อีกด้านหนึ่ง ในคฤหาสน์ตระกูลตระกูลยังดาร์ริลกุมมืออีวอนไว้แน่นขนัด เขาโศกเศร้าเสียใจมากผ่านไปครึ่งชั่วโมงแล้ว แต่ม่านตาของอีวอนยังคงปิดสนิท เธอไม่แสดงอาการฟื้นคืนสติ แดร์ริลรู้สึกสะเทือนใจเป็นอย่างมาก“อีวอน ฉันขอร้อง ได้โปรดเถอะ ฟื้นขึ้นมา ฉันขอร้อง” แดร์ริลสะอึกสะอื้น น้ำตาไหลหยดลงบนเสื้อของเขาซึ่งเสื้อของเขาเปื้อนเลือดหลังสมรภูมิรบที่ภูเขาคุนหลุน น้ำตาของเขาไหลซึมซาบลงไปในคราบเลือดแดร์ริลร้องไห้ฟูมฟายอย่างควบคุมไม่ได้ ความบริสุทธิ์ใจของเขาอาจทำให้สวรรค์สั่นสะเทือนจากการรับฟังคำวิงวอนทันใดนั้น นิ้วของอีวอนก็ค่อย ๆ ขยับมันทำให้แดร์ริลสะดุ้งตกใจจนเขาเกือบจะกระโดด เขามองไปที่อีวอนและสงสัยว่านั่นเป็นเพียงแค่ภาพหลอนของเขา จากนั้นอีวอนก็ถอนหายใจออกเบา ๆ ขณะที่เธอลืมตาตื่นขึ้นมาช้า ๆ“อีวอน!” แดร์ริลตะโกนแล้วเขาก็กอดสวมเธอแน่น “อีวอน! ขอบคุณเทวะเจ้า คุณไม่เป็นอะไร! คุณหายแล้ว…”ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงแล้ว ตั้งแต่อีวอนได้ทานโอสถฟีนิกซ์เข้าไป แต่สำหรับแดร์ริล เขารู้สึกราวกับว่ายาวนานเป็นศตวรรษเมื่อเขาสัมผัสได้ว่าร่างกายของอีวอนนั้นอุ่นขึ้น แดร์ริลก็รู้สึกสะเทือนอารมณ์ตื้นตัน เขาคิดว
เอลซ่า, วิลเลียมและสมาชิกรุ่นเยาว์อีกสองสามคนจากตระกูลลินดันก็อยู่ที่นั่น แม้แต่คุณย่าของพวกเขาก็อยู่ที่นั่นด้วยหลังจากที่ซาแมนธาแจ้งให้ตระกูลของเธอทราบ เกี่ยวกับอุบัติเหตุของลิลี่ คุณย่าลินดันก็เป็นวิตกกังวลเป็นอย่างมากกับอาการบาดเจ็บของหลานสาวถึงแม้ว่าลิลี่จะไม่ใช่หลานคนโปรดของเธอ แต่ลิลี่ก็ยังคงเป็นหลานสาวโดยสายเลือดของเธอ เมื่อไม่นานมานี้ ลิลี่ได้มอบเงินทั้งหมดที่เธอได้รับจากการไลฟ์สตรีมมิ่งเพื่อช่วยเหลือตระกูลลินดัน คุณย่าลินดันรู้สึกซาบซึ้งสำหรับสิ่งที่เธอทำซาแมนธานั่งบนเก้าอี้ตรงทางเดินขณะที่เธอร้องไห้อย่างควบคุมไม่ได้เด็กหนุ่มผู้มีผมทรงตั้งแหลมยืนอยู่ด้านนอกห้องผ่าตัด เขาหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบและเพิกเฉยต่อป้าย "ห้ามสูบบุหรี่" ข้าง ๆ เขาเด็กหนุ่มผู้นั้นคือคนกระทำความผิด เขาคือคนขับรถที่วิ่งทับลิลี่ทั้งตระกูลจ้องมองเขาอย่างเคียดแค้นเคืองโกรธ"แกขับรถภาษาอะไร?" คุณย่าลินดันกล่าวถามเขาในระหว่างที่เอามือค้ำยันกับไม้เท้าของเธอเด็กหนุ่มผมทรงตั้งแหลมคนนี้นั้นขับรถยนต์หรูหรายี่ห้อ Maserati เขาจะต้องมาจากตระกูลที่มั่งคั่งร่ำรวยอย่างแน่นอน ในเมื่อเขามีรถแบบนั้นตั้งแต่อายุยั
“เธอกำลังวิ่งข้ามถนน เธอสมควรโดนแล้ว!” ดอนกล่าวเสริมอย่างเย่อหยิ่งซาแมนธาขุ่นเคืองมากเมื่อได้ยินคำกล่าวเหล่านั้น แต่เธอไม่กล้าที่โต้ตอบเขาคือน้องชายของแองเจลล่า แค่โทรศัพท์จากพี่สาวของเขากริ๊งเดียวก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้อันธพาลจากสังคมใต้ดินของเมืองตงไห่แห่กันมาคิดบัญชีแค้นให้เธอบรรดาสมาชิกตระกูลลินดันที่เหลืออยู่ก็รู้สึกว่าดอนหยิ่งผยองเกินหน้าเกินตา แต่ก็ไม่มีใครกล้าแย้งอะไรขึ้นมาแม้แต่คำเดียวในที่สุดเอลซ่าก็ทนไม่ไหว “ลิลี่ใช้ทางม้าลายตอนที่ไฟเป็นสีเขียว แล้วนายล่ะ? นายฝ่าไฟแดงไง นายยังคิดว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูกอยู่หรือเปล่า?”ทุกคนในเมืองตงไห่รู้ดีเกี่ยวกับหญิงสาวสวยสองคนในตระกูลลินดัน ลิลี่และเอลซ่า เอลซ่ากล้าและจิตใจดี เธอไม่เกรงกลัวดอนขณะที่เอลซ่ากล่าว ผู้หญิงคนหนึ่งชักแขนของเธอและก็ส่ายหัวขณะเธอกล่าวเบา ๆ ”เอลซ่า ไม่ต้องพูด”แองเจลล่าพี่สาวของดอนคือบุคคลมีชื่อเสียง ตระกูลลินดันไม่อยากจะมีปัญหากับเธอ เอลซ่าไม่พอใจ แต่เธอก็ไม่ได้กล่าวอะไรต่อดอนมองไปที่เอลซ่าและฉีกยิ้ม “เธอนี่หน้าตาสวยงามจริง ๆ ใช่แล้ว ฉันคิดว่าถูกและฉันยังเสแสร้งทำเป็นไม่ใยดีได้ด้วย ต่อให้ฉันจะขับรถชนใคร
บรรยากาศเริ่มตึงเครียดนัยน์ตาของแดร์ริลดูน่ากลัว ดอนตัวสั่นคลอนเมื่อมองไปที่เขา แต่เขาก็ไม่เกรงกลัวเมื่อนึกถึงพี่สาวของเขา เขาชี้ไปที่แดร์ริลและกล่าว "แกคอยดูเถอะ! รอที่นี่แล้วแกจะได้เห็นดีกัน!”จากนั้นดอนก็รีบวิ่งเข้าไปในลิฟต์ เมื่อเขาลงไปถึงชั้นล่าง เขาก็รีบหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วกดเบอร์ของแองเจลล่า เธอแทบจะรับสายในทันทีดอนร้องไห้อย่างน่าสงสาร “พี่ ฉันถูกรังแกอยู่ที่เมืองตงไห่ พี่ต้องช่วยฉันด้วย”เนื่องจากความสัมพันธ์ของเขากับแองเจลล่า ผู้คนต่างหวาดเกรงเขาในทุกที่ที่เขาไป ไม่มีใครกล้าต่อยเขามาก่อน จนกระทั่งวันนี้แองเจลล่าเพิ่งเสร็จสิ้นบทบาทการเป็นเมนเทอร์พี่เลี้ยงให้กับรายการประกวดร้องเพลง เธออยู่ในห้องแต่งตัวขณะที่เธอได้รับโทรศัพท์จากน้องชายของเธอ “ดอน นายหาเรื่องใส่ตัวเองอีกแล้วใช่ไหม?”ดอนกล่าวตอบ “พี่สาว มันไม่ใช่ความผิดของฉัน ฉันขับรถชนผู้หญิงคนนึงมันเป็นอุบัติเหตุและเธอคือสมาชิกตระกูลลินดันจากเมืองตงไห่ คนในครอบครัวของเธอเริ่มต่อยฉันโดยที่ไม่ได้เข้าใจความเป็นจริงที่เกิดขึ้น พวกเขาเหิมเกริมมากถึงขนาดบอกว่าจะฆ่าฉันทิ้ง...”แองเจลล่าถอนหายใจและกล่าวถาม “นายพูดเรื่องจ
อีวอนกัดริมฝีปากของเธอ สิ่งที่เธออยากรู้คืออาการของลิลี่ เธอไม่ได้คาดคิดว่าพวกเขาจะด่าทอเธอในพฤติกรรมมารยาทเยี่ยงนี้ครอบครัวของเธอคอยเอาอกเอาใจเธอมาตลอดชีวิตและทุกคนก็ให้เคารพนับถือเธอ เมื่อเธอได้ยินคำดูถูกเดียดฉันท์ที่น่าอับอายเหล่านั้นจากตระกูลลินดัน เธอรู้สึกเสียขวัญและต้องการจะหาที่ซ่อนแดร์ริลเก็บอาการโกรธเคืองของเขาไว้และกล่าวเบา ๆ กับอีวอน “รอผมในรถก่อน”สิ่งที่สำคัญที่สุดคืออาการของลิลี่ ไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาจะต้องถกเถียงกับตระกูลลินดันอีวอนพยักหน้าและจากไปด้วยความลำบากใจเมื่ออีวอนจากไป คุณย่าลินดันก็โกรธกริ้ว เธอชี้ไปที่หน้าแดร์ริลและกล่าว “ไอ้สารเลว! ตระกูลของเรามาลงเอยกับลูกเขยที่เฮงซวยแบบนี้ได้ยังไง”“แกไม่เป็นที่ต้อนรับที่นี่! ไสหัวไป!”“แกไม่ได้ยินพวกเราหรือไง? ออกไปให้พ้น!”ทั้งตระกูลชี้ไปที่แดร์ริลขณะพวกเขาด่าทอไล่ตะเพิดแดร์ริลแดร์ริลขบเคี้ยวฟันของเขาและกำหมัดแน่นขนัด เขาเดือดดาลและใกล้จะปะทุ แต่เขาพยายามควบคุมอารมณ์ตัวเองอย่างยากลำบากเขาเพียงต้องการทราบเกี่ยวกับอาการของลิลี่เท่านั้น ว่าเธอเป็นอะไรไหม?กริ๊ง!ประตูห้องฉุกเฉินก็เลื่อนเปิดออก ผู้อำนวยการข
หัวใจของแดร์ริลปวดร้าว เขาถอนหายใจและเดินออกไปจากห้องแผนกผู้ป่วย'ลิลี่คงจะต้องโมโหฉันมากถึงขนาดแกล้งทำเป็นไม่รู้จักฉัน' แดร์ริลคิด 'ไว้ฉันค่อยมาเยี่ยมเธอใหม่หลังจากอารมณ์ของเธอเย็นลง'ภายในห้องแผนกผู้ป่วย ลิลี่มองดูแดร์ริลเดินจากไป เธอขวมดคิ้วและกล่าวถาม "แม่ คนนั้นเขาคือใคร?"สีหน้าของลิลี่เต็มไปด้วยความสงสัยใคร่รู้อะไร? ลิลี่จำแดร์ริลไม่ได้? ตระกูลลินดันต่างสะดุ้งตกใจนี่มันเกิดอะไรขึ้น?"ลิลี่ เขาก็คือไอ้ลูกเขยบ้านคนอื่นไง เธอจำเขาไม่ได้เหรอ?" วิลเลียมหัวเราะลิลี่นั้นสงสัยมากกว่าเดิม "ไอ้ลูกเขยบ้านคนอื่นงั้นหรอ? วิลเลียม นายหมายถึงอะไร?"ทุกต่างมองหน้ากันมันชัดเจนว่าเธอไม่ได้เสแสร้งแกล้งทำ เธอจำแดร์ริลไม่ได้จริง ๆ!เธอจดจำคนอื่น ๆ ได้ แต่ทำไมเธอถึงจำแดร์ริลไม่ได้?แดร์ริลตกตะลึงมึนงงกับสิ่งที่ลิลี่ได้กล่าวออกมาในห้องแผนกผู้ป่วย! เขาหันไปมองลิลี่และรู้สึกเจ็บปวดหัวใจในทันที เธอลืมเรื่องราวเกี่ยวกับเขาหัวของแดร์ริลว่างเปล่า จากนั้นเขาก็ฟูมฟายราวกับคนบ้า เขาเร่งรีบวิ่งไปที่ห้องสำนักงานผู้อำนวยการภายในสำนักงาน เชลลีถือผลตรวจซีทีสแกนอยู่ในมือสองสามแผ่นขณะเธอกำลังพินิจพ
ซาแมนธายิ้มร่า มันเป็นเรื่องที่ดีที่ลูกสาวของเธอสูญเสียความทรงจำไปสำหรับสามปีที่ผ่านมา!"คุณเวดเป็นคนฉลาดมาก เขานั้นเหมาะสมกับหนู!" ซาแมนธากุมมือลิลี่และกล่าวต่อ "เขาสูงประมาณเมตรแปดสิบ ตระกูลของเขาทำกิจการค้าไม้และมีทรัพย์สินเป็นพันล้าน!"ซาแมนธรหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาขณะเธอกล่าวและพรางส่งข้อความหาเวด เธอถามเขาเพื่อให้มาหาที่โรงพยาบาลทันใดนั้นก็มีคนแผดเสียงดังลั่นจากด้านนอกของห้องแผนกผู้ป่วย!"ไอ้ตระกูลลินดันพวกมันอยู่ที่ไหน? เสนอหน้าออกมาเดี๋ยวนี้!"เสียงเรียกนั้นดังมาก จนกระทั่งตระกูลลินดันเดินออกมาจากห้องแผนกผู้ป่วยและมองไปหาต้นเสียง พวกเขาต่างก็สะดุ้งตกใจต้นเสียงมาจาก ดอนดอนนั้นโดนแดร์ริลยำเละ ใบหน้าของเขาปูดบวม แต่เขากลับเพื่อการแก้นแค้นมีหญิงสาวหน้าตาสวยงามยืนข้าง ๆ เขา เธอนั้นมีเรือนร่างสมบูรณ์แบบ แต่งกายในชุดรัดรูปด้านบนและสวมกางเกงยีนส์สีดำ เธอดูเย้ายาวอย่างน่าเหลือเชื่อ เธอคือแอ๊บบี้ กายมีชายชุดดำประมาณยี่สิบคนยืนอยู่ด้านหลังของเธอ พวกเขาทั้งหมดมีรูปร่างใหญ่ยักษ์และมีรอยสักเต็มแขน พวกเขาดูน่าเกรงขามและไม่เป็นมิตรหลังจากที่แดร์ริลทำร้ายดอน เขาก็โทรหาพี่สาวของเ
แอ๊บบี้พยักหน้าและจ้องมองไปที่ตระกูลลินดันอย่างเย็นชา "ใครคืนคนที่ซัดหน้าเขา? โผล่หัวออกมาเดี๋ยวนี้""ฉันเองที่ซัดหน้าเขา"น้ำเสียงเย็นชาก็ดังขึ้นมาก่อนที่พวกเขาจะเห็นว่าแดร์ริลปรากฏตัวออกมาจากห้องทางเดินเชลลียืนอยู่ข้างเขา ทั้งคู่สนทนากันถึงสภาพอาการของลิลี่ในห้องสำนักงานผู้อำนวยการในตอนที่พวกเขาได้ยินเสียงโวกเวกโวยวายจากด้านนอกเมื่อแอ๊บบี้เห็นว่าเป็นแดร์ริล เธอก็ตกตะลึงและตื่นเต้นแอ๊บบี้ต้องการที่จะพบกับแดร์ริลอีกครั้งนับตั้งแต่ที่เขาได้มอบเม็ดยาเทวะให้กับเธอ เธออยากจะเป็นลูกศิษย์เขา แต่แดร์ริลได้ปฏิเสธที่จะยอมรับเธอแม่ชีแห่งโชคชะตาได้ทำร้ายแดร์ริลจนได้รับบาดเจ็บแสนสาหัส เธอคิดไปว่าคงจะไม่มีโอกาสได้พบกับเขาอีกแล้ว แต่ในเมื่อตอนนี้เธอได้มาพบกับแดร์ริล เธอก็อยากที่จะพยายามสุดความสามารถของเธอเพื่อที่จะให้เขายอมรับเป็นลูกศิษย์!คุณย่าลินดันรีบเดินเข้าไปหาเธอพร้อมกับไม้ค้ำยันและกล่าว "มิสกาย มันคือฝีมือของแดร์ริล เขาเป็นคนทำ เขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวของอะไรกับตระกูลของฉัน"วิลเลียมและคนอื่น ๆ ต่างพากันพยักหน้าเห็นด้วย"ใช่ มันไม่ใช่ฝีมือของพวกเรา แดร์ริลต่างหากที่เป็นคนซัดหน้าดอน