“แย่แล้ว พวกออร์คบุก คุ้มกันที่นี่ให้แน่นหนา อย่าให้อะไรออกไปได้” หัวหน้ายามสั่ง
“ต้องลงมือแล้วท่านศุภมิตร” อรุณนภาสะกิด ศุภมิตรเริ่มร่ายมนตร์ โซ่และปลอกคอที่ล่ามชูเท็นโดจิหลุดออก ประตูกรงเปิดเขารีบเดินออกมา
“เฮ้ยทำอะไ...” พวกยามหันมาเห็นแต่เขายังไม่ทันได้พูดจบก็ถูกฆ่าโดยพวกออร์ค
“ท่านปล่อยมันออกมาทำไม” อรุณนภาตกใจมาก ศุภมิตรหน้าเสีย “ขะ ข้า ตายล่ะ ข้าร่ายคาถากว้างเกินไปเลยทำให้ปล่อยทุกตัว” แม้จะมีออร์คตรงหน้าหลายตัว แต่ชูเท็นโดจิกลับมองหาอะไรบางอย่าง
อิบารากิโดจิเหมือนจะรู้ใจ ส่งน้ำเต้าใส่เหล้าใส่ ชูเท็นโดจิรีบยกเหล้ามาดื่ม แล้วพูดว่า
“กำลังอยากจะหาอะไรเล่นพอดี” เขารวมพลังไปหมัดและชกเข้าที่ลำตัวของออร์คตัวหนึ่งมันกระเด็น และกระอักเลือดออกมา พวกที่เหลือกำลังจะลงมือแต่ จู่ ๆ ก็ล้มลงไป เลือดไหลอาบ
“อิบารากิ ข้ายังไม่ทันได้สนุกจะรีบฆ่าพวกมันทำไม”
“มันใช่เวลามั้ยเนี่ยรีบหนีเร็วเข้า” อรุณนภาตะโกนเสียงดังสั่น แต่ชูเท็นโดจิกลับบอกว่า “ข้าจะหาตัวไอ้หน้าอ่อนนั่นก่อน ! ” พูดจบชูเท็นโดจิก็รีบออกไปจากคุก ทุกคนรีบตามไป
ตอนนี้ในเมืองเกิดสงครามขึ้นแล้ว พวกออร์คนำกำลังมาบุกเมืองอินทราเทพ บ้านเมืองที่เคยสงบ สวยงาม ตอนเต็มไปด้วยเสียงกรีดร้องและซากศพ อมเรศวร เห็นทุกอย่างก็โกรธแค้น จึงนำทัพมาสู้กับเหล่าออร์คด้วยตนเอง เขาใช้ดาบคู่ ต่อสู้สังหารออร์คไปหลายตน
“ไอ้หน้าอ่อน นั่นน่ะเหรอ ที่จับพวกออร์คไปเป็นสิบแล้ว นี่อย่าบอกนะว่าพวกออร์คเนี่ยมือตก ขนาดแพ้ไอ้มนุษย์หน้าอ่อนแบบนั้น” เจ้าของเสียงเป็นสิ่งมีชีวิตรูปร่างสูงใหญ่ หัวโต ปากกว้าง ตาโตผิวของมันเป็นหินสีเทา ข้างตัวมีสัตว์ประหลาดนอนหมอบอยู่ พวกออร์คมองมันอย่างไม่พอใจนัก แต่มันไม่สนใจ
“ไปเล่นกับมันหน่อย เพื่อนยาก”
อมเรศวรสู้กับเหล่าออร์คด้วยความกล้า ทุกดาบที่กวัดแกว่งไปนั้นต้องสังหารออร์คได้อย่างน้อยหนึ่งตัว เสียงคำรามดังขึ้นมา สัตว์ร้ายตัวหนึ่งกระโจนมาหาเขา อมเรศวรกระโดดหลบได้อย่างหวุดหวิด เห็นสัตว์ร้ายนั่นชัด ๆ มันเป็นสิงโต แต่มีเขาเหมือนแพะมีขาหลังเป็นแพะ และมีหางเป็นงู
“ไวดีนี่ไอ้หน้าอ่อน”
อมเรศวรได้ยินก็หันขวับไปทันที ดาบกระทบกับผิวของแม่ทัพของเหล่าออร์ค เสียงดังเหมือนกับเอาเหล็กไปกระทบหิน
“คิดว่า ดาบของแกจะทำอะไรเจอโรมผู้นี้ได้งั้นเหรอ” อมเรศวรตะลึงเขากระหน่ำดาบใส่ไม่หยุด แต่กลายเป็นดาบของเขาหัก
“ออร์คมีความสามารถแบบนี้ด้วยเหรองั้น”
เจอโรมหัวเราะเสียงดังลั่นและพูดว่า “ข้าไม่ใช่ออร์คโวย ข้าเป็นโทรลล์ส ! ผิวข้าไม่มีอะไรทำลายได้หรอก” พูดจบมันก็ออกหมัดมาอมเรศวรหลบได้อย่างหวุดหวิดแต่ถูก สัตว์ร้ายของเจอโรมชนกระเด็น เป็นช่องว่างให้เจอโรมชกเขาซ้ำ เลือดไหลกบปาก อมเรศวรรู้สึกเหมือนถูกฟาดด้วยก้อนหินก้อนใหญ่ ๆ เขาต้องรีบตั้งตัวเจ้าสัตว์ร้ายเข้าโจมตี อมเรศวรพยายใช้การก้าวเท้าแบบมวยสยามหลบหลีก
“แกนี่ไวเหมือนกัน แต่ไม่มีทางจะจัดการคิไมร่าได้ด้วยท่ามวยแบบนั้นหรอก” เจอโรมพูดเย้ย
ซึ่งที่เจอโรมพูดก็ไม่ผิด วิชามวยสยามอาจจะร้ายกาจ แต่ไม่ได้ถูกออกแบบมาให้สู้กับสัตว์ร้ายตัวใหญ่เช่นนี้
“ก้มลงไอ้หน้าอ่อน” เสียงหนึ่งดังขึ้นมา อมเรศวรก้มหัวลง หินก้อนหนึ่งลอยมาโดนหน้าของคิไมร่าเต็ม ๆ มันหัวแตกมีเลือดไหลซิป ๆ คนที่ขว้างออกไปคือซูเท็นโดจิ
“ไอ้ตัวมีเขา”
“ข้ามีเชื่อเฟ้ย ไอ้หน้าอ่อน ข้าชื่อ ชูเท็นโดจิ” พูดจบเขาก็ยกเหล้าขึ้นดื่ม อมเรศวรไม่เข้าใจว่าทำไม ชูเท็นโดจิต้องมาช่วยตน
“ทำไมเจ้าช่วยข้า”
“อย่าเข้าใจผิด ข้ายังไม่ได้ชนะ ไม่ยอมให้เจ้าตายหรอก” พูดจบชูเท็นโดจิก็ยกเหล้าขึ้นดื่ม
เจ้าคิไมร่ากระโจนมาหมายจะเล่นงานชูเท็นโดจิ แต่เขาพ่นไฟออกมา ทำให้มันถอยไป ส่วนอมเรศวรตั้งท่ามวยเตรียมต่อสู้กับเจอโรม เขาออกหมัดแรกไปแต่เมื่อหมัดกระทบกับผิวของเจอโรมกลายเป็นว่าเขาต้องเจ็บมือแทน เพราะผิวเจอโรมนั้นแข็งเหมือนกับหิน
“คิดว่าต่อยหินแล้ว หินมันจะรู้สึกเหรอ !” เขาจึงเปลี่ยนเป้า เป็นการแตะตัดขาแทน
“เถรกวาดลาน” แต่กลายเป็นว่าเขาเจ็บขาแทบหัก อมเรศวรต้องรีบถอยหลบ เขาไม่เห็นช่องทางโจมตี จึงเอาห่อใบพลูเอามาเคี้ยวและก็กลืนเข้าไป เจอโรมออกหมัด แต่อมเรศวรปัดหมัดด้วยหมัดขวาและชกเลยปลายคาง คราวนี้อีกฝ่ายกระเด็นหน้ามีรอยร้าว
“เอราวัณเสยงา”
“อะไรเนี่ย” เจอโรมตกใจมาก อมเรศวรตั้งท่าเตรียมพร้อม “ว่านเอราวัณ พรรณคุณเพิ่มกำลังของผู้กินเป็นเวลาหนึ่งช่วงยาม”
เจอโรมได้ยินยิ่งคลั่ง ออกหมัดไป แต่อมเรศวรก้าวเท้าหลบใช้หมัดซ้ายปัดและย่อตัวลงและสวนกลับด้วยหมัดทั้งสองเข้าที่ปลายคางรอยร้าวที่หน้ามีมากขึ้น
“หนุมานถวายแหวน”
อมเรศวรคิดว่าต้องหาทางกำจัดเจอโรมให้เร็วที่สุด จากการต่อสู้ที่ผ่านมานั้น ทำให้อมเรศวรพอจะอ่านการโจมตีของเจอโรมได้แล้ว จึงเปลี่ยนเล็งเป้าหมายและแตะกวาดต่ำ
“เถรกวาดลาน”
แรงแตะอันหนักหน่วงขาของเจอโรมร้าว การเคลื่อนไหวของเจอโรมเป็นไปด้วยความยากลำบาก เป็นโอกาสเผด็จศึกแล้ว เขากระโดดเหยียบเข่าของเจอโรมและกระโดดตีเข่าใส่ให้ไปเต็มหน้า ๆ แรงกระแท็กทำให้รอยร้าวเต็มหน้าของเจอโรม มันล้มหัวแตกเป็นเสี่ยง ๆ
ทางด้านชูเท็นโดจิ การต่อสู้กับคิไมร่านั้นไม่ง่าย มันอาจพูดไม่ได้ แต่มีความฉลาดและสัญชาตญาณการต่อสู้ของมันนั้นจัดว่าสูงพอ ๆ กับมนุษย์เลยทีเดียว หัวงูที่หางก็เหมือนแนวป้องกันไม่ให้โจมตีจากด้านหลังได้ ชูเท็นโดจิจึงจับหินมาก้อนหนึ่งและซัดออกไป เจ้าคิไมร่าหลบได้อย่างว่องไว เขาพลาดโดนมันตะบบ กรงเล็บเข้าที่อกเต็ม ๆ เป็นแผลยาว เขารีบถอยออกมาและพ่นไฟออกมา อีกฝ่ายจึงรีบถอยไปตามสัญชาตญาณ ชูเท็นโดจิรีบอ้อมไปด้านหลัง แต่หัวงูที่หางรีบพ่นพิษใส่ เขารีบกระโดดหลบพิษเฉียดหน้าเขาไปนิดเดียว ไม่งั้นเขาตาบอดแน่ มันรีบหันมาโจมตี ชูเท็นโดจิยกแขนซ้ายขึ้นรับตามมีตามเกิดเขา โดนกัดจมเขี้ยว เลือดไหลทะลักหัวงูที่หางกำลังจะมาพ่นพิษใส่เขา ชูเท็นโดจิจับเขาแพะของมันออกแรง หักเขาของมันได้ คิไมร่าร้องลั่นปล่อยแขนของเขาทันที แต่การกัดครั้งนี้ทำให้แขนซ้ายของชูเท็นโดจิใช้งานแทบไม่ได้
คิไมร่าคำรามลั่นและเข้ามาโจมตีด้วยความโกรธ ชูเท็นโดจิหาจังหวะโจมตีส่วนกลับไปโดยการแทงเขาที่หักติดมือเข้าที่ตา มันร้องลั่นด้วยความเจ็บปวดและรีบถอยออกมา จึงเปลี่ยนการโจมตีเป็นการพ่นพิษที่หางแทน ชูเท็นโดจิได้แต่หลบไปมา แต่การโจมตีแบบนี้มีช่องว่างที่หาได้ไม่ยาก
ชูเท็นโดจิจับทางได้จึงคว้าข้อมือ ยุรนันท์เอาไว้ทัน และกระหน่ำหมัดใส่เขาไม่หยุด ยุรนันท์เจ็บหนัก เขาสลัดมือให้หลุด แล้วถอยมายังไม่ทันได้ตั้งตัวชูเท็นโดจิก็เขามาจับร่างของเขาทุ่มข้ามหัวลงไปกระแทกกับพื้นเสียงดังสนั่น ชูเท็นโดจิ ชูมือเป็นสัญญาณว่าตัวเองชนะแล้ว แต่เขารับรู้สึกจิตสังหารเลยหันไปดูยุรนันท์ลุกขึ้นมาเขากลายเป็นนรสิงฆ์เต็มขั้น รูปร่างเขาตอนนี้ดูสูงใหญ่ หัวกลายเป็นสิง มีเขี้ยวเล็บที่ ดูน่ากลัว เขาคำรามเสียงดังก้อง และเขาประชิดตัวตบกรงเล็บมา ชูเท็นโดจิตั้งรับแต่เขาถูกตบกระเด็น“ยุรนันท์แปลงร่างแล้ว เจ้าชูเท็นโดจิไม่รอดแน่” ราชินีย์ตะวันเอ่ยขึ้น อรุณนภาหน้าเสียอยากจะบอกให้ชูเท็นโดจิยอมแพ้ไปซะเพื่อรักษาชีวิต แต่ราชาสุริยะที่นิ่งมานานกลับบอกนางว่า“ดูสายตาเขาสิ”อรุณนภามองไปสายตาของชูเท็นโดจิ นางเห็นความมุ่งมั่ง ที่จะเอาชนะให้ นางจึงตัดสินใจตะโกนเสียงดังไปว่า “สู้เขานะชูเท็นโดจิ !”ชูเท็นโดจิได้ยินเขาก็มีกำลังใจมาขึ้นมาและเข้าไปต่อสู่กับยุรนันท์ทันที เขารวมพลังไปที่หมัดและชกเข้าไปเต็ม ๆ ที่หน้าของยุรนันท์แต่อีกฝ่ายไม่สะดุ้งสะเทือนเลยสักนิด แถมยังตบกรงเล็บใส่ ชูเท็นโดจิหล
อรุณนภาเห็นชูเท็นโดจิก็รู้สึกโล่งอกแต่ก็แอบโกรธเขาอยู่เหมือนกันที่เขามาสาย อาทิตย์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ราชินีตะวันมีสีหน้าผิดหวังเล็กน้อย จริง ๆ นางอยากจะตัดสินสิทธิ์ชูเท็นโดจิให้แพ้ไปเลย แต่หากทำแบบนั้น คงจะโดนทั้งอาณาจักรครหาได้ เลยไม่พูดอะไรปล่อยให้การประลองดำเนินต่อไป ชูเท็นโดจิหันมายิ้มให้กับอรุณนภา และไม่ได้สนใจยุรนันท์เท่าไหร่ แถมยังยกเหล้าขึ้นดื่มต่อหน้าต่อตา ยุรนันท์กัดฟัน กรอด ๆ ด้วยความโกรธ“ไอ้คนไร้มารยาท ทำไมถึงได้มาช้า !” แต่ชูเท็นโดจิทำเหมือนไม่ได้ยิน เขายกเหล้าขึ้นดื่มอย่างสบายอารมณ์“จะช้า จะเร็วมันสำคัญตรงไหน ยังไงซะแกก็ต้อง แพ้ !” ชูเท็นโดจิพูดจบก็ยกเหล้าขึ้นดื่มอีก ยุรนันท์ยิ่งโมโหจัดเขาจึงท้าว่า“ถ้าเจ้าแพ้ข้า เจ้าต้องไสหัวออกไปจากนรสิงฆ์นครตลอดชีวิต แต่ถ้าข้าแพ้ ข้าก็จะยอมออกจากนรสิงฆ์นครเช่นกัน” มีเสียงฮื่อฮาดังขึ้น ชูเท็นโดจิยกเหล้าขึ้นดื่ม แล้วพูดเสียงดังว่า“ก็ได้ข้ารับคำท้า”สัญญาณเริ่มการต่อสู้เริ่มขึ้น ชูเท็นโดจิออกหมัดก่อน แต่อีกฝ่ายหลบได้ และออกหมัดสวนไป ชูเท็นโดจิหลบได้ แต่เขารู้สึกถึงแรงลมจากหมัด รู้เลยว่าถ้าโดนเข้าไปจัง ๆ เขาได้เจ็บหนักแน่ ยั
“ข้ายังจำท่าของเจ้าได้ คราวนี้อย่าหวังว่าข้าจะแพ้ !” ชูเท็นโดจิออกหมัดไป อีกฝ่ายใช้มือปัดการโจมตีและสวนกลับด้วยการกระแทกศอก แต่คราวนี้ชูเท็นโดจิหลบได้และเหวี่ยงหมัดสวนไป อมเรศวรหลบไม่ทันโดนเข้าเต็ม ๆ หน้า ชูเท็นโดจิยังคงออกหมัดมา หมายจะโจมตีอีกครั้งแต่คราวนี้อมเรศวรก้มตัวหลบและชกหมัดขวาไปเป้าหมายคือปลายคางแต่ชูเท็นโดจิเอามือไปรับหมัดเอาได้และชกเข้าที่แขนทำให้อมเรศวรต้องรีบถอยออกมา เขาต้องการหยุดการต่อสู้โดยเร็วจึงตัดสินใช้เพลงแตะแต่ว่าชูเท็นโดจิจับขาเขาเอาไว้ เหวี่ยงร่างของอมเรศวรลอยไปเขาล้มลงไปกระแทกพื้น อมเรศวรลุกไม่ขึ้นอีกแล้ว เท่ากับว่าชูเท็นโดจิชนะ เขาเดินไปหาอมเรศวรประคองให้ลุกขึ้นและถามว่า“เจ้าไม่ได้ออมมือใช่มั้ย”“เปล่า เลยเจ้าอ่านทางมวยข้าได้แล้ว ข้าถึงได้แพ้” หลังจากที่อมเรศวรแพ้ไปแล้ว เจ้าชายเมืองอื่นก็รีบถอนตัวไปเกือบหมด เพราะเห็นฝีมือของชูเท็นโดจิแล้วไม่อยากเสี่ยงต่อสู้ด้วย เหลือแต่มารุตกับยุรนันท์เท่านั้น ซึ่งยุรนันท์ได้เข้าไปรอรอบชิงเลยด้วยความช่วยเหลือของราชินีตะวัน แถมในตอนแรกนางจะให้ชูเท็นโดจิต่อสู้เลยด้วยซ้ำแต่มารุตบอกว่า“ให้เขาไปพักก่อน ไม่งั้นมันไม่
“สหายข้า” เสียงของอิบารากิโดจิเรียกชูเท็นโดจิจากภวังค์ เพื่อนรักของเขาอยู่ตรงหน้า ในยามนี้เหลือเพียงแขนซ้ายเท่านั้น “มีอะไรอิบารากิ” ชูเท็นโดจิกำลังจะยกเหล้าขึ้นดื่ม แต่อิบารากิโดจิห้ามเอาไว้ “หยุดกินได้แล้ว สหายข้า”ชูเท็นโดจิแปลกใจมาก อิบารากิโดจิ ไม่เคยห้ามเขาเลย เวลาจะทำอะไร แต่วันนี้กลับห้ามไม่ให้ดื่มเหล้า “ห้ามข้าทำไม” “เจ้าดูสภาพตัวเองหรือเปล่า นี่ไม่ใช่ตัวเจ้าที่ข้ารู้จัก” อิบารากิโดจิพูด“ช่างข้าสิ” ชูเท็นโดจิสะบัดมือออก และยกเหล้าขึ้นดื่ม แต่อิบารากิโดจิปัดมือเขา“หยุดซะที แต่ก่อนเจ้าเป็นนักสู้ แต่ตอนนี้เมาเหมือนหมาไม่มีผิด”“หุปปากไปเลย แกจะเข้าใจอะไร” ชูเท็นโดจิ จะยกเหล้าขึ้นดื่ม อิบารากิโดจิใช้มือปัด ทำให้ชูเท็นโดจิเริ่มโมโห“อย่ามายุ่งกับข้า เดี๋ยวก็ได้เสียแขนอีกข้างหรอก”“อย่างเจ้าตอนนี้ ตบแมลงยังไม่ตายเลยมั้ง” อิบารากิโดจิพูดเย้ย ชูเท็นโดจิได้ยินก็เลือดขึ้นหน้า เขาออกหมัดไป อิบารากิโดจิแม้จะมีแขนเดียว แต่ความเร็วของเขายังเท่าเดิม ทำให้ชูเท็นโดจิชกพลาด แขนเสื้อของอิบารากิโดจิฟาดหน้าเขา ทำให้เขาได้สติถ้าอิบารากิโดจิมีแขนข้างนี้ ตาเข
“ขอร้อง ล่ะ!” มัน เน้นเสียงตรงคำว่า ล่ะ ทำให้เกิดคลื่นเสียงมาทำให้ชูเท็นโดจิเสียหลัก การอนรีบลุกขึ้นมาและกำลังจะหนีแต่ ชูเท็นโดจิตั้งตัวได้กระโดดไปดักหน้าการอนเอาไว้ และทุบหัวของการอสด้วยสองมือร่างของการอนค่อย ๆ จมลงไปในดินจนเหลือแต่หัว กระดูกทั้งตัวแหลก ชูเท็นโดจิทุบซ้ำไปอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้หัวของมันแหลกไปแล้ว“การอนตาย แล้ว !” ชูเท็นโดจิประกาศเสียงดังลั่นหลังจากที่การอนตายพวกออร์คก็ถูกสังหารไปจนหมด อรุณนภา กับ อาทิตย์รีบไปตามหาพ่อกับแม่ ซึ่งก็พบว่า ยุรนันท์พาทั้งสองออกมาแล้ว ราชาสุริยะนั้นได้บาดเจ็บหนัก ส่วนราชินีตะวันปลอดภัยดี ทุกคนเข้าไปกอดกันด้วยความรัก และร้องไห้ออกมาด้วยซาบซึ้งในใจ ชูเท็นโดจิเดินมาเห็นภาพนี้เขาก็ยิ้มออกมา อรุณนภาเห็นชูเท็นโดจิก็วิ่งเข้าไปกอดเขา“เจ้ากลับมา เจ้ากลับมา” อรุณนภาพูดทั้งน้ำตา ชูเท็นโดจิกอดนาง“ข้ากลับมาแล้วว่าแต่มีเหล้ากินมั้ยเนี่ย” เมื่อได้ยินเช่นนั้นนางก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้ นางจึงตะโกนชื่อของเขา หลังจากนั้นทุกคนก็ตะโกนตาม“ชูเท็นโดจิ ชูเท็นโดจิ” เสียงเรียกชื่อเขาดังไปหมด แต่มันไม่ได้ดังด้วยความหวดกลัวเหมือนกับทุกครั้ง หากแต่เต็มไปด้วยความช
การอนแม้จะรู้สึกถึงพลังที่เพิ่มขึ้นของชูเท็นโดจิ ก็หาได้กลัวไม่ มันเข้าโจมตีชูเท็นโดจิด้วยการกระหน่ำหมัด แต่กลายเป็นว่า ชูเท็นโดจิหลบหมัดทั้งหมดได้ และคว้าข้อมือของการอนเอาไว้ออกแรงบีบอย่างแรง จนการอนร้องลั่งด้วยความเจ็บปวด เมื่อสลัดออกมาได้ ก็พบข้อมือมีรอยไหม้เป็นรูปมืออยู่ นั่นทำให้มันตกตะลึง จึงตัดสินรวมพลังไปที่ฝ่ามือและกระแทกใส่ชูเท็นโดจิ แต่กลายเป็นว่าครั้งนี้เขาไม่สะเทือนเลย แถมยังชกการอนกระเด็น“บังอาจมาทำร้ายอรุณนภา ข้าจะฆ่าเจ้าซะ !” ชูเท็นโดจิหยิบหินที่พื้นมาซัดออกไป การอนเอามือปัดแต่ครั้งนี้หินทะลุมือของมันเป็นรู ชูเท็นโดจิเขามาประชิดตัวพ่นไฟใส่ร่างของการอนมันร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด อย่างที่มันไม่เคยเจอมาก่อน“เคยใช้แต่ตัวปลอมสินะ งั้นก็มาเจอกับความเจ็บปวดของจริง เป็นยังไงล่ะ” ชูเท็นโดจิชกซ้ำร่าง การอนกระเด็น ล้มลงไปฝ่ายของการอนเมื่อเห็นนายล้มลงไปแล้วกำลังใจก็เริ่มเสีย ทำให้ฝ่ายต่อต้าน เริ่มมีกำลังใจมากขึ้น แต่มันเร็วไปที่จะดีใจ การอนลุกขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ร่างของมันกลับเป็นร่างแรก แถมอาการบาดเจ็บลดลงไปมาก“ไม่คิดเลยนะว่าจะเจอคนที่ทำให้ข้าเจ็บได้ งั้นก็หายไปซะ !” ร