แชร์

บทที่ 8

ผู้เขียน: อวินจงมี่
คนที่อยู่ข้างเขาถามว่า “เกิดอะไรขึ้นเหรอ”

“เหมือนเห็นคนรู้จักคนหนึ่งน่ะ”

พวกเขากับเฟิงถิงเซินเติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก และก็รู้ว่าหรงฉือชอบเฟิงถิงเซิน

พูดตามตรง หรงฉือสวยมาก แต่ดูเงียบๆ สวยก็จริง แต่ไม่มีอะไรโดดเด่น ไม่ใช่สไตล์ที่เฟิงถิงเซินชอบ

เฟิงถิงเซินจึงรักษาระยะห่างจากอีกฝ่าย และพวกเขาก็ดูจะไม่ค่อยชอบหรงฉือ

พวกเขาไม่ค่อยได้เจอเธอบ่อยนัก แต่พอเจอกันก็ไม่อยากทักทายเธอ

พูดตามตรง ภาพของหรงฉือในความทรงจำของเขาเริ่มเลือนรางแล้ว เขาก็ไม่แน่ใจว่าตัวเองมองผิดหรือเปล่า

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าจะเป็นหรงฉือจริงๆ เขาก็ไม่ได้ใส่ใจ

เขาไม่ได้พูดอะไรอีก หันหลังแล้วกลับเข้าห้องส่วนตัว

.......

หรงฉือไม่ได้สังเกตเห็นฉีอวี้หมิง

หลังจากออกจากโรงแรมเธอก็พาฉู่จื่อหลานกลับที่พัก และคืนนั้นก็ค้างคืนที่นั่นเพื่อดูแลฉู่จื่อหลาน

เมื่อฉู่จื่อหลานตื่นมาเห็นหรงฉือจึงสวมกอดเธอด้วยความซาบซึ้งใจ “เมื่อคืนลำบากเธอแล้ว วันหลังฉันจะเลี้ยงข้าวนะ!”

หรงฉือได้ทำอาหารเช้าเสร็จแล้ว เธอตบหัวฉู่จื่อหลานเบาๆ พร้อมพูดว่า “ลุกขึ้นมาอาบน้ำล้างหน้าล้างตา อาหารเช้าใกล้จะเย็นหมดแล้ว”

ฉู่จื่อหลานกอดเธอไว้ ซบหน้าที่เอวของเธอไม่ยอมปล่อย “เสี่ยวฉือ เธอทั้งนุ่มทั้งหอมมาก กอดแล้วรู้สึกสบายดีจัง~”

หรงฉือ “...”

หลังจากฉู่จื่อหลานอาบน้ำล้างหน้าเสร็จ เมื่อเห็นอาหารเช้าหอมกรุ่นบนโต๊ะที่หรงฉือเตรียมไว้ก็รู้สึกมีความสุขอย่างมาก และรู้สึกจากใจจริงว่าใครได้แต่งงานกับหรงฉือ ถือว่าคนนั้นโชคดีราวกับเก็บของล้ำค่าได้

แต่เมื่อนึกถึงการแต่งงานของหรงฉือและเฟิงถิงเซิน เธอจึงไม่พูดมันออกมาเพราะกลัวว่าหรงฉือจะเสียใจ

เธอนั่งลงแล้วกินไปพลางเล่นโทรศัพท์

แต่หลังจากนั้นไม่นานสีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไป และอดไม่ได้ที่จะถามหรงฉือว่า “เฟิงถิงเซินกลับประเทศแล้วเหรอ”

หรงฉือ “อืม”

ฉู่จื่อหลานยื่นโทรศัพท์ให้หรงฉือ

หรงฉือเหลือบมองแวบหนึ่งแล้วก็พบว่าเป็นไทม์ไลน์ของฉีอวี้หมิง ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของเฟิงถิงเซิน

อีกฝ่ายโพสต์รูปถ่ายที่พวกเขาปาร์ตี้ด้วยกันเมื่อคืนหลายรูป

คําบรรยายภาพเขียนว่า : สุขสันต์วันเกิดสาวสวยเจ้าของวันเกิด~

แม้ว่าจะเป็นการอวยพรวันเกิดให้กับหลินอู๋ แต่ในภาพตารางเก้าช่องเป็นภาพคู่ของเฟิงถิงเซินและหลินอู๋ไปแล้วสี่ภาพ

โดยเฉพาะช่วงที่ตัดเค้ก เฟิงถิงเซินและหลินอู๋ ทั้งสองคนช่วยกันตัดเค้กด้วยมีดคริสตัลเล่มเดียวกัน

ส่วนเฟิงจิ่งซิน ลูกสาวของเธอกลับไม่ปรากฏในเฟรมตั้งแต่ต้นจนจบ คงเป็นเพราะกลัวว่าคนที่บ้านเก่าของตระกูลเฟิงจะรู้เรื่องนี้เข้า อย่างไรเสีย คุณหญิงย่าเฟิงก็เพื่อนสนิทกับคุณยายของเธอ เพราะเรื่องระหว่างแม่ของเธอกับแม่ของหลินอู๋ คุณหญิงย่าจึงไม่ชอบหลินอู๋มาโดยตลอด

ถ้าคุณหญิงย่ารู้ว่าเฟิงถิงเซินปล่อยให้เฟิงจิ่งซินสนิทกับหลินอู๋ คุณหญิงย่าคงจะโกรธมากแน่ๆ

แค่ดูรูปถ่าย คนที่ไม่รู้คงจะคิดว่าเฟิงถิงเซินและหลินอู๋เป็นคู่รักกันจริงๆ ดังคำเล่าลือ

แต่ก็สามารถมองออกว่าเฟิงถิงเซินเป็นคนจัดงานเลี้ยงวันเกิดนี้ให้หลินอู๋โดยเฉพาะ

เมื่อนึกถึงตอนที่เธอโดนเมินใส่ในวันเกิดเมื่อครึ่งเดือนก่อน หรงฉือจึงเบือนสายตาหนี

ฉู่จื่อหลานมองเธอด้วยความเป็นห่วง “เสี่ยวฉือ——”

“ไม่เป็นไร พวกเขาจะเป็นยังไงก็ไม่มีความสำคัญกับฉันแล้ว” หรงฉือคืนโทรศัพท์ให้เธอ “ฉันขอหย่ากับเฟิงถิงเซินแล้ว”

“อะไรนะ!”

ฉู่จื่อหลานค่อนข้างตกใจมาก “เธอ เธอเป็นคนขอหย่าเหรอ?!”

“อืม”

ความจริงแล้วก่อนหน้านี้ฉู่จื่อหลานไม่ได้เกลียดเฟิงถิงเซิน

ตรงกันข้าม เมื่อก่อนเธอยังเคยชื่นชอบเขามาก ถึงขั้นเคยรู้สึกหวั่นไหวกับเขาด้วยซ้ำ

แต่ไม่มีอะไรอื่น สาเหตุหลักเป็นเพราะเฟิงถิงเซินโดดเด่นเกินไปจริงๆ

หรงฉือเรียนข้ามชั้นถึงสามชั้น สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งของประเทศตั้งแต่อายุไม่ถึงสิบแปดปี หลังจากนั้นไม่นานก็ก่อตั้งบริษัทเทคโนโลยีของตัวเอง และได้รับสิทธิบัตรหลายรายการ สำหรับเธอก็ถือว่าสุดยอดมากแล้ว

แต่ได้ยินมาว่าเฟิงถิงเซินสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยตั้งแต่อายุสิบสามปี

หลังจากเฟิงถิงเซินสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยไม่นานก็ไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ

ว่ากันว่าตอนเขากลับมาจากต่างประเทศก็ได้ก่อตั้งบริษัทของตัวเองหลายแห่ง ซึ่งทั้งหมดได้รับการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์

แต่ตอนนั้นเฟิงถิงเซินยังอายุไม่ถึงยี่สิบปี

บริษัทของเฟิงถิงเซินครอบคลุมทั้งด้านเทคโนโลยี การแพทย์ บันเทิง และการท่องเที่ยว

ภายหลังหลายปีต่อมา เขาก็ได้สืบทอดเฟิงซื่อกรุ๊ปในขณะที่ก่อตั้งบริษัทของตัวเอง

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เขาได้ทำให้เฟิงซื่อกรุ๊ปยกระดับไปอีกขั้นอย่างง่ายดาย

คนในวงการนี้ต่างต้องยกนิ้วโป้งทุกครั้งที่พูดถึงเฟิงถิงเซิน

ยิ่งไปกว่านั้น รูปลักษณ์หน้าตาของเฟิงถิงเซินก็โดดเด่นมากเช่นกัน

ดังนั้นฉู่จื่อหลานจึงไม่แปลกใจเลยที่อัจฉริยะอย่างหรงฉือจะตกเป็นของอัจฉริยะอย่างเฟิงถิงเซิน

แต่ว่าเฟิงถิงเซินก็ไร้ความปราณีกับคนที่เขาไม่ชอบจริงๆ

เมื่อนึกถึงว่าเฟิงถิงเซินเข้าใจหรงฉือผิดตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทำลายหัวใจที่จริงใจของหรงฉืออย่างไม่เห็นคุณค่า เธอก็หมดศรัทธาในตัวเฟิงถิงเซินอย่างสิ้นเชิง

หรงฉือรักเฟิงถิงเซินมากแค่ไหน ฉู่จื่อหลานเห็นมันในสายตาตลอด

หลายปีที่ผ่านมา ไม่ใช่ว่าเธอไม่เคยกล่อมให้หรงฉือหย่า

แต่หรงฉือเอาแต่ส่ายหน้าและเงียบตลอด

ดังนั้นเธอจึงไม่เคยคิดว่าหรงฉือจะเป็นคนขอหย่าจริงๆ

เธอกินอาหารเช้าไม่ลงแล้ว มองหรงฉืออย่างเห็นใจ “เกิดอะไรขึ้น”

อะไรที่ทำให้หรงฉือผู้มั่นคงในความรักที่มีต่อเฟิงถิงเซินเสมอมาขอหย่าก่อน เธอรู้สึกว่าต้องมีเรื่องอะไรบางอย่างที่เธอไม่รู้เกิดขึ้นแน่นอน

หรงฉือครุ่นคิดครู่หนึ่งก่อนพูดว่า “จริงๆ มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร คงเป็นเพราะผิดหวังมาเยอะ จู่ๆ ก็รู้สึกเหนื่อยขึ้นมา ก็เลยอยากหย่าก็ได้”

ฉู่จื่อหลานรู้นิสัยของหรงฉือดี เธอรู้ว่าถ้าหรงฉือตัดสินใจอะไรไปแล้ว ต่อให้ตอนนี้จะยังตัดใจจากเฟิงถิงเซินไม่ได้ เธอก็จะไม่เปลี่ยนใจง่ายๆ

เธอจริงจัง

ฉู่จื่อหลานเข้าไปกอดหรงฉือ “ไม่เป็นไรนะ การหย่าก็เป็นเรื่องดี”

หรงฉือ “อืม”

หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ หรงฉือก็ออกจากที่พักของฉู่จื่อหลานเพื่อไปทำงาน

ก่อนที่เธอจะย้ายออกมา แม้ว่าเธอและเฟิงถิงเซินจะทำงานที่เดียวกัน แต่ก็ออกบ้านคนละเวลา ไม่เคยไปทำงานพร้อมกันเลย

อีกทั้งเขายังระแวงเธออย่างมาก ปกติที่บริษัท มีบางครั้งพวกเขาก็ไม่เจอกันเลยตลอดหนึ่งเดือน

ตอนนี้เธอย้ายออกมาแล้ว แต่กลับบังเอิญเจอกันติดต่อกันสองวันเลย

วันนี้เฟิงถิงเซินยังคงหล่อเหลามากเหมือนเช่นเคย และสุขุมมากเหมือนแต่ก่อน ความเย็นชาบนใบหน้าของเขาจะชัดเจนขึ้นทุกครั้งที่เห็นเธอ

เฟิงถิงเซินแค่เหลือบมองเธอแวบหนึ่งก่อนจะเบือนสายตาหนีเช่นเดียวกับเมื่อวาน

หรงฉือก็ก้มหน้า และเรียกเบาๆ ว่า "ประธานเฟิง" เช่นเดียวกับเมื่อวาน หลังจากเฟิงถิงเซินเดินจากไป เธอถึงก้าวเข้าบริษัท

เธอไม่รู้ว่าวันนี้หลินอู๋มาที่บริษัทหรือไม่ และเธอก็ไม่สนใจ เธอจดจ่ออยู่กับการทำงานของตัวเองอย่างเงียบๆ

กระทั่งตอนเที่ยง คุณยายโทรหาเธอ

“เสี่ยวฉือ ทางเมืองชีหงส่งแพะตัวหนึ่งมาให้ ตอนนี้อากาศเริ่มเย็นแล้ว ตอนเย็นกลับมากินข้าวกันเถอะ ยายให้คนทำเมนูจากแพะทั้งตัวไว้ให้เธอทาน”

พอได้ยินเสียงที่อ่อนโยนของคุณยาย หรงฉือก็รู้สึกอบอุ่นหัวใจ “ค่ะ เลิกงานแล้วหนูจะกลับไปทันที”

วันนั้นหรงฉือไม่ได้เจอกับเฟิงถิงเซินอีกเลย ยกเว้นตอนเช้า

วันนั้น ขณะที่เธอเก็บของเสร็จและกำลังเตรียมตัวเลิกงานตรงเวลา เฉิงหยวนก็เอาเอกสารชุดหนึ่งมาให้เธอ และบอกให้เธอจัดการโดยด่วน

หรงฉืออึ้งไปชั่วขณะ

แม้จะบอกให้เธอจัดการโดยด่วน แต่พอหรงฉือดูเนื้อหาแล้วก็รู้ว่าจริงๆ แล้วเอกสารนี้ไม่ได้ต้องใช้เร่งด่วนขนาดนั้น

ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอจะรับมันด้วยรอยยิ้ม และสัญญาว่าจะทําให้เสร็จโดยเร็วที่สุด

เพราะไม่อยากมีอภิสิทธิ์เหนือใคร

แต่วันนี้เธอไม่อยากพยายามทำให้ทุกอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว——โดยเฉพาะเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเฟิงถิงเซิน

และเธอก็เหนื่อยแล้วด้วย

ตอนนี้เธอแค่ต้องการกลับบ้านเร็วๆ เพื่อไปอยู่กับคุณยาย ไม่อยากทำงานล่วงเวลา

ก่อนหน้านี้เธอมักอยากจะสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเลขาส่วนตัวหลายคนที่อยู่ข้างๆ เฟิงถิงเซินมาโดยตลอด

แต่ตอนนี้ไม่มีความจําเป็นนั้นแล้ว

อีกอย่าง เมื่อวานเฉิงหยวนกล่าวหาเธอโดยไม่สนถูกผิด เธอไม่ได้ใจกว้างพอที่จะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เธอมองเฉิงหยวนแล้วพูดอย่างเย็นชาว่า "ฉันจะไม่ทำงานนี้ตอนนี้ ฉันจะเลิกงานแล้ว”
อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 200

    “ความเห็นเหรอ จะมากหรือน้อยก็มีอยู่บ้างแหละ แต่ไม่เป็นปัญหาใหญ่โตอะไร” ประธานหยางว่า “บริษัทมีโครงการดี ๆ ผู้ถือหุ้นคนอื่นย่อมอยากส่งคนของตัวเองไปทำ แต่ปกติแล้วประธานเฟิงจะจัดแจงด้วยตัวเองน้อยครั้งมาก คนอื่น ๆ คงไม่มีความเห็นอะไรทั้ง ๆ ที่ประธานเฟิงเพิ่งจัดให้คนของตัวเองเข้ามารับหน้าที่ในบางส่วนหรอก? ยิ่งไปกว่านั้น ทั้งตระกูลหลินกับตระกูลซุนเองก็มีศักยภาพไม่เลว และเคารพกฎกติกามาก รวม ๆ แล้วไม่ถือเป็นปัญหาใหญ่โต”อวี้มั่วซวิน “...”เขาทนฟังต่อไปไม่ไหวแล้ว เลยกล่าวออกไปว่า “โอเค งั้นไม่รบกวนคุณกับครอบครัวแล้ว คราวหน้าถ้ามีเวลาค่อยกินข้าวด้วยกันนะครับ”ประธานหยาง “ครับ ๆ ๆ ”หลังประธานหยางปลีกตัวออกไป อวี้มั่วซวินก็บอกหรงฉือว่า “พวกเราก็เข้าไปกันเถอะ”หรงฉือ “อืม”เมื่อทานข้าวเสร็จ และกลับถึงบริษัทได้ไม่นาน ก็ได้รับรายงานว่าเหรินจี่เฟิงมาแล้วหรงฉือกับอวี้มั่วซวินยังคงไม่คิดจะพบหน้าเขาอีกเช่นเคยเหรินจี่เฟิงไม่ได้กลับไป กระทั่งถึงตอนเย็นที่หรงฉือเลิกงาน ขณะที่เดินไปลานจอดรถ เขาก็เรียกหรงฉือเอาไว้เสียก่อน “คุณหรง”หรงฉือหมุนตัวกลับไป กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ประธานเหริน มีอะไรเหรอ

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 199

    หรงฉือว่า “พวกคุณไปกินเถอะ ฉันไปด้วยไม่ได้”เฟิงจิ่งซิน “อ้าว? แม่ไม่ไปเหรอคะ?”“อื้ม” เธอลูบหัวของเฟิงจิ่งซินเบา ๆ “แม่ต้องไปก่อนแล้ว หนูกับพ่อก็กินข้าวให้สนุกนะ”“อ๋อ...”หรงฉือยิ้มเล็กน้อย ไม่ได้พูดอะไรออกไปอีก เธอหมุนตัวจากไปโดยไม่แม้แต่จะหันกลับไปมองเฟิงถิงเซินมองแผ่นหลังของเธอ ทว่าไม่ได้พูดรั้งให้อยู่ต่อ เขากล่าวกับเฟิงจิ่งซินว่า “พวกเราเองก็ไปกันเถอะ”“ค่ะ”เพิ่งก้าวขึ้นรถ โทรศัพท์ของเฟิงถิงเซินก็ดังขึ้นมาคุณย่าเฟิงเป็นคนโทรศัพท์เข้ามาเขาเพิ่งรับสาย คุณย่าเฟิงก็กัดฟันพูดขึ้นมาแล้ว “นี่แกใช้บริษัทของครอบครัวเปิดโครงการใหม่ให้ตระกูลหลินกับตระกูลซุนเหรอ?!”เฟิงถิงเซินร้อง “อืม” ทั้งยังหัวเราะเล็กน้อย “คุณย่าเพิ่งรู้เหรอครับ?”“แก!” คุณย่าเฟิงยิ่งทวีความโกรธเกรี้ยว “แกหมายความว่ายังไง? นี่แก...จะหย่ากับเสี่ยวฉือใช่ไหม?”ไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ทำอะไรโจ่งแจ้งและใจกล้าแบบนี้ในเมื่อเขากล้ารับตระกูลหลินกับตระกูลซุนเข้ามาในขอบเขตของเฟิงซื่อกรุ๊ป ก็เท่ากับว่าไม่กลัวเธอรู้เท่ากับว่าเขาได้ตัดสินใจแล้วไม่รอให้เขาอ้าปากพูด คุณย่าเฟิงก็พูดขึ้นมาทันที “ฉันไม่ยอม! แล้วก็ถ้าแกอยา

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 198

    ลูกสนิทสนมกับเขา ก็นับว่าเป็นเรื่องปกตินอกจากนี้แล้ว เธอเองก็เห็นว่ายามที่พ่อแม่ผู้ปกครองบ้านอื่นคอยดูสามีหรือภรรยาของตัวเองเล่นเกมกับลูกนั้น พอสนุกมักจะหัวเราะไม่ก็ปรบมือร้องบอกว่าดีไปด้วย ยามที่เล่นได้ไม่ค่อยดีก็จะคอยร้อนรนอยู่ข้าง ๆ คนอื่นจึงรู้สึกได้ว่าพวกเขากลมเกลียวกันพอมาถึงหรงฉือแม้ว่าหรงฉือจะมีรอยยิ้มประดับบนหน้ายามที่ได้เล่นเกมกับลูก ทว่าคนอื่นกลับรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่เหมือนกันเหมือนว่าเธอจะแปลกแยกจากสามีและลูกของเธออย่างไรอย่างนั้นแต่เมื่อนึกถึงคราวที่ประชุมผู้ปกครองครั้งก่อน เห็นได้ชัดว่าลูกสาวของหรงฉือก็สนิทสนมกับผู้หญิงคนนั้นดี อันที่จริงที่ตอนนี้หรงฉือแทรกความรู้สึกเข้าไประหว่างสามีของเธอกับลูกสาวไม่ได้ก็นับว่าเป็นเรื่องปกติลูกของตัวเองสนิทกับมือที่สามในความสัมพันธ์ของตัวเองแบบนั้น หากเป็นคนอื่นจะมีใครบ้างที่ไม่รู้สึกแย่?พอนึกถึงตรงนี้ เธอคิดว่าในใจของหรงฉือเองคงจะขมขื่นไม่น้อยเธอมองหรงฉือ ทว่ากลัวไม่รู้ว่าควรจะพูดปลอบใจออกไปอย่างไรดีหรงฉือเห็นความสงสารและความลังเลในแววตาของเธอแล้วหรงฉือรู้ว่าคุณแม่เถียนเถียนน่าจะเดาออกว่าเกิดเรื่องอะไรบางอย่างกับเ

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 197

    เฟิงถิงเซินเอ่ยถามอีกครั้ง “คุณจะเล่นหรือให้ผมเล่น?”หรงฉือมองเฟิงจิ่งซิน “ให้ซินซินตัดสินใจดีกว่า”“พ่อแล้วกัน” เฟิงจิ่งซินว่า “แม่เล่นบาสไม่เป็น พ่อเล่นบาสเก่งมาก ๆ ”หรงฉือเล่นบาสเป็นทว่าเธอก็ไม่ได้พูดออกไปในเมื่อเฟิงจิ่งซินตัดสินใจด้วยตัวเองเรียบร้อยแล้ว เธอเลยพูดออกไป “คุณเล่น”เฟิงถิงเซิน “ได้”ตอนนี้แดดแรงขึ้นทุกที ความร้อนด้านนอกห้องก็พุ่งสูงขึ้นไม่น้อย เฟิงถิงเซินถอดเสื้อโค้ตตัวยาวสีดำที่คลุมตัวออก แล้วยื่นให้เธอ “ช่วยถือไว้ให้ผมหน่อย”หรงฉือ “...”เธอรับมา จากนั้นก็วางลงบนพื้นหญ้าข้าง ๆเฟิงถิงเซิน “...”เขาเลิกคิ้ว แต่ไม่ได้พูดอะไรเพียงแต่ตอนที่เกมใกล้จะเริ่มขึ้น เขากลับพูดกับเธออย่างไม่ให้ทันตั้งตัว “เดี๋ยวตอนถ่ายวิดีโอ ก็คอยตามจังหวะของพวกเรามาด้วยนะ อย่าเอาแต่ยืนถ่ายอยู่กับที่”หรงฉือ “...รู้แล้วน่า”กฎกติกาของเกมมดน้อยส่งบอลคือ ‘เริ่มด้วยการที่ผู้ปกครองต้องใช้เชือกลากห่วงเดินไปข้างหน้า ซึ่งผู้ปกครองต้องคอยเลี้ยงเดาะลูกบาสให้อยู่ในห่วงไปด้วย เมื่อถึงจุดหมายปลายทาง ก็ให้ลูกเป็นคนคอยดึงห่วง ส่วนผู้ปกครองคอยเลี้ยงบอล ระหว่างทางไปและกลับนั้น ลูกห้ามออกจากห่วง

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 196

    เฟิงจิ่งซินวิ่งเข้ามาแปะมือกับหรงฉือด้วยท่าทางดีใจ “แม่คะ พวกเราชนะแล้ว!”หรงฉือแปะมือกับเธอ “อื้ม”เฟิงถิงเซินเองก็เดินมาหาเธอด้วย “ถ่ายไว้แล้วเหรอ?”“อืม” หรงฉือตอบ พลางส่งวิดีโอไปให้เขาหลังเล่นเกมเก้าอี้ดนตรีจบ ต่อไปก็คือเกมวงล้อเพลิงไร้เทียมทานกฎกติกาของเกม ‘ครอบครัวสี่ครอบครัวจะต้องจบกลุ่มกันเป็นหนึ่งทีม สมาชิกในทีมทุกคนทางหนึ่งจะต้องคอยหมุนแถบวงกลม อีกทางหนึ่งจะต้องคอยเหยียบแถบวงกลมให้เคลื่อนตัวไปด้านหน้า ทีมที่ถึงเส้นชัยก่อนจะเป็นฝ่ายชนะ’เฟิงถิงเซินมองหรงฉือ “รอบนี้คุณเล่น?”เฟิงจิ่งซินเองก็พยักหน้าเช่นกัน “รอบนี้แม่มาเล่นกับหนูนะคะ”หรงฉือไม่มีความเห็นอื่น “ได้จ้ะ”เมื่อเกมกำลังจะเริ่ม หรงฉือก็มองกระเป๋าของตัวเองแล้วชะงักไป ตอนนี้เอง เฟิงถิงเซินได้ยื่นมือมาหาเธอ “เอามาให้ผมเถอะ”“...ขอบคุณ”หรงฉือยื่นกระเป๋าของตัวเองให้เขาสามีภรรยาคู่อื่น ถ้าสามีช่วยภรรยาถือกระเป๋านั้นบอกได้เลยว่าเป็นเรื่องธรรมดาทว่าระหว่างพวกเขาแล้ว นี่กลับเป็นครั้งแรกที่เฟิงถิงเซินช่วยเธอถือกระเป๋าหรงฉือไม่รู้ว่าเฟิงถิงเซินเคยถือกระเป๋าให้หลินอู๋มาก่อนไหมวันนี้เขาไม่ได้ใส่เสื้อผ้าทางการอ

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 195

    เฟิงจิ่งซินไม่อยู่ หรงฉือยิ้มเล็กน้อย แล้วกล่าว “พวกเราใกล้จะหย่ากันแล้วค่ะ”ที่จริงคุณแม่เถียนเถียนเองก็พอจะเดาได้ เพราะอย่างไรแล้วหรงฉือมีลูกสาว ทว่ากลับพักอยู่ตรงข้ามบ้านเธอเพียงคนเดียว...ยิ่งไปว่านั้น ครั้งก่อนหรงฉือไม่ได้มาเข้าร่วมประชุมผู้ปกครอง คนที่มากลับเป็นผู้หญิงเซ็กซี่หน้าตาสะสวยคนหนึ่งเฟิงถิงเซินกลับเป็นฝ่ายกล่าวทักทายก่อน “สวัสดีครับ”คุณแม่เถียนเถียน “สวัสดีค่ะ...”เฟิงถิงเซิน “พวกคุณรู้จักกันเหรอครับ?”ปากเอ่ยถามคุณแม่เถียนเถียน ทว่าพอถามจบสายตาของเขากลับมองมาที่หรงฉือหรงฉือไม่อยากสนใจเขา เลยไม่ได้ตอบอะไร คุณแม่เถียนเถียนเป็นฝ่ายพูดขึ้น “ฉันกับเสี่ยวฉือเป็นเพื่อนบ้านกันน่ะค่ะ”เห็นบรรยากาศระหว่างหรงฉือกับเฟิงถิงเซินดูท่าไม่ค่อยจะดี อีกทั้งหรงฉือก็มีท่าทางเหมือนไม่อยากสนใจเฟิงถิงเซิน เธอเลยรีบหาข้ออ้างปลีกตัวออกไปเฟิงถิงเซิน “ดูเหมือนว่าจะเข้ากับเพื่อนบ้านใหม่ได้ไม่เลวเลยนะ”หรงฉือก้มหน้าดูโทรศัพท์เฟิงถิงเซินเองก็ไม่ได้โกรธเคือง ทว่ากลับไม่ได้พูดอะไรออกไปอีกตอนนี้เฟิงจิ่งซินกลับมาแล้ว กิจกรรมพ่อแม่ลูกของทางโรงเรียนใกล้จะเริ่มเต็มทีกิจกรรมพ่อแม่ลูกพวกน

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status