“เป็นยังไงบ้างคะคุณลูกค้า น้องนวดให้สบายมั้ยคะ”
เจ๊เฟียสหญิงสาววัยสี่สิบสาม ใบหน้าหวานซ่อนเปรี้ยวทรงญี่ปุ่นกล่าวถามคุณวิสุทธิ์ออกไปด้วยหน้าที่ยินดี ทันใดนั้นวิสุทธิ์ที่ยังไม่ทันได้ตอบกลับก็ดันหันไปเจอรามที่กำลังเดินมาอย่างเร่งรีบ สีหน้ารามและคุณวิสุทธิ์ในตอนนี้มันช่างแตกต่างกันยิ่งนักเพราะคุณวิสุทธิ์แลดูจะชอบอกชอบใจกับการได้แกล้งหมอนวดคนโปรดของเขา ในขณะที่รามกลับเดินออกมาด้วยใบหน้าเข้มที่ดูแดง ๆ ราวกับเลือดกำลังสูบฉีดขึ้นไปบนใบหน้าอย่างหนัก ก่อนที่เจ๊เฟียสและคุณวิสุทธิ์จะจ้องมอง แต่ต่างกันที่เจ๊เฟียสกลับหลุดโฟกัสไปยังเป้ากางเกงของรามที่ดูตุงผิดปกติ และชะโงกหน้าตาถลนมองไปแล้วหันกลับมาพร้อมกับรับคำชมจากปากของคุณวิสุทธิ์พร้อมทิปเงินสดในกระเป๋าสตางค์อีกห้าพันบาทลงในทิปบ๊อก “น้องเขานวดดีมากครับ ทำผมผ่อนคลายได้ดีมากครับ” วิสุทธิ์กล่าวชมพร้อมหันมองไปที่รามก่อนที่รามจะเดินมาที่หน้าเคาน์เตอร์และยิ้มแย้มแบบเขินอาย ในขณะที่เจ๊เฟียสกำลังตื่นตะลึงกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลายเหตุการณ์ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเป้าตุง ๆ ของรามที่เดินออกมาจากห้องตลอดไปจนถึงเงินค่าทิปที่นับได้ว่านี่น่าจะเป็นหน้าประวัติศาสตร์ยอดทิปสูงสุดที่เคยมีคนให้ในร้านเลยก็ว่าได้ “อู้ว ขอบคุณนะคะคุณลูกค้า เราเห็นคุณลูกค้ามีความสุขเราก็ภูมิใจในตัวของหมอนวดร้านเรา นี่ขนาดยังมาไม่นานยังทำคุณลูกค้า...” เจ๊เฟียสเผลอแอบแซวออกไปก่อนจะรีบแก้บทของตนออกไปว่า “เอ้ยไม่ใช่ ยังนวดให้ลูกค้าได้ประทับใจจนให้ทิปกับร้านเราขนาดนี้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า เก่งจริง ๆ นะคะเนี่ย อ้าฮึฮึฮึฮ่า” ก่อนจะนำมือป้องปากและหันไปมองราม ในขณะที่รามก็เคอะเขินกับสิ่งที่เจ๊พูดก่อนจะเบรกคำพูดของเจ๊ต่อไปว่า “ฮ่า ๆ ขอบคุณนะครับเจ๊” รามตอบกลับไปด้วยสีหน้าที่เหยเก ในขณะที่วิสุทธิ์ก็เผลอหลุดยิ้มออกไปและพูดปิดประโยค “ครับ บริการดีแบบนี้ดูแลเขาดี ๆ นะครับ ก่อนผมจะนำเขาไปดูแลแทน” วิสุทธิ์พูดออกไปด้วยสีหน้าที่ชอบใจ ก่อนเจ๊เฟียสและรามจะดูตื่นตาตื่นใจกับคำพูดของเขาอีกครั้ง ซึ่งในขณะนั้นมีหมอนวดอีกสองคนเดินมาพอดีและได้ยินกับบทสนทนาที่เกิดขึ้น ทำให้นะหมอนวดอายุยี่สิบแปดปี ทรงลูกเสี้ยวที่ไม่หล่อมากแอบเกิดความอิจฉาเกลียดชังภายในใจ รวมไปถึงจอหมอนวดรุ่นราวคราวเดียวกับรามที่ตั้งแต่รามเข้ามาเขาก็ไม่ชอบขี้หน้ารามมาตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ในอดีต และมายืนเรียงหน้ากระดานเพื่อฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้นเนื่องจากตนไม่มีลูกค้าเข้ามานวดกับตนตั้งแต่ร้านเปิด “ค่ะ ขอบคุณนะคะ แบบนี้รับไปเลี้ยงยาวเลยมั้ยคะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า” เจ๊ตอบกลับไปด้วยใบหน้าที่สะใจกว่า อารมณ์ตอนนี้มันเหมือนกับความสดใสที่ส่องสว่างไปด้วยสีสัน รามที่ได้ยินแบบนั้นจึงห้ามปรามเจ๊ไว้ด้วยการพูดขัดเบา ๆ ก่อนที่นะและจอจะหันไปมองหน้ากันในทันที “เจ๊” รามขัดคำพูดเบา ๆ และทอดสายตามองไปที่นะกับจอแบบเหลือบ ๆ “ฮ่า ฮ่า ฮ่า หยอก ๆ น่า.. ว่าแต่กลับมาใช้บริการบ่อย ๆ นะคะพ่อรูปหล่อ” เจ๊เฟียสหยอดคำหวานอีกครั้ง เชิญชวนลูกค้ากระเป๋าหนักซึ่งน่าจะเป็นขาประจำของร้านเขาในอนาคตอีกครั้ง “ครับ ผมขอตัวนะครับ” วิสุทธิ์ฉีกยิ้มพร้อมส่งคำลา ก่อนรามจะรีบเดินไปส่งวิสุทธิ์ที่หน้าร้านและเปิดประตูให้วิสุทธิ์ในทันที “เจอกันนะครับ” วิสุทธิ์กล่าวลาราม “ครับ ไว้เจอกันครับ” รามตอบกลับด้วยใบหน้ายินดีและมองส่งวิสุทธิ์ไปก่อนจะเปิดประตูและเดินกลับเข้าไปทำงานอีกครั้งเช้าวันรุ่งขึ้นช่วงเวลายังไม่รุ่งสาง รามที่นอนอยู่บนเตียงเขาเริ่มมีอาการเหงื่อแตกไหลพรากในขณะที่ทั้งห้องเต็มไปด้วยอากาศที่เย็นสบาย ก่อนใบหน้าอันคมเข้มจะขมวดคิ้วเป็นปมและขยับไปมา“ผม.. ผมขอโทษครับคุณวิสุทธิ์ ต่อไปผมจะไม่ทำอีกแล้วให้โอกาสผมนะครับ ผม ผม.. ผมแค่…”ตุลย์ที่นอนอยู่อย่างหลับสนิท แต่เสียงละเมอของรามได้ทำให้เขาได้ลืมตาตื่นขึ้นอย่างงัวเงียเขาเริ่มเห็นรามกำลังละเมอพูดพร้อมกระสับกระส่ายใบหน้าไปมา ก่อนเขาจะรีบลุกขึ้นและเดินเข้าไปจับที่แขนของราม ทันทีที่มือเรียวสวยจับลงไปมันทำให้เขาสัมผัสได้ถึงอุณหภูมิความร้อนที่อยู่ภายในร่างกายของรามได้อย่างน่าตกใจ จนทำให้ฝ่ามือเรียวนั้นกระตุกออกพร้อมพูดอุทานออกมาว่า“เห้ยตัวร้อนมาก ราม! ราม!! ราม!!!” ตุลย์เรียกรามอยู่หลายครั้ง ก่อนเขาจะใช้ฝ่ามือของตนจับไปที่ใบหน้าของรามเพื่อสัมผัสถึงความร้อนนั้นอีกครั้ง ก่อนอาการละเมอไข้นั้นจะสงบลงจึงทำให้ตุลย์พูดออกมาว่า“คงรักเขามากสินะ พี่คงเป็นแค่ตัวสำรองใช่มั้ย เรานี่มันปากไม่ตรงกับใจจริง ๆ”พูดจบตุลย์ได้นำมือไปจับที่ใบหน้าข้างขวาของรามอย่างทะนุถนอม ก่อนจะหันมองปุ่มแล้วกดเรียกพยาบาลฉุกเฉินให้รีบเข้ามาดูแลเพิ
ในช่วงเวลาสองทุ่มก่อนจะหมดเวลาเข้าเยี่ยมคนไข้เสียงเคาะประตูได้ดังขึ้น ก่อนพยาบาลที่เฝ้าเวรของรามจะเดินไปเปิดประตูให้ ก่อนร่างสูงลีนขาวหน้าหนวดผมเซอร์ของตุลย์จะเดินเข้ามาพร้อมชุดเซตรังนกจากเยาวราชที่ตุลย์และรามมักชอบกินเมื่อเขาทั้งคู่ได้อยู่ด้วยกันมักจะชวนกันไปร้านนี้เสมอเมื่อมีโอกาส ก่อนเขาจะเดินเข้ามาหารามพร้อมถามว่า“เป็นยังไงบ้างดีขึ้นมั้ย พี่ซื้อรังนกร้านประจำเรามาฝากด้วย”ตุลย์พูดพร้อมชูถุงรังนกขึ้นก่อนจะมีพยาบาลที่เฝ้าไข้จะเดินเข้ามารับถุงรังนกไป“มีปวดหัวนิดหน่อยครับ และไข้ก็ยังไม่กลับมาปกติพยาบาลให้นอนดูอาการอีกสองคืนนะครับพี่”รามพูดพร้อมลุกขึ้น ก่อนตุลย์จะนำมือไปอังที่หน้าผากของรามอย่างเบามือ“ยังตัวร้อนอยู่เลย งั้นเดี๋ยวกินรังนกที่พี่ซื้อมามั้ย ร้อน ๆ เลยเผื่อร่างกายจะดีขึ้น”“ได้ครับ” ตุลย์มองหันหลังไปก่อนพยาบาลที่เฝ้าไข้จะกล่าวถามออกมาว่า“ใส่ถ้วยทานเลยใช่มั้ยคะ”“ใช่ครับ” ตุลย์กล่าวพูด ก่อนพยาบาลจะพูดต่อออกมาอีกว่า“อันนี้เป็นญาติคนไข้ใช่มั้ยคะ ถ้าไม่ใช่จะอยู่เยี่ยมได้อีกสิบนาทีนะคะ”“อ่อผมเป็นแฟนเขาครับ และก็คืนนี้ผมจะนอนเฝ้าไข้เขาที่นี่คืนนี้รบกวนคุณพยาบาลพักผ่อนได้นะค
สายตาที่ผ้ามัวเริ่มลืมตาขึ้นอย่างเลือนรางร่างแทนมัดกล้ามสีสวยตื่นขึ้นมาในห้องของโรงพยาบาลเอกชนสุดหรูหรา รามกวาดสายตาไปทั่วห้องจากขวาไปซ้ายก่อนจะหันไปเห็นวิสุทธิ์นอนหลับตรงโซฟาด้วยความเหนื่อยล้าในท่านั่งหลับอย่างมีมาดผู้ดีในช่วงเวลาหนึ่งทุ่มของวัน ก่อนรามจะหันมองหลังมือที่ระโยงระยางไปด้วยเข็มน้ำเกลือที่แทงเข้าไปในหลังมือสีแทน ก่อนเขาจะทำหน้าตกใจไปสักพักและขยับตัวจนเสียงเตียงดังเอี๊ยดแอ๊ด จนนั่นทำให้วิสุทธิ์สัมผัสได้ถึงเสียงดังที่มันได้ปลุกให้เขาค่อย ๆ พงกตัวขึ้นมองอย่างสะลึมสะลือ ก่อนจะมองมาที่รามด้วยสีหน้าที่ดูเหนื่อยช้ำแต่ยังหล่ออยู่ ก่อนเขาจะพูดขึ้นมาและลุกขึ้นจากโซฟาพร้อมเดินเข้ามาหารามด้วยท่าทีที่เป็นห่วงเป็นใยว่า“ตื่นแล้วหรอครับคุณรามเป็นยังไงบ้างครับ ปวดหัวมั้ย”วิสุทธิ์พูดด้วยสีหน้าที่เป็นห่วง พร้อมเดินเข้ามาจับที่แขนของราม“เกิดอะไรขึ้นครับ ทำไมผมมาอยู่ที่โรงพยาบาลได้หละ”รามลุกขึ้นด้วยการพยุงจากวิสุทธิ์ โดยที่ไม่ได้ตอบคำถามของวิสุทธิ์แม้แต่น้อย เขาแลดูมึนงงอาจเพราะการฉีดวัคซีนและยาที่หมอได้ฉีดให้เพื่อระงับอาการตัวร้อนของเขาให้เบาลง“คุณหมดสติไปนะครับหลังจากที่เราทะเลาะกัน ร่
ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่งช่วงเช้าของวันที่รามเข้ารับการฉีดวัคซีนโควิดสิบเก้าเสร็จเรียบร้อยแล้วเขากำลังขับรถเดินทางไปหาวิสุทธิ์แฟนของตนที่คอนโดหรูของเขาเพื่อที่จะพักผ่อนหย่อนใจหลังจากที่เขาไม่ได้เจอกันมานานกว่าสามวัน ซึ่งช่วงระหว่างนั้นความรักของเขาทั้งคู่ยังดูมีความปกติดีอยู่อีกทั้งในวันนี้ตรงกับวันครบรอบของเขาทั้งสองที่จำเป็นจะต้องมีการเลี้ยงฉลองกันเกิดขึ้น ซึ่งรามได้เลือกของขวัญวันครบรอบให้กับวิสุทธิ์เป็นที่เรียบร้อยซึ่งของชิ้นนั้นอยู่ในกระเป๋าเป้ด้านหลังของเขาที่กำลังขี่รถคู่ใจมายังคอนโดของวิสุทธิ์ในช่วงบ่ายของวันนี้ณ คอนโดของวิสุทธิ์บริเวณสระว่ายน้ำส่วนตัววิสุทธิ์กำลังว่ายน้ำตีกรรเชียงสุดแหลมเท่จนเสียงน้ำดัง ฉับ ๆ !!ก่อนเขาจะว่ายจบไปยังขอบสระ และผุดตัวขึ้นมาจากน้ำด้วยแสงขาวสะท้อนหยดน้ำอย่างชุ่มฉ่ำ ก่อนเสียงลมหายใจที่เหนื่อยหอบจะสูดเข้าออกเพื่อรับอากาศให้เข้าไปเติมเต็มจนหน้าอกขยายใหญ่ขึ้น มัดกล้ามมัดลีนสวยพองออกก่อนจะยุบลงจนเป็นที่จับตามองของหนุ่มบัสเลอร์ผู้คอยดูแล30 นาทีผ่านไปรามเดินทางมาถึงคอนโดของวิสุทธิ์เขาใช้คีย์การ์ดที่วิสุทธิ์ทำให้เปิดเข้ามาในขณะที่ในห้องนั้นมีเพียงแม่บ้านกำ
ภายในบ้านคฤหาสน์หรูที่เป็นของครอบครัว “ฤกษ์ทวี” ครอบครัวของวิสุทธิ์และกานต์ พี่สาวน้องชายที่ตอนนี้พี่สาวอยู่บ้านหลังนี้กับสามีของตน โดยที่วิสุทธิ์ไม่กินเส้นกับพี่เขยของตัวเองจนเขาต้องเลือกที่จะย้ายออกไปอยู่คอนโดหรูใจกลางเมืองปัจจุบัน หลังจากเขากับกานต์แบ่งมรดกกันแล้วเรียบร้อยบรรยากาศในห้องนอนของกานต์เต็มไปด้วยความอึมครึมกลิ่นเทียนหอมคละคลุ้งไปทั่วห้อง มันเป็นเทียนหอมที่แดนเป็นคนนำมาจากต่างจังหวัดและใช้ในการสร้างบรรยากาศภายในห้องของทั้งคู่ทุกครั้งที่กานต์กลับมาจากทำงานเขาจะจุดมันไว้ในห้องทุกครั้ง มันช่วยให้กานต์หายเครียดสงบและหลงรักคิดถึงตนทุกครั้งที่ได้กลิ่นเทียนนี้ จนทำให้กานต์กำลังจะเคลิ้มตานอนหลับลงบนหมอนขนเป็ดราคาแพง ก่อนที่แดนจะเดินเข้ามาในห้องพร้อมชุดนอนในเวลากลางคืน จนทำให้เธอสะลึมสะลือขึ้นและพูดคุยกับสามีของตัวเอง“คุณคะไปไหนมา มานอนได้แล้วค่ะ”“จ้า ๆ”แดนตอบกลับด้วยสีหน้าที่เย็นชา พร้อมทั้งเดินขึ้นมาที่เตียงและโอบกอดไปที่ตัวของกานต์ กานต์ที่สัมผัสได้ถึงความใกล้ชิดของสามีเธอจึงได้หันหน้าไปแล้วทำท่าเหมือนอยากมีอะไรกับสามีของตน แดนเมื่อสัมผัสได้ถึงความต้องการของผู้เป็นภรรยาเขาก
ณ ริมถนนยามค่ำคืน จอกำลังยืนริมถนนที่มืดสนิทมีเพียงเแสงไฟส่องในพื้นที่อย่างสลัว ๆ ใต้ต้นมะขามย่านดังใจกลางเมือง เขาออกมารับงานพิเศษเนื่องจากความเหงา ความเบื่อ ที่มันเกาะกินใจเขาให้ออกมาทำเรื่องที่เขาเคยทำก่อนจะมาอยู่ร้านนวด Georking Massage เขายืนมองหันไปมาอย่าง เหงา ๆ ได้ไม่ทันไรก็มีรถหรูสีดำเข้มสะท้อนเงาขับมาหาเขาอย่างใกล้ ๆ ก่อนจะชะลอความเร็วอย่างช้า ๆ พร้อมทั้งเปิดกระจกรถลงและพูดถามไถ่ราคาออกไป“เท่าไรครับ”ชายหนุ่มหน้าหนวดมาดร้ายลุคดูเป็นนักธุรกิจกล่าวถามจอด้วยสีหน้าที่มีกามอารมณ์ค่อนข้างสูง“หนึ่งพันครับ”จอกล่าวพูดด้วยท่าทีที่เกร็ง ๆ และไม่ค่อยมั่นใจ“ขึ้นมาครับ” ชายหนุ่มมาดร้ายกล่าวตอบอย่างไม่คิดอะไร ไม่แม้แต่จะต่อรองราคาเลยสักนิด ก่อนจอจะขึ้นรถของเขาไป“คาดเข็มขัดด้วยนะครับ” เสียงชายหนุ่มลุคธุรกิจคมเข้มกล่าวพูด“ครับ” จอกล่าวตอบรับในทันทีพร้อมทีท่าที่แลดูประหม่าเป็นอย่างมาก ใช่ เพราะตลอดชีวิตที่ผ่านมาเขาไม่เคยนั่งรถหรูเลยสักครั้ง นี่ถือเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ทำให้เขาได้สัมผัสเบาะหนังราคาแพง พร้อมกลิ่นหอมโคโรญจ์ของคนรวยที่ตลบอวบอวลไปทั่วรถที่ถึงแม้วาสนาในการได้ขึ้นรถในครั้งนี้ม