หลินเหมียวเหมียวหัวเราะเบา ๆ “เธอยังบอกว่าเธอไม่รู้สึกอะไรกับเขา จู่ ๆ ก็คิดแทนเขาเเล้วเหรอ”“เมียวเมียว…” อวิ๋นซูหน้าแดงหลินเหมียวเหมียวพูดอย่างเคร่งขรึม “โอเค ๆ เห็นแก่หน้าของเธอ ฉันจะไม่จีบแล้ว เห้อ หนุ่มหล่อหลุดมือไปแล้ว เธอต้องชดใช้ฉันนะ!”อวิ๋นซูถอนหายใจด้วยความโล่งอก “ไม่มีปัญหา ฉันจะหาในสิ่งที่เธอต้องการมาให้”ทั้งสองพูดคุยและหัวเราะและกลับไปที่ห้องส่วนตัวทันทีที่อวิ๋นซูเข้ามา ดวงตาของเฮ่อเยียนสือก็จ้องมองไปที่อวิ๋นซูเมื่อเห็นสิ่งนี้ เย่ชางเหยียนก็ยืนขึ้นและพูดว่า “ยังไม่ดึกสักหน่อย ไปดูหนังกันไหม?”“ไม่ล่ะ” หลินเหมียวเหมียวไม่ได้ตั้งใจจะทำอะไรกับเย่ชางเหยียนอีกต่อไป และทัศนคติของเธอก็ห่างเหินอย่างเห็นได้ชัด “ฉันและเสี่ยวชูยังต้องไปชอปปิ้งกันต่อ ขอบคุณสำหรับอาหารวันนี้”ดวงตาเย่ชางเหยียนฉายแววด้วยความประหลาดใจ “ถ้าอย่างนั้นพวกเราจะไปกับคุณ ช่วยถือของให้พวกคุณ”หลังจากพูดอย่างนั้นเขาก็รู้สึกผิดเฮ่อเยียนสือเคยถือกระเป๋าแบบนี้ซะที่ไหนไม่คาดคิดว่าเฮ่อเยียนสือลุกขึ้นยืนและมีชุดสูทอยู่ในมือด้วยเหตุนี้ นี่เป็นครั้งแรกของที่เย่ชางเหยียนเห็นนายน้อยเฮ่อที่วางมาดเย่อหยิ่
หลังจากที่เมิ่งเหยาออกจากร้านอาหารทะเลอย่างหดหู่ใจ ยิ่งคิดยิ่งโกรธมากขึ้นเธอไม่กล้าเจอฮ่อเยียนสือ อีกทั้งอวิ๋นซูยังจีบเพื่อนสนิทของเฮ่อเยียนสือมันยังมีเหตุผลอะไรอีก?ไม่ได้เธอไม่สามารถนั่งนิ่งรอความตายได้เมิ่งเหยาหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแล้วกดหมายเลข“กัวเว่ย?”“สวัสดี คุณเมิ่ง”“ช่วยฉันสืบทีว่าใครเป็นสามีของอวิ๋นซู!”เธอต้องการส่งหลักฐานที่เเสดงว่าอวิ๋นซูกำลังคบหากับผู้ชาย และส่งให้กับสามีของอวิ๋นซู จากนั้นขอให้เขาดูแลพฤติกรรมของภรรยาเขาให้ดี“คุณเมิ่ง” กัวเว่ยยิ้มอย่างขมขื่น “คุณกำลังทำให้ฉันลำบากใจอยู่ใช่ไหม? คราวที่แล้วเรื่อง เฮ่อ กรุ๊ป สืบอยู่หลายวัน แต่ก็ยังหาไม่เจอว่าสามีของอวิ๋นซูคือใคร ถ้าคุณขอให้ฉันสืบ ต่อให้ฉันสืบเจอ ก็เกรงว่าฉันจะไม่มีโอกาสบอกคุณด้วยซ้ำ”เมิ่งเหยาขยำเสื้อ “ยังมีเรื่องเเบบนี้อีกเหรอ?”“คุณผู้หญิง คุณเป็นลูกค้าประจำ ฉันเลยกล้าบอกคุณ เรื่องนี้ไม่ค่อยมีคนรู้เรื่องมากนัก และคนที่รู้ก็ถูกปิดปาก ถ้าเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป คุณคิดดูว่าตระกูลเฮ่อจะต้องอับอายมากแค่ไหน.. ”“มันไม่ควรเป็นเช่นนั้น อวิ๋นซูบอกว่าชายของเธอเป็นเพียงคนธรรมดา”กัวเว่ยไม่สนใจเร
อวิ๋นซูแต่งงานแล้วเจ้าบ่าวไม่ใช่เฮ่อหย่วนเจ๋อว่าที่คู่หมั้นที่คบกันมาแปดปีแต่เป็นชายหนุ่มที่เพิ่งเจอกันไม่ถึงห้านาที รู้ข้อมูลพื้นฐานแค่เพียงเล็กน้อยคนหนึ่ง“เสียใจตอนนี้ยังทันนะ”ในห้องรับรองของว่าที่การอำเภอ ชายหนุ่มชำเลืองมองอวิ๋นชูด้วยสายตาดูถูกแวบหนึ่งเป็นการเตือนอวิ๋นชูขยำชายเสื้อที่ใกล้จะขาดแหล่ไม่ขาดแหล่ ขณะเดียวกันใบหน้าที่ไร้ความรู้สึกของเฮ่อหย่วนเจ๋อก็ผุดขึ้นมาในหัวสมองเมื่อสามวันก่อน เฮ่อหย่วนเจ๋อที่คอยแต่หลบเลี่ยงเธอราวกับเห็นงูมาตลอดก็เป็นฝ่ายชวนเธอไปกินมื้อค่ำ วินาทีที่รับสาย เธอคิดอย่างไร้เดียงสาว่าการลงทุนลงแรงมานานแปดปีมันเกิดผลลัพธ์แล้วเธอแต่งตัวสำหรับออกเดต สิ่งที่เธอรอคอยไม่เพียงแต่เฮ่อหย่วนเจ๋อเท่านั้น เธอยังรอภาพสวีทที่เขาจับมือของเธอนั่งส่งยิ้มหวานให้กันอยู่บนเก้าอี้อีกด้วย——ลูกพี่ลูกน้องของเธอ!เธอยังไม่ทันตกผนึกความสัมพันธ์ของทั้งสองคน เฮ่อหย่วนเจ๋อก็ทิ้งระเบิดลูกใหญ่“บริจาคไตให้ซือฉิงซะ แล้วผมจะแต่งงานกับคุณ”อวิ๋นชูเหมือนโดนฟ้าผ่าเปรี้ยง มองเฮ่อหย่วนเจ๋อด้วยสายตาไม่อยากเชื่อ สายตาของชายหนุ่มที่อยู่ตรงข้ามกลับเย็นเยียบละคนเกลียดชัง เหมือนกับว่าผู้หญิง
”มีปัญหาอะไรเหรอ?” เฮ่อเหยียนสือปรายตามองเธออวิ๋นซูอ้าปากสีแดงค้าง เพราะไม่รู้จะอธิบายอย่างไร กังวลว่าเฮ่อเหยียนสือจะคิดมาก ทำได้แค่พูดว่า “ไม่มีอะไร ไปกันเถอะ”ถึงอย่างไรก็ต้องเผชิญหน้ากันไม่ช้าก็เร็วอยู่ดีระหว่างทาง อวิ๋นซูได้รับสายจากเฮ่อหย่วนเจ๋อ เมื่อเห็นแสงไฟที่กะพริบไม่หยุดบนหน้าจอ อวิ๋นซูก็ตัวแข็งทื่อ ราวกับเห็นตัวเองเมื่อแปดปีก่อนก่อนหน้านั้นเธอเป็นฝ่ายโทรหาเฮ่อหย่วนเจ๋อมาตลอด เพื่อถามไถ่สารทุกข์สุกดิบแต่เฮ่อหย่วนเจ๋อไม่เคยเป็นฝ่ายโทรหาเธอก่อนสักครั้งต่อให้เธอต้องทำการผ่าตัดอยู่ที่โรงพยาบาล ก็ไม่เคยได้รับข้อความเป็นห่วงเป็นใยจากเขาเลยสักครั้งแต่ตอนนี้เพื่ออวิ๋นซือฉิง เขากลับเป็นฝ่ายโทรหาเธอก่อนหลายครั้งคนเรามันเทียบกันไม่ได้“ไม่รับเหรอ?” เฮ่อเหยียนสือที่นั่งอยู่เบาะข้างคนขับกำลังนั่งหลับตาพักผ่อนได้หันไปมองนอกหน้าต่างอวิ๋นซูมองใบหน้าด้านข้างที่หล่อเหลาไร้ที่ติของชายหนุ่ม แม้ว่าจะไม่เห็นสีหน้าของเขา แต่ก็พอสัมผัสได้ว่าเขาทนไม่ได้หลังจากลังเลครู่หนึ่ง สุดท้ายก็กดรับสายแต่ยังไม่ทันเอ่ยปาก เสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธของเฮ่อหย่วนเจ๋อก็ดังขึ้น“อวิ๋นซู! คุณโผล่หน้ามาหาผมท
หัวใจของอวิ๋นซูเต้นระทึกราวกับจะระเบิดออกมาคล้ายกับคว้าท่อนซุงได้หลังจากที่ลอยคว้างอยู่ในมหาสมุทรเธอเงยหน้าขึ้น กระทั่งสบสายตาของเฮ่อเหยียนสือพอดีนัยน์ตาของเขาไม่มีความขี้เล่นดูเลื่อนลอยอีกแล้ว แต่เต็มไปด้วยความลึกซึ้ง วินาทีนั้นแม้แต่อวิ๋นซูก็แทบจะถูกล่อลวงให้หลงใหล เธอรีบหันไปมองอวิ๋นไจ่เหอและเซิ่งหย่าจวี๋ทั้งสองคนล้มตัวลงนั่งบนโซฟาด้วยความตกใจผ่านไปครู่ใหญ่ อวิ๋นไจ่เหอเป็นฝ่ายได้สติกลับมาก่อน จากนั้นก็เงยหน้าถามอวิ๋นซู “เสี่ยวซู เกิดอะไรขึ้น?”อวิ๋นซูกำลังจะอ้าปากอธิบาย ก็ถูกเฮ่อเหยียนสือคว้าตัวไปด้านหลังเสียก่อนความรู้สึกของการถูกปกป้องอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนนี้ทำให้สมองของเธอว่างเปล่า จากนั้นเสียงทุ้มต่ำที่คล้ายกับแม่เหล็กก็ดังขึ้นในหูของเธอ“เราเพิ่งจดทะเบียนกันวันนี้ เรารีบเกินไปหน่อย เลยไม่ทันได้บอกกล่าวพ่อกับแม่”อวิ๋นไจ่เหอพยายามอดกลั้นความโกรธเคืองรักษาท่าทีก่อนพูดว่า “เสี่ยวซู!”อวิ๋นซูได้แต่กัดฟันพูด “พ่อคะแม่คะ เรื่องที่เขาพูดเป็นความจริง หนูแต่งงานแล้ว เพราะหนูไม่อยากแต่งงานกับ....”ยังไม่ทันสิ้นสุดเสียง เซิ่งหย่าจวี๋ก็พุ่งเข้ามาบีบไหล่ของอวิ๋นซู “เสี่ยวซู ลูกเป
เฮ่อเหยียนสือผลักคนเข้าไปนั่งบนตำแหน่งข้างคนขับด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ก่อนจะหันกลับไปนั่งบนเบาะคนขับ ปิดประตูดัง ‘ปัง’ อวิ๋นซูนั่งหดตัวด้วยความตกใจ เธอลอบมองสีหน้าที่ดูแย่ลงของเฮ่อเหยียนสืออย่างไม่เข้าใจคนที่สมควรต้องโกรธควรเป็นเธอ ทำไมเฮ่อเหยียนสือเหมือนจะโกรธมากกว่าเธออีกล่ะ?วินาทีต่อมา เฮ่อเหยียนสือรีบสตาร์ทรถทันที จากนั้นรถก็พุ่งทะยานราวกับลูกธนูที่พุ่งตัวออกไปอวิ๋นซูก็แทบจะลอยออกไป เธอจับที่ยึดไว้มั่น แม้แต่โทนเสียงก็ยังเพี้ยนไปตามแรงลม “คุณจะทำอะไรกันแน่?”เฮ่อเหยียนสือเหมือนไม่ได้ยินคำพูดของเธอ เหยียบคันเร่งมิดเท้า นัยน์ตาสีดำขลับจ้องมองไปข้างหน้าด้วยสายตาดุดันราวกับสัตว์ป่าในเวลากลางคืนพริบตาเดียว A6 รถออดี้รุ่นธรรมดาก็วิ่งอย่างไม่เกรงกลัวไปตามถนนที่เงียบสงัด ราวกับน้ำหลากที่ทะลุเขื่อนกั้นน้ำอย่างไรอย่างนั้นสีหน้าของอวิ๋นซูซีดเผือด จากนั้นก็จับที่ยึดด้วยแรงทั้งหมดที่มี ก่อนจะตะโกนเสียงดัง ทว่ากลับไม่เป็นผล เสียงลมกรรโชกก็ยังพัดผ่านจนกลบเสียงเธอจนมิดไม่นานอวิ๋นซูก็ค่อย ๆ หยุดดิ้น และปล่อยให้เส้นผมพัดสยายไปตามแรงลม ปล่อยให้เฮ่อเหยียนสือที่เหมือนกับคนบ้าพาเธอไปในที่ที่เธอก็ไม่
อวิ๋นซูตลกขบขันกับความคิดแหวกแนวของหลินเหมียวเหมียว “เธอเนี่ยนะ อ่านนิยายมากเกินไปใช่ไหม ฉันก็แค่หาคนไปเรื่อย เขาไม่เกี่ยวข้องกับตระกูลเฮ่อ เรื่องเดียวที่เกี่ยวกับเขาคือเขาทำงานให้กับตระกูลเฮ่อ”“อ่า” หลินเหมียวหมียวรู้สึกผิดหวัง “เธอกำลังจะบอกว่าเขาเป็นลูกน้องของเฮ่อหย่วนเจ๋อ ต่อไปถ้าเฮ่อหย่วนเจ๋ออยากจะรังแกเธอ เขาก็ทำได้ตามใจชอบเลยนะสิ?”นัยน์ตาของอวิ๋นซูหมองลง “น่าจะ...ไม่หรอกมั้ง เห็นแก่ปู่เฮ่อ แล้วฉันเองก็แต่งงานแล้ว เฮ่อหย่วนเจ๋อคงไม่มาหาเรื่องฉันหรอก”หลินเหมียวเหมียวโล่งใจเล็กน้อย แต่เมื่อนึกถึงความชั่วของเฮ่อหย่วนเจ๋อแล้ว เธอก็อดปกป้องเพื่อนสนิทไม่ได้ “ถ้าจะให้ฉันพูด ตอนนั้นฉันน่าจะตบเขาสักฉาด เขาไม่รู้รึไงว่าเธออยากแต่งงานกับเขาแค่ไหน...”อวิ๋นซูตัดบท “มันผ่านไปแล้ว เหมียวเหมียว ต่อไปฉันกับเฮ่อหย่วนเจ๋อเราต่างคนต่างเดิน ไม่เกี่ยวข้องกันอีก”“แล้วการหมั้นหมายของพวกเธอ...” หลินเหมียวเหมียวพูด “คุณท่านไม่รู้ใช่ไหม? ถ้าคุณปู่เฮ่อเขาจะต้องเสียใจมากแน่นอน”ความมืดครึ้มที่เพิ่งสงบลงของอวิ๋นซูได้กลับมาอีกครั้งพอเอ่ยถึงคุณท่านเฮ่อ ปู่ของเฮ่อหย่วนเจ๋อ ในใจของอวิ๋นซูก็เหลือเพียงแค่ความ
ครึ่งชั่วโมงต่อมา อวิ๋นซูขึ้นไปนั่งบนรถที่ปู่เฮ่อจัดเตรียมไว้ มุ่งหน้าไปที่โรงแรมเทียนไห่เมื่อถึงทางเข้าห้องส่วนตัว อวิ๋นซูเพิ่งได้รู้จากแม่บ้านว่าคืนนี้เป็นงานเลี้ยงของตระกูล“เฮ่อหย่วนเจ๋อก็อยู่ที่นี่เหรอคะ” อวิ๋นซูถามขึ้น เธอไม่อยากพบเขาในตอนนี้แม่บ้านเข้าใจผิด ยิ้มและเอ่ยว่า “คุณหนูอวิ๋นซูไม่ต้องห่วงนะคะ อีกสักครู่คุณชายก็มาแล้วค่ะ”อวิ๋นซู “...”ถ้าออกไปตอนนี้จะทันไหมนะประตูที่อยู่ด้านหลังได้เปิดออกอวิ๋นซูไม่มีทางเลือกอื่น จึงต้องเป็นฝ่ายทักทายก่อน “คุณปู่”“กะพริบตา!” ทันทีที่ชายชราเห็นอวิ๋นซู ก็ยิ้มกว้างจนรอยเหี่ยวย่นขยายออก “เสี่ยวซูมาแล้วเหรอ เร็วๆๆ มานั่งข้างปู่นี่”อวิ๋นซูนั่งลงข้าง ๆ คุณปู่เฮ่อหลังจากนั่งลงแล้ว ถึงพบว่าทุกคนยังไม่ได้ขยับตะเกียบเลยเดาว่ากำลังรอแขกคนสำคัญอะไรประมาณนั้นราวกับมองทะลุความคิดของอวิ๋นซู ปู่เฮ่อหัวเราะเหอะ ๆ และเอ่ย “ที่สำคัญคืนนี้ก็เพื่อเลี้ยงฉลองการกลับมาของอารองของหย่วนเจ๋อ”ถึงแม้ว่าเฮ่อเยียนสือจะขอให้ปิดข่าวเรื่องที่จะกลับมา แต่ว่าชายชราก็ไว้ใจอวิ๋นซูมากเชื่อว่าเธอคงไม่พูดไปเรื่อยอวิ๋นซูอึ้งไปชั่ววินาที ถึงนึกขึ้นได้ปู