“เออ...กูรออยู่ฝั่งตรงข้ามนี่นะ แม่ง...ทำไมถนนแถวนี้มันไม่มีสะพานลอยหรือทางม้าลายกันเลยวะ รถก็วิ่งเหมือนไม่มีเบรกแถมมาเลยงั้นแหละ” ชายหนุ่มตอบเพื่อนแล้วบ่นอุบ เพราะเขาไปอยู่ต่างประเทศมาหลายปี และเพิ่งกลับมาถึงเมื่อเช้านี้แล้วเข้าไปรายตัวที่โรงพยาบาลเลยยังไม่ได้กลับบ้านที่อยู่อีกฝั่งของกรุงเทพ ทำให้วันนี้ต้องอาศัยแท็กซี่มาตามที่เพื่อนนัด และแท็กซี่ก็จอดให้ลงฝั่งตรงข้าม โดยให้เหตุผลว่ากลับรถไกลให้เขาข้ามเองง่ายกว่า
‘บ่นฉิบหาย รออยู่ตรงนั้นแหละอีก 15 นาทีกูก็ถึง เดี๋ยวแวะรับ’ เจเดนตอบเพื่อนพร้อมกับถอนหายใจเบา ๆ กับความคุณชายระเบียบของเพื่อน
“เออ...ให้เร็ว!” ว่าจบกดตัดสายแล้วเก็บมือถือใส่กระเป๋ากางเกง ก่อนจะหันมามองหน้าหญิงสาวที่ยืนอยู่ไม่ห่างเท่าไหร่นักเป็นคำถาม
“มีอะไรหรือเปล่าครับ” ชายหนุ่มเลิกคิ้วถามสาวสวยที่ยืนยิ้มอยู่ตรงหน้าพลางแอบสำรวจอย่างพิจารณา เธอเอวบางร่างเพรียวสูงเกือบ 170 ได้ รองเท้าที่เธอใส่เป็นผ้าใบพื้นเตี้ยแบรนด์ดังที่เพิ่งเปิดตัวได้ไม่นาน หน้ารูปไข่ ริมฝีปากบาง ๆ ทาด้วยลิปติกสีแดงไวน์ ขนตางอนยาวรับกับตาโต ๆ จมูกรั้น ๆ ดูแล้วน่ารักลงตัว อายุไม่น่าจะเกินเด็กมหาลัย
“มีค่ะ น้องไปทำธุระกับพี่หน่อยได้มั้ยคะ” หญิงสาวตอบพร้อมกับยิ้มน้อย ๆ เหมือนไม่ค่อยมั่นใจตัวเองเท่าไหร่นัก
*แก่แดดเหลือเกินอิหนู เรียกกูว่าน้องด้วย เด็ก ๆ แบบนี้รถเสียล่ะมั้ง ไปดูให้ซะหน่อยก็ได้* ชายหนุ่มคิดในใจ “ได้สิครับ ว่าแต่จะไปไหนเหรอ” ชายหนุ่มถามยิ้ม ๆ แล้วหันมาเผชิญหน้าตรง ๆ
*เยส! ก็ไม่ได้ยากนี่หว่า* หญิงสาวคิดในใจ “โอเค...งั้นไปกันตรงข้ามนี่แหละ” ว่าพลางคว้าแขนชายหนุ่มเดินข้ามถนนเร็ว ๆ แล้วเข้าร้านไปทันที...
……….//……….
BOVA Pubz
สาวสวยเดินลากแขนหนุ่มหล่อชุดนักศึกษาเข้ามาในห้อง VIP ชั้น 2 ของร้านที่ตอนนี้เพื่อน ๆ ของเธอกำลังนั่งรอลุ้นกับการมาของเธอเหมือนบุคคลสำคัญของค่ำคืนนี้ก็ว่าได้ (แต่ก็สำคัญนั่นแหละเพราะนางไม่ออกมาพบเพื่อนเลยตั้งแต่กลับไทยและมาสายที่สุดในกลุ่ม)
“ก๊อก! ก๊อก! มาแล้วจ้า...” แองจี้ทำท่าเคาะประตูกระจกแล้วพูดขึ้นดัง ๆ ก่อนจะปล่อยแขนคนที่จูงมาแล้วยิ้มร่าอ้าแขนเดินเข้าไปหาเพื่อน ๆ
“กรี๊ด!! ชีมาจริง ไรจริง ที่รักคนสวยของเพื่อน” เอลซี่กรี๊ดลั่นลุกขึ้นอ้าแขนกอดเพื่อนสาวแล้วทำท่าส่งจูบที่ซอกคอทั้ง 2 ข้าง ที่เธอเรียกว่าที่รักเพราะแองจี้ชื่อจริงว่ารักจันทร์และเพื่อนในห้องเรียนตอนมัธยมมีชื่อเล่นว่า แองจี้ อีกคน ทำให้เพื่อน ๆ ชอบเรียกเธอว่าที่รัก มากกว่า แองจี้ “so miss คนสวย อ๊ะ! อ๊ะ! กรี๊ด ผู้ชาย...ชีพามาได้จริงด้วยว่ะพวกแก” ทักทายเพื่อนตาเหลือบไปเห็นหนุ่มหล่อที่เพื่อนลากมา ถึงกับกรี๊ดลั่นแล้วปล่อยกอดเพื่อนเดินเข้าหาจับแขนชายหนุ่มทันที
“หนู... ไปได้มาจากลูก หล่อ สมาร์ท เท่ห์ ทรงนักศึกษา แต่หน้าตาแดดดี๊ สูง ยาว ใหญ่ สเปกแม่มาก ถ้าคืนนี้หนูไม่ไปต่อ แม่ขอนะคะลูก” ว่าพลางปรายตาหวานเยิ้มจนทอยขนลุก แต่ก็แอบยิ้มขำกับจริตของเธอ *นี่หรือวะธุระ กูนึกว่ารถเสียที่ไหนได้ให้พามาเข้าผับ เอ้อ...* ทอยคิดในใจขำ ๆ
“ก็ไปลากมาจากที่แม่บอกนั่นแหละค่ะ แต่น้อย ๆ หน่อยนังเอล จะต่อกับใครก็เกรงใจคนที่นั่งอ้อนเมื่อ 3 นาทีก่อนด้วย” หญิงสาวว่าพลางนั่งลงที่โซฟายาวแขวะเพื่อนพร้อมกับรับแก้วบรั่นดีจากชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างเอลซี่ทีแรกยื่นมาให้“ขอบคุณค่ะ”
“มีหวงนะยะ ว่าแต่ชื่ออะไรคะคุณ” ลูกอ้อนว่าพรางปรายตามองชายหนุ่มยิ้ม ๆ ก่อนจะหันมามองหน้าเพื่อนสาว
“เออ...ลืมถามว่ะ! ชื่ออะไรคะ” แองจี้ตอบพร้อมกับหันไปถามคนที่เธอลากมา ส่วนเอลซี่ลากแขนชายหนุ่มมานั่งลงข้าง ๆ เพื่อนแล้วกลับไปนั่งที่เดิมของตัวเอง
“ชื่อทะ...ธีครับ” ชายหนุ่มตอบยิ้ม ๆ ที่เขาบอกชื่อนี้เพราะคิดว่าอาชีพที่ตัวเองทำไม่เหมาะกับสถานที่แบบนี้และคนพวกนี้สำหรับเขาคือคนแปลกหน้าซึ่งไม่จำเป็นต้องเจอกันอีก แล้วล้วงมือถือออกมาดูสายเรียกเข้าก่อนจะขอตัวลุกขึ้นยืนหันหลังรับสายเพื่อนเสียงเบา
‘อยู่ไหนเนี่ยทอย กูอยู่หน้าร้านบาร์โฮสต์เนี่ย’ เจเดนถามอย่างหัวเสีย
“กูข้ามถนนมาแล้ว มึงเข้ามาเลย” ทอยตอบเพื่อนเสียงเบา
‘เออ... BOVA vip ห้อง 2 นะ’ เจเดนย้ำร้านกับห้องให้เพื่อน
“เออ...ครับ รู้ครับ มึงไม่ได้ยินเสียงเพลงหรือไง เดี๋ยวกูไปแค่นี้นะ” ว่าจบกดตัดสายเพื่อนแล้วหันไปยิ้มให้แองจี้ที่นั่งมองอยู่ก่อนหน้า
“เพื่อนโทรมาครับ” ชายหนุ่มบอกพร้อมกับเก็บมือถือใส่กระเป๋ากางเกงแล้วนั่งลงข้าง ๆ เธอหันมายิ้มละมุนให้รอบกลุ่ม
“มาจากร้านตรงข้าม รู้จักน้องทีมมั้ยคะ น้องก็ทำงานที่นั่นเหมือนกัน” ต้นข้าวถามขึ้นยิ้ม ๆ
“แหม...คุณต้นข้าวคะ จะแต่งอยู่อีก 3 วัน 5 วัน แต่ชายตามาหวานกว่าน้ำตาลอีกนะคะ เบาได้เบา ไม่เกรงใจผัวก็เกรงใจผู้ชายคืนนี้บ้าง” ลูกอ้อนว่ากับเพื่อนแล้วปรายตามองทอยยิ้ม ๆ
“ให้น้อย ๆ ค่ะนาง คนนี้น้องรหัส ป.ตรี กูค่ะ น้องเป็นแคชเชียร์ที่นั่น วันนี้แค่มารับจ๊อบจากว่าที่สามีกู” ต้นข้าวหันไปบอกกับเพื่อน ถึงผู้ชายที่เธอพามาด้วยในคืนนี้
“แต่ผมไม่เคยเห็นหน้าพี่เค้านะครับพี่ข้าว เพิ่งมาใหม่หรือพาร์ทไทม์ครับ ผมไม่เคยเห็นหน้าเลย” ทีมหันไปตอบต้นข้าวแล้วหันมาถามชายหนุ่มยิ้ม ๆ
“เอ่อ...เพิ่งมาครับ เพิ่งมาวันนี้เลย” ทอยตอบยิ้ม ๆ *ร้านตรงข้าม? อย่าบอกว่าคิดว่ากูเป็นโฮสต์น่ะ ไอ้บ้าเอ๊ย! ทรงกูได้ขนาดนั้นเลยหรือวะ...* ทอยคิดในใจ เมื่อเพิ่งถึงบางอ้อว่าทำไมสาว ๆ กลุ่มนี้ถึงมองตัวเองแปลก ๆ
“อุ่ย! ตาถึงนะชี มาทำงานวันแรกก็ได้ดีลกับชีเลย คืนนี้อย่าเผลอนะจ๊ะ อีเอลจ้องอยู่ค่ะบอกเลย” ต้นข้าวแซวเพื่อนสาวพร้อมกับรับแก้วจากพนักงานมาวางให้ทอยตรงหน้า “งานวันนี้เราจัดกันแค่สนุก ๆ นะคะธี เราแค่แกล้งอิรักให้มันหาคู่ควงมาแค่นั้นแหละ ทำงานวันแรกอย่าเกร็งนะสนุกได้เต็มที่ สบาย ๆ ถือซะว่ามากินเหล้ากับเพื่อนใหม่นะคะ อีกไม่กี่วันเราก็จะแต่งงาน ยายอ้อนก็จะไปอยู่ต่างประเทศกับแฟน เราเลยอยากปาร์ตี้กันแค่นั้นเอง” ต้นข้าวหันมาคุยกับทอยยิ้ม ๆ
“อ๋อ...ครับ ยินดีด้วยนะครับ” ชายหนุ่มว่าพลางยกแก้วขึ้นชนกับต้นข้าวแล้วจิบเล็กน้อยเป็นการแสดงความยินดีกับเธอตามมารยาท
“นี่พวกมึงแกล้งกูจริงดิ โห...อะไรวะ อายแทบตายเลยรู้หรือเปล่าไอ้พวกเพื่อนบ้า” แองจี้ที่ได้ยินแบบนั้นโวยวายขึ้นพร้อมกับฟาดที่แขนเพื่อนไม่แรงนักแล้วทำหน้าบึ้งงอนเพื่อนอย่างน่าเอ็นดู
“ก็แค่สนุก ๆ น่า ธีคะชนแก้วค่ะ” ลูกอ้อนว่าขึ้นแล้วหันไปชวนชายหนุ่มชนแก้ว ทอยยกแก้วขึ้นชนกับหญิงสาวแล้วยกขึ้นจ่อปากแต่ต้องสะดุ้ง เมื่อเอลซี่ลุกมานั่งที่พนักเท้าแขนข้างเขาแล้วคล้องแขนยกแก้วขึ้นดื่มพร้อมกับยกก้นแก้วของทอยขึ้นให้ดื่มจนหมด
“น้อย ๆ หน่อย ชะนี เห็นมั้ย คนพามายังนั่งซื่อบื้ออยู่เลย แกจะเปิดไวทำไมคะ” ลูกอ้อนว่าพลางยกแก้วให้ชายหนุ่มที่นั่งข้าง ๆ ซึ่งก็คือแฟนตัวจริงของเธอนั่นเอง (ลูกอ้อนกับเอลซี่ มากับแฟนจริง ๆ ต้นข้าวมากับน้องรหัส แต่หลอกให้แองจี้ไปลากโฮสต์จากร้านตรงข้ามมา^_^)
“ก็เพราะมันนั่งซื่อบื้อนี่แหละค่ะ กูถึงได้เปิด (หันไปจีบปากจีบคอกับเพื่อน) แล้วนี่ธีจ๋า รักมันให้มากี่ดื่มคะ ถึงได้ยอมมากับมัน นังนี่มันรวยมากนะคะ ถ้ามันให้ต่ำกว่าพันดื่มเดินกลับร้านไปเลยจ้าผู้ชาย หน้าหล่อ ๆ กล้ามล่ำ ๆ สเปกสาธารณะแบบนี้ไปนั่งนิ่ง ๆ ยังจะได้เยอะกว่าพันดื่มอีกนะคะ” เอลซี่หันมาพูดกับทอยยิ้ม ๆ ซึ่งคำพูดของเธอทำเอาทอยกับแองจี้มองหน้ากันงง ๆ
“เอ่อ...” *เชี้ย! ต้องแดกเป็นพันดื่มเลยหรือวะ คนบ้าอะไรจะนั่งกินแลกเงินได้ขนาดนั้น* ทอยอุทานในใจ
“จะบ้าเหรอใครเขาจะจ่ายกันเป็นดื่มวะ เขาก็จ่ายเป็นชั่วโมงไม่ใช่หรือไง” แองจี้หันไปถามเพื่อนหน้าซื่อ ในชีวิตเธอไม่เคยที่จะต้องจ่ายอะไรหรือรู้เรื่องอะไรแบบนี้ เธอเข้าใจว่าการเข้าบาร์โฮสต์คือเข้าไปนั่งให้ผู้ชายบริการชงเหล้าให้ นั่งเป็นเพื่อนคุยเวลาเซ็ง ๆ แล้วจ่ายเป็นชั่วโมงเท่านั้น การออกจากร้านก็อาจต้องจ่ายพิเศษบ้างนิดหน่อย
“โอ๊ย! อิคุณที่รักคะ แล้วมึงไปลากเขามายังไง
โบ๊ะบ๊ะกันทั้งคู่เลยทีนี้ คุณหมอจะได้เป็นคุณหมอมั้ยนี่ ...
3 เดือนต่อมาอ้วก! อ้าก! แหวะ เสียงโครกครากอยู่ในห้องน้ำตอนเช้า ซึ่งน่าจะเป็นเสียงปลุกประจำสัปดาห์นี้ที่ปลุกคนนอนดึกไม่เว้นวันหยุดทำเอาคนที่พึ่งได้นอนหลังจากที่แก้แบบงานที่จะเสนอลูกค้าเสร็จเกือบตี 2 ต้องขมวดคิ้ว นวดขมับเบา ๆ พยุงตัวเองลุกขึ้นมานั่งมองประตูห้องน้ำก่อนจะถอนหายใจเบา ๆ ลงจากเตียงลงไปเคาะประตูห้องน้ำเรียกคนข้างใน“พี่ทอย พี่ไหวมั้ยเนี่ยจี้ว่าพี่ไปหาหมอเถอะนะ” ภรรยาคนสวยของคุณหมอบอกสามีอย่างเป็นห่วง เพราะเห็นว่าช่วงนี้เขากำลังเรียนต่อระดับดอกเตอร์และค่อนข้างเครียดกับงานวิจัยของตัวเองมาซักระยะหนึ่งแล้ว“ที่รักคะ หนูลืมไปแล้วหรือว่าพี่เป็นหมอแล้วพี่ก็มีพี่เมียเป็นหมอ แหวะ!....” เสียงแหบทุ้มดังมาจากในห้องน้ำตามมาด้วยเสียงโก่งคออ้วกอีกรอบ“เข้าใจค่ะว่าพี่เป็นหมอ แต่คุณหมอคะ คุณหมออ้วกปลุกภรรยามาทั้งอาทิตย์แล้วนะคะ รบกวนไปหาหมอเถอะค่ะ หรือจะให้เรียกหมอมาตรวจคุณหมอที่บ้านดีคะ” แองจี้ถามประชดสามีพลางมองบนกับความเป็นหมอแต่ไม่ยอมหาหมอกับอาการผิดปกติของตัวเอง แต่พอคนในบ้านป่วยจะไล่ไปโรงพยาบาลทุกที“หนู อย่
1 ปีต่อมาคฤหาสน์สร้างใหม่หลังใหญ่บนพื้นที่กว่า 5 ไร่ ที่ชานเมืองของกรุงเทพฯ วันนี้ มีพิธีแต่งงานของคู่บ่าวสาว ทายาทคนเดียว ของตระกูลธีรนันธากรและ วรวัฒน์วีรชน ซึ่งนั่นก็คือนายแพทย์ธีรดา ธีรนันธากรคุณหมอสุดหล่ออนาคตไกลของโรงพยาบาลHพ่วงตำแหน่ง ประธานบริษัทส่งออก ทีพีอาร์ ทรานสปอร์ต กับ รักจันทร์ วรวัฒน์วีรชน ประธานฝ่ายบริหารบริษัทรวิแบรนด์ คนปัจจุบัน ลูกสาวคนสวย ของดอกเตอร์รวัชและคุณหญิงจันทร์เจ้าขา ซึ่งก็คืองานแต่งงานของแองจี้กับทอยที่ถูกเลื่อนจัดถึง 2 ครั้งและครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ของฤกษ์แต่งที่พระอาจารย์ชื่อดังกำหนดให้ซึ่งถ้าเลื่อนอีกจะมีฤกษ์แต่อีกทีคือ 5 ปีข้างหน้าซึ่งคุณย่าทั้ง 2 บ้านไม่ยอมเด็ดขาด เลยต้องจัดขึ้นอย่างฉุกละหุกบอกกล่าวเฉพาะเครือญาติและแขกคนสำคัญในเครือธุรกิจเท่านั้นแต่ก็นับรวมได้เป็นร้อยคนจนแทบไม่พอที่จอดรถทั้ง 2 บ้าน ส่วนสาเหตุที่เลื่อนครั้งแรกนั้นเพราะทอยติดงานสำคัญของบริษัทส่งออกที่ดูแลอยู่และเรือนหอสร้างยังไม่เสร็จ ส่วนรอบสอง เพราะแองจี้ติดงานต้องเดินทางไปต่างประเทศ แต่ครั้งนี้คุณย่าทั้ง 2 บ้านไม่ยอมให้ทั้งคู่หาข้ออ้างเลื่อนงานแต่งได้อ
รีสอร์ตอุ่นรัก เชียงใหม่รีสอร์ตครบวงจรขนาดใหญ่ท่ามกลางบรรยากาศเย็นสบาย ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย เพราะมีกิจกรรมสำหรับครอบครัวแบบครบครันในวันหยุดยาวแบบนี้ชายหนุ่มพาคนที่เรียกว่าแฟนเดินอ้อมไปทางด้านหลังที่เป็นบ้านพักส่วนตัวของเขาที่ผู้เป็นพ่อสร้างไว้ให้ตั้งแต่ชั้นประถม เพื่อให้เขาได้อยู่อ่านหนังสือเป็นการส่วนตัว ซึ่งแต่เดิมเขาขอให้ท่านทำรั้วรอบขอบชิด เพราะไม่อยากให้ใครเข้ามาวุ่นวายหรือส่งเสียงดังแต่ปัจจุบันถูกปรับปรุงให้เป็นไพรเวทโซน นำรั้วออกและมีบ้านพักอีกหลายหลังเพื่อให้เช่าเป็นครอบครัวใหญ่หรือหมู่คณะทามกลางบรรยากาศเงียบสงบและเป็นส่วนตัว แต่ยังคงไว้ซึ่งความเงียบสงบของบ้านนี้ และเขาตั้งใจว่าในอนาคตข้างหน้าเขาจะปรับปรุงบ้านนี้ให้เป็นบ้านหนังสือให้คนที่เข้ามาพักได้มีมุมสงบในการอ่านหนังสือ“มันสวยแล้วมันก็เงียบดีมากเลยนะคะ” หญิงสาวว่าขึ้นพลางมองไปรอบ ๆ บ้าน“ป๊าสร้างไว้ให้พี่ตั้งแต่เด็ก ๆ แล้วน่ะ เมื่อก่อนมีรั้วด้วยนะ แต่ตอนนี้ทำเป็นไพรเวทโซนเอารั้วออก แต่บ้านนี้ก็ยังเป็นบ้านส่วนตัวพี่อยู่” ชายหนุ่มบอกยิ้ม ๆ แล้วพากันเดินเข้าในบ้า
หลังทานอาหารเย็นร่วมกันกับครอบครัวที่อยู่กันพร้อมหน้า หนุ่มสาวทั้ง 2 ได้กราบขอโทษคุณย่าที่ไม่ได้บอกให้ท่านรู้ว่าทั้งคู่รู้จักกันมาก่อนและบอกเหตุผลก่อนหน้า ซึ่งท่านก็เข้าใจแต่ก็แอบงอนเล็กน้อยที่ทำให้คิดว่าหลานทั้ง 2 จะแยกเป็น 2 ครอบครัว และถ้าทอยมีแฟนเป็นคนอื่นเขาก็จะห่างเหินท่านไป ซึ่งท่านก็รักและเอ็นดูชายหนุ่มอยู่มาก“คราวนี้พร้อมหน้านะ แม่ครับผมจะพูดเรื่องสินสอด” พ่อเลี้ยงอุเทนเปิดประเด็นขึ้นหลังจากที่พยุงแม่เพื่อนมานั่งที่ห้องนั่งเล่น“โห...ไวไปรึเปล่าคะป๊า” ว่าที่เจ้าสาวของงานว่าขึ้นพลางเดินไปเปิดตู้หยิบขวดไวน์ออกมาวางแล้วสั่งให้แม่บ้านหาแก้วมาให้แขก“เออ...มึงด่วนอะไรไอ้เทน เด็กมันเพิ่งกลับมา” คุณศิลาว่าขึ้นพลางมองหน้าเจ้าของบ้านที่ตอนนี้มองหน้าเพื่อนรักนิ่ง ๆ“ไม่ได้หรอก กูด่วน กูอยากมีหลาน” คนใจร้อนโพล่งขึ้นพลางมองหน้าเพื่อน ซึ่งคนเป็นย่าเมื่อได้ยินแบบนั้นก็หน้าบานขึ้นมาทันที“อันนี้แม่เห็นด้วย แม่ก็อยากอุ้มเหลนเหมือนกัน” คุณย่าว่าขึ้นพลางมองหลานหน้าสาวยิ้ม ๆ แต่คนถูกมองกลับก้มหน้าง
2 สัปดาห์ต่อมาโรงพยาบาล Hหนุ่มหล่อสวมกางเกงยีนส์ เสื้อยืดคอกลมสีขาว รองเท้าผ้าใบธรรมดา เดินยิ้มเข้ามาในแผนกฉุกเฉินก่อนจะสวมกอดหมอหนุ่มเพื่อนรักที่เดินออกมาจากห้องนั้นท่ามกลางสายตางุนงงของพยาบาลและหมอที่เดินผ่านกับชายหล่อคุ้นตาคนนี้ที่หน้าตาคุ้นเคยแต่บุคลิกไม่คุ้นเท่าไหร่“ยิ้มมาเชียวสัตว์ หายเหมือนตายจาก โทรก็ไม่โทรไลน์ก็ไม่อ่าน ป๊ามึงกับอาโรมแทบจะจุดธูปหา” เจเดนว่าให้เพื่อนรักทันทีที่เห็นหน้าแล้วยิ้มที่มุมปากกับภาพนี้ที่เขาไม่เคยเห็นเลยตั้งแต่ชายหนุ่มกลับไทยเมื่อหลายเดือนก่อน“ก็ให้เวลากับลูกกับเมียหน่อยสิวะนาน ๆ จะมีโอกาสอยู่ด้วยกัน” ชายหนุ่มตอบเพื่อนยิ้ม ๆ แล้วพากันเดินเข้าห้องพักแพทย์ท่ามกลางสายตาของพยาบาลที่อยู่ในนั้น อยากทักแต่ไม่กล้าทักได้แต่ยิ้มให้ 2 หนุ่มแห้ง ๆ“เอ๊า...พี่นุชครับ ทำไมมองหน้าเหมือนเห็นผีแบบนั้นล่ะ นี่ผมเอง” ชายหนุ่มทักทายพยาบาลหน้าห้องตรวจตัวเองยิ้ม ๆ“เอ่อ...” “ไอ้ทอยไงพี่นุช จำมันไม่ได้เหรอ ไอ้นี่มันไม่มีแฝดหรอก” เจเดนสวนความอึกอักของพยาบาลสาวรุ่นพี่พร้อ
“หนูผอมลงไปเยอะเลยนะ ทำไมไม่ดูแลตัวเองดี ๆ คะ”“ก็จี้ต้องทำงานนี่คะ” หญิงสาวว่าพลางก้มหลบตา *รีบทำรีบกลับไปหาตัวเองนั่นแหละ...*“แต่ถึงจะทำงานหนูก็ต้องแบ่งเวลาพักบ้างไม่ใช่จะทำ 20 ชั่วโมงแบบนั้น”“ก็จี้อยากให้งานมันเสร็จเร็ว ๆ นี่คะ จี้รู้ว่าจี้ผิดที่ตัดสินใจทำอะไรใช้อารมณ์ จี้ไปหาไอ้ข้าวที่ญี่ปุ่นก็โดนพวกมันบ่น บอกว่าจี้เด็กไม่มีเหตุผล จี้เลยไปไหว้พระใกล้ ๆ โรงแรมแล้วโทรหาแพทธิเซียว่าจะมาเริ่มทำงานเลยจะได้กลับไปเคลียร์ที่บ้านเร็ว ๆ ตั้งใจว่ามาทำงานซักอาทิตย์หรือ 2 อาทิตย์ก็น่าจะเสร็จแล้วโทรหาพี่ให้มาเที่ยวด้วยกันมีเวลาให้กันเปิดใจคุยกันเรื่องต่าง ๆ มาก ๆ แต่พอมาถึงมือถือจี้ก็หายที่ญี่ปุ่นแถมงานที่นี่ก็เพิ่งเริ่มโครงสร้างแค่นั้น คนร่วมงานเป็นทีมใหม่หมดเลย แต่จี้รับปากบอสไปแล้วจี้ก็ต้องทำเพราะบอสขอเป็นงานสุดท้าย พี่รู้มั้ยว่าจี้ทรมานแค่ไหนที่ติดต่อพี่ไม่ได้ รหัสไอจีจี้ก็จำไม่ได้ ไลน์จี้ก็ไม่ได้ดูไอดี จี้กลัวแค่ไหนรู้หรือเปล่าว่ากลับไปพี่จะมีคนอื่น อยากไปสารภาพกับพ่อแม่ว่าแฟนของจี้คือพี่ ที่บอกว่าเพิ่งเคยเห็นหน้าเพราะจี้น้