คุณนายใหญ่ฮั่วอุทานด้วยความตกใจ “ซือหาน!”ฉือหว่านที่ยืนอยู่หน้าประตูก็ชะงักไป เธอไม่คาดคิดว่าฮั่วซือหานจะยอมรับแส้แทนฉือเจียวฉือเจียวช่างเป็นคนที่เขาปกป้องอย่างเปิดเผยฮั่วซือหานมองคุณนายใหญ่ฮั่วแล้วพูด “คุณย่า พอเถอะครับ คนที่อยากอยู่กับฉือเจียวคือผม เธอไม่ได้ผิดอะไร ทุกอย่างเป็นความผิดของผม อย่าทำร้ายเธอเลยครับ ถ้าคุณย่าอยากตี ก็ตีผมแทนเถอะ!”ฉือเจียวรีบยื่นมือโอบฮั่วซือหานไว้ “ไม่ค่ะ คุณย่า อย่าตีซือหานเลย ตีหนูแทนเถอะค่ะ!”ตอนนี้ฉือเจียวและฮั่วซือหานดูเหมือนคู่รักที่โชคร้าย ส่วนคุณนายใหญ่ฮั่วกลายเป็นคนชั่วที่พยายามแยกคู่รักหัวใจของฉือหว่านรู้สึกปวดร้าวคุณนายใหญ่ฮั่วมือสั่นขณะถือแส้ “ซือหาน ภรรยาของแกคือหวานหว่าน แกลืมไปแล้วหรือว่าในช่วงสามปีที่แกเป็นเจ้าชายนิทรา ใครคือคนที่อยู่เคียงข้างไม่เคยทิ้งแก? แกทำแบบนี้ได้ยังไง มันทำร้ายจิตใจหวานหว่านมาก แกถูกฉือเจียวทำให้หลงหัวปักหัวปำแน่ๆ วันนี้ฉันจะตีแกให้สติกลับคืนมา!”คุณนายใหญ่ฮั่วพูดจบก็เหวี่ยงแส้ลงบนตัวฮั่วซือหาน“คุณย่า พอเถอะค่ะ!” ฉือหว่านรีบเข้ามาขวางคุณนายใหญ่ฮั่วคุณนายใหญ่ฮั่วโกรธมาก “หวานหว่าน ไม่ต้องกลัว มีย่าอย
ฉือเจียวที่มีนิสัยเอาแต่ใจ เกิดขึ้นเพราะฮั่วซือหานเป็นคนตามใจเธอคือผู้หญิงที่เขาเลี้ยงดูมาฉือหว่านยิ้มขื่น “ลุงฝู วันนี้เกิดอะไรขึ้นกันแน่? มีคนส่งรูปไปให้คุณย่าจริงเหรอ?”ลุงฝูหยิบรูปถ่ายออกมาให้ดู เป็นรูปเมื่อคืนที่ฮั่วซือหานกับฉือเจียวเต้นแนบชิดกันในบาร์“คุณนายน้อย เช้านี้มีคนส่งรูปนี้มาให้คุณนายใหญ่ เพื่อเปิดเผยความสัมพันธ์ลับของคุณผู้ชายกับฉือเจียว คุณนายใหญ่เห็นแล้วก็โกรธมาก จึงส่งคนไปจับตัวฉือเจียวทันที”คุณนายใหญ่ฮั่วรักและเอ็นดูฉือหว่านจริงๆ เธอไม่อยากให้ฉือหว่านต้องทนกับความอยุติธรรมใดๆฉือหว่านถือรูปถ่ายไว้ พลางครุ่นคิด “ลุงฝู คุณคิดว่าใครเป็นคนส่งรูปนี้มา?”ลุงฝูตอบ “คนที่เปิดโปงความสัมพันธ์ของคุณผู้ชายกับฉือเจียว คงต้องการช่วยคุณนายน้อยแน่ๆ”ฉือหว่านยิ้มขื่น ไม่แปลกที่ฮั่วซือหานจะไม่เชื่อเธอ เพราะทุกคนคิดแบบนั้นดูเผินๆ เรื่องนี้ดูเหมือนเธอจะได้ประโยชน์หากไม่ใช่เธอส่งเอง ก็คงเป็นเพื่อนของเธอที่ส่งมาเพื่อใช้มือของคุณนายใหญ่ลงโทษฉือเจียวแทนในตอนนั้นเอง คุณนายใหญ่ฮั่วที่นอนอยู่บนเตียงก็พึมพำออกมา “ซือหาน...”ลุงฝูหันไปพูด “คุณนายน้อย คุณนายใหญ่กำลังเรียกคุณผู
สองคนสบตากัน ฉือหว่านมองฮั่วซือหาน พยายามแก้ต่างให้ตัวเอง “ฮั่วซือหาน รูปนั้นฉันไม่ได้ส่งให้คุณย่า ฉันไม่มีทางยอมรับในสิ่งที่ไม่ได้ทำ” ฉือเจียวกระตุกแขนเสื้อของฮั่วซือหาน “ซือหาน คุณดูสิ เธอมาถึงขนาดนี้แล้วยังแก้ตัว ไม่มีท่าทีสำนึกผิดเลย!” สายตาของฮั่วซือหานเย็นชา ไม่มีความรู้สึกแม้แต่น้อย “ฉือหว่าน ขอโทษเดี๋ยวนี้!” เขาสั่งเธอ ให้เธอขอโทษฉือเจียวทันที ฉือหว่านเบิกตากว้างเล็กน้อย แผ่นหลังบอบบางตั้งตรงอย่างเยือกเย็นและดื้อรั้น “ฮั่วซือหาน ฉันจะพูดอีกครั้ง เรื่องนี้ฉันไม่ได้ทำ ฉันไม่มีทางขอโทษ!” สายตาของฮั่วซือหานเย็นเหมือนหมึกดำที่กระจายออกมา มืดมนจนลึกสุดหยั่งถึง “ฉือหว่าน เหมือนว่าเพื่อนรักของเธอ ซูเสี่ยวฝูจะทำงานอยู่ที่นิตยสารสินะ” ความเย็นยะเยือกแล่นขึ้นมาตามกระดูกสันหลังจนฉือหว่านตัวสั่น เขาคิดจะเล่นงานคนรอบตัวเธอด้วยหรือ? ฉือเจียวและหลี่หลันมองเธอด้วยสายตาเยาะเย้ยและยโส ทิ่มแทงตาเป็นที่สุด ฉือหว่านกำมือแน่น ความรู้สึกถูกเหยียบย่ำแล่นพล่านอยู่ในอก ฮั่วซือหานทำลายศักดิ์ศรีของเธอจนหมดสิ้น แล้วยังปล่อยให้คนสองคนนี้ย่ำยีเธอ น้ำตาแห่งความอัปยศคลอเบ้า ฉือหว่านเ
จริงๆ แล้ว ตอนอยู่ที่คฤหาสน์ ฉือหว่านก็เดาไว้แล้วว่ารูปนี้ต้องเป็นฉือเจียวที่ส่งมา เมื่อครู่ตอนอยู่ในห้องพักคนไข้ เธอค่อยๆ หลอกล่อให้ฉือเจียวเผยความจริงออกมา เพื่อให้ฮั่วซือหานได้ยินด้วยตัวเอง ฮั่วซือหานวางสายโทรศัพท์ ก่อนจะเงยหน้ามองฉือหว่าน ฉือหว่านจ้องเขาด้วยสายตาเย็นชา ริมฝีปากบางโค้งเป็นรอยยิ้มเย้ยหยัน “ประธานฮั่ว คงต้องทำให้คุณผิดหวังแล้วล่ะ รูปนั้นฉันไม่ได้เป็นคนส่ง แต่เป็นฉือเจียวต่างหาก” คิ้วเข้มของฮั่วซือหานขมวดเล็กน้อย แต่ไม่ได้เอ่ยอะไร ฉือหว่านก้าวออกไป แต่พอเดินผ่านตัวเขา ฮั่วซือหานก็ยื่นมือออกมาคว้าแขนเรียวของเธอไว้ทันที ฉือหว่านสะบัดมือเขาออกด้วยสัญชาตญาณ เธอไม่ต้องการมีปฏิสัมพันธ์ทางร่างกายกับเขาแม้แต่น้อย “พอเธอไปแล้ว คุณย่าก็โมโหจนเป็นลม คุณย่าหลับไปแล้วยังละเมอเรียกชื่อเธออยู่เลย ถ้ามีเวลาก็กลับไปเยี่ยมคุณย่าบ้าง” พูดจบ ฉือหว่านก็เดินจากไป ขณะนั้น เลขาจ้าวเดินเข้ามา เอ่ยเสียงเบา “ท่านประธาน ดูเหมือนคุณผู้หญิงจะเข้าใจท่านผิดไปแล้วนะครับ จริงๆ แล้วท่านไม่ได้เชื่อคำพูดของฉือเจียวไปเสียทั้งหมด เมื่อครู่ท่านก็ยืนอยู่นอกห้องตลอด ต่อให้คุณผู้หญิ
คุณนายใหญ่ฮั่วเอ่ยด้วยความเอ็นดู “ไปเถอะจ๊ะ” ฉือหว่านก้าวเท้าออกไป ฮั่วซือหานเดินเข้ามาข้างเตียง คุณนายใหญ่ฮั่วแหวใส่ทันที “กลับมาทำไมอีก รีบออกไปให้พ้นตาฉันเลย!” ฮั่วซือหานยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยขอโทษด้วยน้ำเสียงจริงใจ “คุณย่า ผมผิดไปแล้ว ขอโทษครับ” คุณนายใหญ่ฮั่วเริ่มมีท่าทีอ่อนลงเล็กน้อย “ฉันไม่ต้องการคำขอโทษจากแก คนที่แกควรขอโทษจริงๆ คือหวานหว่านต่างหาก!” “นั่นสิคุณชาย ตอนที่คุณรีบพาคุณฉือเจียวออกไป คุณนายใหญ่เป็นลมไป ก็มีแต่คุณผู้หญิงเท่านั้นที่คอยดูแล! ผมว่าตอนนี้คุณทำตัวเหมือนเด็กที่ถูกเก็บมาเลี้ยง ส่วนคุณผู้หญิงเหมือนเป็นหลานแท้ๆ ไปแล้ว” ลุงฝูเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ ฮั่วซือหาน “…” “แถมยังผลักคุณผู้หญิงจนเอวไปกระแทกโต๊ะอีก! คนเขาว่ากันว่า ‘เด็กที่ร้องไห้ถึงจะได้กินนม’ แกอย่าคิดว่าเพราะหวานหว่านไม่ร้องโอดโอยแล้วเธอจะไม่เจ็บ!” “คุณชาย คนเราต้องมีจิตสำนึกบ้างนะครับ คุณทำแบบนี้กับคุณผู้หญิงไม่ได้!” คุณนายใหญ่ฮั่วกับลุงฝูสลับกันพูดตำหนิเขาไม่หยุด ฮั่วซือหาน “…” เขามองไปยังทางที่ฉือหว่านเดินจากไป ก่อนจะเอ่ย “คุณย่า ถ้าคุณย่าไม่เป็นอะไรแล้ว
ทำไมไม่สนใจฉัน? เขาดูเหมือนกำลังโอ๋เธอ ผู้ชายอย่างฮั่วซือหาน มีทั้งอำนาจ ฐานะ และบารมี ถ้ายอมลดตัวลงมาเอาใจผู้หญิงเมื่อไหร่ ก็คงทำให้ใครต่อใครหลงคิดว่าเขาจริงใจได้ง่ายๆ และนั่นก็เป็นหลุมพรางที่ทำให้คนตกหลุมรักเขาได้โดยไม่รู้ตัว แต่ฉือหว่านกลับยังคงมีสติแน่วแน่ เพราะเธอรู้ดีว่าความรักที่ฮั่วซือหานมอบให้นั้นไม่เคยมีไว้เพื่อเธอ เขามีไว้เพื่อฉือเจียว ฉือหว่านก้มหน้าหลุบตาลง ขนตายาวสั่นไหว เธอพยายามจะลุกขึ้นยืน "คุณปล่อยฉันนะ!" ฮั่วซือหานหัวเราะ "โกรธเหรอ?" ฉือหว่านรู้สึกว่าน่าขันมาก "ฉันมีสิทธิ์อะไรไปโกรธคุณ?" ฮั่วซือหาน "วันนี้ฉันมือหนักไปหน่อย ทำให้เธอชนโต๊ะจนเจ็บที่เอวหรือเปล่า?" ฉือหว่านปฏิเสธ "ไม่เจ็บ" มือใหญ่ของฮั่วซือหานลูบไปที่เอวบางของเธอ แผ่วเบาและพูดอย่างอบอุ่น "ตรงนี้ใช่ไหม?" ตรงนี้แหละ ตอนอาบน้ำเธอเห็นแล้ว ตรงเอวเป็นรอยเขียวช้ำ คงต้องใช้เวลานานกว่าจะหายดี ตอนนี้จุดที่บาดเจ็บกำลังถูกลูบไล้อย่างอ่อนโยน ฝ่ามือของเขาทั้งอุ่นและแข็งแกร่งราวกับกำลังประคองรอยช้ำของเธอเอาไว้ แต่ฉือหว่านกลับรู้สึกต่อต้าน เธอไม่ต้องการให้เขาตบหัวแล้วลูบหลัง ไ
ฉือหว่านจัดเสื้อเชิ้ตสีขาวของตัวเองให้เรียบร้อย ก่อนจะหันกลับไปมองฮั่วซือหาน โทรศัพท์ของเขาวางอยู่บนโต๊ะข้างเตียง เสียงเรียกเข้าสะท้อนก้องห้องซ้ำไปซ้ำมา แต่เขาไม่ได้สนใจรับสาย เขาไม่ได้รับสายจากฉือเจียว นี่คงเป็นครั้งแรก ฮั่วซือหานยืดตัวเต็มความสูง ก่อนจะถอดเสื้อสูทสีดำออก ใต้เสื้อนั้น เขาสวมเพียงเสื้อเชิ้ตสีขาว และตอนนี้บนแผ่นหลังของเขามีรอยเลือดซึมเป็นวงกว้าง ฉือหว่านนึกถึงรอยแส้ที่คุณนายใหญ่ฟาดลงบนหลังเขา ที่จริงรอยแส้นั้นคงลึกมาก แต่เขากลับไม่แสดงความเจ็บปวดออกมาแม้แต่น้อย ถ้าไม่ทำแผลพวกนี้ รอยนี้อาจติดเชื้อได้ ฉือหว่านเอ่ยขึ้น "ฉันจะไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลมาทำแผลให้คุณ" ฮั่วซือหานหันมามองเธอ ริมฝีปากบางโค้งเป็นรอยยิ้มบางๆ "เมื่อกี้ยังทำเหมือนไม่สนใจฉันอยู่เลย" ฉือหว่านหยิบกล่องปฐมพยาบาลออกมา "ฉันแค่ไม่อยากให้คุณย่าเป็นห่วง" ฮั่วซือหานนั่งลงบนเตียง ฉือหว่านกล่าว "ถอดเสื้อออกสิ" เขาทำตามอย่างว่าง่าย ถอดเสื้อเชิ้ตสีขาวออก เผยให้เห็นร่างกายแกร่งกำยำ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉือหว่านได้เห็นเขาโดยไม่มีเสื้อผ้า เขามีไหล่กว้าง กล้ามเนื้อแน่น หน้าท้องเรียบเป็นล
ฉือหว่านทำแผลให้เขาเสร็จแล้ว แต่โชคร้ายที่ฮั่วซือหานเกิดอาการติดเชื้อ พอตกดึกก็เริ่มมีไข้สูง ฮั่วซือหานหนาวสั่น ฉือหว่านปรับแอร์ให้อุณหภูมิสูงขึ้น ห่มผ้าหนาให้เขาหลายชั้น แต่เขาก็ยังตัวเย็นเฉียบ เหงื่อเย็นไหลซึมออกมาตามหน้าผาก ริมฝีปากของเขาซีดเผือด ฉือหว่านคิดว่าเขาสมควรโดนแล้ว ถ้าเขาไม่มัวแต่พาฉือเจียวไปโรงพยาบาล และรีบทำแผลให้ตัวเอง เรื่องคงไม่แย่ขนาดนี้ ฉือหว่านฝังเข็มให้เขาไปแล้ว แต่เขายังต้องอดทนผ่านช่วงไข้สูงนี้ไปให้ได้ด้วยตัวเอง เมื่อไข้ลดลง อาการของเขาก็จะดีขึ้นเอง ฉือหว่านเปิดผ้าห่มแล้วล้มตัวลงนอน นอนข้างๆ เขา ตัวเขาเย็นจัดเหมือนก้อนน้ำแข็ง ร่างกายแผ่ไอเย็นออกมาไม่หยุด เธอพยายามจะเพิกเฉยต่อเขา แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้ ริมฝีปากสีแดงสดของเธอกัดเม้มเบาๆ ก่อนที่ร่างกายบอบบางจะขยับเข้าไปใกล้เขาเอง เขานอนหันหลังให้เธอ ฉือหว่านพยายามหลีกเลี่ยงแผลของเขา แล้วค่อยๆ โอบกอดเขาจากทางด้านหลัง ฮั่วซือหานรับรู้ได้ทันทีว่ามีร่างนุ่มนิ่มของใครบางคนแนบเข้ามาใกล้ ร่างกายอบอุ่นของเธอซึมซับผ่านเนื้อผ้าบางๆ แผ่ความอุ่นเข้ามาในร่างเขา ไม่นาน มือเล็กๆ ของเธอก็เลื่อนลงมา วางล
เย่ฮวนเอ่อร์รู้สึกว่าปลายจมูกอุ่นวาบขึ้นมา เธอยกมือแตะดู ก็พบว่าเลือดกำเดาไหลอีกแล้ว“อ๊ะ ฉันเลือดกำเดาไหลอีกแล้ว!”เฉินจิ้นรีบคว้าทิชชู่มายัดใส่จมูกเธอ “เงยหน้าขึ้น”เย่ฮวนเอ่อร์เงยหน้า “ทำไมพอฉันอยู่กับนายถึงชอบเลือดกำเดาไหลตลอดเลยเนี่ย?”เฉินจิ้นมองเธอแวบหนึ่ง “โอเคแล้ว”เย่ฮวนเอ่อร์มองเขา “นายไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ?”เขาจะพูดอะไรได้ล่ะ?เฉินจิ้นไม่พูดอะไรเลย หันหลังจะเดินออกไปเขากำลังจะเมินเธออีกแล้วเย่ฮวนเอ่อร์ขวางหน้าเขาไว้ แล้วยื่นยาในมือให้ “อันนี้ให้นาย”“อะไร?”เย่ฮวนเอ่อร์ชี้ไปที่ไหล่ของเขา ตอนนี้ตรงไหล่ของเขาแดงอยู่ “วันนี้นายแบกถุงปูนซีเมนต์ตั้งเยอะ ไหล่นายแดงหมดเลย ใช้ทาวันละสองครั้ง จะได้ไม่ปวดเมื่อย”เฉินจิ้นมองเธอแวบหนึ่ง ไม่พูดอะไรเย่ฮวนเอ่อร์ “รับไปสิ”เฉินจิ้นยื่นมือมารับยาจากมือเธอเขากลับจับทั้งยาและมือเธอพร้อมกัน เขาคว้ามือเล็กๆ ของเย่ฮวนเอ่อร์ไว้แล้วดึงแรงๆ ทำให้เธอเซเข้าไปในอ้อมอกของเขาโดยไม่ทันตั้งตัวเย่ฮวนเอ่อร์เงยหน้ามองเขา ใบหน้าหล่อคมของเขาอยู่ใกล้แค่เอื้อม เขาเพิ่งอาบน้ำเสร็จ ผมเกรียนเปียกชื้น ทำให้ดูเด็กลงและมีเสน่ห์แบบเด็กหนุ่มมากขึ้น
“ดูเหมือนฟ้าจะได้ยินคำอธิษฐานของฉัน แป๊บเดียวก็ผ่านมาแล้วสี่ปี อาจิ้นโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ฉันก็รู้ว่าตัวเองเหลือเวลาไม่มาก ฮวนเอ่อร์ ฉัน...ยังเหลือเวลาอีกเท่าไหร่?”ดวงตากลมโตของเย่ฮวนเอ่อร์ฉ่ำไปด้วยน้ำตา “คุณน้ายังเหลือเวลาประมาณสองเดือนค่ะ”แม่เฉินพึมพำเบาๆ “สองเดือน...ฉันคงไม่ได้เห็นเหมียวเหมี่ยวสอบเข้ามัธยมปลายแล้วล่ะ”เย่ฮวนเอ่อร์รีบกุมมือแม่เฉินแน่น “คุณน้าไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ฉันให้หัวหน้าหลิวจัดยาที่ดีที่สุดให้คุณแล้ว พวกเราจะพยายามยืดเวลาออกไปให้ได้มากที่สุดค่ะ”แม่เฉินหันหน้าไปทางเย่ฮวนเอ่อร์ “ฮวนเอ่อร์ คราวนี้ที่ฉันได้เข้าโรงพยาบาลก็เพราะเธอช่วยไว้ พวกเราติดหนี้เธอหนึ่งบุญคุณเลยล่ะ บ้านเราอาจจะจนหน่อย แต่ไม่ชอบเป็นหนี้ใคร ฉันจะออกจากโรงพยาบาลวันนี้ ไม่อยากรบกวนเธออีกแล้ว”“คุณน้า...”เย่ฮวนเอ่อร์รู้ดีว่าเธอไม่มีทางเปลี่ยนใจแม่เฉินได้ แม่เฉินก็เหมือนเฉินจิ้น มีความภูมิใจในตัวเองอยู่ในกระดูกเย่ฮวนเอ่อร์จึงไม่พูดอะไรอีก แต่เธอจะช่วยอย่างลับๆ ยานำเข้าจากต่างประเทศนอกจากจะช่วยลดความเจ็บปวดของแม่เฉิน ยังช่วยให้เธอมีเวลาเพิ่มขึ้นได้อีกเล็กน้อย“ฮวนเอ่อร์ เรื่องสุขภาพของฉัน อย่
น้าหวังหัวเราะก่อนจะใช้นิ้วจิ้มหน้าผากของเฉินเหมียวเหมี่ยว “พี่ชายของหนูรักหนูที่สุดแล้วนะ ส่งหนูเข้าเรียนโรงเรียนมัธยมต้นที่ดีที่สุด เขาจะยอมให้หนูกลายเป็นสาวโสดอยู่เป็นเพื่อนเขาได้ยังไงล่ะ”เฉินเหมียวเหมี่ยวหัวเราะคิกคักขณะนั้นเย่ฮวนเอ่อร์ก็เดินเข้ามาเฉินเหมียวเหมี่ยวทักด้วยความดีใจ “พี่ฮวนเอ่อร์!”น้าหวังลุกขึ้นยืน “หนูฮวนเอ่อร์ ได้ผลตรวจแล้วใช่ไหม?”ขอบตาของเย่ฮวนเอ่อร์ที่ขาวใสแดงเรื่อ เธอพยักหน้า “ได้มาแล้วค่ะ”เฉินเหมียวเหมี่ยวถามอย่างร้อนใจ “พี่ฮวนเอ่อร์ แม่หนูเป็นอะไร แม่ป่วยเหรอ?”เย่ฮวนเอ่อร์มองไปที่แม่เฉินซึ่งนอนอยู่บนเตียง แต่ไม่พูดอะไรน้าหวังเห็นว่าบรรยากาศไม่ปกติ จึงรีบพูดขึ้น “เหมียวเหมี่ยว ไปกับป้าแป๊บนึง ป้ามีเรื่องอยากจะคุยกับหนู”เฉินเหมียวเหมี่ยวไม่สงสัยอะไร “ได้ค่ะ”น้าหวังพาเฉินเหมียวเหมี่ยวออกไปตอนนี้ในห้องผู้ป่วยเหลือเพียงเย่ฮวนเอ่อร์กับแม่เฉิน เย่ฮวนเอ่อร์นั่งลงข้างเตียง มองดูแม่เฉินแม่เฉินสวมเสื้อผ้าที่สะอาด เสื้อผ้าดูเก่าและซีดจากการซักมานานหลายปี แต่ก็ยังสะอาดเรียบร้อย ผมสีดอกเลาครึ่งหัวถูกรวบขึ้นอย่างเรียบร้อย ใบหน้าแม่เฉินดูอ่อนโยนและสงบนิ
เย่ฮวนเอ่อร์ยิ้มมุมปาก “หนูเกรงว่าจะรบกวนคุณน้า ก็เลยไปหาเฉินจิ้นที่โรงเรียนค่ะ”แม่เฉินยิ้มอย่างมีความสุขขณะนั้นหัวหน้าหลิวก็เดินเข้ามา เย่ฮวนเอ่อร์จึงเดินออกไปในห้องทำงานของหัวหน้า หัวหน้าหลิวยื่นผลตรวจให้เย่ฮวนเอ่อร์ “คุณหนูหลิน ผลการตรวจของคนไข้ออกแล้วครับ”เย่ฮวนเอ่อร์ถาม “ผลเป็นยังไงบ้างคะ?”หัวหน้าหลิวส่ายหน้า “เป็นมะเร็งระยะสุดท้ายแล้วครับ”อะไรนะ?เย่ฮวนเอ่อร์อึ้ง “มะเร็งระยะสุดท้าย? คุณหมอคงไม่ได้เช็คพลาดใช่ไหมคะ สุขภาพของแม่เฉินแข็งแรงมาโดยตลอดเลยนะ”“ไม่ผิดแน่นอนครับ คนไข้น่าจะเป็นมะเร็งมาตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อนแล้ว เธอรู้อยู่แก่ใจแต่ไม่ได้รับการรักษาและไม่ได้บอกใคร ตอนนี้เซลล์มะเร็งแพร่กระจายไปถึงหัวใจและสมองแล้ว คนไข้คงเหลือเวลาอีกประมาณสองเดือนครับ”เย่ฮวนเอ่อร์ทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ทันที เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าแม่เฉินจะเหลือเวลาอีกเพียงสองเดือนทำไมถึงไม่บอก ทำไมถึงไม่ยอมรักษา?เฉินจิ้นกับเฉินเหมียวเหมี่ยวยังไม่รู้เรื่องนี้เลย…………ในห้องพักคนไข้ เพื่อนบ้านน้าหวังกับเฉินเหมียวเหมี่ยวอยู่เป็นเพื่อนแม่เฉิน เฉินเหมียวเหมี่ยวเทน้ำอุ่นใส่แก้ว “แม่ ดื่มน้ำค่ะ”
เย่ฮวนเอ่อร์กำลังจะวิ่งตามเฉินจิ้นไปแต่จ้าวอี้คว้าข้อมือเธอไว้ทันที “เธอจะวิ่งตามเขาไปทำไม ห้ามไป!”เย่ฮวนเอ่อร์สะบัดมือเขาออกอย่างแรง “ทะเลยังไม่กว้างเท่าความสาระแนของนายเลย!”เธอรีบวิ่งตามเฉินจิ้นไปจ้าวอี้กำหมัดแน่นด้วยความโกรธ…………เย่ฮวนเอ่อร์ตามเฉินจิ้นมาถึงโรงพยาบาลเล็กแห่งหนึ่ง แม่เฉินนอนอยู่บนเตียงคนไข้สีขาว ยังไม่ฟื้นเฉินเหมียวเหมี่ยวยืนร้องไห้ไม่หยุด ใบหน้าซีดขาวด้วยความตกใจ ข้างกายมีคุณป้าข้างบ้านคอยปลอบเฉินจิ้นรีบเดินเข้าไป “เหมียวเหมี่ยว!”“พี่!” เฉินเหมียวเหมี่ยวตัวผอมบาง โผเข้ากอดเฉินจิ้นทันที น้ำตาไหลไม่หยุด “พี่ รีบไปดูแม่หน่อย แม่ไม่ตื่นเลย ฮือๆ”เฉินจิ้นปลอบน้องสาวอยู่สองสามคำ จากนั้นมองไปยังแม่บนเตียง “แม่!”แม่เฉินไม่มีปฏิกิริยาคุณป้าข้างบ้านพูดขึ้น “เฉินจิ้น พวกเธอรีบพาแม่ไปโรงพยาบาลใหญ่นะ หมอที่นี่เพิ่งมาตรวจ บอกว่าต้องรีบไปตรวจที่โรงพยาบาลใหญ่ ห้ามช้า แต่ตอนนี้เตียงในโรงพยาบาลใหญ่ก็หายาก แถมยังไม่รู้ว่าคุณหมอคนไหนเก่งด้วย แบบนี้จะทำยังไงดีละลูก”คุณป้าถอนหายใจ เธอรู้ว่าพ่อเฉินจิ้นเสียไปนานแล้ว ตอนนี้เฉินจิ้นต้องดูแลทั้งแม่และน้องสาวเคราะห์ซ้ำกร
เย่ฮวนเอ่อร์เดินมาอยู่ข้างๆ เฉินจิ้น พยายามจะหยุดเกมบ้าๆ นี้ “เฉินจิ้น นายไม่ต้องเล่นเกมของจ้าวอี้นะ มันอันตรายต่อร่างกายมาก ถ้านายต้องการเงินจริงๆ ฉันสามารถ…”เฉินจิ้นหันมามองเย่ฮวนเอ่อร์แวบนึง เย่ฮวนเอ่อร์ก็รีบเงียบลงทันทีเธอไม่ได้ตั้งใจพูดแบบนั้น เธอแค่ไม่อยากให้เขาทำร้ายร่างกายตัวเองเฉินจิ้นหันไปพูดกับหัวหน้าคุมงาน “เริ่มได้เลยครับ”หัวหน้าคุมงานยกถุงปูนทีละถุงขึ้นวางบนไหล่ของเฉินจิ้น ไม่นานก็ครบแปดถุงหัวหน้าคุมงานเพิ่มถุงที่เก้า กับถุงที่สิบขึ้นมาอีกจ้าวอี้ดูอย่างเมามัน เขาตบมือแล้วร้อง “โอ้โฮ เฉินจิ้น นึกไม่ถึงว่านายจะทุ่มขนาดนี้เพื่อเงิน หนึ่งพัน สองพัน”จ้าวอี้โยนเงินสองพันบาทลงพื้นหัวหน้าคุมงานวางถุงที่สิบเอ็ด และถุงที่สิบสอง“สามพัน สี่พัน”จ้าวอี้ยังคงโยนเงินลงบนพื้นถุงปูนสิบสองถุงเพิ่มขึ้นบนไหล่ของเฉินจิ้น ใบหน้าของเขาไม่แสดงอารมณ์ แต่เหงื่อที่หน้าผากหยดลง “แปะ แปะ” เปียกไปทั่วชุดทำงานเย่ฮวนเอ่อร์อยากจะห้าม แต่ไม่ว่าจะพูดยังไงก็ดูจะผิดไปหมด ได้แต่ยืนดูด้วยสายตากังวลหัวหน้าคุมงานทนไม่ไหว “เฉินจิ้น ถ้านายไม่ไหวแล้วก็บอกนะ”เฉินจิ้นไม่พูดอะไรหัวหน้าคุมง
จ้าวอี้กำหมัดแน่น “เย่ฮวนเอ่อร์ เธอโดนเฉินจิ้นเล่นของใส่รึเปล่า?”“งั้นก็ไม่เกี่ยวกับนาย!”จ้าวอี้เท้าเอว หัวเราะอย่างโมโห “ได้ งั้นเรื่องของฉันก็ไม่เกี่ยวกับเธอ ตอนนี้ฉันจะไปหาเฉินจิ้น”จ้าวอี้หมุนตัวแล้วเดินไปทางเฉินจิ้นทันทีเย่ฮวนเอ่อร์สีหน้าเปลี่ยนไปทันที รีบยื่นมือไปดึงจ้าวอี้ “จ้าวอี้ นายจะทำอะไร? ที่นี่คือสถานที่ทำงานของคนอื่น นายมีสิทธิ์อะไรไปก่อกวนเขา?”ขณะนั้นหัวหน้าคุมงานของไซต์รีบวิ่งมาหอบหายใจ พยักหน้าคำนับต่อหน้าจ้าวอี้ “คุณชายจ้าว ท่านมาที่นี่ได้ยังไงครับ ที่นี่สกปรกมาก เดี๋ยวจะเปื้อนเสื้อผ้าท่าน วันนี้คุณชายมาสำรวจงานเหรอครับ?”เย่ฮวนเอ่อร์ตกใจจ้าวอี้หันมามองเย่ฮวนเอ่อร์ ยิ้มมุมปาก “จริงสิ ลืมบอกเธอไป ตึกตรงนี้เป็นโครงการของบ้านฉัน เป็นไซต์งานของบ้านฉัน ฉันมาดูงานมันผิดตรงไหนล่ะ”เย่ฮวนเอ่อร์เกือบลืมไปว่าตระกูลจ้าวทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่นี่เป็นโครงการหนึ่งของพวกเขาเฉินจิ้นดันบังเอิญมาทำงานที่พื้นที่ของตระกูลจ้าวพอดีจ้าวอี้หันไปพูดกับหัวหน้าคุมงาน “ได้ยินว่าที่นี่มีคนชื่อเฉินจิ้นเหรอ?”หัวหน้าคุมงาน “ใช่ครับ”“เรียกเขามาหน่อยสิ”หัวหน้าคุมงานตะโกนเสียง
ได้ยินคำพูดนั้น เย่ฮวนเอ่อร์ก็หยุดดิ้น เธอขึ้นไปนั่งที่เบาะข้างคนขับของรถเฟอร์รารีแต่โดยดีจ้าวอี้กลับมานั่งที่เบาะคนขับ สีหน้าเย็นชา “เย่ฮวนเอ่อร์ เธอสนใจเฉินจิ้นขนาดนั้นเลยเหรอ?”ตอนแรกไม่ยอมขึ้นรถเขา แต่พอเพื่อเฉินจิ้นกลับยอมขึ้นทันทีเย่ฮวนเอ่อร์เงยหน้ามองจ้าวอี้ “จ้าวอี้ นายรู้ไหมว่านายตอนนี้มันแปลกมาก?”จ้าวอี้อึ้ง“ฉันก็ยกฮั่วเสวียนให้นายไปแล้ว ตอนนี้แฟนนายคือฮั่วเสวียนเธอหน้าอกใหญ่ เอวเล็ก เป็นนักเต้นบัลเล่ต์ นายก็ชอบผู้หญิงสไตล์นั้นไม่ใช่เหรอ นายควรจะติดอยู่กับเธอสิทำไมนายยังต้องตามวุ่นวายกับฉันอีก?”จ้าวอี้กำพวงมาลัยแน่น “ฉัน……”“จ้าวอี้ อย่าบอกฉันนะว่านายหลงรักฉันเข้าแล้ว”เห็นสายตาเย่ฮวนเอ่อร์ที่เต็มไปด้วยการเย้ยหยันและดูถูก จ้าวอี้ก็โกรธจนพูดไม่ออก เขาหัวเราะเยาะ “หลินเสี่ยวเยา อย่ามโนไปเองนักเลยฉันจะไปหลงรักเธอได้ยังไง?”“งั้นก็ดี”เย่ฮวนเอ่อร์ไม่ต้องการความรักของเขาเลย ความรักที่มาช้า มันไร้ค่าเสียยิ่งกว่าหญ้า!จ้าวอี้รู้สึกว่าตัวเองแค่มีความรู้สึกอยากครอบครอง เพราะตอนแรกเย่ฮวนเอ่อร์วิ่งตามเขาแต่ตอนนี้กลับเปลี่ยนใจไปชอบเฉินจิ้นแทน ยิ่งเฉินจิ้นเป็นศัตรูของเขาด้
เย่ฮวนเอ่อร์หันหลังเดินจากไปทันทีฮั่วเสวียน “……”ตอนนั้นเอง จ้าวอี้ก็เดินก้าวเข้ามาขวางทางเย่ฮวนเอ่อร์ “เย่ฮวนเอ่อร์ เธอชอบเฉินจิ้นจริงๆ เหรอ?”เย่ฮวนเอ่อร์พยักหน้า “ใช่แล้ว”จ้าวอี้ยังไม่เชื่อ “เป็นไปไม่ได้ เธอจะไปชอบเฉินจิ้นคนนั้นได้ยังไง? เธอต้องแกล้งทำเพื่อยั่วฉันใช่ไหม เย่ฮวนเอ่อร์ ฉันไม่คิดเลยว่าเธอก็ใช้มารยาหญิงเพื่อดึงความสนใจฉันเหมือนกัน!”เย่ฮวนเอ่อร์รู้สึกหมดคำจะพูด “จ้าวอี้ ฟังให้ดีนะ ฉันกับนายจบกันไปนานแล้ว ตอนนั้นพวกเรายังเด็กฉันยอมรับว่านายใช้ฉันแล้วไปมีคนอื่นแต่เอาเข้าจริง ฉันก็ไม่ได้รักนายแบบชายหญิงเลยด้วยซ้ำตอนนี้คนที่ฉันชอบคือเฉินจิ้น!”จ้าวอี้ไม่อยากเชื่อ เขาไม่เชื่อเลยว่าเสี่ยวเยาที่เคยวิ่งตามเขาจะเปลี่ยนใจไปชอบคนอื่น“เย่ฮวนเอ่อร์ เธอรู้ไหมว่าเฉินจิ้นเป็นคนยังไง? เขาเกิดมาต่ำต้อย คบกับเธอ เขาจะเลี้ยงเธอไหวเหรอ?หรือว่าเธอจะต้องเลี้ยงเขาเอง?”เย่ฮวนเอ่อร์ขมวดคิ้ว “จ้าวอี้ ฉันไม่เข้าใจเลยว่าพวกนายเอาความเหนือกว่ามาจากไหน ก็แค่นายเกิดมาดีกว่าเฉินจิ้น บอกให้นะฉันก็แค่ชอบเขา ฉันอยากทำอะไรก็เรื่องของฉัน!”“เย่ฮวนเอ่อร์ เธอ!” จ้าวอี้หน้าเขียวด้วยความโกรธ“จ้าวอ