ซือเหยียน

“เธอมาที่นี่เดี๋ยวนี้” น้ำเสียงเย็นชาแกมบังคับ ไม่เปิดช่องให้เธอปฏิเสธ

เสิ่นชิงซูตอบรับเสียงเรียบไปคำหนึ่ง

ฉินฟางกดวางโทรศัพท์

แต่งงานกับฟู่ซือเหยียนอย่างลับ ๆ มาห้าปี ฉินฟางก็ไม่เคยชอบขี้หน้าเธอเลย เสิ่นชิงซูจึงชินแล้ว

อย่างไรเสียตระกูลฟู่ก็เป็นอันดับหนึ่งในสี่ตระกูลเศรษฐีใหญ่แห่งเมืองเป่ย แม้เธอจะเกิดในตระกูลเสิ่น แต่กลับเป็นลูกสาวถูกทิ้งที่ไม่มีใครรัก

การแต่งงานระหว่างเธอและฟู่ซือเหยียนเกิดจากการทำข้อตกลงกัน

เมื่อห้าปีก่อนแม่ได้พลั้งมือฆ่าพ่อตายระหว่างโดนทำร้ายร่างกายครั้งหนึ่ง น้องชายร่วมมือกับย่าและทุกคนในตระกูลเสิ่นฟ้องร้องแม่ พยายามขอให้ตัดสินโทษประหารชีวิต

ตระกูลเจียงซึ่งเป็นครอบครัวเดิมของแม่ก็เป็นตระกูลเศรษฐีในเมืองเป่ยเหมือนกัน กลับประกาศตัดขาดความสัมพันธ์กับแม่หลังจากเกิดเรื่องในทันที

เนื่องจากเป็นกระบอกเสียงให้แม่ เสิ่นชิงซูจึงถูกตระกูลเสิ่นและตระกูลเจียงตามทำร้ายและเอาคืน ครั้นอับจนหนทาง เป็นอาจารย์ที่ปรึกษาที่แนะนำให้เธอไปหาฟู่ซือเหยียน

ในแง่ของอำนาจ ภูมิหลังของตระกูลฟู่คือตัวตนที่ตระกูลเจียงและตระกูลเสิ่นร่วมมือกันก็ไม่อาจสร้างความสะเทือนได้

ในด้านกฎหมาย คดีที่ผ่านมือฟู่ซือเหยียนจวบจนถึงปัจจุบันยังคงสถิติแพ้คดีเป็นศูนย์ดังเดิม

ในท้ายที่สุดฟู่ซือเหยียนช่วยเหลือให้แม่มีโทษจำคุกแค่ห้าปี ซึ่งตามที่ได้ตกลงกันไว้ เสิ่นชิงซูต้องแต่งงานแบบไม่เปิดเผยกับฟู่ซือเหยียน

จากที่ฟังฟู่ซือเหยียนพูด พ่อแม่บังเกิดเกล้าของลูกเลี้ยงฟู่ซืออวี่ลาโลกไปด้วยอุบัติเหตุอย่างโชคไม่ดี

และเขาเป็นเพื่อนรักกับพ่อของฟู่ซืออวี่ ดังนั้นจึงรับฟู่ซืออวี่ที่ยังแบเบาะมาเลี้ยง

ตอนนี้ผ่านมาห้าปีแล้ว อีกแค่เดือนเดียว แม่ก็จะพ้นโทษออกมาแล้ว

การแต่งงานครั้งนี้ถูกตีราคาอย่างชัดเจนมาตั้งแต่ต้น ทั้งสองฝ่ายต่างได้รับในสิ่งที่ต้องการ ฉะนั้นเสิ่นชิงซูไม่ได้เสียเปรียบ

น่าเสียดายที่รู้อยู่แก่ใจดีว่าการแต่งงานนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องความรัก หนำซ้ำยังไม่รู้ด้วยว่ามันจะจบลงเมื่อใด แต่กระนั้นเธอก็ยังแอบมีใจให้อยู่ดี

เสิ่นชิงซูหยุดความคิดนั้นไว้ ก่อนลุกขึ้นเดินเข้าห้องอาบน้ำไป

ขณะอาบน้ำพลันรู้สึกไม่สบายท้องน้อยขึ้นมาอีกรอบ

ความวิตกกังวลเริ่มก่อเกิดขึ้นในใจเป็นครั้งที่สอง

เธอกับฟู่ซือเหยียนป้องกันทุกครั้ง มีเพียงครั้งนั้นครั้งเดียวที่ฟู่ซือเหยียนเมาเหล้าเมื่อหนึ่งเดือนก่อน...

แม้วันถัดมาเธอจะกินยาไปแล้ว แต่ก็มีกรณีที่ป้องกันการตั้งครรภ์หลังมีเพศสัมพันธ์ล้มเหลวเหมือนกัน

เพื่อรับประกันความเสี่ยง ระหว่างทางที่เสิ่นชิงซูขับรถมุ่งหน้าไปยังบ้านตระกูลฟู่ ก็มาจอดเทียบที่หน้าร้านยาแห่งหนึ่ง ก่อนลงรถไปซื้อที่ตรวจครรภ์
Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 100

    แกร้ง!เสียงมีดผ่าตัดหล่นลงพื้นดังขึ้นอย่างชัดเจนแพทย์วิสัญญีที่กำลังจะฉีดยาก็ชะงักทันที!หัวหน้าเจียงขมวดคิ้ว มองไปยังผู้ช่วยคนที่หนึ่ง “เธอเป็นอะไรไป?”ผู้ช่วยคนที่หนึ่งทำหน้าไร้เดียงสา “ไม่ใช่ฉันนะคะ นี่มัน...”ทันใดนั้นแพทย์วิสัญญีก็ดึงเข็มฉีดยาออก “แผ่นดินไหว!”เสิ่นชิงซูเบิกตาโพลงขึ้นทันที......ไฟผ่าตัดเหนือศีรษะกะพริบติด ๆ ดับ ๆ เธอรู้สึกเวียนหัวเล็กน้อย เตียงผ่าตัดใต้ร่างกำลังสั่นไหว!ในวินาทีต่อมา เสียงสัญญาณเตือนภัยก็ดังขึ้นทั่วทั้งโรงพยาบาล!“หยุดการผ่าตัด! อพยพไปทางหนีไฟเร็วเข้า...”เสิ่นชิงซูงุนงงไปหมด ถูกเฉียวซิงเจียและแพทย์วิสัญญีประคองลงจากเตียงผ่าตัดประตูห้องผ่าตัดเปิดออก ทางเดินเต็มไปด้วยผู้ป่วยและบุคลากรทางการแพทย์ สถานการณ์วุ่นวายอยู่พักหนึ่งเวินจิ่งซีเห็นพวกเธอออกมาก็รีบเข้าไปหา“เป็นยังไงบ้าง? ผ่าตัดไปหรือยัง?”“ออกไปก่อนแล้วค่อยว่ากัน!” เฉียวซิงเจียพูดพร้อมกับประคองเสิ่นชิงซูเวินจิ่งซีพยักหน้า ร่างสูงใหญ่ของเขาคอยป้องกันพวกเธอขณะเดินไปยังทางหนีไฟ...โชคดีที่แผ่นดินไหวหยุดลงอย่างรวดเร็วในขณะนี้ ทั้งทางหนีไฟและทางเดินต่างเต็มไปด้วยผู้คนถึงแ

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 99

    เสิ่นชิงซูต้องตรวจเจอว่าท้องตั้งนานแล้วแน่ ๆ และที่สำคัญคือเธอไม่เคยคิดจะบอกเขาเลยตั้งแต่ต้นจนจบ!ฟู่ซือเหยียนนึกถึงวันนั้น...วันนั้นทั้งลมทั้งหิมะรุนแรงขนาดนั้น ท่าทีของเสิ่นชิงซูก็เด็ดเดี่ยวขนาดนั้น ทำให้เขาในตอนนั้นถูกความโกรธเข้าครอบงำจนหน้ามืดตามัว กลับมองข้ามรายละเอียดที่สำคัญที่สุดไป!รถเมย์บัคแล่นด้วยความเร็วสูงอยู่บนถนนในเมือง เปลี่ยนเลนอย่างอันตรายอยู่หลายครั้ง แต่ความเร็วกลับไม่ลดลงเลยแม้แต่น้อย!ภายในรถ มือที่กุมพวงมาลัยของฟู่ซือเหยียนเกร็งแน่น ใบหน้าหล่อเหลาบึ้งตึงเย็นชานี่เสิ่นชิงซูวางแผนที่จะหย่าทั้ง ๆ ที่ท้องลูกของเขา แล้วไปคบกับเวินจิ่งซีอย่างนั้นเหรอ?เธอคิดจะให้ลูกของเขาเรียกคนอื่นว่าพ่องั้นเหรอ?ริมฝีปากบางของชายหนุ่มที่เม้มแน่นอยู่พลันโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้มเย้ยหยัน“เหอะ เสิ่นชิงซู คุณนี่มันแน่จริง ๆ!”ฟู่ซือเหยียนกุมพวงมาลัยด้วยมือเดียว เปิดรายชื่อผู้ติดต่อ แล้วโทรออกหาฉินเยี่ยนเฉิง“เสิ่นชิงซูอยู่ที่โรงพยาบาลพวกนาย นายรีบช่วยฉันเช็คประวัติการรักษาของเธอให้หน่อยสิ...”ปรี๊น ปรี๊น...ทันใดนั้นก็มีรถบรรทุกคันใหญ่ฝ่าไฟแดงพุ่งออกมาจากสี่แยกข้างหน้า!ฟู่ซือ

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 98

    เฉียวซิงเจียช่วยเสิ่นชิงซูทำเรื่องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลก่อน จากนั้นก็พาเธอไปที่ห้องผู้ป่วยเพื่อเปลี่ยนเป็นชุดของโรงพยาบาลหลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว ก็ทำการตรวจร่างกายเบื้องต้นอีกสองสามอย่างผลตรวจจะออกในอีกครึ่งชั่วโมงเวลาแห่งการรอนั้นยาวนานและทรมาน เสิ่นชิงซูยืนอยู่ริมหน้าต่าง ไม่พูดอะไรสักคำเฉียวซิงเจียและเวินจิ่งซีอยู่เป็นเพื่อนเธอเงียบ ๆ ไม่ได้เข้าไปรบกวนครึ่งชั่วโมงผ่านไป ผลตรวจออกมา ทุกอย่างเป็นปกติ สามารถทำการผ่าตัดได้ในขณะเดียวกัน ทางห้องผ่าตัดก็ส่งข่าวมาว่าเตรียมพร้อมแล้ว“อาซู” เฉียวซิงเจียเรียกเธอ “เราต้องไปที่ห้องผ่าตัดแล้วนะ”เมื่อได้ยินดังนั้น ขนตาของเสิ่นชิงซูก็สั่นไหวเล็กน้อย ก่อนจะค่อย ๆ หันกลับมาเฉียวซิงเจียเดินเข้ามาสวมกอดเธอ “ไม่ต้องกังวลนะ ฉันจะอยู่เป็นเพื่อนเธอเอง”เสิ่นชิงซูตอบรับเสียงเบา “อืม”เวินจิ่งซียืนเงียบอยู่ข้าง ๆ ขมวดคิ้วมุ่น สีหน้าเคร่งขรึมอย่างที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนักทั้งสามคนมาถึงหน้าห้องผ่าตัด เวินจิ่งซีหยุดเดินเฉียวซิงเจียควงแขนเสิ่นชิงซูเดินเข้าไป ประตูห้องผ่าตัดปิดลงอย่างหนักหน่วง......ศาลประชาชนเมืองเป่ย ผู

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 97

    “ฉันไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นค่ะ” เสิ่นชิงซูเม้มปากถอนหายใจเบา ๆ แล้วลุกขึ้นยืนพูดว่า “ฉันขอบคุณในความหวังดีของคุณมากนะ แต่ฉันตัดสินใจไปแล้ว”เวินจิ่งซีลุกขึ้นยืนตาม จ้องมองเธอแล้วถามย้ำ “แน่ใจแล้วเหรอครับ?”“อืม” เสิ่นชิงซูพยักหน้า น้ำเสียงหนักแน่น “ตอนแรกฉันยังคิดอยู่เลยว่าหลังผ่าตัดจะปิดบังคุณยังไงดี แต่ในเมื่อตอนนี้คุณรู้แล้ว ก็ช่วยฉันเก็บเป็นความลับด้วยแล้วกันนะ”เวินจิ่งซีเห็นว่าเธอตัดสินใจแน่วแน่แล้ว จึงไม่ได้พูดเกลี้ยกล่อมอะไรต่อ“คุณวางใจได้เลย ผมช่วยคุณเก็บเป็นความลับแน่นอน” เขาหยุดไปครู่หนึ่งแล้วถามต่อ “พรุ่งนี้คุณผ่าตัดกี่โมงเหรอ?”“เก้าโมงค่ะ”“งั้นพรุ่งนี้ผมไปส่งคุณที่โรงพยาบาล”“ไม่ต้องหรอกค่ะ” เสิ่นชิงซูไม่อยากรบกวนเวินจิ่งซี “ซิงซิงอยู่ที่โรงพยาบาล เดี๋ยวเธอจัดการให้ทุกอย่างเรียบร้อยเอง”“อาจารย์กับภรรยาของอาจารย์กำชับผมนักหนาก่อนที่เขาจะไป ว่าต้องดูแลคุณให้ดี” เวินจิ่งซีพูด “คุณจะให้ผมช่วยเก็บเป็นความลับ งั้นอย่างน้อยผมก็ต้องอยู่เฝ้าคุณ ให้แน่ใจว่าการผ่าตัดของคุณเรียบร้อยดี ผมถึงจะวางใจได้!”เสิ่นชิงซูยังอยากพูดอะไรบางอย่าง แต่เวินจิ่งซีก็ชิงพูดตัดหน้าขึ้นก่

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 96

    ฟู่ซือเหยียนพาฟู่ซืออวี่จากไป พร้อมกับแมวพันธุ์แร็กดอลล์ที่โจวอวี๋ชูย้ำนักย้ำหนาว่าเสิ่นชิงซูจะต้องชอบหลังจากพวกเขาไปแล้ว เสิ่นชิงซูที่ฝืนทนมาตลอดก็ล้มพับลงเวินจิ่งซีรับร่างที่อ่อนแรงของเธอไว้ แล้วอุ้มเธอไปวางบนโซฟาในห้องทำงานเสิ่นชิงซูพิงโซฟา มือข้างหนึ่งกุมหน้าอก หายใจหอบถี่ ใบหน้าซีดขาวราวกับกระดาษนี่คืออาการหายใจเร็วเกินไปที่เกิดจากอารมณ์ที่รุนแรงเกินไปเวินจิ่งซีใช้มือปิดปากเธอ แล้วแนะนำอย่างใจเย็น “คุณหายใจเร็วเกินไป ปิดปาก แล้วทำตามจังหวะผมนะ หนึ่ง สอง หายใจ ใช่ แบบนั้นแหละ หนึ่ง สอง หายใจ...”ด้วยความช่วยเหลือของเวินจิ่งซี ในที่สุดการหายใจของเสิ่นชิงซูก็กลับมาเป็นปกติเวินจิ่งซีรินน้ำอุ่นแก้วหนึ่ง ส่งไปจ่อที่ริมฝีปากเธอ “ดื่มน้ำหน่อยนะ”เสิ่นชิงซูพิงโซฟาอยู่ หลังจากดื่มน้ำอุ่นไปครึ่งแก้ว ร่างกายที่เกร็งอยู่ก็ค่อย ๆ ผ่อนคลายลงเวินจิ่งซีคว้าหมอนอิงใบหนึ่งมารองหลังให้เธอ “พิงไว้จะสบายขึ้นหน่อย”เสิ่นชิงซูมองเวินจิ่งซี ริมฝีปากที่ซีดเซียวเม้มขึ้นเล็กน้อย พูดด้วยน้ำเสียงจริงใจ “ขอบคุณค่ะ”จากการที่ได้อยู่ด้วยกันมาหลายวันนี้ เธอพบว่าถึงแม้เวินจิ่งซีจะปากร้ายไปหน่อย แต

  • คุณทนายตัวร้าย ฉันขอบายนะคะ   บทที่ 95

    เสิ่นชิงซูมองฟู่ซือเหยียน ถ้อยคำของเขาแทงใจจนเธอต้องยิ้มทั้งน้ำตา“ฟู่ซือเหยียน ลูกชายของคุณเขามีแม่ของเขาอยู่แล้ว แม่ของเขาชื่อโจวอวี๋ชู ไม่ใช่ฉันเสิ่นชิงซู! แล้วก็ ในเมื่อคุณคิดว่าฉันอารมณ์ไม่ดี ไม่ใช่แม่ที่ได้เรื่อง งั้นก็ได้ ฉันยอมรับ! เป็นฉันเองที่ไม่คู่ควรจะเป็นแม่ของฟู่ซืออวี่ เพราะฉะนั้นตอนนี้เชิญคุณพาลูกชายของคุณไสหัวออกไปจากที่ของฉันได้แล้ว!”เสิ่นชิงซูพูดรวดเดียวจบ ก็รู้สึกหน้ามืดตาลาย ร่างบางโงนเงนเหมือนจะล้มเวินจิ่งซีรีบเข้าไปประคองเธอไว้ ก้มลงกระซิบถามข้างหูเบา ๆ “คุณยังโอเคไหม?”เสิ่นชิงซูสูดหายใจลึก ภาพที่พร่ามัวกลับมาชัดเจนขึ้น เธอส่ายหน้า “ยังไหว”ฟู่ซือเหยียนมองการกระทำของคนทั้งสอง สันกรามล่างเกร็งแน่น แววตาเย็นเยียบในขณะที่ฟู่ซืออวี่กำลังจ้องมองเสิ่นชิงซูอย่างเหม่อลอย ปากเล็ก ๆ ยังอ้าค้างอยู่ แต่กลับลืมไปแล้วว่าต้องร้องไห้เมื่อกี้แม่พูดว่าอะไรนะ?แม่...ไม่ต้องการเขาแล้วจริง ๆ เหรอ?ความหวาดกลัวอย่างรุนแรงถาโถมเข้ามาในใจของฟู่ซืออวี่ มือที่โอบคอฟู่ซือเหยียนอยู่กระชับแน่นขึ้น “พ่อครับ แม่แค่พูดประชดใช่ไหมครับ? แม่เป็นแม่ของผม แม่ไม่มีทางไม่ต้องการผมใช่ไหมค

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status