Share

บทที่ 3

Author: อวินจงมี่
เจียงเจ๋อเป็นหนึ่งในเลขาคนสนิทของเฟิงถิงเซิน

เมื่อเขาเห็นหนังสือลาออกของเธอก็ตกใจมาก

เขาเป็นหนึ่งในคนจำนวนน้อยในบริษัทที่รู้เรื่องความสัมพันธ์ของหรงฉือกับเฟิงถิงเซิน

คนที่สนิทกับเฟิงถิงเซินต่างก็รู้กันดีว่าหัวใจของเขาไม่ได้อยู่ที่หรงฉือ

เขาเย็นชากับหรงฉือมาก และไม่ค่อยกลับบ้านหลังจากแต่งงาน

หรงฉือเลือกเข้าทำงานที่เฟิงซื่อกรุ๊ปเพื่อให้ได้ใกล้ชิดและมัดใจเฟิงถิงเซิน

เป้าหมายแรกสุดของเธอคือเป็นเลขาคนสนิทของเฟิงถิงเซิน

แต่เฟิงถิงเซินไม่ยอม

ต่อมาคุณท่านออกหน้าแทน แต่ก็ไม่สามารถทำให้เฟิงถิงเซินเห็นด้วยอยู่ดี

สุดท้าย หรงฉือจึงยอมอยู่แผนกเลขานุการอย่างจำใจ และกลายเป็นหนึ่งในเลขาธรรมดาจำนวนมากของเฟิงถิงเซิน

แรกเริ่ม เจียงเจ๋อยังกังวลว่าหรงฉือจะทำให้แผนกเลขานุการวุ่นวายหลังจากที่เธอเข้ามา

แต่ผลลัพธ์กลับเหนือความคาดหมายของเขา

ถึงแม้ว่าหรงฉือจะอาศัยตำแหน่งเพื่อเข้าใกล้เฟิงถิงเซิน แต่เธอก็รู้จักเวล่ำเวลา และไม่ทำเกินงาม

ตรงกันข้าม อาจจะเป็นเพราะต้องการให้เฟิงถิงเซินประทับใจในตัวเธอ หรงฉือจึงตั้งใจทำงานมาก ทั้งยังมีความสามารถโดดเด่น ไม่ว่าเธอจะตั้งท้อง คลอดลูก หรือทำเรื่องอื่นๆ เธอก็ปฏิบัติตามกฎของบริษัทเสมอ และไม่เคยทำตัวมีอภิสิทธิ์ใดๆ เลย

หลายปีต่อมา หรงฉือได้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้าแผนกเลขานุการ

ความรู้สึกของหรงฉือที่มีต่อเฟิงถิงเซิน เขาก็เห็นอยู่ในสายตาตลอด

พูดตามตรง เจียงเจ๋อไม่เคยคิดเลยว่าหรงฉือจะลาออก

และเขาก็ไม่เชื่อว่าหรงฉือจะยอมลาออกเอง

ตอนนี้หรงฉือจะลาออก คงจะมีบางอย่างเกิดขึ้นระหว่างเธอกับเฟิงถิงเซินที่เขาไม่รู้ ดังนั้นเฟิงถิงเซินจึงสั่งให้เธอลาออก

หรงฉือมีความสามารถในการทำงานมาก แม้จะน่าเสียดาย แต่เจียงเจ๋อยังคงเอ่ยตามหน้าที่ว่า “ผมรับหนังสือลาออกไว้ และจะรีบหาคนมารับหน้าที่แทนคุณโดยเร็วที่สุด”

“ค่ะ”

หรงฉือพยักหน้าแล้วหันหลังกลับไปที่โต๊ะทำงาน

เจียงเจ๋อทำงานยุ่งอยู่สักพักก่อนจะรายงานงานกับเฟิงถิงเซินทางออนไลน์

ตอนที่คุยงานใกล้จะเสร็จ จู่ๆ เขาก็นึกถึงเรื่องที่หรงฉือจะลาออก “เอ่อ ประธานเฟิงครับ เกี่ยวกับ——”

ถึงแม้ว่าเขาจะบอกกับหรงฉือว่าจะรีบหาคนมารับหน้าที่แทนเธอโดยเร็วที่สุด แต่ก็ยังอยากจะลองสอบถามความเห็นของเฟิงถิงเซินเรื่องวันออกที่แน่ชัดของเธอ

ถ้าหากเฟิงถิงเซินต้องการให้หรงฉือลาออก แล้วพรุ่งนี้ไม่ต้องมาที่บริษัท งั้นอีกเดี๋ยวเขาก็จะไปจัดการเลย

แต่คำพูดกลับติดอยู่ที่ปาก และนึกขึ้นได้ว่าตอนที่หรงฉือเพิ่งเข้ามาทำงานเฟิงถิงเซินเคยสั่งไว้ว่าเรื่องทั้งหมดของหรงฉือในบริษัทให้พวกเขาจัดการตามระเบียบบริษัท ไม่ต้องรายงานเขาโดยตรง

เพราะเขาจะไม่สนใจเธอ

ความจริงก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ

เฟิงถิงเซินไม่เคยถามถึงเรื่องของหรงฉือในบริษัทเลยตลอดหลายปีที่ผ่านมา

ทุกที่ครั้งเห็นหรงฉือที่บริษัท เขาก็จะแสดงท่าทีเหมือนมองคนแปลกหน้าโดยสิ้นเชิง

หรงฉือมีผลงานโดดเด่นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เมื่อสองปีก่อน ตอนที่พวกเขาวางแผนว่าจะเลื่อนขั้นให้หรงฉือ และยังพิจารณาถึงเรื่องที่เฟิงถิงเซินไม่ชอบหรงฉือ พวกเขาจึงตั้งใจพูดเรื่องนี้ต่อหน้าเฟิงถิงเซินด้วย

ประมาณว่าถ้าเขาไม่ชอบ เรื่องก็ถือว่าแล้วไป

ตอนนั้นเฟิงถิงเซินฟังแล้วก็ขมวดคิ้ว และย้ำอีกครั้งอย่างไม่พอใจว่าเขาจะไม่เข้าไปยุ่ง ให้พวกเขาทำตามกฎระเบียบ

และยังบอกอีกว่าต่อไปห้ามถามเรื่องเกี่ยวกับหรงฉือในบริษัทกับเขาอีก

เมื่อเห็นเจียงเจ๋อไม่พูดสักที เฟิงถิงเซินจึงถามด้วยความสงสัยว่า “เรื่องอะไร”

พอเจียงเจ๋อได้สติก็รีบพูดว่า “ไม่มีอะไรแล้วครับ”

ในเมื่อเฟิงถิงเซินรู้เรื่องที่หรงฉือจะลาออกแล้ว แต่เขากลับไม่พูดถึงเลย นั่นก็แสดงว่าเรื่องนี้ไม่สำคัญเลยด้วยซ้ำในสายตาของเฟิงถิงเซิน

งั้นเขาจัดการตามระเบียบบริษัทเหมือนที่เคยผ่านมาก็ได้แล้ว

เมื่อนึกถึงตรงนี้ เจียงเจ๋อก็ไม่ได้พูดอะไรต่ออีก

เฟิงถิงเซินจึงกดวางสายวีดิโอคอล

.....

“กำลังคิดอะไรอยู่เหรอ”

ตอนเที่ยง จู่ๆ เพื่อนร่วมงานพลันตบไหล่ของหรงฉือ

พอหรงฉือได้สติก็ยิ้มพลางส่ายหน้า “เปล่า”

“วันนี้ไม่ต้องโทรหาลูกสาวเหรอ”

“อืม ไม่ต้องแล้ว”

ปกติเธอจะโทรหาลูกสาววันละสองครั้ง

ครั้งแรกตอนตีหนึ่ง ครั้งที่สองประมาณตอนเที่ยงกว่าๆ

เพื่อนร่วมงานในสำนักงานต่างรู้เรื่องนี้ดี

เพียงแต่พวกเขาไม่รู้ว่าพ่อของลูกสาวของเธอคือบิ๊กบอสของบริษัทพวกเขาเอง

หลังจากเลิกงานตอนเย็น หรงฉือไปซื้อกับข้าวที่ตลาดและต้นไม้สีเขียวสองสามกระถางก่อนกลับบ้าน

หรงฉือเปิดดูข่าวสารเกี่ยวกับนิทรรศการเทคโนโลยีในอินเตอร์เน็ตหลังทานข้าวเสร็จ

หลังดูเสร็จ เธอก็กดโทรศัพท์โทรออก “ช่วยเก็บบัตรเข้างานนิทรรศการเทคโนโลยีเดือนหน้าให้ฉันหนึ่งใบ”

“คุณแน่ใจนะ” ปลายสายเอ่ยอย่างเย็นชา “สองครั้งก่อน คุณก็บอกว่าให้ช่วยเก็บบัตรไว้ให้คุณ แต่คุณไม่เคยมาเลยสักครั้ง ตั๋วที่ใครหลายคนใฝ่ฝัน กลับถูกคุณทิ้งไปเปล่าๆ แบบนี้”

งานนิทรรศการเทคโนโลยีประจำปีของประเทศเป็นงานสำคัญของอุตสาหกรรมเทคโนโลยี และไม่ใช่ว่าทุกคนจะได้ตั๋วเข้าชมงาน

บริษัทของพวกเขาก็ได้รับโควตาเข้าร่วมงานไม่กี่ใบ และพนักงานยอดเยี่ยมหลายคนในบริษัทก็อยากเข้าร่วมงานนี้

สำหรับพวกเขาแล้ว ทุกโควตาล้วนล้ำค่ามาก

“ถ้าครั้งนี้ฉันไม่ไปเข้าร่วม ต่อไปฉันจะไม่ขอกับคุณอีก”

ปลายสายไม่พูดอะไร เพียงกดตัดสายไป

หรงฉือรู้ว่า นี่แสดงว่าเขาตกลง

หรงฉือจึงหัวเราะ

ความจริงแล้ว ที่เธอไม่ได้พูดก็คือเธออยากกลับไปทำงานที่บริษัท

ในฐานะหุ้นส่วนของบริษัท เธอเลือกแต่งงานและมีลูกในขณะที่บริษัทกำลังสร้างตัว เธอจึงถอนตัวออกจากบริษัทและทุ่มเทให้กับครอบครัว ซึ่งส่งผลกระทบต่อแผนการพัฒนาของบริษัทอย่างสิ้นเชิง และทำให้บริษัทของพวกเขาพลาดโอกาสไปมากมาย

ทุกคนทั้งโกรธและรำคาญเธอ

ในช่วงไม่กี่ปีมานี้พวกเขาแทบจะไม่ติดต่อกันเลย

เธออยากจะกลับเข้าบริษัทก็จริง แต่หลังจากแต่งงาน เธอให้ความสำคัญกับครอบครัวมาโดยตลอด

เธอห่างเหินจากวงการนี้นานเกินไปแล้ว

และกังวลว่าถ้ากลับเข้าบริษัทโดยที่ไม่เตรียมตัวอะไรตอนนี้ จะตามจังหวะพวกเขาไม่ทัน

ดังนั้นเธอตั้งใจว่าจะใช้เวลาทำความเข้าใจสถานการณ์ปัจจุบันของอุตสาหกรรมอย่างลึกซึ้งสักพักก่อนที่จะตัดสินใจอย่างละเอียด

หลายวันต่อมา หรงฉือตั้งใจทำงานในเวลางาน และยุ่งกับเรื่องของตัวเองหลังเลิกงาน

เธอจึงไม่ได้ติดต่อลูกสาวและเฟิงถิงเซิน

และแน่นอนว่าพวกเขาก็ไม่ติดต่อเธอ

ส่วนเธอก็ไม่แปลกใจกับเรื่องนี้

เพราะการติดต่อกับพวกเขาได้กลายเป็นการจัดเตรียมฝ่ายเดียวของเธอตั้งแต่เมื่อครึ่งปีก่อนแล้ว

พวกเขาเพียงแค่ถูกให้ยอมรับเท่านั้น

......

ที่ประเทศเอนาวา

ตอนนี้เฟิงจิ่งซินเคยชินกับการโทรหาหลินอู๋ทุกเช้าหลังตื่นนอนไปแล้ว

วันนี้เธอก็โทรหาหลินอู๋เป็นอันดับแรกหลังตื่นเหมือนเช่นเคย

แต่เพิ่งคุยกับหลินอู๋ได้ไม่นานก็ร้องไห้ “งอแง”

เพราะหลินอู๋บอกข่าวร้ายกับเธอ

“น้าอู๋อู๋จะกลับประเทศแล้ว”

เฟิงจิ่งซินเสียใจมาก หลังวางสายจากหลินอู๋ ก็รีบโทรหาเฟิงถิงเซิน “คุณพ่อคะ พ่อรู้เรื่องนี้ไหมคะ”

ที่สำนักงาน เฟิงถิงเซินเอ่ยขณะเปิดเอกสารว่า “รู้”

“รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”

“รู้มาสักพักแล้ว”

“พ่อ คุณพ่อใจร้าย...” เฟิงจิ่งซินกอดตุ๊กตาหมูสีชมพูตัวน้อยด้วยความเสียใจ และร้องไห้ไม่หยุด “ทำไมไม่บอกหนู หนูไม่อยากให้น้าอู๋อู๋ไป ถ้าน้าอู๋อู๋ไม่อยู่ที่นี่ หนูก็ไม่อยากเรียนที่นี่แล้ว หนูจะกลับประเทศ หืออ~”

เฟิงถิงเซินเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยว่า “จัดการไปแล้ว”

เฟิงจิ่งซินฟังไม่เข้าใจ “อะ อะไรนะคะ”

“เราจะกลับประเทศอาทิตย์หน้า”

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (5)
goodnovel comment avatar
Kanokporn
ไม่ต้องเข้ามาอ่านนะคะ ไม่อัพแล้วค่ะหายไป5-7แล้วค่ะ
goodnovel comment avatar
Chalinee
จริงค่ะ ผัวที่ดีคือผัวใหมา
goodnovel comment avatar
ใบเตย บีอาร์
ผัวแบบนี้ไม่มีดีกว่า
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 513

    ช่วงนี้เฟิงถิงเซินยุ่งมาก ข้าวยังทานไม่เสร็จ ก็มีโทรศัพท์เข้ามาอีกแล้วตอนที่เฟิงถิงเซินออกไปรับโทรศัพท์อีกครั้ง หลินอู๋เหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ พูดกับเฟิงจิ่งซินว่า “จริงสิ ซินซิน วันจันทร์หนูเปิดเทอม น้าไปส่งหนูที่โรงเรียนแล้วกัน”เฟิงจิ่งซินได้ยินเธอพูดแบบนี้ สีหน้าก็ดูลำบากใจเล็กน้อย แล้วพูดขึ้นว่า “ขอโทษนะคะน้าอู๋อู๋ หนูบอกกับคุณแม่แล้วว่าจะให้คุณแม่ไปส่งหนูที่โรงเรียน คุณแม่ก็รับปากหนูแล้วค่ะ”“อย่างนั้นเหรอ”หลินอู๋ได้ยินแบบนั้น ก็ไม่ได้ฝืนอะไรอีก……คืนวันอาทิตย์ หลังหรงฉือทานอาหารเสร็จ และกำลังจะพักผ่อน โทรศัพท์ของเฟิงจิ่งซินก็โทรเข้ามาแล้วหรงฉือเพิ่งจะรับสาย เฟิงจิ่งซินก็พูดขึ้นก่อนว่า “คุณแม่ พรุ่งนี้เช้าหนูกับคุณพ่อจะเข้าไปหาคุณแม่ที่นั่น ถึงตอนนั้นคุณแม่กับคุณพ่อก็ไปส่งหนูที่โรงเรียนด้วยกันนะคะ”“โอเค แม่เข้าใจแล้ว”เช้าวันรุ่งขึ้น หรงฉือเพิ่งจะทานอาหารเช้าได้ไม่นาน เฟิงถิงเซินกับเฟิงจิ่งซินก็มาถึงแล้วหรงฉือเพิ่งจะหยิบกุญแจรถออกจากบ้าน ก็ถูกเฟิงจิ่งซินที่ลงมาจากรถดึงให้เดินไปทางรถของเฟิงถิงเซิน แล้วพูดว่า “คุณแม่ไม่ทันแล้ว รีบขึ้นรถเถอะค่ะ”หรงฉือพูดว่า “เดี๋ย

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 512

    หลังผ่านไปนานมาก เธอจึงจะถามอีกครั้งว่า “ยังมีอีกไหม?”เฟิงจิ่งซินกำลังดื่มน้ำผลไม้อยู่ ชั่วขณะหนึ่งก็ไม่เข้าใจความหมายของเธอ เลยถามว่า “หืม? ยังมีอะไรเหรอคะ?”“เรื่องที่คุณพ่อหนูเป็นฝ่ายเข้าหาคุณแม่หนูน่ะ”เฟิงจิ่งซินวางแก้วลง ขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นพูดว่า “ไม่มีแล้วค่ะ หลังจากนั้นคุณแม่ก็ป่วยไม่สบาย คุณพ่อดูแลคุณแม่อยู่ตลอดเวลา คุณพ่อบอกว่าเด็กติดเชื้อได้ง่าย เลยไม่ยอมให้หนูเข้าใกล้ จนกระทั่งคุณแม่หายดี หนูถึงได้เจอคุณแม่”เมื่อฟังถึงตรงนี้ หลินอู๋ก็ชะงักไปอีกครั้ง แล้วถามขึ้นว่า “หลังจากคุณแม่หนูป่วย คุณพ่อหนูก็เป็นคนดูแลเธออย่างนั้นเหรอ?”“ใช่ค่ะ”หลินอู๋หลุบตาลงต่ำ มองไปที่เฟิงจิ่งซินแล้วพูดว่า “คุณย่าทวดหนูสั่งให้คุณพ่อหนูทำแบบนี้ใช่ไหม?”เฟิงจิ่งซินส่ายหน้า ตอบกลับว่า “ไม่ใช่ค่ะ เมื่อวานคุณแม่ไม่สบายตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง หลังจากรู้ว่าคุณแม่ป่วย คุณพ่อก็ดูแลคุณแม่ไปด้วย ขณะเดียวกันก็โทรให้คนใช้เฮลิคอปเตอร์ไปรับคุณปู่จางเข้ามาดูอาการให้คุณแม่ แล้วหลังจากที่คุณปู่จางมาถึง คุณย่าทวดจึงจะรู้ว่าคุณแม่ป่วยแล้วค่ะ”คุณปู่จางที่เฟิงจิ่งซินพูดถึง หลินอู๋ก็พอจะเดาได้ว่าอีกฝ่ายเป็น

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 511

    ทางด้านหรงฉือกับเหยียนอวิ้นจือพวกเขากำลังนั่งคุยระลึกความหลังกันอย่างสนุกสนานในห้องส่วนตัว อีกด้านหนึ่งเฟิงถิงเซินกลับเพิ่งจะถึงห้องส่วนตัวและนั่งลงได้ไม่นาน ก็มีโทรศัพท์โทรเข้ามาแล้วเฟิงถิงเซินออกไปรับโทรศัพท์ด้านนอกส่วนหลินอู๋หยิบวารสารที่พกติดตัวออกมา พูดขึ้นว่า “ซินซิน น้าอ่านหนังสือแปบหนึ่งก่อนนะ หนูเล่นเองคนเดียวไปก่อนได้ไหม?”“ได้ค่ะ” ถึงเฟิงจิ่งซินจะใช้ชีวิตอยู่ในประเทศเอนาวาสองปี ภาษาอังกฤษของเธอค่อนข้างดีเลยทีเดียว เมื่อเห็นหน้าปกกับชื่อของวารสารที่อยู่ในมือหลินอู๋ ก็พูดขึ้นว่า “คุณน้า วารสารเล่มนี้คุณพ่อก็มีค่ะ”หลินอู๋รู้ว่าเฟิงถิงเซินติดตามข่าวสารล่าสุดของแวดวงเอไออย่างใกล้ชิดมาโดยตลอดยิ่งไปกว่านั้น ตอนที่เธอถามเมื่อสองวันก่อน ตอนนั้นเฟิงถิงเซินก็บอกว่าเขาอ่านแล้วด้วยเหตุนี้ พอได้ยินเฟิงจิ่งซินพูดแบบนั้น เธอก็พูดว่า “อื้ม น้ารู้”พูดถึงเรื่องนี้ เฟิงจิ่งซินก็นึกถึงหรงฉือขึ้นมา อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “วันนั้นคุณแม่กลับมา คุณพ่อกลัวว่าคุณแม่จะเบื่อเลยขึ้นไปหยิบหนังสือจากชั้นบนลงมาให้คุณแม่อ่าน คืนวันนั้น หลังจากที่เห็นคุณแม่อ่านจบแล้ว คุณพ่อยังพูดคุยถึงเนื้อหาในวารส

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 510

    ตอนบ่าย หรงฉือเพิ่งกลับมาจากเฟิงซื่อได้ไม่นาน จู่ ๆ โทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาเป็นแพทย์เจ้าของไข้ประจำแผนกจิตเวชของหรงอิ้งเซิ่งโทรมา บอกว่าตอนบ่ายหรงอิ้งเซิ่งเหมือนจะได้สติขึ้นมาอยู่ช่วงหนึ่ง แต่ไม่นาน สภาพจิตใจก็เข้าสู่สภาวะล่มสลาย ซึ่งแทบจะไม่เคยเกิดขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้หรงฉือสีหน้าเปลี่ยนไป รีบมุ่งไปที่โรงพยาบาล แล้วพูดขึ้นว่า “เป็นไปได้ยังไง? ตกลงเกิดอะไรขึ้นกันแน่คะ?”“พวกเราได้ตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว ตอนนี้ยังไม่พบความผิดปกติใด ๆ ครับ”หากไม่มีการกระตุ้นจากภายนอก หรงอิ้งเซิ่งจะแสดงอาการแบบนี้ออกมาได้อย่างไร?หรงฉือดูในกล้องวงจรปิด เห็นหรงอิ้งเซิ่งที่กำลังนอนหลับหลังจากทานยา จากนั้นเธอก็คุยกับหมออีกสักพัก ถึงจะเดินลงบันไดด้วยจิตใจที่หนักอึ้งตอนที่ลิฟต์มาถึงชั้นล่าง พอประตูลิฟต์เปิดออก หรงฉือเงยหน้าขึ้น ก็สบเข้ากับสายตาของซุนลี่เหยาและคุณยายซุนพอดีเมื่อซุนลี่เหยาเห็นหรงฉือ รีบจ้องมองเธอเขม็งทันที หลังจากนั้นก็ส่งเสียงฮึเสียงหนึ่ง เชิดหน้าขึ้นด้วยความหยิ่งผยอง แล้วพยุงคุณยายซุนเข้าไปในลิฟต์ภายในลิฟต์ยังมีคนอื่น ๆ อีก หลังเข้าไปในลิฟต์ ซุนลี่เหยามองใบหน้าด้านข้างของหรงฉื

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 509

    “ไม่ต้องหรอกค่ะคุณย่า” หรงฉือพูดว่า “หนูยังมีงานที่ต้องจัดการนิดหน่อย อาหารเย็นก็ไม่กินแล้ว”หรงฉือมีงานต้องไปจัดการเสียที่ไหน? เห็นได้ชัดว่าไม่อยาก และคิดว่าอยู่ที่นี่นาน ๆ ก็ไม่ดีตามหลักแล้ว เธอกับเฟิงถิงเซินยังไม่ได้หย่ากันอย่างเป็นทางการ หรงฉือยังคงเป็นคนของตระกูลเฟิง ไม่ถึงกับต้องเป็นแบบนี้ แต่หรงฉือคิดดูแล้ว บางทีตั้งแต่เธอกับเฟิงถิงเซินเริ่มเตรียมจะหย่ากัน เธอก็ได้ขีดเส้นแบ่งเขตภายในใจระหว่างตัวเองกับเฟิงถิงเซินไปแล้วเรื่องพวกนี้ จริง ๆ แล้ว คุณย่าเฟิงล้วนเข้าใจดีในเมื่อหรงฉือยืนกราน เธอก็ไม่ควรโน้มน้าวไปมากกว่านี้อีกเธอจ้องเฟิงถิงเซินอย่างดุร้ายเฟิงถิงเซินทำเป็นมองไม่เห็น มองหรงฉือแล้วพูดขึ้นว่า “ผมไปส่งคุณ”“ไม่ต้องหรอก” หรงฉือปฏิเสธ พูดว่า “คุณทำงานไปเถอะ ให้คนขับรถไปส่งฉันก็ได้” เฟิงถิงเซินก็ไม่ได้ยืนกรานอีกต่อไป ก่อนจะตอบกลับว่า “โอเค”หรงฉือกลับห้องไปหยิบกระเป๋า ก็เตรียมจะออกไปแล้วคุณย่าเฟิงและเฟิงถิงเซินต่างก็ลงมาชั้นล่างเพื่อไปส่งเธอเฟิงจิ่งซินเพิ่งรู้ว่าเธอจะไปแล้ว ก็อาลัยอาวรณ์มาก พูดว่า “คุณแม่ ทำไมคุณแม่กลับเร็วจังเลยละคะ?”“อืม” หรงฉือลูบศีรษะข

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 508

    หลังหรงฉือวัดอุณหภูมิเสร็จ ฝืนรออยู่นานมาก ยังไม่เห็นเฟิงถิงเซินกลับมา ไม่นานเธอก็เผลอหลับไปอย่างไร้เรี่ยวแรงพอเธอตื่นขึ้นมาอีกที ตอนลืมตาขึ้น เฟิงถิงเซินกลับยังนั่งอ่านหนังสืออยู่ตรงนั้นหลังเห็นเธอตื่น แล้วมองมาทางตัวเองอย่างเหม่อลอย แต่สายตาของเธอกลับไม่ได้จ้องมองมาที่ตัวเอง เฟิงถิงเซินจึงลุกขึ้น เดินเข้ามาแตะหน้าผากที่ชุ่มเหงื่อของเธอเล็กน้อย แล้วถามว่า “เป็นอะไรหรือเปล่า?”พวกเขาไม่ได้สัมผัสถึงเนื้อถึงตัวกันมานานมากแล้วจริง ๆ หรงฉือไม่คุ้นชินกับการสัมผัสของเขาสักเท่าไรแม้จะรู้ว่าเขากำลังช่วยวัดอุณหภูมิให้เธอ แต่หรงฉือยังคงปัดมือของเขาออก แล้วส่ายหน้าโดยไร้เสียงเบา ๆ เธอแค่แปลกใจที่เขายังอยู่ก็เท่านั้นเธอยังคิดว่า ก่อนหน้านี้พอเขารับโทรศัพท์ก็ออกจากบ้านเดิมไปแล้วเสียอีก เธอเริ่มเหงื่อออกไปทั้งตัวอีกครั้ง ตอนนี้จึงมีเค้าลางว่าไข้ลดลงอย่างเป็นทางการแล้วร่างกายเหนียวเหนอะหนะไม่สบายตัวมาก เธอจึงเปลี่ยนเสื้อผ้าที่สะอาดอีกหนึ่งรอบ หลังทานข้าว และนั่งพักครู่หนึ่งก็หลับไปอีกครั้งตอนที่เธอตื่นมาอีกครั้ง ก็เป็นตอนบ่ายแล้วจนถึงตอนนี้ ไข้ของเธอก็ลดลงอย่างสิ้นเชิงเวลานี้ เ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status