เสื้อชุดนอนถูกปลดรังดุมจนถึงแนวลิ้นปี่ทำให้เขามองเห็นอะไรบางอย่างที่นูนเด่นออกมาอย่างมากมายที่สุด มากจนทำให้เขาต้องกลืนน้ำลายลงคออย่างแสนเสียดาย ทว่ากิริยามองตามสายตาของเขาจนไปหยุดอยู่ที่สาบเสื้อที่แยกออกจากกัน นิ้วมือสั่นๆ นั้นก็ต้องเร่งติดรังดุมอย่างควบคุมตัวเองไม่อยู่เช่นกัน
อารักษ์ต้องหันหน้าไปอีกทางเพื่อให้เธอพร้อมมากกว่านี้ และเมื่อปลายหางตาบ่งบอกว่าเธอพร้อมเขาก็ไม่รอช้าที่จะไขความข้องใจให้หมดไป
“เออ... น้องปลา น้องปลาใช่มั้ย” ไม่น่าจะถามอีกเมื่อแน่ใจอยู่แล้ว เพราะใบหน้านั้นยังมีเค้าเด็กสาวในวันวานผสมอยู่ เพียงแต่ดูเติบโตเต็มตัว คือเครื่องหน้างดงามสมส่วนและโต... มาก
อารักษ์กลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็นอีกครั้ง เมื่อใบหน้าน้อยๆ นั้นพยักหน้าลงเพียงนิด พร้อมกับริมฝีปากบวมเจ่อนั้นก็เม้มเข้าหากันอย่างคนกำลังประหม่าอย่างที่สุดไม่ต่างจากเขา
“น้องปลา... เอ่อ... อา... อาขอโทษนะ อา... อาไม่ได้ตั้งใจ อาเมาน่ะ แล้วก็ไม่คิดว่าจะมาเจอน้องปลาที่นี่ด้วย อาคิดว่าเป็นขโมย อาไม่ได้ตั้งใจจะทำกับน้องปลาแบบนั้น อา...”
นั่นคือคำแก้ตัวสุดเห่ยที่สุดในชีวิตก็ว่าได้ เพราะถ้ารู้ไปถึงไหนว่าคนอย่างเขาคิดหาคำแก้ตัวในเรื่องอย่างว่า ตำแหน่งคาสโนว่าที่เคยได้รับฉายาจากผองเพื่อนคงต้องถูกยึดคืนแน่ๆ
“ไม่... ไม่เป็นไรค่ะ น้องปลาเข้าใจ”
“เข้าใจ... เข้าใจว่าอะไรคะ”
คิ้วเข้มเลิกขึ้นสูง อดไม่ได้จะถาม เมื่อได้ยินคำตอบที่ออกมาจากปากของ ‘มัสยา’ หรือ ‘น้องปลา’ หญิงสาวข้างบ้าน เมื่อ 10 ปีก่อนนั้น มัสยายังเป็นเพียงเด็กหญิงช่างซักช่างถามจนเขาหาคำตอบมาให้เธอแทบไม่ทัน แต่ในเวลานี้เมื่อมัสยางดงามไปทั้งตัว โดยเฉพาะดวงตาสวยหวานคู่นั้นกำลังหลุบลงต่ำมองแต่เพียงช่วงขาเรียวยาวของตนเอง เขามั่นใจว่านั่นคือความขาวอมชมพูเพราะเลือดลมกำลังสูบฉีดไปทั่วทั้งร่าง เพราะมัสยากำลัง ‘อาย’
กรามแกร่งขบกันแน่นเพื่อระงับอารมณ์บ้าๆ ไม่ควรจะเกิดขึ้นเลยตั้งแต่เมื่อครู่จนถึงเดี๋ยวนี้ เขาไม่เคยควบคุมตัวเองไม่ได้กับ ‘เซ็กซ์’ แต่สิ่งที่เกิดเมื่อครู่ พิสูจน์แล้วว่าเขาควบคุมตัวเองไม่ได้เลย ไม่ว่าผู้หญิงที่เขาล่วงเกินเมื่อครู่จะเป็นนางแมวขโมยหรือว่าเป็นมัสยา เขาก็ไม่ควรจะทำทั้งนั้น แล้วนี่เขาทำอะไรลงไป ‘ความอยาก’ คือสิ่งที่เขาควบคุมตัวเองได้เสมอมา แล้วทำไมครั้งนี้ถึงทำไม่ได้
เขาทำสิ่งน่าละอายใจนั้นกับลูกสาวเพื่อนบ้านที่เอื้อเฟื้อต่อครอบครัวเขาในตลอดเวลาที่เขาอยู่เมืองไทยได้อย่างไร แต่สิ่งที่คิดกับภาพที่มองเห็นนั้นสวนทางกันอย่างสิ้นเชิง เพราะยิ่งเห็นมัสยาก้มหน้าก้มตาจนใบหน้าใกล้ชิดกับดอกบัวคู่ที่ทั้งอวบและอิ่มอย่างที่สุดนั้น นั่นก็ยิ่งกระตุ้นต่อมความต้องการตามธรรมชาติของเขาให้โลดแล่นได้อีกเท่าตัว
“เอ่อ... น้องปลามาทำอะไรคะ” อารักษ์เปลี่ยนเรื่อง เพราะดูว่าคำถามที่เขาต้องการนั้นมัสยาคงไม่ตอบแน่ แต่เขาคงคิดผิด
“น้องปลาเข้าใจว่าอารักษ์คงคิดว่าเป็นคนอื่น ไม่อย่างนั้นอารักษ์คงไม่... ไม่ทำอย่างนั้นกับน้องปลาแน่ๆ”
อารักษ์จ้องมองใบหน้าที่ก้มต่ำลงกับน้ำเสียงเศร้าอย่างที่สุด เขาอยากจะบอกเธอเหลือเกินว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ไม่ใช่ว่าเขาคิดว่าเป็นคนอื่นหรือคิดว่าเป็นเธอ แต่ทั้งหมดนั้นคือสิ่งที่เขาควบคุมตัวเองไม่ได้ สิ่งสวยงามที่ประกอบขึ้นเป็นเธอนั้นต่างหากเป็นสาเหตุ แต่ใครจะบ้าพูดออกไปแบบนั้นกันเล่า นั่นไม่ต่างจากการสารภาพว่า ‘หลงเสน่ห์’ เรือนร่างของเธอตั้งแต่เพียงแรกเห็นเลยนะ
“อาต้องขอโทษน้องปลาอีกครั้ง ขอโทษอย่างที่สุด อาไม่ได้ตั้งใจจริงๆ”
อย่างนี้ใช่ไหมที่เขาต้องพูดออกไป เพื่อไม่ให้อะไรๆ ที่เขาคิดไว้ และอะไรก็ตามที่จะทำให้มัสยาหวั่นไหวมีอิทธิพลเหนือความถูกต้อง เพราะแม้ว่าเขากับมัสยาจะไม่ได้เป็นญาติกัน แต่เขาเห็นมัสยามาตั้งแต่เด็ก ควรแล้วหรือที่จะคิด ‘กิน’ ของเอร็ดอร่อยจากตัวเธอ แม้เขาจะชอบกินของอร่อยที่เรียกว่า ‘แซ่บ’ นี้มากแค่ไหนก็ตาม แต่นั่นต้องไม่ใช่ ‘มัสยา’ ไม่ใช่เด็กหญิงที่วิ่งตามเขาต้อยๆ เด็กหญิงที่เรียกเขาว่า ‘อารักษ์ขา...’ คนนั้น
“ไม่เป็นไรค่ะ น้องปลาผิดเองที่เข้ามาโดยไม่ได้ขออนุญาตอารักษ์ก่อน น้องปลารู้ว่าอารักษ์จะกลับมาถึงคืนนี้ ก็เลยเอาวุ้นที่น้องปลาหัดทำมาใส่ตู้เย็นไว้ให้อารักษ์น่ะค่ะ เผื่ออารักษ์กลับมาถึงแล้วหิวจะได้มีอะไรทานรองท้องไปก่อน เอ่อ... น้องปลารู้ว่าอารักษ์ไม่ได้ตั้งใจ อารักษ์ไม่ต้องคิดมากนะคะ”
มัสยาพูดเร็วปรื้อเพื่อปลอบใจ จนเขาอยากจะสบถเอาคำหยาบคายต่างๆ ออกมาด่าว่าตัวเองซะเดี๋ยวนี้ เพราะแวบหนึ่งนั้นเขาเห็นแววตัดพ้อในดวงตาคู่สวยที่ช้อนขึ้นมองดูเขา ทั้งที่ควรเป็นเขาที่ต้องหาคำแก้ตัว ไม่ใช่สิ คำแก้ต่างที่ทำให้เธอไม่ประหม่าไปมากกว่านี้ แต่นี่เขากลับยืนอึ้งปล่อยให้มัสยาเป็นคนพูดเพื่อทำให้สถานการณ์ดีขึ้น
เด็กสาว ไม่สิ... หญิงสาวที่เติบโตไปทั้งเนื้อทั้งตัว ค่อยๆ กระเถิบเรือนร่างเย้ายวน Want ของเขาและพาตัวเองมาจนสุดริมโต๊ะ ทำท่าคล้ายจะลงมา และแล้วสัญชาตญาณความหื่นของเขาก็ไวกว่าความคิดอีกแล้ว เมื่อร่างแข็งแกร่งตรงเข้าประชิดตัวก่อนฝ่ามือจะกระชับบั้นเอวและโอบอุ้มเธอลงมาโดยไม่สนใจท่าทางตกใจปนแข็งขืนของมัสยาเลยสักนิด
“ผมกราบขอโทษพี่หลามกับพี่กุ้งด้วยนะครับ ที่ทำอะไรไปโดยพลการแบบนี้” ฉลามและกุ้งนาง มองชายหนุ่มรุ่นน้องที่เปลี่ยนสถานะมาเป็นลูกเขยในช่วงเวลาไม่ถึง 10 วันดี แม้จะงง สงสัย และสับสนในความสัมพันธ์ของอารักษ์และมัสยา แต่ทั้งคู่ที่นั่งกุมมือกันและกันเอาไว้ พร้อมทั้งนำทะเบียนสมรสที่แอบไปจดกันมาเมื่อเช้ามาวางให้ดู ก็ทำให้คนเป็นพ่อเป็นแม่นั้นพูดไม่ออก จะให้บอกว่ายกให้หรือไม่ยกให้ดีล่ะ ในเมื่อเรื่องมันมาไกลเกินจะแก้ไขแล้ว “พ่อคะ แม่คะ อารักษ์ไม่ผิดนะคะ น้องปลาผิดเองค่ะ น้องปลารักอารักษ์มาตั้งแต่เริ่มเป็นสาว น้องปลาไม่อยากต้องรออีก น้องปลาขอโทษค่ะ” หยาดน้ำตาของมัสยาไหลลงเป็นสาย เมื่อพ่อกับแม่ไม่ยอมพูดอะไรออกมาเลย เธอไม่อยากให้พ่อแม่คิดว่านี่คือสิ่งที่อารักษ์ฉกฉวยจากเธอ เธอสิที่เป็นฝ่ายเสนอและสนองอารักษ์จนเหน็ดเหนื่อย ไม่อยากให้พ่อแม่มอง
“ฉันถามว่าใครเป็นคนทำ ใคร!” “ฉันเอง” ฮันนี่อยากจะกรีดร้องอีกครั้งเมื่อเห็นคนที่เดินเข้ามา โดยมีพนักงานของร้านหอบเอกสารปึกใหญ่มาด้วย พนักงานสาวหน้าตาจิ้มลิ้มที่อารักษ์หลงหัวปักหัวปำ กำลังยืนประจันหน้าเธออยู่ และมันมีทะเบียนสมรส “ทำแบบนี้หมายความว่ายังไง” ฮันนี่ถามเสียงเหี้ยม “ก็เห่อน่ะค่ะ เพิ่งจดทะเบียนเมื่อเช้าหมาดๆ อยากให้คุณฮันนี่อวยพรให้ แต่กลัวว่าจะน้อยไปเลยก๊อบปี้เพิ่มมา 200 ชุด คุณฮันนี่จะได้เอาไปติดทำวอลเปเปอร์ที่บ้าน เอาไว้ระลึกถึงทุกคืนทุกวัน กำหนดจิตใจตัวเองให้มั่น แล้วท่องว่า ‘เขามีเมียแล้วหนอ เขาแต่งงานแล้วหนอ ยุ่งกับเขาไม่ได้แล้วหนอ’ พอมั้ยค่ะ 200 แผ่น ถ้าไม่พอ ฉันจะให้พนักงานไปก๊อบมาเพิ่ม” “แก... นัง
“ปล่อยผมเถอะฮันนี่ ไม่มีประโยชน์อะไรที่คุณจะมารื้อฟื้น เรื่องของเรามันจบไปนานแล้ว และตอนนี้ผมก็มีคนที่ต้องดูแลทั้งร่างกายและหัวใจของเธอด้วย และเธอก็ทำหน้าที่ดูแลร่างกายนี้ ทั้งด้านล่างและด้านบนเป็นอย่างดี จนผมไม่คิดว่าจะมีใครมาแทนได้” อารักษ์พยายามปลดฝ่ามือของฮันนี่ออกให้นุ่มนวลที่สุด แต่เธอก็ล็อกแน่นยังกับคีมเหล็ก พร้อมกับเสียดสีทั้งท่อนบนและท่อนล่างของเธอเข้าหาเขา “จริงเหรอคะ ฮันนี่ไม่ลืมนะคะว่าครั้งสุดท้ายก่อนที่รักษ์จะไปต่างประเทศ คืนนั้นเราสนุกกันมากแค่ไหน รักษ์ไม่อยากรื้อฟื้นเหรอคะ น้ำผึ้งหยาดเยิ้มของฮันนี่ยังหอม หวาน ไม่เปลี่ยนแปลง และตอนนี้มันก็พร้อมจะให้รักษ์ชิมแล้วด้วยค่ะ” คำพูดสะท้านอารมณ์ทั้งคนพูด คนฟัง และคนที่แอบฟังอยู่ด้านนอก ต่างคนต่างคิดไปคนละทาง คนพูดนั้นซ่านเสียวตั้งแต่เหนี่ยวรั้งร่างแกร่งของอารักษ์เข้าใ
“เธอคงไม่รู้สินะ ว่าฉันกับรักษ์เป็นอะไรกัน” ฮันนี่เปิดฉากพูดก่อน เธอถือคติเริ่มก่อนย่อมมีชัยไปกว่าครึ่ง และหน้าใสซื่อจืดๆ อย่างนี้ คงปอดแหกแน่ถ้ารู้ว่ากำลังแย่งสามีชาวบ้าน “ไม่รู้ค่ะ และก็คิดว่าไม่อยากรู้ด้วย” มัสยาตอบตรงตามความรู้สึก รู้แล้วได้ประโยชน์อะไรเล่าในเมื่อนี่ไม่ใช่คำบอกเล่าจากอารักษ์ แต่เป็นของใครก็ไม่รู้ที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อนเลย และถ้าฮันนี่สำคัญขนาดนั้นเธอก็มั่นใจว่าอารักษ์ต้องแนะนำให้เธอรู้จักแน่ แต่นี่ไม่ จะเพราะเหตุผลใดล่ะถ้าฮันนี่ไม่ได้สำคัญมากพอ “แต่ฉันอยากให้เธอรู้นะ ว่าฉันกับรักษ์นั้นเราสนิทกันมากแค่ไหน” ฮันนี่รุกต่อ เพราะจากการต่อปากต่อคำพร้อมประเมินมองด้วยสายตา นังเด็กหน้าอ่อนนี่ไม่ธรรมดาแน่ และอาการมึนตึงอย่างนี้ จะอะไรเล่าถ
“นางแบบคนนี้เป็นแฟนคุณรักษ์เหรอ” “ก็คงใช่นั่นแหละ แทบจะเกยขึ้นไปอยู่บนตักซะขนาดนั้น” “แปลว่าเธอเลือกคุณรักษ์เหรอ เห็นมีข่าวกับดาราชายตั้งหลายคน” “เลือกไม่เลือกไม่รู้ แต่ตอนนี้เหมือนเธอกำลังช่วยคุณรักษ์ต้อนรับแขกอยู่นะ สงสัยกะมาเปิดตัวด้วยมั้ง” แขกที่นั่งสนทนากันอยู่ในมุมหนึ่งทำให้มัสยาชะงักฝีเท้าก่อนจะยืนหลบมุมฟังให้จบ เพื่อยืนยันว่าเธอไม่ได้คิดไปเองแน่ เพราะสายตาของคนอื่นก็มองไม่ต่างกัน และอาจแรงกว่าที่เธอมองเสียอีก เมื่อหนึ่งในนั้นพูดขึ้นว่า “ได้ข่าวว่าเธอเป็นเด็กท่าน... เปิดตัวกับคุณรักษ์แบบนี้ ถ้าท่านหึงคุณรักษ์ขึ้นมาล่ะก็ งานนี้คุณรักษ์ซวยแน่ ทางที่ดีวันนี้เราควรจะกินให้ครบทุกเมนูนะ เพราะไม่รู้ว่าที่นี่จะเปิดต่อได้อีกกี่
กระดาษสีนวลที่มีขอบทั้ง 4 ด้านเป็นรูปดอกกุหลาบสีแดงสดเป็นสิ่งที่มัสยาไม่คิดว่าเธอจะได้ครอบครองเร็วขนาดนี้ ไม่ฝันและไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยด้วยซ้ำ โดยเฉพาะฝ่ายชายนั้นเป็นเขา “อารักษ์คะ น้องปลาขอบคุณนะคะ” “ขอบคุณอาเรื่องอะไรคะ” อารักษ์รับฝ่ามือที่กระพุ่มไหว้เขาเอาไว้ ดวงตาคมเข้มแต่อ่อนโยนอย่างที่สุดทอดมองหญิงสาวด้านข้าง สิ่งที่เขาตัดสินใจทำไปทั้งหมดนี้ ไม่ผิดหรอก เพราะเขาเชื่อในเสียงร่ำร้องของหัวใจตัวเอง แม้ว่าชีวิตจะผ่านผู้หญิงมานับร้อย ทั้งคู่ควง ทั้งคู่นอน นานบ้างเร็วบ้างในช่วงเวลาที่คบกัน แต่ก็ไม่เคยมีใครทำให้เขาตัดสินใจทำสิ่งนี้ แต่สำหรับมัสยาไม่ใช่ สำหรับเธอตรงหน้านี้วันเวลาไม่ใช่ตัวแปร หัวใจต่างหากเล่าที่สำคัญ “น้องปลาขอบคุณที่อารักษ์ทำเพื่อน้องปลาได้มากขนาดนี้ ขอบคุณจริงๆ ค่ะ”&nbs