ฟ้าคราม....
"ขอสวยลงสนามแข่งด้วยได้ป่าวอ่ะ"
"ไม่ต้อง นั่งรอเฉยๆก็พอเข้าใจไหม"
".............." เงียบครับไม่มีสัญญาณตอบรับจากคนข้างๆ
"เข้าใจไหมที่พูดน่ะตอบดิ" ผมถามย้ำอีกครั้งเพราะถ้ายังไม่ยอมตอบผมจะวกรถกลับแล้วเอายัยตัวแสบไปส่งบ้าน
"ไม่เข้าใจอ่ะ ไปสนามแข่งแล้วให้นั่งอยู่เฉยๆมันจะไปสนุกอะไรอ่ะสวยขอลงแข่งด้วยไม่ได้เหรอคะ><"
"ขับรถเป็น??" ผมแค่ลองถามเล่นๆเพราะถึงยัยนี่จะขับเป็นผมก็คงไม่ยอมให้ลงแข่งหรอกเกิดเป็นอะไรขึ้นมาคนซวยคือผมคนเดียวเลย
"ไม่อ่ะไม่เป็น" ข้าวสวยส่ายหน้าตอบหน้าตาย
"ไม่เป็นแล้วจะขับยังไง"
"ก็ไม่ได้จะขับเองซะหน่อยสวยแค่นั่งไปกับพี่ไง"
"เห้ยไม่เอาพี่ไม่เคยให้ใครนั่งไปด้วยมันอันตราย"
"ไม่อันตรายหรอกสวยเคยนั่งมา... อุ๊บ!!!" ข้าวสวยรีบเอามือปิดปากตัวเองทันที
"เคยนั่งมาอะไร" ผมหันขวับไปถามคนข้างๆทันที
"เอ่อก็...ก็ตอนนั้นสวยอยากรู้ว่าความรู้สึกตอนอยู่ในสนามมันเป็นยังไงสวยก็เลยขอเพื่อนให้พาสวยขึ้นไปนั่งบนรถด้วย"
"ว่าไงนะ!!!" เสียงตอบอู้อี้เหมือนรู้ความผิดของตัวเองทำเอาผมแทบอยากจะบีบคอคนพูด
"แล้วพี่จะตะคอกใส่สวยทำไมอ่ะก็ตอนนั้นสวยแค่อยากลองเฉยๆนี่นา"
"แล้วมันใช่เรื่องน่าลองไหมวะทำอะไรไม่รู้จักคิดเกิดเป็นอันตรายเป็นอะไรขึ้นมาพ่อแม่พี่น้องปู่ย่าตายายเราจะเป็นยังไงจะเสียใจแค่ไหน" ที่ผมดุเพราะผมเคยมีประสบการณ์เฉียดตายมาแล้วไงผมถึงไม่อยากให้ข้าวสวยเจอแบบที่ผมเคยเจอ
"ฮึก ฮึก ฮึก ฮืออออ พี่ดุสวยทำไม ฮือออออ ฮืออออ" เอาเอาเข้าไปพูดแค่นี่ร้องไห้ แล้วจะไม่ให้ผมโมโหได้ยังไงถ้าเป็นน้องสาวผมผมจับฟาดแล้วนะแต่นี่ไม่ใช่ไง
สนามแข่งรถF.T
"โหสนามแข่งรถที่นี่ใหญ่จังเลยอ่ะใหญ่กว่าสนามที่เพื่อนสวยพาสวยไปอีก" ผมมองข้าวสวยที่ตื่นเต้นกับสนามแข่งรถที่ผมพามาคนที่ร้องไห้ฟูมฟายจะเป็นจะตายเพราะโดนผมดุเมื่อครู่นี้หายไปไหนแล้วก็ไม่รู้ หึ เด็กหนอเด็ก ผมส่ายหน้าอย่างเอือมระอากับยัยตัวแสบก่อนจะเปิดประตูรถลงมา สนามแข่งรถแห่งนี้ที่ผมร่วมหุ้นกับเพื่อนของผมอีกคนมันชื่อไอ้เทมเปอร์เราลงขันกันสร้างสนามรถแข่งแห่งนี้เมื่อหลายปีก่อนก่อนที่ผมจะไปเรียนต่อซึ่งเรื่องนี้มีแค่พ่อเท่านั้นที่รู้ส่วนแม่ไม่รู้หรอกเพราะถ้าแม่รู้แม่คงสั่งห้ามเพราะแม่ไม่ชอบให้ผมแข่งรถแม่บอกมันอันตราย เพราะมันมีครั้งนึงตอนนั้นผมกำลังวัยรุ่นอายุประมาณสิบห้าสิบหกคือวัยอยากลองของอ่ะทั้งที่ตัวเองยังขับรถไม่แข็งไม่ได้เก่งอะไรเพิ่งหัดแข่งรถได้ไม่นานวันนั้นผมถูกท้าให้ลงแข่งกับคู่อริซึ่งยอมรับว่าผมก็ไม่อยากเสียหน้าไงก็เลยยอมลงและด้วยความที่ผมด้อยประสบการณ์ ขณะที่ผมขับรถด้วยความเร็วประมาณนึงรถที่ผมขับเกิดพลิกคว่ำกระทันหันไฟลุกท่วมรถโชคดีที่ไอ้เทมเปอร์มันหูตาไวสติมันดีมันรีบวิ่งลงมาช่วยผมออกจากรถก่อนที่เจ้าหน้าที่สนามแข่งจะเข้ามาดับไฟ พอแม่รู้แม่ก็เป็นลมทันทีและสั่งห้ามผมไม่ให้ลงแข่งอีกเพราะแบบนี้ผมถึงไม่กล้าบอกแม่ว่าผมมีหุ้นอยู่ที่สนามแข่งรถที่นี่แต่ผมก็มักจะแอบมาฝึกซ้อมที่นี่เป็นประจำแต่ผมก็เซฟตัวเองทุกครั้งนะเพราะเหตุการณ์ครั้งนั้นมันทำให้ผมรู้จักรักตัวกลัวตายเพราะผมรู้ว่าถ้าผมเป็นอะไรไปทุกคนต้องเสียใจโดยเฉพาะแม่กับพ่อที่รักผมยิ่งกว่าอะไร ส่วนวันนี้ผมแค่จะมาลองลงแข่งเล่นๆเพราะผมไม่ได้ลงสนามมานานแล้วขอเคาะสนิมสักหน่อยซึ่งก่อนมาผมก็บอกพ่อไปแล้วเผื่อแม่ถามหาผมพ่อจะได้แก้ตัวให้ผมได้แต่พ่อก็กำชับว่าให้ผมดูแลตัวเองเซฟตัวเองให้ดีผมรับปากกับพ่อแล้วว่าผมจะดูแลตัวเองให้ดีที่สุดพ่อถึงยอมให้ผมมาที่สนาม
"สนามของใครอ่ะคะ"
"พี่กับเพื่อนหุ้นกะ...เอ่อของเพื่อนน่ะ" ผมเผลอพลั้งปากพูดออกไปอย่างลืมตัว
"ฮั่นแน่เมื่อกี๊พี่บอกว่าหุ้นกับเพื่อนสวยได้ยินนะ"
"หูฝาดแล้วเราอ่ะเป็นเด็กเป็นเล็กหูฝาดได้ไงวะ"
"อย่ามาเฉไฉสวยได้ยินจริงๆ พี่จะหุ้นกับเพื่อนก็ไม่เห็นเป็นไรเลย เอ ว่าแต่เรื่องนี้อาบัวรู้มั้ยอ่ะว่าพี่มีหุ้นอยู่ที่นี่แถมยังลงแข่งเองด้วย สวยจำได้นะเมื่อตอนนั้นที่พี่รถคว่ำอาบัวสั่งห้ามพี่ไม่ให้ลงแข่งไม่ใช่เหรอใช่ไหม สวยจำได้" ยัยนี่จะมาความจำดีอะไรตอนนี้วะตอนนั้นยัยนั่นยังอยู่ชั้นประถมอยู่เลย
"แม่พี่ไม่รู้และเพราะฉะนั้นพี่ขอสั่งห้ามว่าอย่าปากโป้งไปบอกแม่พี่เข้าใจไหม"
"ไม่เข้าใจ"
"ยัยตัวแสบ"
"ถ้าพี่ไม่อยากให้สวยบอกอาบัวพี่ก็ต้องพาสวยมาที่นี่ด้วยทุกครั้งเข้าใจมั้ยคะ"
"นี่ขู่งั้นเหรอ"
"เปล่าขู่แค่มีข้อต่อรองเฉยๆ^^"
"เห้ยไอ้ครามมาแล้วเหรอวะ"
"อืม" ไอ้เทมเปอร์มันเดินออกมาจากห้องรับรองพอดีและวันนี้มันก็จะลงแข่งด้วยเหมือนกันมันพูดกับผมแต่ตามันไม่ได้มองหน้าผมเลยสายตาของมันจ้องมองมายังคนตัวเล็กที่ยืนอยู่ข้างๆที่ส่งยิ้มหวานให้ใครต่อใครไปทั่วสนามตั้งแต่เดินลงมาจากรถแล้วเห็นแล้วขัดหูขัดตายังไงชอบกล
"เอ่อ...สวัสดีค่ะ" ข้าวสวยยกมือไหว้ไอ้เทมเปอร์ซึ่งมันก็รับไหว้พร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปากของมันซึ่งผมรู้ว่าสายตาของมันกำลังสื่อถึงอะไรถ้าไม่ใช่สายตาที่มันไว้ใช้มองเหยื่อที่มันสนใจ
"นั่นใครวะน้องสาวมึงเหรอไอ้คราม"
"เปล่าค่ะหนูเป็นว่าที่คู่หมั้นพี่ครามค่ะ^^" ข้าวสวยตอบแทนผมไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วแต่แปลกมากที่คำตอบของเธอที่ตอบไอ้เทมเปอร์มันเป็นคำตอบที่ผมพอใจไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
"เห้ยอะไรวะมึงไปมีว่าที่คู่หมั้นตั้งแต่เมื่อไหร่วะทำไมกูไม่รู้มึงเพิ่งกลับมาไม่ใช่เหรอ"
"คือว่ากู.." ผมกำลังจะอธิบายแต่ก็ไม่ทันเพราะ...
"อ่อ เราสองคนเป็นคู่หมายกันมาตั้งแต่เด็กแล้วค่ะ^^" ผมคงไม่ต้องตอบคำถามเพื่อนแล้วล่ะมั้งมีคนตอบแทนให้ขนาดนี้แล้ว
"ว่าที่คู่หมั้นมึงน่ารักดีว่ะ กูอยากมีว่าที่คู่หมั้นน่ารักๆแบบนี้บ้างจัง"
"พี่คงต้องผิดหวังแล้วล่ะค่ะเพราะบนโลกใบนี้คงไม่มีใครน่ารักเท่าหนูอีกแล้ว^^" ชมตัวเองก็ได้ด้วยเหรอวะ ผมคิดเองในใจ
"นั่นน่ะสิพี่ก็คิดแบบนั้นเพราะน่ารักๆแบบน้องคงหาไม่ได้อีกแล้ว เอ่อว่าแต่น้องชื่ออะไรครับพี่ยังไม่รู้จักเลยส่วนพี่พี่ชื่อเทมเปอร์นะครับเป็นเพื่อนไอ้ฟ้าครามตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม"
"หนูชื่อข้าวสวยค่ะ^^"
"สวยสมชื่อ^^"
"พี่เทมเปอร์อย่าชมสวยแบบนี้สิสวยก็เขินเป็นนะคะ><"
"จะคุยกันอีกนานไหม ถ้ายังคุยกันไม่เสร็จกูจะได้เข้าไปเปลี่ยนชุดข้างในก่อน"
"สวยไปด้วยค่ะ เอ่อพี่เปอร์คะ"
"????"
"????"
"เอ่อคือเรียกพี่เทมเปอร์มันยาวไปขอสวยเรียกสั้นๆว่าพี่เทมได้ไหมคะ"
"ได้ครับเรียกพี่สั้นๆก็ได้แต่บางอย่างของพี่มันไม่ได้สั้นนะครับน้องสวย^^"
"มัน เอ่อหมายถึงอะไรเหรอคะที่พี่บอกว่ามันไม่ได้สั้น"
"5555ช่างมันเถอะครับอย่ารู้เลยบอกไปน้องก็คงไม่มีวันได้เห็นหรอกว่ามันสั้นหรือยาวไว้ดูของไอ้ครามเอาเองเถอะว่าสั้นหรือยาว55555" ผมมองหน้ากวนส้นตีนของเพื่อนรักที่มันมาทำยักคิ้วหลิ่วตาใส่ผมก่อนจะหันไปส่งยิ้มหวานให้ยัยตัวแสบที่ยืนหน้าบื้ออยู่ข้างๆผม
"ไอ้เทมเปอร์คู่ขามึงเดินตามมาโน่นละ" ผมหลอกไอ้เทมเปอร์เพื่อให้มันรีบไปจากตรงนี้คือตอนนี้ผมรู้ว่ามันกำลังอยากที่จะสลัดคู่ขาเก่าของมันทิ้งมันโทรไปบ่นกับผมแทบทุกวันว่าเบื่ออยากเลิกแต่ก็เลิกไม่ได้ พอมันได้ยินผมพูดแบบนั้นมันรีบเผ่นหนีไปแทบจะทันทีเหมือนนินจา
"อ้าวพี่เทมรีบไปไหนเหรอคะพี่คราม"
"ไม่รู้!!!อยากรู้ก็ตามมันไปดิ" ผมพูดอย่างไม่สบอารมณ์ก่อนจะสะพายกระเป๋าใบโปรดที่ใส่ชุดแข่งรถไว้ข้างในแล้วเดินเข้าห้องพักรับรองVIPที่มีแค่ผมกับไอ้เทมเปอร์เท่านั้นที่สามารถเข้าไปได้บอกตามตรงเลยนะผมไม่ค่อยโอเคที่มันมาพูดจาสองแง่สองง่ามใส่ยัยตัวแสบข้างๆที่ชอบถามโน่นนั่นนี่ไม่หยุดไม่ใช่อะไรหรอกนะผมแค่รำคาญ
รำคาญหรือหึงน้องเอาดีๆนะพี่คราม5555
ฟ้าคราม..."ฮือออ ฮืออออ ฮึก ฮึก ฮือออออ""เสียงอะไรวะ"ผมงัวเงียตื่นขึ้นมาในตอนเช้าเพราะเสียงอะไรบางอย่างแม้จะยังมีความง่วงอยู่ก็ตามเพราะเมื่อคืนกว่าจะได้นอนก็เกือบตีหนึ่งคือผมต้องรีบเคลียร์งานให้เสร็จก่อนที่ผมจะพาเมียสุดที่รักไปฮันนีมูนที่สวิตเซอร์แลนด์ คือเราแต่งงานกันมาได้หนึ่งปีแล้วครับผมก็เลยอยากพาข้าวสวยไปเที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ประเทศที่ผมเคยอาศัยอยู่กับแม่ที่นั่นตอนที่ผมยังเด็กและที่สำคัญเธอไม่เคยไปมาก่อนผมก็เลยอยากพาเธอไปตอนแรกเธอไม่อยากไปหรอกเพราะไม่อยากเจอมิวกี้แต่ผมก็บอกไปว่ามิวกี้เธอไปอยู่กับปู่กับย่าแล้วก็อาของเธอที่อเมริกาเพราะเหตุนี้ข้าวสวยถึงยอมไปอีกอย่างสวิตเซอร์แลนด์นับได้ว่าเป็นประเทศที่มีธรรมชาติที่สวยงามติดอันดับโลกใครๆก็อยากจะไปเผื่อบรรยากาศที่นั่นจะทำให้เราสองคนมีลูกเพิ่มขึ้นมาอีกสักคนสองคน ครับเราแต่งงานกันมาปีนึงแล้วแต่ข้าวสวยยังไม่ท้องเลยแม้ว่าเราจะไปตรวจมาแล้วก็ตามคุณหมอก็บอกว่าผมกับข้าวสวยแข็งแรงดีทั้งคู่แต่แปลกที่ลูกยังไม่ยอมมาสักที เห้อ คิดแล้วก็เศร้า "ฮืออออ คนใจร้าย ฮืออออ" เสียงของใครบางคนกำลังร้องไห้สะอึกสะอื้นดังอยู่ข้างๆ เป็นเสียงที่ผมคุ้นเคยเป็นอย
สามเดือนต่อมา...ปั่ก!!!! ปั่ก!!!!! ปั่ก!!!! ปั่ก !!!!"อ่าาาา เมียจ๋าาาาา""อื้ออออ ผัวจ๋าาาาา" เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังแข่งกับเสียงครางของคนสองคนที่ร่วมรักกันอย่างดุเดือดและเร่าร้อนบนเตียงกว้างแม้เวลาจะล่วงเลยนานหลายชั่วโมงแต่ดูเหมือนความต้องการของยังไม่มีที่สิ้นสุด ร่างสองร่างโรมรันเกี่ยวรัดกันอย่างสุขสมเนื้อแนบเนื้อทุกสัดส่วน"สวยจ๋าาา สวยของพี่ อืมมมม" จุ๊บ จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ ผมก้มลงไปดูดปากเมียรักก่อนจะขยับริมฝีปากลงมาครอบครองเต้าอวบอิ่มดูดดื่มความหอมหวานของเต้านมเมียปาดเลียรอบเต้ากัดเบาๆ ตรงจุกนมสีน้ำตาลอ่อน แม้จะมีลูกมาแล้วหนึ่งคนแต่หน้าอกของข้าวสวยยังเต่งตึงไม่มีหย่อนคล้อยเลยสักนิดทั้งที่เธอให้นมลูกมาตลอดสองปีเต็มแถมยังโดนผมดูดทึ้งดึงเย่ออยู่ทุกค่ำคืน ผมติดนมเมียนะบอกไว้ก่อนวันไหนไม่ได้ดูดไม่ได้กินมันนอนไม่หลับ"อืมมม นมเมียทำไมหวานได้ขนาดนี้ พี่จะคลั่งตายแล้วนะรู้มั้ยครับ""คลั่งไปเลยค่ะ คลั่งสวยให้ตายไปเลย สวยอยากให้พี่ครามคลั่งสวยแค่คนเดียว""ไม่ต้องบอกพี่ก็จะคลั่งแค่เมียคนดีของพี่แค่คนนี้คนเดียว จ๊วบ จ๊วบ อ่าาาา"จ๊วบ จ๊วบ จ๊วบ แผล่บ แผล่บ"อ๊าาาาาา ดูดแรงกว่านี้ค่ะพี่ครามขาาา
ข้าวสวย..."อ๊ะ อ๊าาาา่ สวยจะเจ็บค่ะพี่ครามขาา" ฉันครางออกมาเมื่อพี่ฟ้าครามสอดใส่ตัวตนอันใหญ่โตของเขาเข้ามาในตัวของฉันโดยที่ไม่สวมเครื่องป้องกันเพราะเรากำลังจะทำปฏิบัติภารกิจปั๊มลูกคนที่สองหรืออาจจะสามซึ่งฉันกับเขาก็ต้องมาลุ้นกันต่อไป แต่แม้ว่าเขาจะค่อยๆทำค่อยๆดันท่อนเอ็นเข้ามาอย่างช้าๆแต่มันก็ทำให้ฉันเจ็บและเสียวไปพร้อมๆกัน"ซี๊ดดดด อื่มมมม พี่ขอโทษครับเมีย จุ๊บ" พี่ฟ้าครามกดจูบลงมาที่หน้าผากพร้อมเอ่ยขอโทษฉันเสียงสั่นเล็กน้อยฉันคิดว่าเขาก็คงจะรู้สึกแบบเดียวกันเพราะใบหน้าของเขาดูทรมานมากก่อนที่เขาจะหยุดการกระทำของเขาโดยฉับพลันเมื่อฉันบอกเขาว่าเจ็บแต่ตัวตนของเขาก็ยังฝังตัวอยู่ในร่องรักของฉันไปแล้วเต็มลำ พอผ่านไปสักพักฉันก็ไม่ได้รู้สึกเจ็บเท่าเมื่อกี้แล้วฉันจึงอยากให้เขาทำต่อ"พี่หยุดทำไมคะ" คือเขานิ่งมากเอาหน้ามาซบลงที่ซอกคอของฉัน ฉันรับรู้ได้ถึงเสียงหายใจหอบถี่ของเขาฉันรู้ว่าเขาก็คงจะทรมานไม่ต่างจากฉัน"พี่กลัวสวยจะเจ็บมากกว่านี้ไงครับ สวยจะให้พี่หยุดมั้ยพี่จะได้หยุด""แล้วพี่อยากหยุดมั้ยล่ะคะ" ฉันแกล้งถามไปงั้นแล่ะเราต่างคนต่างรู้ดีว่าเราต้องการกันและกันมากแค่ไหน"สวยก็รู้ว่าพี่ไม่อย
ข้าวสวย....หลังจากผ่านไปหลายวันตอนนี้น้องฟ้าสวยเริ่มจะเข้ากับคนอื่นๆในครอบครัวได้แล้วโดยเฉพาะพ่อของฉันกับอาฟิวที่มักจะแย่งกันเอาใจหลานสาวหลานอยากได้อะไรอยากกินอะไรก็จะรีบไปหามาให้แทบทันทีจนแม่ฉันกับอาบัวต้องคอยปรามเพราะเกรงว่าหลานสาวจะเป็นเด็กเอาแต่ใจแต่พ่อกับอาฟิวก็ไม่มีใครฟังเพราะกลัวหลานสาวจะไม่รักแล้วยิ่งลูกสาวของฉันเป็นเด็กขี้อ้อนขนาดนี้อย่าว่าแต่แด๊ดดี้ของแกจะหมดตัวเลยค่ะคุณปู่คุณตาก็คงจะไม่เหลือเช่นกัน"ครามไหนๆก็ไหนๆแล้วมีหลานให้ลุงอุ้มอีกสักคนสองคนสิลุงจะได้ไม่ต้องแย่งกับพ่อเราดูดิอุ้มหลานไปเล่นน้ำโน่นละ" พ่อของฉันบ่นกับพี่ฟ้าครามหลังจากที่อาฟิวอุ้มน้องฟ้าสวยออกไปเล่นน้ำที่สระหน้าบ้านทำเอาพ่อของฉันหัวฟัดหัวเหวี่ยงเพราะเพิ่งเล่นกับหลานได้แป๊บเดียวก็โดนอาฟิวแย่งไปซะแล้ว"ครับเดี๋ยวคืนนี้ผมจัดการให้ครับ^^" พี่ฟ้าครามพูดพร้อมกับส่งยิ้มเจ้าเล่ห์มาทางฉัน"พ่อคะทำไมพูดแบบนี้อ่ะสวยก็อายเป็นนะคะ>น้องไม่ต้องอายหรอกลูกก็มีแล้วคนนึงจะมีหลานให้พ่ออุ้มอีกสักคนสองคนจะเป็นไรไปจริงไหมตาคราม""จริงครับคุณพ่อตา""5555เอาล่ะยังไงคุณพ่อตาก็จะรออุ้มหลานนะคุณลูกเขยแต่ถ้าได้แฝดยิ่งดีเลยอย่า
ข้าวสวย....ฉันเดินเข้าไปในห้องหลังจากพี่ฟ้าครามเล่านิทานให้ลูกฟังจนจบแล้ว"เล่านิทานให้ลูกฟังจบแล้วเหรอคะคุณแด๊ดดี้ว่าแต่นิทานซึ้งมากเหรอคะทำไมตาแดงๆ^^" ฉันเอ่ยแซวพี่ฟ้าครามที่ยังตาตุบๆแดงๆอยู่นั่นก็แสดงว่าก่อนหน้านี้เขาคงจะร้องไห้อย่างหนัก"อย่าแซวพี่สิครับที่รัก ก็คนมันดีใจนี่นาที่ได้เจอลูกสักทีแถมลูกของเราก็ยังน่ารักมากๆด้วยพี่หลงจนไม่รู้จะหลงยังไงแล้ว" พี่ฟ้าครามยิ้มให้ฉันก่อนจะดึงลูกเข้ากอดแล้วหอมฟอดใหญ่โดยที่ลูกสาวตัวน้อยก็ไม่ยอมกระโดดหอมแก้มพ่อคืน"แด๊ดดี้ก็น่ารักค่าาาา^^" ดูความขี้อ้อนของลูกสาวฉันสิคะ"หม่ามี้ขาาาาา" น้องฟ้าสวยกระโดดลงจากเตียงแล้ววิ่งมากอดเอวฉันแน่น"ว่าไงคะคนสวยของหม่ามี้" ฉันนั่งลงแล้วคุยกับลูก"แด๊ดดี้ของน้องใจดีที่สุดเลยค่าหม่ามี้ แด๊ดดี้บอกว่าถ้าน้องอยากได้อะไรแด๊ดดี้ก็จะซื้อให้ด้วยค่า น้องรักแด๊ดดี้ที่สุด น้องจะอยู่กับหม่ามี้กับแด๊ดดี้ที่เมืองไทยค่า" ฉันยิ้มให้ลูกเมื่อได้ยินคำตอบเพราะก่อนหน้านี้ฉันบอกกับลูกว่าต่อไปนี้ลูกจะต้องอยู่ที่นี่จะไม่ได้บินกลับไปที่อยู่ที่ฝรั่งเศสซึ่งตอนนั้นลูกก็ทำหน้าเศร้าคล้ายกับว่าไม่อยากอยู่ที่นี่จนกระทั่งตอนนี้พอมาได้ยินแกพู
ฟ้าคราม....ตอนนี้ผมยังคงนั่งๆเดินๆวนไปวนมาเหมือนหนูติดจั่นอยู่ในห้องนอนของตัวเองไม่กล้าที่จะเดินออกไปหลังจากที่ข้าวสวยออกไปได้สักพัก ข้าวสวยเธอชวนผมให้ออกไปรอรับลูกข้างล่างด้วยกันเพราะพี่ชายของเธอกำลังจะเดินทางมาถึงแต่ผมขอเวลาเธอทำใจก่อน บอกตามตรงว่าผมยังอยู่ในอาการช็อคหลังจากที่รู้ว่าตัวเองมีลูกซึ่งลูกสาวของผมอายุได้สี่ขวบแล้วด้วยมันเป็นอะไรที่ไม่น่าเชื่อแต่มันก็เกิดขึ้นแล้วผมมีลูกแล้วจริงๆใช่ไหมและมันก็ไม่ใช่ความฝันมันคือความจริงหลังจากที่ผมได้เห็นรูปของลูกสาวตัวน้อย ข้าวสวยเอารูปของลูกมาให้ผมดู รูปของแกตั้งแต่ยังอยู่ในห้องจนกระทั่งวันแรกที่แกลืมตาขึ้นมาดูโลกแกน่ารักมากผมมองดุรูปของลูกในมือถือของข้าวสวยซ้ำแล้วซ้ำเล่าวนดูไปแบบนั้นอย่างไม่รู้สึกเบื่อดูไปก็ร้องไห้ไปยิ้มไปเหมือนคนเป็นไบโพล่า เด็กหญิงฟ้าสวย คือชื่อของลูกสาวของผมเองเป็นชื่อที่ข้าวสวยตั้งให้เธอบอกว่าอยากให้มีชื่อของผมกับเธอรวมกันอยู่ในชื่อของลูกเธอก็เลยตั้งชื่อว่าเด็กหญิงฟ้าสวยซึ่งผมก็ว่าชื่อนี้เป็นชื่อที่เพราะดีเพราะมากๆเหมาะกับลูกของผมมากๆเพราะเธอทั้งน่ารักสดใสเหมือนท้องฟ้าที่สวยงาม แต่ในความดีใจก็มีความรู้สึกแย่อยู่ข้