ฉือหว่านตั้งใจพูดแบบนั้น เพราะตอนนี้เธอกับกู้เป่ยเฉินที่บาดเจ็บสาหัสต้องมาติดอยู่ในที่แบบนี้ และสายตาของหลิวว่างก็จ้องเธออย่างไม่เหมาะสมตั้งแต่ต้น เธอจึงจำเป็นต้องระวังตัวให้มากที่สุดแต่กู้เป่ยเฉินกลับไม่ยอมรับสถานะที่เธออ้างแม้แต่น้อย ในสายตาของเขา ฉือหว่านหย่ากับพี่รองของเขาไปแล้ว ยังจะกล้าพูดแบบนี้อีก หน้าไม่อายเอาซะเลยกู้เป่ยเฉินกำลังจะอ้าปากพูดอะไรบางอย่าง แต่ฉือหว่านส่งสายตาดุใส่เขาทันที “หุบปากไปเลย!”พูดจบ เธอก็ยื่นมือไปกดที่แผลของเขาอย่างแรง “ยังไม่ตายอีกเหรอ!”“โอ๊ย! เจ็บ!” กู้เป่ยเฉินเจ็บจนเหงื่อเย็นไหลทั่วใบหน้า “ฉือหว่าน! เชื่อไหมว่าฉันจะฆ่าเธอ!”ทันใดนั้น หมอประจำหมู่บ้านพูดขึ้นว่า “ขาของคนไข้บาดเจ็บสาหัสมาก ผมห้ามเลือดให้ได้แค่ชั่วคราว พรุ่งนี้ต้องส่งเข้าเมืองไปรักษาแล้วครับ”ฉือหว่านส่ายหน้า “ไม่ทันแล้ว ต้องจัดการคืนนี้”หมอถามกลับ “จะให้จัดการยังไง?”ฉือหว่านตอบเพียงสองคำ “ตัดกระดูก”อะไรนะ?ตัดกระดูก!?กู้เป่ยเฉินมองเธอด้วยสายตาตกตะลึง “ฉือหว่าน! เธอจะตัดกระดูกฉัน? เธอจะทำลายขาฉันเหรอ!?”ฉือหว่านมองเขาอย่างเย็นชา “ใช่!”พูดจบ เธอก็หันไปพูดกับหมอ “หมอ ช่
ฉือหว่านใช้ผ้าเช็ดมือให้สะอาด แล้วหันไปมองกู้เป่ยเฉิน “คุณชายกู้ อยากพูดอะไรก็พูดมา แต่อย่าคิดจะพูดคำว่าขอโทษกับฉันเด็ดขาด”กู้เป่ยเฉินตั้งใจจะขอโทษอยู่แล้ว แต่คำพูดนั้นกลับติดอยู่ที่คอเสียงของฉือหว่านเย็นเฉียบ “คุณทำร้ายคนอื่น คำขอโทษแค่คำเดียวมันลบล้างอะไรไม่ได้ เพราะงั้นไม่ต้องพูด ฉันไม่มีวันให้อภัยคุณ”กู้เป่ยเฉิน “…”เขาคือจอมเกเรแห่งไห่เฉิง นอกจากพี่รองก็ไม่เคยมีใครกล้าหักหน้าเขาแบบนี้มาก่อน แต่ฉือหว่านกลับกล้าทำ ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงเอาซะเลย ใบหน้าของกู้เป่ยเฉินมืดครึ้ม“คุณชายกู้ หลับตาพักเถอะ ขาคุณน่าจะรอดแล้ว” ฉือหว่านกล่าวใบหน้าของกู้เป่ยเฉินซีดเซียวอย่างเห็นได้ชัด ร่างกายอ่อนแอเกินกว่าจะทำอะไรได้ตามอำเภอใจ เขาทำได้แค่เชื่อฟังฉือหว่านแล้วหลับตาลงฉือหว่านยื่นมือห่มผ้าให้เขา เธอรู้ดีว่าเขาชอบฉือเจียว คิดว่าฉือเจียวคือซ้อเจียวเจียวของเขา เพราะฉะนั้นที่เขาพูดออกมาแบบนั้น เธอไม่แปลกใจเลย เธอชินแล้วถึงเธออยากจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับกู้เป่ยเฉินอีก แต่เธอก็ทำไม่ได้ เธอข้ามเส้นของตัวเองไปไม่ได้ จรรยาบรรณของหมอ ทำให้เธอไม่อาจปล่อยมือจากคนเจ็บได้ขณะนั้นเอง หลิวว่างเดินเข้ามาในห
ฉือหว่านเดินหนีออกมาหลิวว่างมองตามเงาร่างอ่อนช้อยของเธอ ใบหน้าของเขาพลันมืดครึ้มลงอย่างชัดเจน…ตอนนี้เป็นเวลากลางคืน กู้เป่ยเฉินยังคงนอนหลับหมดสติอยู่ ส่วนฉือหว่านนั้นไม่กล้าหลับตาแม้แต่นิดเดียว เพราะเธอต้องเฝ้าระวังหลิวว่างชัดเจนว่าการอ้างว่าตนแต่งงานแล้วไม่ได้ช่วยทำให้หลิวว่างเลิกล้มความคิดสกปรกนั้นเลยสักนิด เขายังคงจ้องมองเธอด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ไม่เลิกราเธอไม่กล้านอน เพราะเธอรู้ว่าทั้งเธอและกู้เป่ยเฉินอาจตกอยู่ในอันตรายได้ทุกเมื่อฉือหว่านนั่งอยู่คนเดียวที่หน้าประตู กลางดึกของหมู่บ้านบนภูเขาเงียบสงบจนเกือบวังเวง มันเงียบเสียจนเหมือนโลกทั้งใบหยุดนิ่งหลังหิมะหยุดตก บรรยากาศในหมู่บ้านยิ่งเย็นยะเยือกไปทั่ว เหมือนเธอถูกทิ้งไว้ที่ปลายสุดของโลกใบนี้ร่างกายของฉือหว่านหนาวจนสั่น เธอรู้สึกถึงความผิดปกติในร่างกาย ตัวเริ่มร้อนราวกับจะเป็นไข้หลังจากแช่น้ำทะเลเย็นเฉียบอยู่นาน แม้แต่ร่างกายแข็งแรงอย่างเธอก็แทบจะทนไม่ไหวฉือหว่านได้แต่หยิกฝ่ามือตัวเอง เพื่อไม่ให้ตัวเองหลับไป เพราะเธอรู้ดีว่านี่ไม่ใช่ที่ที่ปลอดภัยในความมืดเงียบ เธอเผลอคิดถึงฮั่วซือหานขึ้นมา ตอนนี้เขากำลังทำอะไรอยู่?
ฉือหว่านเงยหน้าขึ้น เห็นว่าเป็นกู้เป่ยเฉินชายหนุ่มที่หลับอยู่ลืมตาตื่นทันทีที่ได้ยินเสียงวุ่นวาย เขากระโดดลงจากเตียงแล้วกระชากตัวหลิวว่างออกจากร่างของฉือหว่านหลิวว่างซึ่งกำลังคลุ้มคลั่งด้วยไฟราคะ ไม่ทันตั้งตัวเลยเซล้มไปกระแทกกับผนังใบหน้าของกู้เป่ยเฉินซีดขาว แต่อารมณ์กลับแข็งกร้าวและเย็นเฉียบ เขาหันมามองฉือหว่าน “เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม?”ฉือหว่านส่ายหน้า “ไม่เป็นไร”เขาจึงเบนสายตาไปยังหลิวว่าง มือกำแน่นจนเส้นเลือดปูด “ไอ้สารเลว!”หลิวว่างที่โดนขัดจังหวะกลางคัน หน้าก็ยิ่งบูดบึ้ง เขาตวาดลั่น “ฉันเป็นคนช่วยพวกแกไว้เองนะ ถ้าไม่มีฉัน ขาแกก็พิการไปแล้ว! แกยังกล้าว่าฉันอีก?”“ตอบแทนฉันหน่อยจะเป็นไรไป? ผู้หญิงคนนี้ก็ไม่ใช่สาวบริสุทธิ์ซะหน่อย แต่งงานแล้วไม่ใช่เหรอ? จะนอนกับผู้ชายสักคนหรือสิบคนมันก็เหมือนกัน!”คำพูดของเขาทั้งหยาบคายและไร้ยางอายสิ้นดีกู้เป่ยเฉินโกรธจนเลือดขึ้นหน้า เส้นเลือดปูดทั่วแขน เขาเงื้อหมัดใส่หลิวว่างทันทีหลิวว่างก็ไม่ยอมแพ้ เขาจ้องกู้เป่ยเฉินเขม็ง พอกู้เป่ยเฉินพุ่งเข้ามา ทั้งสองก็เข้าต่อสู้กันอย่างดุเดือดฉือหว่านรีบลุกขึ้นยืน มองภาพตรงหน้าด้วยหัวใจที่เต้นรัว
“ฉันเห็นว่าด้านนอกมีสมุนไพรอยู่ เดี๋ยวจะออกไปเก็บ นายพักผ่อนก่อนเถอะ”ฉือหว่านพูดพลางเก็บกล่องปฐมพยาบาล จากนั้นก็เดินออกไปตอนมาถึง เธอสังเกตภูมิประเทศโดยรอบไว้แล้ว ที่นี่มีสมุนไพร เธออาจใช้มันทำยาช่วยให้หลิวว่างความจำเสื่อมได้ฉือหว่านย่อตัวลงเริ่มเก็บสมุนไพร แต่ทันใดนั้นเธอก็ได้ยินเสียงฝีเท้าอยู่ข้างหลัง พอหันไปดู ก็เห็นว่าคือกู้เป่ยเฉินกู้เป่ยเฉินตามมาฉือหว่านเอ่ยอย่างแปลกใจ “นายตามมาทำไม? นายเสียเลือดไปเยอะ ควรจะรีบพักผ่อนนะ”กู้เป่ยเฉินยืนอยู่ มองเธอจากมุมสูง ใบหน้าเล็กเรียวสวยแม้จะสวมเสื้อผ้าหยาบของชาวบ้าน แต่ก็ยังไม่อาจบดบังความงามอันสง่างามราวเทพธิดาได้ “ฉันว่าฉันตามมาเถอะ กลัวว่าจะมีหลิวว่างคนที่สองโผล่มาอีก”ฉือหว่านยิ้มมุมปากอย่างจริงจัง “ฉันกับพี่นายหย่ากันแล้ว ต่อให้ฉันมีอะไรกับผู้ชายคนอื่นก็ไม่เรียกว่านอกใจ ไม่ต้องตามฉันก็ได้”กู้เป่ยเฉินเม้มริมฝีปาก “ไม่ใช่เพราะพี่ฉัน”ฉือหว่านมองเขา กู้เป่ยเฉินหน้าตาหล่อเหลาจริงๆ ในฐานะทายาทคนเดียวของตระกูลกู้ในไห่เฉิง ชีวิตของเขาก็เหมือนเจ้าชายในวังทองคำแม้ตอนนี้จะดูซอมซ่อ มีบาดแผลทั้งที่ขาและแขน ใบหน้าซีดเซียว แต่ความหล่อ
กู้เป่ยเฉินเคยคบผู้หญิงมาหลายคน กอดเอวก็แล้ว ทำอะไรลึกซึ้งกว่านั้นก็เคยแต่จู่ๆ พอได้โอบเอวของฉือหว่าน หัวใจเขากลับเต้นแรงอย่างไม่เป็นธรรมชาติแต่ตอนนี้เขาไม่มีเวลามาคิดเรื่องพวกนี้ รีบเขย่าร่างเธอเบาๆ พร้อมเรียก “ฉือหว่าน เธอเป็นอะไรไป?”ทันใดนั้นเขาก็สัมผัสได้ว่า หน้าผากของเธอร้อนจัด อุณหภูมิร่างกายก็ผิดปกติ เธอกำลังเป็นไข้สูงมันช่างเหมือนคำว่า เคราะห์ซ้ำกรรมซัด ไม่ผิดเพี้ยนฉือหว่านลืมตาขึ้นช้าๆ เธอพยายามลุกขึ้น “ฉันไม่เป็นไร”“ยังจะบอกว่าไม่เป็นไรอีก? เธอเป็นไข้สูงเลยนะ เดินยังไม่ไหวแน่ เดี๋ยวฉันอุ้มเธอกลับไป”ฉือหว่านมองไปที่ขาขวาของเขาที่บาดเจ็บ “นายจะอุ้มฉันไหวเหรอ?”กู้เป่ยเฉิน “…”กู้เป่ยเฉินรู้สึกเหมือนโดนตบหน้าเขาเนี่ยนะ จะอุ้มผู้หญิงตัวแค่นี้ไม่ไหว? ดูยังไงเธอก็ไม่ถึง 45 กิโล!เห็นเขาทำหน้าเหวอ ฉือหว่านก็หัวเราะน้อยๆ แล้วเดินกลับเข้าไปในบ้านเองกู้เป่ยเฉินเดินตามเธอกลับไปเงียบๆฉือหว่านเอาสมุนไพรมาบด จากนั้นก็ยัดใส่ปากหลิวว่างไป ก่อนจะกินสมุนไพรลดไข้เองเล็กน้อยกู้เป่ยเฉินมองเธอ เธอยังคงทำโน่นทำนี่ไม่หยุด ทั้งที่ร่างกายอ่อนแอแทบยืนไม่ไหว เธอก็ยังฝืนลากสังขาร
ฉือหว่านสั่นเทาอยู่ในอ้อมกอดของเขากู้เป่ยเฉินยกแขนขึ้นกอดเธอแน่นขึ้นอีก “ฉือหว่าน อดทนไว้นะ เดี๋ยวมันก็จะดีขึ้นแล้ว”…ทางด้านของฮั่วซือหาน หลังจากที่ฉือหว่านหายตัวไป เขาก็สั่งระดมคนออกตามหาโดยทันทีในเวลาไม่นาน เลขาจ้าวก็นำภาพจากกล้องวงจรมาส่งให้เขา “ท่านประธาน พบแล้วครับ คุณฉือหว่านกับคุณชายกู้ขึ้นเรือยอชต์ลำเดียวกันไป”ฮั่วซือหานมองภาพจากกล้องวงจรปิด เห็นกู้เป่ยเฉินขึ้นเรือยอชต์ ส่วนฉือหว่านขึ้นไปก่อนแล้วใบหน้าหล่อเหลาเย็นเยียบราวกับน้ำแข็งจนแทบหยดน้ำออกมาได้ “กู้เป่ยเฉินมาที่เวยไห่ได้ยังไง?”ไม่มีใครรู้ว่ากู้เป่ยเฉินมาที่เวยไห่ตั้งแต่เมื่อไหร่เลขาจ้าวพูดต่อ “ท่านประธาน ผมเดาว่าคุณชายกู้น่าจะตามคุณฉือหว่านมา”“แล้วเจอเรือยอชต์ลำนั้นหรือยัง?”“ส่งคนไปตามหาที่ทะเลแล้วครับ แต่เรือยอชต์ลำนั้นระเบิดกลางทะเลแล้วครับ”ฮั่วซือหานลุกพรวดจากเก้าอี้ “อะไรนะ? ระเบิด?”เลขาจ้าวพยักหน้า “ใช่ครับ มีคนวางระเบิดบนเรือยอชต์”ขณะนั้นเอง ฉือเจียวก็เดินเข้ามา “ซือหาน ระเบิดนั่นต้องเป็นฝีมือของเป่ยเฉินแน่ เขาคงอยากฆ่าฉือหว่าน ฉันรู้ว่าเขาเกลียดฉือหว่านมาก แต่นึกไม่ถึงว่าเขาจะโหดเหี้ยมขนาด
ฮั่วซือหานพาเลขาจ้าวและทีมงานเข้ามาในหมู่บ้านผิงซี เขาเห็นชาวบ้านกลุ่มหนึ่งจึงรีบเดินเข้าไปถาม “สวัสดีครับ ขอถามหน่อย วันนี้มีคนแปลกหน้าเข้ามาในหมู่บ้านสองคนหรือเปล่า?”ชาวบ้านมองเขาด้วยสายตาระแวดระวัง “พวกคุณเป็นใคร? มาทำอะไรที่นี่?”ฮั่วซือหานตอบอย่างสุภาพ “พวกเรามาตามหาคนครับ”ทันทีที่ได้ยินแบบนั้น ชาวบ้านก็ส่ายหน้าแทบจะพร้อมกัน “ไม่มีใครเข้ามาที่นี่ทั้งนั้น หมู่บ้านเรารับแต่คนใน อย่ามาวุ่นวาย รีบออกไปซะเถอะ”แล้วชาวบ้านก็เริ่มออกปากไล่ฮั่วซือหานเลขาจ้าวกำลังจะอธิบาย “พวก…”แต่ฮั่วซือหานยกมือห้ามไว้ “ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณมาก พวกเราจะไปเดี๋ยวนี้แหละ”เขาหันหลังกลับอย่างไม่ลังเลเลขาจ้าวเดินตามอย่างมึนงง “ท่านประธาน ทำไมเราต้องถอยล่ะครับ? ผมรู้สึกว่าคุณฉือหว่านกับคุณชายกู้ต้องอยู่ในนั้นแน่ๆ!”แววตาเฉียบคมของฮั่วซือหานเหมือนเหยี่ยวล่าเหยื่อ “ไม่ใช่แค่รู้สึก ฉันมั่นใจว่าพวกเขาอยู่ในนั้นแน่นอน”“แล้วเราจะออกมาทำไมล่ะครับ?”“เมื่อกี้นายไม่เห็นเหรอ? ชาวบ้านที่นี่ต่อต้านคนนอกอย่างชัดเจน ฉันเห็นมีคนกลับเข้าไปเรียกคนแล้วด้วย ตอนนี้เราคนน้อย อยู่ในพื้นที่ของเขา ถ้าปะทะขึ้นมาจะไม่คุ้
เย่ฮวนเอ่อร์รู้สึกว่าปลายจมูกอุ่นวาบขึ้นมา เธอยกมือแตะดู ก็พบว่าเลือดกำเดาไหลอีกแล้ว“อ๊ะ ฉันเลือดกำเดาไหลอีกแล้ว!”เฉินจิ้นรีบคว้าทิชชู่มายัดใส่จมูกเธอ “เงยหน้าขึ้น”เย่ฮวนเอ่อร์เงยหน้า “ทำไมพอฉันอยู่กับนายถึงชอบเลือดกำเดาไหลตลอดเลยเนี่ย?”เฉินจิ้นมองเธอแวบหนึ่ง “โอเคแล้ว”เย่ฮวนเอ่อร์มองเขา “นายไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ?”เขาจะพูดอะไรได้ล่ะ?เฉินจิ้นไม่พูดอะไรเลย หันหลังจะเดินออกไปเขากำลังจะเมินเธออีกแล้วเย่ฮวนเอ่อร์ขวางหน้าเขาไว้ แล้วยื่นยาในมือให้ “อันนี้ให้นาย”“อะไร?”เย่ฮวนเอ่อร์ชี้ไปที่ไหล่ของเขา ตอนนี้ตรงไหล่ของเขาแดงอยู่ “วันนี้นายแบกถุงปูนซีเมนต์ตั้งเยอะ ไหล่นายแดงหมดเลย ใช้ทาวันละสองครั้ง จะได้ไม่ปวดเมื่อย”เฉินจิ้นมองเธอแวบหนึ่ง ไม่พูดอะไรเย่ฮวนเอ่อร์ “รับไปสิ”เฉินจิ้นยื่นมือมารับยาจากมือเธอเขากลับจับทั้งยาและมือเธอพร้อมกัน เขาคว้ามือเล็กๆ ของเย่ฮวนเอ่อร์ไว้แล้วดึงแรงๆ ทำให้เธอเซเข้าไปในอ้อมอกของเขาโดยไม่ทันตั้งตัวเย่ฮวนเอ่อร์เงยหน้ามองเขา ใบหน้าหล่อคมของเขาอยู่ใกล้แค่เอื้อม เขาเพิ่งอาบน้ำเสร็จ ผมเกรียนเปียกชื้น ทำให้ดูเด็กลงและมีเสน่ห์แบบเด็กหนุ่มมากขึ้น
“ดูเหมือนฟ้าจะได้ยินคำอธิษฐานของฉัน แป๊บเดียวก็ผ่านมาแล้วสี่ปี อาจิ้นโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ฉันก็รู้ว่าตัวเองเหลือเวลาไม่มาก ฮวนเอ่อร์ ฉัน...ยังเหลือเวลาอีกเท่าไหร่?”ดวงตากลมโตของเย่ฮวนเอ่อร์ฉ่ำไปด้วยน้ำตา “คุณน้ายังเหลือเวลาประมาณสองเดือนค่ะ”แม่เฉินพึมพำเบาๆ “สองเดือน...ฉันคงไม่ได้เห็นเหมียวเหมี่ยวสอบเข้ามัธยมปลายแล้วล่ะ”เย่ฮวนเอ่อร์รีบกุมมือแม่เฉินแน่น “คุณน้าไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ฉันให้หัวหน้าหลิวจัดยาที่ดีที่สุดให้คุณแล้ว พวกเราจะพยายามยืดเวลาออกไปให้ได้มากที่สุดค่ะ”แม่เฉินหันหน้าไปทางเย่ฮวนเอ่อร์ “ฮวนเอ่อร์ คราวนี้ที่ฉันได้เข้าโรงพยาบาลก็เพราะเธอช่วยไว้ พวกเราติดหนี้เธอหนึ่งบุญคุณเลยล่ะ บ้านเราอาจจะจนหน่อย แต่ไม่ชอบเป็นหนี้ใคร ฉันจะออกจากโรงพยาบาลวันนี้ ไม่อยากรบกวนเธออีกแล้ว”“คุณน้า...”เย่ฮวนเอ่อร์รู้ดีว่าเธอไม่มีทางเปลี่ยนใจแม่เฉินได้ แม่เฉินก็เหมือนเฉินจิ้น มีความภูมิใจในตัวเองอยู่ในกระดูกเย่ฮวนเอ่อร์จึงไม่พูดอะไรอีก แต่เธอจะช่วยอย่างลับๆ ยานำเข้าจากต่างประเทศนอกจากจะช่วยลดความเจ็บปวดของแม่เฉิน ยังช่วยให้เธอมีเวลาเพิ่มขึ้นได้อีกเล็กน้อย“ฮวนเอ่อร์ เรื่องสุขภาพของฉัน อย่
น้าหวังหัวเราะก่อนจะใช้นิ้วจิ้มหน้าผากของเฉินเหมียวเหมี่ยว “พี่ชายของหนูรักหนูที่สุดแล้วนะ ส่งหนูเข้าเรียนโรงเรียนมัธยมต้นที่ดีที่สุด เขาจะยอมให้หนูกลายเป็นสาวโสดอยู่เป็นเพื่อนเขาได้ยังไงล่ะ”เฉินเหมียวเหมี่ยวหัวเราะคิกคักขณะนั้นเย่ฮวนเอ่อร์ก็เดินเข้ามาเฉินเหมียวเหมี่ยวทักด้วยความดีใจ “พี่ฮวนเอ่อร์!”น้าหวังลุกขึ้นยืน “หนูฮวนเอ่อร์ ได้ผลตรวจแล้วใช่ไหม?”ขอบตาของเย่ฮวนเอ่อร์ที่ขาวใสแดงเรื่อ เธอพยักหน้า “ได้มาแล้วค่ะ”เฉินเหมียวเหมี่ยวถามอย่างร้อนใจ “พี่ฮวนเอ่อร์ แม่หนูเป็นอะไร แม่ป่วยเหรอ?”เย่ฮวนเอ่อร์มองไปที่แม่เฉินซึ่งนอนอยู่บนเตียง แต่ไม่พูดอะไรน้าหวังเห็นว่าบรรยากาศไม่ปกติ จึงรีบพูดขึ้น “เหมียวเหมี่ยว ไปกับป้าแป๊บนึง ป้ามีเรื่องอยากจะคุยกับหนู”เฉินเหมียวเหมี่ยวไม่สงสัยอะไร “ได้ค่ะ”น้าหวังพาเฉินเหมียวเหมี่ยวออกไปตอนนี้ในห้องผู้ป่วยเหลือเพียงเย่ฮวนเอ่อร์กับแม่เฉิน เย่ฮวนเอ่อร์นั่งลงข้างเตียง มองดูแม่เฉินแม่เฉินสวมเสื้อผ้าที่สะอาด เสื้อผ้าดูเก่าและซีดจากการซักมานานหลายปี แต่ก็ยังสะอาดเรียบร้อย ผมสีดอกเลาครึ่งหัวถูกรวบขึ้นอย่างเรียบร้อย ใบหน้าแม่เฉินดูอ่อนโยนและสงบนิ
เย่ฮวนเอ่อร์ยิ้มมุมปาก “หนูเกรงว่าจะรบกวนคุณน้า ก็เลยไปหาเฉินจิ้นที่โรงเรียนค่ะ”แม่เฉินยิ้มอย่างมีความสุขขณะนั้นหัวหน้าหลิวก็เดินเข้ามา เย่ฮวนเอ่อร์จึงเดินออกไปในห้องทำงานของหัวหน้า หัวหน้าหลิวยื่นผลตรวจให้เย่ฮวนเอ่อร์ “คุณหนูหลิน ผลการตรวจของคนไข้ออกแล้วครับ”เย่ฮวนเอ่อร์ถาม “ผลเป็นยังไงบ้างคะ?”หัวหน้าหลิวส่ายหน้า “เป็นมะเร็งระยะสุดท้ายแล้วครับ”อะไรนะ?เย่ฮวนเอ่อร์อึ้ง “มะเร็งระยะสุดท้าย? คุณหมอคงไม่ได้เช็คพลาดใช่ไหมคะ สุขภาพของแม่เฉินแข็งแรงมาโดยตลอดเลยนะ”“ไม่ผิดแน่นอนครับ คนไข้น่าจะเป็นมะเร็งมาตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อนแล้ว เธอรู้อยู่แก่ใจแต่ไม่ได้รับการรักษาและไม่ได้บอกใคร ตอนนี้เซลล์มะเร็งแพร่กระจายไปถึงหัวใจและสมองแล้ว คนไข้คงเหลือเวลาอีกประมาณสองเดือนครับ”เย่ฮวนเอ่อร์ทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ทันที เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าแม่เฉินจะเหลือเวลาอีกเพียงสองเดือนทำไมถึงไม่บอก ทำไมถึงไม่ยอมรักษา?เฉินจิ้นกับเฉินเหมียวเหมี่ยวยังไม่รู้เรื่องนี้เลย…………ในห้องพักคนไข้ เพื่อนบ้านน้าหวังกับเฉินเหมียวเหมี่ยวอยู่เป็นเพื่อนแม่เฉิน เฉินเหมียวเหมี่ยวเทน้ำอุ่นใส่แก้ว “แม่ ดื่มน้ำค่ะ”
เย่ฮวนเอ่อร์กำลังจะวิ่งตามเฉินจิ้นไปแต่จ้าวอี้คว้าข้อมือเธอไว้ทันที “เธอจะวิ่งตามเขาไปทำไม ห้ามไป!”เย่ฮวนเอ่อร์สะบัดมือเขาออกอย่างแรง “ทะเลยังไม่กว้างเท่าความสาระแนของนายเลย!”เธอรีบวิ่งตามเฉินจิ้นไปจ้าวอี้กำหมัดแน่นด้วยความโกรธ…………เย่ฮวนเอ่อร์ตามเฉินจิ้นมาถึงโรงพยาบาลเล็กแห่งหนึ่ง แม่เฉินนอนอยู่บนเตียงคนไข้สีขาว ยังไม่ฟื้นเฉินเหมียวเหมี่ยวยืนร้องไห้ไม่หยุด ใบหน้าซีดขาวด้วยความตกใจ ข้างกายมีคุณป้าข้างบ้านคอยปลอบเฉินจิ้นรีบเดินเข้าไป “เหมียวเหมี่ยว!”“พี่!” เฉินเหมียวเหมี่ยวตัวผอมบาง โผเข้ากอดเฉินจิ้นทันที น้ำตาไหลไม่หยุด “พี่ รีบไปดูแม่หน่อย แม่ไม่ตื่นเลย ฮือๆ”เฉินจิ้นปลอบน้องสาวอยู่สองสามคำ จากนั้นมองไปยังแม่บนเตียง “แม่!”แม่เฉินไม่มีปฏิกิริยาคุณป้าข้างบ้านพูดขึ้น “เฉินจิ้น พวกเธอรีบพาแม่ไปโรงพยาบาลใหญ่นะ หมอที่นี่เพิ่งมาตรวจ บอกว่าต้องรีบไปตรวจที่โรงพยาบาลใหญ่ ห้ามช้า แต่ตอนนี้เตียงในโรงพยาบาลใหญ่ก็หายาก แถมยังไม่รู้ว่าคุณหมอคนไหนเก่งด้วย แบบนี้จะทำยังไงดีละลูก”คุณป้าถอนหายใจ เธอรู้ว่าพ่อเฉินจิ้นเสียไปนานแล้ว ตอนนี้เฉินจิ้นต้องดูแลทั้งแม่และน้องสาวเคราะห์ซ้ำกร
เย่ฮวนเอ่อร์เดินมาอยู่ข้างๆ เฉินจิ้น พยายามจะหยุดเกมบ้าๆ นี้ “เฉินจิ้น นายไม่ต้องเล่นเกมของจ้าวอี้นะ มันอันตรายต่อร่างกายมาก ถ้านายต้องการเงินจริงๆ ฉันสามารถ…”เฉินจิ้นหันมามองเย่ฮวนเอ่อร์แวบนึง เย่ฮวนเอ่อร์ก็รีบเงียบลงทันทีเธอไม่ได้ตั้งใจพูดแบบนั้น เธอแค่ไม่อยากให้เขาทำร้ายร่างกายตัวเองเฉินจิ้นหันไปพูดกับหัวหน้าคุมงาน “เริ่มได้เลยครับ”หัวหน้าคุมงานยกถุงปูนทีละถุงขึ้นวางบนไหล่ของเฉินจิ้น ไม่นานก็ครบแปดถุงหัวหน้าคุมงานเพิ่มถุงที่เก้า กับถุงที่สิบขึ้นมาอีกจ้าวอี้ดูอย่างเมามัน เขาตบมือแล้วร้อง “โอ้โฮ เฉินจิ้น นึกไม่ถึงว่านายจะทุ่มขนาดนี้เพื่อเงิน หนึ่งพัน สองพัน”จ้าวอี้โยนเงินสองพันบาทลงพื้นหัวหน้าคุมงานวางถุงที่สิบเอ็ด และถุงที่สิบสอง“สามพัน สี่พัน”จ้าวอี้ยังคงโยนเงินลงบนพื้นถุงปูนสิบสองถุงเพิ่มขึ้นบนไหล่ของเฉินจิ้น ใบหน้าของเขาไม่แสดงอารมณ์ แต่เหงื่อที่หน้าผากหยดลง “แปะ แปะ” เปียกไปทั่วชุดทำงานเย่ฮวนเอ่อร์อยากจะห้าม แต่ไม่ว่าจะพูดยังไงก็ดูจะผิดไปหมด ได้แต่ยืนดูด้วยสายตากังวลหัวหน้าคุมงานทนไม่ไหว “เฉินจิ้น ถ้านายไม่ไหวแล้วก็บอกนะ”เฉินจิ้นไม่พูดอะไรหัวหน้าคุมง
จ้าวอี้กำหมัดแน่น “เย่ฮวนเอ่อร์ เธอโดนเฉินจิ้นเล่นของใส่รึเปล่า?”“งั้นก็ไม่เกี่ยวกับนาย!”จ้าวอี้เท้าเอว หัวเราะอย่างโมโห “ได้ งั้นเรื่องของฉันก็ไม่เกี่ยวกับเธอ ตอนนี้ฉันจะไปหาเฉินจิ้น”จ้าวอี้หมุนตัวแล้วเดินไปทางเฉินจิ้นทันทีเย่ฮวนเอ่อร์สีหน้าเปลี่ยนไปทันที รีบยื่นมือไปดึงจ้าวอี้ “จ้าวอี้ นายจะทำอะไร? ที่นี่คือสถานที่ทำงานของคนอื่น นายมีสิทธิ์อะไรไปก่อกวนเขา?”ขณะนั้นหัวหน้าคุมงานของไซต์รีบวิ่งมาหอบหายใจ พยักหน้าคำนับต่อหน้าจ้าวอี้ “คุณชายจ้าว ท่านมาที่นี่ได้ยังไงครับ ที่นี่สกปรกมาก เดี๋ยวจะเปื้อนเสื้อผ้าท่าน วันนี้คุณชายมาสำรวจงานเหรอครับ?”เย่ฮวนเอ่อร์ตกใจจ้าวอี้หันมามองเย่ฮวนเอ่อร์ ยิ้มมุมปาก “จริงสิ ลืมบอกเธอไป ตึกตรงนี้เป็นโครงการของบ้านฉัน เป็นไซต์งานของบ้านฉัน ฉันมาดูงานมันผิดตรงไหนล่ะ”เย่ฮวนเอ่อร์เกือบลืมไปว่าตระกูลจ้าวทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่นี่เป็นโครงการหนึ่งของพวกเขาเฉินจิ้นดันบังเอิญมาทำงานที่พื้นที่ของตระกูลจ้าวพอดีจ้าวอี้หันไปพูดกับหัวหน้าคุมงาน “ได้ยินว่าที่นี่มีคนชื่อเฉินจิ้นเหรอ?”หัวหน้าคุมงาน “ใช่ครับ”“เรียกเขามาหน่อยสิ”หัวหน้าคุมงานตะโกนเสียง
ได้ยินคำพูดนั้น เย่ฮวนเอ่อร์ก็หยุดดิ้น เธอขึ้นไปนั่งที่เบาะข้างคนขับของรถเฟอร์รารีแต่โดยดีจ้าวอี้กลับมานั่งที่เบาะคนขับ สีหน้าเย็นชา “เย่ฮวนเอ่อร์ เธอสนใจเฉินจิ้นขนาดนั้นเลยเหรอ?”ตอนแรกไม่ยอมขึ้นรถเขา แต่พอเพื่อเฉินจิ้นกลับยอมขึ้นทันทีเย่ฮวนเอ่อร์เงยหน้ามองจ้าวอี้ “จ้าวอี้ นายรู้ไหมว่านายตอนนี้มันแปลกมาก?”จ้าวอี้อึ้ง“ฉันก็ยกฮั่วเสวียนให้นายไปแล้ว ตอนนี้แฟนนายคือฮั่วเสวียนเธอหน้าอกใหญ่ เอวเล็ก เป็นนักเต้นบัลเล่ต์ นายก็ชอบผู้หญิงสไตล์นั้นไม่ใช่เหรอ นายควรจะติดอยู่กับเธอสิทำไมนายยังต้องตามวุ่นวายกับฉันอีก?”จ้าวอี้กำพวงมาลัยแน่น “ฉัน……”“จ้าวอี้ อย่าบอกฉันนะว่านายหลงรักฉันเข้าแล้ว”เห็นสายตาเย่ฮวนเอ่อร์ที่เต็มไปด้วยการเย้ยหยันและดูถูก จ้าวอี้ก็โกรธจนพูดไม่ออก เขาหัวเราะเยาะ “หลินเสี่ยวเยา อย่ามโนไปเองนักเลยฉันจะไปหลงรักเธอได้ยังไง?”“งั้นก็ดี”เย่ฮวนเอ่อร์ไม่ต้องการความรักของเขาเลย ความรักที่มาช้า มันไร้ค่าเสียยิ่งกว่าหญ้า!จ้าวอี้รู้สึกว่าตัวเองแค่มีความรู้สึกอยากครอบครอง เพราะตอนแรกเย่ฮวนเอ่อร์วิ่งตามเขาแต่ตอนนี้กลับเปลี่ยนใจไปชอบเฉินจิ้นแทน ยิ่งเฉินจิ้นเป็นศัตรูของเขาด้
เย่ฮวนเอ่อร์หันหลังเดินจากไปทันทีฮั่วเสวียน “……”ตอนนั้นเอง จ้าวอี้ก็เดินก้าวเข้ามาขวางทางเย่ฮวนเอ่อร์ “เย่ฮวนเอ่อร์ เธอชอบเฉินจิ้นจริงๆ เหรอ?”เย่ฮวนเอ่อร์พยักหน้า “ใช่แล้ว”จ้าวอี้ยังไม่เชื่อ “เป็นไปไม่ได้ เธอจะไปชอบเฉินจิ้นคนนั้นได้ยังไง? เธอต้องแกล้งทำเพื่อยั่วฉันใช่ไหม เย่ฮวนเอ่อร์ ฉันไม่คิดเลยว่าเธอก็ใช้มารยาหญิงเพื่อดึงความสนใจฉันเหมือนกัน!”เย่ฮวนเอ่อร์รู้สึกหมดคำจะพูด “จ้าวอี้ ฟังให้ดีนะ ฉันกับนายจบกันไปนานแล้ว ตอนนั้นพวกเรายังเด็กฉันยอมรับว่านายใช้ฉันแล้วไปมีคนอื่นแต่เอาเข้าจริง ฉันก็ไม่ได้รักนายแบบชายหญิงเลยด้วยซ้ำตอนนี้คนที่ฉันชอบคือเฉินจิ้น!”จ้าวอี้ไม่อยากเชื่อ เขาไม่เชื่อเลยว่าเสี่ยวเยาที่เคยวิ่งตามเขาจะเปลี่ยนใจไปชอบคนอื่น“เย่ฮวนเอ่อร์ เธอรู้ไหมว่าเฉินจิ้นเป็นคนยังไง? เขาเกิดมาต่ำต้อย คบกับเธอ เขาจะเลี้ยงเธอไหวเหรอ?หรือว่าเธอจะต้องเลี้ยงเขาเอง?”เย่ฮวนเอ่อร์ขมวดคิ้ว “จ้าวอี้ ฉันไม่เข้าใจเลยว่าพวกนายเอาความเหนือกว่ามาจากไหน ก็แค่นายเกิดมาดีกว่าเฉินจิ้น บอกให้นะฉันก็แค่ชอบเขา ฉันอยากทำอะไรก็เรื่องของฉัน!”“เย่ฮวนเอ่อร์ เธอ!” จ้าวอี้หน้าเขียวด้วยความโกรธ“จ้าวอ