Share

ค่ำคืนคนโสด
ค่ำคืนคนโสด
Penulis: เริงใจ

บทที่ 1

last update Terakhir Diperbarui: 2025-03-01 19:32:04

         “ส้ม …”

         “เราเลิกกันเถอะ …”

        

         “อะไรนะ”

         คำพูดที่เธอไม่คิดว่าจะได้ยินจากปากคนรักที่คบหากันมานานถึง 7 ปี เขาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย แววตาเขาไม่ได้สะท้อนถึงความโศกเศร้า หรือเสียใจเลยสักนิด

         “ทะ ทำไมล่ะ? เชน”

         “เธออย่าเสียเวลากับเราเลย” เขาเบือนหน้าหนี เมื่อเห็นแววตาใสซื่อของเธอ

         “มะ .. ไม่ เราไม่ได้เสียเวลาเลย นะ .. นี่ไง ปีหน้าเราก็จบ ป.โทแล้ว เราก็จะได้แต่งงานกัน”

         ส้มโอมองใบหน้าคมของชายคนรักด้วยแววตาสั่นไหว มือเล็กคว้าแขนแกร่งของเขา ราวกับขอร้องว่าอย่าไป

         เธอยังจำได้ดีวันที่เขาให้คำมั่นสัญญาว่าจะรอจนกว่าเธอจะเรียนจบแล้วจะแต่งงานสร้างครอบครัวด้วยกัน

         แต่ทว่า … วันนี้กลับกลายเป็นเขาที่ดูเหมือนจะทำผิดสัญญา

         “ส้ม .. พอเถอะ”

         ราเชนชักแขนออกจากการเกาะกุมของมือเล็ก ๆ สายตาเย็นชามองใบหน้าสวยอย่างอึดอัดใจ

         สายตาเศร้าหมองช้อนขึ้นมองคนตัวสูง ริมฝีปากสั่นระริก เขาเหมือนโลกทั้งใบของเธอ หากวันนี้เสียเขาไปเธอเองก็ไม่รู้จะมีชีวิตต่อได้เช่นไร ในเมื่อ 7 ปีที่ผ่านมา เขาคือคนเดียวที่เธอมีอยู่ ชีวิตเธอไม่เหลือใครอีกแล้ว

         “เชน .. เราอยู่ไม่ได้”

         “ส้ม!”

         เขาถอนหายใจยาวอย่างหน่ายใจ ดวงตาคมจ้องมองร่างเล็กด้วยท่าทีหมางเมิน

         “เราคบกับส้มต่อไม่ได้แล้ว ส้มเข้าใจมั้ย?”

         ราเชนกระแทกเสียงอย่างเหลืออด การบอกเลิกครั้งนี้ดูเหมือนมันจะยืดเยื้อและเนิ่นนานกว่าที่เขาคิด เพราะที่ผ่านมาส้มโอมักจะเชื่อฟังเขาอย่างดี เขาพูดอะไรเธอก็จะคล้อยตามหมด เว้นแต่ครั้งนี้ ... ที่เธอดื้อรั้น

         “เราไม่เข้าใจ ทำไมล่ะ ทำไม?”

         หยาดน้ำใสร่วงเผาะจากตาคู่สวย น้ำเสียงสั่นเครือน้อย ๆ ส่งผ่านความรู้สึกเจ็บปวดออกไป

         “เราทำคนอื่นท้อง!!”

         ประโยคนั้นทำเอาเธอนิ่งงันราวกับท่อนไม้แข็งแม้ลมพัดก็มิได้สั่นไหว ประโยคนั้นยังคงก้องสะท้อนอยู่ในโสตประสาทเธอซ้ำ ๆ ราวกับเทปที่เล่นวน

         “เราทำคนอื่นท้อง!!”

         “เราทำคนอื่นท้อง!!”

         “เราทำคนอื่นท้อง!!”

         “อะไรนะ?” เธอกรีดร้องราวกับคนบ้า ที่เสียสติ เธอพูดประโยคเดิมซ้ำ ๆ

         “ไม่จริง! ไม่จริง!! ไม่จริง!!!”

         เรือนหน้าสวยบิดเบี้ยวจากการร้องไห้และความเสียใจที่จู่โจมใส่อย่างไม่ใยดี มือเรียวขยุ้มเรือนผม ราวกับจะฉีกกระชากออกจากหนังศีรษะ เสียงกรีดร้องของเธอดังก้องภายในห้องสี่เหลี่ยมที่กำลังเคยเป็นพื้นที่ปลอดภัยของเธอ แต่วันนี้ … มันกลับไม่มีอีกแล้ว

         “ส้ม! ส้ม!!”

         มือหนาของเขาคว้าเอาข้อมือเล็กที่ขยุ้มผมตัวเองจนหลุดออกเป็นหย่อม ๆ พลางเอ่ยชื่อเธอเสียงแข็งหวังเรียกสติ

         “ทำไมทำกับเราแบบนี้ ทำไม?!”

         หยาดน้ำใสไหลรินอาบแก้มเนียน เรียวขาที่เคยแข็งแรงกลับอ่อนยวบ ทิ้งตัวลงตรงพื้นกระเบื้องด้านล่าง

         “เราผิดเอง แต่ตอนนี้เธอคนนั้นกำลังตั้งท้องลูกของเรา เราต้องรับผิดชอบเธอ”

         “แล้วเราล่ะ? ใครจะรับผิดชอบความรู้สึกของเรา”

         คำถามนั้นกลับไม่มีเสียงตอบรับจากราเชน ใบหน้าเศร้าสร้อยไล่สายตามองชายคนรักที่นั่งนิ่งอยู่ตรงหน้า

         “ส้มไปมีชีวิตที่ดีกว่านี้เถอะ อย่าอยู่กับเราเลย”

         เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเนือย ๆ ดวงตาคมจ้องมองใบหน้าเธออย่างจริงจัง มันเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับ .. เขา แต่ไม่ใช่เธอ

         “คนเหี้ย!!”

         เสียงสั่นเครือแปรเปลี่ยนเป็นเสียงแข็ง เธอเอ่ยคำหยาบคายคำแรกในชีวิตออกมาด้วยแววตาเศร้าหมอง คำนี้มันคงเหมาะกับเขาที่สุดในเวลานี้

         มือเล็กปาดน้ำตารวดเร็ว หาก 7 ปีที่ผ่านมามันไม่มีความหมายแล้วเธอก็ไม่รู้จะรั้งชายหลายใจไว้เพื่ออะไร คงเป็นอย่างที่เขาพูด ชีวิตเธอมันควรไปได้ดีกว่านี้

        

        หนึ่งสัปดาห์ต่อมา

         ส้มโอหอบข้าวของและเสื้อผ้า ออกจากคอนโดของราเชนอย่างทุลักทุเล เธอไม่มีที่ให้ไป เพราะครอบครัวของเธออยู่ที่ต่างประเทศ เธอเป็นคนดึงดันขอย้ายมาอยู่ที่ไทยกับชายคนรักตั้งแต่เริ่มคบกัน

         ชีวิตโสดในเมืองใหญ่ของเธอได้เริ่มต้นขึ้น โรงแรมจึงเป็นที่พักพิงเดียวที่เธอจะใช้พักผ่อน และเยียวยาหัวใจที่แหลกสลายจากชายที่ไม่รู้จักพอ

         นับดาว : ส้ม วันนี้ที่เรานัดกันฉันไปไม่ได้แล้วอะ

         เพื่อนสาวคนสนิทของเธอส่งข้อความแจ้งข่าวร้าย หลังจากนัดหมายกันไว้ ว่าจะดื่มฉลองให้กับชีวิตโสดของเธอด้วยกันบนบาร์หรูของโรงแรม

         ส้มโอ : อือ ไม่เป็นไร

         นับดาว : แกห้ามไปกินคนเดียวนะ สัญญากับฉันก่อน

         นับดาว : ฉันเป็นห่วงแก

         ส้มโอคลี่มุมปากยิ้มบาง หลังจากอ่านข้อความเพื่อนสาว นับดาวรู้ดีว่าส้มโอไม่เคยดื่มของมึนเมา หรือนั่งร้านเหล้า ผับ บาร์มาก่อน หากเธอไปคนเดียวคงเกิดเรื่องไม่ดีขึ้น

         ส้มโอ : อืม ฉันอยู่ที่ห้องนี่แหละ

         นับดาว : แน่นะแก

         ส้มโอ : อื้อ ไว้นัดกันใหม่นะ

         ร่างบางในชุดเดรสสีแดงตุ่น ทรุดตัวลงนั่งข้างเตียง เธอโอบกอดเข่าตัวเองไว้แน่น ราวกับต้องการปลอบประโลมหัวใจที่แหลกสลาย ความเงียบในห้องดังก้องจนแทบทนไม่ไหว มันยิ่งตอกย้ำความโดดเดี่ยวที่กัดกินหัวใจของเธอ

         ส้มโอปรากฏกายอีกครั้งในบาร์หรูชั้น 72 ของโรงแรม หลังจากที่ความเงียบในห้องมันทำให้เธอเกือบสติหลุด หยาดน้ำใส ๆ ที่ไหลลงเปื้อนแก้มสวยแทบจะทำให้เครื่องสำอาง ที่เธอแต่งแต้มร่อนหาย ร่างบางเดินตามหลังบริกรหนุ่มไปยังโต๊ะที่เธอจองไว้

         สมุดเมนูสีน้ำเงินเข้ม สลักชื่อบาร์และโรงแรมด้วยตัวอักษรสีทอง ถูกเปิดออกด้วยมือเรียวเล็ก ดวงตาคู่สวยทอดไล้มองชื่อเมนูอาหารมากมาย แต่เธอกลับไม่รู้จะเลือกอะไรใส่ท้องที่ร้องกิ่ว

         “มีเมนูแนะนำมั้ย?” เธอเอ่ยเสียงใสพลางถามบริกรหนุ่มที่ยืนอยู่ข้าง ๆ

         “คุณผู้หญิงทานเนื้อมั้ยครับ”

         เธอสูดลมหายใจเข้าลึกและปล่อยมันออก เมนูเนื้อคือสิ่งที่ราเชนโปรดปรานมากที่สุด เธอและราเชนมักจะทานด้วยกันเป็นประจำ เพราะเมื่อเธอเห็นสีหน้าของเขาตอนทานของโปรด มันทำให้เธอรู้สึกมีความสุขทุกครั้ง

         “ไม่ค่ะ”

         ดวงตาคู่สวยเลื่อนมองไปที่เมนูอย่างรวดเร็ว พลางคิดว่าอะไรก็ได้ ขอแค่เพียงสั่งมา ตอนนี้ต่อให้เป็นอาหารมิชลินสามดาวเธอก็กินไปเพื่อให้มีลมหายใจต่อก็เท่านั้น

         “ล็อบสเตอร์อบชีสแล้วกันค่ะ”

         “เครื่องดื่มรับอะไรดีครับ”

         ส้มโอเปิดไปยังหน้าเมนูเครื่องดื่มที่ขึ้นหราละลานตา แต่เธอกลับไม่รู้จะดื่มอะไร ตอนนี้ลำคอเธอแห้งผาก ร่างกายต้องการเครื่องดื่มมึนเมา หวังว่ามันจะช่วยให้เธอนอนหลับได้สบาย

         “ไวน์มั้ย ไวน์มันทำจากองุ่น” หญิงสาวพึมพำกับตัวเองเกิดมา 26 ปี เธอไม่เคยได้ลิ้มรสของมึนเมาสักประเภท ดวงตาสวยเลื่อนสลับระหว่างไวน์ขาวและไวน์แดงที่ขึ้นชื่อไว้หรา ก่อนจะเหลือบสายตาไปมองบริกรหนุ่มที่ยืนรอเธออย่างใจจดจ่อ นั่นมันทำให้เธอรู้สึกกดดันมากขึ้น

         “เอาอันนี้แล้วกันค่ะ ฉันสั่งเท่านี้ก่อน” นิ้วชี้เรียวจิ้มไปยังชื่อไวน์แดงขวดละค่อนหมื่น ก่อนจะพับสมุดเมนูเล่มงามไว้บนโต๊ะ บริกรก้มหน้ารับ และเดินจากไปด้วยท่าทีสุภาพ

         ใบหน้าสวยนั่งเท้าคาง พลางทอดมองวิวเมืองใหญ่ในเวลากลางคืน แสงสีมากมายจากตึกสูงระฟ้าทอประกายทำให้ค่ำคืนนี้มันช่างดูสวยงดงาม แต่สำหรับเธอนั้นมันก็แค่แสงไฟที่บ่งบอกช่วงเวลา ที่ผ่านไปอย่างโดดเดี่ยวอีกคืน

         สายตาเลื่อนลอย พลางคิดถึงเรื่องวันวานที่เคยผ่าน จนไปสะดุดเข้ากับชายหนุ่มที่นั่งอยู่โต๊ะด้านหน้า ใบหน้าคมเข้ม เรือนผมดำขลับจัดแต่งเป็นทรงอย่างดูดี สวมเชิ้ตสีขาวปลดกระดุมเม็ดบนออก สายตาของเขาสบประสานเข้ากับเธออย่างพอดิบพอดีด้วยความบังเอิญ ก่อนที่เขาจะคลี่ยิ้มน้อย ๆ ให้ราวกับเป็นการทักทาย

         เวลาดูเหมือนหยุดนิ่ง ตั้งแต่หยดแรกของไวน์แดงสัมผัสริมฝีปาก รสชาติหวานละมุนและกลิ่นหอมอ่อน ๆ ชวนให้เคลิบเคลิ้ม แก้วแรกผ่านลำคอราวกับน้ำผึ้งที่ละลายลงสู่ความรู้สึก จนเธอไม่อาจต้านทานแรงดึงดูดของมันได้ ยิ่งดื่ม ยิ่งเหมือนถูกมนตร์สะกด ให้จมดิ่งลงสู่ห้วงรสชาติอันเย้ายวนใจ

         ล็อบสเตอร์อบชีสที่นำมาเสิร์ฟเย็นชืด เพราะเธอเมินใส่ หากแต่มือเรียวกลับยกแก้วไวน์กระดกพรวด แก้วแล้ว แก้วเล่า จนทำให้ชายหนุ่มเสื้อเชิ้ตขาวชำเลืองมองเธอเป็นระยะ

         “อร่อยจัง หมดขวดแล้วกินต่ออีกดีกว่า” เธอพึมพำกับตัวเองเพราะติดใจในรสสัมผัส อาการมึนงงเริ่มคืบคลานเข้ามา หากแต่มันกลับทำให้เธอรู้สึกดี แววตาหยาดเยิ้มจ้องมองชายเชิ้ตขาวที่นั่งอยู่ตรงข้าม เธอคลี่ยิ้มหวาน และยกแก้วไวน์ขึ้นจิบด้วยท่าทางเย้ายวน

         ชายเชิ้ตขาวที่นั่งอยู่ลำพังจ้องมองเธอด้วยแววตาลึกล้ำ ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มอย่างช้า ๆ เผยให้เห็นความคมคายบนใบหน้าหล่อเหลา เขาลูบไล้เรือนผมสีดำขลับที่ถูกสายลมแห่งความสูงกว่าเจ็ดสิบชั้นรบกวนจนยุ่งเหยิงเล็กน้อย เขาตัดสินใจลุกจากที่นั่ง เดินมาหาเธอพร้อมกับแก้วไวน์ในมือ

         “สวัสดีครับ มาดื่มคนเดียวเหรอครับ?” ชายหนุ่มเอ่ยทักทายหญิงสาวร่างบางในเดรสสีแดงตุ่น คนตัวสูงกว่าเผลอมองร่องอกอึ๋มของหญิงสาว เขารีบเลื่อนสายตาไปทางอื่น

         “ค่ะ” ส้มโอพยักหน้ารับพลางยิ้มกริ่ม ต้นคอเธอดูโอนอ่อนกว่าเมื่อครู่

         “นั่งด้วยได้มั้ย?”

         “เชิญค่ะ” เธอผายมือเชื้อเชิญ ไล่สายตาขึ้นมองร่างสูง

         “คุณมีเรื่องเครียดอะไรหรือเปล่า?” เขาเหลือบเห็นแก้วไวน์ที่ว่างเปล่าในมือของเธอ

         “คุณดื่มเร็วไปหน่อยนะ ว่ามั้ย?”

         “ใครสนกันล่ะ ฉันรู้แค่ว่ามันอร่อย มันทำให้ฉันลืมอะไร ๆ ได้หลายอย่าง”

         “และอาจจะลืมทางกลับบ้าน” เขาคลี่ยิ้มกว้างอย่างหยอกล้อ ก่อนจะปรายตามองใบหน้าเนียนสวยที่สีหน้าแดงระเรื่อด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์

         “ฉันพักที่นี่ ฉันอยู่ที่นี่ยาวเป็นเดือน และดูเหมือนจะอยู่แบบนี้ไปเรื่อย ๆ” สายตาเธอทอดมองไกลออกไป มันไม่มีจุดโฟกัส หรือจุดไหนที่ทำให้เธอสนใจได้เลยสักนิด

         “ทำไมล่ะ?” เขายกแก้วไวน์ขึ้นจิบ เปลี่ยนนั่งท่าไขว่ห้างแบบสบาย ๆ สายตาจ้องมองไปที่เธอด้วยความสนใจ

         “ฉันไม่มีที่ไปน่ะคุณ” ส้มโอพูดเสียงเรียบ เอื้อมหยิบขวดไวน์แดงขึ้นมาริน แต่ทว่ามือหนาของชายหนุ่มนั้นรวดเร็วกว่า เขาคว้าเอาไว้ และเป็นฝ่ายรินไวน์ให้เธอราวกับบริกรส่วนตัว

         “ขอบคุณนะ”

         ดวงตาคู่สวยเหลือบมองใบหน้าคมของชายแปลกหน้าที่มานั่งร่วมโต๊ะเธอด้วยความรู้สึกแปลกใหม่ 7 ปีที่ผ่านมาเธอไม่เคยแลตามองใครนอกจากราเชน

         “คุณรู้อะไรไหม? ฉันคือคนโง่ที่โดนสวมเขา  .. หึ!!” เธอพูดพลางหัวเราะในลำคอ ราวกับสมเพศตัวเองที่เทิดทูนบูชาความรักและภักดีให้กับแฟนเก่าจนหมดหัวใจ และไม่แม้ที่จะสงสัยหรือตั้งคำถามในอดีตคนรักเลยสักนิด

         เขานิ่งเงียบไม่พูดอะไร เพียงแค่ส่งยิ้มหวานให้เธอ และปล่อยให้เธอระบายความรู้สึกออกมา เขาจะทำหน้าที่เป็นผู้ฟังที่ดีเอง

         “ฉันไม่เคยรู้สึกเจ็บปวดขนาดนี้มาก่อน ฉันหมดเรี่ยวแรงที่จะทำอะไร ฉันไม่แม้อยากจะมีลมหายใจอยู่ต่อ” เธอยกแก้วไวน์ขึ้นก่อนจะดื่มรวดเดียวหมด เสียงฐานแก้วกระทบกับโต๊ะเบา ๆ มือหนาของชายหนุ่มเชิ้ตขาวจึงรินไวน์ให้เธออีกครั้ง

         “7 ปีที่คบกัน ฉันพยายามทำทุกอย่างให้ออกมาที่ดีสุด เพื่อเรา และครอบครัวเล็ก ๆ ของเรา” เธอสบตาเขา พร้อมส่งเสียงหัวเราะ เธอนึกขำที่ตัวเองบอกเล่าความน่าสมเพศให้ชายแปลกหน้าฟัง 

         “คุณเริ่มเมาแล้วนะ รู้ตัวไหม?” ชายเชิ้ตขาวพูดด้วยน้ำเสียงสุขุม สายตาเขาทอดมองหญิงตรงหน้าด้วยความเป็นห่วง 

         “รู้ รู้สิ แต่มันทำให้ฉันรู้สึกดีเป็นบ้า ฮ่าฮ่า” เธอหัวเราะลั่นจนโต๊ะใกล้เคียงต่างเหลือบตามอง

         “เบา ๆ หน่อย คุณอยู่ห้องไหนผมไปส่ง”

         “ไม่เอา!” เธอตวาดเสียงดัง จนตกเป็นเป้าสายตาอีกครั้ง

         “ถ้าเข้าห้องแล้วฉันจะกินกับใคร ว่าแต่ .. คุณชื่ออะไร”

         “โอเค คุณตั้งสติหน่อย เดี๋ยวผมจะนั่งกินเป็นเพื่อนคุณที่ห้องเอง ตอนนี้เรากลับห้องคุณกันเถอะ” ชายเชิ้ตขาวหันรีหันขวางพลางก้มหัวเล็ก ๆ ให้กับบรรดาสายตามากมายที่จับจ้องมาอย่างไม่พอใจ

         ร่างสูงประคองร่างบางที่เรียวขาอ่อนแรงก่อนจะหยุดอยู่ที่หน้าห้องหนึ่งในชั้น 35 เขาควานหาคีย์การ์ดที่อยู่ในกระเป๋าถือของเธอ และแตะมันที่หน้าประตูู ก่อนที่เขาจะพาร่างบางเดินเข้าไปอย่างทุลักทุเล

         “คุณเมาแล้วนะ”

         “ยังไม่บอกชื่อฉันเลย คุณชื่ออะไร” เธอแผดเสียงใส่หลังจากที่ร่างบางโซเซเอนถลาลงบนเก้าอี้นุ่ม สายเดี่ยวเส้นเล็กที่เกาะบ่าเธอไว้ค่อย ๆ เลื่อนลง

         “ผมชื่อคเชณทร์ เรียกผมว่าเชนก็ได้”

         “ฮะ? อะไรนะ เชนหรอ ไอ้เหี้ยเชนเหรอ?”

         เธอตะเบ็งเสียงสุดคอ ลุกขึ้นพรวด แต่อาการมึนเมาจากแอลกอฮอล์ทำให้ร่างบางเซล้มลง ดวงตาเธอพล่าเลือนมองชายตรงหน้าเป็นอดีตคนรักที่เขาเพิ่งทอดทิ้งเธอ

         “เฮ้ย!! คุณ!! เดี๋ยว ๆ”

         คเชณทร์เอ่ยเสียงอ่อน โอบร่างบางลุกขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยความเป็นห่วง หญิงสาวอยู่ในอาการมึนเมากว่าที่เขาคิด

         “ไม่ต้องมาแตะตัวฉันเลย คนเลว”

         มือเล็กผลักแผ่นอกกว้างสุดแรงเกิด แต่ดูเหมือนเขาจะไม่สะทกสะท้าน มือหนาเกาะกุมหัวไหล่เนียนของเธอเอาไว้ทั้งสองข้าง พลางเขย่าเล็ก ๆ

         “ตั้งสติ ๆ”

         เขาเอ่ยเสียงดัง ดวงตาเบิกกว้างอย่างตื่นตระหนก พอจะเดาสถานการณ์ได้ว่า ชายที่ทอดทิ้งเธออาจจะชื่อเชนเช่นเดียวกับเขา โลกใบนี้มันช่างกลมกว่าที่เขาคิด

         “บอกว่าอย่ามาแตะตัวฉันไง แกเป็นคนบอกเองว่าจะไม่ถึงเนื้อถึงตัวฉัน จนถึงวันแต่งงาน ฉันรอมา 7 ปี แล้วสุดท้าย มึงก็ไปมีคนอื่น!!”

         มือเล็กยกขึ้นกำหมัดพลางทุบไปทั่วแผ่นอกและวงแขนล่ำ แต่ยิ่งเธอดิ้นสายเดี่ยวเส้นเล็กก็ยิ่งเลื่อนคล้อยต่ำ จนชุดเดรสเธอมันเลื่อนลง เผยให้เห็นเนินอกขาวผ่อง

         แม้ความหวังดีและห่วงใยจะขึ้นมาเป็นอันดับแรก แต่เขาเองก็เป็นผู้ชายคนหนึ่งในวัยสามสิบที่ลุ่มหลงในเรือนร่างสตรี การที่ได้เห็นเนินเนื้อใต้ร่มผ้ามันทำให้เขาใจสั่นหวั่นไหว เขาสลัดความคิดชั่วช้านั้นทิ้งไป เลื่อนสายตามาจับจ้องใบหน้าเธอ

         ริมฝีปากที่แต่งแต้มสีแดงตุ่นกำลังเผยอเล็ก ๆ พร้อมคำพูดที่เธอพ่นออกอย่างไม่เป็นศัพท์ แต่ไม่ว่าจะวางสายตาตรงไหนก็ทำให้เขาแทบคุมสติไม่อยู่

         “ไอ้เชน ไอ้คนชั่ว บอกให้ปล่อย”

         มือเล็กทุบแผงอกรัวด้วยความหงุดหงิด ใบหน้าบึ้งตึงย่นคิ้วอย่างไม่ชอบใจ 

         “ไม่ปล่อยใช่มั้ย? ได้!!”

         เธอกระชากคอเสื้อเขา จนร่างใหญ่เสียหลักเซล้มลงทับทาบบนร่างเธอ    

         ใบหน้าเรียวสวยใกล้ชิดใบหน้าเขาจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่น ๆ ที่รินรดกัน ดวงตากลมจ้องมองชายตรงหน้าด้วยแววตาขึงขัง ก่อนจะเปลี่ยนท่าที

         ริมฝีปากอิ่มสีแดงตุ่นประทับลงริมฝีปากเขาอย่างจัง ด้วยฤทธิ์มึนเมา

         “อื้อ”

         ริมฝีปากของเขาสนองรสจูบของเธอ เขาไม่แม้แต่จะขัดขืน ความคิดชั่วช้าที่สลัดออกเมื่อครู่มันวาบเข้ามา เขาปล่อยให้ร่างกายเป็นไปตามหัวใจและแรงปรารถนา

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ค่ำคืนคนโสด   บทที่ 5

    สามสัปดาห์ต่อมา วันที่ส้มโอต้องติดสินใจว่าจะเช่าโรงแรมนี้อยู่ต่ออีกเดือน หรือว่าจะตอบรับข้อเสนอของคเชณทร์ เมื่อสองสัปดาห์ก่อนที่เจอกันครั้งล่าสุด น้ำเสียงทุ้มต่ำของเขายังก้องอยู่ในหู ชายแปลกหน้าคนนั้นที่ตอนนี้เปลี่ยนเป็นคนที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี “ส้ม ถ้าคุณไม่มีที่ไป มาอยู่คอนโดผมก็ได้นะ” คเชณทร์เอ่ยเสียงเรียบ แววตาคมจ้องมองเธอด้วยความอ่อนโยน “ให้ฉันไปอยู่กับคุณน่ะเหรอ?” “ไม่ได้อยู่กับผมหรอก ห้องนั้นผมมันว่าง ผู้เช่าเก่าเพิ่งย้ายออก” “แล้วคุณคิดค่าเช่าเท่าไรล่ะ” เธอสบตาเขาราวกับสนใจ “ถ้าเป็นคุณผมไม่คิดเงินหรอก คุณอยู่ไปเถอะ คุณเองก็เหลือเงินเก็บไม่มากแล้วนี่ ไหนจะเรียน ป.โท ปีสุดท้ายอีก” เธอย่นคิ้วพลางหรี่ตามองชายตรงหน้าอย่างฉุกคิด เพราะเหตุใดเขาจึงเสนอห้องว่างที่คอนโดให้เธออยู่ฟรีกันแน่ “เอ .. คุณจะเป็นเสี่ยเลี้ยงฉันเหรอ?” เธอพูดพลางขำ “อืม จะว่างั้นก็ได้นะ” เขาตอบกลับพร้อมรอยยิ้มกว้าง “ให้ฉันไปอยู่ฟรีแลกกับอะไรเหรอ?” “ถ้าเป็นตอนนี้คงมีเรื่องเดียวแหละนะ ... เราสองคนต่างก็รู้กั

  • ค่ำคืนคนโสด   บทที่ 4

    “งั้นอย่างน้อย ตอนนี้เราสองคนก็รู้จักกันแล้วนะ ฉันขอแนะนำตัวอีกครั้ง ฉันชื่อส้มโอ เรียกว่าส้มเฉย ๆ ก็พอ” เธอยิ้มอย่างอ่อนหวาน ดวงตาเป็นประกายขณะที่ยื่นมือเรียวบางไปข้างหน้า “ครับ ผมชื่อคเชณทร์ เรียกผมว่าเชน” เขายื่นมือมาจับมือเธอ สัมผัสอุ่น ๆ ที่ทำให้หัวใจกระตุก “เอิ่ม ... เรียกว่าอะไรก็ได้ครับ ถ้าชื่อผมมันทำให้คุณ ...” เขาพูดอึกอัก ลังเลเล็กน้อย เมื่อนึกได้ว่าชื่อของตนนั้นบังเอิญไปพ้องกับชื่อคนที่เคยทำให้เธอเจ็บปวด “เรียกอะไรดีล่ะ ฉันขอเรียกว่า .. คุณหมีแล้วกันนะ” “ทำไมล่ะ?” “ห้ามขำฉันนะ .. ฉันเคยขี่ตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ที่เขาซื้อให้ แต่ดูเหมือนตอนนี้ ..” เธอหยุดพูดชั่วขณะสายตาทอดมองไปยังร่างกำยำของคนตรงหน้าด้วยแววตาเว้าวอน “ฉันจะเจอตุ๊กตาหมี ‘ตัวใหญ่’ ของฉันเข้าแล้วสิ” เธอยิ้มกริ่มพลางกัดริมฝีปากตัวเองเล็ก ๆ แววตาอาบย้อมด้วยความปรานารถ น้ำเสียงเธอมันช่างยั่วยวนคนฟังให้หื่นกระหาย “แต่ คุณยังไม่เคยขี่ ‘คุณหมี’ เลยนะ” ดวงตาหยาดเยิ้มจ้องมองใบหน้าสวย และเผยยิ้มยั่ว

  • ค่ำคืนคนโสด   บทที่ 3

    แสงอาทิตย์ยามเช้าสาดส่องผ่านกระจกใสของห้องพักชั้น 32 ละอองแสงสีทองอ่อน ๆ ทอประกายระยิบระยับ ส้มโอนอนนิ่งอยู่บนเตียงขนาดคิงไซส์ ร่างบางถูกห่มคลุมด้วยผ้านวมสีขาวนุ่ม เธอยังคงหลับใหลด้วยความอ่อนล้าจากค่ำคืนอันเร่าร้อน ใบหน้าสวยดูสงบนิ่งราวกับเทพธิดาที่หลับใหล ดวงตาคู่สวยค่อย ๆ ลืมตาขึ้นอย่างยากลำบาก ศีรษะเธอหนักอึ้งด้วยอาการเมาค้าง ร่างบางพลิกตะแคงข้าง มือเรียวคลำหาโทรศัพท์ แต่ไม่รู้ว่าไปวางไว้ตรงไหน เธอจึงตัดสินใจลุกขึ้นนั่ง “นี่มัน … อะไรเนี่ย!!” ดวงตาคู่เหลือบเห็นเดรสสีแดงตุ่น และแพนตี้สีครีมของเธอ วางกองอยู่ปลายเตียงราวกับถูกทอดทิ้ง ภาพชายหนุ่มเชิ้ตขาวคนเมื่อคืนแล่นปราดเข้ามาในห้วงคำนึง เมื่อเธอนึกได้จึงหันมองไปที่เตียงนอน .. แต่บนเตียงใหญ่ กลับไม่พบใคร ที่นอนเคียงข้าง “ฝันเหรอ? แต่ฝันอะไร บ้าบอชะมัด” มือเรียวเล็กกุมขมับที่ปวดตึบ เธอรู้สึกลำคอแห้งผากต้องการดื่มน้ำเปล่าให้ชุ่มคอเสียหน่อย จึงค่อย ๆ ยกเรียวขาขาวให้ก้าวลงจากเตียงนอน แต่ทว่า.. .. ความเจ็บแสบที่แก่นกลางกายมันปะทุขึ้น จนเธอเผลอร้องออกมา “ซีด! โอ๊ยเจ็บ!”

  • ค่ำคืนคนโสด   บทที่ 2

    ริมฝีปากอวบอิ่มแช่ค้างอยู่ที่ริมฝีปากเขา พร้อมลมหายใจอุ่น ๆ ที่คลุ้งกลิ่นไวน์อ่อน ๆ มือหนาโอบอุ้มร่างบางพลางพยุงขึ้น เขาจับเธอพลิกให้เธอนอนเอนกายอย่างสบายบนเตียงนุ่ม “เชน ส้มไม่ได้อยากจูบเชน” ที่ผ่านมาราเชนมอบให้เธอเพียงรสจูบหวานล้ำ แต่ไม่เคยแตะต้องผิวกายหรือสัมผัสเรือนร่างที่เธอเฝ้าบำรุง เพราะอยากให้เธอเสียความบริสุทธิ์ให้เขาในวันแต่งงาน “ส้มอยากเป็นของเชน” หญิงร่างบางที่นอนราบอยู่บนเตียงเอ่ยขึ้น ด้วยน้ำเสียงอ่อนระโหย ก่อนส่งสายตาเว้าวอน คเชณทร์ไม่รีรอ เขาชันเข่าคร่อมร่างเล็กที่อยู่เบื้องล่าง สองแขนแกร่งค้ำยันร่างหนา โน้มใบหน้าลงมาใกล้ เขางับริมฝีปากล่างของเธอที่แววตามองมาด้วยอารมณ์ใคร่ที่เต็มเปี่ยม เขาบดคลึงริมฝีปากสัมผัสรสจูบอย่างแผ่วเบา เขาผละออกชั่วครู่ ก่อนจะลอบมองใบหน้านวลเนียนของเธอ “อยากเป็นของเชนเหรอ?” เสียงทุ้มต่ำกระซิบแผ่วเบาอยู่ข้างหูของหญิงสาว เธอครางตอบแผ่วเบา “อือ” ก่อนที่เขาใช้ลิ้นเลียไซ้ใบหู กลิ่นกายหอมอ่อน ๆ ของหญิงสาวทำให้เขาขาดสติ ศีลธรรมอันดีได้ถูกเก็บซ่อนไว้ส่วนลึก ริมฝีปากค่อย ๆ ไล

  • ค่ำคืนคนโสด   บทที่ 1

    “ส้ม …” “เราเลิกกันเถอะ …” “อะไรนะ” คำพูดที่เธอไม่คิดว่าจะได้ยินจากปากคนรักที่คบหากันมานานถึง 7 ปี เขาเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย แววตาเขาไม่ได้สะท้อนถึงความโศกเศร้า หรือเสียใจเลยสักนิด “ทะ ทำไมล่ะ? เชน” “เธออย่าเสียเวลากับเราเลย” เขาเบือนหน้าหนี เมื่อเห็นแววตาใสซื่อของเธอ “มะ .. ไม่ เราไม่ได้เสียเวลาเลย นะ .. นี่ไง ปีหน้าเราก็จบ ป.โทแล้ว เราก็จะได้แต่งงานกัน” ส้มโอมองใบหน้าคมของชายคนรักด้วยแววตาสั่นไหว มือเล็กคว้าแขนแกร่งของเขา ราวกับขอร้องว่าอย่าไป เธอยังจำได้ดีวันที่เขาให้คำมั่นสัญญาว่าจะรอจนกว่าเธอจะเรียนจบแล้วจะแต่งงานสร้างครอบครัวด้วยกัน แต่ทว่า … วันนี้กลับกลายเป็นเขาที่ดูเหมือนจะทำผิดสัญญา “ส้ม .. พอเถอะ” ราเชนชักแขนออกจากการเกาะกุมของมือเล็ก ๆ สายตาเย็นชามองใบหน้าสวยอย่างอึดอัดใจ สายตาเศร้าหมองช้อนขึ้นมองคนตัวสูง ริมฝีปากสั่นระริก เขาเหมือนโลกทั้งใบของเธอ หากวันนี้เสียเขาไปเธอเองก็ไม่รู้จะมีชีวิตต่อได้เช่นไร ในเมื่อ 7 ปีที่ผ่านมา เขาคือคนเดียวที่เธอมีอยู่ ชีว

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status