หลังจากผูกร่างขาวโพลนที่มีเพียงแค่ชุดชั้นในตัวบางปกปิดร่างกายไว้กับเสา แถมเจ้าของมันก็ยังคงแหกปากส่งเสียงร้องดังกรี๊ดๆออกมาจนเเสบแก้วหูได้สำเร็จ ฉัตราก็ถึงกับต้องยืนถอยหลังกลับมามองแล้วคิดตรึกตรองอะไรบางอย่าง
ก็แค่เด็กเสี่ยคนหนึ่ง ทำไมเขาถึงจะทำไม่ได้ ปกติเขาเองก็ไม่ใช่คนดีเด่อะไรอยู่แล้ว กว่าจะมาถึงขนาดนี้ กว่าจะได้เป็น นายหัวฉัตรา เจ้าของเกาะเหมือนมุก ชีวิตที่ผ่านมาเขาก็ใช้มาจนไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ บรรดาน้องๆหนูๆที่เลี้ยงดูเอาไว้หรือไม่ก็พวกอีหนูเด็กเอ็น ไหนจะสุกี้หม้อรวมที่พวกลูกน้องคนสนิทชอบชวนไปก็เคยผ่านมา กับคราวนี้ที่ต้องจัดการอีหนูของพ่อเลี้ยงตัวเองให้สิ้นฤทธิ์เสีย หลับหูหลับตาทำไป มันก็คงจะเหมือนกับไปใช้บริการเหมือนครั้งก่อนๆแค่นั้นแหละ ลองดูสิว่าถ้าผู้หญิงคนนี้ขึ้นชื่อว่าผ่านมือเขามาแล้วเหมือนกัน ไอ้แก่ชยุตยังจะอยากเลี้ยงเด็กนี่ไว้ในกรงทองเทียบเคียงกับมารดาของเขาอยู่หรือเปล่า
"ทีแรกก็ว่าจะไม่ แต่พอดีว่าช่วงนี้ฉันเองก็ของขาดมาตั้งสองอาทิตย์แล้ว ไหนๆก็ไหนๆแล้วฉันก็น่าจะลองดูหน่อยว่าเธอมีดีอะไรนักไอ้แก่นั่นถึงขนาดได้ยอมผิดคำสัญญาที่เคยให้ไว้ มานี่!"
"ไม่นะ กรี๊ด"
พอพูดจบพริมาก็ถูกคนตัวสูงใหญ่พุ่งตรงเข้าหาและตามเข้ามากอดรัดซุกไซ้ไปทั่วลำคอ ริมฝีปากนั่นทั้งดูดขบเม้มลงมาแรงๆ ส่วนฝ่ามือใหญ่ก็เริ่มบีบคลึงลงมาบนสองเต้าอวบ อยู่ๆร่างกายพริมาก็ดันเกิดความรู้ร้อนวูบวาบหลังจากที่โดยซุกไซ้ ภายในร่างกายเหมือนคล้ายกับว่ามันเกิดพายุแปรปรวนอะไรสักอย่าง ความรุ่มร้อนบริเวณกึ่งกลางกายที่ไม่เคยได้พานพบ เวลานี้กลับก่อตัวขึ้นอย่างรุนแรงยามที่เม็ดตุ่มไตกลางหน้าอกถูกเขี่ยขยี้ จังหวะนั้นเองที่อยู่ๆเธอก็หลุดเสียงร้องผะแผ่วออกมาเบาๆอย่างไม่รู้ตัว ก่อนที่ตะขอบราชุดชั้นในลูกไม้ตัวบางจะถูกปลดตามในเวลาต่อมา ทำให้สองเต้าขาวอวบงดงามที่กำลังเต่งตึงนั้นโชว์เด่นหราปรากฎสู่สายตาของคนตัวใหญ่
"ก็ ไม่ได้สวยเท่าไหร่ ไม่รู้ว่าทำไมไอ้แก่นั่นถึงได้หลงเธอนักหนา สงสัยฉันคงใช้แค่สายตาสำรวจไม่ได้หรอก"
"ไม่นะ แกกำลังเข้าใจฉันผิด ฉันเป็นลูกสาวของคุณป๋าจริงๆ อ๊ะ อย่าสิ"
ดูเหมือนว่าโชคชะตากำลังจะนำพาให้เธอต้องมาพบเจอกับความโหดร้ายในชีวิตอย่างไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เมื่อเวลานี้ร่างกายที่เคยยังมีชั้นในห่อหุ้มนั้นพึ่งจะถูกจับให้เปลือยเปล่า ตามด้วยกางเกงชั้นในตัวบางถูกคนใจร้ายฉีกกระชากออกจากกาย และดูเหมือนว่าทั่วทั้งร่างกายเธอกำลังเกิดปฏิกิริยาอะไรบางอย่างที่แปลกขึ้นไป ยามที่เต้านมอวบใหญ่ถูกลิ้นร้อนชื้นดูดดึง ปลายลิ้นร้อนนั้นตวัดเขี่ยไปมาทั้งช้าและเร็ว และอีกข้างก็ถูกคลึงขย้ำ ทุกๆส่วนในร่างกายนั้นก็ยิ่งร้อนรุ่ม
"อ๊ะ บอกว่า ยะ อย่าไง อย่าดูดนะ"
ขณะที่ปากบอกว่าอย่า แต่ร่างกายของเธอกลับกำลังตอบสนองการกระทำของเขาในทางตรงกันข้าม เรียวขางามค่อยๆแยกกว้างออกจากกันอย่างช้าๆ ก่อนจะแอ่นยกสะโพกขึ้น อาการร้อนวูบวาบที่เกิดขึ้นกลางกายนั้น เวลานี้พริมารับรู้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่เปียกชื้นแฉะค่อยๆเอ่อทะลักออกมา และพอวินาทีที่ฝ่ามือใหญ่เลื่อนลงไปสัมผัสมัน เสียงครางหึ่มอย่างพอใจของคนใจร้ายก็ดังขึ้นที่ข้างหู
"อื้ม เธอแฉะแล้วนี่ ไวไฟติดง่ายแบบนี้นี่เอง ถึงว่าทำไมไอ้แก่นั่นถึงได้ติดใจเธอนัก คงอยากมากสินะ ยิ่งได้มาอยู่ใกล้ๆคนหนุ่มอย่างฉันแทนที่จะเป็นไอ้แก่นั่น เธอคงคันจนตัวสั่น อยากให้ฉันช่วยรีบเกาให้แทบไม่ไหวเลยสิท่า งั้นเอาเป็นว่าครั้งนี้ฉันจะช่วยสงเคราะห์ให้เอาบุญก็แล้วกัน"
ขณะที่พริมามึนงงด้วยรสสัมผัสที่แปลกใหม่ ฉัตราก็ลุกขึ้นมาถอดกางเกงออกอย่างรวดเร็ว เวลานี้ร่างกายของเขาเองก็ตื่นตัวจนแข็งตั้ง คนตัวสูงก้าวขึ้นไปเหยียบบนแคร่ไม้ตัวที่พริมานอนอยู่ แล้วใช้มือซุกเข้าไปในซอกหลังคาใบจากเพื่อควานหาสิ่งของบางอย่าง พอเจอแล้วก็หยิบมันออกมาฉีกออกจากซองและสวมมันลงไปอย่างรวดเร็วบนแก่นกาย พริมาเห็นการกระทำทุกอย่างก็ยิ่งอยากจะร้องไห้เมื่อล่วงรู้ชะตากรรม
เรือนร่างงามพอได้สติก็ขยับหนี แต่เพราะด้วยตัวเองถูกเชือกมัดติดกับเสาเอาไว้ ทำให้เธอไม่สามารถขยับไปได้ จึงได้นึกลองที่จะอ้อนวอนดูใหม่ เผื่อว่าถ้าเกิดว่ายังพอจะมีโชคดีทำให้ผู้ชายคนนี้พอที่จะเปลี่ยนใจได้บ้าง
"นี่นาย ฉันขอร้องเถอะนะ อย่าทำอะไรฉันเลย นายกำลังเข้าใจฉันผิดจริงๆนะ ระหว่างฉันกับคุณป๋าเราสองคนเป็นแค่พ่อลูกกันจริงๆ นายเชื่อฉันเถอะได้โปรด"
"พูดไปตอนนี้มันก็คงจะไม่สามารถทำให้อะไรเปลี่ยนแปลงขึ้นมาได้ ไม่เห็นหรือไงว่าฉันกำลังมีอารมณ์ ไหนๆไอ้เรื่องแบบนี้เธอเองก็คงจะผ่านมาแทบจะนับไม่ถ้วนแล้ว รับลูกค้าอย่างฉันเพิ่มอีกสักคนหนึ่งจะเป็นไรไป"
พริมาส่ายหน้าทั้งน้ำตา ดูเหมือนว่าสิ่งที่เธอพูดมานั้นจะยังคงไม่สามารถกู้สถานการณ์ที่เป็นอยู่ตอนนี้ให้เธอปลอดภัยได้
"ไม่นะ นายกำลังเข้าใจฉันผิดจริงๆ ฉันไม่เคยทำเรื่องอะไรอย่างที่นายว่ามาก่อนเลย แล้วฉันกับคุณป๋าเราสองคนก็เป็นพ่อลูกกัน ฉันไม่ใช่เมียน้อยของคุณป๋านะ นายเชื่อที่ฉันพูดเถอะขอร้อง"
"ตอแหล! จะให้ฉันเชื่อว่าระหว่างเธอกับไอ้แก่นั่นไม่เคยมีอะไรกันมาก่อน หรือเธอกำลังจะบอกว่าเธอเองก็บริสุทธ์ผุดผ่องอย่างนั้นเหรอ ไปพูดให้ควายที่ไหนฟังมันยังไม่เชื่อเลย"
"แต่ว่าฉันพูดจริงๆนะ ฉันบริสุทธิ์ ชีวิตนี้แฟนสักคนก็ยังไม่เคยมี ตลอดเวลาที่ผ่านมาคุณป๋าเข้มงวดกับเรื่องมีแฟนของฉันมาก"
"ที่มันเข้มงวดกับเธอ ก็คงเป็นเพราะว่าอยากจะเก็บเธอเอาไว้ฟาดเองยังไงล่ะ"
"ไม่จริง คุณป๋ารักฉันมาก เขาไม่มีทางทำแบบนั้นกับฉัน นี่ฉันต้องทำยังไงนายถึงจะยอมเชื่อว่าฉันกับคุณป๋าเราสองคนเป็นพ่อลูกกันจริงๆอ่ะ"
"ถ้าเธออยากให้ฉันเชื่อ งั้นก็พิสูจน์สิ ลองให้ฉันพิสูจน์ดูว่าเธอยังบริสุทธิ์ไม่เคยผ่านมือชาย ถ้าเป็นแบบนั้นฉันถึงจะยอมเชื่อว่าระหว่างเธอกับไอ้แก่นั่นไม่มีอะไรกัน ว่าแต่กล้าหรือเปล่า"
"พะ พิสูจน์ยังไง"
"เธอบอกว่าเธอยังบริสุทธิ์ไม่ใช่เหรอ ถ้าบริสุทธิ์ ก็ต้องแปลว่ายังไม่เคยผ่านมือชาย ลองให้ฉันใส่มันเข้าไปในตัวเธอดู ถ้าเกิดว่าเข้าไม่ได้ ก็แสดงว่าเธอยังบริสุทธิ์จริง"
"นี่นายจะบ้าไปแล้วเหรอ ถ้าทำแบบนั้นก็เท่ากับว่าฉันต้องเสียตัวให้นายน่ะสิ"
"หรือว่าเธอมีทางเลือกอื่นล่ะ มีทางไหนอีกที่จะสามารถให้ฉันพิสูจน์ได้ว่าเธอกับไอ้แก่นั่นไม่มีอะไรกันจริงๆ แต่ก็แล้วแต่นะ ในเมื่อฉันให้โอกาสเธอแล้ว จะเอาหรือไม่เอาก็ตามใจ ถ้าไม่เธอก็ต้องทนอยู่ที่นี่ต่อ"
พริมาถึงกับคิดหนักเมื่อได้รับรู้ว่าจะต้องใช้วิธีใดในการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเอง มันจะไม่มีหนทางอื่นอีกแล้วจริงๆเหรอ ไม่มีอีกแล้วใช่ไหม เธออยากกลับบ้าน
"ฉะ ฉันยอมให้นายพิสูจน์ก็ได้ แต่ถ้าหากว่านายพิสูจน์แล้วว่าฉันยังบริสุทธิ์จริงๆ นายจะต้องปล่อยฉันไปโอเคหรือเปล่า"
"ก็ได้ ถ้าเธอไม่ใช่เมียน้อยเมียเก็บของไอ้แก่นั่นจริงๆ ฉันจะยอมปล่อยเธอไป"
"อีกอย่าง นะ นายต้องลองใส่เข้าไปเพียงแค่นิดเดียว ห้ามใส่เข้าไปเยอะเด็ดขาด"
"เรื่องนั้นเป็นฉันต่างหากที่ต้องเป็นคนตัดสินใจ ไม่ใช่เธอ"
"งะ งั้นนายก็รีบมาพิสูจน์ฉันสิ ฉันอยากกลับบ้านแล้ว"
"อ๊าๆ พี่ฉัตรขา อ๊า แรงอีกค่ะ เอาพิมแรงๆ"เสียงพริมาครางกระเส่าออกมาจนแทบไม่ได้ศัพท์ เมื่อเวลานี้แก่นกายของฉัตรากำลังขยับซอยเข้าออกจากร่องหลืบกลางกายของเธออย่างร้อนแรง สามชั่วโมงมาแล้วที่เพลิงพิศวาสนี้ยังคงดำเนินต่อไม่หยุด หลังจากที่เคลียร์จบปัญหากับว่าที่พ่อตาจบได้ อรอุษาก็บอกให้พริมาและฉัตราพากันขึ้นไปพักผ่อนอาบน้ำอาบท่าหลังจากเดินทางมาถึงเหนื่อยๆ แต่พอพริมาพาคุณว่าที่สามีก้าวผ่านเข้าประตูห้องนอนเธอมาเท่านั้น ฉัตราก็กดล็อกประตูแล้วอุ้มเธอขึ้นมาไว้ในอ้อมแขน "พี่ฉัตร ทำอะไรคะ""แม่พี่บอกให้เราไปอาบน้ำไง นี่พี่ก็กำลังจะพาพิมเข้าไปอาบน้ำ""แล้วทำไมถึงจะต้องอุ้มพิมไปด้วยล่ะคะ พิมเดินเองได้ค่ะ ห้องน้ำอยู่ตรงแค่นี้เอง""ก็ตอนนี้พ่อพิมอนุญาตให้เราแต่งงานกันแล้ว พี่ก็เลยกะ..ว่าจะลองพาพิมทดลองเข้าหอกันหน่อย""อีกแล้วเหรอคะ""อีกแล้ว? คืออะไร นี่อย่าบอกนะว่าพิมเบื่อพี่แล้ว""ใครว่าล่ะคะ พิมก็แค่กลัวว่าถ้าให้พี่ฉัตรบ่อยเกินไป แล้วพี่ฉัตรต่างหากที่จะเป็นคนเบื่อพิม""งั้นลองมาดูกันนะว่านานแค่ไหนกว่าวันนั้นจะมาถึง เผลอๆพี่ว่า ต่อให้พี่เอาพิมวันละสามรอบ พิมก็คงก็รอจนแก่หงำเหงือก รอจนเอ็นพี่ไร้สมรร
ชยุตนั่งทรุดตัวลงกับโซฟาแล้วยกมือขึ้นมาปิดหน้าร้องไห้ ภาพของกมลา หญิงสาวที่หลงรักเขามาตั้งแต่สมัยหนุ่มนั่งทรุดตัวลงร้องไห้กับพื้นในวันที่ได้รับรู้ความจริงว่าที่เขาแต่งงานกับเธอก็เพียงเพราะว่าหวังในทรัพย์สมบัติ เพื่อเอาไปช่วยคนรักเก่า หาได้มีใจรักเธอไม่ นับตั้งแต่วันนั้นกมลาที่เคยสดใสก็เอาแต่กักขังตัวเองไว้อยู่ในห้องนอน กมลาพาลเกลียดพริมา ลูกสาวตัวน้อยที่เกิดมาเป็นสักขีพยานในความโง่เขลาของเธอ วันๆเอาแต่เก็บตัวเองร้องไห้ คนในที่สุดเธอก็จากไป ทิ้งบาดแผลและความรู้สึกผิดไว้ติดอยู่ในใจเขาจนถึงทุกวันนี้'พี่ชยุต ไม่ว่าชาตินี้หรือชาติไหนๆ กมลาก็จะไม่มีวันยกโทษให้อภัยพี่ พี่หลอกกมลา หวังเอาทรัพย์สมบัติของกมลาไปช่วยเหลือผู้หญิงคนอื่น กมลาไม่มีทางยอมเด็ดขาด สมบัติของกมลาจะต้องเป็นของพริมาลูกสาวกมลาเท่านั้น ห้ามพี่มีลูกกับใครใหม่แล้วเอาสมบัติของกมลาไปเสวยสุขกับมัน รับปากกมลาสิถ้าพี่รู้สึกผิดจริงๆ'คำพูดสุดท้ายยังดังกึกก้องอยู่ในหัวแทบทุกจะประโยค ความรู้สึกผิดกัดกินในใจอยู่ชั่วทุกคืนวัน และนี่จึงเป็นเหตุผลที่ว่าถึงแม้เขาจะรักอรอุษาเพียงใด แต่เขาก็รับปากกมลาเอาไว้ก่อนตาย ว่าจะมีพริมาป็นลูกแค่คนเดีย
ในที่สุดวันที่ฉัตราไม่อยากให้ถึงก็มาถึงจนได้ เรือสปีดโบ๊ทที่เขาเป็นคนขับพาตัวเองและคนตัวเล็กกลับเข้ามายังฝั่งเพียงแค่ไม่ถึงยี่สิบนาทีได้ถูกจอดไว้ที่ท่าเรือส่วนตัวของตัวเอง ใบหน้าหล่อเหลานั้นแสดงออกถึงความเครียดอย่างเห็นได้ชัดเมื่อพาพริมาก้าวขึ้นฝั่งมาบนบก แถมยังถอนหายใจออกมาเสียจนเสียงดัง ทำเอาพริมาถึงกับต้องคอยจับมือของคนตัวใหญ่มากุมเอาไว้และพูดให้กำลังใจไม่ห่าง"พี่ฉัตร พิมเป็นกำลังใจให้นะคะ"แล้วจากนั้นประตูรถตู้คันหรูสีดำก็ถูกเปิดออกเพื่อให้เธอและเขาขึ้นไปนั่ง ระหว่างนั้นทั้งสองคนยังคงนั่งกอดกันเอาไว้ตลอด ที่วันนี้ฉัตราเลือกที่จะให้ลูกน้องเป็นคนขับรถมาก็เป็นเพราะว่าตัวเองไม่มีเรี่ยวแรงที่จะจับพวกมาลัยขับมาเลยต่างหาก ไม่รู้จริงๆว่าสถานการณ์ที่จะต้องเจอจะเป็นยังไง การที่ต้องเขาไปพูดคุยกับผู้ชายสารเลว คนที่ทำให้แม่ของเขาเสียใจมาเป็นเวลายี่สิบสามสิบปี เพื่อที่วันข้างหน้าจะได้เปลี่ยนจากสถานะพ่อเลี้ยงมาเป็นพ่อตานั้นมันทำใจง่ายเสียที่ไหน ความโกรธเกลียดแค้นที่สั่งสมมา แต่ไม่สามารถทำอะไรตาแก่นั่นได้เนื่องจากว่าถูกมารดาขอร้องนั่นก็ยังพอที่จะยอมทน แต่เวลานี้กลับกลายเป็นว่าตัวเองต้องมากลายเป็
"คิดเหรอว่านายหัวจะเอาเธอจริงๆ ฉันอยู่ที่นี่มาตั้งหลายปี เห็นนายหัวเปลี่ยนผู้หญิงบ่อยยิ่งกว่าเปลี่ยนกางเกงในเสียอีก อย่าสำคัญตัวผิดแล้วก็หวังอะไรลมๆแล้งๆเข้าล่ะ ฉันขอเตือน"จังหวะที่เดินยกจานที่ทานเสร็จแล้วเข้ามาช่วยเก็บในอ่างในครัว แล้วฉัตราเองก็ขอตัวออกไปคุยโทรศัพท์ข้างนอก พริมาก็ได้เผชิญหน้าเข้ากับผู้หวังดีแบบเต็มๆ ฝ่ายนั้นยืนกอดอกพิงตัวเองกับตู้เย็น แล้วยืนมองมาที่เธอด้วยสายตาสุดเหยียด หากแต่พริมาก็ไม่ได้นึกแยแส แล้วตอบกลับผู้หวังดีไปแบบเจ็บๆ"งั้นฉันก็คงต้องขอขอบใจเธอมากเลยนะที่อุตส่าห์เสียสละเวลามาเตือนฉัน เพราะว่าถึงแม้ว่าพี่ฉัตรจะไม่เอาฉันจริงๆ แต่อย่างน้อยฉันก็ได้ลองกินแล้วว่าผู้ชายคนนี้แซ่บมากแค่ไหน ว่าเเต่เธอเถอะ อุตส่าห์เฝ้าพี่ฉัตรมาตั้งหลายปี เคยได้ลองดูบ้างสักทีหรือเปล่า หรือว่าให้พี่ฉัตรลองแล้ว แต่ว่าเธอมันไม่อร่อย เขาก็เลยต้องคอยเปลี่ยนรสชาติบ่อยๆจนได้มาเจอฉัน""อีบ้า อย่ามามั่นหน้ามากไปหน่อยเลย วันไหนถูกนายหัวถีบหัวส่งขึ้นมาฉันจะหัวเราะเยาะแกให้ดังไปสามบ้านแปดบ้าน""งั้นก็ค่อยรอเอาไว้ให้วันนั้นมันมาถึงก่อนก็แล้วกัน แต่ว่าวันนี้เขายังหลงฉันหัวปักหัวปำอยู่น่ะ ยังไงจานนี
พอกินเธอเสร็จ ฉัตราก็พาเธอเข้าไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่ ก่อนจะต้องตกใจเมื่อเห็นเขาทิ้งรอยจ้ำสีแดงไว้ตามจุดต่างๆบนร่างกายเสียจนทั่ว ไม่เว้นแม้กระทั่งบริเวณกลีบบอบบางตรงกลางลำตัว ถึงว่าตอนที่ฉัตรามุดก้มลงไปเขาดูดมันเสียแรง ส่วนเธอเองก็เอาแต่มัวร้องครางเพราะความเสียวจนไม่ลืมหูลืมตาราวกับว่าส่งเสริมให้เขาทำมัน เป็นไงล่ะทีนี้ จะเดินออกไปกินข้าวยังไงทันทีที่บานประตูเปิดออก ที่หน้าห้องนั้นกลับมีหญิงสาวคนเดิมยืนแอบจิกตามองเธอด้วยสายตาที่ดูก็รู้ว่าต้องการจะประกาศศักดิ์ดา ก็เอาสิ ในเมื่อฉัตรายังคงกำมือเธอเอาไว้ไม่ยอมปล่อย ซึ่งนั่นก็จะต้องรู้แล้วว่าระหว่างเธอกับแม่ลิ้นจี่นั่น ฉัตราจะเลือกที่จะหนุนหลังใคร"นายหัวขา ป้าตาให้ลิ้นจี่มาตามนายหัวไปทานข้าวเย็นค่ะ""อื้มขอบใจ วันนี้มีอะไรกินบ้าง""ก็เยอะเลยค่ะนายหัว มีแต่ของโปรดนายหัวเผ็ดๆทั้งนั้น ลิ้นจี่รู้ว่านายชอบอาหารรสจัด ก็เลยเตรียมพวกของหวานเอาไว้ให้ด้วย ไปดูสิคะ"หญิงสาวคนนั้นยังคงพูดไปยิ้มไป สายตาและท่าทางแสดงออกเต็มๆว่าต้องการทำให้คนตรงหน้าหลงใหลได้ปลื้มไปกับท่าทีนั้นของเธอ จนพริมาเห็นแล้วก็เกิดของขึ้นเผลอกัดฟันและจิกเล็บเสียแรงลงไปบนฝ่ามือใหญ่อย่า
พริมายังคงนิ่งเงียบไม่ยอมเปิดปากพูดอะไรใดๆในขณะที่ฉัตราจูงมือเธอเดินเข้ามาในบ้านและก่อนจะพาเดินเข้าในในห้องส่วนตัวซึ่งเป็นห้องนอนตัวเอง จากนั้นทันทีที่บานประตูถูกปิดลง เสียงลูกบิดหน้าประตูก็ถูกกดล็อก แล้วคนตัวใหญ่ก็ยกสองมือขึ้นมาจับใบหน้าเธอประครองเข้าหา แล้วจึงจัดการประกบริมฝีปากลงมาทันทีทั้งที่ฉัตรากำลังจูบเธออย่างหนักหน่วง หากแต่พริมากลับยังคงยืนนิ่งเฉยไร้ซึ่งการตอบสนอง ในขณะที่เขาจัดการเปิดปากแล้วส่งลิ้นร้ายของตัวเขาเองเข้าไปรุกรานภายในปาก หากแต่นั่นก็ยังไม่สามารถทำให้พริมาคล้อยตามได้ ส่วนคนที่กำลังคลั่งจูบเธออยู่ พอเห็นว่าเธอยังคงนิ่งก็เริ่มเอะใจ "พิม เป็นอะไรหรือเปล่า""พี่ฉัตร คือว่าพิม.."จะให้เธอตอบออกมาได้ยังไงว่าที่เธอนิ่งไปเป็นเพราะว่ามีเรื่องค้างคาใจอยู่ แน่นอนว่าสายตาของผู้หญิงด้วยกันมอง มีหรือที่เธอจะไม่รู้ว่าสายตาของผู้หญิงคนเมื่อกี้ที่มองเธอและฉัตรานั้นมองมาด้วยสายตาแบบไหน พริมาไม่ได้อยากเก็บความสงสัยที่มันกำลังรบกวนจิตใจตัวเองเอาไว้แบบนี้ เพียงแต่ว่าตอนนี้เธอไม่สามารถบอกได้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอและฉัตรานั้น เขาให้อภิสิทธิ์เธอในการแสดงถึงความหึงหวงเขาได้เพียงใด"