บทที่15 คนสนิทของท่านประธาน
21:30 น. ไลน์กลุ่ม
{เชอรี่: ฝึกงานวันแรกเป็นไงบ้างชะนีทั้งหลาย ได้ฝึกงานตำแหน่งอะไรกันบ้าง}
{อิงเอย: อิงได้ฝึกแผนกการตลาด พี่ๆ ทุกคนที่นี่ใจดีมาก}
{กิ่งแก้ว: ฉันก็ได้ฝึกแผนกการตลาดเหมือนกัน แต่อยู่ในส่วนการตลาดต่างประเทศโชคดีมากพี่ๆ ในทีมมีแต่คนเก่งๆ }
{เชอรี่: ไอรดา อ่านแต่ไม่ตอบหมายความว่าไงยะ สรุปว่าแกได้ฝึกงานแผนกอะไร แล้วบริษัทที่แกไปฝึกงานผู้ชายต่างชาติเยอะหรือเปล่า}
{รดา: ฉันได้ฝึกตำแหน่งผู้ช่วยเลขา}
{เชอรี่: What? }
{กิ่งแก้ว: What? }
{อิงเอย: Really? }
{รดา: อือ}
{เชอรี่: เลขาประธานบริษัทเหรอแก}
{รดา: เปล่า ไม่ใช่}
{เชอรี่: แล้วเป็นเลขาใคร}
{รดา: รองประธานบริษัท}
{เชอรี่: แล้วรองประธานหล่อไหมแก หล่อเหมือนประธานบริษัทไหม วงในเมาส์กันว่ารองประธานบริษัทก็คือน้องชายของท่านประธานสุดหล่อใช่ไหม ขอบอกว่าหล่อมากเห็นหน้าแล้วน้ำฉันเดินเลย}
{รดา: คุณหมอกองทัพ นายเธียรวิชญ์ เศรษฐบุตรกุญชร }
{เชอรี่: Really?????? }
{กิ่งแก้ว: Really????? }
{อิงเอย: Really????? }
{รดา: อือ}
{เชอรี่: พรหมลิขิตชัดๆ คุณหมอสุดหล่อต้องเป็นเนื้อคู่ของแกแน่ๆ ดวงถึงได้สมพงศ์กันขนาดนี้}
{รดา: พูดบ้าอะไรยัยเชอ ฉันไปนอนก่อนนะพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า}
เช้าวันที่ ณ บริษัท GT
“คุณกองทัพสวัสดีค่ะ” กองทัพเดินเข้ามาในชุดสูทสีน้ำเงินเข้มเสื้อเชิ้ตด้านในสีเดียวกันผูกเนกไทสีฟ้าอ่อน ใบหน้าหล่อเหลาเกลี้ยงเกลาไร้หนวดเคราแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางเล็กน้อย ทรงผมถูกเชตเป็นทรงเรียบร้อยเสริมให้ดูหล่อเหลาและน่าเกรงขามในคนคนเดียวกัน
“เมื่อเช้านั่งรถอะไรมาทำงาน” รดาแต่งตัวในชุดธรรมดาเพราะได้รับคำสั่งจากเจ้านายหนุ่มว่าให้แต่งตัวในชุดธรรมดาแทนชุดนักศึกษาโดยให้เหตุผลว่าบางครั้งอาจจะต้องออกไปพบลูกค้าและร่วมรับประทานอาหารข้างนอก หากแต่งชุดนักศึกษาอาจจะดูไม่เหมาะสมเพราะบางครั้งก็มีแอลกอฮอล์วางอยู่บนโต๊ะด้วย
ชุดเดรสสีฟ้าอ่อนสั้นเหนือเข่าเล็กน้อย ด้วยความที่เป็นคนค่อนข้างเรียวขายาวเมื่อใส่กระโปรงทรงสั้นก็จะเผยให้เห็นเรียวขาสวยค่อนข้างมากแต่ไม่ถึงกับโป๊
“นั่งรถไฟฟ้ามาค่ะ”
“แล้วเดินมาถึงนี่”
“เปล่าค่ะ นั่งวินมา” เมื่อได้รับคำตอบกองทัพถึงกับหน้าเปลี่ยนสีด้วยความไม่พอใจ
“ผมบอกคุณกี่ครั้งแล้วถ้าใส่กระโปรงไม่ให้นั่งวินมอเตอร์ไซต์” กองทัพเผลอพูดเสียงดังจนคนที่โดนเอ็ดหน้าเสียเพราะไม่เคยเจอคุณหมอหนุ่มเสียงดังใส่แบบนี้มาก่อน
“ใกล้แค่นี้ นั่งแท็กซี่มาก็เปลืองเงินเปล่าๆ แถมรถก็ติดมากด้วย” หลังจากที่โดนกระแทกเสียงใส่จนใจอ่อนยวบ รดาก็ไม่ลดละความพยายามพูดขึ้นเสียงเบาราวกระซิบเพราะกลัวว่าจะโดนเอ็ดอีกรอบ แต่ในใจก็อยากอธิบายให้ชายหนุ่มตรงหน้าเข้าใจ
“ต่อไปนี้ผมจะให้เอกไปรับคุณที่คอนโดทุกวัน” เมื่อพูดจบเท้ายาวก็เดินฉับ ฉับ ฉับ กระแทกสะโพกหนาลงบนเก้าอี้อย่างแรง มือด้านขวากวาดแฟ้มที่วางอยู่อย่างเป็นระเบียบไปไว้ขอบโต๊ะอีกฝั่งให้พ้นรัศมีสายตา เพราะตอนนี้ไม่มีอารมณ์ที่จะทำงาน ปกติกองทัพเป็นคนที่ใจเย็นและมีเหตุผลเสมอ แต่พอเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเด็กสาวในห้อง กลับควบคุมอารมณ์ไม่อยู่
“ค่ะ” น้ำเสียงปลงตกตอบกลับไปก่อนที่ภายในห้องจะตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง
ต่างฝ่ายต่างนั่งเงียบอยู่สักพัก รดานั่งนิ่งใช้ความคิดอยู่นานว่าจะทำอย่างไรให้เจ้านายหนุ่มอารมณ์ดีและหายโกรธเธอ ร่างบางลุกจากเก้าอี้เดินตรงไปยังหน้าประตูหายไปสักพักและกลับมาพร้อมกาแฟดำหนึ่งแก้วในมือ
“กาแฟค่ะ” รดาวางแก้วกาแฟในมือลงตรงหน้าชายหนุ่มที่ตอนนี้กำลังนั่งตรวจและเซ็นเอกสารด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ดวงตาสีน้ำตาลเข้มเหลือบขึ้นมองเพียงนิดก็หลุบมองเอกสารในมือเหมือนเดิม
กลิ่นหอมของกาแฟคั่วบดละเอียดที่ส่งตรงจากภาคเหนือของไทย ซึ่งเป็นแหล่งปลูกเมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพที่สุด เริ่มตั้งแต่การปลูกในอุณหภูมิที่เหมาะสม คอยดูแลเอาใจใส่จนต้นกาแฟโตและออกผลผลิตมาจนถึงกรรมวิธีในการคั่วให้ได้กลิ่นหอมและรสชาติที่กลมกล่อมแบบนี้
“หนูแค่นั่งวินมอเตอร์ไซต์มาทำงานไม่ได้ทำอะไรไม่ดีสักหน่อย ทำไมคุณต้องงอนหนูขนาดนั้น หนูอุตส่าห์ชงกาแฟมาง้อแล้วนะคะถ้าคุณไม่ทานหนูจะเอาไปเททิ้งเดี๋ยวนี้แหละค่ะ ตาแก่ขี้งอน”
“กว่าจะได้เมล็ดกาแฟมาสักเม็ด คนปลูกต้องใช้แรงกายแรงใจคอยดูแลเอาใจใส่ตั้งเท่าไหร่” พูดจบมือหนาก็คว้าแก้วกาแฟขึ้นดื่ม รดาเผลอยิ้มมุมปากอย่างพอใจ ก่อนจะเอี้ยวตัวหันหลังเดินกลับไปนั่งทำงานที่โต๊ะของตนเมื่อใช้มารยาหลอกล่อให้ชายหนุ่มหลงกับดักได้สำเร็จ
“เอกสารอ่านไปได้ถึงไหนแล้ว มีตรงไหนที่ไม่เข้าใจหรือเปล่า” เมื่อร่างกายได้รับคาแฟอีนเข้าไปช่วยขยายหลอดเลือด ช่วยให้เลือดไหลเวียนได้ปกติ ชายหนุ่มก็กลับมาอารมณ์ดีอีกครั้ง
“มีนิดหน่อยค่ะแต่หนูจดไว้แล้ว รอคุณว่างหนูค่อยถามคุณหรือรอคุณเอกมาค่อยถามคุณเอกก็ได้ค่ะ” รดาตอบกลับโทนเสียงธรรมดาไปตามปกติขณะที่สายตายังจ้องอยู่หน้าจอที่โชว์กราฟแสดงผลประกอบการของบริษัทในแต่ละปีที่เพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดจนกราฟเป็นเส้นตรงชันขึ้นแทบจะเก้าสิบองศา
“เดินมานี่” รดาลุกจากเก้าทำตามคำสั่งอย่างว่าง่ายเดินไปยืนตรงหน้าโต๊ะทำงานของชายหนุ่ม
“ไปยืนตรงนั้นแล้วผมจะอธิบายให้คุณฟังยังไง เดินมานี่สิ” ปากหยักออกคำสั่งอีกครั้ง รดาจึงทำตามอย่างว่าง่ายก่อนจะเดินไปสามเก้าหยุดตรงหน้าชายหนุ่มพอดีในระยะห้าสิบเซนติเมตร
“ถามมาสิ ตรงไหนที่ไม่เข้าใจ” เมื่อเจอสายตาคมเข้มจ้องมองมาที่ตนตลอดเวลาในระยะประชิดก็เกิดความประหม่า มีอาการชาตามร่างกายรวมถึงสมองซีกซ้ายเกิดการประมวลผลและสั่งการล่าช้าจึงลืมคำถามที่เตรียมไว้ถามก่อนหน้าไปจนหมด
“เอ่อ..คือ..คือ”
“หน้าผมมีคำถามพวกนั้นติดอยู่เหรอ” ใบหน้าเนียนขาวแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อเมื่อโดนจับได้ว่ากำลังจ้องหน้าชายหนุ่มอยู่นาน
“ปะ..เปล่าค่ะ หนูแค่สงสัยว่าผลประกอบการของบริษัทมีกำไรตั้งแต่เปิดบริษัทปีแรกเลยเหรอคะ” คำถามนี้เป็นคำถามที่รดาเองก็รู้คำตอบอยู่แล้ว แต่ตอนนี้เธอนึกอย่างอื่นไม่ออกแล้วจริงๆ ทุกครั้งที่เข้าใกล้ชายหนุ่มเธอจะเสียอาการระบบร่างกายรวนไปหมดทุกครั้ง ชายหนุ่มตรงหน้าถือเป็นบุคคลที่อันตรายสำหรับเธอจริงๆ
“ก็ตามข้อมูลที่คุณเห็น หรือคุณดูข้อมูลพวกนั้นไม่เข้าใจ”
“เปล่าค่ะ ฉันเข้าใจ”
“อ้อถ้างั้นผมวานเอาแฟ้มนี่ไปส่งที่ห้องประธานหน่อย เป็นเอกสารด่วนเซ็นแล้วรอเอากลับมาให้ผมด้วย” แฟ้มเอกสารเร่งด่วนสำคัญถูกส่งให้เด็กสาว
ขายาวเดินพ้นขอบประตูห้องออกไปแล้วเลี้ยวขวาก็เจอกับประตูห้องที่มีลักษณะเดียวกันกับห้องที่เธอเดินออกมาเมื่อสักครู่ เมื่อเดินมาถึงก็รู้สึกแปลกใจว่าทำไมไม่มีเลขานั่งอยู่หน้าห้องเจอเพียงโต๊ะทำงานที่ว่างเปล่า ร่างอรชรยืนครุ่นคิดอยู่สักพักก่อนจะตัดสินใจเคาะประตู
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“เชิญครับ” เสียงทุ้มหล่อเอ่ยอนุญาตดังเล็ดลอดออกมาให้ได้ยิน รดาจึงเปิดประตูเข้าไปด้านในพร้อมกับแฟ้มเอกสารสำคัญในมือ
“ท่านประธานสวัสดีค่ะ คุณ..พะ..พี่ทัพบกมาอยู่ที่นี่ได้ไงคะ” ริมฝีปากบางร้องขึ้นด้วยความตกใจเมื่อเจอชายหนุ่มที่เธอรู้จักนั่งอยู่ในห้องนี้
“ว่าไงเด็กฝึกงานตัวแสบ นึกว่าจะไม่มาทักทายพี่ซะแล้ว” คำพูดสนิทสนมที่ทัพบกมักใช้พูดกับรดาเป็นประจำ ใบหน้าหล่อเหลายิ้มแย้มไม่ถือตัวแม้จะเป็นถึงประธานบริษัทแต่ก็ไม่เคยรังเกียจหรือดูถูกเธอตั้งแต่ตอนที่เธอยังขับไรเดอร์วิ่งส่งอาหาร หรือตอนนี้จะอยู่ในฐานะนักศึกษาฝึกงานก็ตาม
“พี่ทัพบกเป็นเจ้าของบริษัทนี้เหรอคะ” รดาเอ่ยถามเสียงกระท่อนกระแท่นอย่างไม่เชื่อสายตาว่าผู้ชายธรรมดาที่เธอเคยรู้จักจะเป็นถึงประธานบริษัทใหญ่โตขนาดนี้
“ก็ใช่น่ะสิ คิดว่าเป็นตัวปลอมหรือไง มานี่เลยมาให้ตีซะดีๆ หายไปไหนมาตั้งนานพี่ติดต่อไม่ได้ มือถือก็ปิดเครื่อง รู้ไหมว่าพี่เป็นห่วง” ประธานหนุ่มดุออกไปอย่างไม่จริงจังนัก กวักมือเรียกเด็กสาวให้เดินเข้ามาหาใกล้ๆ
“พอดีรดาเกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยเลยต้องเลิกขับไรเดอร์ และอีกอย่างช่วงนี้ต้องฝึกงานเลยไม่มีเวลาว่างเหมือนแต่ก่อนค่ะ” อดีตไรเดอร์สาวกำลังอธิบายเหตุผลให้ลูกค้าประจำที่เธอมีนัดส่งอาหารให้ทุกเช้าฟัง
“เลิกขับไรเดอร์ แล้วต้องเลิกใช้โทรศัพท์ด้วยเหรอครับ ทำไมพี่ติดต่อเราไม่ได้ ไลน์ไปก็ไม่อ่าน โทรหาก็ไม่ติด ช่วยอธิบายเหตุผลที่พอจะฟังขึ้นให้พี่ทัพบกคนหล่อคนนี้เข้าใจทีครับ” เมื่อยังไม่ได้รับคำตอบที่พึงพอใจทัพบกก็เอ่ยถามขึ้นอีกรอบ และเน้นเสียงทีละประโยคให้ได้ยินชัดเจนทุกคำ
“โทรศัพท์รดาพังค่ะ อยู่ดีๆ เครื่องก็ดับไปแล้วเปิดไม่ติดอีกเลย รดาเลยไม่ได้ไลน์บอกว่าไม่สามารถไปส่งโจ๊กให้พี่ทัพบกตอนเช้าได้แล้ว รดาขอโทษนะคะ” รดาตอบไปตามความจริงแค่ไม่ได้บอกทั้งหมดแค่นั้นเอง ขืนบอกไปว่าเธอมัวแต่ยุ่งวุ่นวายอยู่กับคุณหมอหนุ่มเลยลืมที่จะโทรบอกตั้งแต่วันแรกและลืมจนถึงวันนี้มีหวังเธอโดนโกรธเป็นชาติแน่ๆ
“แล้วนี่ซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่หรือยัง มีโทรศัพท์ใช้หรือเปล่า” ทัพบกถามขึ้นด้วยความเป็นห่วงเพราะรู้จักเด็กสาวตรงหน้าดีว่างกและประหยัดมากแค่ไหน จะซื้อของแต่ละอย่างคิดแล้วคิดอีกเดินดูเทียบกันเป็นสิบๆ ร้านทั้งๆ ที่ราคาแต่ละร้านก็ไม่ได้ต่างกันมากมายอะไร
“มีแล้วค่ะ” เป็นไปตามคาดทัพบกยังเป็นพี่ชายที่น่ารักกับเธอเสมอ ใจดี มีเหตุผล และรับฟังสิ่งที่เธอพูดเสมอแม้บางครั้งเธอพูดความจริงไม่หมดก็ตาม คิดได้ดังนั้นความรู้สึกผิดที่วิ่งเข้ามาในหัวแต่ก็ต้องรีบไล่ความคิดนั้นให้หายไปทันที
[เธอไม่ได้โกหกรดา เธอแค่พูดความจริงไม่หมดแค่นั้นเอง] รดาบอกกับตัวเองในใจก่อนจะไล่ความรู้สึกไม่ดีให้พ้นจากหัวจนหมด
“ส่งมาให้พี่” ทัพบกพูดขึ้นพร้อมกับยื่นมือขวาไปตรงหน้าเด็กสาวและแบมือค้างไว้อยู่อย่างนั้น เพราะก่อนหน้าที่รดาจะเปิดประตูเข้ามาก็ได้รับสายจากน้องชายว่านักศึกษาฝึกงานกำลังเอาเอกสารมาให้เซ็น
“อะไรคะ” รดาถามกลับอย่างงงๆ เพราะแฟ้มเอกสารเธอส่งให้ทัพบกตั้งแต่เข้ามาถึงตอนแรกแล้ว
“โทรศัพท์ พี่จะแอดไลน์และบันทึกเบอร์พี่ให้ใหม่”
พรวด!
“เครื่องนั้นมึงก็มีเบอร์กับไลน์อยู่แล้ว จะบันทึกลงใหม่ทำไม”
ชายหนุ่มร่างสูงเปิดประตูเข้ามาได้จังหวะพอดีจึงพูดขึ้น เพราะเห็นผู้ช่วยเลขาสาวหายไปนานแล้วกลัวจะหลงทางทั้งที่ชั้นบนมีเพียงห้องทำงานอยู่แค่สองห้อง ห้องครัว และห้องประชุมเพียงแค่นั้นจึงเดินออกมาตาม แต่เมื่อเปิดประตูเข้ามาก็ได้ยินว่าทั้งสองกำลังแลกเบอร์และไลน์กันอยู่
ตอนที่16 หลงเสน่ห์เด็กฝึกงานมือเล็กที่กำลังจะส่งโทรศัพท์ในมือให้ชายหนุ่มตรงหน้าจำต้องหยุดชะงักเมื่อเสียงดังเย็นยะเยือกดังแทรกเข้ามา พร้อมกับชายหนุ่มอีกคนที่สูงประหนึ่งกินเสาไฟฟ้าเข้าไปในร่างกายของกองทัพกำลังมุ่งสายตามาที่เธอและทัพบกฟึบ! โทรศัพท์ในมือเล็กโดนฉกมาอยู่ในมือหนาของกองทัพโดยไม่ทันตั้งตัวครืด ครืด ครืด โทรศัพท์ของทัพบกสั่นกระทบกับพื้นโต๊ะทำงานจนเกิดเสียงดัง“นี่ไงเบอร์โทรศัพท์ของเครื่องนี้ ส่วนไลน์ก็ใช้แอคเคาน์เดิมไม่ได้เปลี่ยน..ติ๊ง!” สิ้นคำพูดเสียงแจ้งเตือนไลน์เครื่องของทัพบกก็ดังขึ้นหลังจากสายโทรศัพท์ถูกตัดไปไม่ถึงนาที“รดาใช้โทรศัพท์เครื่องของมึง” ทัพบกถามกลับอย่างไม่ใส่ใจนัก ถึงจะไม่รู้ว่าน้องชายตัวดีรู้จักกับเด็กสาวได้ยังไง แต่ดูจากการแสดงออกว่าหึงหวงขนาดนี้ความสัมพันธ์ของทั้งสองคงไม่ใช่แค่เจ้านายกับเด็กฝึกงานธรรมดา“ก็เห็นแล้ว จะถามอีกทำไม”“งั้นมึงก็เอาคืนไป เดี๋ยวเย็นนี้กูพารดาไปซื้อเครื่องใหม่เอง” นิสัยขี้แกล้งชอบปั่นประสาทน้องชาย ถึงจะผ่านไปหลายปีจนทั้งสองโตเป็นหนุ่มก็ไม่ได้จางหายไปตามอายุและวุฒิภาวะของทั้งสองเลย“ไม่ต้อง! เครื่องนี้กูก็ไม่ได้ใช้อะไรเก็บไว้ก็เสี
บทที่17 คู่หมั้นผับดังย่านทองหล่อตึก ตึก ตึก เสียงรองเท้าหนังกระทบกับพื้นทางเดินดังแทรกแข่งกับเสียงเพลงด้านล่างที่เล็ดลอดขึ้นมาให้ได้ยินยันบริเวณชั้นสามของผับ ซึ่งเป็นชั้นส่วนตัวของเจ้าของผับ“เจ้าภาพวันนี้มาแล้วโว้ย ตรงเวลาเป๊ะไม่ขาดแม้แต่นาทีเดียว” น่านฟ้าพูดขึ้นพร้อมกับยกนาฬิกาเรือนหรูขึ้นดูเวลาเมื่อชายหนุ่มที่กำลังพูดถึงนั้นก้าวขาพ้นขอบประตูเข้ามา“สมแล้วที่มีไอคิวสูงเกือบ 300 ทำอะไรไม่เหมือนคนโง่ปกติทั่วไปแบบพวกกู” นทีพูดเสริมขึ้นพร้อมขยับที่นั่งเพื่อให้ชายหนุ่มที่พึ่งมาถึงกระแทกสะโพกลงนั่งสีหน้าเรียบนิ่ง“ไม่พาเด็กฝึกงานมาด้วยเหรอ” นทีพูดจาเย้าแหย่ยั่วโมโหสนุกปากเมื่อเห็นเพื่อนรักนั่งหน้านิ่งไม่ตอบโต้อะไรยิ่งได้ใจ“จะแดกเหล้าหรือจะแดกฟอร์มาลินแทน” กองทัพที่นั่งนิ่งตั้งแต่เข้ามาถึงตะคอกถามเสียงดุดัน“แค่ปากเสีย ยังไม่ตายและไม่ได้เน่า..ไม่ต้องฉีดฟอร์มาลินไอ้ห่า”“แต่ฉีดเข้าที่ปากมึงก็ดีนะ กูฉีดให้ฟรีไม่คิดเงิน” พูดจาถากถางด้วยสีหน้าเรียบนิ่งพร้อมกับยกแก้วเหล้าตรงหน้าขึ้นกระดกรวดเดียวจนหมดแก้ว“ช่วงนี้งานที่บริษัทยุ่งเหรอวะ วันก่อนกูเข้าไปที่โรงพยาบาลเจอแค่เลขามึงนั่งทำงานหัวหมุน
บทที่18 ปากร้าย“อยากใส่ชุดไหนก็ใส่” กองทัพตอบกลับเสียงเรียบ ก่อนจะหันมามองหน้าหญิงสาวที่พึ่งเข้ามาใหม่ ร่างบางยืนนิ่งถือแฟ้มเอกสารในมือแน่นมองหลบสายตาไปทางอื่น“ขอโทษค่ะ ฉันรีบเลยลืมเคาะประตู” เมื่อตั้งสติได้จึงหันหน้ามาเผชิญหน้ากับชายหนุ่มอีกครั้ง อุตส่าห์ทำใจได้มาในระดับหนึ่งแต่เมื่อเข้ามาเห็นเหตุการณ์แบบนี้หัวใจก็พลันอ่อนแอลง พานให้น้ำตาจ่อไหลออกมา“ไปทานข้าวกับไอ้ทัพบกอร่อยไหม” น้ำเสียงประชดประชันถามขึ้นเสียงดังกว่าปกติ“อร่อยค่ะ นี่ค่ะเอกสารที่คุณกองทัพต้องการ” แฟ้มเอกสารวาระการประชุมถูกวางลงตรงหน้าชายหนุ่มและหมุนตัวเดินกลับออกไปทันที“ทัพบก นิสากลับก่อนนะคะ” นิสาในเสื้อผ้าชุดใหม่เดินออกจากห้องนอนของชายหนุ่ม ขณะที่กองทัพนั่งยีหัวตัวเองอย่างหงุดหงิด สายตามองไปยังประตูห้องที่ปิดสนิทราวกับว่าสามารถมองทะลุเห็นด้านนอกได้“ฉันเดินไปส่ง ขับรถมาเองใช่ไหม”“อือ..เดี๋ยวนี้เก่งแล้วไปไหนก็ไม่ต้องพึ่งใครแล้ว”“ระวังโดนยึดกุญแจรถนะ ถ้าดื้อมาก ๆ”“ใครจะยอม”ร่างสูงสมส่วนฉบับคนชอบออกกำลังกายกระชากตัวลุกจากเก้าอี้เดินนำหญิงสาวที่อยู่ในเสื้อผ้าชุดใหม่ออกไป ระหว่างเดินผ่านหน้าประตูยังไม่วายชำเลือง
ตอนที่19 น้อยใจ“ไปกินข้าวกับมันแค่วันเดียว ต้องชมมันต่อหน้าผมขนาดนี้ไหม” เสียงลมหายใจสูดดังเข้าออกยาวๆ และค่อยๆ กลับเข้าสู่จังหวะปกติ สายตาวาวโรจน์ก่อนหน้าค่อยๆ อ่อนลงเมื่อคนตัวเล็กที่นั่งอยู่ข้างแสดงอาการหวาดกลัวใบหน้าซีดเผือด“ผมขอโทษ” เมื่อได้สติมือหนายื่นไปกุมมือเล็กสองข้างที่กำเข้าหาแน่นมีอาการสั้นเล็กน้อย เหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นบนใบหน้าเมื่อทุกอย่างเย็นลงรวมถึงอารมณ์ของชายหนุ่มเองด้วย รถยนต์คันหรูกลับเข้าสู่ถนนและมุ่งหน้าไปยังคอนโดของเด็กสาว ภายในรถเงียบสนิทมีเพียงเสียงเครื่องยนต์ดังขึ้นขณะที่ชายหนุ่มเร่งความเร็วของรถเพียงแค่นั้นกลางดึกคืนวันศุกร์ ร่างบางนอนบิดเร้าตัวงออยู่บนเตียงเม็ดเหงื่อผุดขึ้นเต็มใบหน้าและรำคอ อาการปวดท้องบิดแรงขึ้นเรื่อยๆ จนตอนนี้เริ่มจะทนไม่ไหว ขนาดทานยาแก้ปวดลงไปสองรอบแล้วอาการก็ยังไม่ทุเลาลง มือเล็กควานหาโทรศัพท์โต๊ะข้างหัวเตียง ตู๊ด..ตู๊ด..ตู๊ด..รดากดโทรศัพท์ต่อสายหาใครบางคนด้วยมือสั่นเทา รอไม่นานปลายทางก็รับสาย “ว่าไงยัยตัวแสบ” ปลายสายตอบกลับมาด้วยถ้อยคำดูสนิทสนม “พี่ทัพบก รดาปวดท้อง” เสียงแผ่วเบาเจือควา
บทที่20 โดนเมิน3 เดือนผ่านไปหลังจากเหตุการณ์วันนั้นรดาก็เว้นระยะห่างกับกองทัพมากขึ้น วางตัวในฐานะเจ้านายกับลูกน้องอย่างเคร่งครัด กองทัพแสดงอาการไม่พอใจเวลาที่ถูกคนตัวเล็กสร้างกำแพงกั้นทุกครั้งที่ตนพยายามเดินเข้าหาแต่เด็กสาวพยายามถอยออก เหมือนขั้วบวกขั้วลบที่อีกคนออกแรงดึงแต่อีกคนออกแรงผลักรดาฝึกงานที่บริษัทGTในตำแหน่งผู้ช่วยเลขาจบครบกำหนด3เดือนตามระเบียบของมหาวิทยาลัย และวันนี้เป็นวันทำงานวันสุดท้ายในฐานะนักศึกษาก่อนที่จะกลับไปนำเสนอวิทยานิพนธ์และทำเรื่องจบการศึกษา“รดาเข้ามาหาผมหน่อย”“ค่ะ” ร่างบางในชุดนักศึกษาถูกระเบียบเปิดประตูเดินเข้ามาหยุดยืนตรงหน้าชายหนุ่มที่มีโต๊ะทำงานกั้นอยู่“เอกสารผ่านฝึกงานของคุณผมเซ็นให้แล้ว” ซองสีน้ำตาลขนาดA4 ถูกยื่นมาตรงหน้าเด็กสาว“ขอบคุณค่ะ” รดาหยิบซองเอกสารขึ้นมาถือไว้ในมือและกำลังเอี้ยวตัวหันหลังกลับก็มีเสียงเรียกเสียงดังขึ้น“เดี๋ยว ผมมีเรื่องจะคุยด้วย”“คะ คุณมีอะไรจะคุยกับหนูเหรอคะ”“เรื่องทำงานต่อที่นี่หลังเรียนจบ ผมจะจ้างคุณทำงานที่นี่ในตำแหน่งเลขาของผมทันทีที่คุณเรียนจบ เงินเดือนก็จ่ายให้ตามความสามารถเดือนละห้าหมื่นบาทพร้อมสวัสดิการต่างๆ ที่
บทที่21 ข้อเสนอรดาเข้ามาทำงานตำแหน่งเลขาของกองทัพอย่างเต็มตัวและรับผิดชอบงานที่บริษัทGT ส่วนเอกเลขาคนเก่าจะรับผิดชอบงานในส่วนของโรงพยาบาลKM กองทัพเริ่มแสดงอาการหึงหวงหญิงสาวมากขึ้น โดยเฉพาะกับพี่ชายอย่างทัพบกที่ชอบเข้าหาและชวนรดาออกไปทานข้าวข้างนอกสองคนบ่อยครั้ง“สวัสดีค่ะ น้องรดา” นิสาสาวสวยที่มีสถานะเป็นคู่หมั้นของกองทัพ เอ่ยทักทายรดาด้วยรอยยิ้มเป็นมิตร“สวัสดีค่ะคุณนิสา” รดาตอบกลับด้วยสีหน้าตกใจเพราะไม่คิดว่าจะเจอหญิงสาวที่นี่อีกครั้งหลังจากเมื่อหลายเดือนก่อนที่เธอมาหากองทัพตอนเที่ยงก็ไม่เคยเจอเธออีกเลย จนมาวันนี้เจอเธออีกครั้งในชุดเดรสตัวสั้นราคาแพงสีดำ“กองทัพอยู่ข้างในใช่ไหมคะ พี่โทรมาตานั่นไม่ยอมรับสายไม่รู้ว่างอนอะไร พี่จึงต้องตามมาง้อถึงที่นี่” นิสาพูดไปด้วยยิ้มหัวเราะไปด้วยราวกับว่าเรื่องที่กำลังเล่าอยู่นั้นเป็นเรื่องสนุก ทั้งที่คนฟังจะจุกที่อกกลั้นน้ำตาแทบไม่ไหว“อยู่ค่ะ เชิญคุณนิสาด้านในค่ะ” รดาลุกจากเก้าอี้เดินไปเปิดประตูให้แขกคนสำคัญของเจ้านาย โดยไม่แจ้งให้คนด้านในทราบก่อนว่ามีแขกมาขอพบ เพราะรดาคิดว่าไม่จำเป็นต้องขออนุญาตเพราะคนที่ยืนอยู่ตรงนี้นั้นเป็นคู่หมั้นของชายหนุ
ตอนที่22 คำถามบนโต๊ะVSคำตอบบนห้อง รดายืนอึ้งกับข้อเสนอของชายหนุ่มไม่คิดว่าคนอย่างกองทัพจะเสนอข้อเสนอแบบนี้ให้กับเธอ การที่ชายหญิงเข้าไปอาศัยอยู่ร่วมชายคาเดียวกันโดยที่ไม่ใช่แฟนกันรดาถึงกับคิดหนัก“ว่าไงรดา คุณยอมรับข้อเสนอของผมหรือเปล่า ถ้าคุณยอมรับผมจะประสานทางโรงพยาบาลให้เตรียมการผ่าตัดให้เร็วที่สุด” เมื่อยังไม่ได้รับคำตอบจากเด็กสาวตรงหน้า กองทัพจึงเพิ่มระดับความกดดันเข้าไปอีกเพื่อกระตุ้นให้รดาตัดสินใจเร็วขึ้น“แล้วหนูต้องทำอะไรบ้างคะ” ก่อนตัดสินใจรดาเองก็อยากรู้ว่าชีวิตเธอต่อจากนี้จะต้องดำเนินต่อไปยังไง ถ้าต้องเข้าไปอยู่กับชายหนุ่มจริงๆ เธอก็อยากรู้สถานะของตัวเอง เพราะกองทัพเองก็มีคู่หมั้นอยู่แล้ว แล้วเขายังพาเธอเข้าไปอยู่ด้วยในฐานะอะไร“ทุกอย่าง” คำตอบที่ไม่มีความชัดเจน ทำให้รดายิ่งคิดหนักเข้าไปอีก นี่เธอต้องเอาตัวเข้าแลกสินะ..รดาได้แต่คิดในใจ“โอเคค่ะ หนูตกลง” เมื่อฟ้าลิขิตชีวิตเธอให้เป็นแบบนี้แล้ว เธอคงไม่มีทางเลือกอื่นที่ดีกว่านี้ ทางนี้อาจเป็นทางออกเดียวและทางออกสุดท้ายของเธอก็เป็นได้ รดาจึงตัดสินใจรับข้อเสนอของชายหนุ่มไป“งั้นผมจะพาไปเก็บของ ส่วนเรื่องแม่คุณสบายใจได
ตอนที่ 23 ทวนความจำ+จ่ายจริงเมื่อชายหนุ่มลุกออกจากโต๊ะหลังจากทานข้าวเสร็จ รดาก็จัดการเก็บถ้วยจานไปล้างในครัวและเช็ดทำความสะอาด ใช้เวลาไม่นานก็แล้วเสร็จตึก ตึก ตึก เสียงสลิปเปอร์ดังตามจังหวะก้าวขึ้นบันได เท้าเล็กค่อยๆ ก้าวสลับกับหยุดนิ่งยืนใช้ความคิด มือเล็กกำราวบันไดแน่น ริมฝีปากบางขบเม้มเข้าหากันจนเกิดรอยแดง รดายืนชั่งใจอยู่นานระหว่างประตูหน้าห้องตัวเองที่ได้สิทธิ์เป็นเจ้าของเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้าและห้องของกองทัพ ก่อนจะตัดสินเคาะประตูห้องที่อยู่ด้านขวาซึ่งเป็นห้องของกองทัพก๊อก ก๊อก ก๊อก“เข้ามาสิ” ยืนรอไม่ถึงหนึ่งนาทีประตูห้องก็เปิดออกจากคนด้านใน รดาค่อยๆ ก้าวเท้าเข้าไปยังเขตห้องของชายหนุ่มและกวาดสายตามองบริเวณรอบๆ ห้องเพียงแค่กองทัพปิดประตู ใจดวงน้อยก็กระตุกวูบราวกับมันไปนอนแช่เย็นอยู่บนพื้น ร่างสูงในชุดนอนขายาวท่อนบนเปลือยเปล่าเดินผ่านหน้าไปคว้าผ้าเช็ดตัวที่แขวนอยู่บนราวอเนกประสงค์มาเช็ดผมที่เปียก มัดกล้ามเรียงสวยตามหน้าท้องแกร่งพานให้คนลอบมองหายใจติดขัดจนลืมไปว่าจุดประสงค์ที่เข้ามาห้องนี้ตั้งแต่ต้นคืออะไร“มานั่งสิ”“คุณหมอไม่ใส่เสื้อให้เรียบร้อยก่อนเหรอคะ” เท้าเล็กก้าวถอย
ตอนที่34 งานแต่งงาน 5 เดือนผ่านไปหลังจากที่ญาดาพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนานนับเดือนก็ได้กลับไปพักฟื้นต่อที่บ้าน จนมาถึงวันนี้ร่างกายเริ่มดีขึ้นใกล้จะกลับมาเป็นปกติเกือบร้อยเปอร์เซ็นทางด้านผู้ใหญ่ของกองทัพก็รับรู้และยินดีที่ลูกชายคนเล็กของบ้านจะมีแฟน ที่สำคัญที่บ้านคุณหมอหนุ่มยังรู้ดีตั้งแต่ต้นว่าลูกชายตัวเองแอบหลงรักเด็กผู้หญิงที่อยู่เมืองไทย เพราะตลอดระยะเวลาที่ชายหนุ่มไปเรียนเมืองนอกกว่าสิบปีไม่เคยมีแฟนเลยสักคน ชีวิตมีแต่เรียนกับสนามแข่งรถ และยังแอบพกรูปเด็กผู้หญิงผมเปียติดตัวตลอดเวลาถึงขนาดใส่กรอบเล็กๆ วางไว้ในห้องนอนการคบหาระหว่างทั้งสองคนอยู่ในการรับรู้และยินดีจากผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่าย แต่มีอีกหนึ่งคนที่จะดีใจมากเป็นพิเศษคงหนีไม้พ้น..ทัพบก ผู้ที่ใฝ่ฝันอยากมีน้องสาวเป็นของตัวเอง และหลงรักเด็กสาวตั้งแต่เจอหน้ากันครั้งแรกเมื่อตอนสั่งอาหารแล้วไรเดอร์สาวขับรถมอเตอร์ไซค์ฝ่าสายฝนที่ตกหนักเพื่อนำอาหารมาส่ง เด็กสาวที่เปียกปอนไปทั่วตัวแต่ก็ยังยิ้มร่า เด็กสาวที่มีรอยยิ้มสดใสให้ทุกครั้งที่เจอกัน เด็กสาวที่อยากได้มาเป็นน้องสาวที่น่ารัก อ้อนเก่ง“รดา อาทิตย์หน้าตารางงานพี่ว่างเราพาคุณแม่ท่าน
ตอนที่33 คำตอบจากแม่ยาย ครืด ครืด ครืด เสียงโทรศัพท์รดาที่วางอยู่โต๊ะข้างหัวเตียงดังขึ้น“สวัสดีครับ” กองทัพหยิบมากดรับสายเมื่อเห็นว่าคนที่โทรเข้ามานั้นคือพี่ชายของเด็กสาว“คุณหมอเหรอครับ”“ครับ ตอนนี้รดาหลับอยู่ครับ คุณธนามีธุระด่วนจะคุยกับรดาไหมครับ ผมจะปลุกเธอให้”“ไม่มีครับ แค่ผมกลับมาที่ห้องพักแล้วไม่เจออยู่ที่นี่เลยโทรหานะครับ”“รดาหลับอยู่ที่ห้องทำงานผมครับ ช่วงเย็นคุณป้าน่าจะย้ายขึ้นมาพักฟื้นที่ห้องนี้นะครับ”“ขอบคุณคุณหมอมากนะครับ ผมไม่รบกวนแล้ว สวัสดีครับ”หลังจากที่วางสายเสร็จกองทัพก็ลุกเดินออกจากห้องไปและลงไปยังชั้นสามเป็นแผนกหัวใจและทรวงอก ห้อง ICU ที่อยู่ติดกับเคาน์เตอร์พยาบาลซึ่งมีคนไข้ชื่อญาดานอนรอดูอาการอยู่หลังการผ่าตัด“คนไข้เป็นอย่างไรบ้างครับ” กองทัพเดินเข้าไปในห้องพร้อมหยิบชาร์จที่เสียบอยู่ที่ปลายเตียงขึ้นมากวาดสายตาอ่าน“ความดันปกติ ชีพจรเต้นคงที่ คนไข้ฟื้นแล้วหลังจากออกจากห้องผ่าตัด ปฏิกิริยาทุกอย่างปกติและพึ่งหลับไปเมื่อสักครู่ค่ะ”“ร่างกายตอบสนองต่อการรักษาดี ช่วงเย็นรายงานอาการให้ผมทราบอีกที ถ้าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงผมจะย้ายคนไข้ขึ้นไปพักฟื้นด้านบน” เหมือนยกภ
ตอนที่32 รางวัลคนเก่ง “รางวัลพี่ล่ะครับ” เมื่อทั้งสองกลับขึ้นมาบนห้องพักส่วนตัวยังไม่ทันที่ประตูปิดสนิทดีคุณหมอหนุ่มก็ทวงถามหารางวัลทันที“รางวัลอะไรของคุณ รีบไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าได้แล้วค่ะมีแต่กลิ่นแอลกอฮอล์” มือเล็กออกแรงผลักตรงหลังให้เดินไปยังห้องน้ำเพราะตอนนี้เธอแทบจะทนดมกลิ่นแอลกอฮอล์ในตัวชายหนุ่มไม่ไหว"นวดไหล่ให้พี่หน่อย ผ่าตัดตั้งหลายชั่วโมง..เมื่อยมาก" ยังไม่ทันที่รดาจะหันหลังออกจากห้องน้ำก็เจอเสียงอ้อนของคุณหมอหนุ่ม“อาบเสร็จแล้วเดี๋ยวหนูนวดให้นะคะ” รดาไม่ได้ปฏิเสธเลยทีเดียวแต่เลือกที่จะยื่นข้อเสนอต่อรองหรือเรียกอีกอย่างว่าการเอาตัวรอด“ต้องแช่น้ำอุ่นแล้วนวดไปด้วยกล้ามเนื้อถึงจะผ่อนคลาย” หลักการทางกายภาพถูกงัดขึ้นมาต้อนเด็กสาวให้จนมุม“เดี๋ยวเสื้อผ้าหนูเปียก ไม่มีชุดใหม่เปลี่ยน”“พี่สั่งให้เอกซื้อมาให้หนูใหม่แล้วสิบชุด อยู่ในตู้” เกมโอเวอร์สุดท้ายรดาก็เป็นฝ่ายแพ้ เดินไปเปิดน้ำอุ่นและผสมสบู่ลงในอ่างกุชชี่ขณะที่กองทัพจัดการถอดเสื้อผ้าออกจนหมดและตอนนี้มีเพียงผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่พันรอบเอว“ว๊าย! คุณจะทำอะไรคะ” เชือกที่ผูกอยู่ที่เอวคอดถูกดึงออกโดยฝีมือของชายหนุ่มที่ตอนนี้ยืนซ้อน
ตอนที่31 หน้าห้องผ่าตัด“ขอโทษครับผมลืมเคาะประตู” ทั้งสองผละออกจากกันอัตโนมัติเหมือนเกิดแรงผลักของประจุไฟฟ้าขั้วบวกกับขั้วบวกหน้าห้องผ่าตัดเจ้าหน้าที่เข็นเตียงผู้ป่วยออกจากห้องพักหลังจากเตรียมความพร้อมก่อนทำการผ่าตัดมายังห้องผ่าตัดแผนกศัลยกรรม หญิงวัย 58 ปีนอนหน้าซีดปากซีดไร้เลือดฝาดอยู่บนเตียงสีหน้าเป็นกังวล“แม่คะ แม่ต้องสู้นะคะหนูกับพี่ธนาจะรอแม่อยู่ด้านนอก คุณหมอเก่งมากแม่ไม่ต้องกังวลนะคะ” มือเรียวเล็กทั้งสองข้างยื่นไปกุมมือผู้เป็นมารดาด้านที่มีสายน้ำเกลือเสียบคาอยู่และอีกข้างก็มีเครื่องวัดออกซิเจนติดอยู่“จ๊ะลูก” ญาดาตอบกลับบุตรสาวเสียงแผ่วใบหน้าฝืนยิ้ม ยกมืออีกข้างมากุมมือบุตรสาวและบุตรชายออกแรงบีบเล็กน้อย“ผมกับน้องรอแม่อยู่ด้านนอกนะครับ” เสียงทุ้มอ่อนนุ่มสั่นเครือเล็กน้อยของชายหนุ่มคนที่ดูแลแม่มาตั้งแต่ผู้เป็นบิดาเสียไป ถึงข้างนอกจะดูเข้มแข็งแต่ข้างในก็แอบกลัวอยู่ไม่น้อยเพราะรู้ถึงสุขภาพร่างกายของผู้เป็นมารดาอย่างดีว่าตอนนี้เข้าขั้นวิกฤตแค่ไหน“ธนาอย่าลืมที่สัญญากับแม่นะลูก” ก่อนเข้าไปด้านในยังไม่ลืมย้ำเตือนบุตรชายคนโตอีกรอบ“ครับแม่ แม่ก็อย่าลืมที่สัญญากับผมไว้นะครับ ว่าแม่
ตอนที่30 สู่ขอไม่เป็นทางการ“รดา พี่เอาหนังสือมาให้เผื่อหนูอยากอ่าน” กองทัพเปิดประตูเข้ามาได้จังหวะได้ยินตอนที่รดาคุยกับพี่ชายพอดี“ถามผมก็ได้ครับ ผมยินดีแสดงความบริสุทธิ์ใจทุกอย่าง” กองทัพเดินเข้าหยุดยืนขนาบข้างเด็กสาว ในมือยังถือหนังสือวารสารด้านธุรกิจของต่างประเทศที่รดาชอบอ่าน ซึ่งเล่มนี้เป็นเล่มใหม่ที่เขาฝากเพื่อนซื้อมาพึ่งส่งมาถึงเมื่อวันก่อน"ความจริงผมก็ไม่อยากยุ่งเรื่องส่วนตัวของพวกคุณหรอกนะครับ แต่ฐานะการใช้ชีวิตของพวกเรากับคุณมันต่างกันมาก” ธนาชี้แจงเหตุผลให้คุณหมอหนุ่มฟังอย่างนอบน้อมและมีเหตุผล“ผมเข้าใจครับ และก็ไม่แปลกใจที่คุณจะเป็นห่วงรดา เราไม่เคยเจอกันหรือรู้จักกันมาก่อน พอเจอกันครั้งแรกผมก็มาแนะนำตัวในฐานะคนรักของน้องสาวคุณ เป็นใครก็ตกใจครับ แต่ผมอยากจะบอกคุณว่าผมกับรดารู้จักกันตั้งแต่ห้าปีก่อนตอนที่ผมยังเรียนแพทย์อยู่ที่โปแลนด์ แค่ขาดการติดต่อกันไปช่วงที่ผมไปต่อfellowที่อเมริกา มาเจอกันอีกครั้งตอนที่รดาเกิดอุบัติเหตุเมื่อสี่เดือนก่อนและได้เรียนรู้กันอย่างจริงจังช่วงที่รดาไปฝึกงานที่บริษัท คุณอาจจะมองว่าระยะเวลามันสั้นแต่เชื่อเถอะครับว่าผมรักเธอจริงๆ ผมรีบทำหน้าที่ของ
ตอนที่29 พบแม่ยายในฐานะแฟนของลูกสาวช่วงสายของอีกวัน“รดาตื่นได้แล้วครับ สายแล้วนะ” กองทัพเดินมาหย่อนสะโพกข้างขอบเตียง เสียงทุ้มนุ่มก้มลงกระซิบข้างหูคนตัวเล็กที่นอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มบนเตียง“อือ..หนูขออีกห้านาที” เสียงครางงึมงำในลำคอ ตาสองข้างยังปิดสนิท“หมดแรงขนาดลุกไม่ขึ้นเลยเหรอ หืม” หนวดเคราที่กำลังขึ้นเป็นตอสีดำเสียดสีกับลำคอใต้ซอกใบหูจนคนที่นอนหลับอยู่รู้สึกจักจี้จากการรบกวน“พี่หมอ หนูขออีกห้านาทีนะคะ” เสียงหวานเอ่ยอ้อนคว้ามือหนาที่วางพาดอยู่บนตัวเข้ามากอดแนบใบหน้า จนกองทัพทำตัวไม่ถูกจำต้องจำยอมตามคำขอและทำได้เพียงนั่งนิ่งๆ รอเวลา“หนูครับ วันนี้พี่จะพาหนูไปเยี่ยมคุณแม่ที่โรงพยาบาล ถ้าไม่ยอมตื่นคุณแม่ท่านจะรอนานเอานะครับ” สิ้นคำพูดรดาก็ดีดตัวลุกขึ้นจากที่นอนทันที“คุณจะพาหนูไปเยี่ยมแม่ที่โรงพยาบาลจริงๆ เหรอคะ” ร่างบางโผเข้ากอดชายหนุ่มอย่างลืมตัว หน้าอกคัพB ใต้เสื้อนอนตัวเล็กเสียดสีกับอกแกร่งจนกองทัพสัมผัสถึงความนุ่มเด้งได้“ถ้ายังอยากไปเยี่ยมแม่ พี่แนะนำให้ปล่อยพี่ก่อนครับ ก่อนที่หนูจะต้องนอนหมดแรงอยู่บนเตียงจนออกไปไหนไม่ได้” เสียงกระท่อนกระแท่นเอ่ยบอกติดๆ ขัด ขณะที่จิตสำนึกกำล
ตอนที่28 มีสติแต่ควบคุมไม่ได้ ติ๊ง! เสียงสัญญาณลิฟต์ดังขึ้นเมื่อขึ้นมาถึงชั้นจุดหมาย ประตูลิฟต์ถูกเปิดออก รดารีบเปิดประตูรถสาวเท้าเดินเข้าห้องทันทีเพราะวันนี้กองทัพเอารถขึ้นมาจอดด้านบนปั้ง! เสียงประตูปิดลงและคุณหมอหนุ่มเดินตามหลังมาติดๆ“หนูหิวน้ำ ขอไปกินน้ำก่อนนะคะ” เท้าเล็กรีบเดินเข้าห้องครัว เปิดตู้เย็นคว้าขวดน้ำขึ้นมาเทใส่แก้วและยกขึ้นดื่มเกือบหมดแก้ว โดยไม่รู้เลยว่าเจ้าของห้องนั้นเดินตามหลังเธอเข้าด้วย“พี่ขอกินด้วยสิ / อ๊ะ!” รดาร้องขึ้นด้วยความตกใจยังกำแก้วในมือแน่น“พี่ขอกินด้วยหน่อย”“เดี๋ยวหนูรินให้ใหม่ค่ะ”“ไม่ต้อง พี่กินกับหนูก็ได้” คำพูดถูกกลืนลงคอไปจนหมด ปากหยักได้รูปก้มลงดูดหยดน้ำที่เกาะอยู่มุมปากจนเกิดเสียงดัง“จ๊วบ! หวาน พึ่งรู้ว่าน้ำยี่ห้อนี้หวานขนาดนี้”กองทัพรั้งท้ายทอยเล็กเข้าประกบจูบอีกครั้ง ครั้งนี้เริ่มลุกล้ำเข้าไปในโพรงปาก ริมฝีปากทำหน้าที่แลกลิ้นกลืนกินน้ำลายซึ่งกันและกันกระโปรงทรงเอถูกดันขึ้นสูงก่อนร่างเล็กจะถูกอุ้มขึ้นนั่งบนโต๊ะหินอ่อนเคาน์เตอร์ครัว แพนตี้สีขาวถูกดึงลงต่ำพอๆ กับใบหน้าคมจังหวะร่างสูงย่อตัวลง ประชิดปลายจมูกกลางใจสาวที่ปิดสนิทลมหายใจอุ่นพ่น
ตอนที่27 สินสอดทองหมั้น สนามแข่ง“เดี๋ยวนี้พกกองเชียร์ติดตัวมาด้วยเหรอวะ” เสียงน่านฟ้าเอ่ยแซวเมื่อกองทัพและรดาเดินเข้ามาที่ห้องพักส่วนตัวข้างสนาม โดยมีน่านฟ้า นที ดิน และนิสานั่งรออยู่ก่อน บนโต๊ะมีแก้วไวน์และขวดไวน์ที่ถูกรินไปเกือบครึ่งขวดวางอยู่ด้วย บ่งบอกว่าทั้งสามหนุ่มนั้นนั่งดื่มกันมาสักพักแล้ว“พี่ดิน พี่นที พี่น่านฟ้า พี่นิสา สวัสดีค่ะ” รดายกมือไหว้ทุกคนอย่างมีมารยาท“สวัสดีครับ น้องรดาคนสวย วันนี้เพื่อนๆ ไม่มาด้วยเหรอครับ” นทีถามขึ้น ส่วนที่เหลือได้แต่พยักหน้าตอบรับ“มาค่ะ เชอรี่กำลังไปรับอิงเอยและกิ่งแก้วอยู่ค่ะ”“เอ้าไอ้หมอ มึงจะยืนอวดความหล่ออีกนานไหม ไม่นั่งล่ะครับ” ดินถามขึ้นพร้อมกับขยับที่นั่งข้างๆ ให้เพื่อน“มึงลุกไปนั่งกับไอ้นที” กองทัพเอ่ยบอกเสียงเรียบ“อะไรของมึงวะ ห่างน้องมันบ้างก็ได้ หวงของแบบนี้เคลียร์ตัวเองเรียบร้อยหรือยังครับ” ดินพูดขึ้นขณะที่ลุกขึ้นและขยับไปนั่งข้างนทีที่ยังมีที่ว่างอยู่อีกหนึ่งที่“ไอ้น่าน กูถอนหมั้นกับเมียมึงอย่างเป็นทางการแล้วนะ”“มึงน่าจะทำตั้งนานแล้ว ตามใจนิสามันอยู่ได้ กูต้องอยู่ในสถานะชู้มาตั้งหลายปี..ไอ้ห่า” น่านฟ้าบ่นออกไปดูไม่จริงจังน
ตอนที่26 ถอนหมั้นอย่างเป็นทางการครืด ครืด ครืด เสียงสั่นของโทรศัพท์กระทบกับพื้นโต๊ะทำงาน“กองทัพไอ้เจเดนมันมาท้าแข่งรถกับมึง มึงจะว่ายังไง” น่านฟ้าเจ้าของสนามแข่งรถชื่อดังพูดขึ้น“กูไม่ว่าง มีงานต้องทำเยอะแยะ” กองทัพปฏิเสธกลับทันที“มันฝากมาบอกมึงว่า ถ้ามึงปฏิเสธแสดงว่ามึงกลัว กลัวว่าจะแพ้มันคาสนามแข่งที่บ้านตัวเอง” ความจริงแล้วคำพูดพวกนี้น่านฟ้าเป็นคนพูดขึ้นเองทั้งหมด เพราะของเดิมพันครั้งนี้คือรถเฟอร์รารี่สีแดงรุ่นพิเศษที่น่านฟ้าอยากได้และหาซื้อมานานแล้ว แต่เนื่องจากรุ่นนี้ผลิตออกมาไม่กี่สิบคันจึงยังหาซื้อไม่ได้สักที“แค่นี้ใช่ไหม กูจะทำงาน”“เฮ้..เฮ้..เฮ้ มึงอย่าพึ่งวางสิ” ยังไม่ทันที่กองทัพจะกดวางสายเสียงร้องห้ามของน่านฟ้าก็ดังขึ้น“ของเดิมพันคืออะไร” กองทัพถามกลับเสียงเรียบราวกับรู้อยู่ก่อนแล้ว“รู้ทันกูตลอด แกล้งโง่บ้างก็ได้”“กี่ทุ่ม”“มึงถามกูอย่างนี้ แสดงว่ามึงรับคำท้าใช่ไหม”“มึงอยากได้ไม่ใช่เหรอ แต่กูขายต่อนะไม่ได้ให้ฟรี”“รุ่นนี้กูอยากได้มานานแล้วแต่หาซื้อไม่ได้สักที”“เฟอร์รารี่สีแดงคันนั้นสินะ มันกล้าเอารถคันโปรดมันมาเดิมพันเลยเหรอวะ” เฟอร์รารี่สีแดงรุ่นลิมิเต็ดที่ผลิตออ