หน้าหลัก / โรแมนติก / จอมมารอ้างสิทธิรัก / บทที่1.จุดกำเนิดของเรื่อง

แชร์

จอมมารอ้างสิทธิรัก
จอมมารอ้างสิทธิรัก
ผู้แต่ง: วรดร/กัญนิชา/วิรัญชนา

บทที่1.จุดกำเนิดของเรื่อง

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-04-01 19:35:10

บทที่1.จุดกำเนิดของเรื่อง

วราพิชา มโนสา สาวน้อยวัยใสเติบโตขึ้นในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า ‘อุ้มรัก’ และเพิ่งเรียนจบจากรั้วมหาวิทยาลัยของรัฐแห่งหนึ่ง กำลังพยายามหางานทำอย่างสุดความสามารถ เพื่อที่จะแบ่งเบาภาระของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าที่เธอได้อาศัยอยู่และเติบโตขึ้นมา วราพิชชาเติบโตขึ้นมาโดยไม่รู้ว่าใครเป็นทั้งพ่อและแม่ เพราะเธอถูกทิ้งไว้ในโรงพยาบาล หลังจากแม่ผู้ให้กำเนิดคลอดเธอออกมา และถูกส่งต่อมาอยู่ที่สถานเลี้ยงเด็ก ‘อุ้มรัก’ จนกระทั่งเติบโต อยู่ในความดูแลของสถานเลี้ยงเด็ก ’อุ้มรัก’ แห่งนี้โดย ผอ.ชลธิชา ที่ขออุปการะไว้โดยที่วราพิชชาไม่โดนส่งไปอยู่ที่อื่นหลังจากโตเป็นสาว เหมือนเด็กคนอื่นๆ หรือเมื่อมีคนมาขอไปอุปการะ ความที่วราพิชชาว่าง่ายไม่เกี่ยงงาน เธออาสาช่วยงานทุกอย่างเท่าที่สามารถทำได้ จนเป็นที่รักใคร่เอ็นดูของทุกๆ คนที่ทำงานอยู่ในบ้าน ’อุ้มรัก’ มีพนักงานอยู่เพียงไม่กี่คน ดั่งเช่น ป้าพิมพ์แม่ครัว ครูน้อย ครูเก๋ และก็ลุงชด รปภ.และก็ครูผู้ช่วยอีก2-3คน จนเธอสมัครงานได้งานที่ ร.ร Grand Hotels.แห่งนี้ เนื่องจากคุณอุษาที่เป็นหัวหน้าแม่บ้านอยู่ที่ร.ร Grand Hotels เป็นเพื่อนกับป้าพิมพ์ๆ จึงฝากฝังมาให้ทำงานที่ร.ร Grand Hotels ได้

สถานเลี้ยงเด็ก ’อุ้มรัก’ มีภาระค่าใช้จ่ายสูงมากในแต่ละเดือน แล้วเงินเดือนจากการทำงานเป็นพนักงานทำความสะอาดก็ได้เยอะมากกว่า ถ้าเทียบกับทำงานสายตรงกับที่ได้ร่ำเรียนจบมา ร.ร Grand Hotels.ในขณะนั้น เปิดรับพนักงานเพิ่มขึ้น จึงทำให้วราพิชชาตัดสินใจเข้ามาทำงานทันทีที่ป้าพิมพ์เสนอแนะ วราพิชชาไม่เลือกงานจึงไม่เห็นว่าการทำงานเป็นพนักงานทำความสะอาดประจำร.ร.จะเป็นงานที่ต้อยต่ำ เมื่อ วราพิชชาทำงานสุจริต และไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน จึงไม่สนใจว่าใครจะมองอย่างดูถูก เมื่อเงินทุกบาททุกสตางค์ที่วราพิชชาได้รับมานั้นหามาด้วยลำแข้งตัวเองไม่ได้พึ่งพาใคร

 ร.ร Grand Hotels.มีสาขาไปทั่วโลก รวมถึงประเทศไทยด้วย หลังจากเข้ามาทำงานได้ไม่นาน เธอก็เป็นที่รักใคร่ของผู้ร่วมงานรวมถึงหัวหน้างานด้วย พนักงานผู้ชายหลายคนเพียรพยายามเข้ามาตีสนิท แต่ วราพิชชาไม่เคยสนใจ เงินเดือนออกก็เอาไปให้ครูน้อย เหลือติดตัวไว้นิดหน่อยพอใช้จ่ายกับเก็บออมไว้บ้าง เพราะต้องการช่วยเหลืออยากให้น้องๆ ที่สถานเลี้ยงเด็ก ’อุ้มรัก’ มีโอกาสได้เรียน จะได้มีโอกาสเหมือนที่เธอเคยได้รับมา จนวันที่เกิดเรื่องนั่นแหละ พัชรีเพื่อนร่วมงานโทรศัพท์เข้ามาขอร้องให้วรพิชชาอยู่ทำงานแทนเพราะติดธุระไม่สามารถมาทำงานตามเวลาเดิมได้

วราพิชชาจึงต้องไปทำงานแทนในคืนนั้น โดยทำหน้าที่แทนพัชรี พัชรีทำความสะอาดในโซน VIP เพราะอยู่มานาน วรพิชชาเริ่มทำงานทันทีที่ได้รับมอบหมายจนเรียบร้อยดี กำลังเตรียมตัวจะกลับ เธอเก็บอุปกรณ์ไว้ในรถอุปกรณ์ทำความสะอาด เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น…

 กริ๊ง... วราพิชชาเอื้อมมือไปรับโทรศัพท์ทันทีที่มันดังกังวานขึ้นมา

 “ไม่ทราบว่าใครรับค่ะ โทรจากฟร้อนลอบบี้มีห้องโซนVIP...โทรมาแจ้ง ต้องการแม่บ้านไปเก็บเศษแก้วที่ห้อง 1023 ด่วนค่ะ”

          “วราพิชชาเองจ้ะนิสา เดี๋ยววราไปจัดการให้เอง”

“อ้าว...วราเองเหรอ!!! แล้วทำไมวรายังไม่กลับบ้านละ วันนี้อยู่เวรเช้าไม่ใช่เหรอ”

          “พอดีพี่พัชรีติดธุระน่ะ วราเลยต้องมาทำงานแทน”

 “ยัยนั่นอีกแล้ว...ทำไมวราต้องทำงานแทนเขาตลอดเลย หัดปฏิเสธบ้างสิ ไม่อย่างนั้นก็มารบกวนอยู่เรื่อยๆ”

“บ่นเป็นยายแก่เลยนะนิสา...เดี๋ยวค่อยบ่นต่อจ้ะ ให้วราไปทำงานก่อนเดี๋ยวลูกค้าตำหนิเอาได้”    

“อืม... ระวังตัวด้วยล่ะ เออ...แล้วแอบดูให้หน่อยได้ไหม ได้ข่าวว่า คุณโดม... โดมินิค ลูกชายคุณเดวิดกับคุณแพรไหมมาพักอยู่โซน VIP ดูให้หน่อยว่าเขาหล่อเหมือนในข่าวหรือเปล่า รูปตามหน้าหนังสือพิมพ์ถ่ายมาไม่ชัดเลย ว่าแต่ต้องให้นิสารอกลับพร้อมกันไหม วันนี้พี่เอกมารับด้วยนะ” นิสาพูดจบพร้อมกับหัวเราะคิกคักออกมาอย่างพอใจ

 “ไม่ต้องรอหรอกจ้ะ...วราเลิกตั้งห้าทุ่มกว่าๆ ถ้านิสารอจะดึกเกินไป... วราไปก่อนนะถ้าเจอคุณโดมพรุ่งนี้จะเล่าให้นิสาฟังตอนพักกินอาหารกลางวันจ้ะ”

 วราพิชชาวางโทรศัพท์ แล้วก็รีบเข็นรถอุปกรณ์ทำความสะอาดตรงไปยังลิฟต์เพื่อปฏิบัติหน้าที่...

ติ้ง...เสียงลิฟต์ดังหลังจากที่เธอกดไปยังชั้นที่ต้องการ วราพิชชาเข็นรถอุปกรณ์ทำความสะอาดออกมา พลางมองดูหมายเลขห้อง แล้วรีบเข็นรถตรงไปทันที ก่อนจะเคาะประตูและยืนรออยู่หน้าห้องอย่างสำรวม

“ขออนุญาต ทำความสะอาดค่ะ” เสียงเปิดประตูวราพิชชาจึงรีบขออนุญาตเข้าไปในห้อง

“เชิญครับ... ขอโทษด้วยนะ พอดีเจ้านายทำแก้วหล่นแตก รบกวนด้วยครับ”

วราพิชชามองคนพูด ซึ่งมีกริยานอบน้อมผิดกับรูปร่างที่ใหญ่โตตามสัญชาติ ฝรั่งผมทองตาสีฟ้าร่างกายสูงใหญ่ วราพิชชาจัดเตรียมอุปกรณ์ก่อนจะก้าวเข้าไปในห้อง

“ทางนี้ครับ”

“ค่ะ”

          วราพิชชาจับอุปกรณ์ ก้มลงเก็บเศษแก้วที่หล่นเกลื่อนอยู่บนพื้น เธอรีบเก็บเศษแก้วใส่ถุงพลาสติกที่เตรียมมา ก่อนที่จะถามออกไป

“ขออนุญาตใช้ห้องน้ำด้วยนะคะ”

“เออ...”

ยังไม่ทันมีคำตอบ แต่วราพิชชาเร็วกว่า เธอก้าวเข้าไปในห้องน้ำแล้ว เพราะต้องการรีบทำงานให้เสร็จ เนื่องจากใกล้เวลาเลิกงานแล้ว เธอนำผ้าสะอาดมาชุปน้ำหมาดๆ เพื่อนำไปเช็ดเศษแก้วบนพื้น แต่ก่อนที่จะเดินออกไป ก็มีเสียงเรียกออกมาจากหลังผ้าม่านภายในห้องน้ำนั่นเอง

วราพิชชายืนตัวแข็งทื่อ สมองสั่งงานช้าลง

“หยิบผ้าเช็ดตัวให้หน่อยสิ” เสียงสั่งดังออกมาจากหลังผ้าม่านทึบผืนโต

วราพิชชาหันไปมองรอบตัว รีบเอื้อมมือไปหยิบผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ แล้วส่งให้คนหลังม่านทันที เธอรีบเดินออกจากห้องน้ำขาแทบพันกัน พลางสีหน้าตาเหยเก

แซมหัวเราะ”หึๆ…” ทันทีที่เห็นสีหน้าสาวน้อย

เมื่อวราพิชชาทำงานเสร็จเรียบร้อย กำลังเตรียมตัวจะกลับ

“แซม... ให้ใครหายาแก้ปวดให้หน่อยสิ ปวดหัวฉิบหายเลย...”

วราพิชชาอาปากค้างทันทีที่เงยหน้าขึ้นมอง เธอกำลังเก็บเศษแก้วอยู่แท้ๆ ผู้ชายตัวสูงใหญ่หุ่นล่ำมีกล้ามนิดหน่อยไม่ถึงกับเทอะทะ เขานุ่งผ้าเช็ดตัวสีขาวอย่างหมิ่นเหม่ มองดูแล้วน่าหวาดเสียว เพราะกลัวว่าผ้าผืนนั้นจะหลุดออกจากกัน ถ้าเขาขยับตัวแรงๆ ผมของชายหนุ่มมีสีน้ำตาลแดงยักโศกและยุ่งเหยิง ตาสีฟ้าน้ำทะเลเป็นประกาย จมูกโด่งเป็นสัน เมื่อรวมกับปากบางเฉียบได้รูป จึงทำให้รูปหน้าน่ามองยิ่งขึ้น ผิวเขาขาวๆมาก ขาวเสียจนจนสีผิวของวราพิชชาดำไปเลย ถ้าเทียบกับชายร่างใหญ่ที่ยืนโดดเด่นอยู่กลางห้อง เขาเป็นผู้ชายที่จัดอยู่ในกลุ่มหน้าตาดีมากๆ ถ้าตอนนี้นิสาได้เห็น คงต้องร้องกรี๊ดกราดอย่างสุดปลื้มใจแน่นอน

          วราพิชชาคิดถึงสีหน้าของนิสาหากเผชิญหน้ากับชายหนุ่มผู้นี้ เธอจึงเสก้มหน้าอมยิ้ม โดยลืมไปว่าเธอต้องรีบออกมาจากห้องเพื่อกลับบ้าน เมื่อใกล้ถึงเวลาเลิกงานเข้าไปทุกที

ปัง... เสียงประตูปิดตามหลัง ทันทีที่แซมเดินออกจากห้องไป เพื่อหายาแก้ปวดตามคำสั่งของเจ้านาย

“ใคร... เธอเป็นใคร แล้วเข้ามาทำไมในห้องฉัน” วราพิชชาสะดุ้งตื่นจากภวังค์ เสียงตวาดกับวงหน้ากระด้างจนเจ้าตัวนึกขยาด

หนุ่มเจ้าของห้องกำลังมองมาที่วราพิชชาที่ยืนอยู่กลางห้อง

วราพิชชาจึงตอบออกไป แล้วก็รีบขยับตัวเตรียมออกจากห้องของเขาทันที

“ดิฉันแม่บ้านค่ะ...เข้ามาทำความสะอาด เรียบร้อยแล้วขออนุญาตกลับเลยนะคะ”

โดมินิคมองมาที่วราพิชชาอย่างสำรวจ ผู้หญิงคนนี้ตัวเล็กมากถ้าเทียบกับเขาเอง แต่อะไรในตัวไม่เล็กตามไปด้วยแฮะ...คะเนได้จากสายตาแล้วไม่น่าจะพลาด เมื่อเขากวาดตาสำรวจจนทั่วทั้งด้านบนและด้านล่าง ดูๆ แล้วหน้าอกน่าใจก็น่าจะซักประมาณสามหกอัพ ขนาดเกินตัวไปหน่อย แถมหน้าตายังดูเด็กมากๆถึงยี่สิบเหรอเปล่าก็ไม่รู้ได้ ปากแดงๆ ตาโตๆ โดมินิคเจอมาเยอะ ทั้งเนื้อนมไข่ แต่หากลองเด็กสาวอ่อนเยาว์ดูบ้างก็ไม่ติด เขาขี้เกียจเรียกแซม ดูแล้วลักษณะแล้วน่าจะสะอาดพอใช้ โดมินิคคิดพลาง เดินตรงเข้าไปยังจุดที่วราพิชชายืนอยู่อย่างสำรวม

“ต้องการเงินเท่าไร ถ้าเธอต้องค้างที่นี่คืนนี้ บอกแซมนะแล้วตามฉันเข้ามาในห้อง ฉันจะเข้าไปรออย่าให้นานล่ะ...ฉันไม่ชอบรออะไรนานๆ”

บอกจบโดมินิคก็หมุนตัวกลับเข้าไปในห้องนอนทันที เขาไม่เคยคิดว่าตนเองจะโดนปฏิเสธ

วราพิชชากำมือเรียวจนปลายเล็บจิกเข้าไปในเนื้ออุ้งมือ เธอกัดริมฝีปากล่างจนแน่น เพื่อข่มกลั้นความโกรธ ผู้ชายมักจะมองเพศหญิงเป็นที่ระบายอารมณ์ ผู้ชายคนนี้คงใช้ชีวิตแบบนี้มาตลอด ผู้หญิงที่เขาเจออาจจะเต็มใจสนองอารมณ์กลัดมันให้เขา แต่ไม่ใช่เธอ

 เธอรีบเดินออกไปจากห้องทันทีอย่างฉุนเฉียว และอารมณ์โกรธที่เริ่มเดือดปุดๆ

ผ่านไปพักใหญ่ๆ ปัง… เสียงประตูเปิด ก่อนจะมีเสียงเดินย้ำเท้าเข้ามาหาเบาๆ

“ฉันคอยนานแล้วนะ เธอนั่งคำนวนเงินค่าจ้างนานไปนะ ถ้านานมากไปกว่านี้ ฉันก็ไม่ต้องการแล้วล่ะ”น้ำเสียงเย็นเฉียบตามอารมณ์กรุ่นๆ เขาเริ่มอารมณ์ไม่ดีที่สาวน้อยใช้เวลาคิดนานเกินควร

“ร้านขายยาปิดแล้วครับ เลยต้องวนรถหลายรอบ กว่าจะหาร้านขายยาที่ยังเปิดขายอยู่เจอ เลยใช้เวลานานไปหน่อยครับ” แซมรายงาน พร้อมทั้งยื่นถุงที่บรรจุยาแก้ปวดหัวให้ตามที่โดมินิคต้องการ

          โดมินิคลืมตาขึ้นมอง พลางถามแซมคนสนิททันที

“ตอนเดินเข้ามาเห็น ผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้างนอกหรือเปล่าละ”

          “...ไม่เห็นมีใครนี่ครับ”

          “ฉิบ...” เสียงสบถดังรอดไรฟัน สีหน้าโดมินิคบึ้งตึงกว่าเก่า อาการปวดหัวก่อนหน้านี้หายเป็นปลิดทิ้ง เขาปวดข้างขมับ จนต้องรีบยกมือขึ้นคลึงไปมา

“แซม ผู้หญิงที่เข้ามาในห้องฉัน หล่อนทำงานอะไร ...อยู่ที่ไหน... กับใคร...” แซมขมวดคิ้วสีหน้างุนงงกับคำถามของเจ้านาย ที่ถามออกมารัวเร็วฟังแทบไม่ทัน เลยจำเป็นต้องถามย้ำกลับไป

“ผู้หญิงที่ไหนครับ?”

          “ก็คนเมื่อกี้ไง คนที่อยู่ในห้องก่อนหน้านี้น่ะ”

“อ๋อ ...เธอเป็นแม่บ้านที่นี่ครับ”

“เธอฟังภาษาอังกฤษออกไหม...”

“น่าจะได้ครับ ผมก็พูดภาษาอังกฤษกับเธอนี่ครับ”

“แล้วทำไมเธอไม่ยอมอยู่วะ” เขาบ่นพึมพำ หลังฟังคำตอบของแซมจนจบ

“อะไรนะครับ”

แซมย้อนถามออกไป สีหน้ามึนๆ กับคำสั่ง แล้วก็รีบสังเกตอาการของเจ้านาย ก่อนจะเดินไปรินน้ำสะอาดใส่แก้ว พร้อมกับเดินมายื่นแก้วน้ำกับยาที่เตรียมไว้ให้แก่โดมินิค

“ยา... ครับ”

โดมินิครับยาแก้ปวดมาโยนเข้าปาก แล้วรีบดื่มน้ำตาม แล้วจึงหันไปกำชับแซมอีกครั้งหนึ่ง

“ข้อมูลทุกอย่างที่ฉันอยากรู้ เช้าฉันต้องได้รู้นะ และต้องรู้ทันทีที่ลืมตาตื่นด้วย”

เสียงปิดประตูดังปัง หลังจากที่โดมินิคเดินเข้าไปในห้องบ่งบอกอารมณ์ของเจ้าตัวเป็นอย่างดี

          “เห้อ…” แซมถอนหายใจ

“เธอไปทำอะไรให้เจ้านายโกรธนะสาวน้อย” แซมรำพึงออกมาอย่างห่วงใยสาวน้อยที่ดูหน้าตาไม่มีพิษมีภัย จากนั้นแซมก็โทรสั่งการ์ดอีกที พร้อมทั้งกำชับว่า

“ข้อมูลทุกอย่างเช้าต้องได้ทันทีที่เจ้านายตื่นนะ ไม่อย่างนั้นตายทุกคน”

          คำสั่งด่วน ปั่นป่วนบรรดาการ์ดไม่น้อย ให้ข้อมูลแม่บ้านคนหนึ่งตอนกลางคืน ไม่มีรายละเอียด เหมือนงมเข็มในมหาสมุทร รู้แค่ผู้หญิงตัวเล็กผมยาว แถมยังต้องการรู้ว่าเธออยู่ที่ไหนกับใคร ทำไมต้องถึงเร่งด่วนขนาดนั้น แต่ไม่มีใครกล้าถามกลับ พวกเขามองหน้ากัน แล้วก็แยกย้ายไปหาข้อมูล เพราะอีกไม่กี่ชั่วโมงก็เช้า และต้องรีบให้ทันเวลา เนื่องจากรู้ถึงความใจร้อนของโดมินิคดี

โดมินิคนอนพลิกไปพลิกมากลางเตียง แม้จะอ่อนเพลียเพราะว่าการเดินทางไกล แถมทันทีที่มาถึงเมืองไทยก็เจอเพื่อนสนิทจัดงานเซอร์ไพรส์รอไว้ชุดใหญ่ จึงเสียพลังงานในการดื่มเหล้าเคล้านารีไปมากโข

โดมินิค โดนาแวนในวัยสามสิบสองปี เขาประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน และเป็นที่กล่าวขวัญอย่างทั่วถึง เป็นคนหนุ่มมีวิสัยทัศน์ ฉลาดเฉียบคม ไหวพริบดี แก้ปัญหาเก่ง จนไม่มีสิ่งใดที่โดมินิคอยากได้แล้วจะไม่ได้ ทุกๆ สิ่งที่เขาต้องการมักจะมากองตรงหน้า แม้ต้องใช้เล่ห์เหลี่ยมกลโกงมาก็ตาม

“ทำไมเธอไม่ยอมฉันวะ หรืออยากวโก่งค่าตัว... มีแต่คนต้องการฉัน...ให้ฟรีก็เยอะ ผู้หญิงทั่วโลกมีแต่คนอยากนอนกับฉันทั้งนั้น เธอเป็นใคร กล้าดียังไงถึงเดินหนีฉัน แถมยังกล้าปฏิเสธฉันอีก ถ้าฉันไม่ได้เธอมาครองไม่ต้องมาเรียกฉัน โดมินิค โดนาแวน ฉันต้องการสิ่งใดแล้วไม่เคยผิดหวังสักที เราจะได้เห็นดีกันแน่”

          โดมินิคครุ่นคิดถึงวิธีการที่จะทำให้สาวน้อยนิรนามที่ไม่รู้จักคนนั้น ยอมสยบอยู่ตรงหน้า เมื่อคิดแผนการจัดการได้พอให้อารมณ์เย็นขึ้นมาบ้าง เขาจึงสามารถข่มตาหลับลง โดยไม่รู้ตัวเลยว่าสาวน้อยวนเวียนอยู่ในห้วงความคิดเขาจนหลับ อย่างที่ยังไม่มีใครสามารถทำได้มาก่อน

          “อีตาเศรษฐีบ้า คนอะไรไม่รู้ เห็นคนเป็นสิ่งของ เอะอะก็จะใช้เงินซื้อ อีตาบ้าหน้าตาก็ดีไม่น่านิสัยเสียเลย คนบ้า...” วราพิชชาบ่นไปตลอดทางอยากอารมณ์เสีย เมื่อเดินหนีออกมาจากห้องโดมินิคพ้น เธอไม่รู้เลยว่าอนาคตตนที่จะถึงต้องพัวพันกับชายผู้นี้อย่างไรบ้าง

อ่านหนังสือเล่มนี้ต่อได้ฟรี
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทล่าสุด

  • จอมมารอ้างสิทธิรัก   บทที่32.ตอนพิเศษ 2

    บทที่32.ตอนพิเศษ 2“คุณปู่คร๊าฟๆ...เอวาอยากเล่นน้ำ แต่แดร็กกลัวว่าจะดูเอวาไม่ไหว คุณแม่กับแด๊ดยังไม่ตื่นคร๊าฟ คุณปู่ไปดูแดร็กแปบหนึ่งได้ไหมคร๊าฟ” พาสกรในวัยหกขวบส่งเสียงเจื้อยแจ้วนำมาก่อนล่วงหน้า ตั้งแต่ยังไม่ทันเห็นตัว “ว่ายังไงละ ตัวแสบอ้อนจะเอาอะไรอีก แล้วทิ้งน้องไว้ไหนกันละ” เดวิดถามเมื่อหลานชายปรากฏตัวให้เห็น “เอวาอยากเล่นน้ำทะเลนะคร๊าฟ แต่แดร็กจับน้องไม่ไหว กลัวน้องจม พี่สำเรียงเลยให้แดร็กมาตามผู้ใหญ่ไปดูด้วยคร๊าฟ ”เด็กชายจีบปากจีบคอพูดคำพูดบอกกับคุณปู่ผู้สูงวัย “อ๋อ... เอวาจะเล่นน้ำ แล้วพ่อกับแม่เราไปไหนหมดละ เราถึงอยู่กับสำเรียง” “แดร็กไปดูที่ห้องนอน แล้วประตูปิดเคาะเรียกก็ไม่ยอมเปิด สงสัยแด๊ดกับแม่ยังหลับอยู่แดร็กก็เลยมาหาคุณปู่คร๊าฟ”&nb

  • จอมมารอ้างสิทธิรัก   บทที่31.ตอนพิเศษ1

    บทที่31.ตอนพิเศษ1นับตั้งแต่วราพิชชาท้องลูกคนที่สองก็ดูเปล่งปลั่งมีน้ำมีนวล จนโดมินิคไม่ยอมห่างไปไหน วนเวียนอยู่ใกล้ๆ รวมทั้ง ไม่มีอาการแพ้ท้องเหมือนตอนตั้งท้องน้องบาส นิสัยก็เปลี่ยนไปขี้อ้อน ขี้ใจน้อยจนโดมินิคหัวหมุนไปหมด แม้จะยังทำงานอยู่แต่ก็เป็นเพียงที่ปรึกษา อาจจะเข้ารวมประชุมในบางครั้งที่ปัญาหามันใหญ่จริงๆ วราพิชชาซึ่งชื่นชอบทะเลเป็นพิเศษ โดมินิคจึงดูลู่ทางเพื่อทำธุรกิจเป็นของตัวเอง วางโครงการว่าจะทำรีสอร์ทชายทะเลเล็กๆ สักที่หนึ่ง จึงมัววุ่นวายอยู่กับการเตรียมเอกสารและหาทำเล จนทำให้ละเลยไม่ค่อยเข้าไปคลุกคลีกับวราพิชชา จึงเป็นสาเหตุให้วราพิชชาอดน้อยใจไม่ได้ เธอมักจะแอบไปนั่งร้องไห้คนเดียวบ่อยๆ แพรไหมสังเกตเห็นว่าวราพิชชาจะสดใสร่าเริงเวลาอยู่ต่อหน้าทุกๆ คนแต่มักจะแอบไปนั่งเงียบๆ คนเดียว จึงคิดว่าจะต้องตักเตือนโดมินิคให้รู้ตัวก่อนว่าคนท้องต้องได้รับการดูแลเอาใจใส่มากขึ้นกว่าเดิม เพราะมักจะคิดเองเออเอง ธรรมดาวราพิชชาก็อยู่ในจำพวกคิดมากอยู่แล้ว&nb

  • จอมมารอ้างสิทธิรัก   บทที่30.งานวิวาห์ของโดมินิค-วราพิชชา

    บทที่30.งานวิวาห์ของโดมินิค-วราพิชชาพิธีการแบบไทยๆ จัดขึ้นในเวลาเช้าตรู่ที่สถานเลี้ยงเด็ก ’อุ้มรัก’ ตามคำขอของวราพิชชาโดยมีการรดน้ำสังข์ตามประเพณีไทยดั่งเดิม วราพิชชาดูงดงามในชุดไทยประยุกค์แขนยาว ปกปิดจนมิดตามที่โดมินิคต้องการเหมือนกัน โดมินิคอยู่ในชุดไทยโบราณ “ราชประแตน” เสื้อแขนยาวสีขาวกระดุมสีทองดูโดดเด่น โจงกระแบนสีแดงมะปรางส่งให้เขาดูสง่าสมชาชาตรี หน้าตายิ้มแย้มพร้อมขบวนขันหมากเยียดยาวที่ตั้งรออยู่ด้านนอก โดมินิคเดินนำหน้าเดวิดและแพรไหมเข้ามาด้านใน ปล่อยให้ขบวนขันหมากที่ถูกจัดเตรียมไว้รออยู่ด้านนอก เมื่อถึงเวลาค่อยเข้ามาตามประเพณี เสียงเพลงที่เปิดไว้ดังจากลำโพงแผ่วๆ พาให้บรรยากาศในงานรื่นรม ผอ.ชลธิชาและสามารถ เพียงใจที่เป็นผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงเดินเข้ามาต้อนรับ เมื่อโดมินิคพาเดวิดและแพรไหมเข้ามา ข้าวปลาอาหารถูกจัดเตรียมไว้เพื่อรอให้โดมินิคและวราพิชชาได้ถวายให้พระสงค์ร่วมกันเป็นการเริ่มต้นชีวิตคู่ร่วมกันตามประเพณีไทย “วราจับทัพพีเหนือมือคุณโดมินิคนะ... แม่บอกมา” เสียงน

  • จอมมารอ้างสิทธิรัก   บทที่29.ผิดไปแล้วดีกันนะ

    บทที่29.ผิดไปแล้วดีกันนะเมื่อเคลียร์ปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งหมดได้ โดมินิคเดินทางกลับมายังประเทศไทยด้วยความร้อนใจ ป่านนี้วราพิชชาจะเป็นอย่างไรบ้าง รับรู้และเข้าใจเขามากเพียงใด โดมินิคและเดวิดลงจากรถยนต์ที่ทางสนามบินจัดไว้ให้ เมื่อมาถึงยังท่าอากาศยานสุวรรณภมิ เขาเปิดประตูรั้วหน้าบ้านเดินเข้าไปภายใน เวลาที่มาถึงยังเช้าอยู่ และทุกคนอาจจะยังไม่ตื่น สำเรียงชะโงกหน้าออกมามองเมื่อได้ยินเสียงรั้วที่ดังขึ้น ก่อนจะสะบัดหน้าหนี เมื่อเห็นว่าเป็นใครเดินเข้ามา ในแววตาแสดงออกมาชัดเจนถึงความไม่พอใจจนโดมินิคใจเสีย ขนาดคนที่เป็นพี่เลี้ยงลูกเขา ยังไม่พอใจขนาดนี้ วราพิชชาจะแสดงอาการอย่างไรบ้าง เขาหยุดเดินสูดลมหายใจเข้าปอดแรงๆ หันมามองแด๊ดอย่างขอความเห็นใจ เดวิส่ายหน้าแล้วพูดขึ้นท่ามกลางความเงียบ “ทำใจดีๆ ไว้มันอาจจะไม่ร้ายแรงขนาดนั้นก็ได้ แด๊ดว่าเข้าไปพิสูจน์กันเลยดีกว่า” เดวิดพู

  • จอมมารอ้างสิทธิรัก   บทที่28.จบปัญหาซะทีอยากกลับบ้าน (คิดถึงลูก)

    บทที่28.จบปัญหาซะทีอยากกลับบ้าน (คิดถึงลูก)เมื่อตกลงกับญาติทุกคนได้ ก็เหลือแต่การเจรจากับทอมสันและลิซ่า จากนั้นโดมินิคจะกลับบ้านเพื่ออธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดกับวราพิชชา แม่ส่งข่าวมาเมื่อไปถึงเมืองไทยว่าวราพิชชายอมฟังที่แม่อธิบายทั้งหมดโดยดีแต่ขอตัดสินใจอีกที โดมินิคเชื่อว่าเขาสามารถอธิบายเหตุผลทั้งหมดได้ และวราพิชชาคงจะให้อภัย แต่ข่าวที่แม่บอกมาทางโทรศัพท์แทบจะทำให้เขาถลากลับบ้านซะตั้งแต่ตอนนี้เลย คราวนี้ละโดมินิคสัญญากับตัวเองว่าจะต้องดูแลวราพิชชาจนกว่าจะคลอดลูกเลยเชียว เมื่อบอกแด๊ดว่าวราพิชชาตั้งครรภ์ได้สี่สัปดาห์แล้วแด๊ดยิ้มไม่หยุด ท่านเตรียมการที่จะไปคุยกับทอมสันให้รู้เรื่อง คุณปู่ป้ายแดงกับคุณพ่อลูกสองตกลงใจว่าต้องจัดการให้เสร็จภายในเวลาไม่นาน อีกทั้งโดมินิคยังไม่ได้จดทะเบียนสมรสกับลิซ่าเรื่องมันก็น่าจะง่ายขึ้น โดมินิคเดินทางมายังบ้านพักของทอมสัน หลังจากนัดหมายเจ

  • จอมมารอ้างสิทธิรัก   บทที่27.ข้อเสนอของภรรยาอีกคนหนึ่ง(ทำอย่างไรดี)

    บทที่27.ข้อเสนอของภรรยาอีกคนหนึ่ง(ทำอย่างไรดี)โดมินิครู้สึกรุ่มร้อนไปทั้งร่างกาย ข่าวที่หลุดลอดออกไปจากการปล่อยข่าวของครอบครัวของทอมสัน เขาและแด๊ดโดนทอมสันหลอกมาตลอดว่าลิซ่าป่วยเป็นโรคร้าย ทั้งที่ลิซ่าแค่ร่างกายอ่อนแอ หลังจากที่โดมินิคเข้าพิธีแต่งงานตามคำขอของแด๊ด ข่าวหลุดออกไปหลังจัดงานไม่กี่ชั่วโมง ทำให้โดมินิควุ่นวายกับการปิดข่าวที่หลุดออกไป ความหวังดีที่มีให้ส่งผลกระทบตามมาอย่างมากมาย โดมินิคห่วงแค่ความรู้สึกของวราพิชชาเท่านั้น ถ้าวราพิชชารู้ข่าวจะเกิดอะไรขึ้น โดมินิคไม่อยากจะคิดเพิ่งจะคืนดีกันได้ไม่เท่าไร ก็เจอกับปัญหาอีกแล้ว โดมินิคและแด๊ดปรึกษากันอย่างเข้มข้น แด๊ดเสนอให้แพรไหมเดินทางกลับไปยังประเทศไทยเพื่ออธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับวราพิชชาก่อน โดมินิคเห็นด้วยกับความคิดนี้ ทอมสันขู่ว่าจะถอนหุ้นออกไปถ้าโดมินิคทอดทิ้งลิซ่า ทำให้เขาและบิดาจึงต้องนัดบรรดาญาติ และผู้ถือหุ้นมาประชุมร่วมกัน เพื่อเสนอแนวทางแก้ไข เห็นแก่ความเป็นเ

บทอื่นๆ
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status