“เพื่อนเจ้าคิดบ้าอะไรเนี่ย”
“ก็สหายข้า อยากดื่มเหล้า จะไปว่าเขาได้ไงกัน” อิบารากิโดจิตอบหน้าตาเฉย อรุณนภาได้ยินก็โกรธจัด “นี่มันเรื่องเล่น ๆ หรือยังไง ถูกจับไปแบบนี้ จะช่วยออกมาไม่ใช่เรื่องง่ายแล้วนะ” อิบารากิโดจิกลับบอกว่า
“เพื่อสหายข้า ไม่มีเรื่องไหนที่ข้าทำไม่ได้หรอก” อิบารากิโดจิพูดจบเขาก็แปลงร่างเป็นนกกาและบินไปทันที
ชูเท็นโดจิรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา เขาถูกล่ามโซ่อย่างแน่นหนา และยังมีปลอกคอเหล็กสวมอยู่ เขาพยายามทำลายโซ่แต่ไม่เป็นผล เมื่อมองไปรอบตัว ที่นี่มีออร์คถูกขังอยู่มากมาย ทุกตัวถูกพันธนาการไม่ต่างอะไรจากเขาเลย เมื่อพยายามพ่นไฟปลอกคอเหล็กเปลี่ยนสีทำให้รู้สึกแสบร้อนเหมือนถูกไฟเผา พวกทหารเห็นแล้วก็หัวเราะเยาะ
“โซ่เหล็กน้ำพี้ และปลอกคอเนี่ย แกทำลายไม่ได้หรอกโวย ไอ้อสูร พวกออร์คที่นี่ก็ฝีมือของเจ้าชายทั้งนั้นล่ะโวย”
“ปล่อยข้า !” ชูเท็นโดจิโวยวาย แต่พวกทหารทำเป็นไม่ได้ยิน ชูเท็นโดจิกัดฟันด้วยความโกรธ เขาไม่เคยเสียท่าใครขนาดนี้มาก่อนเลย
“อย่าให้ข้าออกไปได้นะ ไอ้หน้าอ่อน” เขาพูดด้วยความแค้น
อิบารากิโดจิในร่างนกบินมาถึงเรือนจำ เขาพบว่าที่นี่มีกำแพงสูงแถมล้อมรั้วลวดหนามไว้อย่างแน่นหนา มีพลธนูคอยเฝ้าไว้ และเมื่อเหล่าพลธนูเห็นอิบารากิโดจิเข้า
“ดูโน้น มาแข่งกันมั้ยว่าใครจะยิงมันโดน” พลธนูพร้อมใจกันยิงธนูใส่ อิบารากิโดจิ เขารีบบินหนีแต่ธนูก็โดนเขาเข้าที่ปีก มีเสียงเฮ ดังขึ้นมา
อิบารากิโดจิ ตกลงพื้นและคืนร่างเดิมลูกธนูปักอยู่ที่แขนของเขา อิบารากิโดจิกำลังจะดึงลูกธนูออกมา
“เดี๋ยวขอรับ” เสียงของอาทิตย์ดังขึ้นมา เขาหันไปมอง พบว่า อาทิตย์ ศุภมิตร ลาย อรุณนภา เดินมาหาเขา
“ขอข้าดูลูกธนูก่อนขอรับ” อิบารากิโดจิมองตาขวาง แต่เขาก็ยอมให้ดูแขน อาทิตย์ดูแผลที่แขนแล้วบอกว่า“ถ้าท่านไปดึงส่งเดช เลือดจะพุ่งออกมาแน่ ๆ” อิบารากิโดจิเลยพูดว่า
“จะทำอะไรก็รีบทำสิ ข้าจะไปช่วยสหายข้า !” อาทิตย์สะดุ้งโหย่งเพราะเสียงตะคอก เขาเริ่มร่ายมนตร์ลูกธนูค่อย ๆ เลื่อนออกมา อิบารากิโดจิไม่รู้สึกถึงความเจ็บเลยจนธนูหลุดออก บาดแผลของเขาหายสนิท เมื่อแผลหายเขา ก็รีบลุกขึ้นมา แต่ถูกลายคว้าตัวเอาไว้ก่อน
“ปล่อยข้า ข้าจะไปช่วยสหายข้า” แต่ลายไม่ปล่อย อรุณนภาเลยตะโกนใส่หน้าของอิบารากิโดจิ “อย่า
บ้านะ เจ้าก็เห็นนี่ ขนาดเป็นนกมันยังยิงร่วงเลย ถ้าเจ้าไปทั้งอย่างงี้ได้กลายเป็นหมอนปักเข็มแน่”
“ข้าไวพอก็แล้วกัน” อิบารากิโดจิเถียง
“แต่ข้ามีแผนที่จะช่วยเขาได้อย่างปลอดภัยนะ” อรุณนภาพูดขึ้นมา อิบารากิโดจินิ่งไปแล้วถามว่า
“แผนอะไร”
เช้าวันต่อมา
พวกทหารยามมาเปลี่ยนเวรเฝ้านักโทษ มันเป็นงานที่เสี่ยงแต่ก็น่าเบื่อพอสมควร เสียงกระดิ่งดังขึ้นมา พวกทหารยามหันไปดู ศุภมิตรเดินสั่นกระดิ่งและสวดมนตร์มาตลอดทาง โดยมีลาย อาทิตย์ อรุณนภา และ อิบารากิโดจิ สวมเสื้อคลุมซ่อนใบหน้าเอาไว้เดินตามมาด้วย
“ช้าก่อนท่านจะไปไหน” ทหารยามถาม
“ข้าจะไปโปรดสัตว์” ศุภมิตรตอบและพยายามทำน้ำเสียงให้นิ่งเฉย
“เดี๋ยวนี้ นักสิทธิ์เขาโปรดสัตว์กันแล้วเหรอขอรับ” ทหารถาม ศุภมิตรถอนใจแล้วบอกว่า “ไม่มีจำกัด หรอกท่าน ข้าได้รับคำสั่งจากอาจารย์ให้ มาโปรดสัตว์ในที่นี่”
“เอ่อ ท่านครับ ที่นี่มีแต่พวกออร์คนะขอรับ จะมาโปรดพวกนี้เหรอขอรับ” ศุภมิตรได้ยินก็ทำท่าทางให้ขึงขังแล้วพูดว่า “นี่เจ้าจะมาขวางข้าเหรอ รู้มั้ยว่าไอ้คนที่มาขวางการโปรดสัตว์ของนักสิทธิ์จะต้องเจอกับอะไร” ทหารยามหน้าเสีย การที่จะมีปัญหากับนักบวชไม่ใช่เรื่องที่ฉลาดนัก เพราะหากไปทำให้นักบวชไม่พอใจ อาจต้องเจอกับคำสาป ซึ่งเป็นรู้กันอยู่ว่า คำสาปของพวกนักบวชนั้นร้ายแรงมาก เขาจึงรีบเปิดประตูให้ ศุภมิตรเดินนำทุกคนไป
“เก่งมาท่านศุภมิตร” อรุณนภาเอ่ยปากชม ศุภมิตรถอนใจแล้วบอกว่า “อย่าให้ข้าต้องโกหกบ่อยนักนะ มันไม่ดีกับการเป็นนักสิทธิ์”
ชูเท็นโดจิพยายามกระชากโซ่แต่ไม่สำเร็จ เขาพยายามจนหมดแรง ได้แต่นั่งกัดฟันด้วยความโกรธ
“เวลาอาหาร” พวกยามขนหม้อใบใหญ่ส่งกลิ่นแปลก ๆ เข้ามา พวกเขาตักอาหารใส่กะลามะพร้าเอามาให้นักโทษ มันคือ ข้าวต้มบวบ ชูเท็นโดจิเห็นก็โวยวายขึ้นมา “นี่มันเรียกว่าอาหารเหรอ !” ผู้คุ้มหันมามองแล้วพูดว่า
“มีให้กินก็กินไปเถอะ อย่ามาเรื่องมาก” ชูเท็นโดจิยกถ้วยข้าวต้มขึ้นมา ไม่มีช้อนให้ เขาจึงต้องยกซด ซึ่งรสชาติของอาหารนั้นสุดจะบรรยาย แทบจะกลืนไม่ลง ชูเท็นโดจิเห็นทหารยามกำลังดื่มเหล้าอยู่ เขากระสับกระส่าย ตั้งแต่ถูกจับมา ไม่ได้ดื่มเหล้าเลย ยิ่งมีคนมากินล่อหน้าล่อตาแบบนี้ มันยิ่งทำให้รู้สึกกระหายเหล้ามากขึ้น เสียงกระดิ่งดังขึ้นมา เหล่าทหารยามหันไปดู เห็นศุภมิตรเดินสั่นกระดิ่งมาตลอดทาง
“เฮ้ย ! นักสิทธิ์น้อยเข้ามาได้ยังไงขอรับ”
“ข้ามาโปรดสัตว์” ศุภมิตรพูด ยามทำหน้างง ๆ ศุภมิตรเลยต้องรีบตัดบท “อย่ามาสงสัยข้าเลย ให้ข้าเข้าไปเถอะ เจ้าก็รู้นะถ้าขวางจะเป็นยังไง” ยามได้ยินก็หน้าถอดสี ศุภมิตรและคณะเดินเข้าไปในคุกมีออร์คถูกขังอยู่หลายตัว
“ทำไมถึงจับพวกเขามาขังไว้เล่า” ศุภมิตรถาม
“เจ้าชายบอกว่า อาจใช้เป็นข้อต่อรองได้ขอรับ” ทหารยามบอก ศุภมิตรเดินนำไปจนถึงกรงขังชูเท็นโดจิ ชูเท็นโดจิเห็นศุภมิตรก็รีบตะโกนบอกว่า “ไอ้หนูช่วยข้าออกไปเร็ว”
ศุภมิตรเย็นวาบไปทั้งตัวชูเท็นโดจิกำลังจะทำแผนแตก อิบารากิโดจิเตรียมลงมือ แต่ยามรีบร้องเตือน “ไอ้นรกกินกบาล กล้าพูดกับนักสิทธิ์แบบนี้ได้ยังไงกันวะหา” ศุภมิตรได้ยินเช่นนั้นก็โล่งอก ก็รีบพูด
ว่า
“ไม่เป็นไรหรอกท่าน เพราะว่ามีอสูรแบบนี้ไงเล่า ข้าถึงได้ต้องมาโปรดสัตว์” พูดยังไม่ทันขาดคำ ก็มีเสียงระฆังดังขึ้นมา
ชูเท็นโดจิจับทางได้จึงคว้าข้อมือ ยุรนันท์เอาไว้ทัน และกระหน่ำหมัดใส่เขาไม่หยุด ยุรนันท์เจ็บหนัก เขาสลัดมือให้หลุด แล้วถอยมายังไม่ทันได้ตั้งตัวชูเท็นโดจิก็เขามาจับร่างของเขาทุ่มข้ามหัวลงไปกระแทกกับพื้นเสียงดังสนั่น ชูเท็นโดจิ ชูมือเป็นสัญญาณว่าตัวเองชนะแล้ว แต่เขารับรู้สึกจิตสังหารเลยหันไปดูยุรนันท์ลุกขึ้นมาเขากลายเป็นนรสิงฆ์เต็มขั้น รูปร่างเขาตอนนี้ดูสูงใหญ่ หัวกลายเป็นสิง มีเขี้ยวเล็บที่ ดูน่ากลัว เขาคำรามเสียงดังก้อง และเขาประชิดตัวตบกรงเล็บมา ชูเท็นโดจิตั้งรับแต่เขาถูกตบกระเด็น“ยุรนันท์แปลงร่างแล้ว เจ้าชูเท็นโดจิไม่รอดแน่” ราชินีย์ตะวันเอ่ยขึ้น อรุณนภาหน้าเสียอยากจะบอกให้ชูเท็นโดจิยอมแพ้ไปซะเพื่อรักษาชีวิต แต่ราชาสุริยะที่นิ่งมานานกลับบอกนางว่า“ดูสายตาเขาสิ”อรุณนภามองไปสายตาของชูเท็นโดจิ นางเห็นความมุ่งมั่ง ที่จะเอาชนะให้ นางจึงตัดสินใจตะโกนเสียงดังไปว่า “สู้เขานะชูเท็นโดจิ !”ชูเท็นโดจิได้ยินเขาก็มีกำลังใจมาขึ้นมาและเข้าไปต่อสู่กับยุรนันท์ทันที เขารวมพลังไปที่หมัดและชกเข้าไปเต็ม ๆ ที่หน้าของยุรนันท์แต่อีกฝ่ายไม่สะดุ้งสะเทือนเลยสักนิด แถมยังตบกรงเล็บใส่ ชูเท็นโดจิหล
อรุณนภาเห็นชูเท็นโดจิก็รู้สึกโล่งอกแต่ก็แอบโกรธเขาอยู่เหมือนกันที่เขามาสาย อาทิตย์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ราชินีตะวันมีสีหน้าผิดหวังเล็กน้อย จริง ๆ นางอยากจะตัดสินสิทธิ์ชูเท็นโดจิให้แพ้ไปเลย แต่หากทำแบบนั้น คงจะโดนทั้งอาณาจักรครหาได้ เลยไม่พูดอะไรปล่อยให้การประลองดำเนินต่อไป ชูเท็นโดจิหันมายิ้มให้กับอรุณนภา และไม่ได้สนใจยุรนันท์เท่าไหร่ แถมยังยกเหล้าขึ้นดื่มต่อหน้าต่อตา ยุรนันท์กัดฟัน กรอด ๆ ด้วยความโกรธ“ไอ้คนไร้มารยาท ทำไมถึงได้มาช้า !” แต่ชูเท็นโดจิทำเหมือนไม่ได้ยิน เขายกเหล้าขึ้นดื่มอย่างสบายอารมณ์“จะช้า จะเร็วมันสำคัญตรงไหน ยังไงซะแกก็ต้อง แพ้ !” ชูเท็นโดจิพูดจบก็ยกเหล้าขึ้นดื่มอีก ยุรนันท์ยิ่งโมโหจัดเขาจึงท้าว่า“ถ้าเจ้าแพ้ข้า เจ้าต้องไสหัวออกไปจากนรสิงฆ์นครตลอดชีวิต แต่ถ้าข้าแพ้ ข้าก็จะยอมออกจากนรสิงฆ์นครเช่นกัน” มีเสียงฮื่อฮาดังขึ้น ชูเท็นโดจิยกเหล้าขึ้นดื่ม แล้วพูดเสียงดังว่า“ก็ได้ข้ารับคำท้า”สัญญาณเริ่มการต่อสู้เริ่มขึ้น ชูเท็นโดจิออกหมัดก่อน แต่อีกฝ่ายหลบได้ และออกหมัดสวนไป ชูเท็นโดจิหลบได้ แต่เขารู้สึกถึงแรงลมจากหมัด รู้เลยว่าถ้าโดนเข้าไปจัง ๆ เขาได้เจ็บหนักแน่ ยั
“ข้ายังจำท่าของเจ้าได้ คราวนี้อย่าหวังว่าข้าจะแพ้ !” ชูเท็นโดจิออกหมัดไป อีกฝ่ายใช้มือปัดการโจมตีและสวนกลับด้วยการกระแทกศอก แต่คราวนี้ชูเท็นโดจิหลบได้และเหวี่ยงหมัดสวนไป อมเรศวรหลบไม่ทันโดนเข้าเต็ม ๆ หน้า ชูเท็นโดจิยังคงออกหมัดมา หมายจะโจมตีอีกครั้งแต่คราวนี้อมเรศวรก้มตัวหลบและชกหมัดขวาไปเป้าหมายคือปลายคางแต่ชูเท็นโดจิเอามือไปรับหมัดเอาได้และชกเข้าที่แขนทำให้อมเรศวรต้องรีบถอยออกมา เขาต้องการหยุดการต่อสู้โดยเร็วจึงตัดสินใช้เพลงแตะแต่ว่าชูเท็นโดจิจับขาเขาเอาไว้ เหวี่ยงร่างของอมเรศวรลอยไปเขาล้มลงไปกระแทกพื้น อมเรศวรลุกไม่ขึ้นอีกแล้ว เท่ากับว่าชูเท็นโดจิชนะ เขาเดินไปหาอมเรศวรประคองให้ลุกขึ้นและถามว่า“เจ้าไม่ได้ออมมือใช่มั้ย”“เปล่า เลยเจ้าอ่านทางมวยข้าได้แล้ว ข้าถึงได้แพ้” หลังจากที่อมเรศวรแพ้ไปแล้ว เจ้าชายเมืองอื่นก็รีบถอนตัวไปเกือบหมด เพราะเห็นฝีมือของชูเท็นโดจิแล้วไม่อยากเสี่ยงต่อสู้ด้วย เหลือแต่มารุตกับยุรนันท์เท่านั้น ซึ่งยุรนันท์ได้เข้าไปรอรอบชิงเลยด้วยความช่วยเหลือของราชินีตะวัน แถมในตอนแรกนางจะให้ชูเท็นโดจิต่อสู้เลยด้วยซ้ำแต่มารุตบอกว่า“ให้เขาไปพักก่อน ไม่งั้นมันไม่
“สหายข้า” เสียงของอิบารากิโดจิเรียกชูเท็นโดจิจากภวังค์ เพื่อนรักของเขาอยู่ตรงหน้า ในยามนี้เหลือเพียงแขนซ้ายเท่านั้น “มีอะไรอิบารากิ” ชูเท็นโดจิกำลังจะยกเหล้าขึ้นดื่ม แต่อิบารากิโดจิห้ามเอาไว้ “หยุดกินได้แล้ว สหายข้า”ชูเท็นโดจิแปลกใจมาก อิบารากิโดจิ ไม่เคยห้ามเขาเลย เวลาจะทำอะไร แต่วันนี้กลับห้ามไม่ให้ดื่มเหล้า “ห้ามข้าทำไม” “เจ้าดูสภาพตัวเองหรือเปล่า นี่ไม่ใช่ตัวเจ้าที่ข้ารู้จัก” อิบารากิโดจิพูด“ช่างข้าสิ” ชูเท็นโดจิสะบัดมือออก และยกเหล้าขึ้นดื่ม แต่อิบารากิโดจิปัดมือเขา“หยุดซะที แต่ก่อนเจ้าเป็นนักสู้ แต่ตอนนี้เมาเหมือนหมาไม่มีผิด”“หุปปากไปเลย แกจะเข้าใจอะไร” ชูเท็นโดจิ จะยกเหล้าขึ้นดื่ม อิบารากิโดจิใช้มือปัด ทำให้ชูเท็นโดจิเริ่มโมโห“อย่ามายุ่งกับข้า เดี๋ยวก็ได้เสียแขนอีกข้างหรอก”“อย่างเจ้าตอนนี้ ตบแมลงยังไม่ตายเลยมั้ง” อิบารากิโดจิพูดเย้ย ชูเท็นโดจิได้ยินก็เลือดขึ้นหน้า เขาออกหมัดไป อิบารากิโดจิแม้จะมีแขนเดียว แต่ความเร็วของเขายังเท่าเดิม ทำให้ชูเท็นโดจิชกพลาด แขนเสื้อของอิบารากิโดจิฟาดหน้าเขา ทำให้เขาได้สติถ้าอิบารากิโดจิมีแขนข้างนี้ ตาเข
“ขอร้อง ล่ะ!” มัน เน้นเสียงตรงคำว่า ล่ะ ทำให้เกิดคลื่นเสียงมาทำให้ชูเท็นโดจิเสียหลัก การอนรีบลุกขึ้นมาและกำลังจะหนีแต่ ชูเท็นโดจิตั้งตัวได้กระโดดไปดักหน้าการอนเอาไว้ และทุบหัวของการอสด้วยสองมือร่างของการอนค่อย ๆ จมลงไปในดินจนเหลือแต่หัว กระดูกทั้งตัวแหลก ชูเท็นโดจิทุบซ้ำไปอีกครั้งหนึ่ง คราวนี้หัวของมันแหลกไปแล้ว“การอนตาย แล้ว !” ชูเท็นโดจิประกาศเสียงดังลั่นหลังจากที่การอนตายพวกออร์คก็ถูกสังหารไปจนหมด อรุณนภา กับ อาทิตย์รีบไปตามหาพ่อกับแม่ ซึ่งก็พบว่า ยุรนันท์พาทั้งสองออกมาแล้ว ราชาสุริยะนั้นได้บาดเจ็บหนัก ส่วนราชินีตะวันปลอดภัยดี ทุกคนเข้าไปกอดกันด้วยความรัก และร้องไห้ออกมาด้วยซาบซึ้งในใจ ชูเท็นโดจิเดินมาเห็นภาพนี้เขาก็ยิ้มออกมา อรุณนภาเห็นชูเท็นโดจิก็วิ่งเข้าไปกอดเขา“เจ้ากลับมา เจ้ากลับมา” อรุณนภาพูดทั้งน้ำตา ชูเท็นโดจิกอดนาง“ข้ากลับมาแล้วว่าแต่มีเหล้ากินมั้ยเนี่ย” เมื่อได้ยินเช่นนั้นนางก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้ นางจึงตะโกนชื่อของเขา หลังจากนั้นทุกคนก็ตะโกนตาม“ชูเท็นโดจิ ชูเท็นโดจิ” เสียงเรียกชื่อเขาดังไปหมด แต่มันไม่ได้ดังด้วยความหวดกลัวเหมือนกับทุกครั้ง หากแต่เต็มไปด้วยความช
การอนแม้จะรู้สึกถึงพลังที่เพิ่มขึ้นของชูเท็นโดจิ ก็หาได้กลัวไม่ มันเข้าโจมตีชูเท็นโดจิด้วยการกระหน่ำหมัด แต่กลายเป็นว่า ชูเท็นโดจิหลบหมัดทั้งหมดได้ และคว้าข้อมือของการอนเอาไว้ออกแรงบีบอย่างแรง จนการอนร้องลั่งด้วยความเจ็บปวด เมื่อสลัดออกมาได้ ก็พบข้อมือมีรอยไหม้เป็นรูปมืออยู่ นั่นทำให้มันตกตะลึง จึงตัดสินรวมพลังไปที่ฝ่ามือและกระแทกใส่ชูเท็นโดจิ แต่กลายเป็นว่าครั้งนี้เขาไม่สะเทือนเลย แถมยังชกการอนกระเด็น“บังอาจมาทำร้ายอรุณนภา ข้าจะฆ่าเจ้าซะ !” ชูเท็นโดจิหยิบหินที่พื้นมาซัดออกไป การอนเอามือปัดแต่ครั้งนี้หินทะลุมือของมันเป็นรู ชูเท็นโดจิเขามาประชิดตัวพ่นไฟใส่ร่างของการอนมันร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด อย่างที่มันไม่เคยเจอมาก่อน“เคยใช้แต่ตัวปลอมสินะ งั้นก็มาเจอกับความเจ็บปวดของจริง เป็นยังไงล่ะ” ชูเท็นโดจิชกซ้ำร่าง การอนกระเด็น ล้มลงไปฝ่ายของการอนเมื่อเห็นนายล้มลงไปแล้วกำลังใจก็เริ่มเสีย ทำให้ฝ่ายต่อต้าน เริ่มมีกำลังใจมากขึ้น แต่มันเร็วไปที่จะดีใจ การอนลุกขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง ร่างของมันกลับเป็นร่างแรก แถมอาการบาดเจ็บลดลงไปมาก“ไม่คิดเลยนะว่าจะเจอคนที่ทำให้ข้าเจ็บได้ งั้นก็หายไปซะ !” ร