เปรี้ยง——! ! ! หลี่ชิงเฟิงโรยตัวลงมาด้วยความว่องไวสุดขีด! ราวกับดาวตกที่ชักนำให้เกิดภาพตามติดขึ้นกลางอากาศ! ในที่สุดเมื่อเขาร่อนลงสู่พื้นแล้ว พื้นซีเมนต์ที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าของเขาก็พลันแตกเป็นเสี่ยง ๆ! เศษหินร่วงกราวไปทั่วทุกหนแห่ง! ชวนให้ผู้สัญจรไปมาถึงกับกรีดร้อง! ชั่วเสี้ยววินาทีสุดท้ายที่หลี่ชิงเฟิงมาถึง! เขาก็เอื้อมมือไปคว้าตัวเซี่ยเซียนอินแล้วกอดเธอเอาไว้แน่น ตอนนี้เซี่ยเซียนอินที่หายใจรวยริน หลงเหลือสติสัมปชัญญะเพียงราง ๆ คนที่เธอเห็นอยู่ตรงหน้าคือหลี่ชิงเฟิงจริง ๆ ใช่ไหม? ในช่วงเวลานั้น เธอก็ยิ้มออกมา... ว่ากันว่าคนเราจะได้เห็นคนที่พวกเขาคิดถึงมากที่สุดก่อนตาย ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องจริงเสียด้วย ถึงแม้ว่าจะเป็นภาพลวงตา ฉันก็มีความสุขเหลือเกินที่ได้พบผู้ชายคนนี้อีกครั้ง ต่อให้เขาจะตายไปแล้วก็เถอะ... "ชิงเฟิง..." "ถ้าเป็นเรื่องจริงก็คงจะดี...." หลี่ชิงเฟิงดวงตาแดงก่ำ เขาไม่นึกเลยว่าตนเองจะได้กลับมาพบกับผู้หญิงที่ตรึงติดอยู่ในใจมานานถึงหกปีภายใต้สถานการณ์เช่นนั้น... "เซียนอิน เป็นผมจริง ๆ! ผมกลับมาแล้ว!" ทว่าเซี่ยเซียนอินกลับไม่ได้ยินคำพูดประโยคนี้ เพราะหล
ต้าหู่สติพร่าเลือนนับครั้งไม่ถ้วน หลังจากร่วงตกลงมาก็ทำให้แขนของเขาบิดเบี้ยวผิดรูปจนเขาอยากจะตายเสียให้พ้น ๆ ไป แต่เจ้าคนที่ราวกับปีศาจมารร้ายผู้นั้นกลับไม่ยอมปล่อยเขาไป! หลี่ชิงเฟิงเหลือบมองเขาแล้วค่อย ๆ เอ่ยขึ้นมาว่า "ปลุกให้มันตื่น" เย่เซียวผงกศีรษะแล้วหยิบเข็มออกมาจากกระเป๋าคาดเอว ข้างในเป็นยาสูตรลับของอสูรรัตติกาล การต่อสู้ในสนามรบแถบโพ้นทะเลตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทำให้นักรบของอสูรรัตติกาลทุกคนจะต้องเตรียมของพวกนี้เพื่อใช้สู้ตายกับศัตรูในสถานการณ์เข้าตาจน! เมื่อแทงเข็มเล่มนี้ลงไป! ต้าหู่ก็ฟื้นตื่นขึ้นมา! เขาสูดหายใจลึก ๆ พร้อมอ้าปากกว้าง! ดวงตากลัดเลือดกลับถูกปลุกกระตุ้นจนถึงขีดสุด! ยาสูตรลับตำรับนี้สามารถกระตุ้นพลกำลังของคนได้! ต่อให้เป็นคนใกล้จะตายที่เหลือเพียงลมหายใจเฮือกสุดท้ายก็ยังสามารถเคลื่อนไหวได้ตามปกติอยู่ได้ทั้งวัน! พูดง่าย ๆ ก็คือต้าหู่จะไม่ตายเดี๋ยวนี้ แต่เขาจะรู้สึกเจ็บปวด! นอกจากนั้นความเจ็บปวดเช่นนี้ก็จะขยายวงกว้างอีกหลายเท่าตัวเพราะเส้นประสาทถูกกระตุ้น! "พี่ใหญ่! ผมผิดไปแล้วจริง ๆ! ปล่อยผมไปเถอะนะ!" ต้าหู่ทั้งเจ็บปวดและตื่นตระหนก หลอดเลือดและเส้นประ
หลังจากชายชราพูดจบก็หยิบไม้เท้าขึ้นมาจากเล้าหมูแล้วถีบประตูรั้วให้เปิดอีกครั้ง โต้วโต่วที่กำลังนอนอยู่บนลอมฟางรู้สึกหวาดกลัวมากเสียจนร่างเล็ก ๆ สั่นสะท้านและดวงตาเบิกกว้าง นั่นมันแววตาแบบไหนกัน! ม่านตาดำสนิทเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและอับจนหนทางที่ไม่ควรจะเป็นของเด็กในวัยนี้เลย! หลี่ชิงเฟิงรู้สึกใจสั่นระรัว เขาค่อย ๆ หลับตาลง เมื่อเขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบแห้งชวนให้หายใจไม่ออกขึ้นมาอีกครั้งว่า "เย่เซียว นายคิดว่าทุกอย่างที่ฉันทำมาตลอดหลายปีที่ผ่านมาคุ้มค่าหรือเปล่า?" เย่เซียวตัวสั่นสะท้านรุนแรง ตลอดห้าปีที่ผ่านมา เขาคอยติดตาม "จอมราชันย์" และตกอยู่ในอันตรายมาหลายครั้งหลายครา แต่เขาไม่เคยได้ยิน "จอมราชันย์" เกิดความกังขาหรือยอมแพ้ให้กับตัวเองเลยสักครั้ง ทว่ายามนี้! "จอมราชันย์" กลับเริ่มตั้งคำถามกับตนเองเพราะไอ้พวกมดปลวกเช่นนี้! อย่างไรเสียเขาก็เข้าใจความรู้สึกของ "จอมราชันย์" ในตอนนี้ดี ในขณะที่ "จอมราชันย์" ต้องเสี่ยงเป็นเสี่ยงตายเพื่อปกป้องประเทศให้มั่นคงและปกป้องผู้คนให้ได้มีชีวิตอยู่กันอย่างสงบสันติ ลูกเมียของเขากลับต้องทนทุกข์ทรมานอยู่เบื้องหลัง! ต้องถูกเรียกว่าห
อีกสองชั่วโมงให้หลัง ภายในห้องส่วนตัวของภัตตาคารแถวหน้า สวีอู่ที่สวมใส่ชุดลำลองบุรุษแบบยุคสาธารณรัฐยิ้มพลางยกแก้วไวน์ขึ้นหมายจะดื่มอย่างสุขสันต์ ทันใดนั้นก็มีเสียงฟ้าร้องดังอยู่ข้างนอกซึ่งทำให้เขาสะดุ้งตกใจแล้วเอ่ยเสียงเบาขึ้นมาว่า "นี่มันสภาพอากาศบ้าบออะไรกัน? ทำไมถึงได้มีฟ้าร้องได้ล่ะ?" คนที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับเขาเป็นหญิงสาวผู้งดงามอ่อนเยาว์ ทว่าตรงหว่างคิ้วกลับแฝงเจตนาร้ายอยู่บ้าง "นายท่านอู่! คราวนี้คุณช่วยตระกูลเซี่ยของพวกเราเอาไว้ได้เยอะเลย! คุณย่ามีความสุขมากเชียวล่ะ! ฉันขอดื่มอวยพรให้คุณในนามของท่านเองค่ะ!" หลังจากหญิงสาวพูดจบ เธอก็ดื่มไวน์แดงไปแก้วหนึ่งด้วยความสบายอกสบายใจ สวีอู่ยิ้มพลางกล่าวว่า "เซี่ยอิ่ง คุณพูดจารื่นหูจริง ๆ มิน่าล่ะนายหญิงผู้เฒ่าแห่งตระกูลเซี่ยถึงได้รักคุณมาก ไม่ใช่เซี่ยเซียนอินคนนั้น" เซี่ยอิ่งหัวเราะเยาะ "นายท่านอู่ คุณเอาฉันไปเปรียบเทียบกับนังคนขี้แพ้นั่นได้ยังไงกัน? ว่าแต่ว่าพอเอ่ยถึงนังคนขี้แพ้นั่นแล้ว หล่อนเป็นยังไงบ้างล่ะ?" สวีอู่ยิ้มพลางกล่าวว่า "อย่าห่วงไปเลย ตระกูลเซี่ยของคุณให้เงินผมมาตั้งเยอะขนาดนั้น ตลอดหกปีที่ผ่านมานี้ผมก็เลยทำใ
ในเวลาไม่ถึงชั่วโมง น้องชายของสวีอู่ก็ตายซึ่งมันทำให้เขารู้สึกโกรธแค้น ข่าวแพร่สะพัดไปทั่วทั้งเมืองเซี่ยชวนรวมไปถึงมณฑลทั้งสาม! โลกใต้ดินแห่งมณฑลทั้งสามราวกับเกิดแผ่นดินไหวไปชั่วขณะ! กองกำลังชุดเทาที่ได้ระดมพลเอาไว้เกือบหมดแล้วมุ่งหน้าสู่เมืองเซี่ยชวน! ยามดึกดื่นเที่ยงคืน ณ บ้านของหัวหน้าทีมหลิวประจำหน่วยลาดตระเวนเมืองเซี่ยชวน กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง! เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นอย่างต่อเนื่องปลุกให้เขาตื่นจากหลับใหล หัวหน้าทีมหลิวรับสายอย่างหมดความอดทน "มีเรื่องอะไร!" "หัวหน้าทีมหลิว... เกิดเรื่องแล้วครับ! ผมไม่รู้ว่าใครมันตาไร้แววฆ่าน้องชายของสวีอู่ตาย! ผมได้ยินมาว่าตายอนาถเชียวล่ะ แถมยังได้ยินเสียงแผดร้องดังไปทั่วทั้งย่านอีกต่างหาก!" ศีรษะของหัวหน้าทีมหลิวส่งเสียงอื้ออึง! เขาหายง่วงเป็นปลิดทิ้งขึ้นมาทันที! เขากระโดดผลุงจากเตียงลงสู่พื้นทันที จากนั้นก็ดวงตาเบิกกว้างแล้วถามว่า "เกิดเรื่องอะไรขึ้น? ใครมันเป็นคนทำ! รนหาที่ตายแล้วใช่ไหม?" "ผมก็ไม่รู้หรอกครับ! ในมณฑลทั้งสามยังจะมีใครกล้าแตะต้องน้องชายของเขาอีก ผมล่ะสงสัยจริง ๆ เชียว!" "ใครมันจะไม่รู้บ้างว่าสมัยก่อนต้าหู่ผู้เป
ในขณะเดียวกัน ณ ตระกูลเซี่ย เมื่อเซี่ยอิ่งกลับมาถึงบ้าน เซี่ยเทาพ่อของเธอก็รีบเข้าไปต้อนรับแล้วถามพร้อมยิ้มให้ว่า "เป็นยังไงบ้างลูกรักของพ่อ? นายท่านอู่ตอบรับโครงการของพวกเราหรือเปล่า?" เซี่ยอิ่งยิ้มด้วยความทะนงตน "แหงอยู่แล้วค่ะ! ลูกสาวพ่อเป็นใครกันเล่า? พวกเราต้องเจรจากันได้อยู่แล้ว! นอกเหนือไปจากนั้นไม่ใช่แค่โครงการนี้เท่านั้น แต่ภายภาคหน้าทุกโครงการที่อยู่ในมือของนายท่านอู่ก็อาจจะมอบให้พวกเราด้วย!" เมื่อเซี่ยเทาได้ยินเช่นนี้ก็ตกตะลึง ดวงตาของเขาฉายแววตื่นเต้นแล้วรีบดึงแขนลูกสาวของตัวเอง "เข้ามาเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้คุณย่าของลูกฟังสิ!" ในห้องหนังสือบนชั้นสอง หญิงชราผมขาวที่แลดูมีอายุราว ๆ เจ็ดสิบกว่าปีกำลังนั่งเก้าอี้โยกพลางถือหนังสือพิมพ์แล้วค่อย ๆ อ่าน คนผู้นี้คือนายหญิงผู้เฒ่าแห่งตระกูลเซี่ย คุณย่าของเซี่ยอิ่ง เมื่อประตูเปิดออก เซี่ยเทาก็เดินเข้ามาพร้อมกับเซี่ยอิ่ง "แม่ครับ! มีเรื่องดีเกิดขึ้นด้วยล่ะ!" นายหญิงผู้เฒ่าวางหนังสือพิมพ์แล้วถอดแว่นอ่านหนังสือ จากนั้นก็มองเซี่ยอิ่งที่กำลังเดินเข้ามาด้วยสีหน้าอิ่มอกอิ่มใจแล้วรีบเอ่ยถามขึ้นมาว่า "มีอะไรงั้นเหรอ?" เซี่ยอิ
คิ้วตาของเซี่ยอิ่งเต็มไปด้วยแววเบิกบานใจ จากนั้นเธอก็จูงโต้วโต่วออกไป แต่ขณะที่เซี่ยอิ่งกำลังจะพาเธอไป ประตูก็พลันถูกผลักให้เปิดออก! ในตอนนั้นเอง! เซี่ยอิ่งใจเต้นโลด! เส้นประสาทเองก็เครียดเขม็งเช่นกัน! เธอนึกว่าหลี่ชิงเฟิงมาเสียอีก แต่กลับกลายเป็นชายอีกคนหนึ่งแทน ชายร่างสูงชะลูดคนนี้สวมชุดเครื่องแบบทหาร! เขามีท่าทางไม่ธรรมดาสามัญเลยสักนิด! เป็นนายพลอาวุโสหม่าคุนนั่นเอง! วันนี้เขาได้ยินมาว่าลูกสาวของจอมอสูรกำลังพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ดังนั้นเขาจึงนำอาหารเสริมมาด้วย เดิมทีเขาคิดจะเอามามอบให้แก่หลี่ชิงเฟิง แต่กลับพบเซี่ยอิ่งเข้าโดยบังเอิญแทนเสียได้ เมื่อเห็นว่าเธอเป็นคนพาโต้วโต่วออกมา เขาก็ตื่นตัวขึ้นมาทันที "คุณเป็นใครกัน? คุณไม่ใช่แม่ของเด็กคนนี้นี่นา!" เขาไม่รู้จักเซี่ยอิ่ง แต่เซี่ยอิ่งรู้จักเขา! นี่คือคนใหญ่คนโตที่มักจะปรากฎตัวในโทรทัศน์อยู่เป็นประจำ! เซี่ยอิ่งแข้งขาไร้เรี่ยวแรงและปากคอแห้งผาก จู่ ๆ เธอก็นึกขึ้นได้ว่านายท่านอู่เคยบอกว่านายพลอาวุโสมารักษาอาการเจ็บป่วยของตนเองที่โรงพยาบาล หรือว่าจะเป็นหม่าคุน? ! นี่คือมหาเทพองค์หนึ่ง! อย่าว่าแต่ได้พูดคุยด้วยเลย
ในขณะเดียวกัน ประตูคฤหาสน์ก็เปิดออกโดยมีสวีอู่ยืนอยู่ตรงประตูด้วยสีหน้าหม่นคล้ำ ดวงตากลัดเลือดและมีแววอาฆาตแค้น! แต่กลับให้ความรู้สึกซูบซีดอิดโรยมากกว่า... สี่ราชันย์สวรรค์ยืนอยู่ตรงหน้าเขาแล้ว เมื่อเห็นพี่ใหญ่ของพวกเขาเป็นเช่นนี้ ก็ทำให้โทสะในใจของทั้งสี่คนเริ่มที่จะค่อย ๆ ปะทุขึ้นมา... ขวางเสออดไม่ได้ที่จะถามว่า "นายท่านอู่! ไอ้หมอนั่นมันมาจากที่ไหนกัน!" สวีอู่ยังคงมีสีหน้าหม่นคล้ำและน้ำเสียงแหบแห้งอยู่บ้าง "อย่าห่วงไปเลย พวกเรามากันครบแล้วใช่ไหม? เข้ามาสิ ฉันอยากให้พวกนายรู้อะไรบางอย่าง!" หลังจากสวีอู่พูดจบก็หันหลังเดินกลับไป สี่ราชันย์สวรรค์พร้อมบรรดาพี่น้องของพวกเขาจึงเดินตามเข้าไปในบ้านด้วย มีบรรยากาศชวนให้อึดอัดจนถึงขีดสุดในคฤหาสน์ขนาดใหญ่! ทุกคนต่างรู้สึกไม่สบายใจเอาเสียเลย พวกเขาติดตามสวีอู่มาหลายปี ยังมีเหตุการณ์อะไรที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อนบ้างล่ะ? แต่ก็ไม่เคยเห็นสวีอู่เป็นแบบนี้มาก่อน! เขาโกรธจัด! เมื่อสวีอู่มาถึงห้องโถงแล้ว เขาก็หันกลับมานั่งเก้าอี้พลางค่อย ๆ หลับตาลงแล้วสูดหายใจลึก ๆ จากนั้นก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า "เฮยหลาง พาตัวมันมาทีสิ" "รับทรา