Chapter 3
“อุ๊ย พี่หนึ่งขา” พราวพิมลหัวเราะต่อกระซิกกับเป็นหนึ่งอย่างมีความสุข สร้างความหงุดหงิดกับคนที่เป็นส่วนเกินอยู่ไม่น้อย กันตาดูนาฬิกาที่ข้อมือ แล้วหน้ามุ่ยกว่าเดิม เธออยากจะหายไปจากตรงนี้เหลือเกิน ไม่อยากรับรู้ ไม่อยากเห็น ไม่อยากเป็นส่วนเกิน ไม่อยากรับรู้ว่าสองคนนี้ รักกันมากแค่ไหน “แก้มน้องพราว นุ๊มนุ่ม ผิวก็สวย หุ่นก็ดีมาก” เป็นหนึ่งกอดพราวพิมล กันตามองแล้วหน้าหงิก เธอไม่ชอบใจเลย ที่เห็นเป็นหนึ่งมาพรอดรักกับผู้หญิงคนอื่น “พี่หนึ่ง กลับได้แล้ว ยุงมันกัด แสบไปหมดแล้วนี่” มือเกายิก ๆ ที่ขา กันตาไม่ได้ใส่กางเกงขายาว ทำให้ยุงจู่โจมแขนและขาของเธอ ทำไมเธอต้องมารอเขาด้วยนี่ อยากจะบ้าตาย! “อีกครึ่งชั่วโมง” คนเอาแต่ใจเอ่ย “หูย อีกตั้งครึ่งชั่วโมง” กันตาบ่นกระปอดกระแปด กระโดดเหยง ๆ เมื่อยุงกำลังเล่นงานเธออย่างหนัก “ดูต้นทางให้ด้วยยัยบื้อ” “พี่หนึ่ง!” กันตาค้อนวงใหญ่ แต่เป็นหนึ่งไม่สนใจ พรอดรักกับพราวพิมล ทั้งสองดึงแขนกันไปที่กระท่อมไม่ไกลจากบ้าน ลักษณะกระท่อม เป็นกระท่อมทรงสูง มีบันไดลิงไต่ขึ้นไป ส่วนด้านบนมีสะพานไม้เชื่อมกับกระท่อมกับบ้านหลังใหญ่ เป็นหนึ่งกับพราวพิมลหยอกล้อกันส่งเสียงระริกระรี้อยู่ข้างใน ส่วนกันตาก็เหมือนเดิม ดูต้นทางให้เขา พร้อมกับเป็นอาหารยุงไปด้วย “น้องพราวสวยทั้งตัวเลย” “ว้าย พี่หนึ่งขา” “ดูสิตรงนี้ก็ขาว” “อ๊า พี่หนึ่ง ทำแบบนี้มันเสียวนะคะ” “พี่อยากให้น้องพราวเสียวไง!” “พี่หนึ่งขา อย่าบีบสิ” “นิดเดียว” “ว๊ายยย!” เสียงวี้ดว้ายดังขึ้นจากบนกระท่อม กันตาอยากจะบ้า ทำไมหล่อนต้องมาฟังสัมภเวสีเริงรักกันด้วย ได้แต่ท่องพุทโธ ธรรมโม สังโฆในใจ ขอให้ผีบ้านผีเรือน เจ้าป่าเจ้าเขา เจ้ากระท่อม ไม่ลงโทษสองคนนี้ ที่ทำอะไรไม่อายผีสาง ผ่านไปอีกสามสิบนาที ตอนนี้ก็มืดแล้ว แต่ก็ยังมีแสงไฟจากไฟดวงเล็ก ๆ ตรงสะพาน กันตาถอนหายใจแรง ๆ นี่ก็ครึ่งชั่วโมงแล้ว แต่คนข้างบนกลับไม่ลงมาสักที “พี่หนึ่ง นี่มันครึ่งชั่วโมงแล้ว” เธอตะโกนบอกแต่ไม่ได้เสียงดังมาก เพราะเธอกลัวคนอื่นจะได้ยิน “อีกครึ่งชั่วโมงน่ะยัยบื้อ” คนติดลมยังไม่อยากลงมาง่าย ยิ่งทำให้คนรอเซ็ง “แต่มันครึ่งชั่วโมงแล้วนะคะ ทำไมพี่หนึ่งไม่รักษาคำพูด” “ขออีกครึ่งชั่วโมงนะ ถ้าเธอหนีกลับพี่ฟ้องคุณย่าแน่ พี่จะฟ้องคุณย่า ให้คุณย่าจัดการเธอ พี่จะจัดการเธอด้วย” “นั่นมัน!” กันตาเบิกตาโพลง เมื่อเห็นลุงกำนันประวิทย์เดินจ้ำอ้าวมาที่สะพานไม้ เธอจึงรีบปีนบันไดลิงขึ้นไป ภาพตรงหน้าทำให้เธอตกใจไม่น้อย เป็นหนึ่งกำลังเล่นจ้ำจี้กับพราวพิมล เธอไม่รู้จะตกใจภาพตรงหน้าหรือลุงกำนันดี “ว้าย ขึ้นมาทำไม?” พราวพิมลหวีดร้องคว้าเสื้อมาปกปิดร่างตัวเอง เธอกำลังคร่อมเป็นหนึ่ง ส่วนพี่ชายต่างสายเลือดของกันตา กำลังนอนส่งเสียงร้องเหมือนเปรตให้ผู้หญิงคนนั้นขย่ม กันตาจะบ้า ทำไมเธอต้องมาเจอภาพอุจาดตาแบบนี้ “ยัยบื้อนี่” เป็นหนึ่งคว้ากางเกงในโยนใส่เธอ และมันแม่นมากโดนหัวเต็ม ๆ “พี่หนึ่ง ลุงกำนันมา” “อะไรนะ!?” “ลุงกำนันมา เดินมาจะถึงแล้ว” “เหี้ย ซวยฉิบหาย” เป็นหนึ่งดันร่างพราวพิมลลุกจากตัว รีบคว้าเสื้อผ้าตัวเองมาสวม กันตาหน้าแดงซ่าน เธอไม่ได้ตั้งใจมองเจ้าส่วนนั้นของเขา แต่มันก็เห็นเต็มตา ปึง! ปึง! “พราว เปิดประตูเดี๋ยวนี้” “ฉิบหาย” เป็นหนึ่งกระโดดลงจากกระท่อม เป็นจังหวะเดียวกับลุงกำนัน พ่อของพราวพิมลเปิดประตูเข้ามาพอดี “ไอ้พวกเด็กเวร!” “ลงมาสิยัยบื้อ” “….” กันตายังนิ่ง เธอทั้งอึ้งทั้งกลัวทั้งตกใจ จนเป็นหนึ่งต้องรีบดึงแขนวิ่งตรงไปที่จักรยาน “รีบขึ้น เดี๋ยวหนีไม่ทัน” กันตารีบขึ้นช้อนท้าย เป็นหนึ่งรีบปั่นจักรยานด้วยความเร็ว เขาได้ยินเสียงเอ็ดตะโร พร้อมกับเสียงปืนที่ดังไล่หลัง “ถ้าคุณย่ารู้ เราโดนตีแน่” “ก็อย่าให้รู้สิ” เป็นหนึ่งปั่นจักรยานลัดเลาะไปตามทางเล็ก ๆ ดีที่พระจันทร์ดวงโตขึ้นสู่ท้องฟ้าแล้ว ทำให้พอเห็นทาง ทางมันเล็กและคับแคบมาก รถกระบะของลุงกำนันจึงไม่ได้วิ่งมาทางเส้นนี้ แต่วิ่งไปตามถนนใหญ่ ทำให้ทั้งสองไม่ถูกไล่บี้ พอให้มีเวลาหนีได้ “กันตากลัว ฮึก” เด็กหญิงเสียงเครือ หลุดเสียงสะอื้นออกมา “ไม่ต้องกลัว ไม่มีใครจับได้หรอก พี่กับกันตามาที่นี่ออกจะบ่อย เกือบโดนจับได้ก็หลายครั้ง และมันจะเหมือนเดิม ไม่มีใครจับได้ เชื่อพี่สิ” “จะพยายามเชื่อนะ ฮึก แต่ถ้าคุณย่ารู้ ได้โดนไม่เรียวกันแน่ ๆ” “ไม่่โดนหรอกน่า ไม่ต้องกลัว” “ฮึก ถ้าพี่จะมาทำเสียงเปตรกับผู้หญิงคนอื่นแบบนี้ กันตาไม่มาด้วยแล้ว ฮึก กันตากลัวคุณย่าตี” “เสียงเปตรอะไรล่ะยัยบื้อ กอดเอวดี ๆ เดี๋ยวตกรถไปจะแย่อีก” เป็นหนึ่งว่าแล้วรีบปั่นจักรยานลัดเลาะไปไร่นวลละออ ฝนห่าใหญ่ดันตกไม่มีปี่ไม่ขลุ่ย ตอนทั้งสองอยู่ท้ายไร่ เป็นหนึ่งจึงแวะพากันตานั่งหลบฝนที่โรงเก็บฝาง พอฝนหยุดตกก็พากันตาไปที่บ้าน คุณย่านวลละออนั่งรออยู่แล้ว และข้างกายของท่านมีกำนันประวิทย์นั่งอยู่ข้าง ๆ ถัดไปอีกหน่อยเป็นพราวพิมลที่กำลังนั่งร้องไห้ “พะ…พี่หนึ่ง ทำยังไงดี” “บรรลัยแล้ว” เป็นหนึ่งเอ่ยเสียงเบาหวิว คนเป็นย่าหันมามองเขาตาขวาง “มาแล้วเหรอไอ้หลานตัวดี วันนี้ย่าจะตีให้เนื้อเขียวเลย”Chapter 5 “ไม่ต้องร้องนะกันตา พี่หนึ่งไปไม่นานหรอก เดี๋ยวก็กลับมา” คนเป็นย่ากอดปลอบหลานสาว ที่เป็นหนึ่งจากไปเรียนที่ญี่ปุ่น ใจนางก็อดที่จะวูบโหวงไม่ได้ แต่ถ้าเป็นหนึ่งไม่จากไป เรื่องมากมายจะต้องเกิดขึ้นแน่ ๆ อายุยังไม่ถึงสิบแปด กลับทำเรื่องงามหน้า แม้จะรักหลานชายมากแค่ไหน ก็จำต้องตัดใจ ให้หลานชายไปเรียนที่อื่น“กันตาต้องคิดถึงพี่หนึ่งมากแน่ ๆ ฮึก”“พี่หนึ่งไปเรียนไม่กี่ปี ก็ต้องกลับมา เชื่อย่าสิ”“ค่ะ” กันตาพยักหน้า มือเรียวเล็กปาดน้ำตาตัวเอง มองรถของป้าปิยะนุชที่แล่นออกไปจนลับตาอาทิตย์ต่อมากันตาไปซื้อของที่ตลาดนัดแถวบ้าน พราวพิมลควงหนุ่มหล่อเดินเลือกซื้อของ หัวเราะต่อกระซิก กันตาแปลกใจไม่น้อย พราวพิมลจบกับเป็นหนึ่งได้อาทิตย์เดียว แต่เจ้าหล่อนกลับทำใจได้ และหันไปควงพี่เนม ลูกเจ้นิ่มร้านหมู่กระทะมาซื้อของที่ตลาดเป็นพราวพิมลนี่มันดีจริง ๆ มูฟออนได้รวดเร็ว ระริกระรี้กับผู้ชายคนอื่นได้ วันที่กำนันประวิทย์มาคุยกับคุณย่านวลละออ กันตาแอบฟัง ทำให้รู้ว่าพราวพิมลประวัติเรื่องผู้ชายไม่ใช่ย่อย ไม่แปลกที่คุณย่าจะไม่ต้องการพราวพิมล จนใช้เงินแก้ปัญหา ให้ทุกอย่างมันจบ“พี่เนมคะ ดูชุดนี้สิคะ โคตร
Chapter 4“คุณย่า” เป็นหนึ่งทำท่าจะวิ่งหนี แต่เสียงทรงอำนาจของคนเป็นย่าดังขึ้นก่อน “ถ้าวิ่งหนี ย่าจับได้ตอนไหน จะเจ็บตัวมากกว่าเดิม” และคำพูดนั้นมันได้ผล เป็นหนึ่งชะงักฝีเท้าแล้วหันไปหาคุณย่านวลละออ“เข้ามาในบ้าน ไปก่อเรื่องงามหน้าไว้ จะมาหนีทิ้งปัญหาไว้เหรอ?” “คุณย่าครับ”“อย่ามาโอดครวญ ไปนั่งเก้าอี้ วันนี้มีเรื่องต้องคุย”“….” เป็นหนึ่งเงียบ เลือกที่จะเดินไปนั่งเก้าอี้ตรงข้ามพราวพิมล กำนันประวิทย์นั่งหน้าตึง ส่วนพราวพิมลเอาแต่ก้มหน้าร้องไห้ เฮ้อ คิดว่าจะไม่โดนจับได้ คราวนี้คงได้ตายอย่างหมา“กันตาเองก็เข้ามาในบ้าน ไปกินข้าว แล้วไปอาบน้ำนอน” คุณนวลละออเสียงเข้ม“ค่ะ” กันตาพยักหน้ารับคำ ก่อนจะรีบเดินไปในครัว เธอรีบกินข้าว แม้จะไม่หิวแต่ก็ฝืนกลืนข้าวลงคอ พอรับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อยก็รีบเดินออกมาจากครัว เธอมองเป็นหนึ่งเล็กน้อย ก่อนจะรีบขึ้นบ้านไป“เอาเป็นว่าเข้าเรื่องเลยนะคะ คุณประวิทย์ต้องการให้ฉันรับผิดชอบยังไง?” คุณนวลละออเอ่ยเสียงเรียบ สายตาจ้องเขม็งไปที่สองพ่อลูกตรงหน้า “คุณละออต้องให้หลานชายรับผิดชอบลูกสาวผม”“รับผิดชอบได้นะ ฉันให้หนึ่งแสนเป็นค่าสินสอด แต่เป็นหนึ่งจะไปอยู่กับ
Chapter 3 “อุ๊ย พี่หนึ่งขา” พราวพิมลหัวเราะต่อกระซิกกับเป็นหนึ่งอย่างมีความสุข สร้างความหงุดหงิดกับคนที่เป็นส่วนเกินอยู่ไม่น้อย กันตาดูนาฬิกาที่ข้อมือ แล้วหน้ามุ่ยกว่าเดิม เธออยากจะหายไปจากตรงนี้เหลือเกิน ไม่อยากรับรู้ ไม่อยากเห็น ไม่อยากเป็นส่วนเกิน ไม่อยากรับรู้ว่าสองคนนี้ รักกันมากแค่ไหน“แก้มน้องพราว นุ๊มนุ่ม ผิวก็สวย หุ่นก็ดีมาก” เป็นหนึ่งกอดพราวพิมล กันตามองแล้วหน้าหงิก เธอไม่ชอบใจเลย ที่เห็นเป็นหนึ่งมาพรอดรักกับผู้หญิงคนอื่น“พี่หนึ่ง กลับได้แล้ว ยุงมันกัด แสบไปหมดแล้วนี่” มือเกายิก ๆ ที่ขา กันตาไม่ได้ใส่กางเกงขายาว ทำให้ยุงจู่โจมแขนและขาของเธอ ทำไมเธอต้องมารอเขาด้วยนี่ อยากจะบ้าตาย!“อีกครึ่งชั่วโมง” คนเอาแต่ใจเอ่ย“หูย อีกตั้งครึ่งชั่วโมง” กันตาบ่นกระปอดกระแปด กระโดดเหยง ๆ เมื่อยุงกำลังเล่นงานเธออย่างหนัก“ดูต้นทางให้ด้วยยัยบื้อ”“พี่หนึ่ง!” กันตาค้อนวงใหญ่ แต่เป็นหนึ่งไม่สนใจ พรอดรักกับพราวพิมล ทั้งสองดึงแขนกันไปที่กระท่อมไม่ไกลจากบ้าน ลักษณะกระท่อม เป็นกระท่อมทรงสูง มีบันไดลิงไต่ขึ้นไป ส่วนด้านบนมีสะพานไม้เชื่อมกับกระท่อมกับบ้านหลังใหญ่ เป็นหนึ่งกับพราวพิมลหยอกล้อกันส่งเส
Chapter 2“คุณย่าครับ น้องกันตากินปีโป้ได้ไหม?” เด็กชายถือขนมเจลลี่ยี่ห้อหนึ่งเดินมาหาคุณย่า“ยังกินไม่ได้จ้ะ ว่าแต่วันนี้มีการบ้านไหม?”“มีครับ”“ถ้ามีก็รีบไปทำ ตอนเย็นคุณพ่อกับคุณแม่จะมาบ้าน”“คุณพ่อคุณแม่จะมาใช่ไหม?” เป็นหนึ่งถามอย่างตื่นเต้น“ใช่” นวลละออพยักหน้า “เย้!” กระโดดโล้ดเต้นอย่างดีใจ พ่อแม่ของเป็นหนึ่งไปทำงานในเมือง มีบริษัทแปรรูปผลไม้เป็นของตัวเอง ส่วนคุณย่าของเขาทำไร่ ปลูกผลไม้ มีคนงานหลายคน รวมทั้งปล่อยเงินกู้ให้คนระแวกบ้านพ่อกับแม่อยากให้เขาไปอยู่ด้วย แต่เขาเคยไปอยู่แล้ว มันไม่สนุก พ่อแม่เอาแต่ทำงาน ส่วนเขาอยู่กับพวกพี่เลี้ยง มันน่าเบื่อ อยู่กับคุณย่าที่ไร่นวลละออสนุกกว่า ได้ไปยิงนกตกปลากับพวกคนงาน บางครั้งก็ไปคล้องกิ้งก่ามายำกับมะม่วง อร่อยเลิศอย่าบอกใคร ไหนจะผัดปลาไหลที่สาครลุงคนงานผัดให้กินอีก อร่อยจนแสงออกปากเรื่องอะไรจะไปอยู่ในเมืองกับพ่อแม่ น่าเบื่อจะตาย! “รีบไปทำการบ้าน คุณแม่ปานบอกกับย่าว่า ซื้อขนมกับเสื้อผ้ามาให้หนึ่งกับกันตาเยอะเลย”“ครับ” เป็นหนึ่งยิ้มอย่างดีใจ ก่อนจะยื่นหน้าไปจุ๊บแก้มคนเป็นน้องหนึ่งที “พ่อกับแม่มาน้องกันตา ดีใจไหม?”“แอ้ ๆ” เด็กน้อยย
บทที่ 1 ครินน~ ครินน~ เปรี้ยง! ที่ไร้มลทินมนต์มนต์ดำหยาดพิรุณร่วงโรยของเชื้อราเป็นร่างบางยำสูงใหญ่ฝ่าสายฝนที่แข็งโอบอุ้มทารกน้อยไว้แนบอกหมวกปีกกว้างยังพอช่วยบดบังสายฝนที่สาดกระหน่ำเข้ามา 'สุชาติ' ช่วยเร่งฝีเท้าฟ้าสโนว์ทาร์งพสุธาฝนห่าใหญ่ตกกระหน่ำไม่รวมถึงอีกทั้งสายฟ้าในแลบแปล๊บจนน่าพิจารณาเป็นพิเศษ เท้าเปล่าย่ำโคลนดินสายทุ่งนา สายลมกรรโชกแรงจนร่างเซถลาแต่ส่วนใหญ่ฝ่าแรงลมทำให้บ้านทรงไทยหลังใหญ่“อุแว้! อุแว้!” ส่วนน้อยแผดเสียงร้องจ้าในขณะที่คนเป็นโคลนวางลงตามลำดับไม้กระดานที่แข็งๆ การควบคุมเล็กๆ น้อยๆ ของไกว่สร้างเพื่อสร้างคนในการวางเมื่อครู่ดูดซับสู่ภายนอกอีกครั้งเขามองด้วยสังกะสี นึกได้อย่างจับใจในประสิทธิภาพการคลอดบุตรได้ไม่กี่ชั่วโมงในพรากภรรยาอันเป็นที่รักให้จากไปในทิศทางกลับลูกที่เกิดมาในเฮือนตาดวงใจย้อนกลับมาพร่าผลาญชีวิตองค์กรรักเขาเด็กคนนี้ยิ่งนักประสิทธิภาพอัปมงคลที่มาพังความสุขในชีวิตของเขา“นั่นใคร?” ตั้งกระทู้มองเจ้าของเสียงเพียงครู่จะรีบเดินออกไป ทิ้งทารกน้อยที่เป็นเลือดเนื้อไขเชื้อของเขานั่นคือ “หยุดนะก่อนจะไปไหน?” น้ำเสียงของนวลละออดังขึ้นในแนววิ่งไปคว้าแขนสุช