ในวันนั้นมัสยาจำได้ว่าเธอไม่ได้ตอบโต้อะไรออกไปเลย หนึ่งนั้นคือไม่เข้าใจว่าทำไมอารักษ์ต้องเอาลิ้นเข้าไปพันกับหล่อนด้วย สองคือไม่คิดว่าจะได้ยินคำเหยียดหยามกับสายตาดูแคลนจากปากของผู้หญิงที่อารักษ์พามาบ้าน แต่เมื่อโตขึ้นก็ทำให้เธอเข้าใจว่าสิ่งที่เพื่อนสาวของอารักษ์มองเห็นในตัวเธอนั้น ‘เป็นจริง’
หน้าตาและรูปร่างจึงเป็นสิ่งที่เธอใส่ใจ สวย หุ่นดี และหน้าอกต้องใหญ่กว่าแม่นั่น เธอจึงกลายเป็นหญิงสาวใส่ใจการกินอาหารพอๆ กับการออกกำลังกายเพื่อบริหารหน้าอกให้ยกกระชับและสวยงามอยู่เสมอ โชคดีเป็นของเธอเมื่อแม่รักเธอมาก ถึงกับให้มาเยอะอย่างไม่หวง
และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ แม้จะมาโดยไม่คาดฝันแต่ก็สร้างความมั่นใจให้เธอเต็มร้อย ‘รักษ์เป็นของฉัน’ จะไม่มีวันให้เป็นไปตามที่พิซซี่บอกแน่ เพราะตอนนี้มั่นใจอย่างที่สุดว่าสวยกว่าแม่นั่นแน่ ไม่อย่างนั้นอารักษ์คงไม่ ‘จูบ’ เธอในทันทีที่เห็นหน้าหรอก โดยเฉพาะขนาดของหน้าอก เธอมั่นใจว่าทั้งใหญ่และเต่งตึงกว่าแม่นางแบบ ‘พิซซี่’ หลายคัพทีเดียว
ทรวงอกขนาดใหญ่กระเพื่อมขึ้นลงตามแรงเคล้นคลึงจากฝ่ามือของเขาทำให้อารักษ์มันในอารมณ์เสียจนต้องคลุกเคล้าใบหน้าลงบนความสวยงามนั้นไม่หยุด ทั้งกดเคราสากขึ้นลง ทั้งซุกไซ้จมูกดอมดมความหอม แต่นั่นก็ยังไม่ทำให้เขาสะใจที่ได้ฟอนเฟ้นเต้าอวบใหญ่นี้
ริมฝีปากจึงอ้าออกและดูดกลืนปลายยอดสีแดงสดพร้อมกับตวัดปลายลิ้นเลียไล้ไปมา และเมื่อได้ยินเสียงร้องครวญครางของเธอดังชัด เขาก็ยิ่งตวัดปลายลิ้นให้รัวเร็วมากยิ่งขึ้น
‘อา... อื้อ... อา... อารักษ์ขา... อา... อารักษ์ขา... อูย... อูย... อารักษ์... โอว... อารักษ์ขา... โอว...’
เสียงครวญครางแว่วหวานเปล่งออกมาจากริมฝีปากอวบอิ่มเผยอน้อยๆ ร้องเรียกชื่อเขาด้วยความเสียวซ่าน ในทุกครั้งที่เขาตวัดปลายลิ้นลงไป เธอจะบิดกายพร้อมเปล่งเสียงร้องเรียกชื่อเขาไปด้วย ‘อารักษ์ขา...’ และยิ่งเธอครวญครางเท่าไร ก็คล้ายกับเป็นแรงกระตุ้นให้เขาตื่นตัวมากขึ้นเท่านั้น ทว่า... คนที่เรียกเขาแบบนี้มีเพียงคนเดียว
ดวงตาคมเข้มเปิดขึ้นอย่างเร็วก่อนร่างแข็งแกร่งเปลือยเปล่าท่อนบนจะทะลึ่งลุกขึ้นพรวด ฝ่ามือทาบปิดใบหน้าของตนเองเอาไว้ เพื่อสะกดกลั้นความต้องการตามธรรมชาติให้ลดน้อยถอยลง เพราะภายใต้กางเกงนอนขายาวลายสก็อตนี้ ต้องทำหน้าที่กักเก็บความมหึมาเอาไว้อีกแล้ว และเขาก็รู้ดีว่ามันมหึมามากมายขนาดไหนยามพร้อมจะออกศึก
“เฮ้อ!”
ถอนหายใจหนักๆ เพราะศึกครั้งนี้แตกต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมา เพราะทุกครั้งนั้นเขาเป็นฝ่ายบุกทลายจนข้าศึกแตกกระจุยและเขาก็ได้ครอบครองพื้นนี้นั้นด้วยความเต็มตื้นอย่างที่สุด แต่ในเวลานี้เขากลับต้องพยายามเจรจาและสงบศึกลงให้จงได้ จะไม่ยอมให้ต้องเสียเลือดเสียเนื้อเด็ดขาด
แต่ยิ่งคิดก็คล้ายกับว่าจะยิ่งตอกย้ำความเป็นจริงมากขึ้นไปอีก เพราะหากเขาช่วงชิงเอาพื้นที่นี้ไว้ได้ การเสียเลือดเสียเนื้อครั้งนี้ก็จะคุ้มและทำให้เขามีความสุขอย่างท่วมท้นมากที่สุด
“ไอ้รักษ์ แกอย่าบ้านะ นั่นมันน้องปลานะโว้ย! แกไม่ควรคิดกับน้องปลาแบบนี้”
“แล้วแกจะให้ฉันทำยังไง น้องปลา... ใหญ่โตซะขนาดนั้น ทั้งใหญ่ ทั้งเต่งตึง โอ้ย! ฉันไม่ได้อยากคิด แต่ฉันห้ามมันไม่ได้”
“หักใจให้ได้อารักษ์ แกคิดกับน้องปลาแบบนั้นไม่ได้เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นแกได้ถูกฉลามกินแน่”
“ฉัน...”
อารักษ์พูดโต้ตอบกับตัวเองไม่ต่างจากคนบ้า เพราะไม่ใช่ไม่รู้ว่าสิ่งที่คิดและเก็บเอามาฝันนั้นไม่ถูกไม่ควร และเขาก็ควรจะตัดไฟเสียแต่ต้นลมให้เร็วที่สุด แต่สิ่งเร้าจากเรือนร่างของมัสยาทำให้เขาหวั่นไหวเหลือเกิน ใครจะคาดคิดไปว่า เด็กหญิงรูปร่างอ้วนป้อมในวันนั้นจะกลับกลายเป็นสาวสวยได้มากขนาดนี้ โดยเฉพาะ ‘หน้ามัธยมแต่นมปริญญาเอก’ นั่น ก็ยิ่งการันตีความเป็นไปได้ที่เขาจะฝันหามัสยาให้มากขึ้นไปอีก
แค่คิดถึงเต้าอวบอิ่มสีชมพูคู่นั้น อารักษ์คล้ายจะเห็นตัวเองกลายร่างเป็นพระอภัยมณีกำลังซุกไซ้ริมฝีปากและปลายจมูกลงไปที่เต้าทรวงอวบอิ่มของนางเงือกสาวสวย ที่พาเขาโลดแล่นลงไปในสายน้ำเย็นเยียบเพื่อดับคลายความร้อนรุ่มจากกายเนื้อนี้ให้เบาบางลง และในเวลานี้เขาต้องการมากมายเหลือเกิน
.
.
หัวคิ้วขมวดเข้าหากันพร้อมกับดวงตาที่เขม่นมองมาทำให้อารักษ์รู้สึกคล้ายกับว่าจะหายใจไม่ทั่วท้องขึ้นมาเสียดื้อๆ เมื่อเจ้าของบ้านข้างเคียงที่เขาตั้งใจมาสวัสดีทักทายพร้อมเอาของฝากมาให้ กำลังส่งสายตาพิฆาตมองมาอย่างจับผิด หรือว่าเหตุการณ์เมื่อคืนกำลังจะส่งผลในเช้าวันนี้
ไม่น่า... เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ‘ฉลาม’ หรือ ‘พี่หลาม’ ตามที่เขาเรียกอย่างสนิทสนมนั้นคงลากปืนมายิงเขาทิ้งไปแล้วล่ะ แต่ไอ้สายตามองมาแบบนี้จะหมายความว่ายังไงกันล่ะ
“เอ่อ... พี่หลามมีอะไรหรือเปล่าครับ” ถามพร้อมกับกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก เพราะฉลามยังไม่ละสายตาจากเขา ทั้งยังทำท่าคล้ายกับจะครุ่นคิดอะไรบางอย่างอีกด้วย
“รักษ์”
“ครับพี่!”
“ตกใจอะไร พี่ก็เรียก”
“เอ่อ... พี่หลามมีอะไรจะถามผมหรือครับ”
น้ำเสียงติดตลกของฉลามเหมือนกับว่ากำลังขำขันในตัวเขาทำให้อารักษ์สูดลมหายใจเข้าลึกๆ และกล้าจะส่งคำถามไปใหม่ เพราะถ้าเป็นเรื่องของมัสยาจริง ฉลามคงไม่มานั่งยิ้มทำสีหน้ากรุ้มกริ่มใส่เขาแบบนี้แน่ เพราะพ่อที่ไหนล่ะจะยิ้มถ้ารู้ว่าเขาขโมยจูบแรกและบีบเต้าครั้งแรกของลูกสาวตัวเองไปแล้ว
“ผมกราบขอโทษพี่หลามกับพี่กุ้งด้วยนะครับ ที่ทำอะไรไปโดยพลการแบบนี้” ฉลามและกุ้งนาง มองชายหนุ่มรุ่นน้องที่เปลี่ยนสถานะมาเป็นลูกเขยในช่วงเวลาไม่ถึง 10 วันดี แม้จะงง สงสัย และสับสนในความสัมพันธ์ของอารักษ์และมัสยา แต่ทั้งคู่ที่นั่งกุมมือกันและกันเอาไว้ พร้อมทั้งนำทะเบียนสมรสที่แอบไปจดกันมาเมื่อเช้ามาวางให้ดู ก็ทำให้คนเป็นพ่อเป็นแม่นั้นพูดไม่ออก จะให้บอกว่ายกให้หรือไม่ยกให้ดีล่ะ ในเมื่อเรื่องมันมาไกลเกินจะแก้ไขแล้ว “พ่อคะ แม่คะ อารักษ์ไม่ผิดนะคะ น้องปลาผิดเองค่ะ น้องปลารักอารักษ์มาตั้งแต่เริ่มเป็นสาว น้องปลาไม่อยากต้องรออีก น้องปลาขอโทษค่ะ” หยาดน้ำตาของมัสยาไหลลงเป็นสาย เมื่อพ่อกับแม่ไม่ยอมพูดอะไรออกมาเลย เธอไม่อยากให้พ่อแม่คิดว่านี่คือสิ่งที่อารักษ์ฉกฉวยจากเธอ เธอสิที่เป็นฝ่ายเสนอและสนองอารักษ์จนเหน็ดเหนื่อย ไม่อยากให้พ่อแม่มอง
“ฉันถามว่าใครเป็นคนทำ ใคร!” “ฉันเอง” ฮันนี่อยากจะกรีดร้องอีกครั้งเมื่อเห็นคนที่เดินเข้ามา โดยมีพนักงานของร้านหอบเอกสารปึกใหญ่มาด้วย พนักงานสาวหน้าตาจิ้มลิ้มที่อารักษ์หลงหัวปักหัวปำ กำลังยืนประจันหน้าเธออยู่ และมันมีทะเบียนสมรส “ทำแบบนี้หมายความว่ายังไง” ฮันนี่ถามเสียงเหี้ยม “ก็เห่อน่ะค่ะ เพิ่งจดทะเบียนเมื่อเช้าหมาดๆ อยากให้คุณฮันนี่อวยพรให้ แต่กลัวว่าจะน้อยไปเลยก๊อบปี้เพิ่มมา 200 ชุด คุณฮันนี่จะได้เอาไปติดทำวอลเปเปอร์ที่บ้าน เอาไว้ระลึกถึงทุกคืนทุกวัน กำหนดจิตใจตัวเองให้มั่น แล้วท่องว่า ‘เขามีเมียแล้วหนอ เขาแต่งงานแล้วหนอ ยุ่งกับเขาไม่ได้แล้วหนอ’ พอมั้ยค่ะ 200 แผ่น ถ้าไม่พอ ฉันจะให้พนักงานไปก๊อบมาเพิ่ม” “แก... นัง
“ปล่อยผมเถอะฮันนี่ ไม่มีประโยชน์อะไรที่คุณจะมารื้อฟื้น เรื่องของเรามันจบไปนานแล้ว และตอนนี้ผมก็มีคนที่ต้องดูแลทั้งร่างกายและหัวใจของเธอด้วย และเธอก็ทำหน้าที่ดูแลร่างกายนี้ ทั้งด้านล่างและด้านบนเป็นอย่างดี จนผมไม่คิดว่าจะมีใครมาแทนได้” อารักษ์พยายามปลดฝ่ามือของฮันนี่ออกให้นุ่มนวลที่สุด แต่เธอก็ล็อกแน่นยังกับคีมเหล็ก พร้อมกับเสียดสีทั้งท่อนบนและท่อนล่างของเธอเข้าหาเขา “จริงเหรอคะ ฮันนี่ไม่ลืมนะคะว่าครั้งสุดท้ายก่อนที่รักษ์จะไปต่างประเทศ คืนนั้นเราสนุกกันมากแค่ไหน รักษ์ไม่อยากรื้อฟื้นเหรอคะ น้ำผึ้งหยาดเยิ้มของฮันนี่ยังหอม หวาน ไม่เปลี่ยนแปลง และตอนนี้มันก็พร้อมจะให้รักษ์ชิมแล้วด้วยค่ะ” คำพูดสะท้านอารมณ์ทั้งคนพูด คนฟัง และคนที่แอบฟังอยู่ด้านนอก ต่างคนต่างคิดไปคนละทาง คนพูดนั้นซ่านเสียวตั้งแต่เหนี่ยวรั้งร่างแกร่งของอารักษ์เข้าใ
“เธอคงไม่รู้สินะ ว่าฉันกับรักษ์เป็นอะไรกัน” ฮันนี่เปิดฉากพูดก่อน เธอถือคติเริ่มก่อนย่อมมีชัยไปกว่าครึ่ง และหน้าใสซื่อจืดๆ อย่างนี้ คงปอดแหกแน่ถ้ารู้ว่ากำลังแย่งสามีชาวบ้าน “ไม่รู้ค่ะ และก็คิดว่าไม่อยากรู้ด้วย” มัสยาตอบตรงตามความรู้สึก รู้แล้วได้ประโยชน์อะไรเล่าในเมื่อนี่ไม่ใช่คำบอกเล่าจากอารักษ์ แต่เป็นของใครก็ไม่รู้ที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อนเลย และถ้าฮันนี่สำคัญขนาดนั้นเธอก็มั่นใจว่าอารักษ์ต้องแนะนำให้เธอรู้จักแน่ แต่นี่ไม่ จะเพราะเหตุผลใดล่ะถ้าฮันนี่ไม่ได้สำคัญมากพอ “แต่ฉันอยากให้เธอรู้นะ ว่าฉันกับรักษ์นั้นเราสนิทกันมากแค่ไหน” ฮันนี่รุกต่อ เพราะจากการต่อปากต่อคำพร้อมประเมินมองด้วยสายตา นังเด็กหน้าอ่อนนี่ไม่ธรรมดาแน่ และอาการมึนตึงอย่างนี้ จะอะไรเล่าถ
“นางแบบคนนี้เป็นแฟนคุณรักษ์เหรอ” “ก็คงใช่นั่นแหละ แทบจะเกยขึ้นไปอยู่บนตักซะขนาดนั้น” “แปลว่าเธอเลือกคุณรักษ์เหรอ เห็นมีข่าวกับดาราชายตั้งหลายคน” “เลือกไม่เลือกไม่รู้ แต่ตอนนี้เหมือนเธอกำลังช่วยคุณรักษ์ต้อนรับแขกอยู่นะ สงสัยกะมาเปิดตัวด้วยมั้ง” แขกที่นั่งสนทนากันอยู่ในมุมหนึ่งทำให้มัสยาชะงักฝีเท้าก่อนจะยืนหลบมุมฟังให้จบ เพื่อยืนยันว่าเธอไม่ได้คิดไปเองแน่ เพราะสายตาของคนอื่นก็มองไม่ต่างกัน และอาจแรงกว่าที่เธอมองเสียอีก เมื่อหนึ่งในนั้นพูดขึ้นว่า “ได้ข่าวว่าเธอเป็นเด็กท่าน... เปิดตัวกับคุณรักษ์แบบนี้ ถ้าท่านหึงคุณรักษ์ขึ้นมาล่ะก็ งานนี้คุณรักษ์ซวยแน่ ทางที่ดีวันนี้เราควรจะกินให้ครบทุกเมนูนะ เพราะไม่รู้ว่าที่นี่จะเปิดต่อได้อีกกี่
กระดาษสีนวลที่มีขอบทั้ง 4 ด้านเป็นรูปดอกกุหลาบสีแดงสดเป็นสิ่งที่มัสยาไม่คิดว่าเธอจะได้ครอบครองเร็วขนาดนี้ ไม่ฝันและไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยด้วยซ้ำ โดยเฉพาะฝ่ายชายนั้นเป็นเขา “อารักษ์คะ น้องปลาขอบคุณนะคะ” “ขอบคุณอาเรื่องอะไรคะ” อารักษ์รับฝ่ามือที่กระพุ่มไหว้เขาเอาไว้ ดวงตาคมเข้มแต่อ่อนโยนอย่างที่สุดทอดมองหญิงสาวด้านข้าง สิ่งที่เขาตัดสินใจทำไปทั้งหมดนี้ ไม่ผิดหรอก เพราะเขาเชื่อในเสียงร่ำร้องของหัวใจตัวเอง แม้ว่าชีวิตจะผ่านผู้หญิงมานับร้อย ทั้งคู่ควง ทั้งคู่นอน นานบ้างเร็วบ้างในช่วงเวลาที่คบกัน แต่ก็ไม่เคยมีใครทำให้เขาตัดสินใจทำสิ่งนี้ แต่สำหรับมัสยาไม่ใช่ สำหรับเธอตรงหน้านี้วันเวลาไม่ใช่ตัวแปร หัวใจต่างหากเล่าที่สำคัญ “น้องปลาขอบคุณที่อารักษ์ทำเพื่อน้องปลาได้มากขนาดนี้ ขอบคุณจริงๆ ค่ะ”&nbs