กริ๊ง... กริ๊ง...
“คิดถึงม่านเหรอคะถึงได้โทรมา”
‘ก็ต้องคิดถึงอยู่แล้วสิครับ นี่พี่ตั้งใจจะโทรตั้งแต่พี่ถึงแล้วนะ แต่พี่ไม่อยากรบกวนเวลาทำงานของม่าน ถึงได้โทรมาช้าแบบนี้’
“น่ารักจังเลยค่ะ ไปดูงานต่างจังหวัดโดยที่ม่านไม่ได้ไปด้วยแบบนี้อย่าไปหว่านเสน่ห์ใครนะคะ ม่านรู้ม่านไม่ยอมจริง ๆ ด้วย”
‘หึหึ พี่ไม่ไปทำกับใครหรอกครับ ถ้าจะหว่านเสน่ห์ใครสักคนแค่ม่านคนเดียวก็พอ จะทำให้รักให้หลงพี่จนโงหัวไม่ขึ้นเลยดีไหมครับ’
“คิกคิก พี่ก้องล่ะก็ ม่านล้อเล่นค่ะ ม่านไว้ใจพี่ก้องจะตาย แล้วนี่เข้าพักในโรงแรมที่จองไว้เรียบร้อยแล้วใช่ไหมคะ”
‘เรียบร้อยแล้วครับ ดีที่คุณปรายจัดการให้ ไม่งั้นพี่คงลืมว่าวันนี้ต้องมาดูงานที่จังหวัดนี้’
“อย่าลืมขึ้นเงินเดือนให้พี่ปรายนะคะ แล้วก็ห้ามใช้งานพี่ปรายหนักด้วย”
‘ครับครับครับ รู้แล้วน่า งั้นแค่นี้ก่อนนะครับ ถ้าเลิกงานกลับบ้านแล้วโทรหาพี่ด้วยน้า’
“ค่ะ รักนะคะ”
‘รักเช่นกันครับ’
หลังวางสายจากก้องเกียรติ ม่านไหมก็ได้สายตาล้อเลียนจากกิ่งกมล แต่เธอก็ไม่สนใจแสร้งตักข้าวเข้าปากไป แล้วหันหน้าหนีทันที
“พี่ทานข้าวด้วยคนนะครับ” กิ่งกมลละสายตาจากม่านไหม ก่อนจะหันไปสนใจคนพูด
“เชิญค่ะพี่ปราชญ์” กิ่งกมลตอบยิ้ม ๆ แต่ชายหนุ่มก็ยังไม่ยอมนั่ง จนได้รับรอยยิ้มพร้อมกับการก้มหน้าเป็นเชิงว่าอนุญาตจากม่านไหมแล้วนั่นแหละ เขาถึงได้นั่งลง
กิ่งกมลมองหน้าม่านไหมทีปราชญาทีแล้วก็ทอดถอนใจ เพราะสายตาของปราชญาฟ้องออกมาขนาดนั้นว่าชอบ ไม่สิ ต้องบอกว่ารักเพื่อนเธอมากขนาดไหน แม้จะรู้สึกสงสารและเห็นใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว เพราะเพื่อนเธอรักก้องเกียรติมาก แถมทั้งคู่ยังแต่งงานกันแล้วด้วย ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ เธอก็ได้แต่หวังว่าปราชญาจะตัดใจได้ในเร็ววัน เพราะไม่อยากนั้นเขาคงเจ็บปวดมากกว่านี้
หลังทานข้าวเสร็จทั้งสามก็แยกย้ายกันไปทำงานตามปกติ จวบจนเวลาเลิกงานก็ต่างฝ่ายต่างกลับบ้าน
เมื่อถึงบ้านหลังจากอาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอจึงโทรเข้าไปหาก้องเกียรติแต่ปรากฏว่าเขาไม่รับสาย เธอก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะบางทีเขาอาจจะหลับก็ได้ เธอจึงละความสนใจก่อนจะมานั่งดูละครของช่องน้อยสี
ติ๊ง! ติ๊ง!
ผู้หวังดี : ส่งรูปภาพให้คุณ
ผู้หวังดี : ตายแล้ว สามีใครน้า...
เมื่อเห็นรูปภาพและข้อความที่ส่งมาจากคนคนเดิม ใจที่เคยสงบนิ่งของม่านไหมก็สั่นระรัว แต่เธอก็พยายามปลอบใจตัวเองว่ามันอาจจะไม่มีอะไรก็ได้
รูปภาพที่ถูกส่งเข้ามาคือแผ่นหลังกว้างของสามีเธอที่กำลังนั่งอยู่ในสถานบันเทิงยามค่ำคืนแห่งหนึ่ง
แวบแรกที่เห็นหญิงสาวรู้สึกใจกระตุก แต่เมื่อมองดูภาพดี ๆ และซูมภาพให้ชัดขึ้นก็รู้สึกสบายใจ เมื่อคนที่อยู่ในภาพไม่ได้มีแค่สามีเธอกับปรายฟ้า แต่ยังมีผู้ชายอีกสองคนที่นั่งร่วมวงอยู่ด้วย
นี่เป็นไปได้ว่าเขาอาจจะพาลูกค้าไปเลี้ยง เพราะก่อนหน้านี้ที่เขาโทรมาเขาก็บอกเธอไว้แล้ว ว่าบางทีอาจต้องพาลูกค้าไปเลี้ยงอาหารหรือเครื่องดื่ม
เมื่อสงบจิตใจได้ เธอจึงละความสนใจจากคนที่ส่งข้อความเข้ามา ปิดทีวีและปีนขึ้นเตียงเพื่อนอนหลับพักผ่อน
ส่วนภาพที่ปรายฟ้านั่งแนบชิดกับสามีเธอนั้น พรุ่งนี้ค่อยส่งภาพกลับไปให้เขาและสอบถามก็ได้
ในขณะที่ม่านไหมคิดบวกให้เกียรติสามีและปรายฟ้า รวมถึงไว้ใจคนทั้งคู่มากอย่างไร้กังวลอยู่นั้น สามีอย่างก้องเกียรติกลับกำลังกระทำบางอย่าง บางอย่างที่ว่าถ้าม่านไหมรู้คงไม่สามารถรับได้แน่
“อื้อ อาส์ เร็วอีก” เสียงผู้หญิงร้องบอกให้คนที่อยู่บนเรือนร่างเธอรีบเร่งจัดการส่งเธอให้ถึงฝั่งฝัน
ปัก ปัก ปัก
“นี่แน่ะ ยั่วดีนัก” เสียงชายหนุ่มพูดในขณะที่เขาก็ส่งตัวตนของตัวเองเข้าหาหญิงสาวอย่างรุนแรง
“อา... ดีจัง สะ... อื้อ เสียว” เสียงหวานครางออกมาพร้อมทั้งส่ายก้นบดอัดรับแรงกระแทกอย่างยั่วยวน
ร่างใหญ่ของชายหนุ่มปริศนาเห็นดังนั้นก็ยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะกดตัวหญิงสาวให้แนบชิดลงไปกับเตียงนอน ส่งผลให้ก้นขาวลอยเด่นมากกว่าเดิม
ผับ ผับ ผับ
เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังไปทั่วห้อง พร้อมกับที่เสียงของผู้หญิงปริศนาร้องครางออกมาอย่างหนัก ไม่พอหญิงสาวคนดังกล่าวยังขวัญกล้าเอี้ยวตัวหันมาส่งสายตายั่วยวนยกยิ้มมุมปากเลิกคิ้วท้าทายให้ผู้ชายที่กำลังทะลวงร่างเธออีกด้วย
เพียะ! เพียะ! เพียะ!
ฝ่ามือหนาฟาดเข้าที่บั้นท้ายงอนงามสามครั้งติดจนปรากฏรอยนิ้วมือสีแดง
“ขออีก แรง ๆ อื้อ” เสียงหวานครางบอก ก่อนที่เธอจะร้องออกมาอย่างสุขสม เมื่อจู่ ๆ ก็ถูกกระแทกกระทั้นเข้ามาอย่างรวดเร็ว และรุนแรง
พับ พับ พับ
“อื้อ อื้อ อื้อ”
“อาส์ รัดแน่นเชียวนะ”
“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ กะ... ใกล้แล้ว”
“พร้อมกัน” ชายหนุ่มบอกก่อนจะขยับสะโพกถี่ระรัวด้วยความเร็ว ไม่นานนักทั้งสองก็กระตุกปลดปล่อยความต้องการออกมาอย่างสุขสม
ชายหนุ่มทิ้งตัวลงฟุบหน้าลงบนแผ่นหลังขาวนวล ปล่อยให้ตัวตนของเขาถูกหญิงสาวรีดพิษร้ายออกไป
ไม่นานหลังจากนั้นบางสิ่งบางอย่างในตัวของหญิงสาวก็เริ่มขยับขยายใหญ่ขึ้นทั้ง ๆ ที่พึ่งพ่นพิษออกไป ชายหนุ่มชักตัวตนของเขาออกมาดึงถุงยางอนามัยออกก่อนจะหยิบถุงยางชิ้นใหม่มาสวมลงไป เรียบร้อยแล้วจึงจับหญิงสาวยืนขึ้นให้แผ่นหลังบางแนบชิดกับผนังห้อง ยกขาขวาขึ้นเกาะเกี่ยวเอวหนาพร้อม ๆ กับที่เขาส่งตัวตนเข้าไปในตัวเธอภายในครั้งเดียว
จากนั้นบทรักระหว่างทั้งคู่ก็เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง และอีกครั้ง...
5 ปีผ่านไป“คุณพ่อขา... ช่วยปิ่นด้วยค่าพี่ปืนทำหนู”“ไม่จริงนะครับ น้องปิ่นต่างหากที่แกล้งผมก่อน ผมแค่ป้องกันตัว” สองเสียงของเด็กเล็กชายหญิงดังขึ้นไล่เลี่ยกัน ก่อนจะมีร่างจ้ำม่ำของทั้งสองวิ่งไล่ตามกันมา ก่อนผู้เป็นเด็กหญิงจะวิ่งเข้าไปหาผู้เป็นพ่อเพราะเธอมาถึงก่อนปราชญาอ้าแขนรับร่างของเด็กหญิงก่อนจะอุ้มเข้าเอวแล้วหอมฟอดใหญ่ ก่อนจะหันไปอุ้มเด็กชายขึ้นมาเข้าเอวอีกข้าง“ไหนเล่าให้พ่อฟังหน่อยครับว่าเกิดอะไรขึ้น” ปราชญาเอ่ยถามทั้งสองคนที่แท้เด็กชายและเด็กหญิงที่ว่าคือลูกของเขา ผู้เป็นเด็กหญิงมีชื่อว่า ปิ่นมุก ส่วนเด็กชายอีกคนชื่อ ปืนกันต์ ทั้งสองเป็นฝาแฝดชายหญิงที่หน้าตาเหมือนกันราวกับแกะ หากไม่สนิทและรู้จักมักคุ้นจริง ๆ คงจะแยกแยะได้ยากปิ่นมุกแฝดน้องมีนิสัยค่อนข้างแสบและซน เจ้าเล่ห์ตั้งแต่เด็กเรื่องนี้ทำปราชญาและม่านไหมปวดหัวอยู่ทุกวันปืนกันต์แฝดพี่กลับเป็นคนเรียบง่ายติดจะเย็นชา แต่ความเจ้าเล่ห์เจ้าแผนการกลับมีมากกว่าผู้เป็นน้องสาวที่คลานตามกันออกมาหลายขุมอย่างไรก็ตามเด็กทั้งสองคนนับเป็นเด็กที่ฉลาดมาก อายุเพียงสามขวบกว่าก็พูดจาคล่องแคล่วแล้ว“ว่าไงครับ ไหนเล่ามาสิว่าเกิดอะไรขึ้น” ป
ม่านไหมและปราชญาผละกอดจากกัน ชายหนุ่มจ้องตาเธอนิ่งเขาอยากจูบเธอแต่ไม่กล้าพอ ม่านไหมยิ้มก่อนจะเป็นฝ่ายโน้มหน้าไปจูบเขาก่อนทันทีที่ริมฝีปากของทั้งสองแตะกันก็คล้ายกับมีแรงดึงดูดทั้งเขาและเธอเอาไว้ ฝ่ามือหนาของปราชญาจับล็อกที่ต้นคอของหญิงสาวก่อนจะเป็นฝ่ายแทรกเรียวลิ้นบดขยี้จูบหวานหอมแสนอ่อนโยนให้กับเธอ ปราชญาไม่สามารถหักห้ามอารมณ์ไว้ได้อีก มือหนาเคลื่อนไปตามสัญชาตญาณ กอบกุมอกอวบของเธอที่เขาเคยฝันถึงไว้ในอุ้งมือ ก่อนจะบีบขยำเคล้าคลึงเล่นไปมาปากก็ยังจูบม่านไหมไม่ยอมปล่อย จนหญิงสาวทุบตีที่หน้าอกเพราะหายใจไม่ทัน ชายหนุ่มถึงได้ผละปากออกมาให้เธอหายใจหายคอแต่การกระทำของเขาไม่ได้หยุดเพียงเท่านั้น ปราชญาเคลื่อนริมฝีปากไปตามกรอบหน้าของหญิงสาว ก่อนจะไปแวะเล็มขบกัดติ่งหูจนหญิงสาวขนลุกซู่“อื้อ... พี่ปราชญ์ขา” จากตอนแรกที่คิดว่าจะแกล้งเธอเท่านั้น ตอนนี้เขาไม่สามารถข่มกลั้นความอดทนได้อีกต่อไป เพียงเพราะได้ยินเธอเรียกชื่อเขาเสียงหวาน“ม่านครับพี่ขอโทษแต่พี่ห้ามตัวเองไม่ได้แล้ว” เขาละริมฝีปากที่ซุกไซ้ซอกคอของเธอก่อนจะเงยหน้าพูดม่านไหมยิ้มรับก่อนจะเอื้อมมือไปกอดคอเขาไว้แล้วโน้มหน้าเขาลงมาบดจูบเธออี
ตั้งแต่ที่ม่านไหมรู้ว่าปราชญาจีบเธอ ปราชญาก็เปลี่ยนไปทันที สิ่งที่เปลี่ยนไปก็คือเขารุกหญิงสาวมากกว่าเดิม แต่สิ่งที่ชายหนุ่มไม่เคยเปลี่ยนหรือขาดไปนั่นก็คือความเอาใจใส่ของเขานี่ก็ผ่านมาสามเดือนได้แล้ว ที่ปราชญาจีบม่านไหม แรก ๆ ม่านไหมก็เกร็งแต่ปัจจุบันนี้เธอทำตัวตามสบาย ยิ่งถูกปราชญาเอาใจใส่และตามใจมาก ๆ หญิงสาวก็นึกกลัวตัวเองว่าจะเสียนิสัยเข้าสักวัน“เลิกงานแล้ว วันนี้พี่เหนื่อยมากเลยครับ” ปราชญาพูดหลังจากที่เห็นว่าหญิงสาวเดินขึ้นรถมาแล้วทุกวันนี้ม่านไหมขึ้นรถมาทำงานกับปราชญาแทบทุกวัน วันไหนที่ไม่ได้มาด้วยกันคือวันที่ปราชญามีประชุมข้างนอกหรือคุยงานหญิงสาวยิ้มให้กับคนตัวโตที่หันมาอ้อนเธอทุกครั้งที่เธอเดินขึ้นรถ หญิงสาวยอมรับว่าทุกวันนี้หญิงสาวรู้สึกดีมากที่มีเขาอยู่ข้าง ๆ ปราชญาเสมอต้นเสมอปลายกับเธอมาโดยตลอด จนหญิงสาวไม่กลัวแล้วว่าเขาจะเป็นเหมือนก้องเกียรติ“งั้นม่านนวดให้ดีไหมคะ”“ได้เหรอครับ” หญิงสาวหัวเราะเมื่อเห็นอาการถูกใจของเขา ก่อนจะพยักหน้ารับตอนนี้ท่าทางของปราชญาไม่ต่างไปจากเด็กที่ได้ของเล่นเลยด้วยซ้ำ“งั้นวันนี้เราจะทานอะไรกันดีครับ พี่หิวมาก”“แกงถุงไหมคะ ม่านมีร้านแนะนำ”
พี่เป็นห่วง...พี่เป็นห่วง...พี่เป็นห่วง...“ม่าน”“...”“ยายม่าน!”“ฮะ! อะไร มีอะไร”“เหม่ออะไรของแก เป็นอะไร”“ปะ เปล่า ไม่ได้เป็นอะไร ฉันแค่กำลังคิดอะไรนิดหน่อย” ม่านไหมตอบ“แน่นะ”“อืม” ม่านไหมตอบรับ ก่อนจะสนใจหนังสือนิยายในมือหญิงสาวไม่กล้าบอกเพื่อนว่าเธอกำลังคิดถึงคำพูดของปราชญา เธอกำลังสับสน และกำลังคิดถึงความเป็นไปได้ว่าอะไรทำให้ปราชญาพูดกับเธอแบบนั้นสายตาห่วงใยคำพูดพวกนั้นมันไม่สมควรเกิดขึ้นกับคนที่กำลังจีบ แต่ถึงแม้จะเกิดขึ้นสายตาของเขาไม่ควรที่จะลึกซึ้งมากขนาดนี้ มันลึกซึ้งเหมือนกับว่าชายหนุ่มรักเธอมาก“ม่าน”“ว่า”“แกคิดว่าพี่ปราชญ์เป็นยังไง” คำพูดของกิ่งกมล ทำเอาม่านไหมนิ่งค้างไป“เงียบทำไม ตอบมาสิ” กิ่งกมลเร่งเร้า“ไม่รู้สิ” คำตอบของม่านไหม ทำเอากิ่งกมลเด้งตัวลุกขึ้นแล้วมองหน้าม่านไหมอย่างเอาเรื่องทันที“แกจะไม่รู้ได้ไง พี่ปราชญ์ดูเป็นห่วงเป็นใยแกมากขนาดนั้น บอกฉันมานะว่าแกคิดอะไรอยู่”“ฉันไม่ได้คิดอะไร”“ยายม่าน!”“เฮ้อ! ก็แค่กำลังคิดว่าอะไรทำให้พี่ปราชญ์รู้สึกกับฉันเกินกว่าเจ้านายลูกน้อง”“นี่แกไม่รู้” กิ่งกมลถามด้วยความไม่เชื่อ เธอไม่เชื่อว่าเพื่อนของเธอจะใสซื่อขนา
“อะ เอ่อ... ทานสุกี้ดีกว่าครับ ดูสิวุ้นเส้นอืดหมดแล้ว”“ใช่ ๆ ๆ ยายม่านรีบทานเร็ว”คีรินทร์ที่ทนความอึดอัดและความเงียบที่มีต้นเหตุมาจากเพื่อนตัวเองไม่ไหว จึงรีบพูดออกมาพร้อมทั้งพยักหน้าให้แฟนสาวรีบช่วยพูดเพื่อแก้ไขสถานการณ์ทันทีม่านไหมที่ได้สติจากที่เพื่อนของเธอเรียกชื่อ ก็รีบตักวุ้นเส้นขึ้นมาและทานเงียบ ๆ เธอก้มหน้าก้มตาทานจนได้รับสายตาเอ็นดูจากปราชญาทั้งคีรินทร์และกิ่งกมลรู้สึกว่าตอนนี้พวกเขาเหมือนกับว่าเป็นคนนอกอยู่ตลอดเวลา เพราะปราชญาเล่นไม่สนใจใครเลย คนเดียวที่เขาสนใจคือม่านไหม ไหนจะคำพูดที่พึ่งพูดไปก่อนหน้า แล้วตอนนี้ยังตักนั่นตักนี้ให้ม่านไหมอีกคีรินทร์และกิ่งกมลมองหน้ากันแล้วถอนหายใจออกมา“พอแล้วค่ะ ม่านอิ่มแล้ว”“ทานเยอะ ๆ ครับ พี่ว่าม่านพร้อมไป ต้องทานอีกหน่อย พี่เป็นห่วง”ฉ่า!!!แก้มม่านไหมเห่อร้อนทันที หญิงสาวรู้สึกว่าเหมือนเธอกำลังถูกจีบ!“ไอ้ปราชญ์!”“อะไร”“แกพูดอะไรออกมารู้ตัวหรือเปล่า”“รู้สิ ก็ฉันเป็นห่วงน้องม่านจริง ๆ นี่” ปราชญาหันไปตอบคีรินทร์ แล้วหันหน้ามามองหญิงสาวสายตาเต็มไปด้วยความห่วงใยและอ่อนโยนครั้งนี้ม่านไหมไม่หลบตาเธอต้องการพิสูจน์สิ่งที่เธอรู้สึกสงส
จากวันที่หญิงสาวหย่าขาดจากก้องเกียรติ เธอก็ไม่ได้ข่าวคราวเขาอีกเลย รู้เพียงว่าเขาได้เดินทางไปต่างประเทศพร้อมปรายฟ้าแล้ว ส่วนบริษัททางนี้ก็ให้ญาติลูกพี่ลูกน้องของเขาดูแลให้ม่านไหมใช้ชีวิตตามปกติ เธอยังคงมาทำงานใช้ชีวิตเป็นพนักงานออฟฟิศเหมือนเดิม เพียงแต่ว่ารอยยิ้มของเธอไม่ค่อยมีก็เท่านั้นต้องบอกก่อนว่าหลังจากที่เธอขับรถออกจากสำนักงานเขตในวันที่ไปจดทะเบียนหย่านั้น หญิงสาวก็กลับมาร้องไห้ที่ห้องของกิ่งกมลม่านไหมไม่สามารถทนต่อความเสียใจได้ เดิมทีวันที่สิบมีนาคือวันครบรอบวันแต่งงานของเธอกับเขา แทนที่จะมีความสุขและร่วมฉลองในวันดังกล่าว กลับกลายเป็นว่าทุกข์ระทมเพราะหย่าซะเองม่านไหมร้องไห้หนักอยู่เป็นอาทิตย์ ในที่สุดก็หยุดร้องไห้ได้ เพราะได้กำลังใจดี ๆ จากคนที่ห่วงใยเธอทุกคนและเมื่อเธอดีขึ้นแล้ว หญิงสาวก็กลับมาทำงานตามปกติ ชีวิตของเธอยังคงดำเนินไปเหมือนเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมนั่นคงจะเป็นปราชญาที่ช่วงนี้ขยันมาอยู่ใกล้เธอเสียเหลือเกินใกล้ม่านไหมมาก จนบางครั้งหญิงสาวรู้สึกอึดอัด“ม่านไปทานข้าวกัน”“จ้า ขอเก็บของแป๊บ” ม่านไหมตอบกลับกิ่งกมลที่ตอนนี้ยืนส่งยิ้มให้เธออยู่ หลังจากม่านไหมเก็บของเ