แชร์

บทที่ 2

ผู้เขียน: อวินจงมี่
เฟิงถิงเซินและลูกสาวกลับมาถึงบ้านตอนสามทุ่มกว่า

เฟิงจิ่งซินจับชายเสื้อของเฟิงถิงเซินแล้วลงจากรถอย่างเฉื่อยชา

จริงๆ แล้วคืนนี้เธอไม่อยากกลับบ้านด้วยซ้ำเพราะคุณแม่อยู่

แต่น้าอู๋อู๋บอกว่าคุณแม่ตั้งใจมาหาเธอและคุณพ่อ ถ้าพวกเขาไม่กลับ คุณแม่ก็จะเสียใจ

คุณพ่อก็บอกว่าถ้าคืนนี้พวกเขาไม่กลับ พรุ่งนี้คุณแม่จะต้องไปเที่ยวทะเลกับพวกเขาแน่ๆ

เธอจึงต้องยอมกลับมา

แต่เธอก็ยังค่อนข้างกังวล จึงเอ่ยอย่างเซ็งๆ ว่า “คุณพ่อคะ ถ้าพรุ่งนี้คุณแม่ดื้อจะตามไปกับพวกเราด้วย จะทำยังไงดีคะ”

“ไม่มีทาง” เฟิงถิงเซินเอ่ยอย่างใจเย็น

ถึงแม้ว่าหรงฉือมักจะพยายามหาโอกาสเพื่อได้ใช้เวลาร่วมกับเขามากขึ้นตลอดหลายปีที่แต่งงานกัน

แต่เธอก็นับว่ารู้กาลเทศะ เพียงแค่เขาแสดงท่าที เธอก็ไม่กล้าทำให้เขาไม่พอใจ

ในความทรงจำของเฟิงจิ่งซิน หรงฉือเชื่อฟังเฟิงถิงเซินเสมอมา

ในเมื่อเขาบอกว่าไม่ได้ ก็ต้องไม่ได้เด็ดขาด

ในที่สุดเฟิงจิ่งซินก็โล่งใจ

และอารมณ์ก็ดีขึ้น ทันทีที่สลัดความกลุ้มใจทิ้งไปก็กระโดดโลดเต้นเข้าบ้าน จากนั้นบอกกับป้าหลิวว่าเธอจะอาบน้ำ

“ค่ะค่ะค่ะ” ป้าหลิวขาบรับเสียงรัว เมื่อนึกเรื่องที่หรงฉือสั่งไว้ได้ก็รีบเอาซองจดหมายยื่นให้เฟิงถิงเซิน “คุณผู้ชายคะ คุณผู้หญิงให้ฉันมอบสิ่งนี้ให้คุณค่ะ”

เฟิงถิงเซินรับเอามาพร้อมเอ่ยถามว่า “แล้วเธอล่ะ”

“เอ่อ... คุณผู้หญิงเก็บของกลับประเทศตั้งแต่เที่ยงแล้วค่ะ คุณไม่รู้เหรอ”

เฟิงถิงเซินที่กำลังจะขึ้นบันไดถึงกับหยุดชะงักทันที แล้วหันกลับมาถามว่า “กลับแล้ว?”

“ใช่ค่ะ”

ทำไมจู่ๆ หรงฉือถึงมาที่ประเทศเอนาวา เฟิงถิงเซินไม่เปิดโอกาสให้หรงฉือได้พูดเลย

และเขาก็ไม่สนใจด้วย

เมื่อรู้ว่าเธอกลับไปแล้ว ก็ไม่ได้ใส่ใจ

เฟิงจิ่งซินก็ค่อนข้างประหลาดใจ

พอได้ยินแล้วก็รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย

เธอยังคิดว่าถ้าพรุ่งนี้คุณแม่ไม่ตามเธอกับคุณพ่อออกไปเที่ยวทะเล การที่มีคุณแม่อยู่เป็นเพื่อนตอนกลางคืน ความจริงแล้วก็ดีเหมือนกัน

อีกอย่าง ตอนขัดเปลือกหอยก็มักจะเจ็บมือ เธอยังคิดว่าถ้าขอให้คุณแม่ช่วยจะต้องสำเร็จแน่นอน

สองสามีภรรยาอย่างเฟิงถิงเซินและหรงฉือไม่เจอหน้ากันหลายเดือนแล้ว หรงฉืออุตส่าห์มาทั้งที แต่กลับไม่เห็นแม้แต่เงาของเฟิงถิงเซิน เมื่อนึกถึงสีหน้าไม่สู้ดีของหรงฉือตอนที่เธอออกไป ป้าหลิวก็อดไม่ได้ที่จะเตือนว่า “คุณผู้ชายคะ ตอนคุณผู้หญิงออกไป สีหน้าดูผิดปกติเล็กน้อย ดูเหมือนกำลังโกรธ”

ก่อนหน้านี้ป้าหลิวคิดว่าหรงฉือมีธุระด่วนจึงรีบกลับประเทศ

แต่ตอนนี้ได้รู้ว่าเฟิงถิงเซินไม่รู้ว่าหรงฉือกลับประเทศเลยด้วยซ้ำ เธอจึงตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติ

โกรธ?

หรงฉือมีท่าทีใจเย็นและใจกว้างเสมอต่อหน้าเขา

ที่แท้เธอก็โกรธเป็นหรือนี่?

ช่างแปลกใหม่เสียจริง

เฟิงถิงเซินยิ้มอย่างไม่แคร์ก่อนตอบกลับป้าหลิวออย่างเฉยเมยแล้วเดินขึ้นชั้นบนไป

พอกลับถึงห้อง ขณะที่เขากำลังจะแกะซองจดหมายที่หรงฉือให้เขา หลินอู๋ก็โทรมาพอดี หลังจากที่เฟิงถิงเซินรับสาย เขาก็โยนซองจดหมายทิ้ง แล้วหันหลังเดินออกจากห้องไป

สักพักซองจดหมายก็หล่นจากขอบเตียงลงพื้นเอง

และในคืนวันนั้น เฟิงถิงเซินก็ไม่ได้กลับบ้าน

วันรุ่งขึ้น ตอนที่ป้าหลิวเข้ามาทำความสะอาดก็เห็นซองจดหมายที่ตกอยู่บนพื้น และจำได้ว่าเป็นซองที่หรงฉือสั่งให้เธอเอาให้เฟิงถิงเซินเมื่อวาน

เธอคิดว่าเฟิงถิงเซินเปิดอ่านมันแล้วจึงวางไว้ในตู้ที่อยู่ด้านข้าง

......

หลังจากที่หรงฉือลงเครื่องก็ตรงกลับบ้านแล้วขึ้นไปเก็บกระเป๋าทันที

อย่างไรก็ผ่านมาหกปีแล้ว และยังมีสิ่งของของเธออยู่ในบ้านมากมาย

แต่เธอเอาไปเพียงเสื้อผ้าไม่กี่ชุด ของใช้จำเป็นประจำวันสองชุด และหนังสือเฉพาะทางบางเล่มของเธอ

เฟิงถิงเซินจะให้เงินค่าครองชีพกับเธอและลูกสาวทุกเดือนหลังแต่งงาน

โดยแบ่งโอนเข้าสองบัญชี

บัญชีหนึ่งของเธอ อีกบัญชีของลูกสาว

แต่ปกติหรงฉือมักรูดบัตรของตัวเองในการใช้จ่าย

ส่วนบัตรของลูกสาวเธอไม่เคยแตะเลย

อีกอย่าง เธอรักเฟิงถิงเซิน ทุกครั้งที่ออกไปชอปปิ้ง พอเห็นเสื้อผ้า รองเท้า เนคไท และกระดุมข้อมือ เป็นต้น ที่เหมาะกับเขาก็อดซื้อไม่ได้

ส่วนตัวเธอเอง เนื่องด้วยการงาน ทำให้ค่าใช้จ่ายประจำวันของเธอไม่สูง และเธอก็เอาแต่ทุ่มเทให้กับสามีและลูกสาว อยากให้สิ่งที่ดีที่สุดกับพวกเขาเสมอ ดังนั้นเธอจึงใช้เงินค่าครองชีพที่เฟิงถิงเซินให้เธอส่วนใหญ่ไปกับสองพ่อลูก

ด้วยเหตุนี้ ดูเหมือนว่าตอนนี้ไม่น่าจะมีเงินเหลืออยู่ในบัตรแล้ว

แต่ว่า ในช่วงปีที่ผ่านมา เนื่องจากลูกสาวอาศัยอยู่กับเฟิงถิงเซินที่ประเทศเอนาวาเป็นหลัก เธอจึงไม่ค่อยมีโอกาสซื้อของให้พวกเขา

ตอนนี้เงินในบัตรยังเหลืออยู่หนึ่งร้อยห้าสิบกว่าล้าน

เงินแค่นี้ไม่อยู่ในสายตาของเฟิงถิงเซิน แต่สำหรับเธอแล้วกลับเป็นเงินจำนวนไม่น้อยเลย

ในเมื่อเงินก็เป็นของเธออยู่แล้ว หรงฉือจึงโอนเงินออกโดยไม่รู้สึกผิด

เธอทิ้งบัตรสองใบไว้ แล้วลากกระเป๋าเดินทางจากไปโดยไม่หันกลับมามอง

เธอมีห้องชุดห้องหนึ่งอยู่ไม่ไกลจากบริษัทที่เธอทำงานอยู่

ห้องมีขนาดหนึ่งร้อยกว่าตารางเมตร ซึ่งถือว่าไม่ใหญ่มาก

เธอซื้อห้องนั้นเพื่อช่วยยอดขายของเพื่อนที่หนีออกจากบ้านเมื่อสี่ปีก่อน แต่ไม่เคยเข้าอยู่เลย

ตอนนี้ได้ใช้ประโยชน์จากมันแล้ว

ก่อนหน้านี้มีคนมาทำความสะอาดเป็นประจำอยู่แล้วจึงไม่สกปรกมาก แค่ทำความสะอาดเล็กน้อยก็เข้าอยู่ได้เลย

เนื่องจากเหนื่อยมาทั้งวัน พอหรงฉืออาบน้ำเสร็จก็กลับห้องพักผ่อนตอนสี่ทุ่มกว่าๆ

“กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง——”

เสียงนาฬิกาปลุกที่แสบหูดังขึ้น ทำให้หรงฉือตื่นจากความฝัน

เพราะถูกปลุกให้ตื่นอย่างกะทันหัน ในหัวของหรงฉือจึงขาวโพ้นไปชั่วขณะ

แต่พอได้สติเธอถึงนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้เป็นเวลาตีหนึ่ง ซึ่งก็คือเวลาประมาณเจ็ดโมงเช้ากว่าที่ประเทศเอนาวาที่เฟิงถิงเซินและลูกสาวอาศัยอยู่

ปกติเฟิงถิงเซินและลูกสาวจะทานอาหารเช้าในเวลานี้

นับตั้งแต่ที่ลูกสาวตามเฟิงถิงเซินไปอยู่ที่ประเทศเอนาวา เธอก็มักจะโทรหาลูกสาวเวลานี้เป็นประจำ

เพียงแต่ว่า ปกติเธอทำงานเหนื่อยและชินกับการเข้านอนเร็ว แต่ด้วยกลัวว่าจะพลาดเวลาคุยโทรศัพท์กับลูกสาว เลยตั้งนาฬิกาปลุกแบบนี้ไว้

ตอนที่ลูกสาวตามเฟิงถิงเซินไปอยู่ที่ประเทศเอนาวาใหม่ๆ ก็ยังไม่คุ้นชิน ลูกทั้งคิดถึงเธอมาก และอยากโทรหาเธอตลอดเวลา

แต่หลังจากที่ลูกสาวอยู่ประเทศเอนาวานานขึ้นเรื่อยๆ ลูกสาวจากที่เคยคิดถึงและผูกพันกับเธอก็กลายเป็นรำคาญและทำส่งเดช

ความจริงไม่มีความจำต้องตั้งนาฬิกาปลุกนี้ไว้ตั้งนานแล้ว

แต่เธอยังอาลัยอาวรณ์

เมื่อนึกถึงตรงนี้ หรงฉือก็พลันยิ้มเฝื่อนๆ

หลังจากลังเลอยู่สักพัก หรงฉือก็ลบนาฬิกาปลุก ปิดโทรศัพท์แล้วนอนต่อ

อีกด้าน

เฟิงถิงเซินและเฟิงจิ่งซินทานอาหารเช้าจนใกล้จะเสร็จแล้ว

ถึงแม้ว่าเฟิงถิงเซินจะรู้ว่าหรงฉือจะโทรหาลูกสาวเวลานี้เกือบทุกวัน แต่เขาก็ไม่ได้อยู่บ้านทุกวันจึงไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้มากนัก

เขาสังเกตุเห็นว่าวันนี้หรงฉือไม่ได้โทรมา แต่ก็ไม่ได้สนใจ และเดินขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าชั้นบนหลังทานอาหารเช้าเสร็จ

เฟิงจิ่งซินรู้สึกว่าหรงฉือนับวันยิ่งจู้จี้จุกจิกขึ้นเรื่อยๆ และเธอก็ไม่ชอบคุยโทรศัพท์กับแม่มากขึ้นเรื่อยๆ

เมื่อเห็นว่าสายขนาดนี้แล้ว แต่หรงฉือยังไม่โทรมา จึงคิดว่าแม่อาจจะติดธุระ

เธอจึงกรอกตาไปมาแล้วถือกระเป๋าหนังสือวิ่งออกไปข้างนอก

เมื่อป้าหลิวเห็นดังนั้นก็รีบวิ่งตามไป “คุณหนูคะ ตอนนี้ยังเช้าอยู่ สายสักหน่อยค่อยออกไปก็ยังทันค่ะ!”

แต่เฟิงจิ่งซินไม่ฟัง และวิ่งไปที่รถอย่างดีใจ

ล้อเล่นน่า หาได้ยากที่วันนี้คุณแม่จะยุ่งจนไม่ได้โทรมาตรงเวลา

ถ้าเธอไม่ออกไปตอนนี้ อีกเดี๋ยวถ้าคุณแม่โทรมา เธอก็ต้องคุยกับแม่อีก เธอไม่ต้องการแบบนั้นหรอกนะ!

......

หรงฉือเข้าทำงานที่เฟิงซื่อกรุ๊ปหลังจากแต่งงาน

ตอนนั้นเธอเข้าทำงานที่เฟิงซื่อกรุ๊ปเพราะเฟิงถิงเซิน

แต่ในเมื่อตอนนี้จะหย่าร้างกัน เธอก็ไม่มีเหตุผลที่จะทำงานที่เฟิงซื่อกรุ๊ปต่อไปแล้ว

เช้าวันรุ่งขึ้น หรงฉือยื่นหนังสือลาออกให้เจียงเจ๋อทันทีที่ไปถึงบริษัท

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 200

    “ความเห็นเหรอ จะมากหรือน้อยก็มีอยู่บ้างแหละ แต่ไม่เป็นปัญหาใหญ่โตอะไร” ประธานหยางว่า “บริษัทมีโครงการดี ๆ ผู้ถือหุ้นคนอื่นย่อมอยากส่งคนของตัวเองไปทำ แต่ปกติแล้วประธานเฟิงจะจัดแจงด้วยตัวเองน้อยครั้งมาก คนอื่น ๆ คงไม่มีความเห็นอะไรทั้ง ๆ ที่ประธานเฟิงเพิ่งจัดให้คนของตัวเองเข้ามารับหน้าที่ในบางส่วนหรอก? ยิ่งไปกว่านั้น ทั้งตระกูลหลินกับตระกูลซุนเองก็มีศักยภาพไม่เลว และเคารพกฎกติกามาก รวม ๆ แล้วไม่ถือเป็นปัญหาใหญ่โต”อวี้มั่วซวิน “...”เขาทนฟังต่อไปไม่ไหวแล้ว เลยกล่าวออกไปว่า “โอเค งั้นไม่รบกวนคุณกับครอบครัวแล้ว คราวหน้าถ้ามีเวลาค่อยกินข้าวด้วยกันนะครับ”ประธานหยาง “ครับ ๆ ๆ ”หลังประธานหยางปลีกตัวออกไป อวี้มั่วซวินก็บอกหรงฉือว่า “พวกเราก็เข้าไปกันเถอะ”หรงฉือ “อืม”เมื่อทานข้าวเสร็จ และกลับถึงบริษัทได้ไม่นาน ก็ได้รับรายงานว่าเหรินจี่เฟิงมาแล้วหรงฉือกับอวี้มั่วซวินยังคงไม่คิดจะพบหน้าเขาอีกเช่นเคยเหรินจี่เฟิงไม่ได้กลับไป กระทั่งถึงตอนเย็นที่หรงฉือเลิกงาน ขณะที่เดินไปลานจอดรถ เขาก็เรียกหรงฉือเอาไว้เสียก่อน “คุณหรง”หรงฉือหมุนตัวกลับไป กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ประธานเหริน มีอะไรเหรอ

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 199

    หรงฉือว่า “พวกคุณไปกินเถอะ ฉันไปด้วยไม่ได้”เฟิงจิ่งซิน “อ้าว? แม่ไม่ไปเหรอคะ?”“อื้ม” เธอลูบหัวของเฟิงจิ่งซินเบา ๆ “แม่ต้องไปก่อนแล้ว หนูกับพ่อก็กินข้าวให้สนุกนะ”“อ๋อ...”หรงฉือยิ้มเล็กน้อย ไม่ได้พูดอะไรออกไปอีก เธอหมุนตัวจากไปโดยไม่แม้แต่จะหันกลับไปมองเฟิงถิงเซินมองแผ่นหลังของเธอ ทว่าไม่ได้พูดรั้งให้อยู่ต่อ เขากล่าวกับเฟิงจิ่งซินว่า “พวกเราเองก็ไปกันเถอะ”“ค่ะ”เพิ่งก้าวขึ้นรถ โทรศัพท์ของเฟิงถิงเซินก็ดังขึ้นมาคุณย่าเฟิงเป็นคนโทรศัพท์เข้ามาเขาเพิ่งรับสาย คุณย่าเฟิงก็กัดฟันพูดขึ้นมาแล้ว “นี่แกใช้บริษัทของครอบครัวเปิดโครงการใหม่ให้ตระกูลหลินกับตระกูลซุนเหรอ?!”เฟิงถิงเซินร้อง “อืม” ทั้งยังหัวเราะเล็กน้อย “คุณย่าเพิ่งรู้เหรอครับ?”“แก!” คุณย่าเฟิงยิ่งทวีความโกรธเกรี้ยว “แกหมายความว่ายังไง? นี่แก...จะหย่ากับเสี่ยวฉือใช่ไหม?”ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ทำอะไรโจ่งแจ้งและใจกล้าแบบนี้ในเมื่อเขากล้ารับตระกูลหลินกับตระกูลซุนเข้ามาในขอบเขตของเฟิงซื่อกรุ๊ป ก็เท่ากับว่าไม่กลัวเธอรู้เท่ากับว่าเขาได้ตัดสินใจแล้วไม่รอให้เขาอ้าปากพูด คุณย่าเฟิงก็พูดขึ้นมาทันที “ฉันไม่ยอม! แล้วก็ถ้าแกอยา

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 198

    ลูกสนิทสนมกับเขา ก็นับว่าเป็นเรื่องปกตินอกจากนี้แล้ว เธอเองก็เห็นว่ายามที่พ่อแม่ผู้ปกครองบ้านอื่นคอยดูสามีหรือภรรยาของตัวเองเล่นเกมกับลูกนั้น พอสนุกมักจะหัวเราะไม่ก็ปรบมือร้องบอกว่าดีไปด้วย ยามที่เล่นได้ไม่ค่อยดีก็จะคอยร้อนรนอยู่ข้าง ๆ คนอื่นจึงรู้สึกได้ว่าพวกเขากลมเกลียวกันพอมาถึงหรงฉือแม้ว่าหรงฉือจะมีรอยยิ้มประดับบนหน้ายามที่ได้เล่นเกมกับลูก ทว่าคนอื่นกลับรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่เหมือนกันเหมือนว่าเธอจะแปลกแยกจากสามีและลูกของเธออย่างไรอย่างนั้นแต่เมื่อนึกถึงคราวที่ประชุมผู้ปกครองครั้งก่อน เห็นได้ชัดว่าลูกสาวของหรงฉือก็สนิทสนมกับผู้หญิงคนนั้นดี อันที่จริงที่ตอนนี้หรงฉือแทรกความรู้สึกเข้าไประหว่างสามีของเธอกับลูกสาวไม่ได้ก็นับว่าเป็นเรื่องปกติลูกของตัวเองสนิทกับมือที่สามในความสัมพันธ์ของตัวเองแบบนั้น หากเป็นคนอื่นจะมีใครบ้างที่ไม่รู้สึกแย่?พอนึกถึงตรงนี้ เธอคิดว่าในใจของหรงฉือเองคงจะขมขื่นไม่น้อยเธอมองหรงฉือ ทว่ากลัวไม่รู้ว่าควรจะพูดปลอบใจออกไปอย่างไรดีหรงฉือเห็นความสงสารและความลังเลในแววตาของเธอแล้วหรงฉือรู้ว่าคุณแม่เถียนเถียนน่าจะเดาออกว่าเกิดเรื่องอะไรบางอย่างกับเ

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 197

    เฟิงถิงเซินเอ่ยถามอีกครั้ง “คุณจะเล่นหรือให้ผมเล่น?”หรงฉือมองเฟิงจิ่งซิน “ให้ซินซินตัดสินใจดีกว่า”“พ่อแล้วกัน” เฟิงจิ่งซินว่า “แม่เล่นบาสไม่เป็น พ่อเล่นบาสเก่งมาก ๆ ”หรงฉือเล่นบาสเป็นทว่าเธอก็ไม่ได้พูดออกไปในเมื่อเฟิงจิ่งซินตัดสินใจด้วยตัวเองเรียบร้อยแล้ว เธอเลยพูดออกไป “คุณเล่น”เฟิงถิงเซิน “ได้”ตอนนี้แดดแรงขึ้นทุกที ความร้อนด้านนอกห้องก็พุ่งสูงขึ้นไม่น้อย เฟิงถิงเซินถอดเสื้อโค้ตตัวยาวสีดำที่คลุมตัวออก แล้วยื่นให้เธอ “ช่วยถือไว้ให้ผมหน่อย”หรงฉือ “...”เธอรับมา จากนั้นก็วางลงบนพื้นหญ้าข้าง ๆเฟิงถิงเซิน “...”เขาเลิกคิ้ว แต่ไม่ได้พูดอะไรเพียงแต่ตอนที่เกมใกล้จะเริ่มขึ้น เขากลับพูดกับเธออย่างไม่ให้ทันตั้งตัว “เดี๋ยวตอนถ่ายวิดีโอ ก็คอยตามจังหวะของพวกเรามาด้วยนะ อย่าเอาแต่ยืนถ่ายอยู่กับที่”หรงฉือ “...รู้แล้วน่า”กฎกติกาของเกมมดน้อยส่งบอลคือ ‘เริ่มด้วยการที่ผู้ปกครองต้องใช้เชือกลากห่วงเดินไปข้างหน้า ซึ่งผู้ปกครองต้องคอยเลี้ยงเดาะลูกบาสให้อยู่ในห่วงไปด้วย เมื่อถึงจุดหมายปลายทาง ก็ให้ลูกเป็นคนคอยดึงห่วง ส่วนผู้ปกครองคอยเลี้ยงบอล ระหว่างทางไปและกลับนั้น ลูกห้ามออกจากห่วง

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 196

    เฟิงจิ่งซินวิ่งเข้ามาแปะมือกับหรงฉือด้วยท่าทางดีใจ “แม่คะ พวกเราชนะแล้ว!”หรงฉือแปะมือกับเธอ “อื้ม”เฟิงถิงเซินเองก็เดินมาหาเธอด้วย “ถ่ายไว้แล้วเหรอ?”“อืม” หรงฉือตอบ พลางส่งวิดีโอไปให้เขาหลังเล่นเกมเก้าอี้ดนตรีจบ ต่อไปก็คือเกมวงล้อเพลิงไร้เทียมทานกฎกติกาของเกม ‘ครอบครัวสี่ครอบครัวจะต้องจบกลุ่มกันเป็นหนึ่งทีม สมาชิกในทีมทุกคนทางหนึ่งจะต้องคอยหมุนแถบวงกลม อีกทางหนึ่งจะต้องคอยเหยียบแถบวงกลมให้เคลื่อนตัวไปด้านหน้า ทีมที่ถึงเส้นชัยก่อนจะเป็นฝ่ายชนะ’เฟิงถิงเซินมองหรงฉือ “รอบนี้คุณเล่น?”เฟิงจิ่งซินเองก็พยักหน้าเช่นกัน “รอบนี้แม่มาเล่นกับหนูนะคะ”หรงฉือไม่มีความเห็นอื่น “ได้จ้ะ”เมื่อเกมกำลังจะเริ่ม หรงฉือก็มองกระเป๋าของตัวเองแล้วชะงักไป ตอนนี้เอง เฟิงถิงเซินได้ยื่นมือมาหาเธอ “เอามาให้ผมเถอะ”“...ขอบคุณ”หรงฉือยื่นกระเป๋าของตัวเองให้เขาสามีภรรยาคู่อื่น ถ้าสามีช่วยภรรยาถือกระเป๋านั้นบอกได้เลยว่าเป็นเรื่องธรรมดาทว่าระหว่างพวกเขาแล้ว นี่กลับเป็นครั้งแรกที่เฟิงถิงเซินช่วยเธอถือกระเป๋าหรงฉือไม่รู้ว่าเฟิงถิงเซินเคยถือกระเป๋าให้หลินอู๋มาก่อนไหมวันนี้เขาไม่ได้ใส่เสื้อผ้าทางการอ

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 195

    เฟิงจิ่งซินไม่อยู่ หรงฉือยิ้มเล็กน้อย แล้วกล่าว “พวกเราใกล้จะหย่ากันแล้วค่ะ”ที่จริงคุณแม่เถียนเถียนเองก็พอจะเดาได้ เพราะอย่างไรแล้วหรงฉือมีลูกสาว ทว่ากลับพักอยู่ตรงข้ามบ้านเธอเพียงคนเดียว...ยิ่งไปว่านั้น ครั้งก่อนหรงฉือไม่ได้มาเข้าร่วมประชุมผู้ปกครอง คนที่มากลับเป็นผู้หญิงเซ็กซี่หน้าตาสะสวยคนหนึ่งเฟิงถิงเซินกลับเป็นฝ่ายกล่าวทักทายก่อน “สวัสดีครับ”คุณแม่เถียนเถียน “สวัสดีค่ะ...”เฟิงถิงเซิน “พวกคุณรู้จักกันเหรอครับ?”ปากเอ่ยถามคุณแม่เถียนเถียน ทว่าพอถามจบสายตาของเขากลับมองมาที่หรงฉือหรงฉือไม่อยากสนใจเขา เลยไม่ได้ตอบอะไร คุณแม่เถียนเถียนเป็นฝ่ายพูดขึ้น “ฉันกับเสี่ยวฉือเป็นเพื่อนบ้านกันน่ะค่ะ”เห็นบรรยากาศระหว่างหรงฉือกับเฟิงถิงเซินดูท่าไม่ค่อยจะดี อีกทั้งหรงฉือก็มีท่าทางเหมือนไม่อยากสนใจเฟิงถิงเซิน เธอเลยรีบหาข้ออ้างปลีกตัวออกไปเฟิงถิงเซิน “ดูเหมือนว่าจะเข้ากับเพื่อนบ้านใหม่ได้ไม่เลวเลยนะ”หรงฉือก้มหน้าดูโทรศัพท์เฟิงถิงเซินเองก็ไม่ได้โกรธเคือง ทว่ากลับไม่ได้พูดอะไรออกไปอีกตอนนี้เฟิงจิ่งซินกลับมาแล้ว กิจกรรมพ่อแม่ลูกของทางโรงเรียนใกล้จะเริ่มเต็มทีกิจกรรมพ่อแม่ลูกพวกน

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status