หนูนาเมื่อการหายใจเริ่มกลับมาเป็นปกติ แต่ก็ยังมองการกระทำของ ปีเตอร์และทันทีที่เธอเข้ามานอนบนอ้อมอกเขาด้านบน หนูนารับรู้ถึงความเป็นชายที่ตอนนี้มันเริ่มสั่นและขยายในกายเธอ
“พีท!!!!...” ร้องเรียกออกไปและจ้องเขาก็พบกับรอยยิ้ม
“หนูนาทำ”
“ห๊ะ...” หนูนาร้องออกไปกับคำพูดของเขา “ทำอะไร?” ถามกลับไปทันที
“ทำให้ผมเหมือนที่ผมทำสิ ผมอยากให้หนูนาเป็นผู้นำพาเราขึ้นสวรรค์บ้าง” พูดไปพร้อมขยับตัวให้หนูนาขึ้นนั่งคร่อมตรงสะโพกโดยที่ยังประสานกันอยู่
“โอ้ว...” แค่การขยับนั่งของหนูนาก็สร้างความเสียวซ่านให้กับเขาแล้ว
“หนูนาลองขยับสิ” พูดไปมือจับที่สะโพกกลมนั้น และนำให้จังหวะการขยับสะโพก “เหมือนการควบม้า" หนูนาเริ่มขยับตามจังหวะมือของปีเตอร์ที่นำให้ จากช้าก็เร่งเร็วขึ้
“Hi...” หนูนายิ้มและพอเข้าใจสายตาและท่าทางแบบนั้น “พีทยังไม่มาค่ะ”ไรอัลพยักหน้าเป็นการรับรู้ และเดินไปที่โต๊ะที่วางอาหารเช้าตามปกติ เป็นธรรมเนียมใหม่ตั้งแต่มีนีน่าพวกเขาก็เป็นนักโภชนาการไปเลย เพราะสารอาหารและมื้ออาหารครบถ้วน“อื้ม!...เกือบลืมนีน่าคุณเอียนให้เข้าไปพบ”“อ๋อ...ค่ะ...ถ้างั้นนีน่าขอตัวก่อนนะคะ” หนูนาพูดพร้อมเดินไปที่ประตู ไรอัลเพียงพยักหน้ารับ“เชิญ” เอียนตอบอนุญาต เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูเพราะคาดไว้อยู่แล้วว่าเป็นใครไปไม่ได้คือ นีน่า“สวัสดีค่ะคุณเอียน” หนูนากล่าวทักทายตามธรรมเนียม เมื่อเดินเข้ามาในห้องตามคำอนุญาต แต่ครั้งนี้คุณเอียนไม่ได้อยู่คนเดียวมีอีกหนึ่งคนที่ตอนนี้กำลังนั่งหันหลังให้เธอ“สวัสดีนีน่า...มารู้จักกับโคลสิ” เอียนกล่าวทักทายและเข้าเรื่องที่เรียกหนูนามาทันทีหนูนาเดินเข้าใกล้พร้อมกับบุคคลที่ถูกกล่าวถึงก็ลุกยืนและหันมาเพื่อทำความรู้จักและทันทีที่ผู้ที่มีนามว่า ‘โคล’ ได้เจอกับหนูนาครั้งแรก เขาถึงกั
“พีท...หยุดนะ” หนูนาร้องห้ามปีเตอร์ที่รัดวงแขนรอบเอวเธอและรั้งให้เข้ามาหาอ้อมอกหนาตลอดเวลา“จะไปไหน?” ปีเตอร์พูดพร้อมกับมือก็ทำหน้าที่“ทำงาน...ทำงาน”“ไปพร้อมกันนะ...สายอีกหน่อยก็ได้”“ไม่!...หนูนาไม่อยากเป็นที่สนใจและจับตามอง...มันไม่ชิน” หนูนาร้องบอกออกไปถ้าเธอต้องออกไปทำงานกับปีเตอร์บ่อยๆ คงไม่ดีแค่ไปวิ่งด้วยแค่ครั้งเดียวในที่สาธาณะก็มากพอแล้ว พอคิดมาถึงตอนนี้ก็เหมือนนึกอะไรได้“พีท...ไม่เห็นไปวิ่งเลยสองวันมานี้...ทำไมคะ?”“ไม่มีแรง...” ปีเตอร์ตอบราบเรียบแต่แววตาจับจ้องที่อกเต่งตึงไร้ปราการป้องกันอย่างชัดเจน “บ้า!...” หนูนาพูดพร้อมขยับออกจากอ้อมกอดของปีเตอร์ “ปล่อยนะ!...พีท... หนูนาบอกให้ปล่อย...” หนูนาเริ่มเสียงแข็งขึ้นเพราะดูเหมือนปีเตอร์จะไม่ยอมง่ายๆ “ถ้าไม่ปล่อย...จะไม่พูดด้วยอีกเลย!” หนูนาเสียงเข้มลองใช้วิธีสงครามเงียบ และหลังจากที่พูดบอกไปแล้วหน
ปีเตอร์เลื่อนมือมาขย้ำสะโพกกลมนั้นและให้ความเป็นหญิงของหนูนาเสียดสีกับความเป็นชายของเขาทั้งๆ ที่ยังมีปราการป้องกันของทั้งสองฝ่าย ตอนนี้หนูนาเลื่อนลงมาดูดยอดอกของเขาสลับไปมาทั้งสองข้าง พร้อมส่ายขยับสะโพกตามจังหวะอารมณ์ความรู้สึก ทำให้เกิดการเสียดสีกับแก่นกายความเป็นชายของเขาที่เธอได้ปลดปราการออกไปบ้างแล้ว “โอ้ว...” ปีเตอร์เป็นฝ่ายครางออกมา เมื่อความอดทนของเขาหมดลงแล้ว เขาขยับให้หนูนาขยับออก เพื่ออุ้มหนูนาขึ้นและค่อยๆวางร่างที่เกือบเปลือยที่โซฟาข้างๆต่างสบตากันถ่ายทอดความรู้สึกที่มีให้กันและกันผ่านสายตากันของคนทั้งคู่ ปีเตอร์ค่อยๆเลื่อนปราการด่านสุดท้ายของหนูนาออกและตัวเองอย่างรวดเร็ว พร้อมแยกขา หนูนาออกและค่อยๆ แทรกตัวเข้าไปในระหว่างขาของเธอหนูนามองเห็นแก่นกายที่ตอนนี้มันขยายใหญ่อย่างแข็งแกร่งพร้อมเข้าสู่โพรงสาว ปีเตอร์ค่อยๆเคลื่อนตัวเข้าไปใกล้ทำการทักทายโดยให้หัวขบวนถูไถกลีบดอกกุหลาบนั้นอย่างนุ่มนวลอยู่สักพัก&nb
“ไม่ได้อยู่ในข้อตกลง” หนูนาเป็นฝ่ายเตือนเขา และอดที่จะขำไม่ได้เพราะตอนนี้ปีเตอร์หายใจแรงขึ้น และขบกรามเล็กน้อยเป็นการสะกดอารมณ์ “ชักสนุกแล้วสิ เจ้าคิดดีนักนะพีท” “ผมอนุญาตให้หนูนาถามได้เรื่อยๆจนกว่าผมอยากจะถามอะไรหนูนา”หนูนากำลังทบทวนและนึกถึงคำถามที่ต้องเป็นประโยชน์มากจากที่ได้ชื่อเขามาแล้วมันสามารถต่อยอดอะไรได้เยอะเพราะโลกสมัยนี้ข่าวสารใกล้แค่เอื้อม ปีเตอร์เมื่อเห็นสีหน้าและแววตาครุ่นคิดของหนูนา เขาเอื้อมไปหยิบ MacBook ของเธอ และพิมพ์ชื่อเขาใส่ไปที่ช่องค้นหากดเอ็นเทอร์และขยับหน้าจอมาใกล้เธอ“เป็นไปไม่ได้!!!” หนูนาหันไปดูและร้องออกมาทันทีไม่มีข้อมูลอะไรเลย และเลื่อนข้อมูลหน้าจอลงมาด้านล่างก็ไม่มี“แต่นั้นเป็นชื่อจริงของผม” ปีเตอร์ตอบออกไปแต่เขาไม่ได้ให้ข้อมูลเธอต่อว่าเขาใช้นามสกุลของแม่ 
“ห้ามไปทำหน้าแบบนี้ให้ใครเห็นเด็ดขาด” เธอหน้าแดงอีกแล้วเป็นลักษณะที่เกิดขึ้นทุกครั้งเมื่อเธอเขินอาย พูดพร้อมก้มหน้าเข้าไปใกล้มากขึ้นและพูด “หายใจ” ประโยคนี้ของปีเตอร์ ริมฝีปากเขาสัมผัสกับริมฝีปากหนูนา และยังอ้อยอิ่งคลอเคลียเบาๆ ยังไม่ล่วงล้ำไปมากกว่านี้หนูนาเมื่อได้ยินก็อย่างเคยรีบหายใจทันที“จะให้ไปทำกับใครละตาบ้าสุดหล่อ ตั้งแต่เกิดมาจนอายุป่านนี้ก็มีแต่นายนั้นแหละที่ทำให้ฉันลืมหายใจแทบทุกครั้งที่โดนหว่านเสน่ห์ใส่แบบนี้” ใช่ว่าเธอจะไม่มีผู้ชายเข้ามาขายขนมจีบ แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอไม่เคยรู้สึกสนใจใครเลย ไม่เคยแม้แต่จะยอมคบใครเป็นแฟนหรือเพื่อนชายที่สนิทที่สุดที่เหล่าดาราในเมืองไทยนิยมใช้กัน หนูนาจัดว่าเป็นผู้หญิงที่สวยคนหนึ่ง นีออนมักจะพูดกับเธอเสมอว่าหนูนาสวยมาก เพราะทุกอย่างที่เป็นองค์ประกอบมาเป็นเธอทุกอย่างมันเกิดจากธรรมชาติสร้างมาให้อย่างลงตัว และเส้นผมที่หยิกเป็นลอนดำสนิทของเธอ นีออนชอบมาก ต่างจากเธอที่ออกจะรำคาญมันด้วยซ้ำ แต่เธอก็ไม่คิดจะเปลี่ยนมันเพราะมันเปลืองทั้งเงินและเวลา“ว่าไง?” ปีเตอร์ถามออกไปอีกครั้งเ
“เอ่อ...พีท...เธอเป็น...ใครคะ?” หนูนาถามออกไปขณะที่ปีเตอร์จูงมือเธอกำลังจะออกจากห้องปีเตอร์หยุดเดิน ก้มมามองหน้าเธอและเลยไปมองภาพที่กินพื้นที่ทั้งผนัง“my mom” ตอบออกมาพร้อมความสุขอย่างเหลือล้นเห็นชัดเจนในแววตา“เธอสวยมากเลยค่ะ เธอดูมีความสุขมาก แววตาและรอยยิ้มของคุณทั้งสองเหมือนกันมากค่ะ” หนูนาให้ความเห็น ปีเตอร์ยิ้มกับข้อคิดเห็นของเธอ“เอ่อ...หนูนาจะมีโอกาสได้พบเธอหรือเปล่า”“ไม่มี!”อารมณ์ของปีเตอร์เปลี่ยนไปทันทีทั้งน้ำเสียงและแววตาช่างน่ากลัวนัก“...!...” หนูนาตกใจกับความไม่เข้าใจว่าเธอพูดอะไรผิด และเขาก็จูงเธอออกจากห้องนั้นทันที หนูนาก็ไม่ถามอะไรต่อได้แต่เงยหน้าแอบมองสีหน้าเขาที่ตอนนี้ดูเครียดอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเดินมาถึงส่วนครัวปีเตอร์ก็ถอนหายใจเหมือนจะนึกอะไรได้ก็หันมาทางหนูนา“กินอะไรดี?” ถามราบเรียบไร้รอยยิ้มทั้งใบหน้าและดวงตา หนูนาถอนหายใจแต่ก็พูดตอบเขาไป “ข้าวผัดปู” ปีเตอร์เลิกคิ้วเล็กน้อยและพ