แชร์

บทที่ 3 ไม่ใช่พี่ชาย

ผู้เขียน: plernwalee
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-07-01 13:54:33

“โอ๊ย! อิคุณที่รัก แล้วมึงไปลากเขามายังไง ก่อนมาเราต้องเข้าไปจ่ายเขาที่ร้านก่อน เขาคิดค่าเสียเวลาเป็นดื่มคูณจำนวนเงินแกต้องจ่ายแล้วค่อยพาเขาออกมาได้โว้ยมึง” เอลซี่โวยเพื่อนสาวแล้วทำท่าถอนหายใจอย่างเอือมระอา

“อ้าว? แล้วกูจะรู้เหรอ ก็พูดตามมึงบอกไงอีเอล พอโอเคก็ลากมาเลยเนี่ย ก็คิดว่าเสร็จงานแล้วเอาไปคืนค่อยจ่ายเป็นชั่วโมงไง แล้วกูก็ดูเวลามาแล้วว่าตอนมาเนี่ย ทุ่มครึ่ง ไม่เกิน 5 ทุ่มกูก็กลับ ก็ 4 ชั่วโมง” หญิงสาวหันไปเถียงเพื่อนกับความคิดของตัวเอง ส่วนทีมที่มองทอยอยู่ถามขึ้นงง ๆ

“พี่บอกว่าเพิ่งมาวันแรก พี่ยังไม่เข้าร้านหรือยังไม่มีคนบอกงานครับ”

“ก็ยังไม่ทำอะไรเลย เพิ่งลงรถน่ะ” ทอยตอบยิ้ม ๆ

“เฮ้อ...กูล่ะเบื่อเพื่อนกูจริงจัง เขาเป็นโฮสต์ค่ะมึง ไม่ใช่พนักงานร้านสะดวกซื้อ มึงจะได้จ่ายเป็นรายชั่วโมงได้” เอลซี่ว่าพลางปรายตามองทอย แล้วแอบสบตาต้นข้าวกับลูกอ้อนเพื่อจะแกล้งเพื่อนสาว ต้นข้าวรีบสะกิดทีมแล้วกระซิบบางอย่างข้างหูก่อนจะยิ้มที่มุมปากแล้วยักคิ้วให้เพื่อนตอนที่แองจี้กับทอยกำลังเผลอ

“แล้วนี่ต้องทำไงต่อ พากลับไปคืนร้าน แล้วกูก็กลับบ้านไปนอนมั้ยล่ะ พรุ่งนี้กูมีประชุมเช้า” หญิงสาวถามขึ้นเหมือนประชด แต่ก็เรื่องจริงว่าพรุ่งนี้เธอมีงานเช้า ซึ่งเธอก็กำลังเครียดอยู่กับการเสนองานคอลเล็กชันใหม่ที่จะเปิดในไตรมาสหน้า เพราะงานนี้แม่ของเธอให้เธอแสดงฝีมืออย่างเต็มที่

“มาก็สายแล้วยังคิดจะกลับก่อนเพื่อนอีกนะ มึงต้องจ่ายเขาก่อนค่ะ นอกร้านแบบนี้ต้องจ่ายค่าเดินทางให้เขาด้วย” ลูกอ้อนว่าพลางปรายมองหนุ่มหล่อที่นั่งอยู่ข้างเพื่อนยิ้ม ๆ

“โอ๊ย! ไปส่งก็จ่ายเองนั่นแหละน่า คนมาเขายังไม่อะไรเลย แล้วเดินทางเนี่ยก็ไม่ได้ไกล แค่เดินมาไม่ได้ขึ้นรถค่ะ” หญิงสาวว่าอย่างไม่ยี่หระเพราะคิดว่าคงไม่ต้องจ่ายมากนัก

“ค่ะก็เดินมาค่ะ แต่ออกนอกร้านมึงต้องจ่ายเขาด้วย...”

เอลซี่ว่าขึ้นพร้อมกับลากเสียงยาวประชดเพื่อน

“เออ...จ่ายก็จ่ายไง แล้วมันจะเท่าไหร่ว่ามาทีมเป็นแคชเชียร์นี่เราน่ะ” ลากเสียงยาวประชดเพื่อนแล้วหันไปถามน้องรหัสของต้นข้าวที่บอกว่าเป็นแคชเชียร์ของร้านที่ตัวเองไปลากชายหนุ่มเพื่อตัดบท

“ทีม...ปกติที่ร้านคิดยังไงคะหนู” ต้นข้าวหันไปถามน้องรหัสพร้อมกับแอบขยิบตาให้เบา ๆ (ที่เธอเรียกทีมว่าหนู และแฟนเธอปล่อยให้ทีมมาด้วยเพราะรู้ว่านิสัยลึก ๆ ของทีมเป็นยังไง^_^)

“ก็ถ้าเป็นกลาง ๆ ออกมาก็เริ่มที่พันดื่มครับ บวกค่าเดินทางด้วยก็สี่แสนนิด ๆ ครับ” ทีมพูดตามคำสั่งแกล้งเพื่อนของพี่รหัส แต่คนได้ยินนั้น...

 “พรู้ด!!” 2 หนุ่มสาวที่นั่งคู่กันถึงกับพ่นเหล้าที่กำลังดื่มออกมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย

“จะบ้าเหรอ! แค่พามานั่งกินเหล้าต้องจ่ายเป็นแสน! นี่ยังคิดว่าชั่วโมงละพันก็แพงอยู่นะ” แองจี้ว่าขึ้นเสียงดัง *เชี้ย! อาชีพบ้าอะไรวะเนี่ยนั่งกินเหล้าเป็นเพื่อนจ่ายแพงแบบนี้...*

“เอ่อ...คือผมยังพูดไม่จบครับ พี่เค้ามาใหม่ หุ่น หน้าตาแบบนี้ผมว่าทางร้านต้องจัดขึ้นท็อปแน่ ๆ พี่ต้องจ่ายบวกไปอีกห้าหมื่นครับ” ทีมยังว่าต่อมาอีกประโยค

“จะบ้าไปแล้วใครมันจะกินได้เป็นพันดื่มขนาดนั้นวะคะ น้อง!” แองจี้ว่าสวนขึ้น

“จริง ๆ เขาไม่ต้องกินกันหมดหรอกครับ บางวันแทบไม่ได้กินด้วยซ้ำ แค่นั่งคุยเฉย ๆ พี่ก็ต้องจ่ายเป็นดื่มครับ” ทีมว่ายิ้ม ๆ ซึ่งทอยก็นั่งฟังเงียบ ๆ

“งั้นก็ขาดทุนยับล่ะสิ เดี๋ยวพาไปส่งร้านเลย นั่งเฉย ๆ พูดไม่ถึง 5 ประโยคจะให้มาจ่ายยังไงสี่ห้าแสน” แองจี้ว่าพลางปรายตามองชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้าง ๆ *มอง ๆ ไปก็ภูมิฐานหรอกน่าจะอายุเยอะกว่าเราด้วย ไม่น่าจะเป็นโฮสต์ด้วย แต่อย่างว่าล่ะนะ คืนนึงได้สี่ห้าแสนขนาดนั้น อาทิตย์นึงทำวันสองวันก็อยู่ได้เป็นเดือนแล้วมั้ยวะ เฮ้อ...ชีวิต กูต้องนั่งทำงานกี่เดือนถึงจะมีโอกาสนั่งคุยกับคนพวกนี้ได้วะ ถึงว่าล่ะผู้หญิงทุกวันนี้ถึงโสดกันเยอะ ก็หล่อ ๆ ค่าตัวแพงแบบนี้นี่ไง* หญิงสาวคิดในใจ

“มองขนาดนี้ด่าผมในใจอยู่หรือเปล่าครับ” ทอยปรายตามองคนข้าง ๆ แล้วว่าขึ้นเหมือนเดาใจออก

“ป๊าว!! แค่กำลังคิดว่ากลางคืนนายมาทำอะไรแบบนี้ กลางวันนายทำอะไร”

“ถ้าจะให้ดื่มเป็นพันดื่มขนาดนั้นก็คงต้องนอนแล้วล่ะ แล้วน่าจะนอนยาวไป 2-3 วันเลยกว่าจะส่าง” ชายหนุ่มตอบขำ ๆ

“แล้วก่อนหน้านี้นายทำอะไร” หญิงสาวหันมาชวนคุย

“ก่อนหน้าก็เรียน...ตอนนี้ก็ถือว่าตกงานอยู่” ชายหนุ่มตอบพร้อมกับยกแก้วตัวเองขึ้นดื่มจนหมด แล้วยกข้อมือดูเวลาจากนาฬิกาเรือนหรูมูลค่าหลายล้านที่ในไทยมีกันไม่ถึง 10 เรือน เอลซี่มองตามอึ้ง ๆ แล้วมองหน้าเพื่อนสาวเป็นคำถาม

*เชี้ย! อกนางฟ้าจะสลาย นาฬิกาลิมิเต็ดฝังเพชรสายทองคำขาว ถ้าของจริงนี่เกือบห้าสิบล้าน ถึงจะของก็อปเกรดเอก็หลายล้านอยู่ดี เทสสูงมากพ่อ ไม่น่าจะใช่โฮสต์ล่ะกูว่า* “ธีมีธุระหรือจ๊ะ” คิดในใจแล้วถามไปยิ้ม ๆ

“อะ อ๋อ...ก็นิดหน่อยครับ นัดเพื่อนว่าจะโทรหา เดี๋ยวผมขอไปเข้าห้องน้ำสักครู่นะครับ” ชายหนุ่มตอบยิ้ม ๆ ก่อนจะปรายตามองคนนั่งข้าง ๆ ที่ตอนนี้กำลังนั่งคุยกับเพื่อนอย่างออกรสแล้วยกยิ้มที่มุมปากก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วเดินออกจากห้องไป....

..........//..........

ทันทีที่ชายหนุ่มก้าวพ้นประตู เอลซี่รีบขยับมานั่งประกบเพื่อนสาวคนสวยแทนที่ทอยทันที พร้อมกับยิงคำถามคาดคั้นสาวสวยเหมือนจับผิด

“อิรักจันทร์! บอกมาเดี๋ยวนี้นะ ว่าหนุ่มหล่อคนนี้ไปได้แต่ใดมา” เอลซี่มองหน้าถามเพื่อนพร้อมกับจับแขนเอาไว้แน่น

“โอ๊ย! ก็หน้าร้านนั่นไงคะ ทำตามที่มึงบอกทุกอย่างเลย พอเขาพยักหน้าก็ลากมาเลย จะถามย้ำทำไม ไอ้บ้าให้กูทำอะไรก็ไม่รู้น่าอายฉิบหาย” หญิงสาวตอบเพื่อนแล้วถอนหายใจแรง ๆ

“มันใช่หรือวะ ทีมบอกว่าคนนี้ไม่เคยเจอที่ร้านเลยนะ แล้วดูแต่งตัวสิ มือถือรุ่นล่าสุด เสื้อถ้าดูไม่ผิดแบรนด์นอกหลายหมื่นเลยนะคะแล้วนาฬิกาพ่ออีก แค่ของก็อปก็หลายล้านแล้วนะนั่น อย่ามาอำพวกเรานะอิรักจันทร์ บอกมาว่าคนนี้ใคร ใช่ลูกชายเพื่อนรักพ่อมึงที่บอกว่าเป็นคุณหมอเพื่อนพี่เจเดนใช่มั้ย” ต้นข้าวคาดคั้นเพื่อนสีหน้าจริงจังเหมือนไม่เชื่อสิ่งที่เพื่อนบอกเต็มที่

“ไม่ใช่...บอกว่าพามาจากหน้าร้านนั้นจริง ๆ มึงดูค่ะนั่นชุดนักศึกษาเลยนะ คนที่ร้านนั้นจริง ๆ” หญิงสาวยืนยันกับเพื่อนสีหน้าจริงจัง

“แต่เมื่อกี๊เขาดูงง ๆ นะครับพี่ บอกว่าเพิ่งมา ก่อนหน้าก็เรียน คนจบใหม่หางานจะหรูขนาดนั้นเลยหรือครับ ขนาดพวกตัวท็อป ๆ ของร้านยังมีได้ไม่ถึงครึ่งพี่เขานะ” ทีมที่นั่งอยู่ข้างต้นข้าวว่าขึ้น

“พวกแกจะไปคาดคั้นมันให้ได้อะไรขึ้นมากันวะ เอาเป็นว่างานแต่งไอ้ข้าว มึงต้องพานางไปด้วย หล่ออะ เหมาะแก่การควงออกงานเป็นอย่างยิ่ง” ลูกอ้อนตัดบทและดูเหมือนเพื่อนสาวกำลังงงอยู่เลยออกคำสั่งเชิงบังคับพร้อมกับยักคิ้วให้ยิ้ม ๆ

“มึงจะบ้าเหรอ! แค่มานั่งนี่ก็หลายแสนแล้วมั้ย ถ้าจะให้ไปงานแต่งไอ้ข้าวที่ใต้ กูไม่ต้องจ่ายเป็นล้านเลยหรือไง ทั้งค่าเครื่องค่าที่พัก ค่าเสื้อผ้า ค่ากินอีกล่ะ โอ...ไม่เอาค่ะ เปลืองโดยใช่เหตุ กูลากไอ้น้องวนไปดีกว่ามันไปฝึกงานอยู่ใกล้ ๆ เอง” หญิงสาวว่าเหมือนเรื่องที่เพื่อนพูดจะไม่มีทางเป็นไปได้เด็ดขาด เพราะเธอคิดว่าการไปงานแต่งเพื่อนแล้วต้องจ้างโฮสต์ไปด้วยเป็นอะไรที่ไร้สาระมาก

“งกว่ะ ตกลงว่าคนนี้ไม่ใช่ลูกเพื่อนพ่อมึงจริง” ลูกอ้อนถามย้ำอีกครั้ง

“เออ...ไม่ใช่สิวะ พี่เค้ายังไม่กลับมาหรอก เห็นคุณพ่อบอกว่าเขาขอต่อเฉพาะทางอีกใบ กลับมาก็รับปริญญาโท 2 ใบ 2 สาขา แต่คงไม่ใช่เร็ว ๆ นี้หรอก เรียนหมอน่าจะยาวเลยมั้ง ขนาดแค่ ป.ตรี ยังต้องเรียนตั้ง 6 ปีเลย” หญิงสาวตอบพลางยักไหล่แล้วพากันเปลี่ยนเรื่องคุยถึงงานแต่งเพื่อนที่จะจัดขึ้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า ซึ่งชุดแต่งงานของเพื่อนที่เธอเป็นคนออกแบบให้เองโดยเฉพาะ แต่ผู้ถือหุ้นขอให้รวมเป็นคอลเลคชั่นพิเศษออกมาเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา

..........//..........

เออ...เนอะจะใช่พี่ชายได้ยังไง พี่เขายังไม่กลับมาหรอก เนอะรักจันทร์เนอะ...

ฝากเอ็นดูความน่ารักของ พี่หมอทอย ลูกป๊าเทน กับ น้องแองจี้ ลูกสาวพ่อโรม ด้วยนะคะ..

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • คุณหมอโฮสต์ สุดที่รัก   บทที่ 16 ทำไมไม่ป้องกัน

    แองจี้จำเป็นต้องล้วงกระเป๋าหาคีย์การ์ดมาเปิดเข้าไปในห้องและทันทีที่ประตูปิดชายหนุ่มก็จู่โจมตะโปมจูบหญิงสาวแบบไม่ทันตั้งตัว มือใหญ่ล็อคแก้มทั้ง 2 ข้างไว้แน่น ส่งลิ้นหนาเข้าไปตวัดพันเกี่ยวลิ้นเรียวเล็กอย่างเร่าร้อน จนหญิงสาวหู้อื้อตาลายแทบส่างเมากับสิ่งที่เกิดขึ้น รีบคว้าชายเสื้อของชายหนุ่มไว้แน่น เมื่อรู้สึกเหมือนตัวเองแขนขาอ่อนแรงอย่างไม่ทราบสาเหตุ ชายหนุ่มก้มลงช้อนร่างบางในท่าเจ้าหญิงเดินไปวางที่เตียงนอนใหญ่ แล้วล้มตัวลงทาบทับสอดมือใหญ่ประสานมือบางกดไว้กับที่นอนหลวม ๆ ปากหนาประกบจูบออดอ้อน อ้อยอิ่งจนเธอเคลิบเคลิ้มไปกับรสจูบแสนวาบหวามที่ชายหนุ่มมอบให้“ไปห้องพี่กันนะครับ นะ” ว่าพลางลูบไล้หน้าท้องแบนราบเบา ๆ จนเธอรูสึกขนลุกไปทั่วตัว“แต่...” “พี่รู้ว่าที่รักค้างแต่ข้างบนน่าจะเก็บเสียงดีกว่าห้องนี้นะ ไม่งั้นพรุ่งนี้ที่รักอาจโดนเพื่อนล้อก็ได้” สายตาอ้อนวอนหวานเชื่อมชวนละลายทำเอาหญิงสาวเม้มปากแน่น“ก็...” “หรือหนูไม่อยาก” เงยหน้าขึ้นส่งสายตาออดอ้อนในขณะที่มือสอดเข้าไปลูบไล้หน้าขาเลื่อนขึ้นจนถึงกางเกงในตัวจิ๋วก่อนจะยกยิ้มที่มุมปากเหมือนผู้ชนะ “แฉะหมดแล้วนะ นะครับขึ้นข้างบนนะครับนะ” คนอ้อนว

  • คุณหมอโฮสต์ สุดที่รัก   บทที่ 15 สิทธิ์ความเป็นผัว

    “ไม่มีปัญหาเลยครับ ช่วงนี้ผมว่างงานผมไปได้หมด นี่กะว่าถ้ากลับบ้านผมอาจขึ้นไปช่วยงานเพื่อนบนดอยหรือไม่ก็อาจตามพี่ชายเข้าป่า ถ้าอยู่บ้านพ่อน่าจะไล่เข้าออฟฟิศแล้วผมก็ไม่ถนัดงานบริหารเท่าไหร่” ชายหนุ่มตอบพร้อมกับวางมือที่ไหล่คนข้าง ๆ บีบเบา ๆ จนเธอสะดุ้ง“อูย...บอกเป็นนัย ๆ ว่ากลับบ้านไปแล้วจะติดต่อไม่ได้ใช่มั้ยคะ” ลูกอ้อนถามยิ้ม ๆ ก่อนจะปรายตามองเพื่อนสาวที่นั่งอยู่ข้าง ๆ“ไม่ขนาดนั้นครับแต่แค่ผมไม่เคยนั่งออฟฟิศ เลยคิดว่าถ้าไปนั่งแต่ละวันคงจะยาวนานน่าดู คงต้องหาอะไรทำที่ไม่ต้องนั่งประจำที่แบบนั้น”“ไม่อยากนั่งก็เดินไปเดินมาสิ” คนนั่งข้าง ๆ ประชดขึ้น“แล้วที่รักอยากเดินไปเดินมากับพี่มั้ยคะ” ชายหนุ่มหันไปถามยิ้ม ๆ“โอย...ละลายมากค่ะคุณธี อิรักคะตกลงนางเป็นทองหรือคอนกรีตยะ เขามาขนาดนี้ยังนั่งคอตั้งอยู่ได้” เอลซี่แซวเสียงดังแล้วเอื้อมไปตีแขนเพื่อนอย่างหมั่นไส้“บ้าสิใครจะไปมีเวลาเดินไปเดินมา คนต้องทำมาหากิน” แองจี้ว่าขึ้นแล้วยกแก้วขึ้นกระดกทีเดียวจนหมดก่อนจะวางลงแรง ๆ ตวัดหางตาใส่คนนั่งข้าง ๆ เพราะตอนนี้นอกจากบีบไหล่เบา ๆ ทีแรก ยังค่อย ๆ เลื่อนมือลูบแผ่นหลังของเธอจนขนลุกอีกด้วย“งั้นเอลว่าเร

  • คุณหมอโฮสต์ สุดที่รัก   บทที่ 14 เพื่อนคุณโสดผมก็โสด

    “มึงก็ใจดีเกิ๊นเป็นกูไม่เอาไว้ทั้งน้าทั้งหลานว่ะ ภาระองค์กร แล้วดูสิไปไหนก็ขายหน้าขายตาบริษัท ประกาศโต้ง ๆ ว่าเป็นเลขาท่านประธานแต่สันดานโคตรต่ำ” เอลซี่จีบปากจีบคอพร้อมกับยกแก้วน้ำเปล่าขึ้นจิบ“ก็ไม่คิดเอาไว้ ถึงได้หาผู้ช่วยใหม่เอามาเทรนก่อนแม่จะวางมือไตรมาสหน้า เตรียมไว้เป็นผู้ช่วยกู กูบอกอาไมตรีไปแล้วถ้าไม่พอใจก็ลาออกก่อนเกษียณได้เลย”“ก็ดีนะ ตัดไฟแต่ต้นลม ถ้ามึงขึ้นทำแทนแม่แล้วค่อยไล่ออกได้โดนครหาว่าใช้ตำแหน่งกลั่นแกล้งแน่ ต้องให้แม่จัดการก่อนเลย” ลูกอ้อนว่าขึ้นแล้วมองหน้าเพื่อน“เออ...แก คืนนั้นแกอยู่กับคุณธีใช่ป่าว” เอลซี่ถามเพื่อนตาเป็นประกายล้อเลียนขึ้นมาทันที“เออ...”“เป็นไง” เอลซี่ถามยิ้ม ๆ“เป็นไงล่ะ ไม่รู้วันนั้นเผลอกินมาตินี่อิอ้อนหรือเปล่า ผื่นขึ้นเต็มตัว สภาพเหมือนโดนโทรมเลย น่าอายฉิบหาย” หญิงสาวว่าพลางหลบตาเพื่อน เรื่องแพ้มาตินี่เพื่อนของเธอก็พอรู้บ้างและวันนั้นก็มีการสั่งมาดื่มกันจริง ๆ ทำให้เอลซี่กับลูกอ้อนที่นั่งลุ้นอยู่ถึงกับมองหน้ากันแล้วถอนหายใจ“แสดงว่าชวด แกรู้หรือเปล่า พี่แกนักเรียนนอกนะคะ เพิ่งกลับมาวันที่แกลากเขามานั่นแหละ” เอลซี่ยื่นหน้ามาพูดอย่างตื่นเต้น“

  • คุณหมอโฮสต์ สุดที่รัก   บทที่ 13 พร้อมปกป้อง

    “เราตกลงกันแล้วนะว่าจะไม่ให้มันรู้ว่าฉันเป็นใคร โอเคนะ” แองจี้รีบยื่นหน้าบอกเพื่อนเบา ๆ ตั้งใจไม่ให้ทอยได้ยิน“มีอะไรหรือเปล่าครับ” ทอยก้มลงมาถามเอลซี่ยิ้ม ๆ“ไม่มีอะไรค่ะ นั่นเลขาท่านประธานบริษัทที่รักมันทำงานอยู่ค่ะคุณธี นางชอบข่มคนในบริษัท คอยดูสิถ้านางเห็นยัยรักเดี๋ยวนางก็ดิ่งมา” เอลซี่จีบปากจีบคอตอบอย่างมีจริต “นี่ไม่รู้นะคะว่านางรู้จักฝั่งเจ้าบ่าวหรือเจ้าสาว”“อ่อ...ครับ” ชายหนุ่มตอบยิ้ม ๆ *ผู้หญิงที่นั่งอ่อยกูเมื่อคืนนี่หว่าเกือบพลาดแล้วมั้ยล่ะกู* ทอยคิดในใจปรายตามองคนนั่งข้างก่อนจะวางมือที่หน้าขาของเธอเบา ๆ จนเธอหันมองหน้า“เออ...พรุ่งนี้มีร่องเรือด้วยนะ แกเตรียมชุดว่ายน้ำมาด้วยหรือเปล่าจ๊ะคนสวย” ลูกอ้อนเปลี่ยนเรื่องถามเพื่อนสาวเหมือนเพิ่งนึกได้“ระดับคุณรักแล้วไม่มีพลาดค่ะ อยากมาดำน้ำที่ใต้นานแล้วแต่ไม่มีเพื่อนมาซะที” หญิงสาวว่าพลางยกแก้วพั้นช์ในมือขึ้นจิบ“แล้วยายข้าวมันได้ชวนคุณธีหรือเปล่าคะ ได้เตรียมชุดมาหรือเปล่า” เอลซี่หันไปถามชายหนุ่มยิ้ม ๆ“มีติดมาครับ จริง ๆ ผมตั้งใจจะมาพักผ่อนอยู่แล้ว ทะเลไทยผมไม่เคยเล่นด้วยก็น่าสนใจดี” ชายหนุ่มตอบยิ้ม ๆ“ว้าย...เพิ่งเห็นมางานแบบนี้ด

  • คุณหมอโฮสต์ สุดที่รัก   บทที่ 12 มาได้ยังไง

    เย็นวันเสาร์สาวสวยสุดเซ็กซี่ในชุดราตรีเกาะอกเว้าหลังถึงเอวสีพีช หน้าสั้นหลังยาว เกล้าผมมวยสูงปักกิ๊บเพชรเม็ดเล็ก ๆ แต่งหน้าสวยหวาน ก้าวลงมาจากรถลีมูซีนสนามบินเดินเข้ามาในโรงแรมหรูที่จัดบรรยากาศแสนโรแมนติกตั้งแต่หน้าประตูทางขึ้นห้องจัดเลี้ยงวันนี้เป็นวันแต่งงานของต้นข้าวลูกสาวคนเล็กเจ้าของเหมืองที่ใหญ่ที่สุดในภาคใต้เพื่อนรักของเธอ แต่เธอมางานเช้าไม่ทันทำให้ต้องมางานช่วงเย็นและเธอต้องมาคนเดียวเพราะพี่ชายสุดที่รักอย่างเจเดนไปออกค่ายแพทย์อาสาบนดอยตั้งแต่เมื่อเย็นวานและจะอยู่ที่นั่นถึงเดือนหน้า ส่วนน้องชายลูกเพื่อนพ่อที่มาฝึกงานที่โรงแรมในเครืออยู่จังหวัดใกล้ ๆ บอกว่าวันนี้ต้องกลับบ้านด่วน เธอเลยทำสีหน้าไม่ถูกตอนเดินเข้างานและมีคนมองมาตลอดทาง“มาซักทีนะคะ สวยเว่อร์ เขาให้มาเป็นเพื่อนเจ้าสาวนะคะ ไม่ใช่มาเป็นเจ้าสาว” เอลซี่เบะปากว่าเพื่อนแต่ก็ยิ้มที่เห็นเธอมาในคืนนี้“น้อย ๆ ค่ะคุณ เนี่ย โดนปล่อยทิ้ง พี่เจขึ้นดอย ไอ้วนก็จำเป็นอะไรต้องกลับบ้านวันนี้ก็ไม่รู้ แล้วคิดสภาพเปลี่ยนชุดนี้จากสนามบิน แต่งหน้าบนรถจ้า ดีนะเมื่อกี๊พนักงานบอกว่าไอ้ข้าวให้มารับเอากระเป๋าไปเก็บให้ไม่งั้นกูได้ลากกระเป๋าเข้

  • คุณหมอโฮสต์ สุดที่รัก   บทที่ 11 ฉีกหน้าหัวหน้าฝ่ายบุคคล

    “แล้วทำไมนังสิทธิ์มันอยู่ได้ล่ะคะ พลอย...”“พลอยมน ท่านสั่งให้ออกไปไม่ได้ยินหรือไง” คุณไมตรีว่าขึ้นพร้อมกับมองหน้าหลานสาวเชิงปรามและอยากรู้ว่าท่านประธานฝ่ายบริหารจะคุยเรื่องอะไรพร้อมกับมองหน้าสาวสวยที่นั่งหน้านิ่งไม่มีอาการบ่งบอกว่ากำลังคิดอะไรอยู่ พลอยมนมองหน้าผู้เป็นน้าก่อนจะคว้าแฟ้มเอกสารที่มั่นใจว่าเธอไม่ได้จดอะไรลงไปมากนักแล้วกระแทกเท้าออกจากห้อง คุณเจ้าขาได้แต่มองตามแล้วถอนหายใจก่อนจะหันมามองหน้าลูกสาวแล้วพยักหน้าเชิงอนุญาต “อะไรหรือครับคุณเจ้า”“เรื่องนี้ให้แองจี้เป็นคนพูดดีกว่าค่ะ” คุณเจ้าขาว่าขึ้นพร้อมกับมองหน้าลูกสาว“คุณหนูมีอะไรหรือครับ”“จี้อยากถามว่าตำแหน่งเลขาที่พลอยมนทำชั่วคราวนี่ คนในประเทศไทยไม่มีใครเหมาะสมแล้วหรือคะ เห็นรับสมัครทีไรก็ไม่เคยผ่านสัมภาษณ์เลยซักคน” หญิงสาวว่าขึ้นเสียงนิ่งพร้อมกับมองหน้าหัวหน้าฝ่ายบุคคลด้วยสีหน้าจริงจัง“คือ...” “อาตรีรักหลานจี้เข้าใจนะคะแต่ควรจะรักให้ถูกทางกว่านี้ โดยดูความเหมาะสมและความสามารถของเขาด้วย ดูวุฒิภาวะทางอารมณ์ประกอบด้วย พลอยมนไม่มีคุณสมบัติการเป็นเลขาเลยซักนิด เธอเข้ามาทำงานก่อนจี้ซะอีกนะคะแต่ไม่มีการปรับปรุงอะไรเลย ยิ่งดูย

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status