คนที่ไว้ใจสุดท้ายร้ายที่สุด... เมื่อเรื่องราวความรักของม่านไหมโรยไปด้วยกลีบกุหลาบที่ถูกก้องเกียรติสร้างขึ้นมา ชวนให้หลงมัวเมากับฉากหน้าอันแสนหวานยากจะถอนตัว กว่าจะรู้ตัวก็กลายเป็นว่าเธอถูกหนามแหลมคมของดอกกุหลาบที่ชื่นชอบคอยทิ่มแทงให้เธอเจ็บแล้ว ราวกับโลกทั้งโลกแหลกสลาย ความไว้ใจที่มีมาพังทลายลง! คนที่มั่นคงและซื่อสัตย์ในรักอย่างเธอต้องมานั่งเสียใจนอนร้องไห้ ต้องเจ็บปวดจากการกระทำของคนที่เธอรักและไว้ใจที่สุด เธอจะเลือกอะไรระหว่างอดทนยอมรับชะตากรรมความเจ็บปวดที่เธอไม่ได้เป็นคนก่อและให้อภัยเขาในที่สุด หรือ! เดินหน้าเริ่มต้นใหม่กับใครอีกคนที่หวังดีกับเธอตลอดมา
더 보기รุ่งอรุณแสนสดใส แสงสีทองทอประกายสาดส่องทะลุผ่านผ้าม่านสีขาวบางเข้ามาด้านในห้อง ทว่าแสงแห่งยามเช้าไม่สามารถรบกวนคู่รักสามีภรรยาที่ตระกองกอดแนบชิดสนิทกันบนเตียงนอนหลังใหญ่ได้
บรรยากาศภายในห้องดูแตกต่างกับด้านนอกลิบลับ หลังแสงดวงอาทิตย์เจิดจ้าหมู่มวลชนต่างก็พากันตื่นจากนิทรา จัดการตัวเองเร่งรีบทำเวลาเพื่อที่จะออกไปทำงาน ตามการใช้ชีวิตของแต่ละคน
เช่นเดียวกับสองร่างที่ยังคงนอนอยู่ภายในห้อง
“อื้อ ปล่อยค่ะ” เสียงหวานครางประท้วง ก่อนจะขยับตัวเล็กน้อยผลักดันร่างบางของตัวเองออกจากอ้อมกอดแกร่ง ก่อนจะลุกขึ้นนั่งมองคนที่ยังไม่ปล่อยมือออกจากเอวบางของเธอ
“จะรีบตื่นไปไหนครับ นอนพักอีกหน่อยเถอะ” เสียงทุ้มของชายหนุ่มดังขึ้นขณะที่ตายังคงหลับแน่นไม่มีทีท่าว่าจะลืมขึ้นมาเลยแม้แต่น้อย เท่านั้นยังไม่พอเขายังพยายามบอกให้หญิงสาวนอนเคียงข้างเขาอีกด้วย
หญิงสาวยิ้มหวานกับการกระทำของเขา ทั้งรู้สึกรักใคร่และเอ็นดูที่เขาทำตัวน่ารักไม่เสื่อมคลายไม่ว่าจะผ่านมากี่ปี เขาก็ยังคงเป็นสามีที่น่ารักและแสนดีของเธอเสมอ
“ไม่ได้หรอกค่ะ เดี๋ยวพี่ก้องไปทำงานสายนะคะ”
“ฮื้อ! ใครจะกล้ามาว่าเจ้าของบริษัทกัน ลองมีดูสิจะให้ใบเตือนให้หมด”
“คิก ก็ม่านนี่แหละค่ะที่จะว่าและดุพี่ก้องถ้ายังคงไม่ปล่อยมือที่กอดเอวม่าน” หญิงสาวหัวเราะเล็กน้อยก่อนจะพูดออกมา
“พี่อยากกอดม่านนาน ๆ นี่ครับ”
“ไม่ต้องเลยค่ะ ปล่อยม่านได้แล้ว ม่านจะได้รีบลงไปทำอาหารเช้าให้พี่ก้องทานก่อนไปทำงานไงคะ”
“ก็ได้ครับ งั้นพี่ก็จะตื่นเหมือนกัน ไม่อยากเอาเปรียบม่านมากไปกว่านี้ เพราะเมื่อคืนนี้พี่ก็เอาเปรียบม่านมากพอแล้ว” พูดพร้อมยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปากส่งให้หญิงสาว ทำให้เธอเขินอายหน้าแดงปลั่ง ฝ่ามือเล็กฟาดลงบนต้นแขนของชายหนุ่มจนเกิดเสียงดัง
เพียะ!
“โอ๊ย! ตีพี่ทำไม พี่เจ็บนะครับ”
“ไม่คุยกับพี่ก้องแล้วค่ะ ม่านไปล้างหน้าแล้วไปทำอาหารดีกว่า” ไม่รอให้ตัวเองถูกกลั่นแกล้งมากไปกว่านี้ หญิงสาวที่แทนตัวเองว่าม่านก็วิ่งเข้าห้องน้ำไปทันที
“รักนะครับ” แต่ก็ไม่วายจะได้ยินเสียงตะโกนบอกรักจากปากชายหนุ่มดังตามหลังมา
ชายหนุ่มยิ้มขำให้กับความน่ารักของภรรยาสาว ทั้ง ๆ ที่แต่งงานกันมาก็นานนับปีแล้ว แต่ภรรยาของเขาก็ยังคงเขินอายไม่ต่างไปจากการแต่งงานวันแรกเลย
ติ๊ง!
เสียงแจ้งเตือนของแอปพลิเคชันชื่อดัง เรียกความสนใจของชายหนุ่มได้ไม่ยาก เมื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูและเห็นข้อความจากคนที่ส่งมาก็ยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะลุกออกจากเตียงแล้วแยกตัวไปห้องน้ำอีกห้องทันที
ทางด้านหญิงสาวหลังจากจัดการตัวเองเรียบร้อย ก็รีบพาตัวเองตรงมาที่ห้องครัวของบ้าน เพื่อที่จะทำอาหารเช้าให้สามีรับประทาน
เธอมีชื่อว่า ม่านไหม หรือ ม่าน ภรรยาคนสวยของ ก้องเกียรติ หรือ ก้อง
ทั้งคู่พบรักกันที่ทำงาน หรือบริษัทของก้องเกียรตินั่นเอง เวลานั้นม่านไหมเป็นเพียงนักศึกษาฝึกงาน ส่วนก้องเกียรติก็เป็นถึงว่าที่ท่านประธานบริษัท ด้วยความน่ารักสวยหวานของม่านไหมไปเข้าตาก้องเกียรติที่มาดูงานเข้าพอดี เขาจึงเดินหน้าจีบเธอตั้งแต่วันแรกที่ได้เห็นหน้า
ใช้เวลานานนับสามเดือนที่ก้องเกียรติเทียวไล้เทียวขื่อตามจีบม่านไหม ในที่สุดหญิงสาวก็ใจอ่อนและตกลงเป็นแฟนกัน
เรียกได้ว่าตลอดระยะเวลาสามสี่เดือนที่ก้องเกียรติตามจีบม่านไหมนั้น เธอแทบไม่เห็นเขาออกนอกลู่นอกทางเลยสักครั้ง นับตั้งแต่วันแรก
ทั้งสองใช้เวลาศึกษาดูใจกันเพียงสองปี ก็ตกลงปลงใจแต่งงานเป็น สามีภรรยาใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน
ซึ่งหากจะนับจากวันแต่งงานถึงวันนี้ก็อีกเพียงสามเดือนเท่านั้นก็จะเป็นวันครบรอบวันแต่งงานของคนทั้งคู่
ม่านไหมตั้งหน้าตั้งตารอเวลานี้มาก เพราะเธอตั้งใจจะบอกเขาว่าเธอพร้อมแล้วกับการมีลูก
เดิมทีก้องเกียรติเคยพูดกับเธอเรื่องนี้ว่าเขาอยากมีลูก เพียงแต่ว่าเธอยังไม่พร้อมเพราะตอนนั้นเธอพึ่งมีอายุ 24 ปี ส่วนเขา 28 ปี เธอบอกเขาว่ายังเร็วเกินไป อยากใช้เวลาด้วยกันก่อน
แต่ว่าตอนนี้เธอมีอายุ 26 ปี ส่วนก้องเกียรติอายุ 30 ปี นับว่าสมเหตุสมผลที่จะมีลูกได้แล้ว ที่สำคัญหน้าที่การงานของคนทั้งสองก็นับว่ามั่นคงแล้ว เธอจึงอยากจะบอกเรื่องดี ๆ กับเขานี้ในวันครบรอบสองปีนั่นเอง เธอถึงได้ตั้งตารอ...
หญิงสาวขบคิดเรื่องต่าง ๆ ด้วยความสุขใจ ใบหน้าแย้มยิ้มอย่างมีความสุข ร่างบางขยับจับอุปกรณ์ทำครัวอย่างคล่องแคล่ว
ฟอด!
“หอมจังเลยครับ ไม่รู้ว่าอะไรหอมกว่ากันระหว่างข้าวต้มกับแก้มเมียพี่”
ก้องเกียรติหลังจากจัดการตัวเองเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เดินลงมายังห้องครัว เห็นภรรยาตัวเองหันหลังทำข้าวต้มในหม้อก็ให้รู้สึกรักใคร่และภูมิใจที่มีภรรยาที่ดี
เขาจึงเดินเข้าไปกอดเธอจากด้านหลังพร้อมทั้งหอมแก้มเสียฟอดใหญ่อย่างตั้งใจให้รางวัลคนทำดี พร้อมทั้งพูดแซวให้หญิงสาวเขินอายเล่น
“อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วเหรอคะ” ม่านไหมเอี้ยวตัวหันมาถามคนที่ยืนกอดเธออยู่ ก่อนจะส่งยิ้มบาง ๆ ให้
“ครับ เรียบร้อยแล้ว” ชายหนุ่มตอบกลับ
“งั้นทานเลยนะคะ พี่จะได้ไปทำงานไม่สาย เป็นประธานบริษัทต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้พนักงานนะคะ” หญิงสาวว่า
“ทราบแล้วครับคุณภรรยา มาครับตักข้าวต้มมาเลย พี่จะได้รีบทานและรีบไปทำงาน”
หลังจากตักข้าวต้มให้สามีแล้ว ม่านไหมก็ตักให้ตัวเองด้วย ทั้งสองทานกันไปหยอกล้อกันไปทำให้มื้ออาหารเช้าธรรมดา ๆ อย่างข้าวต้ม กลายเป็นอาหารเช้าแสนหวานภายในพริบตา
“ค่อย ๆ ทานนะคะ” หญิงสาวบอก
ก้องเกียรติยิ้มรับที่ได้รับการเอาใจใส่จากภรรยาคนสวยอย่างดี คิดไม่ผิดเลยที่เขาตัดสินใจตามจีบและแต่งงานกับเธอ
อะไรจะดีไปกว่าการมีภรรยาที่ทั้งสวยและดีเล่า ม่านไหมนี่มีครบทุกอย่างเท่าที่ผู้หญิงดี ๆ คนหนึ่งจะมีได้ ก้องเกียรติจึงภูมิใจมาก
หลังจากทั้งสองทานข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก้องเกียรติก็แยกตัวไปบริษัท แต่กว่าเขาจะขับรถออกจากบ้านได้ ก็ต้องได้จูบแสนหวานจากภรรยาก่อนแล้วนั่นแหละถึงผละจากไปได้...
หลังจากที่ม่านไหมยืนส่งสามีไปทำงานเรียบร้อยแล้ว เธอก็กลับไปที่ห้องครัวเก็บถ้วยจานล้างทำความสะอาด เสร็จแล้วจึงค่อยไปจัดการตัวเองเพื่อที่จะออกไปข้างนอก
เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุดของเธอ เธอจึงไม่ต้องเร่งรีบมากเท่าไหร่นัก ความจริงเธอถูกก้องเกียรติออดอ้อนขอร้องให้เธอไปทำงานด้วยกัน แต่เธอปฏิเสธพร้อมให้เหตุผลกับเขาว่า เธอมีนัดแล้ว
นั่นจึงทำให้เธอไม่สามารถไปบริษัทกับก้องเกียรติได้เหมือนทุกทีที่เธอหยุด
ซึ่งชายหนุ่มก็เข้าใจ แต่ก็เคี่ยวกรำบทรักกับหญิงสาวไปครึ่งค่อนคืน ถึงได้ปล่อยให้เธอพักผ่อน
ม่านไหมเหลือบสายตามองนาฬิกาที่แขวนอยู่บนฝาผนัง เมื่อเห็นว่าเวลาเก้าโมงเช้า เธอจึงได้ออกเดินทางไปยังห้างสรรพสินค้าที่ได้นัดกับเพื่อนสนิทไว้ทันที
5 ปีผ่านไป“คุณพ่อขา... ช่วยปิ่นด้วยค่าพี่ปืนทำหนู”“ไม่จริงนะครับ น้องปิ่นต่างหากที่แกล้งผมก่อน ผมแค่ป้องกันตัว” สองเสียงของเด็กเล็กชายหญิงดังขึ้นไล่เลี่ยกัน ก่อนจะมีร่างจ้ำม่ำของทั้งสองวิ่งไล่ตามกันมา ก่อนผู้เป็นเด็กหญิงจะวิ่งเข้าไปหาผู้เป็นพ่อเพราะเธอมาถึงก่อนปราชญาอ้าแขนรับร่างของเด็กหญิงก่อนจะอุ้มเข้าเอวแล้วหอมฟอดใหญ่ ก่อนจะหันไปอุ้มเด็กชายขึ้นมาเข้าเอวอีกข้าง“ไหนเล่าให้พ่อฟังหน่อยครับว่าเกิดอะไรขึ้น” ปราชญาเอ่ยถามทั้งสองคนที่แท้เด็กชายและเด็กหญิงที่ว่าคือลูกของเขา ผู้เป็นเด็กหญิงมีชื่อว่า ปิ่นมุก ส่วนเด็กชายอีกคนชื่อ ปืนกันต์ ทั้งสองเป็นฝาแฝดชายหญิงที่หน้าตาเหมือนกันราวกับแกะ หากไม่สนิทและรู้จักมักคุ้นจริง ๆ คงจะแยกแยะได้ยากปิ่นมุกแฝดน้องมีนิสัยค่อนข้างแสบและซน เจ้าเล่ห์ตั้งแต่เด็กเรื่องนี้ทำปราชญาและม่านไหมปวดหัวอยู่ทุกวันปืนกันต์แฝดพี่กลับเป็นคนเรียบง่ายติดจะเย็นชา แต่ความเจ้าเล่ห์เจ้าแผนการกลับมีมากกว่าผู้เป็นน้องสาวที่คลานตามกันออกมาหลายขุมอย่างไรก็ตามเด็กทั้งสองคนนับเป็นเด็กที่ฉลาดมาก อายุเพียงสามขวบกว่าก็พูดจาคล่องแคล่วแล้ว“ว่าไงครับ ไหนเล่ามาสิว่าเกิดอะไรขึ้น” ป
ม่านไหมและปราชญาผละกอดจากกัน ชายหนุ่มจ้องตาเธอนิ่งเขาอยากจูบเธอแต่ไม่กล้าพอ ม่านไหมยิ้มก่อนจะเป็นฝ่ายโน้มหน้าไปจูบเขาก่อนทันทีที่ริมฝีปากของทั้งสองแตะกันก็คล้ายกับมีแรงดึงดูดทั้งเขาและเธอเอาไว้ ฝ่ามือหนาของปราชญาจับล็อกที่ต้นคอของหญิงสาวก่อนจะเป็นฝ่ายแทรกเรียวลิ้นบดขยี้จูบหวานหอมแสนอ่อนโยนให้กับเธอ ปราชญาไม่สามารถหักห้ามอารมณ์ไว้ได้อีก มือหนาเคลื่อนไปตามสัญชาตญาณ กอบกุมอกอวบของเธอที่เขาเคยฝันถึงไว้ในอุ้งมือ ก่อนจะบีบขยำเคล้าคลึงเล่นไปมาปากก็ยังจูบม่านไหมไม่ยอมปล่อย จนหญิงสาวทุบตีที่หน้าอกเพราะหายใจไม่ทัน ชายหนุ่มถึงได้ผละปากออกมาให้เธอหายใจหายคอแต่การกระทำของเขาไม่ได้หยุดเพียงเท่านั้น ปราชญาเคลื่อนริมฝีปากไปตามกรอบหน้าของหญิงสาว ก่อนจะไปแวะเล็มขบกัดติ่งหูจนหญิงสาวขนลุกซู่“อื้อ... พี่ปราชญ์ขา” จากตอนแรกที่คิดว่าจะแกล้งเธอเท่านั้น ตอนนี้เขาไม่สามารถข่มกลั้นความอดทนได้อีกต่อไป เพียงเพราะได้ยินเธอเรียกชื่อเขาเสียงหวาน“ม่านครับพี่ขอโทษแต่พี่ห้ามตัวเองไม่ได้แล้ว” เขาละริมฝีปากที่ซุกไซ้ซอกคอของเธอก่อนจะเงยหน้าพูดม่านไหมยิ้มรับก่อนจะเอื้อมมือไปกอดคอเขาไว้แล้วโน้มหน้าเขาลงมาบดจูบเธออี
ตั้งแต่ที่ม่านไหมรู้ว่าปราชญาจีบเธอ ปราชญาก็เปลี่ยนไปทันที สิ่งที่เปลี่ยนไปก็คือเขารุกหญิงสาวมากกว่าเดิม แต่สิ่งที่ชายหนุ่มไม่เคยเปลี่ยนหรือขาดไปนั่นก็คือความเอาใจใส่ของเขานี่ก็ผ่านมาสามเดือนได้แล้ว ที่ปราชญาจีบม่านไหม แรก ๆ ม่านไหมก็เกร็งแต่ปัจจุบันนี้เธอทำตัวตามสบาย ยิ่งถูกปราชญาเอาใจใส่และตามใจมาก ๆ หญิงสาวก็นึกกลัวตัวเองว่าจะเสียนิสัยเข้าสักวัน“เลิกงานแล้ว วันนี้พี่เหนื่อยมากเลยครับ” ปราชญาพูดหลังจากที่เห็นว่าหญิงสาวเดินขึ้นรถมาแล้วทุกวันนี้ม่านไหมขึ้นรถมาทำงานกับปราชญาแทบทุกวัน วันไหนที่ไม่ได้มาด้วยกันคือวันที่ปราชญามีประชุมข้างนอกหรือคุยงานหญิงสาวยิ้มให้กับคนตัวโตที่หันมาอ้อนเธอทุกครั้งที่เธอเดินขึ้นรถ หญิงสาวยอมรับว่าทุกวันนี้หญิงสาวรู้สึกดีมากที่มีเขาอยู่ข้าง ๆ ปราชญาเสมอต้นเสมอปลายกับเธอมาโดยตลอด จนหญิงสาวไม่กลัวแล้วว่าเขาจะเป็นเหมือนก้องเกียรติ“งั้นม่านนวดให้ดีไหมคะ”“ได้เหรอครับ” หญิงสาวหัวเราะเมื่อเห็นอาการถูกใจของเขา ก่อนจะพยักหน้ารับตอนนี้ท่าทางของปราชญาไม่ต่างไปจากเด็กที่ได้ของเล่นเลยด้วยซ้ำ“งั้นวันนี้เราจะทานอะไรกันดีครับ พี่หิวมาก”“แกงถุงไหมคะ ม่านมีร้านแนะนำ”
พี่เป็นห่วง...พี่เป็นห่วง...พี่เป็นห่วง...“ม่าน”“...”“ยายม่าน!”“ฮะ! อะไร มีอะไร”“เหม่ออะไรของแก เป็นอะไร”“ปะ เปล่า ไม่ได้เป็นอะไร ฉันแค่กำลังคิดอะไรนิดหน่อย” ม่านไหมตอบ“แน่นะ”“อืม” ม่านไหมตอบรับ ก่อนจะสนใจหนังสือนิยายในมือหญิงสาวไม่กล้าบอกเพื่อนว่าเธอกำลังคิดถึงคำพูดของปราชญา เธอกำลังสับสน และกำลังคิดถึงความเป็นไปได้ว่าอะไรทำให้ปราชญาพูดกับเธอแบบนั้นสายตาห่วงใยคำพูดพวกนั้นมันไม่สมควรเกิดขึ้นกับคนที่กำลังจีบ แต่ถึงแม้จะเกิดขึ้นสายตาของเขาไม่ควรที่จะลึกซึ้งมากขนาดนี้ มันลึกซึ้งเหมือนกับว่าชายหนุ่มรักเธอมาก“ม่าน”“ว่า”“แกคิดว่าพี่ปราชญ์เป็นยังไง” คำพูดของกิ่งกมล ทำเอาม่านไหมนิ่งค้างไป“เงียบทำไม ตอบมาสิ” กิ่งกมลเร่งเร้า“ไม่รู้สิ” คำตอบของม่านไหม ทำเอากิ่งกมลเด้งตัวลุกขึ้นแล้วมองหน้าม่านไหมอย่างเอาเรื่องทันที“แกจะไม่รู้ได้ไง พี่ปราชญ์ดูเป็นห่วงเป็นใยแกมากขนาดนั้น บอกฉันมานะว่าแกคิดอะไรอยู่”“ฉันไม่ได้คิดอะไร”“ยายม่าน!”“เฮ้อ! ก็แค่กำลังคิดว่าอะไรทำให้พี่ปราชญ์รู้สึกกับฉันเกินกว่าเจ้านายลูกน้อง”“นี่แกไม่รู้” กิ่งกมลถามด้วยความไม่เชื่อ เธอไม่เชื่อว่าเพื่อนของเธอจะใสซื่อขนา
“อะ เอ่อ... ทานสุกี้ดีกว่าครับ ดูสิวุ้นเส้นอืดหมดแล้ว”“ใช่ ๆ ๆ ยายม่านรีบทานเร็ว”คีรินทร์ที่ทนความอึดอัดและความเงียบที่มีต้นเหตุมาจากเพื่อนตัวเองไม่ไหว จึงรีบพูดออกมาพร้อมทั้งพยักหน้าให้แฟนสาวรีบช่วยพูดเพื่อแก้ไขสถานการณ์ทันทีม่านไหมที่ได้สติจากที่เพื่อนของเธอเรียกชื่อ ก็รีบตักวุ้นเส้นขึ้นมาและทานเงียบ ๆ เธอก้มหน้าก้มตาทานจนได้รับสายตาเอ็นดูจากปราชญาทั้งคีรินทร์และกิ่งกมลรู้สึกว่าตอนนี้พวกเขาเหมือนกับว่าเป็นคนนอกอยู่ตลอดเวลา เพราะปราชญาเล่นไม่สนใจใครเลย คนเดียวที่เขาสนใจคือม่านไหม ไหนจะคำพูดที่พึ่งพูดไปก่อนหน้า แล้วตอนนี้ยังตักนั่นตักนี้ให้ม่านไหมอีกคีรินทร์และกิ่งกมลมองหน้ากันแล้วถอนหายใจออกมา“พอแล้วค่ะ ม่านอิ่มแล้ว”“ทานเยอะ ๆ ครับ พี่ว่าม่านพร้อมไป ต้องทานอีกหน่อย พี่เป็นห่วง”ฉ่า!!!แก้มม่านไหมเห่อร้อนทันที หญิงสาวรู้สึกว่าเหมือนเธอกำลังถูกจีบ!“ไอ้ปราชญ์!”“อะไร”“แกพูดอะไรออกมารู้ตัวหรือเปล่า”“รู้สิ ก็ฉันเป็นห่วงน้องม่านจริง ๆ นี่” ปราชญาหันไปตอบคีรินทร์ แล้วหันหน้ามามองหญิงสาวสายตาเต็มไปด้วยความห่วงใยและอ่อนโยนครั้งนี้ม่านไหมไม่หลบตาเธอต้องการพิสูจน์สิ่งที่เธอรู้สึกสงส
จากวันที่หญิงสาวหย่าขาดจากก้องเกียรติ เธอก็ไม่ได้ข่าวคราวเขาอีกเลย รู้เพียงว่าเขาได้เดินทางไปต่างประเทศพร้อมปรายฟ้าแล้ว ส่วนบริษัททางนี้ก็ให้ญาติลูกพี่ลูกน้องของเขาดูแลให้ม่านไหมใช้ชีวิตตามปกติ เธอยังคงมาทำงานใช้ชีวิตเป็นพนักงานออฟฟิศเหมือนเดิม เพียงแต่ว่ารอยยิ้มของเธอไม่ค่อยมีก็เท่านั้นต้องบอกก่อนว่าหลังจากที่เธอขับรถออกจากสำนักงานเขตในวันที่ไปจดทะเบียนหย่านั้น หญิงสาวก็กลับมาร้องไห้ที่ห้องของกิ่งกมลม่านไหมไม่สามารถทนต่อความเสียใจได้ เดิมทีวันที่สิบมีนาคือวันครบรอบวันแต่งงานของเธอกับเขา แทนที่จะมีความสุขและร่วมฉลองในวันดังกล่าว กลับกลายเป็นว่าทุกข์ระทมเพราะหย่าซะเองม่านไหมร้องไห้หนักอยู่เป็นอาทิตย์ ในที่สุดก็หยุดร้องไห้ได้ เพราะได้กำลังใจดี ๆ จากคนที่ห่วงใยเธอทุกคนและเมื่อเธอดีขึ้นแล้ว หญิงสาวก็กลับมาทำงานตามปกติ ชีวิตของเธอยังคงดำเนินไปเหมือนเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมนั่นคงจะเป็นปราชญาที่ช่วงนี้ขยันมาอยู่ใกล้เธอเสียเหลือเกินใกล้ม่านไหมมาก จนบางครั้งหญิงสาวรู้สึกอึดอัด“ม่านไปทานข้าวกัน”“จ้า ขอเก็บของแป๊บ” ม่านไหมตอบกลับกิ่งกมลที่ตอนนี้ยืนส่งยิ้มให้เธออยู่ หลังจากม่านไหมเก็บของเ
댓글