Share

บทที่ 7

Author: อวินจงมี่
เพื่อนร่วมงานสองคนที่ยืนข้างหรงฉือแอบมองหลินอู๋ในขณะเดียวกันก็รีบถอยหลังสองก้าวจนติดกับกําแพง

หลินอู๋ก็มองเห็นหรงฉือเช่นกัน

แต่กลับละสายตาหนีอย่างเย็นชาในทันที เห็นได้ชัดว่าไม่เห็นเธออยู่ในสายตา จากนั้นเข้าไปในลิฟต์ท่ามกลางการล้อมรอบของผู้จัดการหลายคน

หลังจากประตูลิฟต์ปิดเพื่อนร่วมงานสองคนของหรงฉือก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอกทันที แล้วเริ่มซุบซิบกันอย่างตื่นเต้นอีกครั้ง

“เมื่อกี้คนนั้นน่าจะเป็นแฟนของท่านประธานเฟิงใช่ไหม โอ้โห สวยมากเลย เธอใส่แบรนด์เนมทั้งตัว คงจะแพงมากน่าดู? สมกับที่เกิดมาในตระกูลที่ร่ำรวย มีความมั่นใจ สุขุม และมีอำนาจ มีออร่าแตกต่างจากคนธรรมดาอย่างพวกเราจริงๆ ด้วย”

“ใช่ ใช่”

ทั้งสองคนพูดคุยกันเสร็จแล้วก็ถามหรงฉือเสียงเบาๆ ว่า “หรงฉือ เธอคิดว่าไง?”

หรงฉือก้มมองต่ำ และพูดเบาๆ ว่า “ใช่แล้ว”

ความจริงแล้วหลินอู๋เป็นลูกสาวนอกสมรสของพ่อเธอ

แต่จะพูดว่าเป็นลูกนอกสมรสอาจไม่ถูกต้องนัก

เพราะอย่างไรเสีย ตอนเธออายุแปดขวบ พ่อของเธอก็ยืนกรานว่าจะหย่ากับแม่ของเธอเพื่อไม่ให้หลินอู๋และแม่ของเธอน้อยเนื้อต่ำใจ แล้วแต่งงานใหม่กับแม่ของหลินอู๋

หลังจากที่พ่อแม่หย่าร้างกัน เธอได้อาศัยอยู่กับแม่ที่มีอาการทางจิตไม่ปกติ คุณยายและลุงของเธอ

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ธุรกิจของลุงเธอแย่ลงเรื่อยๆ ในขณะที่ธุรกิจของตระกูลหลินกลับเจริญรุ่งเรืองขึ้นเรื่อยๆ

ได้ยินมาว่าพ่อของเธอให้สิ่งที่ดีที่สุดทุกอย่างกับหลินอู๋เพื่อชดเชยที่หลินอู๋ได้รับความทุกข์ระทมในวัยเด็ก อีกทั้งยังใช้เงินจำนวนมากในการเลี้ยงดูเธอ

และหลินอู๋ก็ไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง ได้ยินมาว่าเธอก็ยอดเยี่ยมมากเช่นกัน

ดังนั้นลูกสาวนอกสมรสอย่างหลินอู๋ในตอนนั้น ตอนนี้กลายเป็นคุณหนูจากตระกูลร่ำรวยมีชื่อเสียงอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว

เป็นคุณหนูมาสิบกว่าปี ออร่าคุณหนูของหลินอู๋ในตอนนี้ ยังดูมีเสน่ห์มากกว่าเธอตอนที่เป็นคุณหนูตัวจริงเสียอีก

เดิมทีเธอคิดว่าเธอกับหลินอู๋คงจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกแล้วหลังผ่านชีวิตในวัยเด็ก

แต่ดูเหมือนว่าสวรรค์จะโปรดปรานหลินอู๋เป็นพิเศษ

เธอกับเฟิงถิงเซินถือได้ว่าเป็นคู่รักที่มีใจให้กันตั้งแต่เด็กๆ แต่ไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน เฟิงถิงเซินก็ไม่เคยเห็นเธอในสายตาเลย แต่กลับรักหลินอู๋อย่างหมดหัวใจตั้งแต่แรกพบ——

“หรงฉือ เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม”

เมื่อเห็นหรงฉือหน้าซีด เพื่อนร่วมงานทั้งสองคนก็รู้สึกกังวล

หรงฉือได้สติอีกครั้ง “ฉันไม่เป็นไร”

เธอกับเฟิงถิงเซินกำลังจะหย่ากันในเร็วๆ นี้ เฟิงถิงเซินจะรักใครก็ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเธออีกต่อไปแล้ว

วันนั้น หรงฉือไม่ได้สนใจเรื่องระหว่างเฟิงถิงเซินและหลินอู๋อีกเลยหลังจากนั้น

เธอทำโอทีจนเกือบสามทุ่ม ขณะที่ทำงานใกล้จะเสร็จ จู่ๆ โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น เป็นสายจากฉู่จื่อหลาน ซึ่งเพื่อนสนิทของเธอ

ทันทีที่หรงฉือรับสายก็ได้รับแจ้งว่าฉู่จื่อหลานดื่มหนักจนเมามาก ให้เธอไปที่ร้านอาหารเพื่อไปรับเพื่อนกลับบ้าน

หรงฉือจึงรีบจัดการเอกสารในมือให้เรียบร้อยก่อนจะหยิบกุญแจรถแล้วออกจากบริษัททันที

ยี่สิบนาทีผ่านไป หรงฉือก็มาถึงจุดหมาย

หลังจากลงจากรถ ขณะที่เธอกำลังจะเดินไปที่ประตูทางเข้า ก็เห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเดินออกมาจากอีกด้านของลานจอดรถ

หรงฉือถึงกับหยุดชะงักไปชั่วขณะเมื่อเห็นใบหน้าด้านข้างของเด็กหญิงตัวน้อยชัดเจน

ซินซิน?

เธอควรไปเข้าเรียนอยู่ที่ประเทศเอนาวาไม่ใช่เหรอ? เป็นไปได้ยังไง... หรือว่าเธอกลับประเทศพร้อมเฟิงถิงเซิน?

แม้ว่าสถานะและตำแหน่งของเธอไม่สามารถเข้าถึงเอกสารลับบางอย่างของบริษัทได้ แต่เธอก็รู้ว่างานขยายตลาดในประเทศเอนาวาของเฟิงถิงเซิน จำเป็นต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งกว่าจะเสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์ได้

เธอคิดว่าครั้งนี้เฟิงถิงเซินแค่กลับประเทศชั่วคราวเพื่อจัดการเรื่องบางอย่างเท่านั้น

เธอไม่คิดเลยว่าลูกสาวจะกลับมาด้วย...

เธอไม่รู้แน่ชัดว่าพวกเขากลับประเทศตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่จากที่เธอเจอเฟิงถิงเซินเมื่อเช้านี้ก็สามารถสรุปได้ว่า จนถึงตอนนี้ไม่ว่าพวกเขาจะพูดยังไงก็กลับมาได้หนึ่งวันแล้ว

แต่ลูกสาวกลับไม่เคยโทรหาเพื่อบอกเรื่องที่พวกเขากลับประเทศกับเธอเลย

เมื่อคิดถึงตรงนี้ หรงฉือก็บีบกระเป๋าในมือแน่นพลางมองไปที่เงาเด็กที่กระโดดโลดเต้นอย่างมีความสุขอยู่ข้างหน้า หรงฉือเดินตามไปอย่างเงียบๆ

เมื่อเดินมาถึงทางโค้งของล็อบบี้ เพื่อนๆ ของหลินอู๋และเฟิงถิงเซินก็ปรากฏตัวขึ้นตรงสุดทางเดิน

หรงฉือจึงตะแคงตัวหลบไปข้างๆ ทันที จากนั้นก็ได้ยินเสียงลูกสาวเรียก “น้าอู๋อู๋” อย่างดีใจพร้อมกับวิ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วแล้วพุ่งเข้าไปในอ้อมกอดของหลินอู๋

หรงฉือนั่งลงบนโซฟาข้างๆ โดยหันหลังให้พวกเขา และใช้ต้นไม้เขียวขจีและพนักพิงเก้าอี้ปิดบังร่างกายของเธอ

“ซินซินก็กลับประเทศด้วยเหรอ”

“เพราะว่าน้าอู๋อู๋กลับประเทศแล้ว หนูกับคุณพ่อไม่อยากห่างกับน้า คุณพ่อก็เลยทำงานเสร็จก่อนกำหนด และพาหนูกลับประเทศค่ะ แล้วเราก็ตั้งใจกลับมาล่วงหน้าก่อนวันเกิดคุณน้าหนึ่งวันด้วยนะ จะได้ไม่พลาดวันเกิดของคุณน้าไง”

“นี่คือสร้อยคอที่หนูกับคุณพ่อทำให้น้าเองกับมือ สุขสันต์วันเกิดนะคะน้าอู๋อู๋”

“ว้าว ซินซินกับคุณพ่อทําเองกับมือเลยเหรอ ทำอันนี้ทั้งเปลืองแรงทั้งเหนื่อยมาก ซินซินเก่งมากเลย น้าชอบมาก ขอบใจนะซินซิน”

“น้าอู๋อู๋ชอบก็พอแล้วค่ะ~”

เฟิงจิ่งซินกอดหลินอู๋พร้อมทำเสียงออดอ้อน “ไม่ได้เจอคุณน้ามาหนึ่งสัปดาห์แล้ว หนูคิดถึงมากเลยค่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะสามารถโทรหาคุณน้าได้ทุกวัน หลายวันมานี้หนูก็คงอยู่ประเทศเอนาวาไม่ได้เลยด้วยซ้ำ..."

“น้าก็คิดถึงซินซินเหมือนกันค่ะ”

ในขณะนั้นเองเสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นจากอีกด้าน

หรงฉือถึงกับอึ้งไปชั่วขณะ

เพราะนั่นคือเฟิงถิงเซิน

ถึงแม้ว่าหรงฉือจะไม่เห็นตัว แต่แค่ได้ยินเสียงฝีเท้าก็แทบจะยืนยันได้เลย

และเหตุผลที่เธอมั่นใจเช่นนั้นก็เพราะเธอแทบจะรอเขาทุกวันในช่วงหกเจ็ดปีหลังแต่งงาน

เสียงฝีเท้าของเฟิงถิงเซินก็เหมือนกับเขา ไม่ช้าไม่เร็ว มั่นคงและสงบเสงี่ยม

เขาสุขุมแม้แต่กับสมาชิกในตระกูลเฟิงที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดสนิทสนมกับเขามาก เขายังคงมีสีหน้าเรียบเฉย ดูเหมือนไม่ใส่ใจอะไรเลยแม้ว่าฟ้าจะถล่มลงมา

เธอเคยคิดว่าในโลกนี้ไม่มีใครและไม่มีสิ่งใดที่จะทำให้จิตใจของเขาวุ่นวายได้

แต่ในเวลานี้ หลินอู๋ปรากฏตัวขึ้น

ทันใดนั้นเรื่องนี้ก็มีข้อยกเว้น——

เมื่อนึกถึงอดีต หรงฉือยังไม่ทันคิดอย่างละเอียด แต่แล้วเธอก็ได้ยินลูกสาวตะโกนว่า “คุณพ่อ”

จากนั้นเพื่อนของเฟิงถิงเซินก็ทักทายเขาทีละคนเช่นกัน

เฟิงถิงเซินตอบอืมคำหนึ่งแล้วพูดกับหลินอู๋ว่า “สุขสันต์วันเกิด”

หลินอู๋ยิ้ม “อืม”

“คุณพ่อเตรียมของขวัญวันเกิดชิ้นอื่นให้น้าอู๋อู๋ด้วยไม่ใช่เหรอคะ รีบเอาให้น้าอู๋อู๋สิค่ะ”

ที่นั่นจู่ๆ ก็เงียบลง จากนั้นเพื่อนคนหนึ่งของเฟิงถิงเซินก็หัวเราะออกมาเบาๆ ก้มหน้าไปบีบแก้มของเฟิงจิ่งซินแล้วพูดว่า “นั่นเป็นของขวัญที่พ่อหนูเตรียมไว้ให้น้าอู๋อู๋โดยเฉพาะ คาดว่าคงจะมอบให้น้าอู๋อู๋เป็นการส่วนตัว เราอย่าไปยุ่งเลยนะ ฮ่าๆ~”

จากนั้นคนอื่นๆ ก็หัวเราะอย่างมีเลศนัย

ในขณะเดียวกันเฟิงถิงเซินก็พูดว่า “เอาให้แล้ว”

“หา? ตอนไหนคะ” เฟิงจิ่งซินพูด แล้วพูดต่อว่า “คุณพ่อแอบไปหาน้าอู๋อู๋ ไม่พาหนูไปด้วยอีกแล้ว ฮึ!”

เพื่อนของเฟิงถิงเซินยิ่งหัวเราะดังขึ้น

แต่หรงฉือกลับนึกถึงเรื่องที่หลินอู๋ไปเฟิงซื่อกรุ๊ปเมื่อเช้านี้

เดาว่าคงเอาให้ตอนนั้นละมั้ง

หลินอู๋ยิ้มอย่างเขินอายก่อนพูดว่า “เราอย่ายืนอยู่ที่นี่กันเลย รีบขึ้นไปข้างบนกันเถอะ”

จากนั้นเสียงฝีเท้าก็ค่อยๆ ไกลออกไป

ในหัวของหรงฉือกลับมีแต่ความว่างเปล่า

รู้สึกเจ็บปวดไปทั่วอกอยู่นานหลังจากนั้นถึงมีสติกลับมา แล้วเข้าไปในลิฟต์อย่างเงียบๆ เพื่อขึ้นไปชั้นบนประคองเพื่อนลงมา

จริงๆ แล้วห้องส่วนตัวของฉู่จื่อหลานอยู่ชั้นเดียวกับห้องส่วนตัวที่พวกหลินอู๋นัดรวมตัวกัน

ในขณะที่หรงฉือกำลังประคองฉู่จื่อหลานเข้าไปในลิฟต์ ฉีอวี้หมิง ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของเฟิงถิงเซิน จู่ๆ ก็หยุดเดินกะทันหัน

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Mga Comments (2)
goodnovel comment avatar
ใบเตย บีอาร์
งานเข้ามั้ยนะ
goodnovel comment avatar
Sawarost Sontijai
ซวยแล้วไง เพื่อนอีเปรตจะแกล้งอะไรหรงฉือ
Tignan lahat ng Komento

Pinakabagong kabanata

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 513

    ช่วงนี้เฟิงถิงเซินยุ่งมาก ข้าวยังทานไม่เสร็จ ก็มีโทรศัพท์เข้ามาอีกแล้วตอนที่เฟิงถิงเซินออกไปรับโทรศัพท์อีกครั้ง หลินอู๋เหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ พูดกับเฟิงจิ่งซินว่า “จริงสิ ซินซิน วันจันทร์หนูเปิดเทอม น้าไปส่งหนูที่โรงเรียนแล้วกัน”เฟิงจิ่งซินได้ยินเธอพูดแบบนี้ สีหน้าก็ดูลำบากใจเล็กน้อย แล้วพูดขึ้นว่า “ขอโทษนะคะน้าอู๋อู๋ หนูบอกกับคุณแม่แล้วว่าจะให้คุณแม่ไปส่งหนูที่โรงเรียน คุณแม่ก็รับปากหนูแล้วค่ะ”“อย่างนั้นเหรอ”หลินอู๋ได้ยินแบบนั้น ก็ไม่ได้ฝืนอะไรอีก……คืนวันอาทิตย์ หลังหรงฉือทานอาหารเสร็จ และกำลังจะพักผ่อน โทรศัพท์ของเฟิงจิ่งซินก็โทรเข้ามาแล้วหรงฉือเพิ่งจะรับสาย เฟิงจิ่งซินก็พูดขึ้นก่อนว่า “คุณแม่ พรุ่งนี้เช้าหนูกับคุณพ่อจะเข้าไปหาคุณแม่ที่นั่น ถึงตอนนั้นคุณแม่กับคุณพ่อก็ไปส่งหนูที่โรงเรียนด้วยกันนะคะ”“โอเค แม่เข้าใจแล้ว”เช้าวันรุ่งขึ้น หรงฉือเพิ่งจะทานอาหารเช้าได้ไม่นาน เฟิงถิงเซินกับเฟิงจิ่งซินก็มาถึงแล้วหรงฉือเพิ่งจะหยิบกุญแจรถออกจากบ้าน ก็ถูกเฟิงจิ่งซินที่ลงมาจากรถดึงให้เดินไปทางรถของเฟิงถิงเซิน แล้วพูดว่า “คุณแม่ไม่ทันแล้ว รีบขึ้นรถเถอะค่ะ”หรงฉือพูดว่า “เดี๋ย

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 512

    หลังผ่านไปนานมาก เธอจึงจะถามอีกครั้งว่า “ยังมีอีกไหม?”เฟิงจิ่งซินกำลังดื่มน้ำผลไม้อยู่ ชั่วขณะหนึ่งก็ไม่เข้าใจความหมายของเธอ เลยถามว่า “หืม? ยังมีอะไรเหรอคะ?”“เรื่องที่คุณพ่อหนูเป็นฝ่ายเข้าหาคุณแม่หนูน่ะ”เฟิงจิ่งซินวางแก้วลง ขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นพูดว่า “ไม่มีแล้วค่ะ หลังจากนั้นคุณแม่ก็ป่วยไม่สบาย คุณพ่อดูแลคุณแม่อยู่ตลอดเวลา คุณพ่อบอกว่าเด็กติดเชื้อได้ง่าย เลยไม่ยอมให้หนูเข้าใกล้ จนกระทั่งคุณแม่หายดี หนูถึงได้เจอคุณแม่”เมื่อฟังถึงตรงนี้ หลินอู๋ก็ชะงักไปอีกครั้ง แล้วถามขึ้นว่า “หลังจากคุณแม่หนูป่วย คุณพ่อหนูก็เป็นคนดูแลเธออย่างนั้นเหรอ?”“ใช่ค่ะ”หลินอู๋หลุบตาลงต่ำ มองไปที่เฟิงจิ่งซินแล้วพูดว่า “คุณย่าทวดหนูสั่งให้คุณพ่อหนูทำแบบนี้ใช่ไหม?”เฟิงจิ่งซินส่ายหน้า ตอบกลับว่า “ไม่ใช่ค่ะ เมื่อวานคุณแม่ไม่สบายตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง หลังจากรู้ว่าคุณแม่ป่วย คุณพ่อก็ดูแลคุณแม่ไปด้วย ขณะเดียวกันก็โทรให้คนใช้เฮลิคอปเตอร์ไปรับคุณปู่จางเข้ามาดูอาการให้คุณแม่ แล้วหลังจากที่คุณปู่จางมาถึง คุณย่าทวดจึงจะรู้ว่าคุณแม่ป่วยแล้วค่ะ”คุณปู่จางที่เฟิงจิ่งซินพูดถึง หลินอู๋ก็พอจะเดาได้ว่าอีกฝ่ายเป็น

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 511

    ทางด้านหรงฉือกับเหยียนอวิ้นจือพวกเขากำลังนั่งคุยระลึกความหลังกันอย่างสนุกสนานในห้องส่วนตัว อีกด้านหนึ่งเฟิงถิงเซินกลับเพิ่งจะถึงห้องส่วนตัวและนั่งลงได้ไม่นาน ก็มีโทรศัพท์โทรเข้ามาแล้วเฟิงถิงเซินออกไปรับโทรศัพท์ด้านนอกส่วนหลินอู๋หยิบวารสารที่พกติดตัวออกมา พูดขึ้นว่า “ซินซิน น้าอ่านหนังสือแปบหนึ่งก่อนนะ หนูเล่นเองคนเดียวไปก่อนได้ไหม?”“ได้ค่ะ” ถึงเฟิงจิ่งซินจะใช้ชีวิตอยู่ในประเทศเอนาวาสองปี ภาษาอังกฤษของเธอค่อนข้างดีเลยทีเดียว เมื่อเห็นหน้าปกกับชื่อของวารสารที่อยู่ในมือหลินอู๋ ก็พูดขึ้นว่า “คุณน้า วารสารเล่มนี้คุณพ่อก็มีค่ะ”หลินอู๋รู้ว่าเฟิงถิงเซินติดตามข่าวสารล่าสุดของแวดวงเอไออย่างใกล้ชิดมาโดยตลอดยิ่งไปกว่านั้น ตอนที่เธอถามเมื่อสองวันก่อน ตอนนั้นเฟิงถิงเซินก็บอกว่าเขาอ่านแล้วด้วยเหตุนี้ พอได้ยินเฟิงจิ่งซินพูดแบบนั้น เธอก็พูดว่า “อื้ม น้ารู้”พูดถึงเรื่องนี้ เฟิงจิ่งซินก็นึกถึงหรงฉือขึ้นมา อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “วันนั้นคุณแม่กลับมา คุณพ่อกลัวว่าคุณแม่จะเบื่อเลยขึ้นไปหยิบหนังสือจากชั้นบนลงมาให้คุณแม่อ่าน คืนวันนั้น หลังจากที่เห็นคุณแม่อ่านจบแล้ว คุณพ่อยังพูดคุยถึงเนื้อหาในวารส

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 510

    ตอนบ่าย หรงฉือเพิ่งกลับมาจากเฟิงซื่อได้ไม่นาน จู่ ๆ โทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาเป็นแพทย์เจ้าของไข้ประจำแผนกจิตเวชของหรงอิ้งเซิ่งโทรมา บอกว่าตอนบ่ายหรงอิ้งเซิ่งเหมือนจะได้สติขึ้นมาอยู่ช่วงหนึ่ง แต่ไม่นาน สภาพจิตใจก็เข้าสู่สภาวะล่มสลาย ซึ่งแทบจะไม่เคยเกิดขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้หรงฉือสีหน้าเปลี่ยนไป รีบมุ่งไปที่โรงพยาบาล แล้วพูดขึ้นว่า “เป็นไปได้ยังไง? ตกลงเกิดอะไรขึ้นกันแน่คะ?”“พวกเราได้ตรวจสอบอย่างละเอียดแล้ว ตอนนี้ยังไม่พบความผิดปกติใด ๆ ครับ”หากไม่มีการกระตุ้นจากภายนอก หรงอิ้งเซิ่งจะแสดงอาการแบบนี้ออกมาได้อย่างไร?หรงฉือดูในกล้องวงจรปิด เห็นหรงอิ้งเซิ่งที่กำลังนอนหลับหลังจากทานยา จากนั้นเธอก็คุยกับหมออีกสักพัก ถึงจะเดินลงบันไดด้วยจิตใจที่หนักอึ้งตอนที่ลิฟต์มาถึงชั้นล่าง พอประตูลิฟต์เปิดออก หรงฉือเงยหน้าขึ้น ก็สบเข้ากับสายตาของซุนลี่เหยาและคุณยายซุนพอดีเมื่อซุนลี่เหยาเห็นหรงฉือ รีบจ้องมองเธอเขม็งทันที หลังจากนั้นก็ส่งเสียงฮึเสียงหนึ่ง เชิดหน้าขึ้นด้วยความหยิ่งผยอง แล้วพยุงคุณยายซุนเข้าไปในลิฟต์ภายในลิฟต์ยังมีคนอื่น ๆ อีก หลังเข้าไปในลิฟต์ ซุนลี่เหยามองใบหน้าด้านข้างของหรงฉื

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 509

    “ไม่ต้องหรอกค่ะคุณย่า” หรงฉือพูดว่า “หนูยังมีงานที่ต้องจัดการนิดหน่อย อาหารเย็นก็ไม่กินแล้ว”หรงฉือมีงานต้องไปจัดการเสียที่ไหน? เห็นได้ชัดว่าไม่อยาก และคิดว่าอยู่ที่นี่นาน ๆ ก็ไม่ดีตามหลักแล้ว เธอกับเฟิงถิงเซินยังไม่ได้หย่ากันอย่างเป็นทางการ หรงฉือยังคงเป็นคนของตระกูลเฟิง ไม่ถึงกับต้องเป็นแบบนี้ แต่หรงฉือคิดดูแล้ว บางทีตั้งแต่เธอกับเฟิงถิงเซินเริ่มเตรียมจะหย่ากัน เธอก็ได้ขีดเส้นแบ่งเขตภายในใจระหว่างตัวเองกับเฟิงถิงเซินไปแล้วเรื่องพวกนี้ จริง ๆ แล้ว คุณย่าเฟิงล้วนเข้าใจดีในเมื่อหรงฉือยืนกราน เธอก็ไม่ควรโน้มน้าวไปมากกว่านี้อีกเธอจ้องเฟิงถิงเซินอย่างดุร้ายเฟิงถิงเซินทำเป็นมองไม่เห็น มองหรงฉือแล้วพูดขึ้นว่า “ผมไปส่งคุณ”“ไม่ต้องหรอก” หรงฉือปฏิเสธ พูดว่า “คุณทำงานไปเถอะ ให้คนขับรถไปส่งฉันก็ได้” เฟิงถิงเซินก็ไม่ได้ยืนกรานอีกต่อไป ก่อนจะตอบกลับว่า “โอเค”หรงฉือกลับห้องไปหยิบกระเป๋า ก็เตรียมจะออกไปแล้วคุณย่าเฟิงและเฟิงถิงเซินต่างก็ลงมาชั้นล่างเพื่อไปส่งเธอเฟิงจิ่งซินเพิ่งรู้ว่าเธอจะไปแล้ว ก็อาลัยอาวรณ์มาก พูดว่า “คุณแม่ ทำไมคุณแม่กลับเร็วจังเลยละคะ?”“อืม” หรงฉือลูบศีรษะข

  • คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว   บทที่ 508

    หลังหรงฉือวัดอุณหภูมิเสร็จ ฝืนรออยู่นานมาก ยังไม่เห็นเฟิงถิงเซินกลับมา ไม่นานเธอก็เผลอหลับไปอย่างไร้เรี่ยวแรงพอเธอตื่นขึ้นมาอีกที ตอนลืมตาขึ้น เฟิงถิงเซินกลับยังนั่งอ่านหนังสืออยู่ตรงนั้นหลังเห็นเธอตื่น แล้วมองมาทางตัวเองอย่างเหม่อลอย แต่สายตาของเธอกลับไม่ได้จ้องมองมาที่ตัวเอง เฟิงถิงเซินจึงลุกขึ้น เดินเข้ามาแตะหน้าผากที่ชุ่มเหงื่อของเธอเล็กน้อย แล้วถามว่า “เป็นอะไรหรือเปล่า?”พวกเขาไม่ได้สัมผัสถึงเนื้อถึงตัวกันมานานมากแล้วจริง ๆ หรงฉือไม่คุ้นชินกับการสัมผัสของเขาสักเท่าไรแม้จะรู้ว่าเขากำลังช่วยวัดอุณหภูมิให้เธอ แต่หรงฉือยังคงปัดมือของเขาออก แล้วส่ายหน้าโดยไร้เสียงเบา ๆ เธอแค่แปลกใจที่เขายังอยู่ก็เท่านั้นเธอยังคิดว่า ก่อนหน้านี้พอเขารับโทรศัพท์ก็ออกจากบ้านเดิมไปแล้วเสียอีก เธอเริ่มเหงื่อออกไปทั้งตัวอีกครั้ง ตอนนี้จึงมีเค้าลางว่าไข้ลดลงอย่างเป็นทางการแล้วร่างกายเหนียวเหนอะหนะไม่สบายตัวมาก เธอจึงเปลี่ยนเสื้อผ้าที่สะอาดอีกหนึ่งรอบ หลังทานข้าว และนั่งพักครู่หนึ่งก็หลับไปอีกครั้งตอนที่เธอตื่นมาอีกครั้ง ก็เป็นตอนบ่ายแล้วจนถึงตอนนี้ ไข้ของเธอก็ลดลงอย่างสิ้นเชิงเวลานี้ เ

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status