"โอ้ยตายแล้ว! จะเป็นผัวเมียกันได้ยังไงล่ะคะข้าวไม่เคยแต่งงาน" หญิงสาวยังทำท่าทียียวนกวนประสาทไม่เลิก จนคนความอดทนต่ำถึงกับเดือดพล่าน
"ข้าวมีอะไรกับอานับครั้งไม่ถ้วน แบบนี้เขาไม่เรียกว่าผัวเมียกันรึไง!"
พายุโพล่งออกมาทันทีที่ได้ยินสิ่งที่ข้าวหอมพูด ภายใต้บุคลิกหนุ่มเนิร์ดสุขุม ดูสุภาพต่อหน้าคนอื่น แต่ตัวตนที่แท้จริงของเขาข้าวหอมย่อมรู้ดีแก่ใจว่าเขานั้นใจร้อน และอารมณ์ร้ายแค่ไหน แต่เธอกลับยั่วโมโหเขาเนี่ยนะ! จะท้าทายกันเกินไปแล้วสาวน้อย
"ถ้านับคนที่นอนด้วยกันเป็นผัวเมีย อาพายุไม่มีเมียเกินครึ่งของประชากรหญิงแล้วเหรอคะ?"
"ข้าวหอม!!"
ชายหนุ่มพุ่งเข้ามาจับไหล่ของคนตัวเล็กไว้แน่นด้วยอารมณ์เดือดสุดขีด เขาโมโหจนหน้าสั่น เผลอบีบไหล่เธอแรงขึ้น ข้าวหอมใบหน้าเหยเกเล็กน้อยด้วยความเจ็บปวด แต่เธอนั้นกลับแสร้งว่าไม่รู้สึกอะไรทั้ง ๆ ที่ตอนนี้เธอเจ็บจนอยากจะร้องไห้ คนอย่างพายุไม่มีวันได้เห็นน้ำตาของยัยข้าวหอมหรอก ฮึบ!
"5 ปีก่อนคุณอายังเห็นหนูเป็นเด็ก นอนอ้าขาแลกข้าวกินอยู่เลยไม่ใช่เหรอคะ? แล้ววันนี้จะกลับมายุ่งวุ่นวายอีกทำไม!!"
"ก็เพราะอาลืมข้าวไม่ได้ไง!!"
5 ปี ก่อน...
"ฮือ~ๆ ๆ ๆ "
"-_-"
ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่วัยสามสิบ สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวกับกางเกงขายาวสีดำราคาแพง ตั้งแต่หัวจรดเท้าของชายหนุ่มล้วนแต่ดูดีมีภูมิฐาน บุคลิกดูเป็นผู้ใหญ่สุภาพ น่าเกรงขาม เขาคือ ‘พายุ’ นักธุรกิจหนุ่มมาแรงในตอนนี้ เขาเป็นเจ้าของธุรกิจส่งออกมากมาย รวมไปถึงธุรกิจสินค้าแบรนด์เนมต่าง ๆ แถมยังเป็นหนุ่มโสด ทั้งหล่อ ทั้งรวย เป็นที่จับตามองมากที่สุด ณ เวลานี้
แต่ถึงแม้จะมีสาว ๆ เข้าหามากมายขนาดไหน แต่พายุกลับไม่ได้จริงจังกับใครสักคน เขาเพียงเล่นสนุกเพียงชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น มุมของการทำงานเขาคือผู้ใหญ่ที่รับผิดชอบและบริหารทุกอย่างได้เป็นอย่างดี แต่หลังจากเวลางานเขาคือพายุที่ใจร้อน แถมยังเจ้าชู้หาตัวจับยากแบบสุด ๆ
"หยุดร้องไห้ได้แล้ว"
ใบหน้าหล่อเหลาภายใต้กรอบแว่นบางแสดงออกอย่างชัดเจนว่ากำลังคิดหนัก คิ้วหนาขมวดเข้าหากันเป็นปม เพราะพายุไม่รู้ว่าต้องจัดการกับปัญหาตรงหน้านี้อย่างไรดี
"ฮึก~ๆ" สาวน้อยน่าตาน่ารัก ผิวเนื้อขาวผ่อง เธอยังคงสะอึกสะอื้น ใบหน้าของเธอเปรอะเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา เธอร้องไห้เสียใจอย่างหนักเพราะตอนนี้อุบัติเหตุได้พรากชีวิตของพ่อและแม่เธอไปพร้อมกัน
ข้าวหอมในวัย 17 ปี ต้องสูญเสียพ่อแม่ผู้เป็นที่รัก ที่เป็นทุกอย่างในชีวิตเธอไป มีหรือสาวน้อยจะทนทานต่อความเจ็บปวดและเสียใจไหว ยิ่งเธอถูกเลี้ยงมาอย่างคุณหนู ได้รับการดูแลเลี้ยงดูราวกับไข่ในหิน ไม่เคยพบเจอโลกภายนอกจนกระทั่งครอบครัวเธอล้มละลาย และพ่อกับแม่มาจากไปในเวลาต่อมา
และคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเธอคนนี้ก็คือ "ผู้มีพระคุณ" ของครอบครัวเธอ ข้าวหอมพอรู้มาคร่าว ๆ ว่าชายหนุ่มตรงหน้าเป็นรุ่นน้องคนสนิทของผู้เป็นพ่อ เขาหยิบยื่นเงินจำนวนไม่ใช่น้อยช่วยเหลือครอบครัวเธอเพื่อให้ผ่านวิกฤตไปให้ได้ แต่ไม่ทันที่พ่อกับแม่จะหาเงินมาคืนเขาพวกท่านก็มาด่วนจากไปเสียก่อน
"มานี่สิ เธอชื่ออะไร?"
พายุกวักมือเรียกเด็กน้อยให้เข้ามาใกล้ ๆ เพราะเธอเอาแต่นั่งร้องไห้อยู่บนพื้นห่างจากเขาเกือบ 5 เมตร ไม่รู้ว่าเขาน่ากลัวอะไรกันนักกันหนา ถึงได้ทำราวกับว่าเขานั้นเป็นปีศาจกินคนไม่กล้าเข้าใกล้เสียอย่างนั้น เขาไม่รู้จะปวดหัวกับเรื่องไหนก่อนดี
"มาเถอะน่า ฉันไม่กัดเธอหรอก" พายุพยายามใจเย็นกับเธอให้มากที่สุด เพราะรู้ว่าตอนนี้สาวน้อยตรงหน้าคงกำลังเสียใจอย่างหนัก ถึงเขาจะไม่เคยสัมผัสการสูญเสียคนในครอบครัวเป็นยังไง แต่ใช่ว่าเขาจะไม่เข้าใจ...
"ฮึก ๆ " ข้าวหอมหยุดร้องไห้ไปแล้วแต่ยังคงมีเสียงสะอึกสะอื้นอยู่ เธอยกมือเล็กขึ้นมาปาดคราบน้ำตา ก่อนที่จะเดินเข้าไปหาชายหนุ่มอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ เธอไม่ได้กลัวว่าเขาจะกระโดดมากัดคอเธอแต่อย่างใด เพียงแค่เจ้าหล่อนไม่รู้ว่าต้องทำตัวอย่างไรต่อหน้าเขา
"หนูชื่ออะไร?" ชายหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ทำให้เด็กสาวที่ได้ยินรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาบ้างเล็กน้อย
"นะ หนูชื่อข้าวหอมค่ะ"
"ชื่อน่ารักจัง มานี่สิ"
ข้าวหอมขยับไปยืนอยู่ตรงหน้าเขาด้วยอาการประหม่า สองมือประสานบีบเข้าหากันแน่น เธอก้มหน้างุดอยู่ตลอดเวลาเพราะไม่กล้าสบตาคมคู่นั้น นี่เป็นครั้งแรกที่ทั้งสองคนเจอกัน เธอไม่ได้สนิทชิดเชื้อกับคนตรงหน้ามาก่อน
ตามประสาความคิดของเด็กเธอคิดไปต่าง ๆ นา ๆ ว่าถ้าหากเขาทวงเงินที่พ่อกับแม่ค้างไว้เธอจะเอาปัญญาที่ไหนมาจ่าย แม้แต่บ้านที่จะซุกหัวนอนก็ไม่มี ไม่รู้เลยว่าชีวิตจะเดินไปทางไหน ทุกอย่างล้วนเป็นเขาจัดการให้หมด งานศพพ่อแม่เธอก็ล้วนแล้วแต่เป็นคนตรงหน้าที่ยื่นมือเข้ามาช่วย
"ฉันชื่อพายุนะ เรียกอาก็ได้เพราะฉันเป็นรุ่นน้องพ่อเธอ"
"บ้านเธอถูกยึดไปแล้วใช่ไหม?" พายุก้มตามเด็กสาวที่ไม่ยอมเงยหน้ามองเขาสักที นี่เป็นครั้งแรกมั้งที่เขาทำท่าแบบนี้ ก่อนที่สาวน้อยที่ชื่อข้าวหอมจะค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นมามองเขาช้า ๆ
"ชะ ใช่ค่ะ"
"แล้วมีญาติพี่น้องอีกไหม?"
"ไม่มีค่ะ"
"งั้นเอาอย่างงี้แล้วกัน เธอมาอยู่บ้านหลังนี้ก่อน ส่วนเรื่องเรียนเรื่องบ้านเดี๋ยวยังไงฉันจัดการให้"
เอาเถอะ...ยังไงก็เห็นว่าพ่อของเธอเคยเป็นรุ่นพี่ที่สนิทกับเขา คอยให้คำแนะนำเขาอยู่เสมอ ถือซะว่าเป็นการทำบุญละกัน จะปล่อยให้เป็นไปตามยถากรรมก็น่าสงสารเกินไป อย่างน้อยเขาก็แค่ให้บ้านเธออยู่สักหลัง ส่งให้เรียนหนังสือให้ใช้จ่ายก็คงไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรสำหรับเขา
"ขอบคุณนะคะ ขอบคุณจริง ๆ " สาวน้อยรีบก้มลงคุกเข่าต่อหน้าเขาพร้อมกับทำท่าจะก้มลงกราบ ชายหนุ่มถึงกับต้องรีบคว้ามือเธอไว้ทันที อะไรจะขนาดนั้นแม่คุณ เขาไม่ชอบให้ใครมาทำแบบนี้เท่าไหร่ มันดูเหมือนเขาเป็นพวกบ้าอำนาจชอบกดขี่ยังไงไม่รู้...
"เฮ่ย ๆ ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้มั้ง เดี๋ยวฉันก็ตายเร็วหรอก"
"ถ้ากราบคุณอาแล้วคุณอาจะตายเหรอคะ?" ข้าวหอมเอียงคอถามอย่างสงสัย เพราะเธอไม่เข้าใจมุกที่เขาเล่นสักเท่าไร การกระทำของข้าวหอมนั้นทำให้พายุเองถึงกับหัวเราะเบา ๆ ให้กับท่าทีไร้เดียงสาของเจ้าหล่อน
" ฮ่ะ ๆ ฉันล้อเล่น ไม่ต้องทำแบบนี้ก็ได้ ทำตัวสบาย ๆ เลย ไม่ต้องเกรงใจ"
มือหนาเผลอยกขึ้นลูบหัวคนตรงหน้าอย่างเอ็นดู ข้าวหอมเป็นเด็กที่น่ารักมาก ตาโต ๆ นั่นยิ่งมองยิ่งน่าเอ็นดู ปากเล็ก ๆ แก้มป่องนั่นอีก น่าหยิกชะมัด...
"ยิ้มหน่อยสิคะ ว่าที่เจ้าสาว กรี๊ด~"เสียงเเซวจากเพื่อนสนิทของหญิงสาวที่เอาแต่นั่งทำหน้าบูดบึ้ง อยู่บนเก้าอี้ตัวเดิม ต่างจากเพื่อนสองคนที่เอาแต่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่คล้ายกับคนสติไม่สมประกอบ คนหนึ่งนั่งอมยิ้ม อีกคนเดินไปหมุนไปท่าทางดีใจออกหน้าออกตา ยิ่งทำให้ข้าวหอมปวดหัวหนักกว่าเดิม"นี่อาพายุปล่อยข่าวแบบนั้นจริง ๆ เหรอ""ใช่จ้า พวกกูเห็นรูปสมัยก่อนมึงแล้วนะ น่ารักเกินเบอร์มาก อิจฉาอ่ะ ว่าที่สามีก็หล่อกินคนมาก" เจแปนที่ท่าทางสะดีดสะดิ้งเกินกว่าทุกคน"เดี๋ยว!! รูปอะไรก่อน?"ยังมีอะไรที่ทำให้เธอหนักใจเพิ่มอย่างนั้นหรือ? เธอไม่กล้าแม้กระทั่งเข้าไปอ่านคอมเม้นในกลุ่มมหาลัยเลยด้วยซ้ำ เพราะกลัวตัวเองจะรับไม่ได้!"มึงมุดออกจากถ้ำหน่อยเถอะ ก็รูปคู่มึงกับคุณพายุไง เรียงกันเป็นสตอรี่คลั่งรักเลยนะมึง"เจแปนยื่นโทรศัพท์ให้ข้าวหอมดูบ้าง แม้จะไม่อยากรับรู้ แต่ถ้าไม่ดูเลยก็คงไม่ได้ ข้าวหอมจึงเลือกรับโทรศัพท์มือถือเครื่องนั้นมา เเละเลื่อนดูรูปภาพเหล่านั้นมีทั้งรูปตั้งแต่ตอนที่เธออยู่กับพายุช่วงแรก ๆ บางรูปที่เธอถูกแอบถ่าย เเละรูปคู่ของทั้งสองคน ข้าว
"คุณอา!"เมื่อรู้ว่าคนที่จัดการคีรินทร์ให้ลงไปนอนกับพื้นคือใคร ข้าวหอมยิ่งตกใจหนักกว่าเดิม เขามาได้อย่างไร และมาตั้งแต่ตอนไหน? ทำไมเธอถึงไม่รู้สึกตัวเลยสักนิด!"หยุดนะเว่ย!"เสียงชายหนุ่มวัยกลางคนที่ฟังดูคุ้นหูนัก ร้องห้ามพร้อมกับสาวเท้าเข้ามาอย่างรีบร้อน ข้างกายมี รปภ.ตามมาด้วยสองคนเพื่อมาลากเอาบุคคลที่บังอาจเข้ามาทำร้ายร่างกายลูกชายเจ้าของบริษัทอย่างไม่เกรงกลัว แต่เเล้วเมื่อมาถึงผู้มาใหม่กลับทำสีหน้าตกใจหนักกว่าข้าวหอมเสียด้วยซ้ำ!"ไอ้พายุ! ข้าว! มาได้ยังไง?""กูมาต่อยปากไอ้เด็กเวรนี่! ส่วนเมียกูมาให้มันด่า"พายุเอ่ยอย่างโมโห แถมยังตอบเเทนข้าวหอมจนเธออึ้ง พายุใจร้อนและปากแจ๋วคนเดิมยืนอยู่ข้างเธอจริง ๆ สินะ"หลานกูมันไปหาเรื่องอะไรมึง?"คิมหันต์ทำหน้างง ๆ เมื่อเห็นว่าพายุกับข้าวหอมไม่ตอบจึงหันมาถามหลานชายตนเอง ใช่แล้ว...คิมหันต์เป็นน้าของคีรินทร์ที่เข้ามาบริษัทวันนี้ก็เพื่อที่จะเข้ามาเยี่ยมหลานชาย แต่ก็ดันได้ยินพนักงานที่บริษัทบอกว่ามีเหตุทะเลาะวิวาทกัน ไม่คิดว่าคนที่เป็นคู่กรณีจะเป็นเพื่อนสนิทของตัวเอง"ว่าไงไอ้หลานชาย
"นั่นอิข้าวมาแล้ว!"น้ำเสียงและท่าทีร้อนรนผิดแปลกไปจากปกติของเจแปน ทำให้หญิงสาวที่เดินเคียงคู่มากับหนุ่มหล่อสวมเเว่น บุคลิกดูดีมีภูมิฐาน ต้องแปลกใจเล็กน้อยทั้งสองคนเข้าบริษัทมาพร้อมกัน สาเหตุที่เขาเดินตัวติดข้าวหอมได้ก็เพราะไม่ต้องปิดบังเพื่อนของเธออีกต่อไป แต่ต้องยอมรับว่าแอบรำคาญสายตาเหล่าพนักงานที่คอยมองตามแผ่นหลังทั้งสองคนอยู่เป็นระยะ"มีอะไรหรือเปล่า? กวางไม่ฝึกที่แผนกเหรอ"ข้าวหอมเอ่ยถามอย่างสงสัย พายุเองก็แสดงสีหน้าเช่นกัน เขาเดินถือกระเป๋าข้าวหอมเข้ามา พร้อมกับคลุมเสื้อทับให้สาวน้อยที่สวมชุดนักศึกษารัดรูป ก่อนมาก็เถียงกันตาแทบถลน แต่เพราะพายุมีอาการเหมือนจะไม่ค่อยสบาย จึงไม่มีเเรงเถียงสู้ข้าวหอมได้"ข้าวเกิดเรื่องใหญ่แล้วว่ะมึง!"กวางที่ปกติเอาแต่วางตัวนิ่ง ตอนนี้เองกลับมีท่าทีร้อนใจไม่ต่างกับเจแปน"มีเรื่องอะไร?""เอ่อ..."กวางหันไปมองทางพายุที สลับกับเจแปนบ้างข้าวหอมบ้าง เหมือนกับว่าจะสื่อสารทางสายตาว่าควรจะเล่าเรื่องนี้ต่อหน้าพายุจริงหรือไม่"เล่าเถอะ ถ้าเรื่องเกี่ยวกับข้าว ฉันก็ควรต้องรู้" พายุเหมือนจ
เช้าวันต่อมา...."อื้อ~" หญิงสาวที่นอนหลับอยู่บนเตียงนุ่ม ส่งเสียงครางเบา ๆ เมื่อเธอนั้นรู้สึกตัวตื่นขึ้น ข้าวหอมใช้เเขนสองข้างช่วยพยุงร่างกายที่อ่อนล้าลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง และเริ่มกวาดสายตามองไปรอบห้อง ก็พบว่านี่เป็นห้องนอนของชายหนุ่มอีกคนเมื่อคืนเธอจำได้ชัดเจนกว่าทุกครั้ง ว่าก่อนที่เธอจะหลับตาลง เจ้าของอ้อมแขนนั่นคือพายุ เมื่อนึกได้ปลายเท้าก็แตะลงบนพื้น คว้าเอาโทรศัพท์มือถือที่น่าจะเป็นพายุที่วางไว้บนหัวเตียงให้ และก้าวออกมาตามหาใครคนนั้นทันที เพราะเธอไม่เห็นว่าเขานอนอยู่ข้าง ๆเพียงแค่เปิดประตูห้องนอนออกมาเท่านั้น ข้าวหอมถึงกับตัวชา ทำอะไรไม่ถูก สิ่งที่เธอเห็นชัดอยู่ตรงหน้าคือห้องทั้งห้องถูกตกแต่งไปด้วยลูกโป่งสีขาว ดอกทิวลิปที่เธอชอบถูกจัดไว้หลากหลายมุมละลานตา สวยงามราวกับอยู่ในทุ่งดอกไม้ ป้ายสุขสันต์วันเกิดยังเด่นชัดจนคนอ่านหายใจติดขัด นี่พายุตั้งใจจัดงานวันเกิดให้เธออย่างนั้นหรือ? เขาเตรียมทุกอย่างไว้เพียงแค่เธอไม่ได้มาเท่านั้น"คุณอา"เสียงเรียกเบาหวิว เเต่เธอยังไม่พบเป้าหมายที่ต้องการตามหา เมื่อเดินมาถึงโต๊ะทานอาหารข้าวหอมก็ถึงกับน้ำตาคลอ
"คีเรื่องนี้ข้าวอธิบายได้นะ"ข้าวหอมพยายามเต็มที่เพื่อจะบอกความจริงกับชายหนุ่ม แต่ตอนนี้เขาไม่อยากรับรู้อะไรทั้งสิ้น เชื่อในสิ่งที่ตนเห็นและรู้มาเท่านั้น ต่อให้เวลานี้ข้าวหอมจะอธิบายด้วยเหตุผลแค่ไหน เขาก็จะมองว่ามันคือคำโกหกและแก้ตัว!"ไม่ฟังเว้ย!! เชิญเก็บคำพูดไว้อธิบายกับคนเป็นพันเเล้วกัน"คีรินทร์ตะโกนก้องอย่างเหลืออด พร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบแก้ม ก่อนที่เจ้าตัวจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง และก้าวเท้ายาวออกไปจากจุดนั้นทันที ทิ้งให้ทั้งสามคนอยู่ด้านหลังโดยไม่หันกลับมามอง ข้าวหอมเห็นแบบนั้นยิ่งตกใจ เธอทำท่าจะวิ่งตามคีรินทร์ไปแต่โดนกวางล็อกตัวไว้ก่อน"ปล่อยมันไปเถอะ รอให้มันใจเย็นกว่านี้ค่อยคุยกัน ต่อให้ตอนนี้ข้าวพูดแทบตายมันก็ไม่เชื่อ""ฮึก! แล้วกวางเชื่อไหม แปนมึงละมึงจะเชื่อกูไหม? ฮือๆ ๆ"ข้าวหอมเองก็อดกลั้นน้ำตาไม่ไหวเช่นกัน เธอร้องไห้ออกมาโดยไม่สนใจสายตาใครต่อใคร ที่พอได้ยินเสียงทะเลาะวิวาทก็ออกมาทำการมุงดู เธออยากบอกความจริงกับทุกคนว่าแท้จริงแล้วเรื่องมันเป็นมาอย่างไรตอนแรกแค่อยากปิดบังสถานะเพื่อไม่ให้ใครสงสัยเธอกับพายุ แต่ใครเล่าจะคิด
"คี~"เพราะน้ำเสียง และกลิ่นคุ้นเคยที่สัมผัสได้ คนที่ชนเข้ากับเธอคือคีรินทร์ เพราะเเรงปะทะก่อนหน้าทำให้เธอเกือบหน้าหงาย ดีที่คีรินทร์คว้าเอวบางดึงเข้าประชิดตัวไว้เสียก่อน"อื้อ""ไปไหนมา? ทำไมปล่อยให้ข้าวรอนานขนาดนี้"น้ำเสียงติดจะเป็นการตำหนิจากหญิงสาวสวยในอ้อมอก เธอทำหน้าบึ้งตึงเล็กน้อยราวกับไม่พอใจเขา"พอดีเตรียมของขวัญวันเกิดให้ข้าวไง""จริงเหรอ?"ข้าวหอมผละตัวออกจากอ้อมเเขนของชายหนุ่มทันที ก่อนที่จะรีบเปลี่ยนสีหน้าและจ้องมองชายหนุ่มอย่างตั้งใจ ทว่า! เมื่อเธอมองหน้าเขาชัด ๆ จึงสังเกตุได้ว่าดวงตาของคีรินทร์แดงก่ำจนหน้ากลัว!"คีเป็นอะไร!? ร้องไห้ทำไม"เสียงร้องที่ติดจะเป็นการตะโกนเสียมากกว่า เธอตกใจจนสร่างเมาไปชั่วขณะ เมื่อเห็นอาการของชายหนุ่มตรงหน้า มือเรียวที่สั่นเทารีบยกขึ้นจับใบหน้าหล่อหมุนซ้ายขวาอย่างคนห่วงใยเพื่อนเธอร้องไห้? เขาร้องไห้ทำไม? เพราะอะไร?"ไม่ต้องสนใจหรอก มาดูของขวัญที่คีจะให้ข้าวดีกว่า"ว่าแล้วคีรินทร์ก็รีบคว้าข้อมือเล็กออกแรงดึงให้เธอตามเขาออกมา ข้าวหอมที่กึ่งเดินกึ่งวิ่งอยู่น