Share

บทที่ 3

Author: l3oonm@
last update Last Updated: 2025-02-03 08:05:36

เมื่อเดินทางถึงเมืองโยวเป่ย คนที่รอรับต่างคิดว่าจะเห็นสภาพที่ย่ำแย่ของทุกคนแต่ผิดคาด ทหารทุกนายล้วนน้ำหนักขึ้นแม้แต่จินเยว่ที่ผายผอมลงในตอนแรกตอนนี้ก็มีน้ำมีนวลขึ้น เสวี่ยป๋อเหวินกับเกาซูฮวาก็ดูแข็งแรงขึ้นกว่าตอนที่ออกจากเมืองหลวงเพราะได้รับสารอาหารที่ครบ ในขบวนไม่มีใครล้มป่วยลงอีกเลย เพราะน้ำดื่มจินเยว่ยังสั่งให้ต้มก่อนที่จะกิน 

คนที่มารอรับพวกเขาในครั้งนี้มีขุนนางหลายคนทั้งที่สนิทกับบิดาและคนฝ่ายตรงข้าม สายตาที่มองมามีทั้งเห็นใจและสะใจกับความโคร้ายที่ตระกูลเสวี่ยได้รับ คงมีเพียงเสวี่ยป๋อเหวินกับเสวี่ยจินเยว่ที่ไม่สนสายตาเหล่านั้น แต่มารดาของตนอับอายเกินกว่าจะเงยหน้ามามองใครได้

นอกจากสายตาที่เห็นใจและสะใจแล้วขุนนางบางคนยังมองจินเยว่อย่างประเมินนางเหมือนนางเป็นสิ่งของที่รอให้คนมาเลือกซื้อกลับไป ตอนที่จินเยว่อยู่เมืองหลวงนางก็ได้ชื่อมาหนึ่งในสาวงามของเมืองหลวง ยิ่งเมืองทางชายแดนไม่ต้องพูดถึงสาวงามเช่นนางจะหลุดออกมาได้นับว่ามีน้อยยิ่งนัก

ใครจะไม่ชื่นชอบสาวงาม หากได้นางมาอุ่นเตียงคงจะทำให้ชีวิตของพวกเขามีสีสันยิ่งนัก แต่ตอนนี้มีทั้งคนใจกล้าและคนที่ยังลังเลอยู่ ด้วยเรื่องของเสวี่ยป๋อเหวินยังไม่ถูกตัดสินบางคนจึงยังไม่กล้าที่จะลงมือ

แต่ที่สร้างความแปลกใจเพราะครั้งนี้มีท่านแม่ทัพจ้าวร่วมอยู่ด้วย

"ก็แค่ครอบครัวนักโทษที่โดนเนรเทศ จำเป็นให้ขุนนางทั้งเมืองมารอรับด้วยหรือ" จินเยว่หันไปมองตามเสียงที่พูดขึ้น

บุรุษผิวสีน้ำผึ้งใบหน้าคมเข้ม รูปร่างสูงใหญ่สมกับที่เป็นทหาร สีหน้าที่มองมาที่ครอบครัวนางมีแต่ความเหยียดหยาม เหมือนสะใจที่ครอบครัวของนางตกต่ำเช่นนี้ บิดาของนางก็มีใบหน้าที่เคร่งเครียดขึ้น มารดาของนางที่ก้มหน้าลงต่ำก็ยิ่งก้มต่ำลงไปอีก นางเชิดหน้าขึ้นมองอย่างท้าทาย ปากดีเช่นนี้สมควรได้รับการสั่งสอน แต่นางในตอนนี้อำนาจที่ตกต่ำของบิดาจะสั่งสอนให้ได้

นางได้แต่จดบัญชีแค้นนี้ไว้ในใจ หากมีวันใดที่นางเอาคืนได้ ความอับอายในครั้งนี้นางจะคืนให้เขาได้อับอายกว่าครอบครัวของนางอย่างแน่นอน

"ขออภัยที่ทำให้ทุกท่านต้องลำบาก ขุนนางต้องโทษเสวี่ยและครอบครัวขอตัวก่อน" เสวี่ยป๋อเหวินหันไปก้มหัวอย่างขออภัยให้แม่ทัพจ้าว และขุนนางที่มารอรับและรอดูความสนุก

ก่อนที่ขบวนของขุนนางต้องโทษจะเดินผ่านไป จินเยว่เดินผ่านหน้าจ้าวตงหยางแล้วพูดโดยไร้เสียงว่า "ไอ้เวรเอ๋ย"  จ้าวตงหยางไม่รู้ว่าที่นางพูดหมายความว่าอย่างไรแต่คงไม่ใช่คนชมเป็นแน่

ลู่ซานนำครอบครัวเสวี่ยไปส่งถึงที่พักในหมู่บ้านหวงลี่ เป็นบ้านสามห้องนอน หนึ่งห้องโถง หนึ่งห้องครัว พื้นที่ในบ้านมีไม่มาก แต่ก็พอให้จินเยว่ปลูกผักปแปลงเล็กๆไว้กินเอง หรือเลี้ยงไก่ไว้กินไข่ได้สักสิบตัว ก่อนที่ลู่ซานจะจากไปเขาส่งตั๋วเงินให้เสวี่ยป๋อเหวินไว้พันตำลึง เป็นเงินที่องค์รัชทายาทฝากมาให้ หากให้มากกว่านี้จะเป็นที่สงสัยเอาได้

เพียงบ้านหลังนี้กับเงินพันตำลึงก็เพียงพอให้สามคนพ่อแม่ลูกใช้ชีวิตอย่างไม่ยากลำบากแล้ว นอกจากในหมู่บ้านแล้วพวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้ออกนอกพื้นที่อีก ตอนแรกลู่ซานก็จะได้อยู่คุ้มครองพวกเขาต่อ แต่เป็นแม่ทัพจ้าวที่เปลี่ยนทหารทั้งหมดใหม่ นางจึงได้ขอร้องให้ลู่ซานหาพ่อไก่แม่ไก่ และเมล็ดผักมาให้นางจำนวนหนึ่งก่อนที่จะไป

แต่ของเหล่านั้นก็โดนยึดไว้เสียก่อนที่จะถึงมือนาง จินเยว่ข่มความโกรธจนตาแดง นางเดินเข้าไปหาทหารหน้าประตูที่ยึดของนางไว้ตามคำสั่งท่านแม่ทัพ

"หากจวนแม่ทัพของเจ้าอดยากเพียงนั้นข้าก็ขอมอบของทั้งหมดให้แม่ทัพของพวกเจ้าก็แล้วกัน" ดวงตาที่เออคลอไปด้วยน้ำตาแห่งความโกรธ นางปรับเสียงให้อ่อนลง เพียงเท่านี้ทหารที่เห็นก็ล้วนใจอ่อนยวบ ใครจะทนให้สาวงามหลั่งน้ำตาได้

"คุณหนู เอ่อ แม่นางเสวี่ย เจ้ารอให้ข้าไปขออนุญาตจากแม่ทัพก่อนหากไม่มีสิ่งใดที่ผิดแม่ทัพย่อมไม่ห้ามให้เจ้านำของกลับไป" ทหารนายนั้นรีบหันหลังวิ่งออกไปที่ค่ายทหารซึ่งอยู่ไม่ไกลทันที หากยังอยู่เขากลัวว่าแม่นางเสวี่ยน้ำตาไหลออกมาเขาคงได้คืนของไปโดยที่ยังไม่ได้ไปขออนุญาตจากท่านแม่ทัพ

จินเยว่หันหลังกลับเข้าเรือนอย่างหัวเสีย หากเป็นไปได้นางก็อยากจะฝากคำด่าไปให้จ้าวตงหยางด้วย แต่ด้วยหน้าตาของนางหากบีบน้ำตาเล็กน้อยย่อมทำให้คนใจอ่อนอย่างง่าย นางใช้วิธีเช่นนี้ดีกว่า นอกจากจะได้คนเห็นใจแล้ว ยังทำให้คนของจ้าวตงหยางคิดว่าเขาเป็นบุรุษใจแคบรังแกผู้หญิงตัวน้อยๆได้อีกด้วย คิดได้เช่นนี้จินเยว่ก็คลายโทสะลง แล้วเดินไปช่วยมารดาเก็บกวาดเรือน

"ท่านแม่ท่านหยุดพักก่อนเถิด ส่วนที่เหลือลูกจัดการเองเจ้าค่ะ" นางแย่งผ้าในมือมารดามาถือไว้ แล้วเดินไปส่งบิดามารดาให้เข้าไปพักในห้อง 

จินเยว่จัดการเรือนทั้งหลังไม่ว่าจะเป็นห้องน้ำ ห้องครัว ห้องโถงนางลงมือจัดการอย่างรวดเร็ว ทหารที่คอยจับตาดูครอบครัวนางได้แต่มองตามอย่างไม่อยากเชื่อสายตา เพราะคุณหนูคนหนึ่งทำงานได้ราวกับเป็นคนใช้และยังรวดเร็วเสียด้วย

ยังดีที่รอบตัวเรือนนางไม่ต้องมานั่งถอนหญ้าด้วยเพราะลู่ซานให้ทหารที่มาส่งช่วยทำให้แล้ว ในเรือนยังมีต้นหอมหมื่นลี้อยู่ด้วย ตอนนี้กำลังออกดอกส่งกลิ่นหอมไปทั่วเรือน นางเดินเข้าไปหยิบผ้าสะอาดมาผืนพร้อมกระจาดที่มีอยู่ในครัว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • จองจำรักร้าย   บทที่ 49 (ตอนจบ)

    จ้าวตงหยางยังอยากจะเก็บหลิงอวี้ไว้ออกเรือนตอนอายุยี่สิบกว่าด้วยซ้ำ หากยินเยว่ไม่เอ่ยท้วงเสียก่อน"ท่านแม่ทัพ มีราชโองการมาขอรับ" พ่อบ้านจ้าววิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาตาม ทั้งคู่มองหน้ากันอย่างแปลกใจ ก่อนหน้านี้ฮ่องเต้พระราชทานรางวัลและแต่งตั้งจางหมิ่นกับจางหย่งเรียบร้อยแล้ว ยังจะมีราชโองการใดได้อีกทั้งคู่รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าออกมาจากเรือนก็พบว่าทุกคนยืนรออยู่หน้าจวนอย่างพร้อมเพรียงแล้ว"ฮ่องแต่มีพระราชโองการ มอบสมรสพระราชทานให้คุณหนูจ้าวหลิงอวี้กับองค์ชายสามฉีเฟยหลาง..." ขันทีประกาศเช่นใดจ้าวตงหยางมิได้ยินอีกแล้ว หูของเขาแทบจะดับไปทันที หากมิใช่มีจินเยว่ประคองไว้เขาคงล้มไปนั่งกองกับพื้นแล้วเมื่อส่งขันทีข้างกายฮ่องเต้กลับไปแล้ว จินเยว่ก็หัวเราะกับท่าทีเหม่อลอยของจ้าวตงหยางขึ้นมา "ท่านมิได้รู้อยู่แล้วหรือ ท่านพี่"จ้าวตงหยางหันไปถลึงตาใส่เมียรักอย่างเห็นได้น้อย รู้อยู่แล้วแต่ทำใจไม่ได้ไงตระกูลจ้าวในเวลานี้บ่าวไพร่แม้แต่นายของจวนต่างก็วุ่นวายจัดเตรียมข้าวของ เสวี่ยป๋อเหวินกับเกาซื่อก็มาอยู่ช่วยดูแลงาน ยังขนเงินทองของมีค่ามาหลายหีบเพื่อเติมสินเดิมให้เจ้าสาว"ท่านพ่อ สินเดิมของอวี้เออร์ไม่เยอ

  • จองจำรักร้าย   บทที่ 48

    แม่ทัพแคว้นเหยี่ยนส่งคณะทูตมาเจรจากับจ้าวตงหยางถึงค่ายทหาร โดยการยอมรับความพ่ายแพ้ครั้งนี้ของแคว้นเหยี่ยนต้องยอมเสียเมืองที่คิดกับแคว้นฉีถึงสามเมือง และจะส่งเครื่องบรรณาการเพิ่มจากเดิมอีกสองส่วนเมื่อทุกฝ่ายหารือร่วมกันเห็นพร่องว่ายินยอมที่จะรับข้อเสนอเช่นนี้ได้ ก็ตกลงทำสัญญาพร้อมถอนทัพกลับทันที ฉีเฟยหลางยังต้องรั้งรอคนที่ราชสำนักส่งมาจัดการหัวเมืองที่ยึดมาได้ก่อน จ้าวตงหยางที่นำทัพกลับเมืองหลวงจึงให้ จางหมิ่นและจางหย่งอยู่ช่วยดูแลอีกแรง การรบกับแคว้นเหยี่ยนครั้งนี้พวกเขาใช้เวลาเดินทางมากกว่าการรบเสียอีก เสียเวลาเดินทางมาสามเดือน เตรียมการรบจนชนะเพียงสองเดือนเท่านั้นตอนนี้จ้าวตงหยางแทบอยากจะมีปีกรีบกลับเมืองหลวงโดยเร็วเพราะกำหนดคลอดของจินเยว่ใกล้เข้ามาแล้ว หากเข้าเร่งรีบนำทัพกลับคงใช้เวลาอย่างน้อยก็สองเดือนเป็นช่วงคลอดของจินเยว่พอดีฉีเฟยหลางยังคงส่งจดหมายหาหลิงอวี้ทุกครั้งที่เขามีเวลา(ก็เขียนทุกวันก่อนนอน) แม้นางจะเขียนตอบมาน้อยครั้งนัก แต่ทุกครั้งก็จะบอกให้เขาดูแลตัวเองให้ดี อย่าได้บาดเจ็บ เสื้อคลุมที่สวมอยู่ก็เป็นนางที่ส่งมาให้เมื่อคิดจะฝากจดหมายไปและของที่ซื้อไว้ให้นางไปกับว่าท

  • จองจำรักร้าย   บทที่ 47

    กองทัพแคว้นฉีถึงโยวเป่ยสามเดือนให้หลัง ตอนนี้ทั้งหมดอยู่ห่างจากเมืองเป่ยซานเพียงสองร้อยลี้ จ้าวตงหยางจึงจำต้องอพยพชาวเมืองโยวเป่ยและเมืองใกล้เคียงให้ห่างออกไปจากแนวการรบอย่างน้อยห้าร้อยลี้ จินเยว่ยังมีส่วนช่วยเรื่องเสบียงของชาวบ้านที่อพยพมา เพราะคนของนางที่โยวเป่ยจำต้องอพยพไปพร้อมกับชาวบ้าน เสบียงที่พวกเขาขนไปด้วยจึงนับว่าช่วยชีวิตคนได้มาก ชาวบ้านจึงมิต้องอดอยากหรือป่วยไข้ตายลงค่ายผู้อพยพก็เป็นจางหย่งที่ได้รับมอบหมายจากบิดาให้เร่งสร้างและจัดหาสิ่งของที่ขาดแคลนให้ชาวบ้านได้ใช้ไปก่อน ถึงคลังหลวงจะมีเงินมากก็มิอาจจะยกทั้งหมดมาใช้กับสงครามได้ เป็นเพราะจินเยว่ที่ได้สามีเป็นแม่ทัพนางจึงนำที่ดิน ที่ฮ่องเต้พระราชทานเป็นรางวัลทั้งหมดมิยอมปล่อยเช่าเช่นขุนนางคนอื่น แต่นางจ้างให้ชาวบ้านปลูกข้าว มันสำปะหลัง พืชผักที่เก็บไว้ได้นาน เลี้ยงดูทหารของตระกูลจ้าว ขึงทำให้มีเสบียงมากพอที่ใช้ในการสู้รบครั้งนี้แม้แต่อาหารพื้นบ้านธรรมดาอย่างเช่นรากบัวก็นำมาปรุงอาหารได้ ถั่วเขียวแช่น้ำ แล้ววางลงในไหหรือตะกร้า เอาผ้าคลุมที่ละชั้นเก็บไว้ในที่มืดคอยรดน้ำสามวันก็เป็นผัก นำมาผัดน้ำมันก็ทานได้แล้ว สิ่งที่นางรู้น

  • จองจำรักร้าย   บทที่ 46

    "อวี้เออร์ โกรธข้าหรือ" เขาจ้องหน้าของนางก่อนจะอดใจไม่ไหวก้มลงจุมพิตนางทันที "ท่าน อื้ออออ" หลิงอวี้ที่อ้าปากจะร้องห้ามก็เป็นการเปิดทางให้ฉีเฟยหลางแทรกเรียวลิ้นของเขาเข้ามาได้ กว่าเขาจะยอมถอนริมฝีปากออกจากปากนางก็เมื่อคนขับรถม้าเอ่ยว่าถึงจวนท่านแม่ทัพแล้วฉีเฟยหลางลูบริมฝีปากของหลิงอวี้อย่างอาลัยอาวรณ์ ก่อนจะช่วยนางจัดเสื้อผ้าแล้วพานางไปส่งด้านในจวน เมื่อส่งหลิงอวี้ถึงมือมารดาของนางแล้วเขาก็กลับเข้าวังหลวงพร้อมจางหย่งอีกครั้งจินเยว่ที่เห็นดวงตาของบุตรสาวปูดบวมและมีองค์ชายสามมาส่งก็ตกใจ เมื่อสอบถามจนได้ความนางก็แทบจะเป็นลมหมดสติ มิคิดว่าให้บุตรสาวไปร่วมงานเลี้ยงจะเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นถึงเพียงนี้"ไม่เป็นไรลูกรัก ทุกปัญหามีท่านตากับท่านพ่อของเจ้าคอยค้ำไว้ให้" จินเยว่กอดปลอบบุตรสาวที่สะอื้นจนตัวโยนในอ้อมกอดของนาง ลี่หลินก็หลั่งน้ำตาสงสารน้องน้อยของตนเช่นกันที่เขาเรียกว่าความงามทำให้เกิดหายนะก็เพิ่งพบเห็นจากเรื่องของจ้าวหลิงอวี้นี่เอง เรื่องภายในวังถูกร่ำลือออกไปภายนอก ย่อมมีคนเห็นด้วยและเห็นต่าง แต่ส่วนมากจะโกรธแค้นแคว้นเหยี่ยนที่หาเหตุผลมาทำสงครามมิได้ต้องดึงแม่นางน้อยคนหนึ่งมาทำร้าย

  • จองจำรักร้าย   บทที่ 45

    ขุนนางทั้งหลายที่ล่วงรู้ก็นึกถึงเรื่องของหนเก่าครั้งของแม่ทัพจ้าว แคว้นเหยี่ยนมิเคยจดจำเสียเลยจ้าวตงหยางเพียงยกสุราขึ้นร่วมชมความสนุกเท่านั้น เพราะครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับตน (เกี่ยวเต็มๆ พ่อรอดู)จางหมิ่นกับจางหย่งก็เหลือบมองหน้าน้องสาวของตนก่อนจะถอนหายใจ เพราะน้องสาวของตนก็สนใจเพียงดื่มกินอาหารตรงหน้าเท่านั้น คงมีเพียงมือที่สั่นอย่างระงับไว้ไม่อยู่"องค์หญิงแคว้นเหยี่ยนเสียมารยาทแล้ว ท่านมีสิทธิ์อันใดมาสอบถามชื่อของนาง" องค์ชายสามกล่าวตำหนิอย่างไม่ไหวหน้า"เช่นนั้นเปิ่นหวางองค์รัชทายาทแคว้นเหยี่ยนก็สามารถขอพระราชทานสมรสครั้งนี้แทนได้ใช่หรือไม่" องค์รัชทายาทแคว้นเหยี่ยนลุกขึ้นพูด"องค์รัชทายาทแคว้นเหยี่ยน เจ้าหมายตาบุตรสาวขุนนางของเจิ้นคนใดหรือ หากบิดามารดาของนางยินยอมเจิ้นก็มิขัดข้อง" ฮ่องเต้ช่วยคลี่คลายสถานการณ์ที่ตึงเครียด"จ้าวหลิงอวี้ บุตรสาวแม่ทัพใหญ่จ้าว เปิ่นหวางอยากจะแต่งนางเป็นพระชายา มิรู้ว่าท่านแม่ทัพจะยินยอมหรือไม่" ขุนนางทั้งหลายต่างสูดหายใจเข้าอย่างลืมตัว จ้าวตงหยางที่ยกจอกสุราจรดริมฝีปากเพื่อดื่มก็เผลอบีบแก้วจนแตกคามือ องค์ชายสามก็เช่นกัน สองบุรุษต่างวัยต่างมีสีหน้าดำคล

  • จองจำรักร้าย   บทที่ 44

    หลิงอวี้เห็นเช่นนั้นก็สั่งให้คนของนางขับรถกลับจวน ชายชุดดำที่เพิ่งลงไปตอนนี้แอบมองรถม้าของนางอยู่ด้านนอก"องค์ชายจับตัวได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ" ฉีเฟยหลางหันไปมององครักษ์ที่เข้ามารายงานก็พยักหน้าแล้วขึ้นม้าควบตามไปเขารู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเป็นรถม้าของหลิงอวี้ เพียงอยากเห็นหน้านางเท่านั้นไม่คิดว่าจะทำให้นางได้รับบาดเจ็บเลยสักนิด สามเดือนมานี้เขาฝึกฝนตนเองอย่างหนัก ทั้งรับงานจากเสด็จพ่อมาทำหวังจะทำให้ลืมนางได้ แต่ไม่เลยเขายังคิดถึงเพียงแต่นางวันนี้ฉีเฟยหลางพบสายลับต่างแคว้นที่ลักลอบปะปนเข้ามากับคณะทูตจึงออกมาจับกุมตัว จนได้พบกับรถม้าของตระกูลจ้าว เมื่อเห็นว่าเพิ่งออกมาจากตรอกจวนตระกูลเสวี่ยเขาจึงแน่ใจว่าเป็นนาง จึงรีบจัดการให้คนของตนจับคนร้ายแล้วเขาก็ขึ้นมาในรถม้าของนางแต่ฉีเฟยหลางคิดไม่ถึงว่าหลิงอวี้จะถือมีดสั้นเตรียมต่อสู้กับตนอยู่ แล้วกลัวจะทำให้นางบาดเจ็บจึงได้แย่งมีดไว้ แต่สุดท้ายนางก็ได้รับบาดเจ็บจากเขาอยู่ดีหลิงอวี้กลับถึงจวนก็รีบเข้าเรือนตัวเองทันที แล้วให้สาวใช้หายามาทาให้นาง เรื่องที่เกิดขึ้นก็ให้เก็บเงียบไว้อย่าเพิ่งบอกท่านพ่อท่านแม่แต่หลิงอวี้ยังมิได้ออกไปให้จ้าวตงหยางกับจินเยว่ไ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status