“ถ้าฟรินจะทำแบบนั้นก็ได้ แต่เหนือจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับฟรินอีก” ดาวเหนือหันไปสบตากับชายหนุ่ม ดวงตากลมโตสั่นไหวพยายามฝืนกลั้นไม่ให้ร้องไห้ออกมา
“ขู่เหรอ?” ร่างสูงรั้งเอวบางให้เข้าหา จับใบหน้าแสนหวานก่อนจะออกแรงบีบด้วยความรู้สึกที่อยากจะคาดเดา
“เหนือไม่ได้ขู่แต่พูดจริง”
“ถ้าคิดว่าการเขี่ยฉันทิ้งมันง่ายขนาดนั้นก็ลองดูสิ”
ดาวเหนือผลักคนตัวโตให้ถอยห่าง ขณะที่ฟรินกำลังจะโน้มริมฝีปากลงมาจูบเธอ โดยไม่แคร์สายตาขององศาหรือนักศึกษาคนอื่นที่กำลังมองมาอย่างให้ความสนใจ
“โกรธมากหรือไง ทำไมไม่ยอมให้จูบ”
“แล้วสิ่งที่ฟรินทำกับเหนือมันสมควรโกรธมั้ย” น้ำเสียงที่พูดฟังดูตัดพ้อ ฟรินเหมือนต้องการแค่เอาชนะ เขาไม่ได้รู้สึกดีกับเธอจริงๆ
“…..”
“ตกลงเหนือกับไอ้ฟรินเป็นอะไรกัน” เสียงขององศาพูดแทรกขึ้น ช่วยเรียกความสนใจของชายหนุ่มให้หันไปมอง
ฟรินเดินเข้าไปหาโน้มใบหน้าลงไปกระซิบบอกด้วยรอยยิ้มเย้ยหยัน
“เหนือเป็นเมียกู”
“กูอยากได้ยินจากปากเหนือ ไม่ใช่คนอื่น”
“มึงนั่นแหละคนอื่น”
“จริงเหรอเหนือ ที่ไอ้ฟรินมันบอกว่าเหนือเป็นเมียมัน คือเรื่องจริงหรือเปล่า” องศาร้อนรนมองไปทางร่างบางอย่างต้องการคำตอบ ทั้งๆ ที่รู้ดีอยู่ในใจแต่ยังอยากจะได้ยินจากปากเธอ
“ระ…รู้สึกเวียนหัวเหมือนจะไม่สบาย เหนือขอตัวกลับบ้านก่อนนะ” คนตัวเล็กพูดตัดบทแค่นั้น เพราะไม่อยากต่อล้อต่อเถียงให้มีปากเสียงต่อกันไปมากกว่านี้
เธอรีบเดินหนีออกมา แต่ฟรินยังคงเดินตามหลังอยู่ไม่ห่าง
“ทำไมไม่บอกมันไป ว่าเราเป็นอะไรกัน”
“…..”
“แค่บอกว่าฉันเป็นผัวมันยากนักเหรอ”
“พอได้มั้ยฟริน ตอนนี้เหนือปวดหัวมากเลย”
เขาไม่ฟังในสิ่งที่เธอพูด แต่เลือกที่จะฉุดกระชากให้ดาวเหนือเดินตามอย่างเอาแต่ใจ
ดาวเหนือถูกผลักให้เข้ามาอยู่ในห้องน้ำชาย ก่อนที่เขาจะยืนขวางประตูเอาไว้ไม่ให้เธอหนีไปไหนได้อีก ความอดทนที่มีอยู่น้อยนิดเป็นอันหมดลงเมื่อเห็นสายตาห่างเหินที่ใช้มอง
“ในเมื่อฟรินได้ในสิ่งที่ต้องการแล้วก็ปล่อยเหนือไปสักทีสิ จะตามมารังควานกันอีกทำไม”
“ฉันไม่ปล่อย เพราะมันยังไม่พอ!”
“ถ้าฟรินยอมหยุด เหนือจะถือว่าเรื่องที่ผ่านมามันไม่เคยเกิดขึ้น” ถ้าบอกว่าเป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบเธอก็เข้าใจ จะไม่เอาเรื่องนี้มาผูกมัดเขาไว้กับตัว
“ฟรินไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเหนือเลย เรายังจะเป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม”
“พูดออกมาได้ ปัญญาอ่อน!”
“…..”
“ไม่มีเพื่อนที่ไหน เขาเอากันขนาดนี้”
คนตัวเล็กสะดุ้งเมื่อถูกตอกหน้ากลับมา ดาวเหนือขยับถอยหลังหาทางออก เมื่อฟรินเดินเข้ามาใกล้ก่อนจะหันไปล็อกประตูห้องน้ำอย่างแน่นหนา
“พอได้มั้ยฟริน เหนือไม่ไหวนะ จะไม่ยอมให้ฟรินทำอีกแล้ว” ดาวเหนือปฏิเสธเสียงแข็ง ยังไงก็ไม่ยอมให้เขาทำแบบนั้นอีก
“เดี๋ยวก็รู้ว่าจะยอมหรือไม่ยอม”
“จะเอาคลิปนั่นมาขู่เหนือเหรอ”
“แล้วจะยอมให้เอามั้ย”
“ทำแบบนี้ทำไม ต้องการอะไร”
“ต้องการเธอ”
“…..” แววตาที่มองมันเต็มไปด้วยความโกรธเคือง ไม่คิดว่าฟรินจะใช้วิธีแบบนี้เล่นงานเธอ
“เหนือเกลียดฟริน!”
“ปากดี! งั้นเอาหลานไปฝากพ่อกับแม่เธอสักคนดีมั้ย”
“แล้วจะทำแบบนี้กับเหนือไปอีกนานแค่ไหน”
“เอาจนกว่าจะเบื่อ”
“งั้นก็รีบทำให้มันเสร็จ เหนืออยากกลับบ้าน”
-คลับหรูใจกลางเมือง-
“เป็นไรไอ้แว่น เครียดเรื่องอะไร” เจย์เดนถามอย่างสงสัย มองไปทางฟรินที่นั่งก้มหน้าถอนหายใจครั้งแล้วครั้งเล่า
“สงสัยทะเลาะกับเมีย”
“…..” ฟรินปรายหางตามองไคโรที่พูดเย้าหยอก แต่มันดันไปตรงกับเรื่องจริงที่คิดมากในตอนนี้
เขามองหน้าจอโทรศัพท์พร้อมกดส่งข้อความและโทรหาแต่ไม่มีสัญญาณตอบรับใดๆ จากดาวเหนือ
ตั้งแต่แยกกันช่วงบ่ายก็ติดต่อเธอไม่ได้อีกเลย เธอเพียงแค่กดอ่านแต่ไม่ยอมตอบข้อความใดๆ กลับมา
“ถ้ามันเงียบ แสดงว่าเรื่องจริง สงสัยโดนจะเมียทิ้ง” ไคโรยิ้มยั่ว การได้กวนประสาทเพื่อนชายถือว่าเป็นความตื่นเต้นอย่างหนึ่งในชีวิต เพราะฟรินเป็นคนที่คาดเดาอารมณ์ไม่ได้ ถ้ามันคิดจะทำก็ทำเลย ไม่มีคำด่าหรือท่าทางโวยวายเพื่อส่งสัญญาณให้รู้ตัว
“คนประสาทอย่างมัน ผู้หญิงดีๆ ที่ไหนจะไปอยู่ด้วยได้”
พลั่ก! ไม่พูดเปล่าแต่ถอดรองเท้าผ้าใบคู่โปรดเขวี้ยงใส่หน้าเพื่อนชายเต็มแรง
“ถ้าปากมึงว่างลองเอารองเท้ากูไปคาบไว้”
“สมควรไอ้ไค มันอยู่ของมันดีๆ มึงจะไปกวนประสาทเพื่อ?” คัมภีร์ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย พวกมันสองตัวทะเลาะกันทีไรมีแต่เขาที่เป็นคนคอยห้าม บางทีก็โดนลูกหลงเจ็บหนักจนได้เย็บหลายเข็ม
“ทะเลาะกับเหนือเหรอ” แฟรงก์ที่สังเกตอยู่นานเอ่ยถาม ก่อนจะดึงมวนบุหรี่ออกจากริมฝีปากของน้องชายแล้วขยี้มันจนดับ
“ไม่ได้ทะเลาะ”
“แล้วมึงเป็นอะไร”
“ไม่ได้เป็นอะไร ไม่ต้องยุ่งเรื่องของกูหรอก”
“ไม่จริงไอ้ฟริน มึงกำลังเครียด ไม่งั้นไม่สูบบุหรี่จัดขนาดนี้หรอก”
เขารู้จักนิสัยของน้องชายดีกว่าใคร ฟรินไม่ใช่คนโวยวายหรือทำลายข้าวของ เวลาโกรธจัดหรือมีเรื่องเครียดหนัก มันจะเงียบผิดปกติ เริ่มสูบบุหรี่จัด สายตาเริ่มล่อกแล่กอยู่ไม่นิ่ง ชอบนั่งก้มหน้าอยู่ในมุมของตัวเอง
คนรอบข้างที่สนิทจะรู้ว่าถ้าอาการแบบนี้คือต้องรีบถอยห่างอย่าเข้าใกล้เพราะพร้อมระเบิดตลอดเวลา
“บอกกูมา เดี๋ยวกูไปคุยกับเหนือให้เอง”
“กูจัดการเองได้”
“ถ้าจัดการได้ มึงไม่เป็นแบบนี้หรอกไอ้ฟริน!”
“…..”
ติ๊ง! ดาวเหนือสะลึมสะลือตื่นขึ้นมาด้วยคยามงัวเงียเมื่อได้ยินโทรศัพท์แผดเสียงร้องดัง คนตัวเล็กถอนหายใจออกมาเบาๆ หลังจากที่เห็นรายชื่อของ ‘ฟริน’ ปรากฏอยู่บนหน้าจอ
(ทำอะไรอยู่ ทำไมโทรหาไม่ยอมรับสาย)
“…..”
(ออกมาหาหน่อย ตอนนี้ฉันรออยู่หน้าบ้านเธอ)
ร่างบางดีดตัวลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะรีบก้าวขาลงจากเตียง มองออกไปนอกหน้าต่างแล้วเห็นรถของฟรินที่จอดอยู่หน้าบ้าน
“ฟรินมาทำไม มีธุระอะไรดึกดื่นขนาดนี้”
(อยากมาเห็นหน้าเมีย)
“ดื่มมาด้วยเหรอ” เพียงแค่ได้ยินน้ำเสียงที่ยืดยานก็รู้ได้ว่าฟรินคงดื่มหนักมาก่อนหน้านั้น
(ออกมาหาหน่อยเหนือ…คิดถึง)
“…..”
(ถ้าไม่มา จะเข้าไปหาเอง)
“รออยู่ตรงนั้นแหละ เดี๋ยวเหนือรีบไป”
แกร๊ก…ประตูรั้วเหล็กถูกเปิดออกพร้อมหญิงสาวที่เดินออกมา ฟรินรีบเดินเข้าหาก่อนจะดึงเธอมากอดไว้แน่นแล้วจูบเบาๆ ด้วยความโหยหา
“ทำไมไม่รับสาย ทำไมไม่ตอบข้อความ” ฝ่ามือหนาประคองใบหน้าแสนหวานไว้แน่น จ้องมองหน้าเธออย่างร้อนรน
“เมาแล้วทำไมไม่กลับบ้าน มาหาเหนือทำไม”
“ตอบคำถามฉัน! อย่าเพิ่งเปลี่ยนเรื่อง”
“เหนือโกรธที่ฟรินทำแบบนั้น” ดาวเหนือพูดอย่างกระอักกระอ่วนฟรินใช้คลิปอย่างว่ามาเป็นเครื่องมือในการแบล็คเมล์ให้เธอยอมทำเรื่องแบบนั้น
“ถ้าหมายถึงคลิปนั่น ฉันลบทิ้งไปตั้งนานแล้ว”
“เหนือไม่ชอบให้ฟรินทำแบบนั้น”
“ถ้าเธอไม่ชอบจะไม่ทำอีก”
“…..”
“คิดถึง”
“เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็เจอกัน”
“อยากเจอตอนนี้” ชายหนุ่มดึงเธอมากอดไว้แน่น ฝังริมฝีปากลงไปขบเม้มออกแรงดูดที่ลำคอขาวเนียนจนเกิดรอย
“ตอนนี้ดึกแล้ว ฟรินกลับบ้านไปก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยคุยกัน”
“ถ้าจะให้ฉันกลับ เธอต้องไปด้วย”
“อืม…” แสงแดดสาดกระทบเข้ามาภายในห้องนอน ช่วยปลุกคนที่หลับอยู่ให้รู้สึกตัวตื่นขึ้นมา “อรุณสวัสดิ์” ดาวเหนือขยับพลิกตัวไปมา ก่อนจะลืมตาขึ้นมองเมื่อถูกหอมแก้มซ้ำแล้วซ้ำอีก “สายมากแล้ว วันนี้ไม่ไปทำงานเหรอคะ” “ให้ป๋าไปดูงานแทน วันนี้เลยมีเวลาว่างทั้งวัน” “ชนินทร์งอแงไหมคะ” หญิงสาวหยัดตัวลุกขึ้นนั่ง เอนหลังพิงหัวเตียง มองดูลูกชายคนเล็กที่อยู่ในอ้อมกอดของสามี “อยู่กับป๊าเป็นเด็กดี ไม่งอแงเลยครับ” “ปะ…ป๊า~” ชนินทร์ในวัยสิบเดือนเริ่มส่งเสียงเจื้อยแจ้ว วางหน้าซบลงบนลาดไหล่ของผู้เป็นพ่ออย่างออดอ้อน “ว่าไงสุดหล่อ อ้อนป๊าทำไม” “ป๊า~” “อยากมีลูกอีกสักสิบคน” ไม่พูดเปล่า แต่ยังปรายสายตามองไปทางภรรยาด้วยสีหน้าจริงจัง “เพ้อเจ้อ” “ถ้าเธอไม่หนีไปทำหมัน ป่านนี้คงกำลังท้องลูกฉันอยู่” “ใจคอไม่คิดจะให้พักบ้างเลยหรือไง เหนือเป็นคนนะ ไม่ใช่แม่วัว” ดาวเหนือถอนหายใจลากยาวด้วยความท้อใจ เพราะวันๆ ฟรินเอาแต่คิดหมกมุ่นอยู่กับเธอ ต่อให้เวลาจะผ่านไปนานกี่วัน กี่เดือน หรือกี่ปี เข
“ทำไมที่คอของแม่มีรอยแดง” ดาวเหนือหยุดชะงัก รีบดึงคอเสื้อขึ้นมาปิดลำคอ หลังจากได้ยินคำถามของลูกสาว “ป๊าทำเอง” ฟรินรีบออกรับแทน พลางไล่สายตามองปฏิกิริยาของภรรยา “ป๊ากับแม่ทะเลาะกันเหรอ บีบคอแม่ทำไม” “ป๊าไม่ได้บีบคอแม่ ป๊าแค่จุ๊บแรงๆ” “แล้วแม่เจ็บไหม” ลูกสาวคนโตหันมาถามผู้เป็นแม่อย่างไร้เดียงสา “จะ…เจ็บค่ะ” ดาวเหนือพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะหันไปถลึงตาใส่สามีด้วยความไม่พอใจ “ทีหลังป๊าห้ามจุ๊บแม่แรงนะ ศุกร์ให้จุ๊บเบาๆ ก็พอ” “งั้นคราวหน้าป๊าจะจุ๊บเบาๆ” “ฟรินนั่งคุยกับลูกไปก่อนนะ เดี๋ยวเหนือจะเข้าครัวไปหยิบจานผลไม้มาให้” “อย่าไปนาน…คิดถึง” ดึงมือของหญิงสาวมาหอมซ้ำไปซ้ำมา รู้ตัวว่าเสพติด รู้ว่าคลั่งเธอมาก แต่ก็หยุดพฤติกรรมเหล่านี้ไม่ได้ “ปัญญาอ่อนฉิบหาย” แฟรงก์ที่นั่งเงียบอยู่นาน เบะปากมองคว่ำด้วยความรำคาญใจ สองผัวเมียคู่นี้มันยอมกันที่ไหน ไอ้แว่นมันคิดจะทำอะไรก็ทำโดยไม่สนสถานที่หรือผู้คน “สาธุ…กูขอให้เหนือมีผัวใหม่ในเร็วๆ นี้ จะได้หลุดพ้นจากคนประสาทอย่างมึง”
“นิ่งเฉยอยู่ทำไม หรืออยากใช้มากกว่าปาก?” ดาวเหนือคุกเข่าลงตรงหน้า เลื่อนสองมือเข้าไปถอดกางเกงของชายหนุ่มออกอย่างรู้งาน ดวงตาคู่สวยไหวสั่น มองความเป็นชายที่กำลังขยายตัว ถึงแม้จะเห็นอยู่แทบทุกวันแต่หัวใจยังคงเต้นแรงทุกครั้ง ปากบางครอบลงบนแก่นกายอย่างละเมียดละไม เรียวลิ้นอุ่นเลียวนไปทั่วบริเวณส่วนปลาย ก่อนจะออกแรงดูดเบาๆ สัมผัสได้ถึงน้ำสีใสที่ไหลซึมเปียกแฉะไปทั่วริมฝีปาก ฟรินก้มลงมองการกระทำของคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยา ท่าทางไม่ประสีประสาแต่เขากลับมองว่ามันน่าหลงไหลจนโงหัวไม่ขึ้น “แค่เห็นหน้าเหนือก็เหมือนจะแตก” “อึก…” ใบหน้าแสนหวานเบ้เบี้ยว เมื่อแก่นกายขยายใหญ่คับริมฝีปากจนเธอเริ่มรู้สึกหายใจติดขัด ปลายนิ้วเรียวเกลี่ยพวงแก้มแดงระเรื่ออย่างนึกเอ็นดู ภาพที่เธอกำลังนั่งคุกเข่าอยู่ตรงหน้าเป็นสิ่งที่เขาอยากเห็นมากที่สุด มือสากเลื่อนเข้าไปจับศีรษะของหญิงสาวไว้มั่น ก่อนจะอัดกระแทกความเป็นชายเข้าออกในโพรงปากเล็กตามจังหวะที่ต้องการซ้ำแล้วซ้ำอีก “อยากให้แตกใส่ตรงไหน” “แล้วแต่ฟรินจะทำ”
“ชนินทร์น่ารักจังเลย หนูขอจับน้องได้มั้ยคะ” ดาวศุกร์เกาะขอบเตียงเขย่งปลายเท้าขึ้นมองน้องชายด้วยความตื่นเต้น “ได้ค่ะ จับน้องเบาๆ นะคะ” “ศุกร์รักน้องค่ะแม่” ดาวศุกร์เผยรอยยิ้มกว้างอย่างมีความสุขเมื่อมองเห็นน้องชายตัวจิ๋ว “เป็นพี่น้องต้องรักกันนะคะ” “ถ้าศุกร์โต เดี๋ยวศุกร์จะเป็นคนเลี้ยงน้องแทนแม่กับป๊าเอง” เพราะเห็นว่าป๊าทำงานหนักเลยอยากแบ่งเบาภาระช่วยดูแลแม่กับน้อง “ลูกสาวของแม่คนนี้เก่งที่สุดเลยค่ะ” “ป๊าแฟรงก์เคยสอน บอกว่าถ้าศุกร์เป็นเด็กดีจะมีแต่คนรักเรา” เด็กน้อยยืดอกพูดด้วยความภาคภูมิใจ เพราะถ้าดื้อมากๆ จะโดนป๊าแฟรงก์ดึงหู “ใช่แล้วค่ะ ถ้าหนูเป็นเด็กดี ทุกคนจะรักหนู” “ศุกร์สัญญาเลยว่าจะไม่ดื้อไม่ซน ป๊ากับแม่จะได้รักศุกร์มากๆ” โชคดีที่ดาวศุกร์เป็นเด็กเลี้ยงง่าย อาจจะซุกซนไปบ้างตามวัยแต่มีจิตใจดี ชอบสงสารและช่วยเหลือคนอื่นอยู่เป็นประจำ “…..” “เอาอีกดิไอ้แว่น” แฟรงก์สะกิดน้องชายเบาๆ เพื่อให้หันมองลูกทั้งสามคนที่กำลังวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน “อะไร?”
“ทำไมวันนี้คนสวยตื่นเช้า ไม่นอนต่ออีกสักหน่อยเหรอ” ชายหนุ่มเดินเข้าไปสวมกอดคนตัวเล็กไว้แน่นจากทางด้าน โน้มริมฝีปากพรมจูบที่ลำคอขาวเบาๆ ด้วยความหวงแหน วันนี้ดาวเหนือตื่นเช้ากำลังยืนดูพระอาทิตย์ขึ้นอยู่ริมระเบียงห้องของบ้านพัก “อยากดูพระอาทิตย์ขึ้นค่ะ” “สวยมาก” “ใช่ค่ะ สวยมากเลย” “ไม่ได้หมายถึงพระอาทิตย์ แต่ฉันหมายถึงเธอ” ปลายนิ้วเรียวลูบไล้พวงแก้มอมชมพูอย่างอ่อนโยน “ตื่นมาก็อ้อนเมียแต่เช้าเลยนะคะ” เขย่งปลายเท้าขึ้นไปหอมแก้มของสามีเบาๆ “อยากทำมากว่าอ้อนอีก” “…..” ใบหน้าแสนหวานเห่อร้อนด้วยความเขินอาย ขยับถอยหนีแต่ฟริน ยังคงเดินตามไม่ห่างไปไหน “อยากย้ายมาอยู่ที่นี่มั้ย เธอจะได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นทุกวัน” “เหนือชอบที่นี่ แต่ฟรินเองก็ยังมีธุรกิจและลูกน้องที่ต้องดูแล เอาไว้ก่อนก็ได้ค่ะ” “ขอแค่บอกมาคำเดียว เดี๋ยวที่เหลือฉันจัดการเอง” อะไรที่เป็นความสุขของลูกกับเมียเขายินดีทำให้แบบไม่มีข้อแม้ “คงต้องถามลูกๆ ก่อนว่าอยากมาอยู่ที่นี่ไหม เหนือแล้วแต่ลูก” “ส่วนฉั
“กินผักเยอะๆ หลานแฟรงก์จะได้แข็งแรง” แฟรงก์ยื่นจานผักและผลไม้ให้หญิงสาวที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ดาวเหนือท้องแก่ใกล้คลอดจำเป็นต้องกินแต่ของที่มีประโยชน์ “เหนือว่าคนนี้ต้องตัวโตมากแน่เลย” คนตัวเล็กเผยรอยยิ้มบางๆ อย่างมีความสุข ทุกคนในครอบครัวล้วนแต่เฝ้ารอที่จะได้เห็นหน้าสมาชิกใหม่ “ตัวโตก็ดีแล้ว จะได้ดูแลปกป้องพี่สาวได้” “ศุกร์ดูแลตัวเองได้ ไม่ต้องให้ใครมาปกป้องหรอก” ดาวศุกร์พูดขึ้นลอยๆ ก่อนจะก้มหน้าก้มตาทานอาหารในจานของตัวเอง “ตัวแค่นี้อย่าทำซ่าส์นะศุกร์” “ก็ป๊าฟรินเป็นคนสอนหนูเองว่าให้ลูกเข้มแข็ง” “สภาพอย่างไอ้แว่นเนี่ยนะจะมาเข้มแข็ง ตอนโดนเมียทิ้งร้องไห้จะเป็นจะตาย” แฟรงก์หรี่สายตามองหน้าน้องชายอย่างเอือมๆ “ป๊าต้องไปนั่งเฝ้านอนเฝ้า อดหลับอดนอน จนจะเป็นบ้าตามมันไปอีกคน” “กูอยู่ของกูดีๆ ไอ้แฟรงก์ อย่ามาลามปาม” คนที่ถูกกล่าวหา เกิดอาการร้อนตัวรีบพูดแทรกขึ้น เขาอุตส่าห์นั่งเงียบๆ แต่ก็ก็ยังมิวายโดนพูดจากระแทกแดกดัน “กูพูดความจริงทั้งนั้น มึงรับไม่ได้เหรอ” “แล้วเมียของป๊าเ