Share

บทที่ 2

Author: l3oonm@
last update Last Updated: 2025-02-02 05:49:55

การเดินทางที่ยาวนานนับสามเดือนนี้แทบจะสูบวิญญาณของนางและครอบครัวออกไปจนหมด เกาซื่อนำข้าวต้มมาให้บุตรสาวที่ตั้งแต่ตื่นมาก็นั่งเหม่ออยู่บนเตียงเท่านั้น

"เยว่เออร์กินข้าวเสียหน่อยลูก เสบียงที่มีมาใกล้หมดแล้วแต่อีกไม่กี่วันก็จะเดินทางถึงเมืองโยวเป่ยที่พวกเราต้องไปอยู่แล้ว เจ้าก็อดทนอีกหน่อยนะลูก" เกาซื่อส่งชามให้จินเยว่พร้อมทั้งลูบหัวนาง

"ท่านแม่ ข้า ข้าคิดถึงท่านเหลือเกิน" จินเยว่เอ่ยด้วยเสียงสะอื้น เป็นเพราะนางคิดถึงคุณแม่ของนางมากจริงๆ แล้วมารดาของร่างนี้ก็เหมือนแม่ของนางราวกับคนเดียวกัน ความโหยหาตลอดสามปีที่ผ่านมามันกลั่นออกมาเป็นคำพูดมิได้ มีเพียงกอดที่นางส่งไปให้เกาซื่อเท่านั้นที่บอกความรู้สึกของนางออกมาทั้งหมดแทน

"เจ้าลูกคนนี้ เพียงหลับไปสามวันเท่านั้น จะมาคิดถึงแม่ได้อย่างไร" นางแสร้งดุแต่มือข้างที่ไม่ได้กอดบุตรสาวก็ยกขึ้นปาดน้ำตาทิ้งตลอด สวรรค์เท่านั้นที่จะรู้ว่านางกลัวสูญเสียบุตรสาวมากเพียงใด

เสวี่ยป๋อเหวินที่เข้ามาเห็นสองแม่ลูกกอดกันร้องไห้ก็รีบเดินเข้ามาสอบถามทั้งคู่ว่าเป็นอันใด เมื่อรู้เรื่องก็ดึงทั้งคู่มากอดพร้อมทั้งพร่ำบอกว่าเป็นตนเองที่อ่อนแอจนถูกคนใส่ร้าย

จินเยว่ลอบสาบานในใจว่านางจะหาหลักฐานยืนยันความบริสุทธิ์ของบิดา และจะเอาคืนคนที่ทำให้ครอบครัวของนางเป็นเช่นนี้อย่างสาสมเป็นแน่

เมื่อทั้งสามคนหยุดร้องไห้แล้วจินเยว่เล่าเรื่องของนางให้บิดาและมารดารู้เพราะหากนางมีพฤติกรรมที่แปลกไปพวกเขาจะได้ไม่นึกสงสัย จินเยว่คนเก่านั้นเรียบร้อยอ่อนหวาน เพียบพร้อมด้วยสี่คุณธรรม (กรอบคุณธรรมที่ใช้อบรมสตรีชั้นสูง กิริยาเพียบพร้อม พูดจาอ่อนน้อม รูปร่างหน้าตาสะอาดสะอ้าน การบ้านการเรือนไม่ขาด) สามคล้อยตาม (หญิงที่ยังไม่ออกเรือนต้องเชื่อฟังบิดา ออกเรือนต้องเชื่อฟังสามี สิ้นสามีต้องเชื่อบุตรชาย) สมกับเป็นสตรีในห้องหออย่างแท้จริง แต่นางในตอนนี้มิได้เป็นเช่นนั้น

"ท่านพ่อ ท่านแม่ ข้ามีเรื่องต้องบอกพวกท่าน" จินเยว่เล่าเรื่องที่นางหลับไปสามวันแล้วหลุดไปอีกภพหนึ่งนางใช้ชีวิตอีกโลกหนึ่งเพียงลำพังเพราะเสียบิดามารดาไปกับอุบัติเหตุ ในโลกหนึ่งมีสิ่งของแปลกประหลาดที่ต่างจากที่นี่มากมาย รถม้าก็เปลี่ยนเป็นรถยนต์ที่วิ่งได้เร็วกว่า เครื่องบินที่เดินทางบนฟ้าได้ อาวุธปืนที่มีอานุภาพมากกว่าธนู เครื่องอำนวยความสะดวกที่ไม่จำเป็นต้องมีแรงงานทาส มีไฟฟ้าให้ใช้โดยไม่ต้องหวังเพียงแค่แสงเทียนหรือคบเพลิง

ตอนนี้สองสามีภรรยาตกใจจนเสียขวัญตั้งแต่ได้ยินที่บุตรสาวพูดว่านางหลุดไปอีกภพหนึ่งเมื่อสามวันที่แล้ว เรื่องราวต่างๆที่บอกเล่าออกมาจากปากน้อยๆของนางสร้างความตื่นเต้นให้เสวี่ยป๋อเหวิน ยิ่งธนาคารรับฝากเงินที่บุตรสาวเล่าเขาอยากให้มีเกิดขึ้นในแคว้นของตน แต่ตอนนี้เขาจะทำอันใดได้ แค่ชีวิตของบุตรสาวเขายังแทบจะยื้อไว้ไม่ได้เลย

ระหว่างเดินทางจินเยว่ที่ร่างกายเริ่มกลับมาแข็งแรงนางก็ทนไม่ได้ที่จะกินเพียงแผ่นแป้งกับเนื้อแห้งเท่านั้น และเมื่อหยุดแวะพักนางขอยืมมีดสั้นจากทหารวัยสิบหกคนหนึ่ง แล้วเดินหายเข้าไปในป่าเพียงลำพัง แต่นางรู้ว่ามีตนตามนางออกมา คงคิดว่านางจะหาทางหลบหนี นางจึงมิได้สนใจ

เมื่อเดินไปได้ไม่ไกลนางก็พบกับไก่ป่าสองตัว นางเลือกตัวที่ใหญ่ที่สุดแล้วขวางมีดสั้นในมือออกไปทันที ลู่ซาน คือทหารที่องค์รัชทายาทส่งมาปะปนในขบวนเดินทางเพื่อคอยดูแแลเสนาบดีเสวี่ย ที่เขาเดินตามคุณหนูเสวี่ยออกมาเพราะกลัวว่านางจะเกิดอันตราย แต่ไม่คิดว่านางจะออกมาหาจับไก่ป่า และนางยังสามารถจับได้อีกด้วย

ตอนที่ลู่ซานยังตกตะลึงอยู่นั้นจินเยว่ก็จับไก่ป่าเพิ่มได้อีกสองตัว ตอนนี้นางหิ้วไก่ป่าทั้งสามออกมาจากป่าแล้ว 

"ไม่ต้องหลบแล้ว ช่วยข้าถือหน่อย" นางส่งไก่ป่าให้ลู่ซาน เพราะในห่อเสื้อของนางยังมีไข่อีกเกือบสิบฟองด้วย ทั้งคู่เดินกลับถึงที่พักนางก็ลงมือกับไก่ทั้งสามตัวทันที โดยมิได้ร้องขอให้ทหารคนใดช่วยนาง ลู่ซานจึงเดินเข้าไปช่วยเหลือนาง เขานำไก่ที่จัดการถอนขนนำเครื่องในออกแล้วไปย่าง 

จินเยว่นำเครื่องในไก่ที่กินได้มาเสียบไม้ที่นางเหลาไว้แล้วไปย่างด้วย ลู่ซานมองสิ่งที่นางนำมาอย่างตกตะลึง คุณหนูเสวี่ยนางกล้ากินของสกปรกเช่นนี้หรือ เกาซื่อมองบุตรสาวที่ลงมือทำอาหารเองและยังอยู่ท่ามกลางบุรุษโดยไม่ได้รู้สึกเขินอายเลย แต่เมื่อนึกถึงสิ่งที่บุตรสาวต้องพบเจอในอีกโลกนึกน้ำตานางก็คลอเพราะสงสารบุตรสาว นางกับสามีเชื่อบุตรสาวอย่างสุดใจว่าเรื่องที่นางเล่าคือเรื่องจริง

กลิ่นไก่ย่างพร้อมเครื่องในเรียกน้ำย่อยให้ทั้งขบวนเดินทางได้อย่างดี ไม่มีใครที่ท้องจะไม่ร้องแม้แต่เกาซื่อด้วย จินเยว่นำไก่หนึ่งตัวกับเครื่องในสองไม้ไปให้บิดามารดา ทหารที่เหลือได้ไก่สองตัวแล้วยังมีเครื่องในไก่อีกสี่ไม้ หากแบ่งกันกินก็สามารถกินได้ครบทุกคน นับว่าอาหารมื้อนี้สร้างความชื่นชมที่ทุกคนมีกับคุณหนูเสวี่ยเพิ่มขึ้น แม้แต่ของสกปรกก็อร่อยยิ่งนักเมื่ออยู่ในมือคุณหนูเสวี่ย

แม้หลายคนจะแปลกใจที่นางเปลี่ยนไปก็ตาม วันแรกที่โดนควบคุมตัวมา คุณหนูเสวี่ยได้แต่ร้องไห้ พวกตนเข้าใกล้ก็หวาดกลัว หลังจากที่นางล้มป่วยลงก็เหมือนกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ตอนนี้นางไม่ร้องไห้เสียใจอีกแล้ว แถมยังออกไปหาของป่ามาทำอาหารให้ทุกคนได้กินอีก

ตลอดการเดินทางที่เหลือจินเยว่เข้าป่าพร้อมทหารหลายนายและกับออกมาพร้อมเนื้อ เมื่อเดินทางผ่านเมืองที่มีตลาดทหารบางคนยังปลีกตัวออกไปหาซื้อเครื่องปรุงมาติดไว้ให้นางใช้ปรุงอีกด้วย ยิ่งได้เครื่องปรุงอาหารของจินเยว่ก็มีรสชาติที่ดียิ่งกว่าในเหลาอาหารดังเสียอีก

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • จองจำรักร้าย   บทที่ 49 (ตอนจบ)

    จ้าวตงหยางยังอยากจะเก็บหลิงอวี้ไว้ออกเรือนตอนอายุยี่สิบกว่าด้วยซ้ำ หากยินเยว่ไม่เอ่ยท้วงเสียก่อน"ท่านแม่ทัพ มีราชโองการมาขอรับ" พ่อบ้านจ้าววิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาตาม ทั้งคู่มองหน้ากันอย่างแปลกใจ ก่อนหน้านี้ฮ่องเต้พระราชทานรางวัลและแต่งตั้งจางหมิ่นกับจางหย่งเรียบร้อยแล้ว ยังจะมีราชโองการใดได้อีกทั้งคู่รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าออกมาจากเรือนก็พบว่าทุกคนยืนรออยู่หน้าจวนอย่างพร้อมเพรียงแล้ว"ฮ่องแต่มีพระราชโองการ มอบสมรสพระราชทานให้คุณหนูจ้าวหลิงอวี้กับองค์ชายสามฉีเฟยหลาง..." ขันทีประกาศเช่นใดจ้าวตงหยางมิได้ยินอีกแล้ว หูของเขาแทบจะดับไปทันที หากมิใช่มีจินเยว่ประคองไว้เขาคงล้มไปนั่งกองกับพื้นแล้วเมื่อส่งขันทีข้างกายฮ่องเต้กลับไปแล้ว จินเยว่ก็หัวเราะกับท่าทีเหม่อลอยของจ้าวตงหยางขึ้นมา "ท่านมิได้รู้อยู่แล้วหรือ ท่านพี่"จ้าวตงหยางหันไปถลึงตาใส่เมียรักอย่างเห็นได้น้อย รู้อยู่แล้วแต่ทำใจไม่ได้ไงตระกูลจ้าวในเวลานี้บ่าวไพร่แม้แต่นายของจวนต่างก็วุ่นวายจัดเตรียมข้าวของ เสวี่ยป๋อเหวินกับเกาซื่อก็มาอยู่ช่วยดูแลงาน ยังขนเงินทองของมีค่ามาหลายหีบเพื่อเติมสินเดิมให้เจ้าสาว"ท่านพ่อ สินเดิมของอวี้เออร์ไม่เยอ

  • จองจำรักร้าย   บทที่ 48

    แม่ทัพแคว้นเหยี่ยนส่งคณะทูตมาเจรจากับจ้าวตงหยางถึงค่ายทหาร โดยการยอมรับความพ่ายแพ้ครั้งนี้ของแคว้นเหยี่ยนต้องยอมเสียเมืองที่คิดกับแคว้นฉีถึงสามเมือง และจะส่งเครื่องบรรณาการเพิ่มจากเดิมอีกสองส่วนเมื่อทุกฝ่ายหารือร่วมกันเห็นพร่องว่ายินยอมที่จะรับข้อเสนอเช่นนี้ได้ ก็ตกลงทำสัญญาพร้อมถอนทัพกลับทันที ฉีเฟยหลางยังต้องรั้งรอคนที่ราชสำนักส่งมาจัดการหัวเมืองที่ยึดมาได้ก่อน จ้าวตงหยางที่นำทัพกลับเมืองหลวงจึงให้ จางหมิ่นและจางหย่งอยู่ช่วยดูแลอีกแรง การรบกับแคว้นเหยี่ยนครั้งนี้พวกเขาใช้เวลาเดินทางมากกว่าการรบเสียอีก เสียเวลาเดินทางมาสามเดือน เตรียมการรบจนชนะเพียงสองเดือนเท่านั้นตอนนี้จ้าวตงหยางแทบอยากจะมีปีกรีบกลับเมืองหลวงโดยเร็วเพราะกำหนดคลอดของจินเยว่ใกล้เข้ามาแล้ว หากเข้าเร่งรีบนำทัพกลับคงใช้เวลาอย่างน้อยก็สองเดือนเป็นช่วงคลอดของจินเยว่พอดีฉีเฟยหลางยังคงส่งจดหมายหาหลิงอวี้ทุกครั้งที่เขามีเวลา(ก็เขียนทุกวันก่อนนอน) แม้นางจะเขียนตอบมาน้อยครั้งนัก แต่ทุกครั้งก็จะบอกให้เขาดูแลตัวเองให้ดี อย่าได้บาดเจ็บ เสื้อคลุมที่สวมอยู่ก็เป็นนางที่ส่งมาให้เมื่อคิดจะฝากจดหมายไปและของที่ซื้อไว้ให้นางไปกับว่าท

  • จองจำรักร้าย   บทที่ 47

    กองทัพแคว้นฉีถึงโยวเป่ยสามเดือนให้หลัง ตอนนี้ทั้งหมดอยู่ห่างจากเมืองเป่ยซานเพียงสองร้อยลี้ จ้าวตงหยางจึงจำต้องอพยพชาวเมืองโยวเป่ยและเมืองใกล้เคียงให้ห่างออกไปจากแนวการรบอย่างน้อยห้าร้อยลี้ จินเยว่ยังมีส่วนช่วยเรื่องเสบียงของชาวบ้านที่อพยพมา เพราะคนของนางที่โยวเป่ยจำต้องอพยพไปพร้อมกับชาวบ้าน เสบียงที่พวกเขาขนไปด้วยจึงนับว่าช่วยชีวิตคนได้มาก ชาวบ้านจึงมิต้องอดอยากหรือป่วยไข้ตายลงค่ายผู้อพยพก็เป็นจางหย่งที่ได้รับมอบหมายจากบิดาให้เร่งสร้างและจัดหาสิ่งของที่ขาดแคลนให้ชาวบ้านได้ใช้ไปก่อน ถึงคลังหลวงจะมีเงินมากก็มิอาจจะยกทั้งหมดมาใช้กับสงครามได้ เป็นเพราะจินเยว่ที่ได้สามีเป็นแม่ทัพนางจึงนำที่ดิน ที่ฮ่องเต้พระราชทานเป็นรางวัลทั้งหมดมิยอมปล่อยเช่าเช่นขุนนางคนอื่น แต่นางจ้างให้ชาวบ้านปลูกข้าว มันสำปะหลัง พืชผักที่เก็บไว้ได้นาน เลี้ยงดูทหารของตระกูลจ้าว ขึงทำให้มีเสบียงมากพอที่ใช้ในการสู้รบครั้งนี้แม้แต่อาหารพื้นบ้านธรรมดาอย่างเช่นรากบัวก็นำมาปรุงอาหารได้ ถั่วเขียวแช่น้ำ แล้ววางลงในไหหรือตะกร้า เอาผ้าคลุมที่ละชั้นเก็บไว้ในที่มืดคอยรดน้ำสามวันก็เป็นผัก นำมาผัดน้ำมันก็ทานได้แล้ว สิ่งที่นางรู้น

  • จองจำรักร้าย   บทที่ 46

    "อวี้เออร์ โกรธข้าหรือ" เขาจ้องหน้าของนางก่อนจะอดใจไม่ไหวก้มลงจุมพิตนางทันที "ท่าน อื้ออออ" หลิงอวี้ที่อ้าปากจะร้องห้ามก็เป็นการเปิดทางให้ฉีเฟยหลางแทรกเรียวลิ้นของเขาเข้ามาได้ กว่าเขาจะยอมถอนริมฝีปากออกจากปากนางก็เมื่อคนขับรถม้าเอ่ยว่าถึงจวนท่านแม่ทัพแล้วฉีเฟยหลางลูบริมฝีปากของหลิงอวี้อย่างอาลัยอาวรณ์ ก่อนจะช่วยนางจัดเสื้อผ้าแล้วพานางไปส่งด้านในจวน เมื่อส่งหลิงอวี้ถึงมือมารดาของนางแล้วเขาก็กลับเข้าวังหลวงพร้อมจางหย่งอีกครั้งจินเยว่ที่เห็นดวงตาของบุตรสาวปูดบวมและมีองค์ชายสามมาส่งก็ตกใจ เมื่อสอบถามจนได้ความนางก็แทบจะเป็นลมหมดสติ มิคิดว่าให้บุตรสาวไปร่วมงานเลี้ยงจะเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้นถึงเพียงนี้"ไม่เป็นไรลูกรัก ทุกปัญหามีท่านตากับท่านพ่อของเจ้าคอยค้ำไว้ให้" จินเยว่กอดปลอบบุตรสาวที่สะอื้นจนตัวโยนในอ้อมกอดของนาง ลี่หลินก็หลั่งน้ำตาสงสารน้องน้อยของตนเช่นกันที่เขาเรียกว่าความงามทำให้เกิดหายนะก็เพิ่งพบเห็นจากเรื่องของจ้าวหลิงอวี้นี่เอง เรื่องภายในวังถูกร่ำลือออกไปภายนอก ย่อมมีคนเห็นด้วยและเห็นต่าง แต่ส่วนมากจะโกรธแค้นแคว้นเหยี่ยนที่หาเหตุผลมาทำสงครามมิได้ต้องดึงแม่นางน้อยคนหนึ่งมาทำร้าย

  • จองจำรักร้าย   บทที่ 45

    ขุนนางทั้งหลายที่ล่วงรู้ก็นึกถึงเรื่องของหนเก่าครั้งของแม่ทัพจ้าว แคว้นเหยี่ยนมิเคยจดจำเสียเลยจ้าวตงหยางเพียงยกสุราขึ้นร่วมชมความสนุกเท่านั้น เพราะครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับตน (เกี่ยวเต็มๆ พ่อรอดู)จางหมิ่นกับจางหย่งก็เหลือบมองหน้าน้องสาวของตนก่อนจะถอนหายใจ เพราะน้องสาวของตนก็สนใจเพียงดื่มกินอาหารตรงหน้าเท่านั้น คงมีเพียงมือที่สั่นอย่างระงับไว้ไม่อยู่"องค์หญิงแคว้นเหยี่ยนเสียมารยาทแล้ว ท่านมีสิทธิ์อันใดมาสอบถามชื่อของนาง" องค์ชายสามกล่าวตำหนิอย่างไม่ไหวหน้า"เช่นนั้นเปิ่นหวางองค์รัชทายาทแคว้นเหยี่ยนก็สามารถขอพระราชทานสมรสครั้งนี้แทนได้ใช่หรือไม่" องค์รัชทายาทแคว้นเหยี่ยนลุกขึ้นพูด"องค์รัชทายาทแคว้นเหยี่ยน เจ้าหมายตาบุตรสาวขุนนางของเจิ้นคนใดหรือ หากบิดามารดาของนางยินยอมเจิ้นก็มิขัดข้อง" ฮ่องเต้ช่วยคลี่คลายสถานการณ์ที่ตึงเครียด"จ้าวหลิงอวี้ บุตรสาวแม่ทัพใหญ่จ้าว เปิ่นหวางอยากจะแต่งนางเป็นพระชายา มิรู้ว่าท่านแม่ทัพจะยินยอมหรือไม่" ขุนนางทั้งหลายต่างสูดหายใจเข้าอย่างลืมตัว จ้าวตงหยางที่ยกจอกสุราจรดริมฝีปากเพื่อดื่มก็เผลอบีบแก้วจนแตกคามือ องค์ชายสามก็เช่นกัน สองบุรุษต่างวัยต่างมีสีหน้าดำคล

  • จองจำรักร้าย   บทที่ 44

    หลิงอวี้เห็นเช่นนั้นก็สั่งให้คนของนางขับรถกลับจวน ชายชุดดำที่เพิ่งลงไปตอนนี้แอบมองรถม้าของนางอยู่ด้านนอก"องค์ชายจับตัวได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ" ฉีเฟยหลางหันไปมององครักษ์ที่เข้ามารายงานก็พยักหน้าแล้วขึ้นม้าควบตามไปเขารู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเป็นรถม้าของหลิงอวี้ เพียงอยากเห็นหน้านางเท่านั้นไม่คิดว่าจะทำให้นางได้รับบาดเจ็บเลยสักนิด สามเดือนมานี้เขาฝึกฝนตนเองอย่างหนัก ทั้งรับงานจากเสด็จพ่อมาทำหวังจะทำให้ลืมนางได้ แต่ไม่เลยเขายังคิดถึงเพียงแต่นางวันนี้ฉีเฟยหลางพบสายลับต่างแคว้นที่ลักลอบปะปนเข้ามากับคณะทูตจึงออกมาจับกุมตัว จนได้พบกับรถม้าของตระกูลจ้าว เมื่อเห็นว่าเพิ่งออกมาจากตรอกจวนตระกูลเสวี่ยเขาจึงแน่ใจว่าเป็นนาง จึงรีบจัดการให้คนของตนจับคนร้ายแล้วเขาก็ขึ้นมาในรถม้าของนางแต่ฉีเฟยหลางคิดไม่ถึงว่าหลิงอวี้จะถือมีดสั้นเตรียมต่อสู้กับตนอยู่ แล้วกลัวจะทำให้นางบาดเจ็บจึงได้แย่งมีดไว้ แต่สุดท้ายนางก็ได้รับบาดเจ็บจากเขาอยู่ดีหลิงอวี้กลับถึงจวนก็รีบเข้าเรือนตัวเองทันที แล้วให้สาวใช้หายามาทาให้นาง เรื่องที่เกิดขึ้นก็ให้เก็บเงียบไว้อย่าเพิ่งบอกท่านพ่อท่านแม่แต่หลิงอวี้ยังมิได้ออกไปให้จ้าวตงหยางกับจินเยว่ไ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status