"รถผม? อืม...ผมคิดมาเสมอว่ามันก็แค่ยานพาหนะ ผมจึงนำมาแค่รถธรรมดา ก็แค่ Audi R8" แดร์ริลตอบ ภายใต้แรงกดดันจากสายตาผู้คนเขาไม่ผิด รถ Audi R8 นั้นเป็นรถรุ่นเริ่มต้นของรถระดับท๊อปทั่วทั้งโลก แต่มันก็ไม่ใช่แค่รถธรรมดาแน่ ๆว้าว!เสียงฮือฮาดังอีกครั้ง ทุกคนมองเขาอย่างไม่เชื่อราวกับพวกเขาได้ยินผิดในเวลาเดียวกัน ทั้งซาแมนธาและลิลี่แทบสำลักน้ำขา'เขากล้าพูดแบบนั้นได้ยังไง? เจ้านายเขาให้ยืมรถ แต่เขากลับบอกว่าเป็นของตัวเอง? หมอนี่หน้าด้านชะมัด' ทั้งคู่คิดจิมมี่ตกใจ 'Audi R8? นั่นมันมีราคาตั้งสองล้านบาท! นี่เขาโกหกรึเปล่า?'"โอ้ ซาแมนธา เธอดีกับลูกเขยมากเลยนะ ถึงกับซื้อรถดีแบบนี้ให้เขา" เมลานียิ้ม แต่ก็ซ่อนความตกใจไว้ภายใน เธอต้องการกลั่นแกล้งแดร์ริลและซาแมนธาแน่นอน เธอไม่เชื่อว่าแดร์ริลมีปัญญาซื้อ Audi R8 มันต้องเป็นของขวัญจากซาแมนธา เพื่อทำให้ตัวเธอเองดูดีขึ้น ยังไงก็ตาม แดร์ริลก็แค่คนไร้ประโยชน์ซาแมนธาหน้านิ่ง เธอไม่ตอบสนองยังไงก็ตาม แดร์ริลพูดขึ้นอย่างสุขุม "แม่ยายผมไม่ได้ซื้อรถคันนี้ เจ้านายผมต่างหาก"'ฮ่าฮ่าฮ่า! ตลกชะมัด!' ทุกคนพยายามอย่างมากที่จะไม่หัวเราะ แต่สตรีบางคนทนไม่
แต่การหนีไปจะทำให้เธอเป็นตัวตลกของเมลานี ดังนั้นซาแมนธาจึงทนอยู่ด้วยความมุ่งมั่น เธอถึงขนาดคิดว่าจะให้ลูกสาวเธอหย่ากับขยะนี่ทันทีที่กลับบ้าน เธอต้องแน่ใจว่าใบหย่าจะถูกทำขึ้นพรุ่งนี้ลิลี่คิดว่าเมลานีทำเกินไปหน่อย แต่เมื่อมองไปที่แดร์ริลข้างเธอ เธอก็หมดหนทาง'ลูกเขยคนอื่นสามารถทำให้แม่ยายประทับใจได้ แต่สามีเธอล่ะ? ลืมไปซะ!' ลิลี่คิดในตอนนั้นเอง เมลานีก็หันไปหาแดร์ริลแล้วถามด้วยรอยยิ้ม "แดร์ริล เธอคิดว่าของขวัญที่จิมมี่ให้ฉันเป็นอย่างไรบ้างล่ะ?"โดยไม่ต้องคิด แดร์ริลตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง "ก็ไม่เลวครับ"'ก็ไม่เลว? พูดบ้าอะไร เขามีปัญญาซื้อมันได้เหรอ?' เมลานีคิดในทันใดนั้น ทุกคนในห้องก็หัวเราะกับตัวเองด้วยสายตาดูถูกบนใบหน้า'คนพวกนี้เป็นอะไร? การเปรียบเทียบทุกอย่างบนโลกนี้มันสนุกนักรึไง?' แดร์ริลคิดแดร์ริลทนไม่ได้กับการกลั่นแกล้งของพวกเขาอีกต่อไป ด้วยความช่วยไม่ได้ เขายืนขึ้นแล้วออกจากห้องไป'ฮ่าฮ่าฮ่า! เจ้าขยะนี่อายจนไม่กล้าอยู่ต่อ? เมื่อไม่มีเขา ก็คงไม่มีใครให้กลั่นแกล้งอีก ไม่สนุกเอาซะเลย' พวกเขาคิดทั้งเมลานีและจิมมี่ดูจะผิดหวังเมื่อเขาจากไป ซาแมนธาเองก็โล่งใจที่เขาจากไ
ด้านในกล่องมีสร้อยคอที่น่าหลงไหลวางไว้ทับทิมแดงบนสร้อยคอนั้นใหญ่เท่ากับไข่นกพิราบ สร้อยคอนั้นเปล่งประกายและสวยงามภายใต้แสงไฟ เมื่อเทียบกับเพชรบนเดรสของจิมมี่ เพชรนั่นดูเหมือนทรายไปเลย สายตาทุกคู่จดจ้องดูว่าของขวัญชิ้นไหนมีค่ามากกว่าอย่างไรก็ตาม..."ทับทิมขนาดเท่านี้น่าจะมีราคาหลายล้าน? ไม่ใช่ว่าสร้อยคอนี้จะมีมูลค่าไม่ต่ำกว่ายี่สิบล้านเหรอ?""จากเขาเนี่ยนะ? ของขวัญล้ำค่าจากเขา? เป็นไปไม้ได้แน่!""ถูกต้อง ฉันคิดว่ามันเป็นของปลอม"เสียงของคนรอบข้างตำหนิในขณะที่หัวของจิมมี่ขาวโพลน คนอื่นอาจไม่รู้ แต่จิมมี่ที่อยู่ในอุตสาหกรรมเครื่องประดับนั้นสามารถบอกได้เพียงแค่มองมัน ทับทิมที่อยู่ตรงหน้าเขา ความใสของผิวและความชัดเจนของเนื้องาน มันเป็นคุณสมบัติที่ดีที่สุดเท่าที่ทับทิมควรจะมีได้ อย่างน้อยที่สุด คุณภาพของมันก็ดีกว่าทับทิมที่เขาเคยพบมาตลอดทั้งชีวิตเขาไม่ใช่ลูกเขยไร้ประโยชน์เหรอ? ทำไม เขาหาของขวัญแพง ๆ แบบนี้มาได้อย่างไร?ในที่สุด ซาแมนธาก็ถูกดึงกลับมาสู่ความเป็นจริง เธอมองแดร์ริลอย่างสับสน "แกซื้อมันมาเท่าไหร่?"ซาแมนธามีเครื่องประดับมากมาย แต่เธอไม่เคยเห็นทับทิมที่ใหญ่ขนาดนี้เลย เ
ในขณะที่เธอมองรถหายไปจากสายตา ลิลี่ก็เดินเข้าบ้านพร้อมคิ้วที่ขมวด...ณ คฤหาสน์ริมทะเลของตระกูลดาร์บี้แจ็คสันตื่นขึ้นในห้องนอน ด้วยความสับสน เขาเปิดตามาด้วยอาการเมาค้าง เขาจำไม่ได้ว่าดื่มไปเท่าไหร่เมื่อคืน แต่เขารู้สึกอิ่มใจ หลังจากวิ่งตามความรักกับรีเบคก้ามาสองปี ในที่สุดพวกเขาก็ได้แต่งงานกัน และที่ทำให้เขาดีใจยิ่งไปกว่านั้นคือ แม้แต่แดร์ริล ที่เขาไม่ได้พบมาเป็นปี ก็ปรากฏตัวที่งานแต่งเขา ในตอนนั้นเอง รอยยิ้มอบอุ่นก็ปรากฏบนใบหน้าเขา เขายืนขึ้นแล้วเดินออกจากห้องนอน"รีเบคก้า?"เขาเรียกเมื่อออกมาที่โถงจัดเลี้ยง เมื่อไม่มีการตอบสนอง เขาจึงรู้สึกว่ามีอะไรไม่ดีเกิดขึ้นเขาเห็นประตูห้องแขกถูกเปิดออก เขาจึงวิ่งไปด้วยความเร่งรีบ เมื่อเขาไปถึงประตู เขารู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่า ตัวสั่นอย่างรุนแรง เขาเห็นสิ่งที่เขาไม่มีทางลืมไปตลอดชีวิตเจ้าสาวที่เพิ่งแต่งงานของเขา นอนอยู่บนเตียง"อ้า!"แจ็คสันคำรามด้วยความโรกธ ดวงตาของเขาแดงก่ำทันที ชั่วร้าย! นี่มันเป็นเรื่องที่ชั่วร้ายที่สุดเท่าที่ชายหนุ่มทุกคนจะคิดได้"ไม่ว่าแกจะเป็นใคร ฉันสาบานต่อพระเจ้า ฉันจะฆ่าแก" แจ็คสันกำหมัดแน่น เล็บของเขาจมลงไปใน
"ฉันรู้สึกเจ็บมากในตอนแรก ฉันคิดว่าเป็นคุณ ฉันเลย..."หลังจากนึกถึงมัน รีเบคก้ารู้สึกแย่มาก ในเวลาเดียวกัน เธอก็มองไปที่กระจกแปดด้านแล้วเริ่มสงสัยแดร์ริลแจ็คสันไม่ได้พูดอะไร เขากอดเธอแน่น มือของเขาแทบจะเลือดไหลออกมาจากเล็บที่จิกเข้าไปในเนื้อ เพื่อรักษาชื่อเสียงขอเธอ พวกเขาต้องไม่ประกาศเรื่องนี้ออกไป สิ่งที่ดีที่สุดคือพวกเขาต้องสืบกันเองอย่างไรก็ตาม การสนทนานี้ดังลอดไปเข้าหูสาวใช้สองคนนอกห้องนอน พวกเธอมองหน้ากันด้วยความตกใจจากการต้อนรับในงานแต่งตอนกลางวัน รีเบคก้าเห็นว่าสาวใช้ทั้งสองนั้นเพลียแล้ว เธอจึงบอกให้พวกเธอไปพัก ดังนั้น เมื่อรีเบคก้าถูกล่วงละเมิด สาวใช้ที่กำลังพักผ่อนจึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จนกระทั่งแจ็คสันคำรามด้วยความโกรธ พวกเธอจึงตื่นจากนั้น พวกเธอจึงกลับเข้าไปในห้อง หลังจากได้ยินเรื่องที่ไม่ควรได้ยินเข้าวันต่อมา ข่าวลือดังไปทั่วตระกูลดาร์บี้ ฟลอเรียน ผู้รู้สึกผิด รีบไปที่คฤหาสน์ของพวกเขาพร้อมยูมิเมื่อได้ยินข่าว ฉากหน้า ดูเหมือนพวกเขาจะเป็นห่วง แต่ในความเป็นจริง พวกเขากำลังสังเกตว่าอีกฝ่ายรู้มากแค่ไหน"แจ็คสัน ฉันได้ยินว่าเมื่อคืนเกิดเรื่องขึ้น จริงเหรอ?" เมื่อฟล
ในตอนนั้น คุณย่าลินดันนั่งลง เธอมองไปในกลุ่มคนแล้วพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังฝูงชนนี้เป็นสมาชิกครอบครัวของตระกูลลินดัน ทุกคนมีใบหน้าบูดบึ้งและนิ่งเงียบ อำนาจสุดท้ายของบริษัทภายใต้เหล่าลินดันตกไปอยู่ในมือของพอล เจมส์ แล้ว พอลนั้นไม่ใช่คนธรรมดา การที่คุณย่าลินดันพยายามนำอำนาจกลับมาจากเขานั้นดูเป็นความคิดเพ้อฝันไป ในทันใดนั้น วิลเลียม ลินดัน ก็กะพริบตา เขายืนขึ้นแล้วกล่าว "คุณย่า ผมมีความคิด""เยี่ยม วิลเลียม บอกความคิดของหลานมาเลย!" คุณย่าลินดันกล่าวพร้อมท่าทางพอใจจากเหตุการของจีเซลล์ ลินด์ท ในรายการโชว์ครั้งก่อน วิลเลียมถูกลงโทษโดยการห้ามยุ่งกับธุรกิจของตระกูล แต่ในเมื่อนี่เป็นปัญหาความเป็นความตายของบริษัท คุณย่าจึงไม่สนใจเรื่องการลงโทษนัก แต่ที่สำคัญที่สุด มันก็เป็นเพราะคุณย่านั้นโปรดปรานวิลเลียมที่สุดอยู่ดีความยินดีรับฟังของคุณย่าทำให้วิลเลียมกล้าขึ้น เขากล่าวอย่างเชื่องช้า "คุณย่า ตอนนี้พอลถือหุ้นอยู่ 51% ของหุ้นทั้งหมดในบริษัทเครือลินดัน เราพูดอะไรไม่ได้อีก ถ้าเราต้องการมันกลับมา มันก็คงจะไม่ง่าย เราควรจะยอมแพ้""ยอมแพ้?" คุณย่าขมวดคิ้วเช่นเดียวกับคนที่เหลือทั้งหมดวิลเลียมกล่าว
คุณย่าลินดันย้ำอีกครั้ง "วิลเลียม ถ้าเราขายหุ้นได้หมด ย่าจะไม่ใช่แค่ให้รางวัลหลานอย่างงาม ย่าจะยกบริษัทลันดันให้ด้วย""ขอบคุณครับคุณย่า คุณครับคุณย่า!" วิลเลียมแทบระเบิดจากความตื่นเต้น เขาจงใจจ้องไปที่ลิลี่'ไม่ใช่ว่าเธอเป็นคนที่ทำได้ดีที่สุดเหรอ? ดีลของฉันกับบริษัท แพลทินัม ถูกขโมยไปโดยเธอ แต่ตอนนี้บริษัทของพวกเรากำลังมีอันตราย มันไม่ใช่วิลเลียม ลินดัน คนนี้เหรอที่ช่วยไว้?' วิลเลียมคิดกับตัวเองครู่ต่อมา ลีมูซีนสีดำก็ขับเข้ามาที่ทางเข้าของที่อยู่อาศัยตระกูลลินดัน ชายที่เดินลงมาจากลีมูซีนสวมใส่ชุดสบาย ๆ พร้อมแว่นกันแดด เขาคือเทรนท์ ยัง พร้อมด้วยบอดี้การ์ดบางคนที่ตามมาด้วย เขามีช่วงอายุประมาณยี่สิบ แต่เขามีทักษะที่น่าทึ่ง เขาสร้างชื่อให้ตัวเองในโลกของศิลปะการต่อสู้ เขาเป็นชายที่เหมาะสม"คุณย่า ปรมาจารย์ยังมาที่นี่แล้ว"คนที่ร่ำเรียนศิลปะการต่อสู้มาจะถูกเรียกด้วยคำว่า 'ปรมาจารย์' เพื่อเป็นการให้เกียรติ"เชิญ เชิญเข้ามาได้เลย" คุณย่ากล่าวอย่างตื่นเต้นในขณะที่เธอยืนขึ้นเสียงพูดคุยซุบซิบหยุดลงทันที ทุกคนหันเหความสนใจไปที่ทางเข้า วิลเลียมเองก็ยืนรอที่ทางเข้าแล้วเทรนท์ ยังเดินเข้ามา
ภายใต้แรงกดดันจากสายตาทุกคน เอลซ่ารู้สึกอึดอัด เธออยากจะพูดอะไรสักอย่างแต่ก็ต้องหยุดไว้วิลเลียมตั้งสติจากการตกใจ เขากล่าวกับเทรนท์ "พี่ พี่ทำผมผวาแทบตาย! ผมกำลังคิดเลยว่าพี่จะถามเรื่องอะไร สรุปมันคือเรื่องนี้!"เทรนท์ไม่ได้พูด เขาแค่มองไปที่คุณย่าด้วยความคาดหมายบางอย่าง การสู่ขอแต่งงานนั้นกำหนดอนาคตของตระกูลลินดัน ซึ่งแปลว่ามีเพียงคุณย่าที่มีอำนาจพูดได้ในตอนนั้น คุณย่าไม่ลังเลเลย เธอยิ้ม "เป็นเกียรติของเราที่จะได้เกี่ยวดองกับปรมาจารย์ยังในการแต่งงาน" คุณย่าหันไปหาเอลซ่าแล้วถาม "เอลซ่า หลานคิดยังไงบ้าง?"เอลซ่ายืนขึ้น เธอกำลังจะพูด แต่เทรนท์ส่ายหัว "คุณย่า ผมว่าคุณเข้าใจผิด ผมไม่ได้หมายถึงเธอ"อะไร? ไม่ใช่เอลซ่า ลินดัน? แล้วเขาจะสู่ขอใคร?ทุกคนตกใจ เอลซ่าเอลก็ถึงกับลดการป้องกันลง ความรู้สึกผสมปนเปบนใบหน้า เธอโล่งใจแต่ก็สงสัยเมื่อตระกูลลินดันล้วนสับสน เทรนท์ก็ยิ้มออกมาแล้วเริ่มเดิน พร้อมทุกสายตาที่จับจ้องเขา เมื่อเขาหยุดเดิน ทั้งโถงถึงกับเงียบเป็นป่าช้า เขาหยุดอยู่หน้า ลิลี่ ลินดันลิลี่ใส่เดรสเข้ารูปที่ขับเน้นรูปร่างอันงดงามของเธอ มันน่าดึงดูดมาก เธอตัวสั่นทันทีที่เทรนด์อยู่ต