LOGINเช้าวันต่อมาชายหนุ่มมาเยือนบ้านของช่อเอื้องอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เขามั่นใจว่าจะไม่เห็นวิญญาณหรือสิ่งเร้นลับอีกแน่ๆ เพราะเจ้าตัวมาพร้อมพระห้อยคอองค์เบอเริ่มที่ไปเช่ามาจากตลาดพระเมื่อวานตอนค่ำ
ขายาวๆ ก้าวลงจากรถส่วนบุคคลที่เรียกมารับตามแอพพลิเคชันทางโทรศัพท์ สายตาสอดส่องเข้าไปในบริเวณบ้านก็เห็นแต่ความเงียบและหมอกจางๆ ปกคลุม ฤดูหนาวของเมืองเหนือกว่าแดดจะทะลุม่านหมอกออกมาได้ก็เกือบเที่ยง
ครืดดดดดดดด
ประตูรั้วบานใหญ่เลื่อนเปิดต้อนรับอีกครั้ง แถมรอบนี้ก็ไม่มีคนมาเปิดเหมือนเดิม
' ไม่ใช่หรอกน่า...คุณยายคงไม่มาแต่เช้าหรอกมั้ง '
ก่อนจะยกเท้าก้าวเข้าสู่บริเวณบ้าน ร่างสูงควักสร้อยพระกรอบหนาองค์ดังออกมาจากอกเสื้อ พนมมือพึมพำด้วยใจที่เต้นระส่ำ
' ผมมาดีนะครับ เอ่อ...และผมก็คนดีนะครับ'
บอกกล่าวเจ้าที่เจ้าทางเสร็จก็สบายใจ พอดีกับแม่บ้านที่กำลังเดินตรงมาเชิญเข้าไปในบ้าน หากเขามองขึ้นไปชั้นสอง จะเห็นร่างเลือนรางสวมชุดพื้นเมืองยืนยิ้มอยู่ตรงบานหน้าต่างมุมร่มรื่น
วันต่อมา
ร่างสูงสง่าของดินกำลังเซ็ตผมอยู่หน้ากระจกบานใหญ่ เย็นนี้ช่วงสี่โมงเขาได้ตอบตกลงเข้าบรรยายเกี่ยวกับกฎหมายให้แก่คณะนิติศาสตร์มอดัง มือใหญ่ฉีดน้ำหอมเป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนจะหยิบแฟลชไดร์ฟและกุญแจรถแล้วเดินออกจากห้อง
กว่าจะจบหัวข้อบรรยายก็เกินเวลามาเกือบครึ่งชั่วโมง บ้างก็ยกมือถามเรื่องที่สงสัย บางก็ยกมือถามเรื่องส่วนตัวบ้าง ไอ่เค้ามันก็มีมนุษยสัมพันธ์ดีคารมคมคายก็ละลายพฤติกรรมกันไป สาวๆ นักศึกษานี่แซวกันใหญ่ก่อนจะบอกลาเป็นครั้งสุดท้าย
พอหมดคาบสุดท้ายฉันรีบเก็บหนังสือใส่กระเป๋าแล้วตรงมาที่ลิฟต์ วันนี้ขมิ้นไม่มาเรียนเห็นบอกว่ากลับบ้านต่างจังหวัดด่วน มันไม่อยู่ก็แอบเหงาปากนะ ออกจากลิฟต์ได้ก็สับเท้าไปที่จอดรถที่เหลือแค่สองสามคัน แต่ตอนนี้ทั้งลานมีแต่ฉันคนเดียว
มือบางควานหากุญแจแล้วปลดล็อก กำลังจะเปิดประตูก็มีเสียงใหญ่ทักมาจากด้านหลัง
" สวัสดีครับ " ฉันหันไปมอง อีตานี่อีกแล้ว!
" ค่ะ " ค่ะแล้วก็กลับมาเปิดประตูเตรียมเข้าไปนั่งแต่ก็ช้ากว่าคนขายาว " เดี๋ยวคุณ " มือใหญ่จับบานประตูไว้แล้วดันปิด ปึง! ไว้เหมือนเดิม
ไอ่บ้านี่อะไรเนี่ย!
อยู่ดีๆ มาปิดประตูรถคนอื่นหน้าด้านๆ
" อะไรของคุณ! " เสียงหวานเจื่อหงุดหงิด จ้องหน้าคนตรงข้ามตาขวาง
เขาไม่ได้อ้าปากโต้อะไร แต่กลับใช้สายตาคมๆ นั่นแลไปอีกทางเหมือนสื่ออะไรบางอย่าง
" ไปรถผมไหม ไหนๆ เราก็ทางเดียวกันอยู่แล้ว " ฉันยืนใช้ความคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะพยักหน้าตกลงแล้วเดินตามเขาไป เราเดินแค่สองสามก้าวเขาก็ปลดล็อกประตูรถ อ่าว! จอดรถใกล้ๆ กันนี่หว่า
รถยุโรปสี่ประตูคันหรูเลื่อนออกจากมหาวิทยาลัยจนลับสายตาสองนักศึกษาหนุ่มที่แอบอยู่มุมเสาในเงามืด
" คุณมาทำอะไรที่นี่อะ " ฉันเปิดบทสนทนา ไหนๆ ก็ขึ้นรถเขามาแล้วนี่เนอะ
" ผมมาทำงาน " ทำงาน? เป็นอาจารย์?
" ผมเป็นทนายมาบรรยายเกี่ยวกับกฎหมายให้เด็กๆ ฟังน่ะ " อ่อ...อย่างนี้นี่เอง ฉันคว่ำปากพยักหน้าเข้าใจ ภาพที่เขาเดินออกมาจากห้องน้ำพร้อมผู้หญิงยังจำติดตา
" แล้วเพื่อนไปไหน ทำไมกลับคนเดียว " ตาคมยังคงจ้องถนน แต่ปากหนาก็ชวนคุยไม่ให้อึดอัด " วันนี้ขมิ้นไม่มา "
" สรุปคลิปที่ผมส่งให้ ได้เรื่องอะไรบ้าง "
" ยังไม่ถึงเวลาหรอก แต่เก็บไว้แล้ว " แล้วบทสนทนาก็เดดแอร์ไปชั่วขณะ ต่างคนต่างมองตรงแต่ภายในอกกลับเต้นแปลกๆ
สุดท้ายก็เป็นเขาที่ทำลายความใจสั่นนี้ " วันนี้ผมช่วยคุณอีกแล้ว " อะไรของเขา จะทวงบุญคุณว่างั้น!?
" ขอบคุณค่ะ แล้วตกลงอยากได้อะไรเป็นการตอบแทน คิดออกรึยัง " ฉันหันหน้าไปมองเสี้ยวหน้าคมของคนข้างๆ เป็นครั้งแรกที่จ้องหน้าผู้ชายนานๆ ระยะชิดใกล้ขนาดนี้
ผู้ชายอะไรผิวขาวเกลี้ยงยังกะผู้หญิง จมูกเป็นสันโด่งสวยรับรูปหน้า ปากกระจับพอดีชมพูเข้ม ไหนจะกรามทรงสวยที่เข้ากับลำคอหนากับลูกกระเดือกยามกลืนน้ำลายนั่นอีก
หล่อ..หล่อมาก
" ว่าไง คุณโอเคปะ " หื้อ!? อะไร โอเคอะไร!?
แล้วเขาก็หันหล่อๆ มาระหว่างที่รถติดไฟแดง " เมื่อกี้คุณว่าไงนะ " โอ้ย! เสียง! อย่าสั่น! นิ่ง! นิ่งเข้าไว้!
" ผมถามคุณว่า เย็นนี้ผมไปทานข้าวห้องคุณได้รึเปล่า ผมยังไม่ได้ทานอะไรเลย คุณก็น่าจะยังไม่ได้ทานอะไรเหมือนกัน ใช่ไหม " พึ่งรู้จักกันจะขอเข้าห้องฉันงั้นเหรอ ง่ายไปปะ
" แล้วคุณอยากกินอะไรอะ "
นังลูกจันทร์!
" อะไรก็ได้ ผมทานได้หมด" ไม่เป็นไรหรอกมั้ง เขาช่วยฉันไว้ตั้งสองครั้ง แถมห้องก็อยู่ตรงข้ามกันนี่เอง ตามตัวไม่น่าจะยาก เมื่อกี้เขาก็บอกเองว่าเป็นทนาย หน้าที่การงานก็ดีคงไม่ทำอะไรที่มันเสียประวัติหรอกมั้ง
" งั้นเดี๋ยวแวะซุปเปอร์ก่อนถึงคอนโดละกัน ขอซื้อของก่อน "
ร่างสูงเข็นรถรถเข็นเดินตามคนตัวเล็กที่สูงไล่เลี่ยกัน มือบางหยิบมะเขือเทศสีแดงสด เนื้อหมูบด ต้มหอมผักชีและขนมนิดหน่อยลงในรถเข็น
" คุณทำกับข้าวเป็นด้วยเหรอ " ร่างบางหยุดชะงัก หันมามองค้อนคนหน้าทะเล้นที่ยืนแซวอยู่หลังรถเข็น
" ตกลงจะกินไหม "
" กินครับ " แล้วก็เข็นรถเดินตามเธอที่สะบัดผมอย่างอารมณ์เสียไปทางเคาน์เตอร์คิดเงิน เธอกำลังจะล้วงกระเป๋าหยิบเงินมาจ่ายแต่คนข้างก็ยื่นบัตรเครดิตตัดหน้า
" ผมจ่ายเอง คุณทำกับข้าวอร่อยๆ อย่างเดียวก็พอ " พนักงานอมยิ้มแล้วรับการ์ดจากชายหนุ่มมารูด
ฉันนั่งเงียบมาตลอดจนถึงหน้าห้อง เขาช่วยยกของมาไว้ในห้อง แล้วบอกว่าขอตัวกลับไปอาบน้ำแล้วจะมาเคาะห้องขอข้าวกินใหม่
บ้า...
ก่นด่าเขาในใจแต่กลับมายืนตื่นเต้นอยู่ในห้องครัวทำบ้าอะไรลูกจันทร์! ก็แค่ทำกับข้าวกินเหมือนทุกครั้งที่ทำให้ขมิ้นกินไง! แค่นี้เอง!
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะหน้าห้องดังขึ้นพร้อมกับอาหารจานสุดท้ายที่ถูกวางลงบนโต๊ะกินข้าว สงสัยเขามาแล้ว
แล้วจะตื่นเต้นทำบ้าอะไร!
ฉันสูดหายใจเข้าลึกๆ กลบความประหม่าที่มันโผล่มาจากไหนก็ไม่รู้! ก่อนจะเปิดประตูแล้วพบว่าเขายืนฉีกยิ้มรออยู่หน้าห้องพร้อมชุดเสื้อยืดสีดำรัดรูปที่มัดกล้ามเบียดเสียดเนื้อผ้าออกมากับกางเกงผ้ายืดสีเทาขายาวรองเท้าสลิปเปอร์
เขายืนนิ่งจ้องหน้าฉันอยู่แบบนั้นแล้วพูดว่า
" หน้าคุณมันอะ "
" ...... " ไม่ต้องแดก!
จากตื่นเต้นเปลี่ยนเป็นโมโห กระชากประตูหมายจะปิดใส่หน้า! " เดี๋ยวๆ คุณ ผมล้อเล่น~ " แล้วเขาก็ดันประตูไว้ แทรกกายหนาๆ หน้าด้านๆ เข้ามาในห้อง " ไหนดูสิว่าแม่ครัวทำอะไรทานเอ่ย " เสียงทุ้มอารมณ์ดีเดินมุ่งเข้าโซนห้องครัว ไม่ได้สนใจเธอเลยสักนิด
" มาเร็วคุณ ผมหิวแล้ว " ชวนยังกะเป็นห้องตัวเอง!
" นั่งดื่มน้ำรอไปก่อน ขอไปอาบน้ำแป๊บ " แล้วเธอก็เดินตึงตังเข้าห้องนอนไป คนตัวโตยิ้มขำ นั่งลงบนเก้าอี้แล้วมองอาหารบนโต๊ะ หน้าคมคิ้วขมวด
อาหารเหนือ?
เขานั่งเล่นโทรศัพท์รอแค่สิบห้านาทีแม่คุณก็เดินออกพร้อมเสื้อยืดรัดรูปสีขาวกับกางเกงขาสั้นสีบานเย็นตัดกับขาขาวๆ และเรียวขายาวๆ นั่น แล้วนั่งลงตรงข้ามทนายหนุ่ม
" คุณทำอาหารเหนือเหรอ " เธอพยักหน้าพร้อมลงมือตักน้ำพริกอ่องใส่ในจานเขา
" นี่น้ำพริกอ่อง ลองกินดู ถ้าเผ็ดก็กินไข่เจียวกับแคบหมูไปด้วยละกัน " เขาตักเข้าปากพร้อมกับข้าวสวยร้อนๆ เคี้ยวตุ่ยๆ แล้วกลืนลงไป
" อืม...อร่อย " รสชาติคล้ายๆ กับบ้านลูกความคนนั้นแต่คนละแบบ
เธอยิ้มกว้างดีใจที่มีคนชมฝีมือการทำอาหาร แสดงว่าขมิ้นก็ไม่ได้โกหก ฉันทำกับข้าวอร่อย!
ภาพรอยยิ้มดีใจของสาวน้อยตรงหน้าทำใจหนาเต้นแรง กระแอมเล็กน้อยแล้วยกแก้วน้ำขึ้นมาจิบ " คุณเป็นคนเหนือเหรอ " แล้วก็เริ่มลงมือกินของใครของมัน
" ใช่ พื้นเพฉันเป็นคนเชียงใหม่ " ถึงว่า ผิวพรรณนี่ขาวนวลละเอียด ไม่ว่าจะใบหน้าเกลี้ยงใส ผิวที่โผล่พ้นแขนเสื้อตัวน้อยนั่นอีก แค่มองด้วยตาเปล่ายังดูใสขนาดนี้ ถ้าได้จับได้ลูบคงจะนุ่มมือไม่น้อย
ใจเย็นๆ นะดิน...มึงพึ่งรู้จักน้องเขา
" คุณทำกับข้าวอร่อยมาก ผมชมจากใจ "
" ผมมาฝากท้องที่ห้องคุณบ่อยๆ ได้รึเปล่า "
" พูดเหมือนว่างตรงกันขนาดนั้น " ร่างบางลุกขึ้นรวบรวมจานอาหารทั้งของเขาและของเธอหลังจากที่ซัดจนเกลี้ยง แล้วเดินมุ่งไปยังอ่างล้างจาน
" ก็เผื่อว่าว่างตรงกันไง ได้ป่าว " เขายังตื้อเดินตามมายืนข้างๆ หญิงสาว เบียดเธอออกแล้วประจำตำแหน่งล้างจานแทน " เดี๋ยวผมช่วย คุณอุตส่าห์ทำกับข้าวอร่อยๆ ให้กินแล้ว " ตามใจ ก็ดีเหมือนกัน ขี้เกียจอยู่พอดี ฉันยืนกอดอกพิงเคาเตอร์มองแผ่นหลังใหญ่ที่ก้มล้างจานเงอะๆ งะๆ สรุปเคยล้างจานรึเปล่าก่อน!?
" อันนี้คว่ำตรงไหน " คนตัวเล็กเดินไปหยิบหม้อหุงข้าวใบเล็กจากมือเปียกออกมาเช็ดๆ แล้วเปิดตู้บิวอินเหนือหัวคว่ำหม้อตรงที่่ว่างแล้วปิด
ด้วยต้องเขย่งเล็กน้อย ทำให้เสื้อยืดสีขาวเลิกขึ้นเห็นเอวบางวับๆ แวมๆ ไหนจะเรียวขาขาวๆ ที่ส่วมกางเกงสีหวานนั่นอีก
ชายหนุ่มเบือนหน้าหนีก่อนที่เธอจะรู้ตัวว่าถูกแทะโลมด้วยสายตาคมของคนข้างๆ
" คุณบอกว่าคุณเป็นทนายงั้นเหรอ " เธอถามพร้อมเดินนำเขาออกมานั่งย่อยที่โซฟาหน้าทีวี
" ครับ มีอะไรปรึกษาผมได้ " ดวงหน้าหวานครุ่นคิด ถ้าปรึกษาเขาเรื่องโฉนดที่ดินจะได้ไหมนะ!?
" ถัาฉันปรึกษา คุณต้องเก็บเรื่องของฉันเป็นความลับนะ "
" มันต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว สรุปมีเรื่องอะไรให้ช่วยไหม คุยได้นะ ผมชิวๆ " แล้วก็ยกขายาวๆ ไขว่ห้าง ทิ้งตัวพิงโซฟานุ่มๆ อย่างสบายใจ
" ขอไปคิดดูก่อน แต่คงเร็วๆ แหละ "
" โอเค ยังไงก็มาเคาะห้องผมได้ ถ้าไม่อยู่ก็โทรมา " คนตัวโตลุกขึ้น เธอจำเป็นต้องลุกตาม เดินไปส่งแขกที่หน้าประตู
" ขอบคุณสำหรับอาหารอร่อยๆ นะครับ ไว้ว่างๆ คุณไปกินที่ห้องผมก็ได้ ผมจะชงคอกเทลสูตรเด็ดของผมให้คุณดื่ม "
สองอาทิตย์ต่อมาสุริยันแสงสุดท้ายกำลังจะลับขอบฟ้า บริเวณโดยรอบของมหาวิทยาลัยถูกระบายด้วยสีส้มเข้มจากท้องฟ้าจนเต็มพื้นที่ รวมถึงนักศึกษากลุ่มสุดท้ายของตึกใหญ่ที่ทยอยกันเดินออกมาจากลิฟต์ คาบสุดท้ายถือว่าโหดหฤหรรษเนื่องด้วยอาจารย์ผู้สอนเป็นถึง ดร.จึงใช้เวลาในการสอนทุกนาทีอย่างมีค่า " มึงทำอะไรขมิ้น " เพื่อนสาวคนสนิทถามขึ้นขณะเดินตามกันมา ปฏิกิริยาเพื่อนดูแปลกๆเหมือนกำลังหลบอะไรสักอย่าง คอยหวาดระแวงทุกครั้งทั้งแต่เดินออกมาจากลิฟต์ " กูเปล่า " แต่ก็อาศัยฝูงชนกลุ่มใหญ่บดบังความสูงแค่ 155 ซม.ของตน จะให้บอกมันยังไงดีล่ะ? ไม่รู้จะเริ่มเล่าจากตรงไหนด้วยซ้ำ แค่หลบหน้ามาได้สองอาทิย์นี่ก็บุญหัวสุดๆแล้ว บ้านก็ไม่ได้กลับกลัวเขาไปดัก ต้องคอยโกหกพ่อแม่ว่าต้องเร่งทำรายงานก่อนสอบเลยต้องหอบสังขารมานอนคอนโด " กูไม่เชื่อ " แน่ล่ะ! คำพูดกับการกระทำโคตรจะสวนทาง ปากบอกเปล่าแต่ดูมันทำซิพอพ้นตัวตึกได้ หล่อนรีบจูงมือเพื่อนสนิทเดินสับขาไปยังลานจอดรถแล้วรีบปิดประตู นั่งเงียบทำใจอยู่นานกว่าจะอ้าปาก" มึง..." เอาวะ! ไหนๆก็ไหนๆ ลูกจันทร์ไม่ใช่คนอื่นคนไกลสักหน่อย " คือ...กูกับผู้กองอะ..." ฮืออออ จะเล่าก็กระดากป
ปากกระจับกดทับปกปิดริมฝีปากที่เผยอเผลอตอบ บดเบียดเอวหนาผ่านเนื้อผ้าบางๆ ของกันและกัน" อืมมม " ชายหนุ่มส่งความกำหนัดส่งต่อคนตัวเล็ก แลบลิ้นร้อนเลียตามเนื้อปากนุ่มภายนอกก่อนจะค่อยๆ แหย่ปลายนุ่มเข้าโพรงปากเธอช้าๆ แทรกได้ก็กวาดต้อน เกี่ยวรั้งลิ้นน้อยจนสมองเธอมึนเบลอ พัลวันดึงดูดจนร่างบางอ่อนเปลี้ยเพลียแรง ช่วงล่างก็ถูกรุกรานด้วยเอวหนาอ่า...เธอรับมือไม่ทัน" ผู้กอง..."" อืมม " ตอบส่งๆ ด้วยเสียงครวญคราง ไม่ยอมละเนื้อหวานในปากแม้แต่น้อยจูบจนพอใจก็ไล่พรมลมร้อนลงมาตามซอกคอขาว เลียหยอกจนเธอย่นคอหนีความซ่าน คนตัวโตคล่อมทับแทบไม่เห็นคนใต้ร่าง แต่มือใหญ่อีกข้างยังทำงานได้ปกติสอดเข้าใต้เสื้อยืดสีเข้มอ้อมแผ่นหลังบางแล้วปลดตะขอก่อนจะเลื้อยมืออุ่นๆ มาข้างหน้ากอบกุมเต้าเล็กพอดีมือ ปัดระรัวที่ยอดเล็กสีชมพูอ่อน" อื้อออ " คนถูกกระทำซ่านเสียว แอ่นรับความหรรษาที่เขาเสิร์ฟ ก่อนจะค่อยๆ ถอดเสื้อยืดแสนเกะกะทิ้งตามด้วยชั้นในตัวจิ๋วเมื่อลมเย็นๆ ปะทะผิวกายจนขนลุกซู่ หล่อนจึงยกมือขึ้นมาปิดหน้าอกตัวเอง จะว่าอายก็ได้ ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยแก้ผ้าโชว์นมต่อหน้าใครเลยนะ" ปิดทำไมผมอยากเห็น " อยากจับ อยากเลียช่อเล็กๆ น
ตั้งแต่วันนั้นมานางก็เทวเข้าเทวออกบ้านฉันเป็นว่าเล่น ปกติวันจันทร์ถึงศุกร์ฉันจะไปนอนคอนโดเพราะใกล้มหาวิทยาลัย อีกอย่างคือมันเมาสะดวก เสาร์อาทิตย์ถึงค่อยกลับมาอยู่ในอ้อมอกพ่อแม่ร่างขาวนวลสวมแต่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียวเดินออกมาจากห้องน้ำ พอดีกับเสียงโทรเข้าที่วางอยู่ปลายเตียงนอน มือขาวซีดหยิบโทรศัพท์เครื่องหรูขึ้นมาดูจอแล้วจึงกดรับ(อาบน้ำเสร็จยัง เย็นนี้มึงมากินข้าวที่ห้องกูนะ) พอดีเลย กำลังจะไปขอข้าวห้องมันกิน ลูกจันทร์เป็นคนที่ทำอาหารอร่อยมาก ตั้งแต่ออกจากบ้านมาใช้ชีวิตข้างนอกก็มีนางนี่แหละเป็นบ่อประทังชีวิต" ไปดิ เดี๋ยวกูแต่งตัวเสร็จแล้วไปหา กูซื้อกับข้าวมาด้วย "(เคๆ)หลังสายถูกตัวหล่อนก็โยนโทรศัพท์ทิ้งลงบนเตียงนุ่มก่อนจะเดินหันหลังปลดผ้าขนหนูทิ้งแล้วใส่เสื้อผ้าแค่ไปกินข้าวห้องเพื่อนก็แต่งตัวชิวๆ นิ้วมือเรียวดึงเสื้อยืดสีดำพอดีตัวกับกางเกงขาสั้นสบายๆ แล้วหอบหิ้วถุงกับข้าวไปเคาะห้องเพื่อนสนิทข้างๆ" มึง "" ว่า "" คุณดินชวนไปกินข้าวที่ห้อง มึงไปกับกูนะ " มือที่กำลังหยิบจานชะงัก เดี๋ยวนะ! มันไปสนิทกับผู้ชายห้องตรงข้ามตอนไหน ทำไมกูไม่รู้เรื่อง" ทำไมเขาชวนมึงไปกินข้าวที่ห้อง มีอะไรที่กู
" อ้าว จริงหรือเนี่ย ฮ่าๆๆ ที่แท้ก็คนกันเองนี่เอง " บนโต๊ะอาหารมีแต่เสียงหัวเราะของพ่อกับแม่ และเสียงของอีตาตำรวจนั่นที่เข้ากับผู้ใหญ่ได้เป็นอย่างดี ส่วนฉันกลายเป็นตัวประกอบมื้ออาหารเย็นไปโดยปริยาย อีกนิดคือต้องยกจานข้าวตัวเองแล้วไปนั่งพับเพียบกินในครัวเหงาๆแล้วอ่ะ " ครับ ไว้วันหลังไปคุณพ่อกับคุณแม่ไปทานข้าวที่บ้านผมนะครับ พ่อผม ต้องตกใจแน่ๆเลย " " ฮ่าๆๆ เอาสิๆ ไปเซอร์ไพรส์อดีตตำรวจเก่ากัน ไม่ได้เจอกันตั้งหลายสิบปี อยากเห็นหน้าตอนมันตกใจเหมือนกัน ฮ่าๆๆ " มื้อนี้ดูพ่อจะดูอารมณ์ดีเป็นพิเศษ ก็แหงล่ะ จู่ๆเขาก็บอกว่าเป็นตำรวจเพราะตามรอยพ่อ เล่าไปเล่ามา พ่อเขากับพ่อฉันกลายเป็นเพื่อนสมัย ม.ปลายด้วยกันเฉย แต่ต้องมาห่างกันเพราะต่างคนต่างแยกย้ายเรียนตามสายที่ตัวเองถนัดและสนใจ บ้างก็แต่งงานมีครอบครัว จึงไม่ได้นัดเจอกันเหมือนช่วงที่เรียนจบกันมาใหม่ๆ" ผู้กองชอบกินต้มแซ่บเหรอคะ เดี๋ยวแม่ไปตักมาให้เพิ่มนะ " " ครับ กลมกล่อมและแซ่บมาก ผมไปทานข้างนอกยังไม่อร่อยเท่าคุณแม่ทำ " คนตัวเล็กได้แต่แอบเบะปากหมั่นไส้ คนอะไรประจบประแจงผู้ใหญ่เก่ง ส่วนแม่ครัวได้ยินแบบนั้นก็ยิ้มหน้าบานไปอีก เรื่องกับข้าวกับปล
" ค่ะแม่ หนูจะรีบไป แม่กับพ่อเช็กอินก่อนได้เลยนะคะ นั่งรอในเกตได้เลยค่า รับรองไม่เกินครึ่งชั่วโมงได้เห็นคนสวยคนนี้แน่นวล บายจุ๊บ " ฉันรีบกดวางสายแล้วยัดเสื้อผ้าที่เตรียมไว้ใส่กระเป๋าเดินทางแบบลวกๆฮืออออ~ไม่น่าดื่มเยอะจนตื่นสายเลยอ่ะร่างเล็กบอบบางหิ้วกระเป๋าใบโตเดินลงบันไดอย่างทุลักทุเล เปิดท้ายรถได้ก็โยนกระเป๋าลากใบใหญ่ลงไปแล้วรีบปิดดังปึง! สับขาสั้นๆ ขึ้นรถ จังหวะที่กำลังจะออกจากบ้านสายตาก็ดันเห็นรถยุโรปคันคุ้นตาจอดอยู่ไม่ไกล" แม่ง! จะตามกูไปถึงไหนวะ! " พูดดีก็แล้ว ไล่ก็แล้ว ทำไมผู้ชายหน้าด้านคนนี้ถึงฟังคำคนไม่รู้เรื่องเอาไงดี...เอาไงดี!?เธอกัดปากอย่างใช้ความคิด เรียวนิ้วก็คอยเคาะพวงมาลัยไปด้วย สุดท้ายหลอดไฟทิพย์บนหัวก็สว่างดัง ปิ๊ง!ลูกจันทร์เพื่อนรักฉันโทรขอความช่วยเหลือจากเพื่อนสนิ๊ทสนิทเพียงคนเดียว คนอื่นไม่ค่อยสนิทเท่าไหร่ แต่มันดันบินขึ้นเชียงใหม่ก่อนแล้ว แต่ไม่เป็นไร...นางฟ้าทูนหัวยังส่งคนมาช่วยคนสวยได้ทันเวลาเธอกดเบอร์โทรออกตามไลน์ที่เพื่อนส่งมาให้ไม่นานปลายสายก็รับ" สวัสดีครับ " อุ้ย เสียงหล่อน่าฟัง" สวัสดีค่ะ ใช่เบอร์ผู้กองกรกันต์หรือเปล่าคะ ฉันชื่อขมิ้น.... "" อ่
รถหรูยี่ห้อดังถอยจอดเทียบที่ชั้นวีไอพี เรียวขาแกร่งก้าวออกจากรถ เสยผมเล็กน้อยแอบปลดกระดุมที่หน้าอกลงมาอีกเม็ดเพื่อเช็คเรตติ้ง ก่อนจะมองทางเข้าประตูบานเดิมที่เคยใช้เมื่อหลายปีก่อน เสียงเพลงข้างในยังคงอึกทึกครึกครื้นไม่เปลี่ยน บรรดานักดื่มยังคงโยกย้ายกันอย่างสนุกสนานปลดปล่อยอารมณ์กันอย่างเต็มที่เขามองไปรอบๆ ก่อนจะเดินขึ้นบันไดมุ่งหน้าขึ้นชั้นสองท่ามกลางสายตาสาวๆ ที่คอยสะกิดกัน บ้างก็ยิ้มอ่อยสะบัดผมเชื้อเชิญ" คุณดินเชิญครับ คุณอคิณและคุณลมรออยู่ข้างในแล้วครับ " มือขวาพี่ชายกล่าวต้อนรับแล้วเปิดประตูเชิญเข้าข้างใน" ไงมึง " พี่ชายอย่างสายลมพยักหน้าทักทาย มือยังคนถือแก้วบรั่นดีสีอำพัน ถัดไปเป็นเพื่อนสนิทที่นั่งไขว่ห้างกอดอกทักทายคนมาใหม่ปฐพีทรุดตัวนั่งโซฟาฝั่งตรงข้ามตอบรับชายทั้งสองแล้วยกแก้วของตัวเองขึ้นจิบ" เมียมึงล่ะ "" ดูลูกอยู่บ้านแม่ไง " เมียมึงก็อยู่ด้วยปะ ไม่งั้นจะมีโอกาสมานั่งผ่อนคลายแบบนี้เหรอ" แสดงว่าคืนนี้มีแต่พวกเรา... " สายลมวางแก้วแล้วทำหน้าเจ้าเล่ห์" อยากลองเชิงพนักงานใหม่หน่อยไหม กูพึ่งรับมาเมื่ออาทิตย์ก่อน ชื่อน้องอมยิ้ม น่ารักแถมเอาใจเก่ง ลูกค้าติดตรึม "" กูขอบาย





![เมียน้อยพ่อเป็นของผม [Is Mine]](https://acfs1.goodnovel.com/dist/src/assets/images/book/43949cad-default_cover.png)

