ทำไมไม่สนใจฉัน? เขาดูเหมือนกำลังโอ๋เธอ ผู้ชายอย่างฮั่วซือหาน มีทั้งอำนาจ ฐานะ และบารมี ถ้ายอมลดตัวลงมาเอาใจผู้หญิงเมื่อไหร่ ก็คงทำให้ใครต่อใครหลงคิดว่าเขาจริงใจได้ง่ายๆ และนั่นก็เป็นหลุมพรางที่ทำให้คนตกหลุมรักเขาได้โดยไม่รู้ตัว แต่ฉือหว่านกลับยังคงมีสติแน่วแน่ เพราะเธอรู้ดีว่าความรักที่ฮั่วซือหานมอบให้นั้นไม่เคยมีไว้เพื่อเธอ เขามีไว้เพื่อฉือเจียว ฉือหว่านก้มหน้าหลุบตาลง ขนตายาวสั่นไหว เธอพยายามจะลุกขึ้นยืน "คุณปล่อยฉันนะ!" ฮั่วซือหานหัวเราะ "โกรธเหรอ?" ฉือหว่านรู้สึกว่าน่าขันมาก "ฉันมีสิทธิ์อะไรไปโกรธคุณ?" ฮั่วซือหาน "วันนี้ฉันมือหนักไปหน่อย ทำให้เธอชนโต๊ะจนเจ็บที่เอวหรือเปล่า?" ฉือหว่านปฏิเสธ "ไม่เจ็บ" มือใหญ่ของฮั่วซือหานลูบไปที่เอวบางของเธอ แผ่วเบาและพูดอย่างอบอุ่น "ตรงนี้ใช่ไหม?" ตรงนี้แหละ ตอนอาบน้ำเธอเห็นแล้ว ตรงเอวเป็นรอยเขียวช้ำ คงต้องใช้เวลานานกว่าจะหายดี ตอนนี้จุดที่บาดเจ็บกำลังถูกลูบไล้อย่างอ่อนโยน ฝ่ามือของเขาทั้งอุ่นและแข็งแกร่งราวกับกำลังประคองรอยช้ำของเธอเอาไว้ แต่ฉือหว่านกลับรู้สึกต่อต้าน เธอไม่ต้องการให้เขาตบหัวแล้วลูบหลัง ไ
ฉือหว่านจัดเสื้อเชิ้ตสีขาวของตัวเองให้เรียบร้อย ก่อนจะหันกลับไปมองฮั่วซือหาน โทรศัพท์ของเขาวางอยู่บนโต๊ะข้างเตียง เสียงเรียกเข้าสะท้อนก้องห้องซ้ำไปซ้ำมา แต่เขาไม่ได้สนใจรับสาย เขาไม่ได้รับสายจากฉือเจียว นี่คงเป็นครั้งแรก ฮั่วซือหานยืดตัวเต็มความสูง ก่อนจะถอดเสื้อสูทสีดำออก ใต้เสื้อนั้น เขาสวมเพียงเสื้อเชิ้ตสีขาว และตอนนี้บนแผ่นหลังของเขามีรอยเลือดซึมเป็นวงกว้าง ฉือหว่านนึกถึงรอยแส้ที่คุณนายใหญ่ฟาดลงบนหลังเขา ที่จริงรอยแส้นั้นคงลึกมาก แต่เขากลับไม่แสดงความเจ็บปวดออกมาแม้แต่น้อย ถ้าไม่ทำแผลพวกนี้ รอยนี้อาจติดเชื้อได้ ฉือหว่านเอ่ยขึ้น "ฉันจะไปหยิบกล่องปฐมพยาบาลมาทำแผลให้คุณ" ฮั่วซือหานหันมามองเธอ ริมฝีปากบางโค้งเป็นรอยยิ้มบางๆ "เมื่อกี้ยังทำเหมือนไม่สนใจฉันอยู่เลย" ฉือหว่านหยิบกล่องปฐมพยาบาลออกมา "ฉันแค่ไม่อยากให้คุณย่าเป็นห่วง" ฮั่วซือหานนั่งลงบนเตียง ฉือหว่านกล่าว "ถอดเสื้อออกสิ" เขาทำตามอย่างว่าง่าย ถอดเสื้อเชิ้ตสีขาวออก เผยให้เห็นร่างกายแกร่งกำยำ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉือหว่านได้เห็นเขาโดยไม่มีเสื้อผ้า เขามีไหล่กว้าง กล้ามเนื้อแน่น หน้าท้องเรียบเป็นล
ฉือหว่านทำแผลให้เขาเสร็จแล้ว แต่โชคร้ายที่ฮั่วซือหานเกิดอาการติดเชื้อ พอตกดึกก็เริ่มมีไข้สูง ฮั่วซือหานหนาวสั่น ฉือหว่านปรับแอร์ให้อุณหภูมิสูงขึ้น ห่มผ้าหนาให้เขาหลายชั้น แต่เขาก็ยังตัวเย็นเฉียบ เหงื่อเย็นไหลซึมออกมาตามหน้าผาก ริมฝีปากของเขาซีดเผือด ฉือหว่านคิดว่าเขาสมควรโดนแล้ว ถ้าเขาไม่มัวแต่พาฉือเจียวไปโรงพยาบาล และรีบทำแผลให้ตัวเอง เรื่องคงไม่แย่ขนาดนี้ ฉือหว่านฝังเข็มให้เขาไปแล้ว แต่เขายังต้องอดทนผ่านช่วงไข้สูงนี้ไปให้ได้ด้วยตัวเอง เมื่อไข้ลดลง อาการของเขาก็จะดีขึ้นเอง ฉือหว่านเปิดผ้าห่มแล้วล้มตัวลงนอน นอนข้างๆ เขา ตัวเขาเย็นจัดเหมือนก้อนน้ำแข็ง ร่างกายแผ่ไอเย็นออกมาไม่หยุด เธอพยายามจะเพิกเฉยต่อเขา แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้ ริมฝีปากสีแดงสดของเธอกัดเม้มเบาๆ ก่อนที่ร่างกายบอบบางจะขยับเข้าไปใกล้เขาเอง เขานอนหันหลังให้เธอ ฉือหว่านพยายามหลีกเลี่ยงแผลของเขา แล้วค่อยๆ โอบกอดเขาจากทางด้านหลัง ฮั่วซือหานรับรู้ได้ทันทีว่ามีร่างนุ่มนิ่มของใครบางคนแนบเข้ามาใกล้ ร่างกายอบอุ่นของเธอซึมซับผ่านเนื้อผ้าบางๆ แผ่ความอุ่นเข้ามาในร่างเขา ไม่นาน มือเล็กๆ ของเธอก็เลื่อนลงมา วางล
เขาเตือนเธอว่าที่นี่อันตราย บอกให้เธอรีบหนีไป แต่พวกที่ไล่ล่าตามมาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ หากเธอไม่หนีตอนนี้ เธอเองก็จะเอาชีวิตไม่รอด ทว่าสาวน้อยกลับไม่หนี ไม่เพียงแค่นั้น เธอยังพยายามลากเขาด้วยแรงทั้งหมดที่มี พาเขาไปซ่อนในถ้ำลับแห่งหนึ่ง เธอบอกเขาว่า "พี่ชาย ที่นี่ปลอดภัย พวกนั้นหาไม่เจอหรอก" เขามองดูเด็กหญิง เธอยังเด็กมาก ฤดูหนาวมาถึงแล้ว แต่เธอกลับใส่เพียงชุดกระโปรงบางๆ สีขาวซีดจากการซักซ้ำๆ ดูเหมือนเธออยู่ในป่านี้มานานแล้ว โดยมีเพียงตุ๊กตาผ้าเก่าๆ เป็นเพื่อน เขาได้รับบาดเจ็บหนัก ร่างกายหนาวสั่น ตอนนั้นเอง เด็กหญิงโอบกอดเขาไว้ "พี่ชาย หนาวใช่ไหมคะ ถ้าฉันกอดแบบนี้ พี่ก็จะไม่หนาวแล้วนะ" เขามองเข้าไปในดวงตาของเธอ ดวงตาที่ใสกระจ่างราวกับน้ำ เขาถามเธอว่า "ทำไมเธอถึงอยู่ที่นี่คนเดียว บ้านเธออยู่ไหน พ่อแม่เธออยู่ไหน?" เด็กหญิงเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบ "ฉันไม่มีบ้าน ไม่มีพ่อแม่ ไม่มีใครต้องการฉัน" เขาดึงเธอเข้ามากอดแน่นขึ้น "ถ้าฉันรอดจากที่นี่ไปได้ ฉันจะพาเธอออกไปด้วย ฉันจะรับเธอไว้เอง" เขาถอดจี้หยกจากคอของตัวเองแล้วสวมให้เธอ ทั้งสองนอนกอดกันในถ้ำเย็นยะเยือกคืนนั
ตอนนั้น เธอคงจะเจ็บมากสินะ? ฮั่วซือหานค่อยๆ วางมือบนเอวของเธอ ลูบไล้ผิวที่นุ่มละมุนเบาๆ เขายอมรับว่าในใจมีความรู้สึกเวทนาต่อเธอเพิ่มขึ้น เขาก้มหน้าลง กระซิบข้างใบหูเธอ เสียงทุ้มต่ำจากการเพิ่งตื่นยังแฝงความแหบพร่า "ฉือหว่าน... ฉันทำเธอเจ็บใช่ไหม? ขอโทษนะ" เขาพูดขอโทษเธอเบาๆ ฉือหว่านที่กำลังหลับสนิทไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับ ลมหายใจของเธอสม่ำเสมอ เส้นผมนุ่มๆ ของเธอก็ดูหอมละมุนไปหมด ฮั่วซือหานรู้สึกเหมือนมีถ่านไฟร้อนๆ กลิ้งอยู่ในลำคอ เขาพยายามหลบสายตาจากร่างอ่อนเยาว์ที่ชวนหลงใหลของเธอ แต่สุดท้ายก็ควบคุมตัวเองไม่อยู่ โน้มหน้าลงไปใกล้... ใกล้จนแทบจะจรดริมฝีปากลงบนเส้นผมนุ่มหอมของเธอ... แต่ก่อนที่เขาจะสัมผัสเธอ ฉือหว่านก็ขยับตัวเล็กน้อย ส่งเสียงอืออาเบาๆ ก่อนจะค่อยๆ ลืมตาขึ้น เธอตื่นแล้ว สติของฮั่วซือหานกลับมาแทบจะทันที เขาชะงักค้างไป ตกใจตัวเองว่ากำลังทำอะไรอยู่? เขาเพิ่งจะคิดจะจูบเส้นผมของฉือหว่านอย่างนั้นเหรอ?! เขาฮั่วซือหาน ผ่านหญิงงามมามากมายขนาดไหน? แล้วทำไมตอนนี้กลับเสียการควบคุมเพราะฉือหว่าน? ฮั่วซือหานผละตัวออกจากเธออย่างรวดเร็ว รีบเปิดผ้าห่มแล้วลุกออก
ฉือหว่านเห็นฮั่วซือหานและฉือเจียว ฉือเจียวออกจากโรงพยาบาลแล้ว ตอนนี้ยืนเคียงข้างฮั่วซือหานอย่างสวยสง่า แขนเกี่ยวเขาไว้แน่น ทั้งสองดูเป็นคู่ที่เหมาะสมกันราวกับเทพบุตรและเทพธิดา สนิทสนมแนบแน่น ซูเสี่ยวฝูแค่นเสียงเย็น “หวานหว่าน ประธานฮั่วนี่รักฉือเจียวจริงๆ เลยนะ ฉือเจียวกล้าเล่นงานคุณนายใหญ่ฮั่วขนาดนั้น แต่ประธานฮั่วยังทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น กลับมาอยู่กับเธอเหมือนเดิมอีก” ฉือหว่านไม่คิดว่าจะเจอฮั่วซือหานและฉือเจียวที่บาร์ เมื่อเห็นว่าทั้งคู่กลับมาดีกันเร็วขนาดนี้ เธอไม่ได้รู้สึกแปลกใจเลยแม้แต่น้อย เธอยกมุมปากยิ้มบางๆ ให้ซูเสี่ยวฝู “เธอเพิ่งรู้วันนี้เหรอว่าฮั่วซือหานรักฉือเจียว?” เมื่อก่อนเธออาจจะผิดหวัง แต่ตอนนี้เธอชาไปหมดแล้ว ทันใดนั้น เสียงรองเท้าส้นสูงดังก้องเข้ามาใกล้ “ประธานฮั่ว ฉือเจียว บังเอิญจังเลย” ฉือหว่านเงยหน้าขึ้น ฉือถังก็มาที่นี่ด้วย คืนนี้ฉือถังสวมเดรสสายเดี่ยวสีดำ ลอนผมและริมฝีปากแดงสด ทำให้เธอดูโดดเด่นเย้ายวน สายตาของฉือถังจับจ้องอยู่ที่ฮั่วซือหาน ดวงตาเป็นประกาย เจือด้วยความหลงใหล ฉือหว่านเลิกคิ้ว คืนนี้ดูท่าจะคึกคักไม่เบา ฉือเจียวยังไม่ทั
เกมรอบแรกเพิ่งเริ่ม ก็สุ่มได้ให้ฮั่วซือหาน ทำให้บรรยากาศครึกครื้นขึ้นมาทันที ฉือถังยกมุมปากขึ้นเป็นรอยยิ้ม มองไปที่ฮั่วซือหาน “ประธานฮั่ว เล่นเกมความจริงกันเถอะ ฉันขอถามว่า... คุณกับภรรยาของคุณได้เข้าหอกันแล้วหรือยัง?” ทุกคนที่อยู่ที่นี่ ยกเว้นลู่หนานเฉิงที่เพิ่งกลับมาจากต่างประเทศ ต่างก็รู้กันดีว่าภรรยาของประธานฮั่วก็คือฉือหว่าน คำถามของฉือถังชัดเจนมาก เธอต้องการรู้ว่าฮั่วซือหานเคยแตะต้องฉือหว่านหรือเปล่า บรรดาทายาทเศรษฐีที่อยู่รอบโต๊ะ ต่างพากันส่งเสียงเชียร์ สร้างบรรยากาศครึกครื้น ฉือถังแสร้งทำเป็นมองฉือหว่านด้วยท่าทางไร้เดียงสา แต่ในแววตามีแผนการแอบแฝง “ประธานฮั่ว คุณแต่งงานกับคุณนายฮั่วมาตั้งสามปีแล้ว หรือว่ายังไม่เคยแตะต้องเธอเลย? คุณคงจะไม่ชอบคุณนายฮั่วมากจริงๆ ใช่ไหมคะ?” ฉือเจียวเองก็จับตามองฉือหว่าน แววตาเต็มไปด้วยความเหนือกว่าและหยิ่งยโส “ฉันเคยบอกซือหานไปแล้วว่า ไม่อนุญาตให้เขาแตะต้องฉือหว่าน ดังนั้นเขาต้องไม่เคยแตะต้องเธอแน่นอน” ฉือถังและฉือเจียวร่วมมือกัน เพื่อทำให้ฉือหว่านอับอาย กู้เป่ยเฉินและกลุ่มทายาทเศรษฐีเริ่มส่งเสียงเร่งเร้า “พี่รอง! ตอบมาเร็วๆ
แต่ว่า ฮั่วซือหานเป็นของฉือเจียว แบบนี้จะทำยังไงดีล่ะ? โอ้โหบรรดาทายาทเศรษฐีทั้งหลายต่างพากันตื่นเต้นขึ้นมา ฉือถังถือเป็นหญิงสาวผู้โดดเด่นในวงสังคม และยังเป็นโสดมาจนถึงตอนนี้ มีชายหนุ่มหลายคนที่ให้ความสนใจเธอ ฉือหว่านยิ้ม “พี่คะ ถึงเวลาต้องเลือกแล้ว” พูดจบ ฉือหว่านก็ปรายตามองฉือเจียวพลางยิ้มเย็น “ฉือเจียว พี่สาวของเราทั้งสวยและหยิ่งในศักดิ์ศรี เธอคิดว่าพี่เขาจะเลือกใคร?” ฉือเจียวถลึงตาใส่ฉือหว่าน “พี่สาวฉันเป็นคนน่าหลงใหล มีคนตามจีบเยอะแยะ นี่ต้องให้เธอพูดด้วยเหรอ?” ฉือหว่านหัวเราะ ไม่พูดอะไรอีก ฉือเจียวหันไปมองฉือถังอย่างอยากรู้อยากเห็น เพราะแม้แต่เธอเองก็ไม่รู้ว่าฉือถังจะเลือกใคร ตั้งแต่ฉือถังกลับมาจากต่างประเทศ เธอก็กลายเป็นผู้ช่วยของเทพ C ทันที ตอนนี้บ้านสามก็กำลังได้รับความเมตตาจากคุณนายใหญ่ฉือ บ้านสามกำลังใช้โอกาสนี้ในการเลือกคู่ครองที่เพียบพร้อมในไห่เฉิงให้กับลูกสาวที่เพิ่งกลับจากนอกฉือเจียวอดถามไม่ได้ “พี่คะ แล้วพี่จะเลือกใคร?” ทุกคนในที่นั้นต่างรอคอยคำตอบ ฉือถังยืนขึ้น ก่อนจะส่งสายตาหวานเยิ้มให้ฮั่วซือหานแวบหนึ่ง “งั้นฉันขอเลือกแล้วนะ” เธอเ
เย่ฮวนเอ่อร์รู้สึกว่าปลายจมูกอุ่นวาบขึ้นมา เธอยกมือแตะดู ก็พบว่าเลือดกำเดาไหลอีกแล้ว“อ๊ะ ฉันเลือดกำเดาไหลอีกแล้ว!”เฉินจิ้นรีบคว้าทิชชู่มายัดใส่จมูกเธอ “เงยหน้าขึ้น”เย่ฮวนเอ่อร์เงยหน้า “ทำไมพอฉันอยู่กับนายถึงชอบเลือดกำเดาไหลตลอดเลยเนี่ย?”เฉินจิ้นมองเธอแวบหนึ่ง “โอเคแล้ว”เย่ฮวนเอ่อร์มองเขา “นายไม่พูดอะไรหน่อยเหรอ?”เขาจะพูดอะไรได้ล่ะ?เฉินจิ้นไม่พูดอะไรเลย หันหลังจะเดินออกไปเขากำลังจะเมินเธออีกแล้วเย่ฮวนเอ่อร์ขวางหน้าเขาไว้ แล้วยื่นยาในมือให้ “อันนี้ให้นาย”“อะไร?”เย่ฮวนเอ่อร์ชี้ไปที่ไหล่ของเขา ตอนนี้ตรงไหล่ของเขาแดงอยู่ “วันนี้นายแบกถุงปูนซีเมนต์ตั้งเยอะ ไหล่นายแดงหมดเลย ใช้ทาวันละสองครั้ง จะได้ไม่ปวดเมื่อย”เฉินจิ้นมองเธอแวบหนึ่ง ไม่พูดอะไรเย่ฮวนเอ่อร์ “รับไปสิ”เฉินจิ้นยื่นมือมารับยาจากมือเธอเขากลับจับทั้งยาและมือเธอพร้อมกัน เขาคว้ามือเล็กๆ ของเย่ฮวนเอ่อร์ไว้แล้วดึงแรงๆ ทำให้เธอเซเข้าไปในอ้อมอกของเขาโดยไม่ทันตั้งตัวเย่ฮวนเอ่อร์เงยหน้ามองเขา ใบหน้าหล่อคมของเขาอยู่ใกล้แค่เอื้อม เขาเพิ่งอาบน้ำเสร็จ ผมเกรียนเปียกชื้น ทำให้ดูเด็กลงและมีเสน่ห์แบบเด็กหนุ่มมากขึ้น
“ดูเหมือนฟ้าจะได้ยินคำอธิษฐานของฉัน แป๊บเดียวก็ผ่านมาแล้วสี่ปี อาจิ้นโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ฉันก็รู้ว่าตัวเองเหลือเวลาไม่มาก ฮวนเอ่อร์ ฉัน...ยังเหลือเวลาอีกเท่าไหร่?”ดวงตากลมโตของเย่ฮวนเอ่อร์ฉ่ำไปด้วยน้ำตา “คุณน้ายังเหลือเวลาประมาณสองเดือนค่ะ”แม่เฉินพึมพำเบาๆ “สองเดือน...ฉันคงไม่ได้เห็นเหมียวเหมี่ยวสอบเข้ามัธยมปลายแล้วล่ะ”เย่ฮวนเอ่อร์รีบกุมมือแม่เฉินแน่น “คุณน้าไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ ฉันให้หัวหน้าหลิวจัดยาที่ดีที่สุดให้คุณแล้ว พวกเราจะพยายามยืดเวลาออกไปให้ได้มากที่สุดค่ะ”แม่เฉินหันหน้าไปทางเย่ฮวนเอ่อร์ “ฮวนเอ่อร์ คราวนี้ที่ฉันได้เข้าโรงพยาบาลก็เพราะเธอช่วยไว้ พวกเราติดหนี้เธอหนึ่งบุญคุณเลยล่ะ บ้านเราอาจจะจนหน่อย แต่ไม่ชอบเป็นหนี้ใคร ฉันจะออกจากโรงพยาบาลวันนี้ ไม่อยากรบกวนเธออีกแล้ว”“คุณน้า...”เย่ฮวนเอ่อร์รู้ดีว่าเธอไม่มีทางเปลี่ยนใจแม่เฉินได้ แม่เฉินก็เหมือนเฉินจิ้น มีความภูมิใจในตัวเองอยู่ในกระดูกเย่ฮวนเอ่อร์จึงไม่พูดอะไรอีก แต่เธอจะช่วยอย่างลับๆ ยานำเข้าจากต่างประเทศนอกจากจะช่วยลดความเจ็บปวดของแม่เฉิน ยังช่วยให้เธอมีเวลาเพิ่มขึ้นได้อีกเล็กน้อย“ฮวนเอ่อร์ เรื่องสุขภาพของฉัน อย่
น้าหวังหัวเราะก่อนจะใช้นิ้วจิ้มหน้าผากของเฉินเหมียวเหมี่ยว “พี่ชายของหนูรักหนูที่สุดแล้วนะ ส่งหนูเข้าเรียนโรงเรียนมัธยมต้นที่ดีที่สุด เขาจะยอมให้หนูกลายเป็นสาวโสดอยู่เป็นเพื่อนเขาได้ยังไงล่ะ”เฉินเหมียวเหมี่ยวหัวเราะคิกคักขณะนั้นเย่ฮวนเอ่อร์ก็เดินเข้ามาเฉินเหมียวเหมี่ยวทักด้วยความดีใจ “พี่ฮวนเอ่อร์!”น้าหวังลุกขึ้นยืน “หนูฮวนเอ่อร์ ได้ผลตรวจแล้วใช่ไหม?”ขอบตาของเย่ฮวนเอ่อร์ที่ขาวใสแดงเรื่อ เธอพยักหน้า “ได้มาแล้วค่ะ”เฉินเหมียวเหมี่ยวถามอย่างร้อนใจ “พี่ฮวนเอ่อร์ แม่หนูเป็นอะไร แม่ป่วยเหรอ?”เย่ฮวนเอ่อร์มองไปที่แม่เฉินซึ่งนอนอยู่บนเตียง แต่ไม่พูดอะไรน้าหวังเห็นว่าบรรยากาศไม่ปกติ จึงรีบพูดขึ้น “เหมียวเหมี่ยว ไปกับป้าแป๊บนึง ป้ามีเรื่องอยากจะคุยกับหนู”เฉินเหมียวเหมี่ยวไม่สงสัยอะไร “ได้ค่ะ”น้าหวังพาเฉินเหมียวเหมี่ยวออกไปตอนนี้ในห้องผู้ป่วยเหลือเพียงเย่ฮวนเอ่อร์กับแม่เฉิน เย่ฮวนเอ่อร์นั่งลงข้างเตียง มองดูแม่เฉินแม่เฉินสวมเสื้อผ้าที่สะอาด เสื้อผ้าดูเก่าและซีดจากการซักมานานหลายปี แต่ก็ยังสะอาดเรียบร้อย ผมสีดอกเลาครึ่งหัวถูกรวบขึ้นอย่างเรียบร้อย ใบหน้าแม่เฉินดูอ่อนโยนและสงบนิ
เย่ฮวนเอ่อร์ยิ้มมุมปาก “หนูเกรงว่าจะรบกวนคุณน้า ก็เลยไปหาเฉินจิ้นที่โรงเรียนค่ะ”แม่เฉินยิ้มอย่างมีความสุขขณะนั้นหัวหน้าหลิวก็เดินเข้ามา เย่ฮวนเอ่อร์จึงเดินออกไปในห้องทำงานของหัวหน้า หัวหน้าหลิวยื่นผลตรวจให้เย่ฮวนเอ่อร์ “คุณหนูหลิน ผลการตรวจของคนไข้ออกแล้วครับ”เย่ฮวนเอ่อร์ถาม “ผลเป็นยังไงบ้างคะ?”หัวหน้าหลิวส่ายหน้า “เป็นมะเร็งระยะสุดท้ายแล้วครับ”อะไรนะ?เย่ฮวนเอ่อร์อึ้ง “มะเร็งระยะสุดท้าย? คุณหมอคงไม่ได้เช็คพลาดใช่ไหมคะ สุขภาพของแม่เฉินแข็งแรงมาโดยตลอดเลยนะ”“ไม่ผิดแน่นอนครับ คนไข้น่าจะเป็นมะเร็งมาตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อนแล้ว เธอรู้อยู่แก่ใจแต่ไม่ได้รับการรักษาและไม่ได้บอกใคร ตอนนี้เซลล์มะเร็งแพร่กระจายไปถึงหัวใจและสมองแล้ว คนไข้คงเหลือเวลาอีกประมาณสองเดือนครับ”เย่ฮวนเอ่อร์ทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้ทันที เธอไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าแม่เฉินจะเหลือเวลาอีกเพียงสองเดือนทำไมถึงไม่บอก ทำไมถึงไม่ยอมรักษา?เฉินจิ้นกับเฉินเหมียวเหมี่ยวยังไม่รู้เรื่องนี้เลย…………ในห้องพักคนไข้ เพื่อนบ้านน้าหวังกับเฉินเหมียวเหมี่ยวอยู่เป็นเพื่อนแม่เฉิน เฉินเหมียวเหมี่ยวเทน้ำอุ่นใส่แก้ว “แม่ ดื่มน้ำค่ะ”
เย่ฮวนเอ่อร์กำลังจะวิ่งตามเฉินจิ้นไปแต่จ้าวอี้คว้าข้อมือเธอไว้ทันที “เธอจะวิ่งตามเขาไปทำไม ห้ามไป!”เย่ฮวนเอ่อร์สะบัดมือเขาออกอย่างแรง “ทะเลยังไม่กว้างเท่าความสาระแนของนายเลย!”เธอรีบวิ่งตามเฉินจิ้นไปจ้าวอี้กำหมัดแน่นด้วยความโกรธ…………เย่ฮวนเอ่อร์ตามเฉินจิ้นมาถึงโรงพยาบาลเล็กแห่งหนึ่ง แม่เฉินนอนอยู่บนเตียงคนไข้สีขาว ยังไม่ฟื้นเฉินเหมียวเหมี่ยวยืนร้องไห้ไม่หยุด ใบหน้าซีดขาวด้วยความตกใจ ข้างกายมีคุณป้าข้างบ้านคอยปลอบเฉินจิ้นรีบเดินเข้าไป “เหมียวเหมี่ยว!”“พี่!” เฉินเหมียวเหมี่ยวตัวผอมบาง โผเข้ากอดเฉินจิ้นทันที น้ำตาไหลไม่หยุด “พี่ รีบไปดูแม่หน่อย แม่ไม่ตื่นเลย ฮือๆ”เฉินจิ้นปลอบน้องสาวอยู่สองสามคำ จากนั้นมองไปยังแม่บนเตียง “แม่!”แม่เฉินไม่มีปฏิกิริยาคุณป้าข้างบ้านพูดขึ้น “เฉินจิ้น พวกเธอรีบพาแม่ไปโรงพยาบาลใหญ่นะ หมอที่นี่เพิ่งมาตรวจ บอกว่าต้องรีบไปตรวจที่โรงพยาบาลใหญ่ ห้ามช้า แต่ตอนนี้เตียงในโรงพยาบาลใหญ่ก็หายาก แถมยังไม่รู้ว่าคุณหมอคนไหนเก่งด้วย แบบนี้จะทำยังไงดีละลูก”คุณป้าถอนหายใจ เธอรู้ว่าพ่อเฉินจิ้นเสียไปนานแล้ว ตอนนี้เฉินจิ้นต้องดูแลทั้งแม่และน้องสาวเคราะห์ซ้ำกร
เย่ฮวนเอ่อร์เดินมาอยู่ข้างๆ เฉินจิ้น พยายามจะหยุดเกมบ้าๆ นี้ “เฉินจิ้น นายไม่ต้องเล่นเกมของจ้าวอี้นะ มันอันตรายต่อร่างกายมาก ถ้านายต้องการเงินจริงๆ ฉันสามารถ…”เฉินจิ้นหันมามองเย่ฮวนเอ่อร์แวบนึง เย่ฮวนเอ่อร์ก็รีบเงียบลงทันทีเธอไม่ได้ตั้งใจพูดแบบนั้น เธอแค่ไม่อยากให้เขาทำร้ายร่างกายตัวเองเฉินจิ้นหันไปพูดกับหัวหน้าคุมงาน “เริ่มได้เลยครับ”หัวหน้าคุมงานยกถุงปูนทีละถุงขึ้นวางบนไหล่ของเฉินจิ้น ไม่นานก็ครบแปดถุงหัวหน้าคุมงานเพิ่มถุงที่เก้า กับถุงที่สิบขึ้นมาอีกจ้าวอี้ดูอย่างเมามัน เขาตบมือแล้วร้อง “โอ้โฮ เฉินจิ้น นึกไม่ถึงว่านายจะทุ่มขนาดนี้เพื่อเงิน หนึ่งพัน สองพัน”จ้าวอี้โยนเงินสองพันบาทลงพื้นหัวหน้าคุมงานวางถุงที่สิบเอ็ด และถุงที่สิบสอง“สามพัน สี่พัน”จ้าวอี้ยังคงโยนเงินลงบนพื้นถุงปูนสิบสองถุงเพิ่มขึ้นบนไหล่ของเฉินจิ้น ใบหน้าของเขาไม่แสดงอารมณ์ แต่เหงื่อที่หน้าผากหยดลง “แปะ แปะ” เปียกไปทั่วชุดทำงานเย่ฮวนเอ่อร์อยากจะห้าม แต่ไม่ว่าจะพูดยังไงก็ดูจะผิดไปหมด ได้แต่ยืนดูด้วยสายตากังวลหัวหน้าคุมงานทนไม่ไหว “เฉินจิ้น ถ้านายไม่ไหวแล้วก็บอกนะ”เฉินจิ้นไม่พูดอะไรหัวหน้าคุมง
จ้าวอี้กำหมัดแน่น “เย่ฮวนเอ่อร์ เธอโดนเฉินจิ้นเล่นของใส่รึเปล่า?”“งั้นก็ไม่เกี่ยวกับนาย!”จ้าวอี้เท้าเอว หัวเราะอย่างโมโห “ได้ งั้นเรื่องของฉันก็ไม่เกี่ยวกับเธอ ตอนนี้ฉันจะไปหาเฉินจิ้น”จ้าวอี้หมุนตัวแล้วเดินไปทางเฉินจิ้นทันทีเย่ฮวนเอ่อร์สีหน้าเปลี่ยนไปทันที รีบยื่นมือไปดึงจ้าวอี้ “จ้าวอี้ นายจะทำอะไร? ที่นี่คือสถานที่ทำงานของคนอื่น นายมีสิทธิ์อะไรไปก่อกวนเขา?”ขณะนั้นหัวหน้าคุมงานของไซต์รีบวิ่งมาหอบหายใจ พยักหน้าคำนับต่อหน้าจ้าวอี้ “คุณชายจ้าว ท่านมาที่นี่ได้ยังไงครับ ที่นี่สกปรกมาก เดี๋ยวจะเปื้อนเสื้อผ้าท่าน วันนี้คุณชายมาสำรวจงานเหรอครับ?”เย่ฮวนเอ่อร์ตกใจจ้าวอี้หันมามองเย่ฮวนเอ่อร์ ยิ้มมุมปาก “จริงสิ ลืมบอกเธอไป ตึกตรงนี้เป็นโครงการของบ้านฉัน เป็นไซต์งานของบ้านฉัน ฉันมาดูงานมันผิดตรงไหนล่ะ”เย่ฮวนเอ่อร์เกือบลืมไปว่าตระกูลจ้าวทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ที่นี่เป็นโครงการหนึ่งของพวกเขาเฉินจิ้นดันบังเอิญมาทำงานที่พื้นที่ของตระกูลจ้าวพอดีจ้าวอี้หันไปพูดกับหัวหน้าคุมงาน “ได้ยินว่าที่นี่มีคนชื่อเฉินจิ้นเหรอ?”หัวหน้าคุมงาน “ใช่ครับ”“เรียกเขามาหน่อยสิ”หัวหน้าคุมงานตะโกนเสียง
ได้ยินคำพูดนั้น เย่ฮวนเอ่อร์ก็หยุดดิ้น เธอขึ้นไปนั่งที่เบาะข้างคนขับของรถเฟอร์รารีแต่โดยดีจ้าวอี้กลับมานั่งที่เบาะคนขับ สีหน้าเย็นชา “เย่ฮวนเอ่อร์ เธอสนใจเฉินจิ้นขนาดนั้นเลยเหรอ?”ตอนแรกไม่ยอมขึ้นรถเขา แต่พอเพื่อเฉินจิ้นกลับยอมขึ้นทันทีเย่ฮวนเอ่อร์เงยหน้ามองจ้าวอี้ “จ้าวอี้ นายรู้ไหมว่านายตอนนี้มันแปลกมาก?”จ้าวอี้อึ้ง“ฉันก็ยกฮั่วเสวียนให้นายไปแล้ว ตอนนี้แฟนนายคือฮั่วเสวียนเธอหน้าอกใหญ่ เอวเล็ก เป็นนักเต้นบัลเล่ต์ นายก็ชอบผู้หญิงสไตล์นั้นไม่ใช่เหรอ นายควรจะติดอยู่กับเธอสิทำไมนายยังต้องตามวุ่นวายกับฉันอีก?”จ้าวอี้กำพวงมาลัยแน่น “ฉัน……”“จ้าวอี้ อย่าบอกฉันนะว่านายหลงรักฉันเข้าแล้ว”เห็นสายตาเย่ฮวนเอ่อร์ที่เต็มไปด้วยการเย้ยหยันและดูถูก จ้าวอี้ก็โกรธจนพูดไม่ออก เขาหัวเราะเยาะ “หลินเสี่ยวเยา อย่ามโนไปเองนักเลยฉันจะไปหลงรักเธอได้ยังไง?”“งั้นก็ดี”เย่ฮวนเอ่อร์ไม่ต้องการความรักของเขาเลย ความรักที่มาช้า มันไร้ค่าเสียยิ่งกว่าหญ้า!จ้าวอี้รู้สึกว่าตัวเองแค่มีความรู้สึกอยากครอบครอง เพราะตอนแรกเย่ฮวนเอ่อร์วิ่งตามเขาแต่ตอนนี้กลับเปลี่ยนใจไปชอบเฉินจิ้นแทน ยิ่งเฉินจิ้นเป็นศัตรูของเขาด้
เย่ฮวนเอ่อร์หันหลังเดินจากไปทันทีฮั่วเสวียน “……”ตอนนั้นเอง จ้าวอี้ก็เดินก้าวเข้ามาขวางทางเย่ฮวนเอ่อร์ “เย่ฮวนเอ่อร์ เธอชอบเฉินจิ้นจริงๆ เหรอ?”เย่ฮวนเอ่อร์พยักหน้า “ใช่แล้ว”จ้าวอี้ยังไม่เชื่อ “เป็นไปไม่ได้ เธอจะไปชอบเฉินจิ้นคนนั้นได้ยังไง? เธอต้องแกล้งทำเพื่อยั่วฉันใช่ไหม เย่ฮวนเอ่อร์ ฉันไม่คิดเลยว่าเธอก็ใช้มารยาหญิงเพื่อดึงความสนใจฉันเหมือนกัน!”เย่ฮวนเอ่อร์รู้สึกหมดคำจะพูด “จ้าวอี้ ฟังให้ดีนะ ฉันกับนายจบกันไปนานแล้ว ตอนนั้นพวกเรายังเด็กฉันยอมรับว่านายใช้ฉันแล้วไปมีคนอื่นแต่เอาเข้าจริง ฉันก็ไม่ได้รักนายแบบชายหญิงเลยด้วยซ้ำตอนนี้คนที่ฉันชอบคือเฉินจิ้น!”จ้าวอี้ไม่อยากเชื่อ เขาไม่เชื่อเลยว่าเสี่ยวเยาที่เคยวิ่งตามเขาจะเปลี่ยนใจไปชอบคนอื่น“เย่ฮวนเอ่อร์ เธอรู้ไหมว่าเฉินจิ้นเป็นคนยังไง? เขาเกิดมาต่ำต้อย คบกับเธอ เขาจะเลี้ยงเธอไหวเหรอ?หรือว่าเธอจะต้องเลี้ยงเขาเอง?”เย่ฮวนเอ่อร์ขมวดคิ้ว “จ้าวอี้ ฉันไม่เข้าใจเลยว่าพวกนายเอาความเหนือกว่ามาจากไหน ก็แค่นายเกิดมาดีกว่าเฉินจิ้น บอกให้นะฉันก็แค่ชอบเขา ฉันอยากทำอะไรก็เรื่องของฉัน!”“เย่ฮวนเอ่อร์ เธอ!” จ้าวอี้หน้าเขียวด้วยความโกรธ“จ้าวอ