มีรายงานว่าตอนนี้กองทัพโมอาน่าเหนือตั้งค่ายอยู่บนเขาห่างไปประมาณสิบกว่ากิโลเมตรทางเหนือของเมืองหลวง หลังจากได้พักสองสามชั่วโมง พวกเขาอาจจะเข้าโจมตีเมืองหลวง เมื่อเมืองหลวงพ่ายแพ้ ทั้งทวีปโลกใต้เมฆีก็จะต้องจบสิ้น“ทุกท่าน”จักรพรรดินีมองไปรอบ ๆ พระนางทั้งกังวลและเสียใจ “มีวิธีใดไหมที่จะหยุดทัพโมอาน่าเหนือได้?”ทั้งเหล่าเสนาบดีและแม่ทัพต่างก็มองหน้ากัน ไม่มีใครเดินออกมาเพื่อให้คำแนะนำ ทั้งห้องโถงเงียบสงัดดีจริงจักรพรรดินีถอนใจยาวและมองแดร์ริล “แม้แต่นายก็ไม่มีเหรอ แดร์ริล?”ดวงตาเธอฉายแววความหวังเมื่อพูดเช่นนั้นแดร์ริลยิ้มขื่นและส่ายหน้า เขาบอกว่า “ฝ่าบาท กระหม่อมก็ทำอะไรไม่ได้”แดร์ริลท้อใจมากตั้งแต่ที่เขาได้เป็นผู้บ่มเพาะ แดร์ริลก็มีความมั่นใจสูงในทุกเรื่องที่ทำ โดยเฉพาะเรื่องการตั้งค่ายกล แดร์ริลเชื่อว่าเขาเป็นคนที่มีความรู้เรื่องค่ายกลดีมากที่สุดเพราะเขารู้คัมภีร์ค่ายกลไป๋ฉี่ที่รวมค่ายกลทุกแบบในโลกนี้ ดังนั้นศัตรูที่เข้ามาเจอเข้าก็รนหาที่ตายเท่านั้นหลังจากที่เขารู้ว่า คู่มือของเขาคือจางจือ หัวหน้ากองโจรโพกผ้าเหลืองในช่วงสงครามสามก๊ก แดร์ริลก็รู้แล้วว่า ที่ผ่านมาเขามั
เวรเอ๊ยแดร์ริลผงะไปชั่วขณะเมื่อได้ยินคำพูดของควินซี่ เขาไม่รู้ว่าควรจะตอบไปอย่างไรจากนั้นแดร์ริลก็ได้สติ เขายิ้มขื่นให้ควินซี่ “องค์หญิง ท่านมาโทษกระหม่อมได้ยังไง? ถึงไม่มีกระหม่อมหยางเจียนก็รุกรานโลกใต้เมฆีอยู่แล้ว”ควินซี่นี่น่าสนใจจริง ๆ เธอโทษแดร์ริลก็เพราะว่าเธอเกลียดเขาไม่มีเหตุผลเอาซะเลยแดร์ริลเห็นจักรพรรดินีส่งตราลัญจกรหยกให้ขันที เพื่อเตรียมจะส่งให้หยางเจียนอะไรนั่น?ตราลัญจกรหยกดึงดูดความสนใจของแดร์ริลทันที เขาไม่เคยคิดจะสนใจดูมันมาก่อน แต่เมื่อขันทีเดินผ่านเขาไป เขาก็เห็นว่า ตราลัญจกรหยกนั้นใสกระจ่าง และส่องแสงสะท้อนหลากสีให้ตายสิแดร์ริลตกใจมาก แต่ในใจเขาก็ยินดีมาก เขาลอบหัวเราะดูเหมือนว่าตราลัญจกรหยกนั้นคือศิลาบูรณะสวรรค์ หินสีซึ่งเจ้าแม่หนี่ฮวาใช้เพื่อซ่อมท้องฟ้า รูปร่างของมันก็ดูพอเหมาะพอเจาะกับช่องที่ชั้นสี่ของเจดีย์เจ็ดมหาสมบัติ“ช้าก่อน”แดร์ริลหยุดขันทีไว้ทันทีขณะที่เขาพิจารณาตราลัญจกรหยกแม้ว่าเขาไม่ได้หยิบมาถือไว้ในมือ แดร์ริลก็สามารถรู้สึกได้ถึงพลังวิญญาณที่เฉพาะตัวของตราหยก นอกจากนั้นมันยังให้ความรู้สึกเย็น ขณะที่อุณหภูมิโดยรอบก็ลดลงเล็กน้อย
แดร์ริลครุ่นคิดเรื่องนี้และหยุดยิ้ม เขามองจักรพรรดินีและบอกว่า “ฝ่าบาท ท่านผิดแล้ว หยางเจียนนั้นอาจจะดูเป็นสุภาพบุรุษแต่เขาเจ้าเล่ห์และชั่วร้ายมาก หากว่าท่านมอบตราลัญจกรหยกให้เขาไป เขาก็จะรับปากตกลงกับท่าน แต่ว่าเขาจะไม่มีทางรักษาคำพูดหลังจากที่ได้มีอำนาจเหนือโลกใต้เมฆี”ทันทีที่จักรพรรดิโฮ่วอี้สวรรคต หยางเจียนก็เข้าครองบัลลังก์เกือบจะทันที และตั้งตัวเองขึ้นเป็นจักรพรรดิ เขาอ้างว่า พบความจริงเกี่ยวกับการสวรรคตของโฮ่วอี้ แล้วสุดท้ายเป็นอย่างไร? เขาก็อยากจะจับตัวฉางเอ๋อและบังคับเธอให้เป็นของเขา จากนั้นเขาก็ส่งกองกำลังเที่ยวไปรุกรานทวีปอื่นเขาไม่ใช่คนที่รักษาคำพูด เขาเป็นตัวร้ายไม่ใช่เหรอ?เอ่อ…เมื่อพระนางได้เห็นสีหน้าจริงจังของแดร์ริล จักรพรรดินีก็รู้ว่าเขาไม่ได้ล้อเล่น พระนางกัดริมฝีปากและคิดว่าจะทำอย่างไร‘นั่นก็จริง หากว่าหยางเจียนกลับคำล่ะ? เราก็ต้องเสียทั้งตราลัญจกรหยกไปเปล่า ๆ เหรอ?’พระนางคิดเรื่องนี้ก่อนที่จะมองแดร์ริลและถามว่า “ทำไมนายถึงต้องการตราลัญจกรหยกล่ะ?”“แน่นอนว่ากระหม่อมต้องได้เอาไปใช้งาน” แดร์ริลรู้สึกร้อนรน แต่เขาก็รีบบอกว่า “อีกอย่างกระหม่อมก็เป็นราชบุตรเขย
มีคนออกมาเป็นร้อยแดร์ริลตื่นเต้นจนพูดไม่ออกเมื่อได้เห็นคนนับร้อยและมีกลิ่นอายพวยพุ่งออกมาจากพวกเขาแดร์ริลจำได้ชัดเจนตอนที่เขาเปิดชั้นหนึ่ง มีคนออกมา 500 คน รวมถึงผางถ่ง เมื่อเขาเปิดขั้นสอง ก็มีคนออกมา 200 คนรวมถึงหยวนเทียนกัง เมื่อเขาเปิดชั้นสามก็มีคนออกมา 150 คนและศิษย์พี่ของหยางเจียนอย่างแบรดลีย์ ยังดังนั้นเมื่อเขาเปิดชั้นสี่ได้ เขาก็มีคนออกมาน้อยกว่าก่อน แต่เขาเชื่อว่า คนพวกนี้ต้องไม่ธรรมดา และต้องมีคนสำคัญอยู่ด้วย‘โอ้ คุณพระ’ทั้งห้องโถงต่างก็จ้าละหวั่นทันที ไม่ว่าจะเป็นจักรพรรดินี ควินซี่ เหล่าเสนาบดี หรือแม่ทัพนับร้อยต่างก็ตกใจเมื่อเห็นสุดยอดคนนับร้อยอยู่ต่อหน้าพวกเขาตระหนักได้ว่าทั้ง 100 คนนี้แข็งแกร่งมาก และก็มีมากกว่าสิบคนที่อยู่ในระดับเทพยุทธ์และมีคนที่สูงกว่าระดับเทพยุทธ์ พวกเขาแข็งแกร่งมากสิ่งที่ทำให้ทั้งจักรพรรดินีและคนอื่น ๆ ตกใจยิ่งขึ้นไปอีก ก็คือหลังจากที่ทั้ง 100 คนปรากฏออกมา พวกเขาต่างก็เคารพแดร์ริลอย่างมาก บางคนถึงกับแดร์ริลว่านายท่าน‘นี่มัน.. เกิดอะไรขึ้นเนี่ย?’‘มีคนแข็งแกร่งมากมายออกมา และพวกเขาก็เรียกแดร์ริลว่านายท่านเหรอ?’จักรพรรดินีและควินซี
’อะไรน่ะ?’หลังจากที่แดร์ริลเที่ยวถามเพิ่มไปอีกสองสามคน เขาก็มาเจอชายชราที่ดูเหมือนเทพ ทันใดนั้นเขาก็นิ่วหน้าชายชราคนนี้ดูเย่อหยิ่งมากเขานั้นใส่ชุดยาวสีดำ มีโครงหน้ายกสูง มีท่าทางดูเหมือนเทพ แม้ว่าเขาจะใส่เสื้อผ้าแบบธรรมดาแต่ก็มีบรรยากาศที่แตกต่างออกไปแดร์ริลรู้สึกได้ว่าชายชราคนนี้มีความแข็งแกร่งเกินหยั่งที่ตัวเขาเองก็เข้าไม่ถึงเขายิ่งแปลกใจเมื่อเห็นว่าชายชราคนนี้เชิดใส่เขา ทั้งที่ผู้สูงส่งคนอื่น ๆ ต่างก็แสดงออกอย่างเคารพเขาน่าสนใจมากชายชราคนนี้มีบุคลิกที่ไม่เหมือนใครจริง ๆแดร์ริลคิดเรื่องนี้ ขณะที่เขากำลังจะเอ่ยปากถาม ชายชราก็เดินเข้ามาหาเขา“เจ้าคือคนที่ปล่อยข้าออกมาจากเจดีย์เจ็ดมหาสมบัติอย่างนั้นรึ?” ชายชราถามอย่างเย็นชาพร้อมพินิจพิจารณาแดร์ริล เสียงเขาไม่ดังแต่ว่าก็พูดอย่างไม่สะทกสะท้านอะไรนะ?แดร์ริลอึ้งไป‘ฉันกำลังจะถาม แต่โดนถามแทนซะงั้น’แดร์ริลยิ่งตื่นเต้นอยากรู้ตัวตนของชายชรา เขายิ้มเล็กน้อยพยักหน้าและบอกว่า “ใช่แล้วเป็นผมเอง ผมชื่อแดร์ริล ขอผมทราบนามสูงส่งของท่านได้ไหมครับ?”“นามสูงส่งของข้า?”ชายชราหัวเราะเบา ๆ และบอกว่า “นามก็เป็นเพียงนาม จะมีค่าอันใ
”เอาล่ะ” กุ่ยกู่จือโบกมืออย่างไม่ใส่ใจ “ไม่ต้องมากพิธีหรอก”กุ่ยกู่จือนั้นไม่สนใจเรื่องมารยาททางสังคมอะไรให้มากความแต่แดร์ริลก็ไม่กล้าจะทำตัวไร้มารยาทต่อหน้าผู้ที่ประดุจเทพเช่นนี้อึดใจต่อมาแดร์ริลก็เกาหัวและถามอย่างสงสัย “ท่านกุ่ยกู่จือ ท่านโดนขังอยู่ในเจดีย์เจดสมบัติได้ยังไงครับ?”แดร์ริลนั้นอยากรู้คำตอบเหล่าเสนาบดี แม่ทัพ จักรพรรดินีและควินซี่ต่างก็มองกุ่ยกู่จือ ตั้งใจรอฟังคำตอบพวกเขาก็สงสัยเหมือนแดร์ริลกุ่ยกู่จือนั้นเป็นคนที่น่าทึ่ง คนดังในประวัติศาสตร์มากมายเป็นศิษย์ของเขา กุ่ยกู่จือนั้นยังเป็นเหมือนเทพ คนที่เหนือกว่าเขานั้นมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นแล้วใครเป็นคนขังเขาไว้ในเจดีย์เจ็ดสมบัติกัน?กุ่ยกู่จือถอนใจและมองเจดีย์เจ็ดสมบัติในมือแดร์ริล จากนั้นก็บอกว่า “ข้าไม่อยากพูดถึงเรื่องในอดีต”กุ่ยกู่จือตอบอย่างสบาย ๆโอ้…แดร์ริลรู้สึกกระอักกระอ่วน กุ่ยกู่จือเป็นคนแปลก และเขาก็มีบุคลิกที่ไม่เหมือนใครแต่แดร์ริลก็ไม่ถือสา เขาตื่นเต้นมากแดร์ริลแอบหัวเราะในใจชายที่โดดเด่นเช่นนี้ถูกขังอยู่ในเจดีย์เจ็ดสมบัติและแดร์ริลก็เป็นเจ้าของ เพราะฉะนั้นกุ่ยกู่จือก็ต้องถือว่า แดร์ริ
’กุ่ยกู่จือต้องรั้นขนาดนี้เลยเหรอ? เขายอมตายดีกว่าสวามิภักดิ์ฉัน?’แดร์ริลเป็นเจ้าของเจดีย์เจ็ดมหาสมบัติ ชีวิตของกุ่ยกู่จือขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของแดร์ริลทุกคนที่นั่นต่างก็ตกใจ แต่ไม่เหมือนแดร์ริล พวกเขามองกุ่ยกู่จือ และพยักหน้าอย่างเห็นชอบและลอบชื่นชมกุ่ยกู่จือนั้นควรค่ากับชื่อเสียงว่าเป็นคนโดดเด่นในตำนาน เขานั้นแข็งแกร่งและไม่โอนอ่อน เป็นคนที่น่าชื่นชมนัก“เจ้าหนุ่ม”แดร์ริลลังเลอยู่ขณะที่กุ่ยกู่จือบอกว่า “หากว่าเจ้าไม่คิดจะฆ่าข้า ข้าก็จะไปแล้ว”กุ่ยกู่จือไม่แม้แต่จะมองจักรพรรดินีและเหล่าเสนาแม่ทัพทั้งหลายเลยกุ่ยกู่จือนั้นอยู่ในจุดที่เขาสามารถเมินเฉยต่อเชื้อพระวงศ์และคนสูงส่งทั้งหลายได้ ในสายตาเขาคนพวกนี้ก็ไม่ต่างจากคนสามัญกุ่ยกู่จือหันหลังและเตรียมจากไป“ท่านกุ่ยกู่จือ ได้โปรดอยู่ก่อน”แดร์ริลรีบเรียก เขานั้นทั้งร้อนใจและกระวนกระวายผู้ที่อยู่ตรงหน้าเขานั้นเป็นเหมือนเทพเจ้า แล้วแดร์ริลจะให้เขาไปง่าย ๆ ได้อย่างไรกัน?“อะไร? เจ้าเสียใจแล้วรึ?” กุ่ยกู่จือหยุดและหันกลับมามองแดร์ริลแดร์ริลเกาหัว เขามีสีหน้าขมขื่น “ท่านกุ่ยกู่จือ ท่านเป็นคนที่น่าทึ่ง ผมชื่นชมท่านมากแล้ว
กุ่ยกู่จือยิ้มและมองแดร์ริล “ตอนที่ข้าลองดูรอบ ๆ ข้าเห็นว่า มีหินร้อนไหลอยู่ใต้พื้นดิน ข้าสัมผัสได้ถึงความคุกรุ่น และคิดว่าน่าจะระเบิดออกเป็นภูเขาไฟภายใน 20 ปี”กุ่ยกู่จือพูดอย่างมั่นใจมาก “ก็น่าจะภายใน 20 ปีหากว่าไม่มีสิ่งอื่นใดมารบกวน แต่หากว่ามีการต่อสู้เหนือพื้นดิน การปลดปล่อยพลังจากเหล่าทหารจะกระตุ้นการเคลื่อนไหวของหินเหลวร้อน ถ้าแบบนั้นมันคงปะทุเร็วขึ้น…”ทุกคนให้ห้องโถงต่างก็ส่งเสียงฮือฮา และมองกุ่ยกู่จืออย่างชื่นชม พวกเขาทั้งแปลกใจและตกใจที่กุ่ยกู่จือสามารถรับรู้ได้ถึงหินลาวาใต้ดินเพียงแค่มองดูป่าเท่านั้นน่าทึ่งเหลือเกิน กุ่ยกู่จือนั้นควรค่ากับชื่อเสียงของเขาว่าเป็นคนที่น่าทึ่งที่สุดตลอดกาลแดร์ริลชื่นชมกุ่ยกู่จือ ชายคนนี้น่าทึ่งและเขาสามารถบอกเรื่องที่เกิดใต้ดินได้แม่นยำเพียงแค่มองพื้นดินเท่านั้น นี่เป็นการดูฮวงจุ้ยขั้นสูงเลยแดร์ริลเองก็ศึกษาศาสตร์ฮวงจุ้ย แต่ความรู้ของเขายังเป็นรองกุ่ยกู่จือในที่สุดแดร์ริลก็เข้าใจแผนของกุ่ยกู่จือทหารโลกใต้เมฆีจะกินโอสถวารีไปล่วงหน้า ดังนั้นพวกเขาจะรับมือเมื่อลาวาปะทุได้ ส่วนกองทัพโมอาน่าเหนือที่ไม่รู้เรื่องนี้ก็จะโดนเผาไปเมื่อภูเขาไ