อวิ๋นซูวิ่งไปพร้อมกับคอมพิวเตอร์ตลอดทั้งบ่าย แต่ก็ยังไม่พบอะไรเลยเธอถึงกับมีความคิดที่จะเลิกแข่งขันไปเลยแต่......ตอนนี้เธอถูกแยกออกจากตระกูลอวิ๋น แล้วเธอก็ไม่สามารถพึ่งพาเฮ่อเยียนสือ เพื่อช่วยเหลือเธอได้เขาซื้อวิลล่าไปและคิดว่าเขาคงมีเงินเหลือไม่มาก และยังต้องจ่ายเงินรายเดือนทุกเดือนอีกเมื่อนึกถึงสิ่งนี้ อวิ๋นซูก็อยากจะบิดกระโหลกของอวิ๋นซือฉิงซ่งชูโม่ส่งข้อความถึงเธอเมื่อเช้านี้ โดยบอกว่ากระบวนการได้เริ่มต้นขึ้นแล้วหมายเรียกของศาลคาดว่าจะอยู่ในมืออวิ๋นซือฉิงในอีกสองวันข้างหน้า อย่างไรก็ตาม คงต้องใช้เวลาสักระยะก่อนถึงเซสชั่นของศาล บอกอวิ๋นซูไม่ต้องยุ่ง เขาจะจัดการเองอวิ๋นซูแค่ะต้องปรากฏตัวต่อหน้าศาลเท่านั้นเมื่อคิดว่าตราบใดที่เธอรออวิ๋นซือฉิงถูกลงโทษตามกฎหมาย ในที่สุดอารมณ์ของเธอก็คงที่มากขึ้นน่าเสียดาย......อวิ๋นซูคลิกที่บัญชีอย่างเป็นทางการของการแข่งขันการออกแบบเพื่อกดเลิกติดตาม เธอก็พบว่าเจ้าหน้าที่ได้อัปเดตข้อมูลใหม่ในวันนี้ เวลากำหนดส่งผลงานเข้าประกวดได้ขยายออกไปเป็นสัปดาห์หน้า!ถึงกระนั้นเธอยังมีเวลาหนึ่งสัปดาห์ในการเตรียมตัวจู่ๆ อวิ๋นซูก็รู้สึกมีชีวิตชีวา
ครึ่งชั่วโมงต่อมาเฮ่อเยียนสือได้รับโทรศัพท์จากเย่ชางเหยียน“เมื่อกี้นายกำลังประชุมหรือเปล่า?” เย่ชางเหยียนสะอึก “เฮ่อหย่วนเจ๋อโทรหาฉันและบอกว่าเขากำลังมองหาแหล่งอวัยวะไต ไม่ใช่นายเหรอที่บอกว่าจะไม่หามันแล้ว? ทำไมนายถึงหามันอีกครั้ง? “เฮ่อเยียนสือยังคงโกรธ เขาระงับเสียงของความโกรธไว้ “ไม่ใช่เรื่องของนาย”“อย่า” เย่ชางเหยียนพูออย่างร้อนใจ “ครั้งที่แล้วฉันบอกนายแล้วว่า ประวัติทางการแพทย์แฟนของเขาค่อนข้างแปลก ฉันรู้สึกโล่งใจเมื่อนายบอกว่านายจะไม่หามันเเล้ว หากนายต้องการหา ฉันจะต้องเอาประวัติมาดูใหม่อีกรอบ ขอแค่นายตอบฉันมาว่าจะ หา หรือ ไม่หา?”เฮ่อเยียนสือวางสายโทรศัพท์เย่ชางเหยียนเข้าใจโดยทันที ความหมายคือไม่ต้องมาช่วยไม่ถึงห้านาที เฮ่อหย่วนเจ๋อโทรมาอีกครั้งเย่ชางเหยียนรื้อประวัติบันทึกทางการแพทย์ของอวิ๋นซือฉิงและกำลังจะหาข้อแก้ตัวที่เหมาะสมในการปฏิเสธเฮ่อหย่วนเจ๋อจากบันทึกทางการแพทย์ แต่ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็ถูกดึงดูดด้วยแผนภูมิข้อมูลแผนภูมิข้อมูลเป็นข้อมูลการทดสอบความดันโลหิตรวมตลอดทั้งปี ในช่วง 2-3 เดือนแรกความดันโลหิตต่ำ แต่ช่วง 2-3 วันตรงกลางค่าความดันโลหิตยังอยู่ในช่วงปก
“มีสิทธิ์อะไร?!” หลินเหมียวเหมียวเริ่มโกรธ“เพียงเพราะฉันเป็นเจ้าของร้านนี้” เจ้าของร้านพูดด้วยความรังเกียจ “ไป ไป ตราบใดที่คุณเมิ่งไม่ต้อนรับ เราก็จะไม่ต้อนรับ”หลินเหมียวเหมียวยังคงต้องการที่จะโต้แย้ง แต่อวิ๋นซูดึงเธอกลับ “เหมียวเหมียว ช่างมันเถอะ จะเสียเวลาวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ดีในสถานที่แบบนี้ได้ยังไง”ที่ตีนเขามีร้านอาหารอร่อยๆ มากมายทันใดนั้นก็มีเสียงหัวเราะดังขึ้น “จะพูดแบบนั้นก็ไม่ถูก ในเมื่อออกมาแล้ว ก็ย่อมต้องการรู้สึกสบายใจเป็นธรรมดา”อวิ๋นซูมองไปทางต้นเสียงนี้ เป็นเย่ชางเหยียนจริง ๆ ด้วยไม่คิดว่าจะได้เจอเขาที่นี่อีกเย่ชางเหยียนเข้ามาทักทายอวิ๋นซูและเหมียวเหมียว และมองไปที่เจ้าของร้านอีกครั้ง เขายังคงอ่อนโยน“สองคนนี้เป็นเพื่อนของผม”ความหมายนั้นชัดเจนอยู่แล้วการขับไล่อวิ๋นซูและหลินเหมียวเหมียวออกไป เท่ากับว่ากำลังขับไล่เขาออกไปเจ้าของร้านไม่รู้จักตัวตนของบุคคลที่อยู่ตรงหน้าเขา แต่เมิ่งเหยาจำเขาได้ทันทีและหน้าซีด“เย่ เย่ชางเหยียน!”แพทย์อัจฉริยะชื่อดังระดับสากล!ว่ากันว่าเขายังเป็นเพื่อนที่ดีของอารอง เฮ่อหย่วนเจ๋อ ด้วย!หัวใจของเมิ่งเหยาเต้นแรงอีกครั้ง เม
เฮ่อเยียนสือเงยหน้าขึ้นมองอวิ๋นซูจากควันทั้งสองสบตาและมองหน้ากันโดยไม่พูดอะไรเย่ชางเหยียนผลักอวิ๋นซูไปที่ข้างเฮ่อเยียนสืออย่างรวดเร็ว “บังเอิญจังเลย ฉันได้พบกับคุณอวิ๋นตอนที่ฉันกลับมาจากเข้าห้องน้ำ”อวิ๋นซูนั่งลงและได้กลิ่นเปปเปอร์มินต์อันเป็นเอกลักษณ์บนร่างกายเฮ่อเยียนสือ และจิตใจก็ถูกรบกวนทำให้ว้าวุ่นทันทีหลินเหมียวเหมียวไม่รู้เรื่องระหว่างทั้งสอง เธอยังคงตกใจที่เฮ่อเยียนสือรู้จักเย่ชางเหยียน “คุณ... เป็นเพื่อนกันเหรอ?”เฮ่อเยียนสือนี่ใช้ได้จริง ๆ แม้แต่แพทย์อัจฉริยะที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติก็รู้จักเขา“เราพบกันตอนที่เราอยู่ในโรงพยาบาล” เย่ชางเหยียนนั่งลงข้าง ๆ หลินเหมียวเหมียว จากนั้นยื่นแท็บเล็ตให้อวิ๋นซูและหลินเหมียวเหมียว “คุณหลินเราได้สั่งไปแล้ว พวกคุณลองดูสิ่งที่อยากกินเถอะ”อวิ๋นซูไม่สามารถนั่งนิ่งได้และยกขาขึ้นแอบเตะไปที่หลินเหมียวเหมียว เพื่อเตือนให้เธอหนี อย่างไรก็ตามหลินเหมียวเหมียวไม่สนใจและสั่งอาหารต่อไปอย่างจริงจังเธอเหลือบมองใต้โต๊ะอย่างหลบๆ ซ่อนๆจากนั้นเธอก็พบว่าเฮ่อเยียนสือเหยียดขายาวของเขาไปทางเธอเตะรอบนั้นของเธอกระแทกขาเฮ่อเยียนสืออย่างแม่นยำเมื
หลินเหมียวเหมียวหัวเราะเบา ๆ “เธอยังบอกว่าเธอไม่รู้สึกอะไรกับเขา จู่ ๆ ก็คิดแทนเขาเเล้วเหรอ”“เมียวเมียว…” อวิ๋นซูหน้าแดงหลินเหมียวเหมียวพูดอย่างเคร่งขรึม “โอเค ๆ เห็นแก่หน้าของเธอ ฉันจะไม่จีบแล้ว เห้อ หนุ่มหล่อหลุดมือไปแล้ว เธอต้องชดใช้ฉันนะ!”อวิ๋นซูถอนหายใจด้วยความโล่งอก “ไม่มีปัญหา ฉันจะหาในสิ่งที่เธอต้องการมาให้”ทั้งสองพูดคุยและหัวเราะและกลับไปที่ห้องส่วนตัวทันทีที่อวิ๋นซูเข้ามา ดวงตาของเฮ่อเยียนสือก็จ้องมองไปที่อวิ๋นซูเมื่อเห็นสิ่งนี้ เย่ชางเหยียนก็ยืนขึ้นและพูดว่า “ยังไม่ดึกสักหน่อย ไปดูหนังกันไหม?”“ไม่ล่ะ” หลินเหมียวเหมียวไม่ได้ตั้งใจจะทำอะไรกับเย่ชางเหยียนอีกต่อไป และทัศนคติของเธอก็ห่างเหินอย่างเห็นได้ชัด “ฉันและเสี่ยวชูยังต้องไปชอปปิ้งกันต่อ ขอบคุณสำหรับอาหารวันนี้”ดวงตาเย่ชางเหยียนฉายแววด้วยความประหลาดใจ “ถ้าอย่างนั้นพวกเราจะไปกับคุณ ช่วยถือของให้พวกคุณ”หลังจากพูดอย่างนั้นเขาก็รู้สึกผิดเฮ่อเยียนสือเคยถือกระเป๋าแบบนี้ซะที่ไหนไม่คาดคิดว่าเฮ่อเยียนสือลุกขึ้นยืนและมีชุดสูทอยู่ในมือด้วยเหตุนี้ นี่เป็นครั้งแรกของที่เย่ชางเหยียนเห็นนายน้อยเฮ่อที่วางมาดเย่อหยิ่
หลังจากที่เมิ่งเหยาออกจากร้านอาหารทะเลอย่างหดหู่ใจ ยิ่งคิดยิ่งโกรธมากขึ้นเธอไม่กล้าเจอฮ่อเยียนสือ อีกทั้งอวิ๋นซูยังจีบเพื่อนสนิทของเฮ่อเยียนสือมันยังมีเหตุผลอะไรอีก?ไม่ได้เธอไม่สามารถนั่งนิ่งรอความตายได้เมิ่งเหยาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วกดหมายเลข“กัวเว่ย?”“สวัสดี คุณเมิ่ง”“ช่วยฉันสืบทีว่าใครเป็นสามีของอวิ๋นซู!”เธอต้องการส่งหลักฐานที่เเสดงว่าอวิ๋นซูกำลังคบหากับผู้ชาย และส่งให้กับสามีของอวิ๋นซู จากนั้นขอให้เขาดูแลพฤติกรรมของภรรยาเขาให้ดี“คุณเมิ่ง” กัวเว่ยยิ้มอย่างขมขื่น “คุณกำลังทำให้ฉันลำบากใจอยู่ใช่ไหม? คราวที่แล้วเรื่อง เฮ่อ กรุ๊ป สืบอยู่หลายวัน แต่ก็ยังหาไม่เจอว่าสามีของอวิ๋นซูคือใคร ถ้าคุณขอให้ฉันสืบ ต่อให้ฉันสืบเจอ ก็เกรงว่าฉันจะไม่มีโอกาสบอกคุณด้วยซ้ำ”เมิ่งเหยาขยำเสื้อ “ยังมีเรื่องเเบบนี้อีกเหรอ?”“คุณผู้หญิง คุณเป็นลูกค้าประจำ ฉันเลยกล้าบอกคุณ เรื่องนี้ไม่ค่อยมีคนรู้เรื่องมากนัก และคนที่รู้ก็ถูกปิดปาก ถ้าเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป คุณคิดดูว่าตระกูลเฮ่อจะต้องอับอายมากแค่ไหน.. ”“มันไม่ควรเป็นเช่นนั้น อวิ๋นซูบอกว่าชายของเธอเป็นเพียงคนธรรมดา”กัวเว่ยไม่สนใจเร
อวิ๋นซูแต่งงานแล้วเจ้าบ่าวไม่ใช่เฮ่อหย่วนเจ๋อว่าที่คู่หมั้นที่คบกันมาแปดปีแต่เป็นชายหนุ่มที่เพิ่งเจอกันไม่ถึงห้านาที รู้ข้อมูลพื้นฐานแค่เพียงเล็กน้อยคนหนึ่ง“เสียใจตอนนี้ยังทันนะ”ในห้องรับรองของว่าที่การอำเภอ ชายหนุ่มชำเลืองมองอวิ๋นชูด้วยสายตาดูถูกแวบหนึ่งเป็นการเตือนอวิ๋นชูขยำชายเสื้อที่ใกล้จะขาดแหล่ไม่ขาดแหล่ ขณะเดียวกันใบหน้าที่ไร้ความรู้สึกของเฮ่อหย่วนเจ๋อก็ผุดขึ้นมาในหัวสมองเมื่อสามวันก่อน เฮ่อหย่วนเจ๋อที่คอยแต่หลบเลี่ยงเธอราวกับเห็นงูมาตลอดก็เป็นฝ่ายชวนเธอไปกินมื้อค่ำ วินาทีที่รับสาย เธอคิดอย่างไร้เดียงสาว่าการลงทุนลงแรงมานานแปดปีมันเกิดผลลัพธ์แล้วเธอแต่งตัวสำหรับออกเดต สิ่งที่เธอรอคอยไม่เพียงแต่เฮ่อหย่วนเจ๋อเท่านั้น เธอยังรอภาพสวีทที่เขาจับมือของเธอนั่งส่งยิ้มหวานให้กันอยู่บนเก้าอี้อีกด้วย——ลูกพี่ลูกน้องของเธอ!เธอยังไม่ทันตกผนึกความสัมพันธ์ของทั้งสองคน เฮ่อหย่วนเจ๋อก็ทิ้งระเบิดลูกใหญ่“บริจาคไตให้ซือฉิงซะ แล้วผมจะแต่งงานกับคุณ”อวิ๋นชูเหมือนโดนฟ้าผ่าเปรี้ยง มองเฮ่อหย่วนเจ๋อด้วยสายตาไม่อยากเชื่อ สายตาของชายหนุ่มที่อยู่ตรงข้ามกลับเย็นเยียบละคนเกลียดชัง เหมือนกับว่าผู้หญิง
”มีปัญหาอะไรเหรอ?” เฮ่อเหยียนสือปรายตามองเธออวิ๋นซูอ้าปากสีแดงค้าง เพราะไม่รู้จะอธิบายอย่างไร กังวลว่าเฮ่อเหยียนสือจะคิดมาก ทำได้แค่พูดว่า “ไม่มีอะไร ไปกันเถอะ”ถึงอย่างไรก็ต้องเผชิญหน้ากันไม่ช้าก็เร็วอยู่ดีระหว่างทาง อวิ๋นซูได้รับสายจากเฮ่อหย่วนเจ๋อ เมื่อเห็นแสงไฟที่กะพริบไม่หยุดบนหน้าจอ อวิ๋นซูก็ตัวแข็งทื่อ ราวกับเห็นตัวเองเมื่อแปดปีก่อนก่อนหน้านั้นเธอเป็นฝ่ายโทรหาเฮ่อหย่วนเจ๋อมาตลอด เพื่อถามไถ่สารทุกข์สุกดิบแต่เฮ่อหย่วนเจ๋อไม่เคยเป็นฝ่ายโทรหาเธอก่อนสักครั้งต่อให้เธอต้องทำการผ่าตัดอยู่ที่โรงพยาบาล ก็ไม่เคยได้รับข้อความเป็นห่วงเป็นใยจากเขาเลยสักครั้งแต่ตอนนี้เพื่ออวิ๋นซือฉิง เขากลับเป็นฝ่ายโทรหาเธอก่อนหลายครั้งคนเรามันเทียบกันไม่ได้“ไม่รับเหรอ?” เฮ่อเหยียนสือที่นั่งอยู่เบาะข้างคนขับกำลังนั่งหลับตาพักผ่อนได้หันไปมองนอกหน้าต่างอวิ๋นซูมองใบหน้าด้านข้างที่หล่อเหลาไร้ที่ติของชายหนุ่ม แม้ว่าจะไม่เห็นสีหน้าของเขา แต่ก็พอสัมผัสได้ว่าเขาทนไม่ได้หลังจากลังเลครู่หนึ่ง สุดท้ายก็กดรับสายแต่ยังไม่ทันเอ่ยปาก เสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธของเฮ่อหย่วนเจ๋อก็ดังขึ้น“อวิ๋นซู! คุณโผล่หน้ามาหาผมท