เทพธิดาตัวน้อยกัดริมฝีปากของเธอ ไอ้บ้าแดร์ริลฉวยโอกาสจากเธออยู่ตลอดเวลา หลังจากที่สังเกตเห็นว่าเทพธิดาตัวน้อยกำลังจะร้องไห้ แดร์ริลจำเป็นต้องปลอบใจเธอ “ฉันก็อยากจะพาเธอไปกับฉัน แต่ท่านแม่ทัพหญิงได้ออกคำสั่งให้เธออยู่รอที่นี่ ในค่ายมีดวงตาหลายคู่อยู่เต็มไปหมด แล้วฉันจะพาเธอออกไปได้ยังไง?” แดร์ริลไม่ได้โกหกเธอ เขาต้องการพาเธอออกไป ถึงแม้ว่าเทพธิดาตัวน้อยจะพยายามลอบฆ่าเขา แต่เธอก็มีพลังมากมาย ถ้าหากเขาพาเธอออกไปได้ มันจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อจักรวาลโลกที่จะรวบรวมความแข็งแกร่งได้มากขึ้น “ปรมาจารย์แดร์ริล คุณและภรรยาของคุณมีความสัมพันธ์ที่ดี คุณทั้งคู่หยอกล้อกันอีกแล้ว” เสียงที่ไม่อยากได้ยินลอยเข้ามาในหูของแดร์ริล แน่นอนว่าพวกเขาคือ อัศวินม้าดำและอัศวินม้าขาว อัศวินม้าขาวเดินเข้ามาด้วยรอยยิ้มและพูดกับเทพธิดาตัวน้อยว่า “คุณผู้หญิง คุณคงกังวลว่าปรมาจารย์แดร์ริลจะตกอยู่ในอันตรายกับภารกิจที่ได้รับมอบหมายใช่ไหมครับ? ปรมาจารย์แดร์ริลช่างโชคดีที่มีภรรยาที่น่ารักเช่นคุณ” “ใช่แล้วปรมาจารย์แดร์ริล คุณช่างโชคดีที่ได้แต่งงานกับภรรยาที่น่ารักเช่นนี้” อัศวินม้าดำกล่าวเสริม ทั้งสองกำลังเ
แดร์ริลฉีกยิ้ม เขาโบกมือแล้วพูดว่า “อย่าตื่นตระหนก ใช่ สิ่งที่ฉันให้ไปมันคือยาพิษชนิดหนึ่งที่เรียกว่าโอสถจ้าวสวรรค์ พวกนายจะไม่ตายทันทีหลังจากที่ได้รับโอสถนี้ แต่พวกนายจะต้องได้รับยาถอนพิษทุกปี ไม่เช่นนั้น พวกนายจะต้องตายอย่างเจ็บปวดดั่งมีดที่กรีดผิวหนังของพวกนาย” แดร์ริลวางแผนเอาไว้แล้วว่าเขาจะไม่ลอบโจมตีหกนิกายหลัก แม้ว่าเขาจะมีความคับข้องใจกับคนเหล่านั้นก็ตาม แต่เขาก็ต้องคำนึงถึงสถานการณ์โดยรวมด้วย สำหรับทหาร 30 นายนั้น การฆ่าพวกเขาเป็นการเสียเปล่า มันจะดีกว่าถ้าแดร์ริลจะใช้ประโยชน์จากพวกเขา แดร์ริลยิ้มและพูดว่า “ถ้าพวกนายไม่เชื่อก็ลองส่งกำลังภายในของพวกนายไปยังเส้นลมปราณดูว่าพวกนายจะรู้สึกเจ็บปวดอย่างแสนสาหัสหรือไม่” หลังจากพูดจบ แดร์ริลก็คลายจุดสะกดให้พวกเขา ทั้ง 30 คนลองทำตามที่แดร์ริลบอก จากนั้น การแสดงออกของพวกเขาก็เปลี่ยนไปทันที มันเป็นความจริง! สิ่งที่พวกเขาได้รับคือยาพิษ! “บอกตามตรงว่าฉันไม่สามารถแปรพักตร์ไปยังโลกใหม่ได้” สีหน้าของแดร์ริลเคร่งขรึม เขามองไปยังเหล่าทหารก่อนที่เขาจะพูดอย่างจริงจัง "ฉันไม่ต้องการที่จะฆ่าพวกนาย ดังนั้น ตอนนี้ฉันจะให้โอกาสพวกนาย พวกน
ฟู่… แดร์ริลถูกต่อว่าอย่างรุนแรง เขากำหมัดแน่นเพื่อทำให้ตัวเองสงบ เจ้าสำนักวณิพกพุ่งไปข้างหน้าและชี้ไปที่จมูกของแดร์ริล เขาคำราม “แดร์ริล แกเป็นคนของจักรวาลโลกแต่แกกล้าแปรพักตร์ไปยังโลกใหม่ ฉันอยากจะรู้จริง ๆ ว่าพ่อแม่ของแกในจักรวาลโลกทำให้แกเกิดมาไร้ประโยชน์เช่นนี้ได้ยังไง แกจะไม่ได้รับการให้อภัย คนอย่างแกสมควรตายนับหมื่น ๆ ครั้ง” “โซรัน คาร์เตอร์ พ่อบุญธรรมของแกเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในโลกของผู้บ่มเพาะ แต่แกกลับทำให้เขาอับอายขายขี้หน้า! ไอ้สารเลว! แกไม่สมควรที่จะมีชีวิตอยู่!” "บ้าเอ้ย!" แดร์ริลสบถ เขาต้องเผชิญกับคำวิพากษ์วิจารณ์ด้วยวาจาเหล่านั้นที่กระหน่ำลงมาใส่เขา เขางุนงงในความโง่เขลาของคนเหล่านั้น เขาไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะได้อธิบายตัวเอง “ฟังฉันนะ ฉันไม่ได้ทรยศจักรวาลโลก” แดร์ริลพยายามสงบสติอารมณ์และกำลังจะอธิบายต่อ ก่อนที่เขาจะได้พูด แม่ชีแหงโชคชะตาก้าวออกมาและเล็งดาบยาวของเธอไปที่แดร์ริล ริมฝีปากสีแดงของเธอขยับขึ้นในขณะที่เธอถามเขา "แกยังกล้าที่จะพูดอะไรเพื่อแก้ตัวอีก ทั้ง ๆ ที่แกอยู่ในชุดเกราะของโลกใหม่เหรอ? ไอ้คนไร้ยางอาย วันนี้จะเป็นวันตายของแก!” ดาบยาวของแม่
ในปัจจุบัน ลิลี่ ลูกสาวของเธอและเวด เข้ากันได้ดีเลยทีเดียว พวกเขากำลังปรึกษาหารือเรื่องการแต่งงาน เวดมอบสินสอดทองหมั้นให้แก่ซาแมนธาเป็นจำนวนเงิน 8,880,000 เหรียญ ซาแมนธารู้สึกตื้นตันเป็นอย่างยิ่ง เธอจึงตื่นแต่เช้าเพื่อออกไปหาซื้อเสื้อผ้า เนื่องจากลูกสาวของเธอกำลังจะแต่งงาน ดังนั้น เธอจึงต้องจัดเตรียมชุดสำหรับงานแต่งงานของลูกสาวของเธอ เมื่อเธอกำลังจะจ่ายค่าชุดที่เธอเลือก คนสองคนก็เดินเข้ามา "มากับเรา" ทั้งสองคนคว้าตัวซาแมนธาเอาไว้ “พวกแกจับฉันทำไม?” ซาแมนธาตกใจกลัว เธอเริ่มตะโกนขอความช่วยเหลือ สองคนนั้นผลักเธอออกไปอย่างรวดเร็ว พวกเขาก็กระโดดขึ้นและลอยตัวไปในอากาศ จากนั้นก็มุ่งหน้าไปยังหอคอยดาวปรารถนา … ที่หอคอยดาวปรารถนา เหล่าผู้นำนิกายต่าง ๆ มารวมตัวกัน ต่อหน้าผู้นำเหล่านั้น มีคนสี่คนถูกมัดด้วยเชือก! พวกเขาคือ ซาแมนธา, ลิลี่และพ่อแม่ของแดร์ริล พ่อแม่ของแดร์ริลอาศัยอยู่ในชนบทมาระยะหนึ่งแล้ว แต่พวกเขาก็ยังถูกตามหาจนเจอ “พวกคุณ...” ซาแมนธายิ้มเยาะออกมาเล็กน้อย “พวกคุณ นี่มันอะไรกัน?” ซาแมนธามองดูพ่อแม่ของแดร์ริลด้วยสายตาดูถูก มันจะต้องเป็นการกระทำของลูกชายที่
อีกด้านหนึ่งที่แท่นบูชาของสำนักประตูสุราลัย แดร์ริลนั่งอยู่ในห้องโถงด้วยสีหน้ามืดมน เขาพาทหารทั้ง 30 คนมายังสำนักประตูสุราลัย สองขุนพลสายฟ้า จตุขุนพลและสิบปรมาจารย์สวรรค์เดินผ่านประตูเข้ามาและคุกเข่าข้างหนึ่งลง พวกเขาตะโกนพร้อมกันว่า “ท่านประมุขนิกาย” เซปไฟร์กล่าวด้วยความเคารพ "ท่านประมุขนิกาย สาวกทั้งหมดของสำนักประตูสุราลัยอยู่ที่นี่" แดร์ริลพยักหน้าและยืนขึ้นช้า ๆ เขามองไปยังสาวกของสำนักประตูสุราลัยที่อยู่ด้านหน้าของเขา เขากล่าวทีละคำ “เอาล่ะทุกคน กองทัพโลกใหม่มาถึงที่นี่แล้ว พวกเราทุกคนล้วนมาจากจักรวาลโลก เมื่อบ้านเกิดของเรากำลังตกอยู่ในอันตราย ดังนั้นเราจะต้องสู้!” แดร์ริลพูดอย่างเด็ดเดี่ยว “ในตอนนี้ หกนิกายหลักได้รวมตัวกันอยู่ที่เมืองตงไห่เพื่อสอดส่องกองทัพของโลกใหม่ พวกนายจะเป็นผู้นำสาวกของสำนักประตูสุราลัยไปให้การสนับสนุนพวกเขา!” แดร์ริลถอนหายใจยาว ถึงแม้ว่าเขาจะมีความรู้สึกไม่ประทับใจหกนิกายหลักและยังมองว่าพวกเขาคือตัวสร้างปัญหา แต่เขาก็เชื่อเสมอว่าเขาจะต้องระงับความคับข้องใจส่วนตัวเอาไว้ก่อนเมื่อต้องเผชิญหน้ากับศัตรู สาวกของสำนักประตูสุราลัยจะต้องไปร่วมศึกในครั้ง
“เขามาแล้วยังไง? ทำไมนายจะต้องตื่นตระหนกด้วย?” แม่ชีแห่งโชคชะตากล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงเย็นชา ปัง! เสียงที่ดังขึ้น! ประตูถูกทุบเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย! ฝุ่นควันลอยตัวอยู่เต็มอากาศ! เมื่อฝุ่นค่อย ๆ จางหายไป เหล่าผู้นำนิกายมองไปที่ประตูและพวกเขาต่างก็ตกตะลึง ชายผู้หนึ่งยืนอยู่ตรงประตู เขาอยู่ที่นี่คนเดียวด้วยใบหน้าที่โกรธแค้น! เป็นใครไปไม่ได้นอกจากแดร์ริล! ดวงตาของเขากลายเป็นสีแดงเลือด! มันดูน่ากลัว! ฮึก… เมแกนสะอึก! เธอรู้จักแดร์ริลดี แต่เธอไม่เคยเห็นเขาบ้าคลั่งเช่นนี้มาก่อน “ไอ้สวะ!” แม่ชีแห่งโชคชะตายืนขึ้นและชี้ไปที่แดร์ริลอย่างโกรธเคือง ใบหน้าของเขาเย็นชาในขณะที่ดวงตาของเขากวาดไปรอบ ๆ ผ่านฝูงชนและในที่สุดเขาก็จับจ้องไปที่ใบหน้าของเมแกน “พ่อแม่ของฉันอยู่ไหน?” คำพูดอันเย็นชาเพียงไม่กี่คำดังออกมาจากปากของแดร์ริล เมแกนเป็นคนที่โทรหาเขา ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะถามเธอ เมแกนไม่ตื่นตระหนกมากนัก แม้ว่าเธอจะสัมผัสได้ถึงความโกรธแค้นของแดร์ริล เธอเยาะเย้ย “แดร์ริล ดูเหมือนว่าแกจะยังคงมีความเป็นคนอยู่สินะ ฉันคิดว่าแกจะไม่สนใจพ่อแม่ของแกแล้วเสียอีก” ใบหน้าของแดร์ริลซีดเผือด เ
ฟึบ! สเปนเซอร์ถือดาบของเขาไว้ แต่ก่อนที่ดาบของเขาจะได้แตะที่หน้าอกของแดร์ริล แดร์ริลก็ยื่นมือออกมาและจับข้อมือของสเปนเซอร์เอาไว้แน่น "แกร็ก! แกร็ก!" แดร์ริลปล่อยกำลังภายในของเขาไปที่มือและเพิ่มความแข็งแกร่งไปที่ข้อมือของสเปนเซอร์มากขึ้น สเปนเซอร์รู้สึกว่ากระดูกของเขากำลังจะแตกเป็นชิ้น ๆ คลื่นความเจ็บปวดแปลก ๆ ตามมาด้วยเสียงกระดูกแตกหัก! "กร๊อบ! กร๊อบ!" “อ๊าก!” ในที่สุดสเปนเซอร์ก็ทนไม่ไหว เหงื่อเม็ดใหญ่ปกคลุมใบหน้าของเขา เขากำข้อมือแน่นและร้องออกมาอย่างสิ้นหวัง เขาไม่เคยเห็นสิ่งนั้นมาก่อน หลังจากการฝึกฝนอย่างอุตสาหะเป็นเวลานาน เขาก็ยังไม่สามารถเอาชนะแดร์ริลได้ ผู้นำนิกายที่อยู่รอบ ๆ ต่างก็เบะปากเมื่อเห็นเหตุการณ์ "ฉันจะถามแกอีกครั้ง! พ่อแม่ของฉันอยู่ที่ไหน?" แดร์ริลกำหมัดแน่น เขาคำรามสุดเสียง! “อ๊าก!” สเปนเซอร์ยังคงร้องโหยหวน ข้อมือของเขากำลังจะแหลกสลาย ทันใดนั้น เขาก็ตะโกนสุดเสียง “ท่านอาจารย์ ช่วยผมด้วย!” เจ้าสำนักยอดบรรพตยืนขึ้นทันที ใบหน้าของเขาเย็นชาและมืดมิด สเปนเซอร์เป็นศิษย์ที่ทรงคุณค่าที่สุดของเขา ถ้าหากว่าเขากลายเป็นคนพิการ มันจะเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ต
"แก..." แดร์ริลแผดเสียงขณะที่เขาชี้ไปที่แม่ชีแห่งโชคชะตา "แกชอบอ้างนักหนาว่ามาจากสำนักที่มีชื่อเสียงโด่งดัง แต่แกไม่เคยให้โอกาสฉันได้อธิบายแก้ต่างบ้างแม้แต่นิดเลย แกก็ยังยืนยันว่าฉันคือคนทรยศและแกยังมาทำร้ายพ่อแม่ของฉันอย่างโหดเหี้ยมอีก พวกเขาทั้งสองคนไม่ใช่ผู้บ่มเพาะด้วยซ้ำ! จิตใจของพวกแกทำด้วยอะไร?"ทุกคนตกใจกับคำกล่าวของเขา บรรดาผู้บ่มเพาะจากแต่ละสำนักต่างลุกขึ้นยืนพรางชี้ไปที่แดร์ริลและสบถด่าเขา"ไอ้สถุน! แกกล้าดียังไงมาพูดจาสามหาวแบบนั้นกับพวกเรา? ตลกสิ้นดี!"“แกสมรู้ร่วมคิดกับกองทัพโลกใหม่เพื่อมาไล่ทำร้ายเพื่อนร่วมชาติของตัวเอง มันคือการทรยศหักหลัง ต่อให้เราฆ่าพ่อแม่ของแกพวกเขาสองคนก็สมควรโดนแล้ว!”"ใช่ พวกเขาสมควรตาย ที่เลี้ยงลูกได้จัญไรแบบนี้"เสียงสาปส่งดังระงมราวกับคลื่นซัดกระทบชายฝั่ง!ดวงตาของแดร์ริลแดงเถือกขณะเขาหัวเราะและตะโตนเสียงแข็ง "ฉันงั้นเหรอ? สมรู้ร่วมคิดกับโลกใหม่? พวกแกเห็นฉันฆ่าใครสักคนที่มาจากจักรวาลโลกไหม?"จากนั้นก็มีเสียงเบา ๆ ดังขึ้นขณะดาบกลืนโลหิตปรากฏอยู่ในมือของแดร์ริล!"พวกแกเสียสติไปหมดแล้ว ฉันจะมาเอาตัวพ่อแม่ของฉันกลับไปด้วยวันนี้ ถ้าพวกแกยังม