Share

บทที่ 4

Penulis: อวินจงมี่
เฟิงจิ่งซินเอ่ยพลางกระโดดบนเตียง “จริงเหรอคะ?!”

“อืม”

“งั้นทำไมเมื่อกี้น้าอู๋อู๋ไม่บอกหนูล่ะคะ?”

“เรื่องเพิ่งชัดเจน ก็เลยยังไม่ได้บอกเธอน่ะ”

เฟิงจิ่งซินตื่นเต้นมาก “งั้นคุณพ่ออย่าเพิ่งบอกเรื่องนี้กับน้าอู๋อู๋นะคะ หลังจากเรากลับประเทศแล้วค่อยเซอร์ไพรส์คุณน้าดีไหมคะ”

“ดีจ๊ะ”

“คุณพ่อดีที่สุดเลย หนูรักคุณพ่อมากเลย!”

เฟิงจิ่งซินยังคงดีใจมากแม้จะวางสายแล้ว ทั้งร้องทั้งกระโดดโลดเต้นบนเตียง

ผ่านไปสักพัก จู่ๆ เธอก็นึกถึงหรงฉือ

หลายวันมานี้เธออารมณ์ดีมากๆ เพราะแม่ไม่ได้โทรหาเธอ

จริงๆ แล้วหลายวันมานี้เธอไม่เพียงแค่จงใจออกบ้านแต่เช้า แต่ยังจงใจวางโทรศัพท์ไว้ไกลๆ หรือปิดเครื่องหลังเลิกเรียนกลับบ้านเพื่อที่จะได้ไม่ต้องคุยโทรศัพท์กับแม่

แต่หลังจากผ่านไปสองวันเธอก็ไม่ทำเช่นนั้นอีกเพราะกลัวว่าแม่รู้แล้วจะโกรธ

แต่สิ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจก็คือแม่ไม่โทรหาเธอเลยหลายวันหลังจากนั้น

ตอนแรกเธอยังคิดว่าแม่รู้เรื่องที่เธอจงใจพลาดรับสายจากแม่

แต่พอคิดดูอีกที จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ถ้าแม่รู้ว่าเธอทำเรื่องผิดพลาด แม่จะต้องให้เธอแก้ไขทันที แต่ไม่ใช่โกรธจนไม่โทรหาเธอแบบนี้

เพราะอย่างไรเสีย เธอก็สำคัญที่สุดสำหรับแม่ และแม่ก็รักเธอมากที่สุด ดังนั้นเธอจึงไม่เชื่อว่าแม่จะยอมไม่โทรหาเพราะโกรธเธอจริงๆ

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ทันใดนั้นเฟิงจิ่งซินก็พลันรู้สึกคิดถึงหรงฉือ

นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายวันที่เธอคิดถึงหรงฉือ

จึงอดไม่ได้ที่จะโทรหาหรงฉือ

แต่เพิ่งจะกดโทรออก จู่ๆ เธอก็นึกขึ้นได้ ถึงแม้ว่าเธอจะได้เจอกับน้าอู๋อู๋ในเร็วๆ นี้หลังจากกลับประเทศ แต่ด้วยนิสัยของแม่ แม่ต้องพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อห้ามไม่ให้เธอพบกับน้าอู๋อู๋แน่นอน

แล้วเธอก็จะไม่สามารถเจอกับน้าอู๋อู๋เมื่อใดก็ได้ตามที่ต้องการเหมือนตอนอยู่ที่นี่ได้อีก

เมื่อคิดถึงตรงนั้น เฟิงจิ่งซินก็พลันอารมณ์ไม่ดีขึ้นมาในทันใด

ตอนนี้ที่ประเทศจีนเป็นเวลาตีหนึ่ง

หรงฉือหลับไปแล้ว

แต่ถูกปลูกด้วยเสียงเรียกเข้าจากเฟิงจิ่งซิน

พอตื่นก็พบว่าเป็นสายจากเฟิงจิ่งซิน ขณะที่เธอกำลังจะกดรับสาย เฟิงจิ่งซินก็กดตัดสายด้วยความโกรธ

แม้ว่าหรงฉือจะระบุชัดเจนในข้อตกลงการหย่าร้างว่าเธอยอมสละสิทธิ์ในการเลี้ยงดูเฟิงจิ่งซิน แต่อย่างไรเสียเฟิงจิ่งซินก็เป็นลูกสาวของเธออยู่ดี

เธอจึงยังมีความรับผิดชอบต่อลูกอยู่

เมื่อเห็นเฟิงจิ่งซินโทรมา แต่จู่ๆ ก็ตัดสายไป เธอกลัวว่าอาจจะเรื่องอะไรขึ้น จึงรีบโทรกลับ

แต่พอเฟิงจิ่งซินเห็นสายโทรเข้ากลับหันหน้าหนี และไม่ยอมรับสาย

ซึ่งทำให้หรงฉือยิ่งกังวลขึ้นไปอีก จึงรีบโทรเข้าเบอร์บ้านของวิลล่าหลังนั้นทันที

ไม่นานป้าหลิวก็รับสาย เมื่อฟังหรงฉือพูดจบเธอก็รีบพูดว่า “คุณหนูคงไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ เมื่อคืนเธอนอนดึก วันนี้ก็เลยตื่นสาย เมื่อกี้ตอนฉันขึ้นไปเธอยังหลับอยู่ เดี๋ยวฉันจะขึ้นไปดูสักหน่อย แล้วอีกเดี๋ยวค่อยโทรหาคุณนะคะ”

เมื่อได้ฟังคำพูดของป้าหลิว หรงฉือถึงโล่งใจ “ค่ะ รบกวนด้วยค่ะ”

เฟิงจิ่งซินกำลังล้างหน้าในห้องอาบน้ำตอนที่ป้าหลิวขึ้นไปชั้นบน

หลังจากป้าหลิวอธิบายสถานการณ์ชัดเจนแล้ว เธอก็บ้วนปากไปพลางก้มหน้าโกหกว่า “เผลอกดไปโดนเองค่ะ”

ป้าหลิวไม่ได้สงสัยอะไร เมื่อเห็นเธอกำลังแปรงฟัน จึงเดินลงไปชั้นล่างเพื่อตอบกลับหรงฉือ

เฟิงจิ่งซินมองตามพลางเปล่งเสียงฮึดอัด ถึงค่อยอารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง

หรงฉือฟังคำพูดของป้าหลิวแล้วก็โล่งอก

เพียงแต่จู่ๆ ก็ถูกปลุกให้ตื่นกะทันหัน เธอจึงไม่สามารถนอนหลับต่อได้แม้จะผ่านเวลาไปนาน เมื่อตื่นไปทำงานในวันรุ่งขึ้นจึงอารมณ์ไม่ค่อยดี

นับตั้งแต่วันที่เฟิงถิงเซินได้รับโทรศัพท์จากหลินอู๋ เขาก็ไม่เคยนึกถึงซองจดหมายที่บรรจุข้อตกลงการหย่าร้างที่หรงฉือให้เขาอีกเลย

ในวันที่เขากลับประเทศ เฟิงถิงเซินเอาเอกสารฉบับสุดท้ายใส่ลงในกระเป๋าเอกสารก่อนจะตรวจสอบจนแน่ใจแล้วว่าไม่ลืมอะไรแล้วหันหลังเดินลงบันไดไป

“โอเคแล้ว ออกเดินทางกันเถอะ”

จากนั้นรถลีมูซีนก็ขับออกจากวิลล่าอย่างรวดเร็ว และมุ่งหน้าไปยังสนามบิน

......

หรงฉือยังไม่รู้เรื่องที่พวกเฟิงถิงเซินกลับประเทศ

เพราะไม่มีใครบอกเธอ

ผ่านไปครึ่งเดือนแล้วนับตั้งแต่ที่เธอย้ายออกจากวิลล่า

ในเวลาครึ่งเดือนที่ผ่านมา เธอค่อยๆ ชิน และเริ่มชอบชีวิตที่เงียบสงบและผ่อนคลายของการอาศัยอยู่คนเดียว

เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ เธอจึงตื่นสายหน่อย

เธอเปิดผ้าม่านหลังจากตื่นนอนและล้างหน้าแปรงฟัน เมื่อเห็นแสงแดดภายนอกกำลังพอดี เธอจึงบิดขี้เกียจ แล้วรดน้ำต้นไม้และดอกไม้ที่เธอปลูกไว้

หลังจากรดน้ำต้นไม้และดอกไม้ที่เธอปลูกไว้เสร็จ กริ่งประตูก็ดังขึ้นขณะที่เธอเตรียมกำลังจะทำอาหารเช้าง่ายๆ ให้ตัวเอง

นั่นก็คือคุณนายฟาง เพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ฝั่งตรงข้ามของเธอ

“คุณหรง ไม่ได้รบกวนคุณใช่ไหม”

หรงฉือเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เปล่าค่ะ ฉันตื่นนานแล้ว”

“ถ้างั้นก็ดี” คุณนายฟางเอ่ยอย่างเป็นมิตร “นี่คือซาลาเปาและเกี๊ยวที่เพิ่งออกจากหม้อร้อนๆ ของเราเมื่อเช้านี้ ก็เลยเอามาให้คุณลองชิมดูก่อน”

“ขอบคุณค่ะ นี่... คุณเกรงใจเกินไปแล้วค่ะ”

“สมควรอยู่แล้วๆ ถ้าไม่ได้คุณช่วยเถียนเถียนของเราไว้เมื่อหลายวันก่อน เถียนเถียนจะถูกหมาบ้าตัวนั้นกัดหนักขนาดไหนก็ไม่รู้ ช่วงนี้อยากจะขอบคุณคุณอย่างดีมาตลอด แต่เราสองสามีภรรยางานยุ่งตลอด ก็เลยไม่มีเวลามาสักที รู้สึกเกรงใจมากจริงๆ ...”

“แค่เรื่องเล็กน้อยค่ะ คุณนายฟางเกรงใจเกินไปแล้ว”

หลังจากทักทายปราศรัยกันสักพัก คุณนายฟางก็กลับไป

หรงฉือกลับเข้าห้อง ทานอาหารเช้าไปพร้อมกับศึกษากลไกการทำงานของ AI ที่เธอวิจัยล่าสุด

ตอนบ่าย มีข่าวเกี่ยวกับงานฉลองครบรอบ 100 ปีของมหาวิทยาลัยตงฟางเด้งขึ้นมาในโทรศัพท์มือถือ

หรงฉืออึ่งไปชั่วขณะ พอมองดูวันที่ถึงจำได้ว่าวันนี้เป็นวันครบรอบก่อตั้งของมหาวิทยาลัยตงฟางจริงๆ

พอเธอเช็คดูในอินเทอร์เน็ตก็พบว่ามีหลายแฮชแท็กเกี่ยวกับ #งานฉลองครบรอบ 100 ปีของมหาวิทยาลัยตงฟาง ที่กำลังขึ้นเทรนคำค้นหายอดฮิตบนโซเชียล

สาเหตุที่งานฉลองครบรอบของมหาวิทยาลัยตงฟางในครั้งนี้ได้รับความนิยมมากขนาดนี้ นอกจากมหาวิทยาลัยตงฟางจะเป็นมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของประเทศแล้ว ทุกการเคลื่อนไหวของมหาวิทยาลัยยังได้รับความสนใจเป็นอย่างมากอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น เพราะครั้งนี้เป็นงานฉลองครบรอบ 100 ปีครั้งแรกของมหาวิทยาลัยตงฟาง ด้วยเหตุนี้ ศิษย์เก่ากิตติมศักดิ์ที่ได้รับเชิญให้กลับมาเข้างานฉลองมหาวิทยาลัยแม่กจึงมีจำนวนมากเป็นพิเศษ

ศิษย์เก่ากิตติมศักดิ์เหล่านี้ล้วนเป็นผู้มีชื่อเสียงในแต่ละวงการที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก

หรงฉือมองซ้ำหลายรอบ

เมื่อเห็นใบหน้าที่คุ้นตาของหลายคนปรากฏในภาพ มือที่ถือโทรศัพท์ก็สั่นเทา

ความทรงจำเกี่ยวกับช่วงเวลาในมหาลัยในอดีตก็พรั่งพรูเข้ามาในหัวทันที

จู่ๆ ในใจก็สับสนขึ้นมาทันใด

ถ้าเธอไม่ได้แต่งงานทันทีหลังจากเรียนจบปริญญาตรี บางทีวันนี้เธออาจจะได้เป็นหนึ่งในศิษย์เก่ากิตติมศักดิ์ที่ได้รับเชิญให้กลับมาเข้าร่วมงานฉลองครบรอบของมหาลัยก็ได้มั้ง?

หรงฉือปิดคอม ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะขับรถไปยังมหาวิทยาลัยตงฟาง

ในเวลานี้เป็นช่วงบ่าย

แม้ว่าแขกผู้มีเกียรติจำนวนมากที่ได้รับเชิญให้กลับมาชมงานฉลองครบรอบของมหาลัยจะกลับกันไปแล้ว

แต่ยังมีคนอยู่ในมหาลัยจำนวนมาก

หรงฉือเดินเตร่ไปรอบมหาลัยอย่างไร้จุดหมาย ขณะที่เธอเดินไปถึงใต้อาคารปฏิบัติการ ทันใดนั้นพลันมีเสียงที่คุ้นหูเรียกเธอไว้

“เสี่ยวฉือ?”

ยี่สิบนาที่ต่อมา ในร้านน้ำชาแห่งหนึ่งนอกมหาวิทยาลัยตงฟาง

อวี้มั่วซวินเอ่ยขณะรินน้ำชาให้หรงฉือว่า “ช่วงนี้เป็นไงบ้าง”

หรงฉือถือแก้วชาด้วยสองมือ ก้มหน้าลงพร้อมยิ้มเจื่อนๆ “ก็ดีนะ แต่ว่า... กำลังจะหย่าน่ะ”

อวี้มั่วซวินไม่คิดเลยว่าจะได้ยินคำตอบนี้จึงอึ้งไปชั่วขณะ “ขอโทษนะ”

“ไม่เป็นไร”

“แล้วคุณคิดจะทำยังไงต่อไป จะกลับมาทำงานที่บริษัทไหม”

“มีความคิดนี้ แต่ว่า...”

อวี้มั่วซวินไม่รู้ว่าเธอกังวลอะไร แต่ก็พูดกับเธออย่างจริงจังมากว่า “เสี่ยวฉือ บริษัทต้องการคุณ และคุณก็มีส่วนในบริษัท ผมหวังว่าคุณจะกลับมาดูแลงานภาพรวม”

“ฉัน ฉัน...”

หรงฉือกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเมื่อเห็นท่าทางจริงจังของอวี้มั่วซวิน

ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากกลับไป

เพียงแต่ตอนนี้ขอบเขตงาน AI ของเธอพัฒนาไปไวมาก

เธอห่างหายจากวงการ AI มาหกปีแล้ว ถึงแม้ว่าเธอจะกลับไปตอนนี้ ก็กลัวว่าจะตามการพัฒนาของยุคสมัยไม่ทัน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการนำทุกคนให้ก้าวสู่ระดับแนวหน้าของวงการ AI เหมือนในอดีต

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Komen (11)
goodnovel comment avatar
Toy Parichat
ใช่สงสารมากกกกก
goodnovel comment avatar
beewara1982
น่าติดตามค่ะ
goodnovel comment avatar
Perpeach Panida
สนุกน่าติดตาม
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terbaru

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 513

    ช่วงนี้เฟิงถิงเซินยุ่งมาก ข้าวยังทานไม่เสร็จ ก็มีโทรศัพท์เข้ามาอีกแล้วตอนที่เฟิงถิงเซินออกไปรับโทรศัพท์อีกครั้ง หลินอู๋เหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ พูดกับเฟิงจิ่งซินว่า “จริงสิ ซินซิน วันจันทร์หนูเปิดเทอม น้าไปส่งหนูที่โรงเรียนแล้วกัน”เฟิงจิ่งซินได้ยินเธอพูดแบบนี้ สีหน้าก็ดูลำบากใจเล็กน้อย แล้วพูดขึ้นว่า “ขอโทษนะคะน้าอู๋อู๋ หนูบอกกับคุณแม่แล้วว่าจะให้คุณแม่ไปส่งหนูที่โรงเรียน คุณแม่ก็รับปากหนูแล้วค่ะ”“อย่างนั้นเหรอ”หลินอู๋ได้ยินแบบนั้น ก็ไม่ได้ฝืนอะไรอีก……คืนวันอาทิตย์ หลังหรงฉือทานอาหารเสร็จ และกำลังจะพักผ่อน โทรศัพท์ของเฟิงจิ่งซินก็โทรเข้ามาแล้วหรงฉือเพิ่งจะรับสาย เฟิงจิ่งซินก็พูดขึ้นก่อนว่า “คุณแม่ พรุ่งนี้เช้าหนูกับคุณพ่อจะเข้าไปหาคุณแม่ที่นั่น ถึงตอนนั้นคุณแม่กับคุณพ่อก็ไปส่งหนูที่โรงเรียนด้วยกันนะคะ”“โอเค แม่เข้าใจแล้ว”เช้าวันรุ่งขึ้น หรงฉือเพิ่งจะทานอาหารเช้าได้ไม่นาน เฟิงถิงเซินกับเฟิงจิ่งซินก็มาถึงแล้วหรงฉือเพิ่งจะหยิบกุญแจรถออกจากบ้าน ก็ถูกเฟิงจิ่งซินที่ลงมาจากรถดึงให้เดินไปทางรถของเฟิงถิงเซิน แล้วพูดว่า “คุณแม่ไม่ทันแล้ว รีบขึ้นรถเถอะค่ะ”หรงฉือพูดว่า “เดี๋ย

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 512

    หลังผ่านไปนานมาก เธอจึงจะถามอีกครั้งว่า “ยังมีอีกไหม?”เฟิงจิ่งซินกำลังดื่มน้ำผลไม้อยู่ ชั่วขณะหนึ่งก็ไม่เข้าใจความหมายของเธอ เลยถามว่า “หืม? ยังมีอะไรเหรอคะ?”“เรื่องที่คุณพ่อหนูเป็นฝ่ายเข้าหาคุณแม่หนูน่ะ”เฟิงจิ่งซินวางแก้วลง ขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นพูดว่า “ไม่มีแล้วค่ะ หลังจากนั้นคุณแม่ก็ป่วยไม่สบาย คุณพ่อดูแลคุณแม่อยู่ตลอดเวลา คุณพ่อบอกว่าเด็กติดเชื้อได้ง่าย เลยไม่ยอมให้หนูเข้าใกล้ จนกระทั่งคุณแม่หายดี หนูถึงได้เจอคุณแม่”เมื่อฟังถึงตรงนี้ หลินอู๋ก็ชะงักไปอีกครั้ง แล้วถามขึ้นว่า “หลังจากคุณแม่หนูป่วย คุณพ่อหนูก็เป็นคนดูแลเธออย่างนั้นเหรอ?”“ใช่ค่ะ”หลินอู๋หลุบตาลงต่ำ มองไปที่เฟิงจิ่งซินแล้วพูดว่า “คุณย่าทวดหนูสั่งให้คุณพ่อหนูทำแบบนี้ใช่ไหม?”เฟิงจิ่งซินส่ายหน้า ตอบกลับว่า “ไม่ใช่ค่ะ เมื่อวานคุณแม่ไม่สบายตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง หลังจากรู้ว่าคุณแม่ป่วย คุณพ่อก็ดูแลคุณแม่ไปด้วย ขณะเดียวกันก็โทรให้คนใช้เฮลิคอปเตอร์ไปรับคุณปู่จางเข้ามาดูอาการให้คุณแม่ แล้วหลังจากที่คุณปู่จางมาถึง คุณย่าทวดจึงจะรู้ว่าคุณแม่ป่วยแล้วค่ะ”คุณปู่จางที่เฟิงจิ่งซินพูดถึง หลินอู๋ก็พอจะเดาได้ว่าอีกฝ่ายเป็น

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 511

    ทางด้านหรงฉือกับเหยียนอวิ้นจือพวกเขากำลังนั่งคุยระลึกความหลังกันอย่างสนุกสนานในห้องส่วนตัว อีกด้านหนึ่งเฟิงถิงเซินกลับเพิ่งจะถึงห้องส่วนตัวและนั่งลงได้ไม่นาน ก็มีโทรศัพท์โทรเข้ามาแล้วเฟิงถิงเซินออกไปรับโทรศัพท์ด้านนอกส่วนหลินอู๋หยิบวารสารที่พกติดตัวออกมา พูดขึ้นว่า “ซินซิน น้าอ่านหนังสือแปบหนึ่งก่อนนะ หนูเล่นเองคนเดียวไปก่อนได้ไหม?”“ได้ค่ะ” ถึงเฟิงจิ่งซินจะใช้ชีวิตอยู่ในประเทศเอนาวาสองปี ภาษาอังกฤษของเธอค่อนข้างดีเลยทีเดียว เมื่อเห็นหน้าปกกับชื่อของวารสารที่อยู่ในมือหลินอู๋ ก็พูดขึ้นว่า “คุณน้า วารสารเล่มนี้คุณพ่อก็มีค่ะ”หลินอู๋รู้ว่าเฟิงถิงเซินติดตามข่าวสารล่าสุดของแวดวงเอไออย่างใกล้ชิดมาโดยตลอดยิ่งไปกว่านั้น ตอนที่เธอถามเมื่อสองวันก่อน ตอนนั้นเฟิงถิงเซินก็บอกว่าเขาอ่านแล้วด้วยเหตุนี้ พอได้ยินเฟิงจิ่งซินพูดแบบนั้น เธอก็พูดว่า “อื้ม น้ารู้”พูดถึงเรื่องนี้ เฟิงจิ่งซินก็นึกถึงหรงฉือขึ้นมา อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “วันนั้นคุณแม่กลับมา คุณพ่อกลัวว่าคุณแม่จะเบื่อเลยขึ้นไปหยิบหนังสือจากชั้นบนลงมาให้คุณแม่อ่าน คืนวันนั้น หลังจากที่เห็นคุณแม่อ่านจบแล้ว คุณพ่อยังพูดคุยถึงเนื้อหาในวารส

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 510

    ตอนบ่าย หรงฉือเพิ่งกลับมาจากเฟิงซื่อได้ไม่นาน จู่ ๆ โทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาเป็นแพทย์เจ้าของไข้ประจำแผนกจิตเวชของหรงอิ้งเซิ่งโทรมา บอกว่าตอนบ่ายหรงอิ้งเซิ่งเหมือนจะได้สติขึ้นมาอยู่ช่วงหนึ่ง แต่ไม่นาน สภาพจิตใจก็เข้าสู่สภาวะล่มสลาย ซึ่งแทบจะไม่เคยเกิดขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้หรงฉือสีหน้าเปลี่ยนไป รีบมุ่งไปที่โรงพยาบาล แล้วพูดขึ้นว่า “เป็นไปได้ยังไง? ตกลงเกิดอะไรขึ้นกันแน่คะ?”“พวกเราได้ตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว ตอนนี้ยังไม่พบความผิดปกติใด ๆ ครับ”หากไม่มีการกระตุ้นจากภายนอก หรงอิ้งเซิ่งจะแสดงอาการแบบนี้ออกมาได้อย่างไร?หรงฉือดูในกล้องวงจรปิด เห็นหรงอิ้งเซิ่งที่กำลังนอนหลับหลังจากทานยา จากนั้นเธอก็คุยกับหมออีกสักพัก ถึงจะเดินลงบันไดด้วยจิตใจที่หนักอึ้งตอนที่ลิฟต์มาถึงชั้นล่าง พอประตูลิฟต์เปิดออก หรงฉือเงยหน้าขึ้น ก็สบเข้ากับสายตาของซุนลี่เหยาและคุณยายซุนพอดีเมื่อซุนลี่เหยาเห็นหรงฉือ รีบจ้องมองเธอเขม็งทันที หลังจากนั้นก็ส่งเสียงฮึเสียงหนึ่ง เชิดหน้าขึ้นด้วยความหยิ่งผยอง แล้วพยุงคุณยายซุนเข้าไปในลิฟต์ภายในลิฟต์ยังมีคนอื่น ๆ อีก หลังเข้าไปในลิฟต์ ซุนลี่เหยามองใบหน้าด้านข้างของหรงฉื

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 509

    “ไม่ต้องหรอกค่ะคุณย่า” หรงฉือพูดว่า “หนูยังมีงานที่ต้องจัดการนิดหน่อย อาหารเย็นก็ไม่กินแล้ว”หรงฉือมีงานต้องไปจัดการเสียที่ไหน? เห็นได้ชัดว่าไม่อยาก และคิดว่าอยู่ที่นี่นาน ๆ ก็ไม่ดีตามหลักแล้ว เธอกับเฟิงถิงเซินยังไม่ได้หย่ากันอย่างเป็นทางการ หรงฉือยังคงเป็นคนของตระกูลเฟิง ไม่ถึงกับต้องเป็นแบบนี้ แต่หรงฉือคิดดูแล้ว บางทีตั้งแต่เธอกับเฟิงถิงเซินเริ่มเตรียมจะหย่ากัน เธอก็ได้ขีดเส้นแบ่งเขตภายในใจระหว่างตัวเองกับเฟิงถิงเซินไปแล้วเรื่องพวกนี้ จริง ๆ แล้ว คุณย่าเฟิงล้วนเข้าใจดีในเมื่อหรงฉือยืนกราน เธอก็ไม่ควรโน้มน้าวไปมากกว่านี้อีกเธอจ้องเฟิงถิงเซินอย่างดุร้ายเฟิงถิงเซินทำเป็นมองไม่เห็น มองหรงฉือแล้วพูดขึ้นว่า “ผมไปส่งคุณ”“ไม่ต้องหรอก” หรงฉือปฏิเสธ พูดว่า “คุณทำงานไปเถอะ ให้คนขับรถไปส่งฉันก็ได้” เฟิงถิงเซินก็ไม่ได้ยืนกรานอีกต่อไป ก่อนจะตอบกลับว่า “โอเค”หรงฉือกลับห้องไปหยิบกระเป๋า ก็เตรียมจะออกไปแล้วคุณย่าเฟิงและเฟิงถิงเซินต่างก็ลงมาชั้นล่างเพื่อไปส่งเธอเฟิงจิ่งซินเพิ่งรู้ว่าเธอจะไปแล้ว ก็อาลัยอาวรณ์มาก พูดว่า “คุณแม่ ทำไมคุณแม่กลับเร็วจังเลยละคะ?”“อืม” หรงฉือลูบศีรษะข

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 508

    หลังหรงฉือวัดอุณหภูมิเสร็จ ฝืนรออยู่นานมาก ยังไม่เห็นเฟิงถิงเซินกลับมา ไม่นานเธอก็เผลอหลับไปอย่างไร้เรี่ยวแรงพอเธอตื่นขึ้นมาอีกที ตอนลืมตาขึ้น เฟิงถิงเซินกลับยังนั่งอ่านหนังสืออยู่ตรงนั้นหลังเห็นเธอตื่น แล้วมองมาทางตัวเองอย่างเหม่อลอย แต่สายตาของเธอกลับไม่ได้จ้องมองมาที่ตัวเอง เฟิงถิงเซินจึงลุกขึ้น เดินเข้ามาแตะหน้าผากที่ชุ่มเหงื่อของเธอเล็กน้อย แล้วถามว่า “เป็นอะไรหรือเปล่า?”พวกเขาไม่ได้สัมผัสถึงเนื้อถึงตัวกันมานานมากแล้วจริง ๆ หรงฉือไม่คุ้นชินกับการสัมผัสของเขาสักเท่าไรแม้จะรู้ว่าเขากำลังช่วยวัดอุณหภูมิให้เธอ แต่หรงฉือยังคงปัดมือของเขาออก แล้วส่ายหน้าโดยไร้เสียงเบา ๆ เธอแค่แปลกใจที่เขายังอยู่ก็เท่านั้นเธอยังคิดว่า ก่อนหน้านี้พอเขารับโทรศัพท์ก็ออกจากบ้านเดิมไปแล้วเสียอีก เธอเริ่มเหงื่อออกไปทั้งตัวอีกครั้ง ตอนนี้จึงมีเค้าลางว่าไข้ลดลงอย่างเป็นทางการแล้วร่างกายเหนียวเหนอะหนะไม่สบายตัวมาก เธอจึงเปลี่ยนเสื้อผ้าที่สะอาดอีกหนึ่งรอบ หลังทานข้าว และนั่งพักครู่หนึ่งก็หลับไปอีกครั้งตอนที่เธอตื่นมาอีกครั้ง ก็เป็นตอนบ่ายแล้วจนถึงตอนนี้ ไข้ของเธอก็ลดลงอย่างสิ้นเชิงเวลานี้ เ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status