“ขอบ... ขอบคุณค่ะ น้องปลากลับบ้านก่อนนะคะ”
“อาไปส่ง”
ฝ่ามือไวตามใจ เอื้อมคว้าข้อมือน้อยๆ นั้นไว้ให้หยุด ก่อนจะค่อยๆ ปล่อยอย่างแสนเสียดาย เมื่ออาการสั่นๆ นั้นกระจายออกมาจากข้อมือจนเขาสัมผัสได้
“ไม่ต้องหรอกค่ะ น้องปลาเดินไปเองได้แค่นี้เอง อารักษ์อย่าลืมทานวุ้นของน้องปลานะคะ”
ร่างบอบบางก้าวเดินออกไปอย่างเร็วรี่ พร้อมเสียงปนสั่นพยายามทำให้มั่นคงที่สุดนั้น ทำให้อารักษ์เกิดความรู้สึกประหลาดวาบหวิวเล็กๆ ในหัวใจอีกแล้ว ด้วยแว่วเสียงครางหวานๆ นั้นยังคงอยู่ ‘อารักษ์ขา...’ กำลังตามหลอกหลอนเขา และยิ่งตอกย้ำมากขึ้นอีกเท่าตัวเมื่อเห็นของที่มัสยานำมาใส่ตู้เย็นไว้ให้
‘วุ้นรูปหัวใจสีชมพู’ หลายสิบดวงวางเรียงรายกันอยู่ในถาดแก้วรูปปลาทอง ยิ่งกระตุ้นให้จังหวะหัวใจของเขาเต้นผิดแผกไป และเมื่อริมฝีปากสัมผัสหัวใจดวงน้อยเพื่อส่งเข้าสู่อุ้งปาก ปลายลิ้นทำหน้าที่รับรู้รสพร้อมกับคลุกเคล้าสร้างความอร่อย ไม่ต่างจากวินาทีที่ปลายลิ้นของเขาชอนไชสู่ความหอมหวานของเธอ ตวัด และละเลียดไล้ปลายลิ้นไปมาเพื่อดูดซับเอาความหวานแรกให้เป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว แต่นั่นเขาไม่ควรเลยนะ ไม่ควรทำ และไม่ควรแม้แต่จะคิดถึงอีก
‘น้องปลา... อาไม่น่าทำแบบนั้นเลย’
คิดอย่างสำนึกผิด ทว่าภาพใบหน้า ดวงตา ริมฝีปาก ทรวงอกอิ่ม และเรียวขาเรียวสวย ก็ปลุกระดมความคิดให้เขาออกนอกลู่ไปไกลอีกแล้ว สุดท้ายความต้องการจะกินวุ้นถาดนี้ให้หมดก็ต้องจบลง เพราะหากขืนยังละเลียดความหวานอร่อยลิ้นอยู่อย่างนี้ เขาคงไม่สามารถสลัดอารมณ์เร่าร้อนที่ปะทุขึ้นให้ดับลงได้แน่
.
.
สองเท้าพาตนเองก้าวเร็วรี่ออกมาจากบ้านตึก 2 ชั้นที่ร้างผู้อยู่อาศัยมานับ 10 ปี ชะลอความเร็วลงเมื่อรู้ตัวว่าออกห่างจากรัศมีการมองเห็นของคนภายในบ้านได้อย่างดีแล้ว มัสยาหยุดเดินและหันกลับไปมองบ้านหลังใหญ่อีกครั้ง
ปลายนิ้วยกขึ้นแตะริมฝีปากบวมเจ่อของตนเองเพราะความวาบหวิวหวามหัวใจยังประทับอยู่อย่างท่วมท้น ก่อนจะลากเรื่อยปลายนิ้วลงมาตามลำคอและไปหยุดอยู่ที่เต้าอวบอิ่ม ส่งผ่านความรู้สึกซ่านเสียวอย่างประหลาดไปทั่วร่างกาย นั่นแค่จากฝ่ามือและสัมผัสภายนอกเนื้อผ้า หากเป็นความเปลือยเปล่าเล่า เธอจะรู้สึกมากมายแค่ไหน
“อารักษ์ขา... น้องปลาคิดถึงอารักษ์ค่ะ คิดถึงมากเหลือเกิน”
น้ำเสียงสั่นคลอพร้อมหยาดน้ำตาที่ค่อยๆ รินไหลออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ เพราะเธอแทบจะรอคอยให้ถึงวันนี้ไม่ไหว แค่รู้ข่าวว่าอารักษ์ที่เธอเฝ้าคิดถึงเฝ้ารอคอยจะกลับมา เธอก็ตื่นเต้นเสียจนให้เหตุผลกับตัวเองไม่ได้ว่าทำไม และแค่พรุ่งนี้เช้าเธอจะได้พบกับเขา แต่เธอกลับนอนไม่หลับถึงกับกล้าแอบย่องเข้ามาในบ้านของเขา เพราะหวังว่าจะสร้างความประทับใจให้กับเขาได้ ไม่มากก็น้อย หากอารักษ์ได้ชิมฝีมือทำขนมของเธอ เขาอาจชอบ ติดใจ และขอให้เธอทำให้ทานบ่อยๆ ก็ได้
แต่เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ทำให้เธอรู้เหตุผลทั้งหมด สิ่งที่ปลูกฝังอยู่ในหัวใจ จนทำให้เธอไม่เคยมองผู้ชายคนไหนให้เกินฐานะเพื่อน ตั้งแต่เริ่มแตกเนื้อสาวมาจนถึงบัดนี้ ทั้งหมดเป็นเพราะว่า เธอจะเก็บความอ่อนหวานทั้งหมดนี้ไว้เพื่ออารักษ์คนเดียวเท่านั้น และอารักษ์ก็ได้ไปทั้งหมดแล้ว ทั้ง ‘หัวใจ’ และ ‘จูบแรก’ ของเธอ
“อารักษ์ไม่ได้มองว่าน้องปลาเป็นเด็กแล้วใช่มั้ยคะ น้องปลาโตพอที่จะทำให้อารักษ์...”
ไอความร้อนพวยพุ่งไปทั่วทั้งร่าง จนรู้สึกอุ่นวาบที่หัวใจ คือสิ่งย้ำเตือนว่าเหตุการณ์ที่ผ่านพ้นไปนั้นเกิดขึ้นจริง ไม่ใช่เธอคิดไปเองและเฝ้าฝันถึงเขาที่เป็นชายในฝันอีกแล้ว อารักษ์มีเลือดเนื้อและแข็งแกร่งไปทุกสัดส่วน
ไม่ว่าจะเป็นท่อนแขนที่รั้งร่างเธอเข้าแนบชิดไม่ยอมปล่อย ฝ่ามือที่รั้งใบหน้าของเธอให้แหงนรับจูบเร่าร้อนนั้น หรือแม้แต่ความอุ่นวาบซาบซ่านสะท้านหัวใจที่เคล้นคลึงเต้าอวบใหญ่ของเธอไม่หยุด โดยเฉพาะปลายลิ้นร้อนๆ ที่ช่วงชิงลมหายใจจากเธอ นั่นไม่ต่างกับเธอเห็นอารักษ์แลกจูบกับแม่สาวทรงโตในสวน
‘รักษ์ขา... จูบพิซซี่อีกสิคะ พิซซี่อยากให้รักษ์จูบ รักษ์จูบเก่งที่สุด อืม...’
นักศึกษาสาวทรงอึ๋มที่คล้องต้นแขนรอบลำคอของอารักษ์ก่อนจะโน้มใบหน้าหล่อเหลาสไตล์หนุ่มลูกครึ่งนั้นเข้าใกล้ พลางบดเบียดริมฝีปากเข้าหากัน ก่อนจะตวัดลากปลายลิ้นออกมาหยอกเย้าเลื้อยลัดพันกันด้านนอก พร้อมกับทำเสียงอือออในลำคอราวกับสิ่งที่ทำนี้สร้างความซ่านสะท้านอารมณ์ให้กับเจ้าหล่อนอย่างที่สุด
ทำให้เด็กหญิงวัย 11 ปีอย่างเธอถึงกับตะลึงมองสิ่งที่เห็นตรงหน้า แค่จะเอาขนมที่หัดทำมาให้อารักษ์ชิม แต่กลับกลายเป็นว่าจานขนมนั้นตกลงพื้นไปทั้งหมด เพราะเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอได้เห็นหญิงชายแลกลิ้นกันต่อหน้าต่อตา
อารักษ์นั้นก็ตกใจหันมาเห็นเธอ ส่วนแม่สาวทรงโตที่เรียกแทนตัวเองว่า ‘พิซซี่’ นั้นไม่ได้สลดเลยสักนิด มัสยายังจำสายตาดูแคลนพร้อมคำกระซิบหยามเหยียดได้ไม่ลืม
‘อิจฉาเหรอเด็กน้อย อิอิ... คิดเร็วไปหน่อยนะจ๊ะ แรดในวันนี้ไม่ทำให้เป็นผู้ใหญ่ที่ดีในวันหน้านะ รักษ์เป็นของฉัน จำเอาไว้ เด็กอย่างเธออย่าสะเออะมาแย่ง นังอ้วน! ยัยหน้าจืด เชอะ! อ้วนแล้วยังไม่เจียมตัวเอง’
“ผมกราบขอโทษพี่หลามกับพี่กุ้งด้วยนะครับ ที่ทำอะไรไปโดยพลการแบบนี้” ฉลามและกุ้งนาง มองชายหนุ่มรุ่นน้องที่เปลี่ยนสถานะมาเป็นลูกเขยในช่วงเวลาไม่ถึง 10 วันดี แม้จะงง สงสัย และสับสนในความสัมพันธ์ของอารักษ์และมัสยา แต่ทั้งคู่ที่นั่งกุมมือกันและกันเอาไว้ พร้อมทั้งนำทะเบียนสมรสที่แอบไปจดกันมาเมื่อเช้ามาวางให้ดู ก็ทำให้คนเป็นพ่อเป็นแม่นั้นพูดไม่ออก จะให้บอกว่ายกให้หรือไม่ยกให้ดีล่ะ ในเมื่อเรื่องมันมาไกลเกินจะแก้ไขแล้ว “พ่อคะ แม่คะ อารักษ์ไม่ผิดนะคะ น้องปลาผิดเองค่ะ น้องปลารักอารักษ์มาตั้งแต่เริ่มเป็นสาว น้องปลาไม่อยากต้องรออีก น้องปลาขอโทษค่ะ” หยาดน้ำตาของมัสยาไหลลงเป็นสาย เมื่อพ่อกับแม่ไม่ยอมพูดอะไรออกมาเลย เธอไม่อยากให้พ่อแม่คิดว่านี่คือสิ่งที่อารักษ์ฉกฉวยจากเธอ เธอสิที่เป็นฝ่ายเสนอและสนองอารักษ์จนเหน็ดเหนื่อย ไม่อยากให้พ่อแม่มอง
“ฉันถามว่าใครเป็นคนทำ ใคร!” “ฉันเอง” ฮันนี่อยากจะกรีดร้องอีกครั้งเมื่อเห็นคนที่เดินเข้ามา โดยมีพนักงานของร้านหอบเอกสารปึกใหญ่มาด้วย พนักงานสาวหน้าตาจิ้มลิ้มที่อารักษ์หลงหัวปักหัวปำ กำลังยืนประจันหน้าเธออยู่ และมันมีทะเบียนสมรส “ทำแบบนี้หมายความว่ายังไง” ฮันนี่ถามเสียงเหี้ยม “ก็เห่อน่ะค่ะ เพิ่งจดทะเบียนเมื่อเช้าหมาดๆ อยากให้คุณฮันนี่อวยพรให้ แต่กลัวว่าจะน้อยไปเลยก๊อบปี้เพิ่มมา 200 ชุด คุณฮันนี่จะได้เอาไปติดทำวอลเปเปอร์ที่บ้าน เอาไว้ระลึกถึงทุกคืนทุกวัน กำหนดจิตใจตัวเองให้มั่น แล้วท่องว่า ‘เขามีเมียแล้วหนอ เขาแต่งงานแล้วหนอ ยุ่งกับเขาไม่ได้แล้วหนอ’ พอมั้ยค่ะ 200 แผ่น ถ้าไม่พอ ฉันจะให้พนักงานไปก๊อบมาเพิ่ม” “แก... นัง
“ปล่อยผมเถอะฮันนี่ ไม่มีประโยชน์อะไรที่คุณจะมารื้อฟื้น เรื่องของเรามันจบไปนานแล้ว และตอนนี้ผมก็มีคนที่ต้องดูแลทั้งร่างกายและหัวใจของเธอด้วย และเธอก็ทำหน้าที่ดูแลร่างกายนี้ ทั้งด้านล่างและด้านบนเป็นอย่างดี จนผมไม่คิดว่าจะมีใครมาแทนได้” อารักษ์พยายามปลดฝ่ามือของฮันนี่ออกให้นุ่มนวลที่สุด แต่เธอก็ล็อกแน่นยังกับคีมเหล็ก พร้อมกับเสียดสีทั้งท่อนบนและท่อนล่างของเธอเข้าหาเขา “จริงเหรอคะ ฮันนี่ไม่ลืมนะคะว่าครั้งสุดท้ายก่อนที่รักษ์จะไปต่างประเทศ คืนนั้นเราสนุกกันมากแค่ไหน รักษ์ไม่อยากรื้อฟื้นเหรอคะ น้ำผึ้งหยาดเยิ้มของฮันนี่ยังหอม หวาน ไม่เปลี่ยนแปลง และตอนนี้มันก็พร้อมจะให้รักษ์ชิมแล้วด้วยค่ะ” คำพูดสะท้านอารมณ์ทั้งคนพูด คนฟัง และคนที่แอบฟังอยู่ด้านนอก ต่างคนต่างคิดไปคนละทาง คนพูดนั้นซ่านเสียวตั้งแต่เหนี่ยวรั้งร่างแกร่งของอารักษ์เข้าใ
“เธอคงไม่รู้สินะ ว่าฉันกับรักษ์เป็นอะไรกัน” ฮันนี่เปิดฉากพูดก่อน เธอถือคติเริ่มก่อนย่อมมีชัยไปกว่าครึ่ง และหน้าใสซื่อจืดๆ อย่างนี้ คงปอดแหกแน่ถ้ารู้ว่ากำลังแย่งสามีชาวบ้าน “ไม่รู้ค่ะ และก็คิดว่าไม่อยากรู้ด้วย” มัสยาตอบตรงตามความรู้สึก รู้แล้วได้ประโยชน์อะไรเล่าในเมื่อนี่ไม่ใช่คำบอกเล่าจากอารักษ์ แต่เป็นของใครก็ไม่รู้ที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อนเลย และถ้าฮันนี่สำคัญขนาดนั้นเธอก็มั่นใจว่าอารักษ์ต้องแนะนำให้เธอรู้จักแน่ แต่นี่ไม่ จะเพราะเหตุผลใดล่ะถ้าฮันนี่ไม่ได้สำคัญมากพอ “แต่ฉันอยากให้เธอรู้นะ ว่าฉันกับรักษ์นั้นเราสนิทกันมากแค่ไหน” ฮันนี่รุกต่อ เพราะจากการต่อปากต่อคำพร้อมประเมินมองด้วยสายตา นังเด็กหน้าอ่อนนี่ไม่ธรรมดาแน่ และอาการมึนตึงอย่างนี้ จะอะไรเล่าถ
“นางแบบคนนี้เป็นแฟนคุณรักษ์เหรอ” “ก็คงใช่นั่นแหละ แทบจะเกยขึ้นไปอยู่บนตักซะขนาดนั้น” “แปลว่าเธอเลือกคุณรักษ์เหรอ เห็นมีข่าวกับดาราชายตั้งหลายคน” “เลือกไม่เลือกไม่รู้ แต่ตอนนี้เหมือนเธอกำลังช่วยคุณรักษ์ต้อนรับแขกอยู่นะ สงสัยกะมาเปิดตัวด้วยมั้ง” แขกที่นั่งสนทนากันอยู่ในมุมหนึ่งทำให้มัสยาชะงักฝีเท้าก่อนจะยืนหลบมุมฟังให้จบ เพื่อยืนยันว่าเธอไม่ได้คิดไปเองแน่ เพราะสายตาของคนอื่นก็มองไม่ต่างกัน และอาจแรงกว่าที่เธอมองเสียอีก เมื่อหนึ่งในนั้นพูดขึ้นว่า “ได้ข่าวว่าเธอเป็นเด็กท่าน... เปิดตัวกับคุณรักษ์แบบนี้ ถ้าท่านหึงคุณรักษ์ขึ้นมาล่ะก็ งานนี้คุณรักษ์ซวยแน่ ทางที่ดีวันนี้เราควรจะกินให้ครบทุกเมนูนะ เพราะไม่รู้ว่าที่นี่จะเปิดต่อได้อีกกี่
กระดาษสีนวลที่มีขอบทั้ง 4 ด้านเป็นรูปดอกกุหลาบสีแดงสดเป็นสิ่งที่มัสยาไม่คิดว่าเธอจะได้ครอบครองเร็วขนาดนี้ ไม่ฝันและไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยด้วยซ้ำ โดยเฉพาะฝ่ายชายนั้นเป็นเขา “อารักษ์คะ น้องปลาขอบคุณนะคะ” “ขอบคุณอาเรื่องอะไรคะ” อารักษ์รับฝ่ามือที่กระพุ่มไหว้เขาเอาไว้ ดวงตาคมเข้มแต่อ่อนโยนอย่างที่สุดทอดมองหญิงสาวด้านข้าง สิ่งที่เขาตัดสินใจทำไปทั้งหมดนี้ ไม่ผิดหรอก เพราะเขาเชื่อในเสียงร่ำร้องของหัวใจตัวเอง แม้ว่าชีวิตจะผ่านผู้หญิงมานับร้อย ทั้งคู่ควง ทั้งคู่นอน นานบ้างเร็วบ้างในช่วงเวลาที่คบกัน แต่ก็ไม่เคยมีใครทำให้เขาตัดสินใจทำสิ่งนี้ แต่สำหรับมัสยาไม่ใช่ สำหรับเธอตรงหน้านี้วันเวลาไม่ใช่ตัวแปร หัวใจต่างหากเล่าที่สำคัญ “น้องปลาขอบคุณที่อารักษ์ทำเพื่อน้องปลาได้มากขนาดนี้ ขอบคุณจริงๆ ค่ะ”&nbs