Share

บทที่ 2

Author: อู๋ซิน
ก่อนที่โต้วโต่วจะทันได้พูดให้จบ จู่ ๆ เธอก็ขมวดคิ้วและรอยยิ้มก็เลือนหายไปจากใบหน้า! ดูเหมือนว่าจะอึดอัดมากทีเดียว...

เมื่อเซี่ยเซียนอินเห็นเช่นนี้เข้า เธอก็รีบลูบหลังลูกสาวของเธอแล้วเอ่ยเสียงเบาว่า "โต้วโต่ว? เป็นอะไรงั้นเหรอ?"

"แม่คะ หนู...แค่ก แค่ก แค่ก! แม่..."

"แม่คะ หนูรู้สึกอึดอัดจังเลย แค่ก..."

โต้วโต่วอาการทุเลาลงได้ชั่วอึดใจ แต่อีกไม่กี่วินาทีต่อมาก็เริ่มไอเสียงดังพลางอ้าปากหายใจหอบและใบหน้าเหยเก! ราวกับว่าหายใจไม่ออก!

หมั่นโถวที่อยู่ในมือของเธอตกลงพื้น

เซี่ยเซียนอินใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มทันที!

ตอนที่โต้วโต่วเกิดมา หมอบอกว่าเด็กเป็นโรคหอบหืดขั้นรุนแรง! ต้องเข้ารับการผ่าตัดโดยเร็วที่สุด!

ทว่ายามนั้นเธอถูกขับไล่ออกจากตระกูลเซี่ย มิหนำซ้ำยังขาดการติดต่อกับพ่อแม่ของตัวเองจนต้องออกจากบ้านไป

แถมเธอยังมีเงินในมือไม่พอที่จะผ่าตัดโต้วโต่ว ดังนั้นจึงได้แต่ใช้ยารักษาไปตามอาการ

แต่ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมานี้ เธอไม่มีเงินพอที่จะซื้อยาเลย...

โต้วโต่วอาศัยอยู่ในเล้าหมูที่มีอากาศไม่ถ่ายเทและมีกลิ่นเหม็น อาการหอบหืดของเธอจะไม่กำเริบได้ยังไงกัน?

โต้วโต่ว แม่ขอโทษ เป็นความผิดของแม่เอง!

เซี่ยเซียนอินดวงตาแดงก่ำด้วยความตื่นตระหนก แต่เธอไม่มีทางเลือกนอกจากใช้วิธีเดิม เธอกอดโต้วโต่วเอาไว้ในอ้อมแขนพร้องส่งเสียงครางเครือปนสะอื้น "โต้วโต่วเด็กดี นอนเสียนะ พอตื่นขึ้นมาพ่อก็จะมารับพวกเราแล้ว นอนเถิด...นอนได้แล้ว..."

ทุกครั้งที่โต้วโต่วไม่สบาย เธอก็จะใช้วิธีนี้ ดูเหมือนคำว่า "พ่อ" จะมีพลังวิเศษบางอย่าง หลังจากโต้วโต่วได้ยินเข้า เธอก็อารมณ์เย็นลงมากแล้วผล็อยหลับไปในอ้อมแขนของเซี่ยเซียนอิน...

...

หลังจากนั้นไม่กี่นาที อาการหายใจหอบของโต้วโต่วก็ทุเลาลงมากพลางค่อย ๆ หลับตาลงและค่อย ๆ หายใจได้สม่ำเสมอ...

เมื่อเห็นโต้วโต่วหลับไปแล้ว เซี่ยเซียนอินก็เอามือปิดปากและฝืนทนไม่ให้ร้องไห้ออกมา...

เธอตัวสั่นสะท้านพลางกรีดร้องอยู่ในใจ

พระเจ้า! ทำไมท่านถึงได้ทำกับพวกเราแบบนี้!

โต้วโต่วเป็นแค่เด็กคนหนึ่งเท่านั้น! ทำไมถึงไม่ให้เธอเติบโตขึ้นมาอย่างแข็งแรงและมีความสุขเล่า!

ถ้ามีความโชคร้ายใด ก็ได้โปรดมาลงที่ลูกเถอะ!

ลูกไม่กลัวตายหรอก! ลูกเพียงขอร้องท่านอย่าได้ทำให้โต้วโต่วต้องทรมานมากไปกว่านี้เลย!

แต่ดูเหมือนว่าพระเจ้าจะไม่ได้ยินคำอ้อนวอนของเธอ เพราะจู่ ๆ ประตูเล้าหมูก็ถูกถีบให้เปิดออกแล้วชายชราคนเมื่อสักครู่นี้ก็มายืนอยู่ตรงหน้าเซี่ยเซียนอิน

เมื่อเซี่ยเซียนอินเห็นเขา เธอก็ออกตัวกันโต้วโต่วเอาไว้ข้างหลังโดยไม่รู้ตัวและมองเขาด้วยสายตาหวาดระแวง

"ออกมาซะ ฉันมีเรื่องจะคุยกับหล่อน"

หลังจากชายชราพูดจบ เขาก็หันหลังเดินออกไป

เซี่ยเซียนอินครุ่นคิดอยู่สักครู่พลางเหลือบมองโต้วโต่วที่กำลังนอนหลับอยู่ จากนั้นก็เปิดประตูแล้วเดินออกมา

ชายชราเป็นฝ่ายเรียกเซี่ยเซียนอินขึ้นมาก่อน เมื่อเซี่ยเซียนอินเดินเข้ามาในห้องก็เห็นเสื้อผ้าสตรีอยู่บนโต๊ะ

"อาบน้ำแล้วสวมเสื้อผ้าชุดนี้ซะ จากนั้นก็ไปที่นี่แล้วตามหาคนที่ชื่อพี่หู่ เขาติดหนี้ฉันอยู่สามหมื่นหยวน นี่คือหลักฐานการยืมเงิน ไปทวงกลับมาให้ฉันทีสิ"

ชายชรายิ้มพลางยื่นหลักฐานการยืมเงินในมือตนเองให้แก่เซี่ยเซียนอิน

เซี่ยเซียนอินรู้สึกตื่นตระหนกจึงเอ่ยเสียงแผ่วเบาขึ้นมาว่า "ให้ฉันไปทวงเหรอ?"

"ไร้สาระน่า! ไม่งั้นฉันจะเรียกหล่อนมาที่นี่ทำไมกันเล่า? นังเด็กไม่มีพ่อคนนั้นเป็นโรคหอบหืดและจำเป็นต้องผ่าตัดไม่ใช่รึไง? ถ้าหล่อนทวงเงินสามหมื่นหยวนกลับมาได้ ฉันก็จะให้เงินหล่อนไปผ่าตัด ว่ายังไงล่ะ?"

ทันทีที่เขาพูดจบ รอยยิ้มโฉดชั่วก็ผุดขึ้นบนใบหน้าของชายชรา

เซี่ยเซียนอินไม่ใช่คนโง่เขลา แน่นอนว่าเธอย่อมรู้ดีว่าใช่จะทวงเงินคืนมาได้ง่าย ๆ แต่ข้อเสนอของชายชราก็ทำให้เธอไม่อาจปฏิเสธได้

ขอเพียงเธอสามารถช่วยโต้วโต่วได้ ต่อให้ต้องตายเธอก็ไม่ลังเล!

"ตกลง ฉันให้สัญญากับคุณ"

ไม่นานเซี่ยเซียนอินก็เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วหันหลังเดินจากไป...

เมื่อชายชราเห็นเซี่ยเซียนอินเดินออกไปแล้วก็รีบควักโทรศัพท์มือถือออกมาต่อกดเลขหมาย จากนั้นเขาก็หัวเราะพลางกล่าวว่า "เถ้าแก่หวัง! ผมส่งหล่อนไปแล้วนะ เมื่อไรคุณจะส่งคนมารับตัวนังเด็กคนนี้สักทีล่ะ?"

"ได้! งั้นผมจะรอนะ! ได้ ได้! ขอบคุณครับ เถ้าแก่หวัง!"

ชายชราวางสายด้วยสีหน้าตื่นเต้น เขาหันไปมองดูเล้าหมูที่อยู่ตรงนั้นแล้วยิ้ม "นังเด็กไม่มีพ่อ อย่าโทษฉันเลยนะ ฉันเลี้ยงดูพวกแกแม่ลูกมาตั้งหลายปีแถมไม่ได้เงินสักแดง! การมอบแกให้เถ้าแก่หวังก็ถือว่าเป็นค่าชดเชยที่ฉันต้องสูญเสียไปตลอดเวลาที่ผ่านมาหลายปีก็แล้วกันนะ!"

ไม่ถึงห้านาทีก็มีรถตู้สีดำสนิทมาจอดอยู่ตรงประตูทางเข้าโรงงานเศษเหล็ก จากนั้นก็มีชายหนุ่มวัยยี่สิบกว่าปีสองคนลงมาจากรถ

"คนอยู่ที่ไหนล่ะ?" ชายหนุ่มผมสีเหลืองทองที่เดินนำหน้าถามชายชรา

"มันอยู่ในเล้าหมู! ผมจะพาคุณไปที่นั่นเอง" ชายชราแล้วนำทางให้

ชายหนุ่มถีบประตูเล้าหมูให้เปิดออก จากนั้นกลิ่นขี้หมูอันชวนสะอิดสะเอียนก็ปะทะใบหน้าของเขา!

"เหม็นชะมัดเลย!"

ชายหนุ่มหรี่ตามองและเห็นเด็กหญิงตัวน้อยกำลังนอนบนลอมฟาง เขาจึงยกยิ้มมุมปากแล้วเดินเข้าไปหา

โต้วโต่วก็ตื่นแล้วเช่นกัน เธอลืมตาขึ้นด้วยท่าทีงัวเงียและพบว่าแม่ของเธอไม่อยู่ตรงนั้นแล้ว แต่กลับมีชายคนหนึ่งมายืนอยู่ตรงหน้าเธอ

เธอไม่หวาดกลัว ทว่ากลับหัวเราะออกมา "คุณก็คือพ่อเหรอ? พ่อคะ พ่อมาที่นี่เพื่อรับหนูไปใช่ไหม?"

เธอคิดถึงพ่อมากเหลือเกิน เมื่อเธอเห็นชายแปลกหน้าคนนี้ เธอก็คิดไปเองว่าเป็นพ่อที่มารับเธอ...

ชายหนุ่มผมสีเหลืองทองยิ้มเยาะ "พ่อเหรอ? แม่หนูน้อยเลิกเพ้อฝันเถอะน่า! พ่อของหนูไม่มาหรอก ตามลุงไปดีกว่านะ"

"ลุงจะให้หนูดูอะไรสนุก ๆ เผื่อตอนที่ไปเกิดใหม่จะได้เจอพ่อเร็ว ๆ ยังไงล่ะ!"

ชายหนุ่มคว้ามือของโต้วโต่วแล้วลากเธอออกมา ทว่าต่อให้ต้องตาย โต้วโต่วก็ไม่ยอมจากไป!

"โต้วโต่วไม่ไป! โต้วโต่วต้องรอพ่อ! แม่บอกว่าพ่อจะมารับหนู! หนูต้องรอพ่อ!"

"แกเป็นคนเลว! โต้วโต่วไม่ไปกับแกหรอก!"

โต้วโต่วร้องตะโกนพลางกัดชายหนุ่มผมสีเหลืองทอง!

"โอ๊ย!! ไปตายซะ! นังเด็กไม่มีพ่อ!"

เมื่อชายหนุ่มผมสีเหลืองทองโดนกัดจนได้รับบาดเจ็บ เขาก็เตะโต้วโต่วเสียกระเด็น! เขาสบถเสียงดังลั่นว่า "บ้าฉิบ! ซ้อมมัน! ซ้อมจนกว่ามันจะยอมไป!"

ชายชรากับชายหนุ่มอีกคนหนึ่งม้วนแขนเสื้อแล้วพุ่งเข้าไปทั้งเตะทั้งต่อยโต้วโต่ว!

โต้วโต่วเป็นเด็กหญิงอายุเพียงห้าขวบปี เธอจะทนถูกผู้ใหญ่สองคนซ้อมได้อย่างไรกัน

เพียงชั่วพริบตาเดียว เธอก็เลือดท่วมตัวและใกล้จะตายอยู่รอมร่อ...

"พะ...พ่อจะต้องมารับโต้วโต่วแน่ ๆ"

"โต้วโต่วต้องรอพ่อ..."

ถึงโต้วโต่วจะไม่ได้สติ แต่เธอกลับเอาแต่นึกถึงพ่อของตัวเอง...

"เอาล่ะ ไม่ต้องซ้อมมันแล้ว! ขืนซ้อมมันจนตาย อวัยวะภายในของมันก็คงจะไม่สดใหม่อีกต่อไป! เอาตัวมันไปซะ!"

เปรี้ยง! !

ก่อนที่ชายหนุ่มผมสีเหลืองทองจะทันได้พูดจบ จู่ ๆ ก็มีฟ้าผ่าอยู่เหนือศีรษะของพวกเขา! ทำให้พวกเขาหวาดกลัวมากเสียจนแทบจะนั่งลงกับพื้น!

"ให้ตายสิวะ! นี่มันสภาพอากาศบ้าบออะไรกัน! ทำไมถึงได้มีฟ้าผ่าลงมาได้ล่ะ?"

ชายหนุ่มผมสีเหลืองทองสบถด่าระหว่างที่เดินออกมา แต่กลับพบว่าเมื่อเดินมาได้สักระยะหนึ่ง ด้านนอกกลับมืดครึ้มลมแรง! ฟ้าผ่าส่งเสียงดังต่อเนื่อง!

"เจอสภาพอากาศบ้า ๆ แบบนี้ พวกเราต้องเร่งมือกันแล้ว..."

ก่อนที่เขาจะทันได้พูดให้จบ ชายหนุ่มผมสีเหลืองทองพลันมองเห็นคนกลุ่มหนึ่งยืนอยู่บริเวณที่เขาจอดรถเอาไว้ตรงหน้าโรงงานเศษเหล็ก!

คนกลุ่มนี้ต่างสวมใส่เครื่องแบบทหารกันหมดทุกคน มิหนำซ้ำพวกเขายังเต็มเปี่ยมไปด้วยเจตนาร้ายอีกต่างหาก! ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างหน้ากำลังยืนเอามือไพล่หลังยิ่งทำให้แลดูน่าเกรงขามยิ่งขึ้น!

การที่คนพวกนี้มายืนอยู่ที่นี่ ช่างไม่เข้ากับสภาพแวดล้อมโดยรอบเอาเสียเลย!

ผู้ที่มาหาใช่ใครอื่นนอกเสียจากหลี่ชิงเฟิง!

หลี่ชิงเฟิงเหลือบมองไปที่โรงงานเศษเหล็ก ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวดังขึ้นมาจากตรงนั้นและปรากฎขึ้นต่อหน้าชายหนุ่มผมสีเหลืองทองทันที!

"พ่อคะ......"

ในเล้าหมู เสียงร้องเรียกของเด็กหญิงตัวน้อยดังออกมาจากเล้าหมู!

หลี่ชิงเฟิงถึงกับตัวสั่นสะท้าน เขาผลักชายหนุ่มผมสีเหลืองทองออกไปแล้วพุ่งตรงเข้าไปในเล้าหมู!

เขาเห็นว่าชายชรากับชายอีกคนหนึ่งกำลังลากขาของเด็กหญิงตัวน้อยออกมา...

ใบหน้าของเด็กหญิงตัวน้อยเต็มไปด้วยเลือดจนยากจะมองเห็นหน้าตา ทว่าก็สามารถบอกได้จากคิ้วตาของเธอที่ค่อนข้างคล้ายกับตนเอง!

พวกเรามีความสัมพันธ์ทางสายเลือดอันใกล้ชิดและสื่อใจกันได้!

หลี่ชิงเฟิงมั่นใจว่าเด็กหญิงคนนี้ก็คือลูกสาวของเขานั่นเอง!

"รนหาที่ตาย!!"

หลี่ชิงเฟิงพลันโกรธจัดขึ้นมาทันที! บังเกิดคลื่นยักษ์ขึ้นกลางฝ่ามือของเขา! เพียงแค่ลมจากฝ่ามือก็ซัดทั้งสองคนนี้จนกระเด็นออกไปหลายเมตร!

เพียงชั่วพริบตาเดียวเขาก็เห็นโต้วโต่วอยู่ตรงหน้า จากนั้นเขาก็อุ้มเธอเอาไว้ในอ้อมแขนแล้วใช้แขนเสื้อค่อย ๆ เช็ดเลือดบนใบหน้าของเธอ ตอนนี้น้ำตาที่เอ่อล้นขึ้นมาทำให้ดวงตาของเขาพร่าเลือน...

"โต้วโต่ว? ใช่โต้วโต่วหรือเปล่า? พ่อเองนะ..."

"พ่อเหรอคะ?"

เมื่อโต้วโต่วที่ไม่ได้สติแล้วได้ยินคำว่า "พ่อ" ก็ค่อย ๆ ลืมตาขึ้นแล้วมองหลี่ชิงเฟิง...

"พ่อบ้า....ในที่สุดพ่อก็มาสักที..."

หลี่ชิงเฟิงผงกศีรษะแล้วกลั้นน้ำตาเอาไว้ "พ่อขอโทษด้วย! พ่อมันสมควรตาย! พ่อมาช้าไป! พ่อขอโทษด้วยนะโต้วโต่ว!"

"พ่อคะ อย่าร้องไห้สิ..."

"ช่วยแม่ที..."

ทันทีที่โต้วโต่วพูดจบก็หมดสติไป เมื่อเห็นว่ามือบอบบางยังคงกำเสื้อผ้าของเขาไว้ หลี่ชิงเฟิงก็รู้สึกระทมทุกข์...

ตอนนั้นเองเขาถึงได้ตระหนักว่าท่อนแขนของโต้วโต่วที่เผยออกมาผอมแห้งจนน่ากลัว!

และเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำดำเขียวจนน่าตกใจ!

ศัตรูเคยเอามีดมาจ่อคอหอย เขาไม่เคยกลัวเลยสักนิด! ทว่ายามนี้เขากลัว! เขากลัวว่าหากมาช้ากว่านี้อีกสักหน่อย โต้วโต่วก็คงจะตายไปแล้ว!

เขานึกภาพไม่ออกเลย

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โต้วโต่วคงทุกข์ทรมานมากทีเดียว!

นี่คือลูกสาวของเขา!

เลือดเนื้อเชื้อไขของจอมอสูรผู้น่าเกรงขามในโลกใบนี้!

แต่กลับถูกรังแกจนเป็นเช่นนี้ไปเสียได้!

"อ๊าก!!"

หลี่ชิงเฟิงน้ำตาคลอเบ้าและโมโหจนตัวสั่น!

เมื่อค่อย ๆ เงยหน้ามองคนทั้งสอง เจตนาสังหารบนร่างก็แทบจะแช่แข็งอากาศได้อยู่แล้ว!

"พวกแก!"

"ตายเสียเถอะ!"

ทันทีที่สองคำนี้ออกมา คนในชุดเครื่องแบบหลายสิบคนที่อยู่ทางด้านหลังก็ร้องตะโกนด้วยแรงโทสะว่า "ตายเสียเถอะ!"

พลังกดดันราวกับดาบเล่มหนึ่งและเสียงสะท้านฟ้า!

ทำให้พวกเขาทั้งสองคนรู้สึกหวาดกลัวสุดขีด และสุดท้ายก็ต้องจบชีวิตลงด้วยการจู่โจมในหมัดเดียว

หลี่ชิงเฟิงไม่เหลือบแลพวกเขาสักนิด เขาอุ้มโต้วโต่วเอาไว้ในอ้อมแขนพลางเดินออกจากเล้าหมู "ใครก็ได้ พาลูกสาวของฉันไปโรงพยาบาลที!"

"เออ จริงสิ! ให้คนรีบไปตรวจสอบว่าเซี่ยเซียนอินไปที่ไหนด้วยล่ะ!!!"
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Mga Comments (1)
goodnovel comment avatar
Betty Taubata
change to English please
Tignan lahat ng Komento

Pinakabagong kabanata

  • จอมอสูรคลั่งอันดับหนึ่ง   บทที่ 286

    "พ่อไม่ไปนะ!" จู่ ๆ เซี่ยเทาก็แผดเสียงร้องพลางกระโดดข้ามโซฟาแล้ววิ่งไปที่ประตูหลัง! เจ้าหน้าที่ตำรวจสองนายตอบสนองว่องไว! เพียงก้าวเดียวก็ประชิดตัวพลางจับเขากดลงกับพื้นแล้วบังคับสวมกุญแจมือ สิบนาทีต่อมา ภายในห้องสอบสวน เสี่ยวอิ๋งนั่งหน้าเครียดอยู่ตรงนั้นพร้อมด้วยความคิดมากมาย ตำรวจที่อยู่ฝั่งตรงข้ามดูวิดีโอแล้วถามว่า "เท่าที่พวกเราทราบมา คนที่อยู่ในวิดีโอคือเซี่ยเทาพ่อของคุณ ตอนนี้เขาอยู่ห้องข้าง ๆ คุณจะอธิบายสิ่งที่เขาพูดว่ายังไงล่ะ?" เสี่ยวอิ๋งสูดลมหายใจลึก ๆ พลางผุดรอยยิ้มขึ้นบนใบหน้า "ฉันไม่รู้หรอกค่ะ ฉันไม่รู้จริง ๆ ว่าเขากำลังพูดถึงเรื่องอะไร ทำไมคุณถึงไม่ถามเขาเองล่ะคะ?" "แน่นอนว่าพวกเราย่อมต้องถามเขาอยู่แล้ว แต่คุณเป็นลูกสาวของเขา คุณจะไม่รู้เรื่องนี้เลยเชียวเหรอ?" เซี่ยอิ่งลูบคางพลางครุ่นคิดอย่างรอบคอบแล้วจู่ ๆ ก็พูดขึ้นมาว่า "จริงด้วยสิ! ดูเหมือนเขาจะเคยบอกว่าทำความผิดร้ายแรงบางอย่างแล้วอยากจะหนีไป! ฉันถามเขาว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ แต่เขาก็ไม่ยอมบอกอะไรเลยแถมยังบอกว่ายิ่งฉันรู้ให้น้อยเท่าไรก็ยิ่งดี! วันหน้าให้ฉันดูแลตัวเองให้ดี ๆ..." "พูดต่อไปสิ" "จากนั้น

  • จอมอสูรคลั่งอันดับหนึ่ง   บทที่ 285

    "จะวิธีอะไร ฉันก็อยากลองดูทั้งนั้น!" เสี่ยวอิ๋งเอ่ยโดยไม่ลังเล "ขอเพียงคุณช่วยให้ฉันไม่ต้องติดคุก! วิธีไหนฉันก็อยากจะลองดู!" เย่เจี้ยนเหอเงยหน้ามองเธอแล้วพูดเสียงเย็นชาว่า "โยนความผิดเรื่องทั้งหมดนี้ให้พ่อของเธอแบกรับไว้!" เมื่อเสี่ยวอิ๋งได้ยินเช่นนี้ ศีรษะของเธอก็ส่งเสียงอื้ออึง! ตอนแรกสังเวยคุณย่าไปแล้ว ตอนนี้ถึงทีพ่อของเธอแล้วงั้นเหรอ? เย่เจี้ยนเหอจ้องมองเธอ "ไม่มีเวลาคิดแล้ว จะตกลงหรือจะติดคุก!" "ฉันตกลง! ฉันตกลงค่ะ! ขอเพียงคุณช่วยให้ฉันไม่ต้องติดคุก คุณอยากให้ฉันทำอะไรก็ได้ทั้งนั้น!" เสี่ยว อิ๋งผงกศีรษะซ้ำไปซ้ำมา เย่เจี้ยนเหอจึงพยักหน้าแล้วพูดว่า "เดี๋ยวฉันจะเรียกทนายเข้ามา พวกเขาจะบอกเธอว่าต้องพูดหรือทำอะไร จากนั้นเธอก็แค่รอให้ตำรวจเรียกตัว" เสี่ยวอิ๋งผงกศีรษะ "ฉะ...ฉันเข้าใจแล้วค่ะ" พอกลับมาถึงบ้าน เสี่ยวอิ๋งก็เจอพ่อของเธอ เมื่อทั้งสองคนสบตากัน ดวงตาของเสี่ยวอิ๋งก็ฉายแววน่าหวาดกลัว เซี่ยเทาก็รู้ได้โดยไม่ต้องคิดเลย ลูกสาวของเขารู้เรื่องแล้ว "เสี่ยวอิ๋ง พ่อทำอาหารให้ลูกกินด้วยนะ ดูสิ..." "กินบ้าอะไรเล่า!" เสี่ยวอิ๋งพลันควบคุมอารมณ์ไม่อยู่ขึ้นมาทันที! เธอร

  • จอมอสูรคลั่งอันดับหนึ่ง   บทที่ 284

    ในสถานการณ์เช่นนี้ ขืนเสี่ยวอิ๋งมัวแต่เข้าไปพัวพันคงได้จบเห่กันพอดี การเก็บเธอไว้น่าจะยังพอมีประโยชน์อยู่บ้าง เสี่ยวอิ๋งเองก็เป็นคนฉลาดจึงผงกศีรษะแล้ววิ่งออกทางประตูหลัง... เย่เซียวคิดจะเข้าไปขวาง แต่กลับถูกหลี่ชิงเฟิงห้ามเอาไว้ "ไม่ต้องไล่ตามหรอก วันนี้เป็นงานเลี้ยงวันเกิดของหวังเจิ้น อย่าทำอะไรน่าเกลียดเกินไปเท่านี้ก็พอแล้ว" เย่เซียวพยักหน้าแล้วยืนอยู่ข้างหลังโดยไม่พูดอะไรสักคำ ในตอนนี้เอง ปี้ไห่เทาก็เดินยิ้มเข้ามา "เหล่าหวัง วันนี้ฉันต้องขอโทษด้วยจริง ๆ นะ! ทั้ง ๆ ที่เป็นงานเลี้ยงวันเกิดดี ๆ ที่นายควรจะมีความสุขแท้ ๆ แต่กลับลงเอยแบบนี้เสียได้..." หวังเจิ้นถอนหายใจ "ช่างเถอะ" "เหล่าหวัง ตระกูลเย่ก็เป็นหนึ่งในสมาชิกหอการค้าเทียนเหมินของพวกเรา เย่เจี้ยนเหอดันพานังคนชั้นต่ำแบบนั้นมาเสียได้ กลับไปเมื่อไหร่ฉันย่อมต้องตำหนิเขาแน่! ฉันจะทำให้เขาจำให้ขึ้นใจเชียวล่ะ! เมื่อพวกเรากลับถึงเมืองหลวงเมื่อไหร่ ไห่เทาย่อมต้องมาขอขมาของแน่นอน" หวังเจิ้นโบกมือ "คุณเกรงใจเกินไปแล้ว ช่างมันเถอะ ผมไม่ถือสาหรอก" ปี้ไห่เทาพยักหน้าพลางขยิบตาให้เย่เจี้ยนเหอ จากนั้นพวกเขาสองคนก็ก้าวเดินจากไป ขณ

  • จอมอสูรคลั่งอันดับหนึ่ง   บทที่ 283

    เสี่ยวอิ๋งโมโหจนคิดอะไรไม่ออกแล้ว เธอชี้นิ้วใส่หลี่ชิงเฟิงแล้วด่ากราดว่า "แกคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน! คู่ควรที่จะมอบของขวัญให้ฉันแล้วงั้นเหรอ?" "หุบปากไปซะ พ่อตาของแกโดนซ้อมขนาดนั้น เขยอย่างแกไม่กล้าแม้แต่จะผายลมเสียด้วยซ้ำไป! แกยังกล้ามาก่อเรื่องที่นี่อีกงั้นรึ?" "ถ้าฉันเป็นแกล่ะก็ คงได้โหม่งเสาโทรศัพท์ตายไปแล้ว!" "ไร้ยางอายสิ้นดี!" เมื่อเห็นเสี่ยวอิ๋งหน้าแดงก่ำและลำคอแข็ง หลี่ชิงเฟิงกลับยิ่งขบขันพลางกล่าวว่า "ฉันคิดว่าเธอต่างหาก มั้งที่น่าจะเป็นฝ่ายโหม่งเสาโทรศัพท์?" ทันทีที่เขาพูดจบ หน้าจอขนาดยักษ์ข้างหลังล็อบบี้ก็พลันสว่างขึ้น! หลังจากนั้นไม่กี่วินาที แสงก็สลัวลงแล้ววิดีโอก็เริ่มฉายบนหน้าจอขนาดยักษ์ เมื่อเสี่ยวอิ๋งหันหน้าไป สิ่งแรกที่เธอเห็นก็คือเซี่ยเทาที่กำลังนอนเปลือยเปล่าอยู่บนเตียง โดยมีสาวสวยอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเธออยู่ข้างกาย! หึ่ง! เสี่ยวอิ๋งศีรษะจวนจะระเบิดอยู่แล้ว! เธอได้แต่ยืนนิ่งงันอยู่ตรงนั้น! มันเป็นวิดีโอที่ก่อนหน้านี้หลี่ชิงเฟิงถ่ายเอาไว้นั่นเอง! เมื่อเห็นเสี่ยวอิ๋งนิ่งงันไป หลี่ชิงเฟิงก็นิ้มแล้วพูดเสียงดังขึ้นมาว่า "ทุกท่าน ผู้ชายที่อยู่ในวิดี

  • จอมอสูรคลั่งอันดับหนึ่ง   บทที่ 282

    เงินหลายล้านบาทไม่ได้จ่ายไปโดยไร้ประโยชน์แล้ว! ศาสตราจารย์เฒ่าโดนเขาหลอกเข้าแล้วจริง ๆ! เสี่ยวอิ๋งเองก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ทันใดนั้นก็ยิ้มพลางชี้นิ้วมาที่หลี่ชิงเฟิง "ตอนนี้แกจะว่ายังไงเล่า? เห็นอยู่ชัด ๆ ว่าแจกันของแกมันเป็นของปลอม!" "น่าตลกชะมัดเลย! ฉันเสนอทางออกให้ แต่แกกลับยืนกรานที่จะขุดหลุมฝังตัวเองให้ได้! ไม่มีใครห้ามแกได้เลย!" เมื่อหลี่ชิงเฟิงได้ยินเช่นนี้ก็ยิ้มจาง ๆ แล้วหันมามองศาสตราจารย์หลี่พลางพูดว่า "ศาสตราจารย์หลี่ ช่วยดูขอองผมอีกสักครั้งเถอะครับ" คาดไม่ถึงว่าศาสตราจารย์หลี่จะส่ายหน้าแล้วยิ้มพลางกล่าวว่า "ไม่ต้องดูหรอก" เซี่ยอิ่งหัวเราะพลางกล่าวว่า "แจกันใบนั้นของแกมันปลอมชัดเจนเกินไป! ศาสตราจารย์หลี่ไม่มองให้เสียสายตาหรอก!" ในยามนี้เอง ศาสตราจารย์หลี่ก็เหลือบมองเธอแล้วสายหน้า "สาวน้อย ฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนั้นสักหน่อย ฉันยังพูดไม่ทันจบเลย ถึงแม้ว่าแจกันใบนี้จะฝีมือยอดเยี่ยมจนเกือบจะสมบูรณ์แบบ แต่มันเป็นของปลอมจริง ๆ" "ส่วนแจกันของคุณหลี่ ทันทีที่เข้ามาผมก็เห็นแล้วล่ะ มันเป็นของจริง ดังนั้นผมจึงไม่ต้องตรวจดูเลย" หลังจากศาสตราจารย์หลี่พูดจบ ทั้งห้องก็เ

  • จอมอสูรคลั่งอันดับหนึ่ง   บทที่ 281

    ไม่มีใครคาดคิดว่าหลี่ชิงเฟิงจะมีท่าทีแข็งกร้าวเช่นนั้น! ปี้ไห่เทาที่คอยสังเกตการณ์อยู่ข้าง ๆ แอบรู้สึกว่าชักไม่ได้การเสียแล้ว หลี่ชิงเฟิงคนนี้ดูไม่เหมือนเขยไร้ประโยชน์อย่างที่ข่าวร่ำลือกันเอาไว้เลยสักนิด การที่ยังสามารถสงบนิ่งได้ในภาวะคับขันเช่นนั้น มิหนำซ้ำยังพูดจาเสียคล่องปากและท่าทีเจ้าแผนการของอีกฝ่าย เขาไม่เชื่อหรอกว่าคนแบบนี้จะเป็นเขยไร้ประโยชน์ไปได้ สิ่งที่น่าสงสัยมากที่สุดคือ ต่อให้อีกฝ่ายจะก่อเรื่องเช่นนั้น แต่หวังเจิ้นที่อยู่ข้าง ๆ กลับไม่มีวี่แววที่จะโมโหเลยสักนิด พวกเขาต่างอาศัยอยู่ในเมืองหลวง เขาเองก็รู้นิสัยของหวังเจิ้น อีกฝ่ายไม่ใช่ตาเฒ่าที่นิสัยดิบดีอะไรเลย พอปี้ไห่เทานึกได้เช่นนี้ เขาก็ทอดสายตามองเย่เจี้ยนเหออีกครั้ง เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายสายตาหลุกหลิกอยู่บ้าง เขาก็พอจะเข้าใจเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว ดูเหมือนว่าแจกันลายครามสมัยราชวงศ์หยวนใบนี้จะมีบางอย่างผิดปกติจริง ๆ เสียด้วย ตอนนี้เย่เซียวยืนอยู่ตรงนั้นพร้อมเจตนาสังหารอันแรงกล้า! เย่เจี้ยนเหอกับเสี่ยวอิ๋งหวาดกลัวจนไม่กล้าขยับตัวไปชั่วขณะ ไม่นานปี้ไห่เทาก็ลุกขึ้นแล้วมองหลี่ชิงเฟิงด้วยสายตาเย็นชา "ทำแบบนี้

Higit pang Kabanata
Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status