Share

บทที่ 4

Author: l3oonm@
last update Last Updated: 2025-02-03 08:06:30

นางเริ่มเก็บดอกหอมหมื่นลี้ที่อยู่บนต้นเมื่อเห็นว่าได้เยอะแล้วก็นั่งแยกให้เหลือเพียงดอกที่สมบูรณ์เท่านั้น จากนั้นนำไปล้างอยู่หลายน้ำเพื่อให้มั่นใจว่าสะอาดแน่นอน นางต้มน้ำตาลกับน้ำเปล่าจนละลายเข้ากันดีแล้วใส่ดอกหอมหมื่นลี้ลงไปคนจนเข้ากัน นางนำน้ำผึ้งที่เหลือเมื่อครั้งที่ลู่ซานซื้อมาให้นางหมักหมูป่าใส่ลงไปด้วยเพื่อให้น้ำเชื่อมของนางข้นขึ้น เมื่อเย็นแล้วก็เทใส่ไหเก็บไว้ จะได้น้ำตาลเชื่อมจากดอกหอมหมื่นลี้ นางจะนำไว้ชงน้ำชาให้บิดามารดาดื่ม 

นางตักน้ำเชื่อมหนึ่งช้อนเล็กมาชงใส่กาน้ำชานำไปให้ทหารที่มาเฝ้าที่เรือนของนางได้ลองดื่ม นางต้องซื้อใจคนพวกนี้ไว้ด้วยหากจะออกไปข้างนอกก็ต้องหวังพึ่งพาพวกเขา

ความหอมหวานของดอกหอมหมื่นลี้เมื่อพวกเขาได้ลิ้มลองเพียงจอกเดียวย่อมไม่พอแต่น้ำชาที่แม่นางเสวี่ยนำมามีเพียงแค่กาเดียว พวกเขาจำต้องแบ่งกันดื่ม

ทหารที่ไปหาแม่ทัพจ้าววิ่งมาถึงค่ายยังไม่ทันหายเหนื่อยก็รีบเข้าไปรายงานก่อนแล้ว เขาอยากรีบนำของกลับไปส่งให้แม่นางเสวี่ย หากได้เห็นรอยยิ้มของสาวงามเหนื่อยตายก็คงไม่เป็นอันใด

"ท่านแม่ทัพขอรับ นี่คือของที่ยึดมาจากแม่นางเสวี่ยขอรับ"

"อย่าบอกว่าของแค่นี้เจ้าก็ยังยึดมาจากนาง" หลิวเหล่ยกุนซือประจำกองทัพเอ่ยถามขึ้นมา

"แล้วอย่างไร นางเป็นนักโทษ คงไม่แปลกหากข้าจะตรวจสอบก่อน" จ้าวตงหยางกล่าวขึ้นอย่างเย็นชา

"ไม่แปลกหากจะตรวจสอบก่อน แต่ของที่นำมาเจ้าจะหาข้ออ้างใดเพื่อยึดไว้" หลิวเหล่ยปรายตามองสหายของตนอย่างดูแคลน แม้ทั้งสองตระกูลจะมีเรื่องผิดใจกัน แต่จะหาเรื่องสตรีด้วยเรื่องเล็กน้อยเท่านี้ก็ออกจะเกินไปเสียหน่อย

"เอ่อ ท่านแม่ทัพขอรับ แม่นางเสวี่ยมีข้อความฝากมาแจ้งแก่ท่านขอรับ" ทหารผู้น้อยรีบเอ่ยแทรกเพราะดูท่าแล้วท่านแม่ทัพคงไม่ยอมคืนของให้แน่

"พูดมา" เสียงของเขาดุดันขึ้น

"แม่นางเสวี่ย บอกว่า บอกว่า หากจวนแม่ทัพอดอยากเพียงนั้นก็ขอมอบของเหล่านี้ให้ท่านแม่ทัพขอรับ" ทหารผู้น้อยพูดขาดๆหายๆ เหงื่อเต็มไปทั้งแผ่นหลังของเขา ยิ่งเห็นสายตาของท่านแม่ทัพที่อยากจะสังหารคนเขาก็ยิ่งตัวสั่น มิน่าพูดแทนแม่นางเสวี่ยเลยแต่มาคิดได้ตอนนี้ก็สายไปเสียแล้ว

"ดี ดี ดียิ่ง" จ้าวตงหยางโมโหจนลุกขึ้นจากเก้าอี้แล้วหันไปถีบเก้าอี้อีกตัวจนพังไม่เหลือชิ้นดี

"เป็นสตรีที่น่าสนใจ" หลิวเหล่ยหัวเราะน้อยๆก่อนกล่าวออกมา

จ้าวตงหยางไล่ทหารผู้น้อยให้นำของกลับไปคืนให้จินเยว่ เขาไม่ควรยึดของที่เล็กน้อยเพียงนี้ไว้ไม่เช่นนั้นคนอื่นจะคิดว่าจวนแม่ทัพของเขาอดอยากอย่างที่นางพูด 

แต่โทสะที่มีเพราะคำพูดของนางทำให้เขาต้องลากทหารในค่ายไปฝึกซ้อมกับตน จะเรียกว่าฝึกซ้อมก็ไม่ถูกต้องเรียกว่าเรียกไปโดนซ้อมเสียมากกว่า 

ทหารผู้น้อยรีบวิ่งนำของกลับมาคืนจินเยว่ก่อนที่ตัวเขาจะโดนลากไปซ้อมด้วย แค่จินตนาการถึงภาพสาวงามยิ้มหวานให้เขาก็มีแรงวิ่งอีกเยอะ

"แม่นางเสวี่ย ข้า ข้า นำของมาคืนให้" เป็นไปตามคาด จินเยว่ยิ้มกว้างขอบคุณเขา

"รบกวนท่านแล้ว ท่านมาเหนื่อยๆ ประเดี๋ยวรอข้าสักครู่" จินเยว่หันหลังกลับเข้าเรือนเพื่อนำของไปเก็บและยังนำกาน้ำชาที่ใส่น้ำเชื่อมดอกหอมหมื่นลี้มาให้เขาด้วย

"ข้า ข้า แซ่กง นามจือ กงจือขอรับ" ชายหนุ่มก้มหน้าลงอย่างเขินอาย

"คุณชายกง จินเยว่เสียมารยาทแล้ว"

"ไม่ ไม่ ข้ามิใช่คุณชาย เรียกข้าพี่จือก็ได้" นางพยักหน้ารับแต่มิได้เอ่ยอันใด

จินเยว่นำกาน้ำชาที่ถูกดื่มอย่างรวมเร็วกลับเข้าเรือน วันนี้นางทำอาหารง่ายๆให้กับบิดามารดาเท่านั้น เพราะเพิ่งมาถึงแล้วนางก็วุ่นวายกับการทำความสะอาดเรือนมาทั้งวันแล้ว

กลิ่นอาหารโชยออกมาจากเรือนทหารที่ยืนเฝ้ายามอยู่ถึงกับทรมานเพราะความหิว แม้พวกเขาจะถูกฝึกมาอย่างดี ไม่กินอาหารสักสองสามมื้อก็อยู่ได้อย่างสบาย แต่กลิ่นอาหารภายในเรือนช่างทำให้ใจคนอยู่ไม่เป็นสุขยิ่งนัก

"ท่านแม่ หากต้องทำอาหารเผื่อทุกวัน เราจะอยู่ได้อีกกี่วันเจ้าค่ะ ข้าแค่ซื้อไก่ ซื้อเมล็ดผักยังต้องโดนยึดของเพื่อตรวจสอบก่อน หากจะออกไปซื้อของด้านนอกข้าคงได้โดนถลกหนังเป็นแน่" เกาชื่อให้จินเยว่นำอาหารมาแบ่งให้ทหารที่อยู่ด้านนอกเรือน นางจึงเริ่มบ่นออกมา เกาชื่อยังไม่ชินกับนิสัยของบุตรสาวที่เปลี่ยนไป นางเอื้อมมือไปหยิกเอวจินเยว่

"เจ้าเป็นสตรีที่ยังมิออกเรือน จะพูดเช่นนี้มิได้" นางก้มหน้าลง เพราะตอนนี้มารดานึกถึงเรื่องนี้ทีไรก็เศร้าใจทุกครั้ง 

เมื่อจินเยว่นพอาหารไปแบ่งให้กับทหารแล้ว ทั้งสามก็ลงมือกินอาหารของตนเองเช่นกัน บิดามารดาที่อิ่มเรียบร้อยก็นั่งจิบชาที่จินเยว่ทำไว้ให้ แม้จะโดนคุมตัวมาอยู่ไกลถึงแดนเหนือหากยังเป็นเช่นนี้ต่อไปก็มิได้ลำบากเท่าใดนัก

"ท่านพ่อ พวกเราสามารถทำสิ่งใดได้บ้างเจ้าคะ" ข้าหมายถึงค้าขายหรือออกไปทำงาน" จินเยว่ที่ยกจานไปล้างแล้วกลับเข้ามาพูดคุยกับบิดามารดา

"เห็นทีจะยังไม่ได้ คงต้องรอฟังคำตัดสินเสียก่อน" บิดาของนางเป็นเพียงคุณชายที่ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายมาตลอด แล้วยังเป็นขุนนางตงฉินอีกด้วยเรื่องพวกนี้เขาคงยังไม่กล้าตัดสินใจทำอันใดเป็นแน่

"ท่านพ่อมีปัญหาอันใดกับท่านแม่ทัพจ้าวมาก่อนหรือเจ้าคะ" นางเอ่ยถามเรื่องที่สงสัยขึ้น

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • จองจำรักร้าย   บทที่ 49 (ตอนจบ)

    จ้าวตงหยางยังอยากจะเก็บหลิงอวี้ไว้ออกเรือนตอนอายุยี่สิบกว่าด้วยซ้ำ หากยินเยว่ไม่เอ่ยท้วงเสียก่อน"ท่านแม่ทัพ มีราชโองการมาขอรับ" พ่อบ้านจ้าววิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาตาม ทั้งคู่มองหน้ากันอย่างแปลกใจ ก่อนหน้านี้ฮ่องเต้พระราชทานรางวัลและแต่งตั้งจางหมิ่นกับจางหย่งเรียบร้อยแล้ว ยังจะมีราชโองการใดได้อีกทั้งคู่รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าออกมาจากเรือนก็พบว่าทุกคนยืนรออยู่หน้าจวนอย่างพร้อมเพรียงแล้ว"ฮ่องแต่มีพระราชโองการ มอบสมรสพระราชทานให้คุณหนูจ้าวหลิงอวี้กับองค์ชายสามฉีเฟยหลาง..." ขันทีประกาศเช่นใดจ้าวตงหยางมิได้ยินอีกแล้ว หูของเขาแทบจะดับไปทันที หากมิใช่มีจินเยว่ประคองไว้เขาคงล้มไปนั่งกองกับพื้นแล้วเมื่อส่งขันทีข้างกายฮ่องเต้กลับไปแล้ว จินเยว่ก็หัวเราะกับท่าทีเหม่อลอยของจ้าวตงหยางขึ้นมา "ท่านมิได้รู้อยู่แล้วหรือ ท่านพี่"จ้าวตงหยางหันไปถลึงตาใส่เมียรักอย่างเห็นได้น้อย รู้อยู่แล้วแต่ทำใจไม่ได้ไงตระกูลจ้าวในเวลานี้บ่าวไพร่แม้แต่นายของจวนต่างก็วุ่นวายจัดเตรียมข้าวของ เสวี่ยป๋อเหวินกับเกาซื่อก็มาอยู่ช่วยดูแลงาน ยังขนเงินทองของมีค่ามาหลายหีบเพื่อเติมสินเดิมให้เจ้าสาว"ท่านพ่อ สินเดิมของอวี้เออร์ไม่เยอ

  • จองจำรักร้าย   บทที่ 48

    แม่ทัพแคว้นเหยี่ยนส่งคณะทูตมาเจรจากับจ้าวตงหยางถึงค่ายทหาร โดยการยอมรับความพ่ายแพ้ครั้งนี้ของแคว้นเหยี่ยนต้องยอมเสียเมืองที่คิดกับแคว้นฉีถึงสามเมือง และจะส่งเครื่องบรรณาการเพิ่มจากเดิมอีกสองส่วนเมื่อทุกฝ่ายหารือร่วมกันเห็นพร่องว่ายินยอมที่จะรับข้อเสนอเช่นนี้ได้ ก็ตกลงทำสัญญาพร้อมถอนทัพกลับทันที ฉีเฟยหลางยังต้องรั้งรอคนที่ราชสำนักส่งมาจัดการหัวเมืองที่ยึดมาได้ก่อน จ้าวตงหยางที่นำทัพกลับเมืองหลวงจึงให้ จางหมิ่นและจางหย่งอยู่ช่วยดูแลอีกแรง การรบกับแคว้นเหยี่ยนครั้งนี้พวกเขาใช้เวลาเดินทางมากกว่าการรบเสียอีก เสียเวลาเดินทางมาสามเดือน เตรียมการรบจนชนะเพียงสองเดือนเท่านั้นตอนนี้จ้าวตงหยางแทบอยากจะมีปีกรีบกลับเมืองหลวงโดยเร็วเพราะกำหนดคลอดของจินเยว่ใกล้เข้ามาแล้ว หากเข้าเร่งรีบนำทัพกลับคงใช้เวลาอย่างน้อยก็สองเดือนเป็นช่วงคลอดของจินเยว่พอดีฉีเฟยหลางยังคงส่งจดหมายหาหลิงอวี้ทุกครั้งที่เขามีเวลา(ก็เขียนทุกวันก่อนนอน) แม้นางจะเขียนตอบมาน้อยครั้งนัก แต่ทุกครั้งก็จะบอกให้เขาดูแลตัวเองให้ดี อย่าได้บาดเจ็บ เสื้อคลุมที่สวมอยู่ก็เป็นนางที่ส่งมาให้เมื่อคิดจะฝากจดหมายไปและของที่ซื้อไว้ให้นางไปกับว่าท

  • จองจำรักร้าย   บทที่ 47

    กองทัพแคว้นฉีถึงโยวเป่ยสามเดือนให้หลัง ตอนนี้ทั้งหมดอยู่ห่างจากเมืองเป่ยซานเพียงสองร้อยลี้ จ้าวตงหยางจึงจำต้องอพยพชาวเมืองโยวเป่ยและเมืองใกล้เคียงให้ห่างออกไปจากแนวการรบอย่างน้อยห้าร้อยลี้ จินเยว่ยังมีส่วนช่วยเรื่องเสบียงของชาวบ้านที่อพยพมา เพราะคนของนางที่โยวเป่ยจำต้องอพยพไปพร้อมกับชาวบ้าน เสบียงที่พวกเขาขนไปด้วยจึงนับว่าช่วยชีวิตคนได้มาก ชาวบ้านจึงมิต้องอดอยากหรือป่วยไข้ตายลงค่ายผู้อพยพก็เป็นจางหย่งที่ได้รับมอบหมายจากบิดาให้เร่งสร้างและจัดหาสิ่งของที่ขาดแคลนให้ชาวบ้านได้ใช้ไปก่อน ถึงคลังหลวงจะมีเงินมากก็มิอาจจะยกทั้งหมดมาใช้กับสงครามได้ เป็นเพราะจินเยว่ที่ได้สามีเป็นแม่ทัพนางจึงนำที่ดิน ที่ฮ่องเต้พระราชทานเป็นรางวัลทั้งหมดมิยอมปล่อยเช่าเช่นขุนนางคนอื่น แต่นางจ้างให้ชาวบ้านปลูกข้าว มันสำปะหลัง พืชผักที่เก็บไว้ได้นาน เลี้ยงดูทหารของตระกูลจ้าว ขึงทำให้มีเสบียงมากพอที่ใช้ในการสู้รบครั้งนี้แม้แต่อาหารพื้นบ้านธรรมดาอย่างเช่นรากบัวก็นำมาปรุงอาหารได้ ถั่วเขียวแช่น้ำ แล้ววางลงในไหหรือตะกร้า เอาผ้าคลุมที่ละชั้นเก็บไว้ในที่มืดคอยรดน้ำสามวันก็เป็นผัก นำมาผัดน้ำมันก็ทานได้แล้ว สิ่งที่นางรู้น

  • จองจำรักร้าย   บทที่ 46

    "อวี้เออร์ โกรธข้าหรือ" เขาจ้องหน้าของนางก่อนจะอดใจไม่ไหวก้มลงจุมพิตนางทันที "ท่าน อื้ออออ" หลิงอวี้ที่อ้าปากจะร้องห้ามก็เป็นการเปิดทางให้ฉีเฟยหลางแทรกเรียวลิ้นของเขาเข้ามาได้ กว่าเขาจะยอมถอนริมฝีปากออกจากปากนางก็เมื่อคนขับรถม้าเอ่ยว่าถึงจวนท่านแม่ทัพแล้วฉีเฟยหลางลูบริมฝีปากของหลิงอวี้อย่างอาลัยอาวรณ์ ก่อนจะช่วยนางจัดเสื้อผ้าแล้วพานางไปส่งด้านในจวน เมื่อส่งหลิงอวี้ถึงมือมารดาของนางแล้วเขาก็กลับเข้าวังหลวงพร้อมจางหย่งอีกครั้งจินเยว่ที่เห็นดวงตาของบุตรสาวปูดบวมและมีองค์ชายสามมาส่งก็ตกใจ เมื่อสอบถามจนได้ความนางก็แทบจะเป็นลมหมดสติ มิคิดว่าให้บุตรสาวไปร่วมงานเลี้ยงจะเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นถึงเพียงนี้"ไม่เป็นไรลูกรัก ทุกปัญหามีท่านตากับท่านพ่อของเจ้าคอยค้ำไว้ให้" จินเยว่กอดปลอบบุตรสาวที่สะอื้นจนตัวโยนในอ้อมกอดของนาง ลี่หลินก็หลั่งน้ำตาสงสารน้องน้อยของตนเช่นกันที่เขาเรียกว่าความงามทำให้เกิดหายนะก็เพิ่งพบเห็นจากเรื่องของจ้าวหลิงอวี้นี่เอง เรื่องภายในวังถูกร่ำลือออกไปภายนอก ย่อมมีคนเห็นด้วยและเห็นต่าง แต่ส่วนมากจะโกรธแค้นแคว้นเหยี่ยนที่หาเหตุผลมาทำสงครามมิได้ต้องดึงแม่นางน้อยคนหนึ่งมาทำร้าย

  • จองจำรักร้าย   บทที่ 45

    ขุนนางทั้งหลายที่ล่วงรู้ก็นึกถึงเรื่องของหนเก่าครั้งของแม่ทัพจ้าว แคว้นเหยี่ยนมิเคยจดจำเสียเลยจ้าวตงหยางเพียงยกสุราขึ้นร่วมชมความสนุกเท่านั้น เพราะครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับตน (เกี่ยวเต็มๆ พ่อรอดู)จางหมิ่นกับจางหย่งก็เหลือบมองหน้าน้องสาวของตนก่อนจะถอนหายใจ เพราะน้องสาวของตนก็สนใจเพียงดื่มกินอาหารตรงหน้าเท่านั้น คงมีเพียงมือที่สั่นอย่างระงับไว้ไม่อยู่"องค์หญิงแคว้นเหยี่ยนเสียมารยาทแล้ว ท่านมีสิทธิ์อันใดมาสอบถามชื่อของนาง" องค์ชายสามกล่าวตำหนิอย่างไม่ไหวหน้า"เช่นนั้นเปิ่นหวางองค์รัชทายาทแคว้นเหยี่ยนก็สามารถขอพระราชทานสมรสครั้งนี้แทนได้ใช่หรือไม่" องค์รัชทายาทแคว้นเหยี่ยนลุกขึ้นพูด"องค์รัชทายาทแคว้นเหยี่ยน เจ้าหมายตาบุตรสาวขุนนางของเจิ้นคนใดหรือ หากบิดามารดาของนางยินยอมเจิ้นก็มิขัดข้อง" ฮ่องเต้ช่วยคลี่คลายสถานการณ์ที่ตึงเครียด"จ้าวหลิงอวี้ บุตรสาวแม่ทัพใหญ่จ้าว เปิ่นหวางอยากจะแต่งนางเป็นพระชายา มิรู้ว่าท่านแม่ทัพจะยินยอมหรือไม่" ขุนนางทั้งหลายต่างสูดหายใจเข้าอย่างลืมตัว จ้าวตงหยางที่ยกจอกสุราจรดริมฝีปากเพื่อดื่มก็เผลอบีบแก้วจนแตกคามือ องค์ชายสามก็เช่นกัน สองบุรุษต่างวัยต่างมีสีหน้าดำคล

  • จองจำรักร้าย   บทที่ 44

    หลิงอวี้เห็นเช่นนั้นก็สั่งให้คนของนางขับรถกลับจวน ชายชุดดำที่เพิ่งลงไปตอนนี้แอบมองรถม้าของนางอยู่ด้านนอก"องค์ชายจับตัวได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ" ฉีเฟยหลางหันไปมององครักษ์ที่เข้ามารายงานก็พยักหน้าแล้วขึ้นม้าควบตามไปเขารู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเป็นรถม้าของหลิงอวี้ เพียงอยากเห็นหน้านางเท่านั้นไม่คิดว่าจะทำให้นางได้รับบาดเจ็บเลยสักนิด สามเดือนมานี้เขาฝึกฝนตนเองอย่างหนัก ทั้งรับงานจากเสด็จพ่อมาทำหวังจะทำให้ลืมนางได้ แต่ไม่เลยเขายังคิดถึงเพียงแต่นางวันนี้ฉีเฟยหลางพบสายลับต่างแคว้นที่ลักลอบปะปนเข้ามากับคณะทูตจึงออกมาจับกุมตัว จนได้พบกับรถม้าของตระกูลจ้าว เมื่อเห็นว่าเพิ่งออกมาจากตรอกจวนตระกูลเสวี่ยเขาจึงแน่ใจว่าเป็นนาง จึงรีบจัดการให้คนของตนจับคนร้ายแล้วเขาก็ขึ้นมาในรถม้าของนางแต่ฉีเฟยหลางคิดไม่ถึงว่าหลิงอวี้จะถือมีดสั้นเตรียมต่อสู้กับตนอยู่ แล้วกลัวจะทำให้นางบาดเจ็บจึงได้แย่งมีดไว้ แต่สุดท้ายนางก็ได้รับบาดเจ็บจากเขาอยู่ดีหลิงอวี้กลับถึงจวนก็รีบเข้าเรือนตัวเองทันที แล้วให้สาวใช้หายามาทาให้นาง เรื่องที่เกิดขึ้นก็ให้เก็บเงียบไว้อย่าเพิ่งบอกท่านพ่อท่านแม่แต่หลิงอวี้ยังมิได้ออกไปให้จ้าวตงหยางกับจินเยว่ไ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status