เข้าสู่ระบบเพราะความกตัญญู ของเธอ ทำได้ให้มาพบเจอกับเขา ความรักที่นับหนึ่ง จนมาถึงความรัก ของท่านประธาน และ ลูกน้องสาวของตัวเอง เธอคือคนที่คิดว่าตัวเองไม่คู่ควร แต่เพราะความรัก เขาจึงจับมือเธอก้าวเดินต่อไปด้วยกัน ความรักที่ห่างกันไปไกล ของนักศึกษาหนุ่ม ที่ต้องยอมรับความจริง ว่า ชีวิตของเขา กับ เธอ ต่างกัน การกลับมาพบกันของเชฟหนุ่มหล่อ กับ นักธุรกิจสาว ที่สร้างตัว มาด้วยความพยายาม ของตัวเอง และ เมื่อได้มาเจอเขา ที่อยากกจะกลับมานับหนึ่งกับเธออีกครั้ง คีตะ วิมลิน เชฟแบงก์ และ ริสา รักที่เริ่มต้นใหม่ ในวันที่พร้อม และ สร้างตัว
ดูเพิ่มเติม“นางสาว วิมาลิน ภักดีมาก เกียรตินิยมอันดับ1”
เสียงประกาศชื่อ วันรับปริญญาบัตรดังกึกก้องทั่วหอประชุมของมหาวิทยาลัย หญิงสาวรูปร่าง ผอมบาง แต่งกายถูกระเบียบเรียบร้อย รับปริญญาบัตร ด้วยท่าทีสง่างามเหลือเกิน เมื่อพิธีการเสร็จสิ้นแล้ว บัณฑิตนับพันคน ก็เดินเรียงแถวกันออกมา เพื่อพบปะกับพ่อแม่ ญาติพี่น้อง ที่ยืนรอรับอยู่ นับพันคน
หญิงวัยกลางคน สวมเสื้อลูกไม้เนื้อดี ราคาแพงลิบ กับผ้าถุงตัดสำเร็จเข้าชุดกัน สวมรองเท้าคัทชูสีดำ สุภาพเรียบร้อย เหมาะสมแก่สถานที่ ดอกไม้ช่อใหญ่ในมือ ที่ถือรอลูกสาวคนเดียว เริ่มเหี่ยวเฉา แต่หัวใจของแม่เลี้ยงเดี่ยว กลับมีแต่ความอิ่มเอมในหัวใจ
บุตรสาวเดินนำหน้าขบวนมาก่อนใคร โผเข้ากอดผู้เป็นแม่ แล้วก้มลงกราบที่เท้า ท่ามกลางแสงแดด และความร้อนระอุของพื้นผิวถนน เสียงปรบมือจากคนข้างเคียงดังลั่น เพื่อแสดงความยินดี กับสองแม่ลูก
“ลูกกราบขอบพระคุณ ทุกหยาดเหงื่อของแม่ ในวันที่ลูกประสบความสำเร็จไปอีกขั้นนะคะ “ บุตรสาวบอกแม่แล้วกอดกันแน่น สองคนแม่ลูก ที่ลำบากกันมามากกว่าจะมีวันนี้
มือเหี่ยวย่นหยาบกร้าน จับแก้มลูกสาวประคองเอาไว้ แล้วยิ้มทั้งน้ำตา
“มาลินของแม่ เก่งที่สุด แม่ภูมิใจในตัวลูกเหลือเกิน “
เด็กหญิงมาลินของแม่ เติบโตขึ้นมา เป็นเด็กดี เป็นคนดี และ เป็นลูกสาวที่ดี เท่านี้ ก็พอแล้ว
“พี่มาลินคะ ถ่ายรูปกับคุณแม่ไหมคะ พวกหนูถ่ายให้ “ รุ่นน้องเข้ามาถามไถ่ อย่างมีน้ำใจ เมื่อเห็นว่า พี่สาวคนสวย ไม่มีใครเป็นช่างภาพประจำตัวให้เลย
“รบกวนด้วยนะคะ “ บัณฑิตยิ้มกว้าง แล้วยืนเคียงข้างกับผู้เป็นแม่ ยิ้มเคียงคู่กัน ท่ามกลางแสงแดด ตอนบ่ายแก่
รุ่นน้องส่งโทรศัพท์มือถือ ให้คืนรุ่นพี่ แล้วมอบดอกไม้ที่เตรียมมาให้กับรุ่นพี่สาว ที่เคยติวหนังสือให้ ของขวัญในถุงเป็นรองเท้ายี่ห้อดี ราคาหลายพันบาทสำหรับ การเริ่มต้นทำงาน
“พวกเราจะไม่ลืมความใจดีของพี่มาลินเลยค่ะ “
ผู้เป็นแม่ยิ้มกว้าง ทั้งน้ำตา มาลินของแม่ เป็นคนดี จริงๆ
แม่เลี้ยงเดี่ยว
นายทหารสัญญาบัตรหลายคน มายืนที่หน้าร้านตัดเสื้อ วิมลิน ในช่วงบ่าย ลูกจ้างที่อยู่หน้าร้าน เดินเข้ามาตามช่างใหญ่ ที่เป็นเจ้าของร้านตัดเสื้อ
เสียงพูดคุยที่ชายชาติทหารบอกวันนั้น ได้ยินเพียงจับใจความได้ว่า พ่อของลูก เสียชีวิตลงแล้ว เนื่องจากเหตุปะทะ ที่แดนไกล
ลูกจ้างเข้ามาประคองช่างใหญ่ที่แทบล้มทั้งยืน ก่อนจะรับเอกสารที่นายทหารมาแจ้งข่าว แล้วยืนทำความเคารพ ภรรยาผู้สูญเสีย พร้อมกับ การแสดงความเสียใจอันสุดซึ้ง ที่กองทัพ ต้องเสียบุคคลที่ดี มีคุณภาพไป ในวัยสามสิบกว่าเท่านั้น
ภาพในกระเป๋าสตางค์ของผู้เสียชีวิต เป็นภาพเด็กหญิงวัยสิบขวบ ที่ยิ้มกว้างอยู่ในอ้อมกอดของผู้เป็นพ่อ นายทหารที่นำรูปมาคืน แทบกลั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ไหว บอกสั้นๆแค่เพียงว่า
“เราจะดูแล ครอบครัว ไม่ให้ลำบาก แน่นอน “
เด็กหญิงวัยสิบขวบ มองดูรูปพ่อ ที่ตั้งอยู่บนศาลา ลุงๆอาๆเข้ามาลูบผม แล้วยิ้มให้ด้วยความสงสาร
“มาลิน ต้องดูแลแม่นะลูก “ คุณลุงที่เป็นเพื่อนพ่อ บอกกับเด็กหญิง แล้วหยิบเงิน ยัดใส่กระเป๋าเจ้าหญิง ที่ผู้เป็นพ่อ ซื้อให้ ก่อนไปราชการ
“พ่อ จะกลับมาเมื่อไหร่คะ มาลิน จะรอ “ คำถามของเด็กหญิง ทำเอาชายชาติทหาร กลั้นน้ำตา แล้วอุ้มลูกสาวเพื่อนมานั่งตัก แล้วชี้ไปที่บนท้องฟ้า
“คุณพ่อมาลิน มาไม่ได้แล้วลูก ภารกิจบนฟ้า ยาวนานมาก คงกลับมาไม่ได้อีกแล้ว มาลินคิดถึงพ่อ มาลินก็มองขึ้นไปบนฟ้านะลูก แล้วพ่อก็จะมองลงมาหามาลินเหมือนกัน “
ผู้เป็นแม่ร้องไห้ปิ่มจะขาดใจ กอดลูกสาวคนเดียวเอาไว้ ความเสียใจ คงอยู่กับครอบครัวไปอีกหลายปี แต่ข่าวคราวของฮีโร่ เงียบหายไปกับกาลเวลา สิ่งที่กองทัพตอบแทนมา เป็นธงชาติคลุมร่างกายไร้วิญญาณกลับมา เงินชดเชยอีกหลักล้านบาทและทุนการศึกษาปีละหมื่น ของเด็กหญิงวัยสิบขวบ ที่ต้องกำพร้าพ่อ และ เช่าบ้าน อยู่ตามลำพังกับผู้เป็นแม่ สองคน
ห้องเสื้อ วิมลิน เงียบเหงา ก่อนจะปิดตัวลง เนื่องจากช่างใหญ่ ไม่มีกะจิตกะใจจะทำงานอีกต่อไป
ร้านอาหารในช่วงค่ำ มีแขกเข้ามาใช้บริการจำนวนมาก ที่จอดรถแน่นขนัดเต็มพื้นที่ พนักงานรับรถ ละล้าละลัง ที่เห็นว่า รถคนสำคัญ ขับเข้ามา แต่ไม่มีที่จอด" ไม่เป็นไร เดี๋ยวนิ้งไปจอดทางโน้นเอง "หลานสาวที่พ่วงตำแหน่งสะใภ้ บอกกับพนักงานแล้วขับรถเลยไปจอดรถของตัวเองตรงที่ไกลจากร้านออกไป เกือบร้อยเมตรนักศึกษาแพทย์เดินมาจากอีกทางในเวลาไล่เลี่ยกัน ก่อนจะยิ้มทักทาย กับพนักงานที่ร้าน" คุณหมอครับ คุณนิ้ง ไปจอดรถทางโน้นครับ " คนที่บอกด้วยความเป็นห่วง บอกกับคนที่เพิ่งมาถึง แล้วชี้ไปที่มีรถจอดยาวเหยียด" ขอบคุณมากครับ " คนที่เป็นห่วงอยู่แล้ว เดินไปตามทางทันทีรถยุโรปคันสวยจอดเรียบร้อยแล้ว เตรียมตัวจะลง คนที่เดินตามมา ก็เคาะกระจกทันทีกระเป๋าถือใบสวย ถูกหยิบลงมา พร้อมกับกุญแจรถและโทรศัพท์ คนที่ยืนรออยู่แล้ว คว้ากระเป๋ามาถือ แล้วโอบไหล่คนข้างตัวให้เดินข้างใน เรื่องเล็กน้อย แต่มันมีค่า เหลือเกิน" นิ้งไม่ต้องขับรถเองแล้วมั้ง เหนื่อยแย่ " แดนไทพูดเพราะห่วงมาก ไม่อยากให้วนหาที่จอดรถแบบนี้" ถ้าไทอยากให้นิ้ง ทำแบบนั้น นิ้งก็จะตามใจ
เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นก่อนจะสว่าง คนที่เพิ่งหลับไปได้ไม่นาน ลืมตาขึ้นมา แล้วมองคนที่หลับอยู่ข้างๆ ผมยาวสยายที่อยู่บนอก ทำให้ต้องค่อยๆ ระวังมืออ่อนโยนรวบผมอย่างเบามือ แล้วขยับตัวคนที่นอนบนอกของตัวเองให้กลับไปหนุนหมอน ห่มผ้า แล้ว จูบเบาๆอีกครั้งไฟในห้องอ่านหนังสือเปิดขึ้นให้ความสว่าง ข้างนอกยังมืดอยู่ แต่คนที่ต้องตื่นแต่เช้า กลับไม่ง่วงเลย เพราะเมื่อคืน ยอมแลกเวลานอน เวลาอ่านหนังสือ แล้วไปใช้เวลาด้วยกันใบหน้าสุขสมแดงก่ำ ยามถูกขยับโยกบนร่างกายเปลือยเปล่า เป็นความสุข เป็นกำลังใจ ให้คนที่ต้องเรียนหนัก อ่านหนังสือโหดมีแรงขึ้นสู้ เสียงเรียกชื่อที่ดังออกมาจากปาก อ่อนหวานกว่าอะไรทั้งนั้น จนคนที่กำลังจะยั้งใจ ก็ทนต่อไปไม่ไหวแล้วนักศึกษาแพทย์ยิ้มกว้างแล้วเปิดตำรา ตั้งสมาธิโฟกัสกับหนังสือตรงหน้า ก่อนที่จะไม่ทันไปมากกว่านี้เสียงนาฬิกาที่ปลุกตามเวลาของตัวเอง ทำให้คนที่รู้สึกตัว ลืมตาขึ้นมา หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูเวลาก่อน แล้วพลิกตัวนอนหงายเลื่อนมือไปข้างๆ หมอนอีกใบเย็นเฉียบ เพราะคนข้างตัว คงจะตื่นนา
แฟ้มเอกสารปิดลง พร้อมเสียงปรบมือ ดีล ลงทุนครั้งแรก ของคุณนิ้ง เสร็จสมบูรณ์ไปแล้ว คู่ค้า ยิ้มให้กับ ท่านรอง ก่อนจะยื่นมือออกไป สัมผัสเบาๆ แล้วถ่ายรูปด้วยกัน เป็นที่ระลึก" ขอบคุณมากนะคะ ขอบคุณจริงๆ ที่ไว้ใจเคทีกรุ้ปของเรา นิ้งจะทำให้เต็มที่ "ดีลแรกมูลค่าเกือบเก้าหลัก ทำให้พนักงานที่ทำงานด้วยกัน เห็นฝีมือ คุณนิ้ง ไม่ใช่เด็กเส้น อย่างเดียว แต่เป็นเด็กเส้น ที่มีฝีมือพนักงานในห้องประชุมทยอยเดินออกกันไปหมดแล้ว มีเพียงเลขาสาว และ คู่ค้า ที่ยังนั่งคุยกันอยู่" ไม่เจอกันนาน นิ้งดู มีความสุขมากๆ " ชายหนุ่มบอกยิ้มๆ มองรุ่นน้องที่ตัวเองเคยสนใจ แล้วบอกออกมา" นิ้ง หมั้นแล้วค่ะ พี่คอป แต่ไม่ได้บอกใครเลย เพราะว่า ไทเค้ายังเรียนไม่จบ " คนที่พอรู้ข่าวมาบ้าง พยักหน้า รับรู้" ยินดีด้วยนะครับ วันไหนว่างๆ นัดมาเจอกันหน่อย พี่จะเลี้ยงข้าว แสดงความยินดี " 
" ไท ไปแล้วนะครับ ค่ำนี้เจอกันนะ " คนที่ต้องไปเรียนแต่เช้า ดึงภรรยามากอด แล้วมองถุงกระดาษสีชมพูหวาน ที่อยู่ในมือ" ขอบคุณสำหรับอาหารเช้านะครับ " เค้าบอกอีกที ทำเอาคนทำอาหารเช้า ยิ้มแก้มปริ" ไปได้แล้ว พูดเยอะจัง " คนเขินจัด แก้เขินด้วยการไล่ให้เค้าออกไป แต่มือยังไม่ยอมปล่อยออกจากเอว" อ้าว ไหนจะให้ไป ทำไมไม่ปล่อยมือ "" ไท อะ ล้อหรอ "" ไม่ได้ล้อซักหน่อย ก็นิ้งของไท น่ารักขึ้นทุกวันแบบนี้ จะให้ไท ทำยังไงได้ " แดนไท กอดแล้วหอมแก้มบางอีกครั้ง" ไปจริงๆแล้วครับ พี่ปีสี่ต้องไปแล้ว " พี่ปีสี่บอกเสียงเข้ม แล้วเปิดประตูห้อง เดินออกไปอย่างรวดเร็วคนที่อยู่ในห้อง ยิ้มเต็มหน้า มองมือของตัวเอง ที่สวมแหวนหมั้นเอาไว้ แล้วเดินกลับเข้ามาในห้องแต่งตัวเสื้อผ้าชุดทำงานที่ถูกเตรียมเอาไว้เรียบร้อย ถูกหยิบนำมา สวมใส่เพื่อเตรียมตัวไปทำงาน ร่างกายบอบบา