แชร์

บทที่ 4

ผู้เขียน: อวินจงมี่
เฟิงจิ่งซินเอ่ยพลางกระโดดบนเตียง “จริงเหรอคะ?!”

“อืม”

“งั้นทำไมเมื่อกี้น้าอู๋อู๋ไม่บอกหนูล่ะคะ?”

“เรื่องเพิ่งชัดเจน ก็เลยยังไม่ได้บอกเธอน่ะ”

เฟิงจิ่งซินตื่นเต้นมาก “งั้นคุณพ่ออย่าเพิ่งบอกเรื่องนี้กับน้าอู๋อู๋นะคะ หลังจากเรากลับประเทศแล้วค่อยเซอร์ไพรส์คุณน้าดีไหมคะ”

“ดีจ๊ะ”

“คุณพ่อดีที่สุดเลย หนูรักคุณพ่อมากเลย!”

เฟิงจิ่งซินยังคงดีใจมากแม้จะวางสายแล้ว ทั้งร้องทั้งกระโดดโลดเต้นบนเตียง

ผ่านไปสักพัก จู่ๆ เธอก็นึกถึงหรงฉือ

หลายวันมานี้เธออารมณ์ดีมากๆ เพราะแม่ไม่ได้โทรหาเธอ

จริงๆ แล้วหลายวันมานี้เธอไม่เพียงแค่จงใจออกบ้านแต่เช้า แต่ยังจงใจวางโทรศัพท์ไว้ไกลๆ หรือปิดเครื่องหลังเลิกเรียนกลับบ้านเพื่อที่จะได้ไม่ต้องคุยโทรศัพท์กับแม่

แต่หลังจากผ่านไปสองวันเธอก็ไม่ทำเช่นนั้นอีกเพราะกลัวว่าแม่รู้แล้วจะโกรธ

แต่สิ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจก็คือแม่ไม่โทรหาเธอเลยหลายวันหลังจากนั้น

ตอนแรกเธอยังคิดว่าแม่รู้เรื่องที่เธอจงใจพลาดรับสายจากแม่

แต่พอคิดดูอีกที จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ถ้าแม่รู้ว่าเธอทำเรื่องผิดพลาด แม่จะต้องให้เธอแก้ไขทันที แต่ไม่ใช่โกรธจนไม่โทรหาเธอแบบนี้

เพราะอย่างไรเสีย เธอก็สำคัญที่สุดสำหรับแม่ และแม่ก็รักเธอมากที่สุด ดังนั้นเธอจึงไม่เชื่อว่าแม่จะยอมไม่โทรหาเพราะโกรธเธอจริงๆ

เมื่อคิดถึงตรงนี้ ทันใดนั้นเฟิงจิ่งซินก็พลันรู้สึกคิดถึงหรงฉือ

นี่เป็นครั้งแรกในรอบหลายวันที่เธอคิดถึงหรงฉือ

จึงอดไม่ได้ที่จะโทรหาหรงฉือ

แต่เพิ่งจะกดโทรออก จู่ๆ เธอก็นึกขึ้นได้ ถึงแม้ว่าเธอจะได้เจอกับน้าอู๋อู๋ในเร็วๆ นี้หลังจากกลับประเทศ แต่ด้วยนิสัยของแม่ แม่ต้องพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อห้ามไม่ให้เธอพบกับน้าอู๋อู๋แน่นอน

แล้วเธอก็จะไม่สามารถเจอกับน้าอู๋อู๋เมื่อใดก็ได้ตามที่ต้องการเหมือนตอนอยู่ที่นี่ได้อีก

เมื่อคิดถึงตรงนั้น เฟิงจิ่งซินก็พลันอารมณ์ไม่ดีขึ้นมาในทันใด

ตอนนี้ที่ประเทศจีนเป็นเวลาตีหนึ่ง

หรงฉือหลับไปแล้ว

แต่ถูกปลูกด้วยเสียงเรียกเข้าจากเฟิงจิ่งซิน

พอตื่นก็พบว่าเป็นสายจากเฟิงจิ่งซิน ขณะที่เธอกำลังจะกดรับสาย เฟิงจิ่งซินก็กดตัดสายด้วยความโกรธ

แม้ว่าหรงฉือจะระบุชัดเจนในข้อตกลงการหย่าร้างว่าเธอยอมสละสิทธิ์ในการเลี้ยงดูเฟิงจิ่งซิน แต่อย่างไรเสียเฟิงจิ่งซินก็เป็นลูกสาวของเธออยู่ดี

เธอจึงยังมีความรับผิดชอบต่อลูกอยู่

เมื่อเห็นเฟิงจิ่งซินโทรมา แต่จู่ๆ ก็ตัดสายไป เธอกลัวว่าอาจจะเรื่องอะไรขึ้น จึงรีบโทรกลับ

แต่พอเฟิงจิ่งซินเห็นสายโทรเข้ากลับหันหน้าหนี และไม่ยอมรับสาย

ซึ่งทำให้หรงฉือยิ่งกังวลขึ้นไปอีก จึงรีบโทรเข้าเบอร์บ้านของวิลล่าหลังนั้นทันที

ไม่นานป้าหลิวก็รับสาย เมื่อฟังหรงฉือพูดจบเธอก็รีบพูดว่า “คุณหนูคงไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ เมื่อคืนเธอนอนดึก วันนี้ก็เลยตื่นสาย เมื่อกี้ตอนฉันขึ้นไปเธอยังหลับอยู่ เดี๋ยวฉันจะขึ้นไปดูสักหน่อย แล้วอีกเดี๋ยวค่อยโทรหาคุณนะคะ”

เมื่อได้ฟังคำพูดของป้าหลิว หรงฉือถึงโล่งใจ “ค่ะ รบกวนด้วยค่ะ”

เฟิงจิ่งซินกำลังล้างหน้าในห้องอาบน้ำตอนที่ป้าหลิวขึ้นไปชั้นบน

หลังจากป้าหลิวอธิบายสถานการณ์ชัดเจนแล้ว เธอก็บ้วนปากไปพลางก้มหน้าโกหกว่า “เผลอกดไปโดนเองค่ะ”

ป้าหลิวไม่ได้สงสัยอะไร เมื่อเห็นเธอกำลังแปรงฟัน จึงเดินลงไปชั้นล่างเพื่อตอบกลับหรงฉือ

เฟิงจิ่งซินมองตามพลางเปล่งเสียงฮึดอัด ถึงค่อยอารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง

หรงฉือฟังคำพูดของป้าหลิวแล้วก็โล่งอก

เพียงแต่จู่ๆ ก็ถูกปลุกให้ตื่นกะทันหัน เธอจึงไม่สามารถนอนหลับต่อได้แม้จะผ่านเวลาไปนาน เมื่อตื่นไปทำงานในวันรุ่งขึ้นจึงอารมณ์ไม่ค่อยดี

นับตั้งแต่วันที่เฟิงถิงเซินได้รับโทรศัพท์จากหลินอู๋ เขาก็ไม่เคยนึกถึงซองจดหมายที่บรรจุข้อตกลงการหย่าร้างที่หรงฉือให้เขาอีกเลย

ในวันที่เขากลับประเทศ เฟิงถิงเซินเอาเอกสารฉบับสุดท้ายใส่ลงในกระเป๋าเอกสารก่อนจะตรวจสอบจนแน่ใจแล้วว่าไม่ลืมอะไรแล้วหันหลังเดินลงบันไดไป

“โอเคแล้ว ออกเดินทางกันเถอะ”

จากนั้นรถลีมูซีนก็ขับออกจากวิลล่าอย่างรวดเร็ว และมุ่งหน้าไปยังสนามบิน

......

หรงฉือยังไม่รู้เรื่องที่พวกเฟิงถิงเซินกลับประเทศ

เพราะไม่มีใครบอกเธอ

ผ่านไปครึ่งเดือนแล้วนับตั้งแต่ที่เธอย้ายออกจากวิลล่า

ในเวลาครึ่งเดือนที่ผ่านมา เธอค่อยๆ ชิน และเริ่มชอบชีวิตที่เงียบสงบและผ่อนคลายของการอาศัยอยู่คนเดียว

เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ เธอจึงตื่นสายหน่อย

เธอเปิดผ้าม่านหลังจากตื่นนอนและล้างหน้าแปรงฟัน เมื่อเห็นแสงแดดภายนอกกำลังพอดี เธอจึงบิดขี้เกียจ แล้วรดน้ำต้นไม้และดอกไม้ที่เธอปลูกไว้

หลังจากรดน้ำต้นไม้และดอกไม้ที่เธอปลูกไว้เสร็จ กริ่งประตูก็ดังขึ้นขณะที่เธอเตรียมกำลังจะทำอาหารเช้าง่ายๆ ให้ตัวเอง

นั่นก็คือคุณนายฟาง เพื่อนบ้านที่อาศัยอยู่ฝั่งตรงข้ามของเธอ

“คุณหรง ไม่ได้รบกวนคุณใช่ไหม”

หรงฉือเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า “เปล่าค่ะ ฉันตื่นนานแล้ว”

“ถ้างั้นก็ดี” คุณนายฟางเอ่ยอย่างเป็นมิตร “นี่คือซาลาเปาและเกี๊ยวที่เพิ่งออกจากหม้อร้อนๆ ของเราเมื่อเช้านี้ ก็เลยเอามาให้คุณลองชิมดูก่อน”

“ขอบคุณค่ะ นี่... คุณเกรงใจเกินไปแล้วค่ะ”

“สมควรอยู่แล้วๆ ถ้าไม่ได้คุณช่วยเถียนเถียนของเราไว้เมื่อหลายวันก่อน เถียนเถียนจะถูกหมาบ้าตัวนั้นกัดหนักขนาดไหนก็ไม่รู้ ช่วงนี้อยากจะขอบคุณคุณอย่างดีมาตลอด แต่เราสองสามีภรรยางานยุ่งตลอด ก็เลยไม่มีเวลามาสักที รู้สึกเกรงใจมากจริงๆ ...”

“แค่เรื่องเล็กน้อยค่ะ คุณนายฟางเกรงใจเกินไปแล้ว”

หลังจากทักทายปราศรัยกันสักพัก คุณนายฟางก็กลับไป

หรงฉือกลับเข้าห้อง ทานอาหารเช้าไปพร้อมกับศึกษากลไกการทำงานของ AI ที่เธอวิจัยล่าสุด

ตอนบ่าย มีข่าวเกี่ยวกับงานฉลองครบรอบ 100 ปีของมหาวิทยาลัยตงฟางเด้งขึ้นมาในโทรศัพท์มือถือ

หรงฉืออึ่งไปชั่วขณะ พอมองดูวันที่ถึงจำได้ว่าวันนี้เป็นวันครบรอบก่อตั้งของมหาวิทยาลัยตงฟางจริงๆ

พอเธอเช็คดูในอินเทอร์เน็ตก็พบว่ามีหลายแฮชแท็กเกี่ยวกับ #งานฉลองครบรอบ 100 ปีของมหาวิทยาลัยตงฟาง ที่กำลังขึ้นเทรนคำค้นหายอดฮิตบนโซเชียล

สาเหตุที่งานฉลองครบรอบของมหาวิทยาลัยตงฟางในครั้งนี้ได้รับความนิยมมากขนาดนี้ นอกจากมหาวิทยาลัยตงฟางจะเป็นมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของประเทศแล้ว ทุกการเคลื่อนไหวของมหาวิทยาลัยยังได้รับความสนใจเป็นอย่างมากอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น เพราะครั้งนี้เป็นงานฉลองครบรอบ 100 ปีครั้งแรกของมหาวิทยาลัยตงฟาง ด้วยเหตุนี้ ศิษย์เก่ากิตติมศักดิ์ที่ได้รับเชิญให้กลับมาเข้างานฉลองมหาวิทยาลัยแม่กจึงมีจำนวนมากเป็นพิเศษ

ศิษย์เก่ากิตติมศักดิ์เหล่านี้ล้วนเป็นผู้มีชื่อเสียงในแต่ละวงการที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก

หรงฉือมองซ้ำหลายรอบ

เมื่อเห็นใบหน้าที่คุ้นตาของหลายคนปรากฏในภาพ มือที่ถือโทรศัพท์ก็สั่นเทา

ความทรงจำเกี่ยวกับช่วงเวลาในมหาลัยในอดีตก็พรั่งพรูเข้ามาในหัวทันที

จู่ๆ ในใจก็สับสนขึ้นมาทันใด

ถ้าเธอไม่ได้แต่งงานทันทีหลังจากเรียนจบปริญญาตรี บางทีวันนี้เธออาจจะได้เป็นหนึ่งในศิษย์เก่ากิตติมศักดิ์ที่ได้รับเชิญให้กลับมาเข้าร่วมงานฉลองครบรอบของมหาลัยก็ได้มั้ง?

หรงฉือปิดคอม ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะขับรถไปยังมหาวิทยาลัยตงฟาง

ในเวลานี้เป็นช่วงบ่าย

แม้ว่าแขกผู้มีเกียรติจำนวนมากที่ได้รับเชิญให้กลับมาชมงานฉลองครบรอบของมหาลัยจะกลับกันไปแล้ว

แต่ยังมีคนอยู่ในมหาลัยจำนวนมาก

หรงฉือเดินเตร่ไปรอบมหาลัยอย่างไร้จุดหมาย ขณะที่เธอเดินไปถึงใต้อาคารปฏิบัติการ ทันใดนั้นพลันมีเสียงที่คุ้นหูเรียกเธอไว้

“เสี่ยวฉือ?”

ยี่สิบนาที่ต่อมา ในร้านน้ำชาแห่งหนึ่งนอกมหาวิทยาลัยตงฟาง

อวี้มั่วซวินเอ่ยขณะรินน้ำชาให้หรงฉือว่า “ช่วงนี้เป็นไงบ้าง”

หรงฉือถือแก้วชาด้วยสองมือ ก้มหน้าลงพร้อมยิ้มเจื่อนๆ “ก็ดีนะ แต่ว่า... กำลังจะหย่าน่ะ”

อวี้มั่วซวินไม่คิดเลยว่าจะได้ยินคำตอบนี้จึงอึ้งไปชั่วขณะ “ขอโทษนะ”

“ไม่เป็นไร”

“แล้วคุณคิดจะทำยังไงต่อไป จะกลับมาทำงานที่บริษัทไหม”

“มีความคิดนี้ แต่ว่า...”

อวี้มั่วซวินไม่รู้ว่าเธอกังวลอะไร แต่ก็พูดกับเธออย่างจริงจังมากว่า “เสี่ยวฉือ บริษัทต้องการคุณ และคุณก็มีส่วนในบริษัท ผมหวังว่าคุณจะกลับมาดูแลงานภาพรวม”

“ฉัน ฉัน...”

หรงฉือกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเมื่อเห็นท่าทางจริงจังของอวี้มั่วซวิน

ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากกลับไป

เพียงแต่ตอนนี้ขอบเขตงาน AI ของเธอพัฒนาไปไวมาก

เธอห่างหายจากวงการ AI มาหกปีแล้ว ถึงแม้ว่าเธอจะกลับไปตอนนี้ ก็กลัวว่าจะตามการพัฒนาของยุคสมัยไม่ทัน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการนำทุกคนให้ก้าวสู่ระดับแนวหน้าของวงการ AI เหมือนในอดีต

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 200

    “ความเห็นเหรอ จะมากหรือน้อยก็มีอยู่บ้างแหละ แต่ไม่เป็นปัญหาใหญ่โตอะไร” ประธานหยางว่า “บริษัทมีโครงการดี ๆ ผู้ถือหุ้นคนอื่นย่อมอยากส่งคนของตัวเองไปทำ แต่ปกติแล้วประธานเฟิงจะจัดแจงด้วยตัวเองน้อยครั้งมาก คนอื่น ๆ คงไม่มีความเห็นอะไรทั้ง ๆ ที่ประธานเฟิงเพิ่งจัดให้คนของตัวเองเข้ามารับหน้าที่ในบางส่วนหรอก? ยิ่งไปกว่านั้น ทั้งตระกูลหลินกับตระกูลซุนเองก็มีศักยภาพไม่เลว และเคารพกฎกติกามาก รวม ๆ แล้วไม่ถือเป็นปัญหาใหญ่โต”อวี้มั่วซวิน “...”เขาทนฟังต่อไปไม่ไหวแล้ว เลยกล่าวออกไปว่า “โอเค งั้นไม่รบกวนคุณกับครอบครัวแล้ว คราวหน้าถ้ามีเวลาค่อยกินข้าวด้วยกันนะครับ”ประธานหยาง “ครับ ๆ ๆ ”หลังประธานหยางปลีกตัวออกไป อวี้มั่วซวินก็บอกหรงฉือว่า “พวกเราก็เข้าไปกันเถอะ”หรงฉือ “อืม”เมื่อทานข้าวเสร็จ และกลับถึงบริษัทได้ไม่นาน ก็ได้รับรายงานว่าเหรินจี่เฟิงมาแล้วหรงฉือกับอวี้มั่วซวินยังคงไม่คิดจะพบหน้าเขาอีกเช่นเคยเหรินจี่เฟิงไม่ได้กลับไป กระทั่งถึงตอนเย็นที่หรงฉือเลิกงาน ขณะที่เดินไปลานจอดรถ เขาก็เรียกหรงฉือเอาไว้เสียก่อน “คุณหรง”หรงฉือหมุนตัวกลับไป กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ประธานเหริน มีอะไรเหรอ

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 199

    หรงฉือว่า “พวกคุณไปกินเถอะ ฉันไปด้วยไม่ได้”เฟิงจิ่งซิน “อ้าว? แม่ไม่ไปเหรอคะ?”“อื้ม” เธอลูบหัวของเฟิงจิ่งซินเบา ๆ “แม่ต้องไปก่อนแล้ว หนูกับพ่อก็กินข้าวให้สนุกนะ”“อ๋อ...”หรงฉือยิ้มเล็กน้อย ไม่ได้พูดอะไรออกไปอีก เธอหมุนตัวจากไปโดยไม่แม้แต่จะหันกลับไปมองเฟิงถิงเซินมองแผ่นหลังของเธอ ทว่าไม่ได้พูดรั้งให้อยู่ต่อ เขากล่าวกับเฟิงจิ่งซินว่า “พวกเราเองก็ไปกันเถอะ”“ค่ะ”เพิ่งก้าวขึ้นรถ โทรศัพท์ของเฟิงถิงเซินก็ดังขึ้นมาคุณย่าเฟิงเป็นคนโทรศัพท์เข้ามาเขาเพิ่งรับสาย คุณย่าเฟิงก็กัดฟันพูดขึ้นมาแล้ว “นี่แกใช้บริษัทของครอบครัวเปิดโครงการใหม่ให้ตระกูลหลินกับตระกูลซุนเหรอ?!”เฟิงถิงเซินร้อง “อืม” ทั้งยังหัวเราะเล็กน้อย “คุณย่าเพิ่งรู้เหรอครับ?”“แก!” คุณย่าเฟิงยิ่งทวีความโกรธเกรี้ยว “แกหมายความว่ายังไง? นี่แก...จะหย่ากับเสี่ยวฉือใช่ไหม?”ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ทำอะไรโจ่งแจ้งและใจกล้าแบบนี้ในเมื่อเขากล้ารับตระกูลหลินกับตระกูลซุนเข้ามาในขอบเขตของเฟิงซื่อกรุ๊ป ก็เท่ากับว่าไม่กลัวเธอรู้เท่ากับว่าเขาได้ตัดสินใจแล้วไม่รอให้เขาอ้าปากพูด คุณย่าเฟิงก็พูดขึ้นมาทันที “ฉันไม่ยอม! แล้วก็ถ้าแกอยา

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 198

    ลูกสนิทสนมกับเขา ก็นับว่าเป็นเรื่องปกตินอกจากนี้แล้ว เธอเองก็เห็นว่ายามที่พ่อแม่ผู้ปกครองบ้านอื่นคอยดูสามีหรือภรรยาของตัวเองเล่นเกมกับลูกนั้น พอสนุกมักจะหัวเราะไม่ก็ปรบมือร้องบอกว่าดีไปด้วย ยามที่เล่นได้ไม่ค่อยดีก็จะคอยร้อนรนอยู่ข้าง ๆ คนอื่นจึงรู้สึกได้ว่าพวกเขากลมเกลียวกันพอมาถึงหรงฉือแม้ว่าหรงฉือจะมีรอยยิ้มประดับบนหน้ายามที่ได้เล่นเกมกับลูก ทว่าคนอื่นกลับรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่เหมือนกันเหมือนว่าเธอจะแปลกแยกจากสามีและลูกของเธออย่างไรอย่างนั้นแต่เมื่อนึกถึงคราวที่ประชุมผู้ปกครองครั้งก่อน เห็นได้ชัดว่าลูกสาวของหรงฉือก็สนิทสนมกับผู้หญิงคนนั้นดี อันที่จริงที่ตอนนี้หรงฉือแทรกความรู้สึกเข้าไประหว่างสามีของเธอกับลูกสาวไม่ได้ก็นับว่าเป็นเรื่องปกติลูกของตัวเองสนิทกับมือที่สามในความสัมพันธ์ของตัวเองแบบนั้น หากเป็นคนอื่นจะมีใครบ้างที่ไม่รู้สึกแย่?พอนึกถึงตรงนี้ เธอคิดว่าในใจของหรงฉือเองคงจะขมขื่นไม่น้อยเธอมองหรงฉือ ทว่ากลัวไม่รู้ว่าควรจะพูดปลอบใจออกไปอย่างไรดีหรงฉือเห็นความสงสารและความลังเลในแววตาของเธอแล้วหรงฉือรู้ว่าคุณแม่เถียนเถียนน่าจะเดาออกว่าเกิดเรื่องอะไรบางอย่างกับเ

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 197

    เฟิงถิงเซินเอ่ยถามอีกครั้ง “คุณจะเล่นหรือให้ผมเล่น?”หรงฉือมองเฟิงจิ่งซิน “ให้ซินซินตัดสินใจดีกว่า”“พ่อแล้วกัน” เฟิงจิ่งซินว่า “แม่เล่นบาสไม่เป็น พ่อเล่นบาสเก่งมาก ๆ ”หรงฉือเล่นบาสเป็นทว่าเธอก็ไม่ได้พูดออกไปในเมื่อเฟิงจิ่งซินตัดสินใจด้วยตัวเองเรียบร้อยแล้ว เธอเลยพูดออกไป “คุณเล่น”เฟิงถิงเซิน “ได้”ตอนนี้แดดแรงขึ้นทุกที ความร้อนด้านนอกห้องก็พุ่งสูงขึ้นไม่น้อย เฟิงถิงเซินถอดเสื้อโค้ตตัวยาวสีดำที่คลุมตัวออก แล้วยื่นให้เธอ “ช่วยถือไว้ให้ผมหน่อย”หรงฉือ “...”เธอรับมา จากนั้นก็วางลงบนพื้นหญ้าข้าง ๆเฟิงถิงเซิน “...”เขาเลิกคิ้ว แต่ไม่ได้พูดอะไรเพียงแต่ตอนที่เกมใกล้จะเริ่มขึ้น เขากลับพูดกับเธออย่างไม่ให้ทันตั้งตัว “เดี๋ยวตอนถ่ายวิดีโอ ก็คอยตามจังหวะของพวกเรามาด้วยนะ อย่าเอาแต่ยืนถ่ายอยู่กับที่”หรงฉือ “...รู้แล้วน่า”กฎกติกาของเกมมดน้อยส่งบอลคือ ‘เริ่มด้วยการที่ผู้ปกครองต้องใช้เชือกลากห่วงเดินไปข้างหน้า ซึ่งผู้ปกครองต้องคอยเลี้ยงเดาะลูกบาสให้อยู่ในห่วงไปด้วย เมื่อถึงจุดหมายปลายทาง ก็ให้ลูกเป็นคนคอยดึงห่วง ส่วนผู้ปกครองคอยเลี้ยงบอล ระหว่างทางไปและกลับนั้น ลูกห้ามออกจากห่วง

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 196

    เฟิงจิ่งซินวิ่งเข้ามาแปะมือกับหรงฉือด้วยท่าทางดีใจ “แม่คะ พวกเราชนะแล้ว!”หรงฉือแปะมือกับเธอ “อื้ม”เฟิงถิงเซินเองก็เดินมาหาเธอด้วย “ถ่ายไว้แล้วเหรอ?”“อืม” หรงฉือตอบ พลางส่งวิดีโอไปให้เขาหลังเล่นเกมเก้าอี้ดนตรีจบ ต่อไปก็คือเกมวงล้อเพลิงไร้เทียมทานกฎกติกาของเกม ‘ครอบครัวสี่ครอบครัวจะต้องจบกลุ่มกันเป็นหนึ่งทีม สมาชิกในทีมทุกคนทางหนึ่งจะต้องคอยหมุนแถบวงกลม อีกทางหนึ่งจะต้องคอยเหยียบแถบวงกลมให้เคลื่อนตัวไปด้านหน้า ทีมที่ถึงเส้นชัยก่อนจะเป็นฝ่ายชนะ’เฟิงถิงเซินมองหรงฉือ “รอบนี้คุณเล่น?”เฟิงจิ่งซินเองก็พยักหน้าเช่นกัน “รอบนี้แม่มาเล่นกับหนูนะคะ”หรงฉือไม่มีความเห็นอื่น “ได้จ้ะ”เมื่อเกมกำลังจะเริ่ม หรงฉือก็มองกระเป๋าของตัวเองแล้วชะงักไป ตอนนี้เอง เฟิงถิงเซินได้ยื่นมือมาหาเธอ “เอามาให้ผมเถอะ”“...ขอบคุณ”หรงฉือยื่นกระเป๋าของตัวเองให้เขาสามีภรรยาคู่อื่น ถ้าสามีช่วยภรรยาถือกระเป๋านั้นบอกได้เลยว่าเป็นเรื่องธรรมดาทว่าระหว่างพวกเขาแล้ว นี่กลับเป็นครั้งแรกที่เฟิงถิงเซินช่วยเธอถือกระเป๋าหรงฉือไม่รู้ว่าเฟิงถิงเซินเคยถือกระเป๋าให้หลินอู๋มาก่อนไหมวันนี้เขาไม่ได้ใส่เสื้อผ้าทางการอ

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 195

    เฟิงจิ่งซินไม่อยู่ หรงฉือยิ้มเล็กน้อย แล้วกล่าว “พวกเราใกล้จะหย่ากันแล้วค่ะ”ที่จริงคุณแม่เถียนเถียนเองก็พอจะเดาได้ เพราะอย่างไรแล้วหรงฉือมีลูกสาว ทว่ากลับพักอยู่ตรงข้ามบ้านเธอเพียงคนเดียว...ยิ่งไปว่านั้น ครั้งก่อนหรงฉือไม่ได้มาเข้าร่วมประชุมผู้ปกครอง คนที่มากลับเป็นผู้หญิงเซ็กซี่หน้าตาสะสวยคนหนึ่งเฟิงถิงเซินกลับเป็นฝ่ายกล่าวทักทายก่อน “สวัสดีครับ”คุณแม่เถียนเถียน “สวัสดีค่ะ...”เฟิงถิงเซิน “พวกคุณรู้จักกันเหรอครับ?”ปากเอ่ยถามคุณแม่เถียนเถียน ทว่าพอถามจบสายตาของเขากลับมองมาที่หรงฉือหรงฉือไม่อยากสนใจเขา เลยไม่ได้ตอบอะไร คุณแม่เถียนเถียนเป็นฝ่ายพูดขึ้น “ฉันกับเสี่ยวฉือเป็นเพื่อนบ้านกันน่ะค่ะ”เห็นบรรยากาศระหว่างหรงฉือกับเฟิงถิงเซินดูท่าไม่ค่อยจะดี อีกทั้งหรงฉือก็มีท่าทางเหมือนไม่อยากสนใจเฟิงถิงเซิน เธอเลยรีบหาข้ออ้างปลีกตัวออกไปเฟิงถิงเซิน “ดูเหมือนว่าจะเข้ากับเพื่อนบ้านใหม่ได้ไม่เลวเลยนะ”หรงฉือก้มหน้าดูโทรศัพท์เฟิงถิงเซินเองก็ไม่ได้โกรธเคือง ทว่ากลับไม่ได้พูดอะไรออกไปอีกตอนนี้เฟิงจิ่งซินกลับมาแล้ว กิจกรรมพ่อแม่ลูกของทางโรงเรียนใกล้จะเริ่มเต็มทีกิจกรรมพ่อแม่ลูกพวกน

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status