Chapter 4
“คุณย่า” เป็นหนึ่งทำท่าจะวิ่งหนี แต่เสียงทรงอำนาจของคนเป็นย่าดังขึ้นก่อน “ถ้าวิ่งหนี ย่าจับได้ตอนไหน จะเจ็บตัวมากกว่าเดิม” และคำพูดนั้นมันได้ผล เป็นหนึ่งชะงักฝีเท้าแล้วหันไปหาคุณย่านวลละออ “เข้ามาในบ้าน ไปก่อเรื่องงามหน้าไว้ จะมาหนีทิ้งปัญหาไว้เหรอ?” “คุณย่าครับ” “อย่ามาโอดครวญ ไปนั่งเก้าอี้ วันนี้มีเรื่องต้องคุย” “….” เป็นหนึ่งเงียบ เลือกที่จะเดินไปนั่งเก้าอี้ตรงข้ามพราวพิมล กำนันประวิทย์นั่งหน้าตึง ส่วนพราวพิมลเอาแต่ก้มหน้าร้องไห้ เฮ้อ คิดว่าจะไม่โดนจับได้ คราวนี้คงได้ตายอย่างหมา “กันตาเองก็เข้ามาในบ้าน ไปกินข้าว แล้วไปอาบน้ำนอน” คุณนวลละออเสียงเข้ม “ค่ะ” กันตาพยักหน้ารับคำ ก่อนจะรีบเดินไปในครัว เธอรีบกินข้าว แม้จะไม่หิวแต่ก็ฝืนกลืนข้าวลงคอ พอรับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อยก็รีบเดินออกมาจากครัว เธอมองเป็นหนึ่งเล็กน้อย ก่อนจะรีบขึ้นบ้านไป “เอาเป็นว่าเข้าเรื่องเลยนะคะ คุณประวิทย์ต้องการให้ฉันรับผิดชอบยังไง?” คุณนวลละออเอ่ยเสียงเรียบ สายตาจ้องเขม็งไปที่สองพ่อลูกตรงหน้า “คุณละออต้องให้หลานชายรับผิดชอบลูกสาวผม” “รับผิดชอบได้นะ ฉันให้หนึ่งแสนเป็นค่าสินสอด แต่เป็นหนึ่งจะไปอยู่กับคุณแต่ตัว จะไม่ได้อะไรจากเราไปสักบาท เพราะสมบัติที่พ่อแม่ของเป็นหนึ่งมี ตอนนี้เป็นของกันตาหมดแล้ว” “พูดแบบนี้หมายความว่ายังไง?” “ก็พูดตรง ๆ ตัวค่ะ หลานชายฉันอายุยังไม่ถึงสิบแปดปี ลูกสาวคุณก็ยังไม่ถึง เด็กสองคนยังเด็ก ยังคิดอะไรยังไม่ค่อยได้ ฉันว่าเรามาคุยกันดี ๆ ดีกว่า ฉันให้ห้าแสน ให้มันจบแค่ตรงนี้ เอาเงินไปแล้วแยกย้ายจะดีกว่า” “ผมไม่ยอมหรอก ลูกสาวผมเสียหาย” “งั้นก็เอาลูกสาวคุณไปโพนทะนาเลยค่ะ ว่าได้เสียกับหลานชายฉัน นอกจากจะไม่ได้จากฉันสักบาท ลูกสาวคุณต่างหากที่จะต้องอับอาย เมื่อหกเดือนที่แล้วก็มีข่าวไปมั่วผู้ชาย เห็นว่าท้องด้วยไม่ใช่เหรอ ฉาวโฉ่เหม็นคาวขนาดนั้น ถ้ากำนันไม่พาลูกสาวไปจัดการเด็กในท้อง คงไม่ปิดเรื่องท้องได้ขนาดนี้หรอก ว่าไหม?” “พ่อคะ พราวอยากกลับแล้ว” พราวพิมลกำมือตัวเองแน่น น้ำตาร่วงผล็อยเจ็บใจ คำพูดของคุณนวลละออเป็นจริงทุกอย่าง เธอเป็นอย่างที่คุณนวลละออพูดจริง ๆ แต่มันก็แค่ความผิดพลาดของเด็กอย่างเธอ ตอนนั้นยังไม่ประสีประสา ทำให้เกิดเรื่องงามหน้าขึ้นมา ยายแก่ตรงหน้าจงใจพูดหักหน้า จงใจพูดให้เธอได้อับอาย พราวพิมลเกลียดยิ่งหนัก คอยดูเถอะ ถ้ามีโอกาส เธอจะจัดการให้หนักเลย “กลับทำไม หลานคุณนวลละออทำผิด มันต้องรับผิดชอบลูก” “พ่อคะ!” “เลือกเอา จะเอาเป็นหนึ่งไปเป็นลูกเขย ฉันก็จะจัดการเรื่องสู่ขอเป็นทางการ จากนั้นก็แต่งงานกัน หลังจากที่แต่งงานแล้ว ฉันจะให้เป็นหนึ่งไปอยู่บ้านของกำนัน กำนันจะให้หลานชายฉันทำอะไร ก็สุดแต่ใจกำนัน แต่กำนันจะไม่ได้เงินจากฉัน กับลูกชายของฉันสักบาท แต่ถ้ากำนันยอมรับข้อเสนอที่สองของฉัน รับเงินไปห้าแสน ต่างคนต่างจบ เด็กสองคนก็จะได้มีอนาคตต่อไป” คุณนวลละออยื่นข้อเสนอ พร้อมกับส่งสายตากดดัน “คุณละออ” กำนันประวิตย์มองคุณนวลละออด้วยความโมโห เขาเสียเปรียบทุกอย่าง ถ้าจะเอาตามข้อเสนออันแรก รับเงินมาแค่หนึ่งแสน ให้ลูกสาวแต่งงานอยู่กินเป็นหนึ่ง แต่งไปแล้วจะมีประโยชน์อะไร ในเมื่อไม่มีเงินสักบาท ลูกเขยมีแต่ตัว ใครจะอยากเอา “ว่าไงคะ จะเอายังไง ถ้าไม่เอาข้อเสนออะไรเลย ก็เชิญออกจากไร่ฉันค่ะ ฉันไม่รับผิดชอบอะไรทั้งนั้น ถึงหลานชายของฉันจะผิดในเรื่องนี้ แต่ลูกสาวของคุณก็ใช่ย่อย ฉันดูออกนะคะ ว่าใครเป็นยังไง” “….” กำนันประวิทย์ฟึดฟัด แต่ไม่มีทางเลือกอะไร จะไปฟ้องร้อง กว่าทุกอย่างจะจบ ลูกสาวของเขา คงได้เป็นขี้ปากชาวบ้าน “ผมยอม จ่ายมาห้าแสนแล้วจบ” “ก็แค่นั้น” คุณนวลละออรีบจัดการเรื่องเงินห้าแสน พร้อมกับให้เซ็นสัญญาจบทุกอย่าง หลังจากกำนันกับลูกสาวกลับไปแล้ว คุณนวลละออก็หันมาเล่นงานหลานชาย เป็นหนึ่งโดนไม้เรียวหลายครั้ง เล่นเอาก้นระบม “พี่หนึ่งเจ็บไหมคะ?” กันตาเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับยาในมือ “เจ็บสิยัยบื้อ!” เป็นหนึ่งเสียงขุ่น เขาโดนทำโทษอย่างหนัก หนำซ้ำคุณย่ายังโทรบอกป้าปิยะนุชพี่สาวของพ่อมาที่บ้าน ให้มารับเขาไปอยู่ญี่ปุ่น ไปเรียนที่นู่น ตัดปัญหาทุกอย่าง “เดี๋ยวกันตาทายาให้” “ทายาอะไร?” “ก็พี่หนึ่งโดนตี” “เธอจะมาทายาที่ก้นให้พี่เหรอยัยบื้อ” “ถ้าพี่หนึ่งไม่อาย กันตาจะทาให้ค่ะ” “งั้นก็ทาสิ” เป็นหนึ่งดึงกางเกงลงจนเห็นก้นที่มีแผลแตกเลือดไหลซึมออกมา “คุณย่าตีแรงมากเหรอคะ? ถึงได้แผลขนาดนี้” “แรงมาก เจ็บแสบไปหมด เฮ้อ คุณย่าใจร้ายชะมัด” “ไม่หรอกค่ะ คุณย่าใจดี ที่คุณย่าตีพี่หนึ่ง เพราะต้องการสั่งสอน ไม่ให้พี่หนึ่งทำตัวไม่ดีอีก” “ใครตะดีเหมือนเธอล่ะ” เขาประชดประชัน “พี่ไม่ใช่หลานรักเหมือนเธอนิ่” “พี่หนึ่ง” กันตาเสียงอ่อน ก้มหน้าก้มตาทายาที่ก้นให้เป็นหนึ่ง ผ่านไปอีกหนึ่งอาทิตย์ ป้าปิยะนุชมาที่บ้าน อยู่เที่ยวที่นี่สองสามวัน ก็ให้พ่อของเป็นหนึ่งทำเรื่องย้ายไปเรียนที่ญี่ปุ่น จัดแจงทำทุกอย่างให้เรียบร้อย ทุกคนเป็นอกเป็นใจ ต้องการให้เขาไปจากที่นี่ คอยดูเถอะ ถ้าเขาไปแล้ว จะมาเลยคอยดู “รักษาเนื้อรักษาตัวด้วยนะเป็นหนึ่ง อยู่ที่โน้นเชื่อฟังคุณป้านุช อย่าดื้อกับป้านุชนะ” คุณย่าเอ่ยกับเขา พร้อมกับให้ลุงสาคร คนงานที่เคยพาเขาไปตกปลาลากกระเป๋าไปที่รถให้ “….” เป็นหนึ่งไม่ตอบ แต่หันไปมองเด็กหญิงที่ยืนร้องไห้อยู่ข้างคุณย่าของเขา “พี่ไปแล้วนะกันตา” “อย่าลืมโทรมาหากันตานะพี่หนึ่ง ฮึก ไปอยู่ที่โน่น คิดถึงกันตาด้วยนะ ตั้งใจเรียนนะพี่หนึ่ง อย่าไปทำเสียงเปตรกับผู้หญิงคนไหนนะ ฮึก” “อืม” เขาพยักหน้า “ตั้งใจเรียนนะ อยู่ที่นี่ก็ช่วยดูแลคุณย่า เธอเป็นหลานรัก คงดูแลคุณย่าได้ดีกว่าพี่” เป็นหนึ่งว่าหันหลังให้กับทุกคน เดินขึ้นไปบนรถ ใบหน้าของเขาราบเรียบ ไม่แสดงความรู้สึกอะไรออกมา พอรถเคลื่อนออกไป มือของเขาก็กำแน่น ได้แต่ข่มความรู้สึกเอาไว้ ไม่ให้แสดงความอ่อนแอออกมาChapter 5 “ไม่ต้องร้องนะกันตา พี่หนึ่งไปไม่นานหรอก เดี๋ยวก็กลับมา” คนเป็นย่ากอดปลอบหลานสาว ที่เป็นหนึ่งจากไปเรียนที่ญี่ปุ่น ใจนางก็อดที่จะวูบโหวงไม่ได้ แต่ถ้าเป็นหนึ่งไม่จากไป เรื่องมากมายจะต้องเกิดขึ้นแน่ ๆ อายุยังไม่ถึงสิบแปด กลับทำเรื่องงามหน้า แม้จะรักหลานชายมากแค่ไหน ก็จำต้องตัดใจ ให้หลานชายไปเรียนที่อื่น“กันตาต้องคิดถึงพี่หนึ่งมากแน่ ๆ ฮึก”“พี่หนึ่งไปเรียนไม่กี่ปี ก็ต้องกลับมา เชื่อย่าสิ”“ค่ะ” กันตาพยักหน้า มือเรียวเล็กปาดน้ำตาตัวเอง มองรถของป้าปิยะนุชที่แล่นออกไปจนลับตาอาทิตย์ต่อมากันตาไปซื้อของที่ตลาดนัดแถวบ้าน พราวพิมลควงหนุ่มหล่อเดินเลือกซื้อของ หัวเราะต่อกระซิก กันตาแปลกใจไม่น้อย พราวพิมลจบกับเป็นหนึ่งได้อาทิตย์เดียว แต่เจ้าหล่อนกลับทำใจได้ และหันไปควงพี่เนม ลูกเจ้นิ่มร้านหมู่กระทะมาซื้อของที่ตลาดเป็นพราวพิมลนี่มันดีจริง ๆ มูฟออนได้รวดเร็ว ระริกระรี้กับผู้ชายคนอื่นได้ วันที่กำนันประวิทย์มาคุยกับคุณย่านวลละออ กันตาแอบฟัง ทำให้รู้ว่าพราวพิมลประวัติเรื่องผู้ชายไม่ใช่ย่อย ไม่แปลกที่คุณย่าจะไม่ต้องการพราวพิมล จนใช้เงินแก้ปัญหา ให้ทุกอย่างมันจบ“พี่เนมคะ ดูชุดนี้สิคะ โคตร
Chapter 4“คุณย่า” เป็นหนึ่งทำท่าจะวิ่งหนี แต่เสียงทรงอำนาจของคนเป็นย่าดังขึ้นก่อน “ถ้าวิ่งหนี ย่าจับได้ตอนไหน จะเจ็บตัวมากกว่าเดิม” และคำพูดนั้นมันได้ผล เป็นหนึ่งชะงักฝีเท้าแล้วหันไปหาคุณย่านวลละออ“เข้ามาในบ้าน ไปก่อเรื่องงามหน้าไว้ จะมาหนีทิ้งปัญหาไว้เหรอ?” “คุณย่าครับ”“อย่ามาโอดครวญ ไปนั่งเก้าอี้ วันนี้มีเรื่องต้องคุย”“….” เป็นหนึ่งเงียบ เลือกที่จะเดินไปนั่งเก้าอี้ตรงข้ามพราวพิมล กำนันประวิทย์นั่งหน้าตึง ส่วนพราวพิมลเอาแต่ก้มหน้าร้องไห้ เฮ้อ คิดว่าจะไม่โดนจับได้ คราวนี้คงได้ตายอย่างหมา“กันตาเองก็เข้ามาในบ้าน ไปกินข้าว แล้วไปอาบน้ำนอน” คุณนวลละออเสียงเข้ม“ค่ะ” กันตาพยักหน้ารับคำ ก่อนจะรีบเดินไปในครัว เธอรีบกินข้าว แม้จะไม่หิวแต่ก็ฝืนกลืนข้าวลงคอ พอรับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อยก็รีบเดินออกมาจากครัว เธอมองเป็นหนึ่งเล็กน้อย ก่อนจะรีบขึ้นบ้านไป“เอาเป็นว่าเข้าเรื่องเลยนะคะ คุณประวิทย์ต้องการให้ฉันรับผิดชอบยังไง?” คุณนวลละออเอ่ยเสียงเรียบ สายตาจ้องเขม็งไปที่สองพ่อลูกตรงหน้า “คุณละออต้องให้หลานชายรับผิดชอบลูกสาวผม”“รับผิดชอบได้นะ ฉันให้หนึ่งแสนเป็นค่าสินสอด แต่เป็นหนึ่งจะไปอยู่กับ
Chapter 3 “อุ๊ย พี่หนึ่งขา” พราวพิมลหัวเราะต่อกระซิกกับเป็นหนึ่งอย่างมีความสุข สร้างความหงุดหงิดกับคนที่เป็นส่วนเกินอยู่ไม่น้อย กันตาดูนาฬิกาที่ข้อมือ แล้วหน้ามุ่ยกว่าเดิม เธออยากจะหายไปจากตรงนี้เหลือเกิน ไม่อยากรับรู้ ไม่อยากเห็น ไม่อยากเป็นส่วนเกิน ไม่อยากรับรู้ว่าสองคนนี้ รักกันมากแค่ไหน“แก้มน้องพราว นุ๊มนุ่ม ผิวก็สวย หุ่นก็ดีมาก” เป็นหนึ่งกอดพราวพิมล กันตามองแล้วหน้าหงิก เธอไม่ชอบใจเลย ที่เห็นเป็นหนึ่งมาพรอดรักกับผู้หญิงคนอื่น“พี่หนึ่ง กลับได้แล้ว ยุงมันกัด แสบไปหมดแล้วนี่” มือเกายิก ๆ ที่ขา กันตาไม่ได้ใส่กางเกงขายาว ทำให้ยุงจู่โจมแขนและขาของเธอ ทำไมเธอต้องมารอเขาด้วยนี่ อยากจะบ้าตาย!“อีกครึ่งชั่วโมง” คนเอาแต่ใจเอ่ย“หูย อีกตั้งครึ่งชั่วโมง” กันตาบ่นกระปอดกระแปด กระโดดเหยง ๆ เมื่อยุงกำลังเล่นงานเธออย่างหนัก“ดูต้นทางให้ด้วยยัยบื้อ”“พี่หนึ่ง!” กันตาค้อนวงใหญ่ แต่เป็นหนึ่งไม่สนใจ พรอดรักกับพราวพิมล ทั้งสองดึงแขนกันไปที่กระท่อมไม่ไกลจากบ้าน ลักษณะกระท่อม เป็นกระท่อมทรงสูง มีบันไดลิงไต่ขึ้นไป ส่วนด้านบนมีสะพานไม้เชื่อมกับกระท่อมกับบ้านหลังใหญ่ เป็นหนึ่งกับพราวพิมลหยอกล้อกันส่งเส
Chapter 2“คุณย่าครับ น้องกันตากินปีโป้ได้ไหม?” เด็กชายถือขนมเจลลี่ยี่ห้อหนึ่งเดินมาหาคุณย่า“ยังกินไม่ได้จ้ะ ว่าแต่วันนี้มีการบ้านไหม?”“มีครับ”“ถ้ามีก็รีบไปทำ ตอนเย็นคุณพ่อกับคุณแม่จะมาบ้าน”“คุณพ่อคุณแม่จะมาใช่ไหม?” เป็นหนึ่งถามอย่างตื่นเต้น“ใช่” นวลละออพยักหน้า “เย้!” กระโดดโล้ดเต้นอย่างดีใจ พ่อแม่ของเป็นหนึ่งไปทำงานในเมือง มีบริษัทแปรรูปผลไม้เป็นของตัวเอง ส่วนคุณย่าของเขาทำไร่ ปลูกผลไม้ มีคนงานหลายคน รวมทั้งปล่อยเงินกู้ให้คนระแวกบ้านพ่อกับแม่อยากให้เขาไปอยู่ด้วย แต่เขาเคยไปอยู่แล้ว มันไม่สนุก พ่อแม่เอาแต่ทำงาน ส่วนเขาอยู่กับพวกพี่เลี้ยง มันน่าเบื่อ อยู่กับคุณย่าที่ไร่นวลละออสนุกกว่า ได้ไปยิงนกตกปลากับพวกคนงาน บางครั้งก็ไปคล้องกิ้งก่ามายำกับมะม่วง อร่อยเลิศอย่าบอกใคร ไหนจะผัดปลาไหลที่สาครลุงคนงานผัดให้กินอีก อร่อยจนแสงออกปากเรื่องอะไรจะไปอยู่ในเมืองกับพ่อแม่ น่าเบื่อจะตาย! “รีบไปทำการบ้าน คุณแม่ปานบอกกับย่าว่า ซื้อขนมกับเสื้อผ้ามาให้หนึ่งกับกันตาเยอะเลย”“ครับ” เป็นหนึ่งยิ้มอย่างดีใจ ก่อนจะยื่นหน้าไปจุ๊บแก้มคนเป็นน้องหนึ่งที “พ่อกับแม่มาน้องกันตา ดีใจไหม?”“แอ้ ๆ” เด็กน้อยย
บทที่ 1 ครินน~ ครินน~ เปรี้ยง! ที่ไร้มลทินมนต์มนต์ดำหยาดพิรุณร่วงโรยของเชื้อราเป็นร่างบางยำสูงใหญ่ฝ่าสายฝนที่แข็งโอบอุ้มทารกน้อยไว้แนบอกหมวกปีกกว้างยังพอช่วยบดบังสายฝนที่สาดกระหน่ำเข้ามา 'สุชาติ' ช่วยเร่งฝีเท้าฟ้าสโนว์ทาร์งพสุธาฝนห่าใหญ่ตกกระหน่ำไม่รวมถึงอีกทั้งสายฟ้าในแลบแปล๊บจนน่าพิจารณาเป็นพิเศษ เท้าเปล่าย่ำโคลนดินสายทุ่งนา สายลมกรรโชกแรงจนร่างเซถลาแต่ส่วนใหญ่ฝ่าแรงลมทำให้บ้านทรงไทยหลังใหญ่“อุแว้! อุแว้!” ส่วนน้อยแผดเสียงร้องจ้าในขณะที่คนเป็นโคลนวางลงตามลำดับไม้กระดานที่แข็งๆ การควบคุมเล็กๆ น้อยๆ ของไกว่สร้างเพื่อสร้างคนในการวางเมื่อครู่ดูดซับสู่ภายนอกอีกครั้งเขามองด้วยสังกะสี นึกได้อย่างจับใจในประสิทธิภาพการคลอดบุตรได้ไม่กี่ชั่วโมงในพรากภรรยาอันเป็นที่รักให้จากไปในทิศทางกลับลูกที่เกิดมาในเฮือนตาดวงใจย้อนกลับมาพร่าผลาญชีวิตองค์กรรักเขาเด็กคนนี้ยิ่งนักประสิทธิภาพอัปมงคลที่มาพังความสุขในชีวิตของเขา“นั่นใคร?” ตั้งกระทู้มองเจ้าของเสียงเพียงครู่จะรีบเดินออกไป ทิ้งทารกน้อยที่เป็นเลือดเนื้อไขเชื้อของเขานั่นคือ “หยุดนะก่อนจะไปไหน?” น้ำเสียงของนวลละออดังขึ้นในแนววิ่งไปคว้าแขนสุช