นายหัวฉัตรา เจ้าของเกาะเหมือนมุกที่ทั้งดิบและเถื่อน ใช้อำนาจที่มีไปจับตัว 'อีหนูเด็กเสี่ย' ของพ่อเลี้ยงที่เป็นสามีของแม่ตัวเองมาทรมาน เพราะอยากช่วยแม่กำจัดเมียน้อย ทั้งๆที่ 'อีหนู' ก็บอกแล้วว่าตัวเธอเองไม่ใช่เมียน้อย หากแต่เป็นลูกสาวของพ่อเลี้ยงตัวเองจริงๆ แต่นายหัวก็ดันไม่ยอมเชื่อ ยังคงตั้งแง่รังเกียจ แถมพูดตะคอกใส่หน้า 'อีหนู' สารพัดว่าชาตินี้จะไม่มีวันเเตะต้องเธอ จนกระทั่งได้เผลอใช้บริการของ 'อีหนู' ไป ถึงได้รู้ว่า 'อีหนู' นั้นยังสดใหม่ไม่เคยผ่านมือชาย สืบไปสืบมาก็ดันไปรู้มาอีกว่า 'อีหนู' นั้นคือลูกสาวแท้ๆของพ่อเลี้ยงตัวเองจริงๆ คราวนี้นายหัวก็เลยว้าวุ่น เพราะว่าพ่อเขาตามมาเอาตัวลูกสาวเขาคืนจนได้ จากคนบงการ ต้องกลายเป็นผู้ถูกบงการ นายหัวฉัตราจะทำอย่างไร ในเมื่อตอนนี้ตัวเองดันกลับติดใจ 'อีหนู' คนนั้นเสียแล้ว ทำอย่างไรเขาถึงจะได้ 'อีหนู' คนนั้นของเขากลับคืนมาไว้ในอ้อมอก แล้ว 'อีหนู' จะยอมยกโทษให้เขาหรือเปล่าที่เธอถูกเขาเข้าใจผิดสารพัด
Узнайте большеควันบุหรี่สีขาวถูกจุดและพ่นออกจากริมฝีปากเข้มครั้งแล้วครั้งเล่าภายในกระท่อมที่ดูออกจะกลางเก่ากลางใหม่ บนแคร่ไม้ไผ่ตัวยาวตรงหน้ามีร่างของหญิงสาวคนหนึ่งที่พึ่งจะถูกจับตัวมาโดยลูกน้องของเขานั้นถูกมัดแขนมัดขาและปิดสก็อตเทปเอาไว้ที่ปากแน่นิ่ง
สายตาคมไล่กวาดมองตามไปยังเรือนร่างงดงามสมส่วนของคนที่นอนสลบอยู่ในชุดนักศึกษาตัวสั้น โดยด้านล่างมีกระโปรงทรงเอสีดำรัดรูปถลกขึ้นมาเหนือเข่าเผยให้เห็นต้นขาเนียนขาวคู่กับเสื้อเชิ้ตนักศึกษาตัวไม่ยาวที่ผู้เป็นเจ้าของสวมใส่มันจงใจใส่ให้ดูรัดแน่นเสียจนเน้นให้เห็นบริเวณทรวงอกที่แทบจะล้นทะลักออกมา
หากเป็นผู้ชายคนอื่น ไม่รู้ว่าภาพเบื้องหน้าที่ได้เห็นนั้นจะกระตุ้นอารมณ์ความหื่นได้มากเพียงใด แต่สำหรับเขา นายหัวฉัตรา แห่งเกาะเหมือนมุก ภาพของหญิงสาวที่นอนกระโปรงเปิดอยู่เบื้องหน้านั้นกลับไม่ได้ทำให้เขาเกิดความรู้สึกว่าอยากจะมองมันเลย เนื้อตัวที่แสนสกปรกนั่นไม่ได้ดูน่ามอง ตรงกันข้าม หากว่าแถวนี้พอที่จะมีอะไรสามารถให้นำมาปกปิดความอุบาทตาตรงหน้าได้ นั่นคือสิ่งที่เขาจะไม่มีทางรีรอที่จะทำมัน
"เฮ้ย! ตื่นสักทีสิวะ จะนอนนิ่งให้เป็นศพตายอยู่ตรงนี้เลยหรือไง ตื่น!"
รองเท้าบู๊ทขนาดใหญ่ถีบกระแทกไปยังแคร่ไม้ไผ่นั้นจนเสียงดัง จนร่างของคนที่นอนขดตัวแน่นิ่งพลิกกลิ้งไปมาจนเกือบที่จะหล่น มือน้อยขยับขยุกขยิก แต่ดูเหมือนว่าเชือกที่ถูกมัดเอาไว้นั้นจะทำให้เธอไม่สามารถขยับได้ จึงได้แต่ค่อยๆลืมตาขึ้นมาแล้วกวาดมองไปรอบๆด้านอย่างช้าๆ จนกระทั่งได้มาหยุดลงตรงหน้าของชายแปลกหน้าที่..โคตรจะหล่อ
"ตื่นได้สักทีสินะ นึกว่าตัวเองยังนอนสุขสบายดีอยู่ในวิมานสีทองหรือไง ลืมตาตื่นขึ้นมาดูหน่อยว่าตอนนี้วิมานสีทองของเธอน่ะได้เปลี่ยนเป็นขุมนรกแล้ว"
ทันทีที่ลืมตาตื่นขึ้นมา พริมา ก็หันไปเห็นชายแปลกหน้าที่ยืนแสยะยิ้มเหี้ยมมองที่เธอด้วยสายตาที่ดูแล้วช่างน่าหวาดกลัว คนตัวเล็กพยายามรีบขยับตัวลุกเพื่อที่จะตะโกนร้อง แต่แล้วก็ดูเหมือนพึ่งจะประจักษ์ได้ว่าเวลานี้ทั้งมือ แขน ขา แม้กระทั่งปากนั้นได้ถูกมัดเอาไว้เสียแน่นจนไม่สามารถขยับได้ แม้ว่าอยากจะร้องตะโกนออกไปเพียงใดก็ปราศจากเสียง
"อื้อ อื้อ"
"อย่าพยายามเลย โดนมัดจนแน่นขนาดนี้ถ้าแหกปากหลุดมาได้ก็เก่งเกินไปแล้วล่ะ"
ร่างสูงใหญ่เดินย่างสามขุมเข้าไปหา ก่อนที่รองเท้าบู๊ทสีน้ำตาลเข้มจะถูกยกขึ้นมาย่ำเหยียบเอาไว้บนแคร่ พริมายังคงพยายามเขยิบถอยหนี จนกระทั่งที่ศรีษะถูกฝ่ามือใหญ่ตรงเข้ามาขยุ้มเส้นผมของเธอเสียจนเต็มกำมือแล้วดึงมันขึ้นจนหน้าแหงนเพื่อเป็นการบอกว่าให้เธอนั้นลุกขึ้นนั่ง
ลมหายใจอุ่นร้อนที่สาดเข้ามาทางใบหน้านั้นเต็มไปด้วยกลิ่นบุหรี่เหม็นคลุ้ง แม้ว่าลึกๆแล้วมันช่างมีเสน่ห์แต่ด้วยสถานการณ์ที่กำลังเผชิญอยู่ตอนนี้ทำให้เธอต้องหันหนี และด้วยความเจ็บปวดได้ร้องไห้ออกมาอย่างไม่นึกอาย
"อื้อ อื้อ ฮือๆๆ"
นาทีนี้เธอทั้งตกใจและหวาดกลัว บุคคลตรงหน้าของเธอตอนนี้เป็นใคร เขาจับเธอมาทำแบบนี้ทำไม แล้วตอนนี้เธอกำลังอยู่ที่ไหน ทำไมถึงได้ถูกจับมามัดเอาไว้แบบนี้
"ร้องไห้งั้นเหรอ น้อยไปสิ ทีทำคนอื่นเจ็บยังไม่เห็นสนใจว่าใครจะรู้สึกยังไง เจ็บแค่นี้ไม่ต้องสำออยเลย อีพวกเมียน้อย!"
แล้วจากนั้นร่างของเธอก็ถูกเขาผลักลงไปบนแคร่ตามเดิมเต็มแรง พริมาร้องไห้ออกมาสะอึกสะอื้นด้วยความเจ็บปวดและกลัว พร้อมทั้งยังอยู่ในอาการสับสน เธอยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเคยไปทำให้ใครเจ็บช้ำน้ำใจอะไรตอนไหน ยิ่งคำว่า เมียน้อย ด้วยแล้ว ชาตินี้ก็ยังไม่เคยคิดว่าจะอยากเป็น แต่ด้วยสภาพที่เป็นอยู่ตอนนี้ที่ถูกทั้งมัดมือเท้าและปาก เธอคงจะไม่สามารถตอบโต้หรือว่าอธิบายอะไรได้ หมายความว่าคงต้องยอมรับสถานภาพนี้ไปอย่างนั้นหรือ
วินาทีแห่งความหวาดกลัวยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นเมื่อมีดปลายแหลมขนาดเล็กถูกหยิบออกมาจากปลอกที่ห้อยเหน็บอยู่ข้างหลัง รอยยิ้มเหี้ยมเกิดขึ้นอีกครั้งบนใบหน้าที่มีไรหนวดปกคลุมเขียวครึ้มเนื้อริมฝีปาก ก่อนที่ชายคนนั้นจะเดินย่างกรายเข้ามาใกล้ นี่เขาคงไม่ได้กำลังคิดที่จะฆ่าเธอทิ้งที่นี่หรอกใช่ไหม พอคิดได้ก็เริ่มขยับ หากแต่ก็ไม่พ้น จนในที่สุดก็โดนฝ่ามือใหญ่บีบเข้าที่ลำคอเต็มแรง
"อื้อ อื้อ อะแฮ่กๆ"
วินาทีนี้พริมายอมรับว่าเธอกลัวที่สุดในชีวิตแล้ว ยิ่งตรงเอวด้านข้างถูกปลายมีดสะกิดจี้ก็ยิ่งหวาดกลัว หยดน้ำตาเม็ดใหญ่ไหลพร่างพรายออกมาไม่มีหยุด นี่เธอกำลังจะต้องถูกจบชีวิตที่นี่จริงๆหรือ ทำไมชีวิตเธอถึงได้แสนสั้นนักล่ะ ขอให้เธอได้มีชีวิตที่ยืนยาวอยู่ดูโลกนี้ต่ออีกหน่อยก็ไม่ได้ ทำไมโชคชะตาเธอถึงได้โหดร้ายถึงเพียงนี้ เธอทำอะไรผิดกัน
"ฆ่าเธอทิ้งเสียที่นี่ แล้วเอาศพโยนทิ้งลงทะเลให้น้ำซัดไป กว่าจะลอยอืดกลับเข้าฝั่งก็คงจะไม่เหลือซาก"
พริมาส่ายหน้าร้องไห้รัว ภายในใจก็ได้แต่นึกอ้อนวอนขอให้ชายคนนี้เมตตา อย่างน้อยก็ช่วยเปิดปากให้เธอได้พูดได้อธิบายหน่อย หรือไม่ก็ได้ถามว่าเพราะอะไรเธอถึงต้องมาตกอยู่ในสภาพเช่นนี้
"อื้อ อื้อ อื้อ"
"ทำไม อยากจะให้ฉันเปิดปากให้ได้สั่งเสียอะไรก่อนตายงั้นเหรอ หรือว่า..อยากจะฝากอะไรถึงไอ้แก่ชยุต ก็ได้เดี๋ยวฉันจะช่วยสงเคราะห์"
ทันทีที่สก็อตเทปถูกลอกออกจากปาก พริมาก็ไม่รอช้าที่จะสาดทุกคำถามที่มีในหัว เธอทั้งพูดไปร้องไห้ไปจนแทบจะฟังไม่ได้ศัพท์ จนแล้วจนรอดชายคนที่จับตัวเธอมาก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะยอมปล่อย แถมถามอะไรก็ไม่ตอบ พอถามว่ารู้จักเธอเหรอถึงได้จับตัวเธอมา มันก็เอาแต่นั่งเบะปากยิ้มเยาะคล้ายกับว่าสนุกที่ได้เห็นเธอร้องไห้
กระทั่งพริมาเหลืออดนึกอะไรไม่ออกจึงได้พูดประโยคสุดท้ายที่พึ่งพอจะนึกได้ออกไป แต่นั่นกลับทำให้คนที่กำลังนั่งฟังเธอพร่ำอยู่นั้นถึงกับเปลี่ยนมาอยู่ในโหมดตบะแตกด้วยความโมโหปานถูกพายุใหญ่สาดซัดใส่เข้ามา
"ตกลงนี่แกจะเอายังไง จับฉันมาทำไม ถามอะไรก็ไม่ยอมตอบยอมพูด แกปล่อยฉันไปเดี๋ยวนี้เลยนะไอ้บ้า แกรู้ไหมว่าคุณป๋าของฉันเป็นใคร ถ้าคุณป๋ารู้ว่าแกจับฉันมาไว้ที่นี่ รับรองได้เลยว่าแกจะต้องถูกสับจนเละไม่เหลือชิ้นดีแน่ ปล่อยฉันนะ บอกให้ปล่อย!"
พริมาถึงกับต้องแอ่นกระดกกายขึ้นและหลุดเสียงครางออกมาทันทีที่ปลายลิ้นร้อนสัมผัส โดยที่มันถูกกวาดลากขึ้นมาจากข้างล่างผ่านรอยแยกที่มีความเฉอะแฉะของหมู่มวลน้ำหวานที่เอ่อล้นทะลัก เพียงปลายลิ้นร้ายนั่นสัมผัสแตะขยี้ตุ่มเกสรกลางกาย มือขาวๆกับเล็บยาวๆนั้นก็จิกลงบนเส้นผมของผู้หวังดีทันที"อ๊า นาย""เสียวดีใช่ไหม"พริมารีบพยักหน้ารับแบบรัวๆจนผู้หวังดีได้ใจ เมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กเสียวซ่านด้วยความทรมานแต่มีความสุข ใบหน้าหล่อเหลานั่นก็ยิ่งมุดก้มลงไปใช้ลิ้นปาดเลียซ้ำ ทำเอาสะโพกงามที่คอยส่ายร่อนด้วยความซ่านเสียวนั้นต้องบิดหนี หากแต่ก็ถูกผู้หวังดีจับเอาไว้"ปลาตัวนั้นมันน่าจะว่ายเข้าไปลึกมากๆ เห็นทีว่าฉันคงต้องได้ใช้อะไรที่มันยาวกว่าลิ้นสอดควานเข้าไปหาตัวปลา เธออยากให้ฉันช่วยไหม""ช่วยฉัน นายช่วยฉันด้วย"พอบอกให้ช่วย เรียวขางามก็ยิ่งแบะอ้าออกกว้างขึ้น เผยให้เห็นกุหลาบงามสีชมพูสดที่ทั้งเต่งตูมและแสนเกลี้ยงเกลา ผู้หวังดีใช้นิ้วโป้งมือบีบขยี้ที่กลางปุ่มเกสรอีกสักน้อยแล้วจึงก้มลงไปดูดเลียอีกที จากนั้นจึงได้เงยหน้าขึ้นกลับขึ้นมาและถอยออกไปยืนขึ้นเพื่อถอดกางเกงบ็อกเซอร์ออกจนเห็นท่อนเอ็นสวยเต็มไปด้วยเส้นเลือด
ร่างสองร่างเนื้อตัวบดเบียดแนบชิดเข้าหากัน มือของทั้งสองฝ่ายต่างเกาะกิ่งไม้เอาไว้กันคนละข้าง ส่วนข้างที่เหลือพริมาเลือกที่จะวางเอาไว้บนไหล่แกร่งนั่น ส่วนของคนเจ้าเล่ห์นั้นก็กำลังบีบคลึงลงมาบนที่โนมเนื้อของเต้าเธอ"อื้อ นี่นายเมาแล้วใช่ไหม ถึงได้คิดจะลวนลามฉันอีกแบบนี้"พอคนเจ้าเล่ห์ผละริมฝีปากออก พริมาก็เอ่ยปากถาม แม้ว่าจะรู้สึกแปลกๆที่ตัวเธอเองยอมปล่อยกายใจให้ผู้ชายแปลกหน้าได้กอดจูบตามอำเภอใจ แต่ลึกๆตัวเองก็แอบยอมรับไม่ได้ว่าเธอรู้สึกตื่นเต้นและชอบมัน คนเจ้าเล่ห์จ้องมองเธอนิ่งและเลือกที่จะไม่ตอบคำถามของเธอดื้อๆ สองใบหน้าต่างเคล้าคลอเคลียกันอยู่ไม่ห่าง สายตาคมที่ฝ่ายนั้นใช้มองมาบวกกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ผุดขึ้นมาจากริมฝีปากช่วยปลุกปั่นความต้องการบางอย่างภายในใจเธอ ลมหายใจอุ่นร้อนคละเจือไปด้วยกลิ่นแอลกอฮอล์ที่เป่ารดมาตรงหน้า สร้างความรู้สึกร้อนวูบวาบทั่วทั้งร่างกาย "ว่าไง นายคิดที่จะลวนลามฉันอีกหรือเปล่า"พริมาถามย้ำอีกครั้งราวกับต้องการจะตื้อ แม้จะรู้ว่าคนตรงหน้ากำลังอยากแกล้ง แต่ตัวเธอเองก็ต้องการคำตอบจึงได้ถามจี้"แล้วเธอ อยากให้ฉันทำไหมล่ะ""อ๊ะ"พอพูดจบ มือข้างที่บีบขย้ำเต้านมของเ
"โห สวยจัง"พอเดินเข้ามาถึงพริมาก็ตกตะลึงกับสิ่งของตกแต่งที่อยู่ภายในอย่างลืมตัว คนตัวเล็กเดินเข้าไปสำรวจอย่างช้าๆ ภายในนั้นถูกเจาะให้เป็นห้องสี่เหลี่ยมขนาดไม่ใหญ่มาก มีเตียงนอนขาวสะอาดตั้งอยู่กึ่งกลางพอดี "ทำได้ยังไง ทำไมถึงได้มีเตียงนอนมาอยู่ในนี้ได้""ใช้ ฮอ ยกขึ้นมา"คนตัวใหญ่ตอบเธอมาหน้าตาเฉยอย่างสบายอารมณ์ในขณะที่มือกำลังจุดเทียนที่วางตั้งอยู่บนโต๊ะ แล้วจากนั้นขวดไวน์แดงก็ถูกหยิบออกมาจากที่ไหนสักแห่งตอนที่พริมากำลังชื่นชมบรรยากาศรอบๆ ถ้านั่งมองจากบนเตียงนอนหันหน้ามองออกไป วิวทิวทัศน์ข้างหน้าก็คือภาพท้องฟ้าสีส้มอร่ามงามตา เพราะว่าพระอาทิตย์กำลังจะตกดิน มันช่างงดงามและโรแมนติกกว่าทุกที่ที่เธอเคยได้เห็น"จะดื่มด้วยไหม"แก้วไวน์ถูกยื่นเข้ามาตรงหน้า แล้วพริมาก็ยื่นมือมารับมันไปกระดกดื่มรวดเดียวหมด สมองของเธอกำลังใช้ความคิดว่าตกลงแล้วผู้ชายคนที่จับตัวเธอมานี้คือใคร ทำไมถึงได้ดูมีอำนาจสั่งการให้คนไปจับตัวเธอมาได้ แถมดูที่ๆเขามาเธอมาตอนนี้สิ หากว่าเป็นเพียงแค่คนธรรมาจะมีปัญญามาทำอะไรแบบนี้ได้"ตกลงว่านายเป็นใคร"คนตัวเล็กนั่งถือแก้วไวน์ไขว่ห้างอยู่บนเตียง ในขณะที่คนตัวใหญ่กำลังยืนมองวิ
"นายหัวครับ คนของเราได้รับรายงานมาว่าไอ้ชยุตมันให้คนของมันตามสืบแล้วไปได้ข้อมูลมาว่ามีคนของเราอยู่ในละแวกแถวนั้นในวันนั้นด้วยครับ มันก็เลยน่าจะเกิดสงสัยอะไรบางอย่าง ก็เลยทำเป็นขอนัดมาว่าคุณอุษาแม่ของนายอยากมาเยี่ยม""เมื่อไหร่""พรุ่งนี้ครับ คนของเรารายงานมาว่ามันจะเตรียมขนลูกน้องมาเต็มลำเรือสปีดโบ๊ทห้าคันเลยครับ คงกะว่าจะมาค้นเกาะ""อื้ม ก็ให้มันมา""เอ่อ แล้วผู้หญิงคนนั้นล่ะครับนายหัว ผมกลัวว่ามันจะแอบให้พวกลูกน้องแอบค้นหาทั่วทั้งเกาะ ยิ่งด้านหลังเกาะที่กระท่อมตั้งอยู่ ถ้าพวกมันแอบขึ้นมาทางนั้นก็โป๊ะเซะเลยนะครับนาย""เดี๋ยวเอาไว้ฉันจัดการเอง""ครับนายหัว"หลังจากนั่งร้องไห้มาสักพักอย่างไร้สติ พริมาก็พึ่งจะกลับมามีสติก็ต่อเมื่อได้ยินเสียงมอเตอร์ไซค์วิบากคันเดิมวิ่งกลับเข้ามา ด้วยความตกใจจึงได้รีบวิ่งพาตัวเองเข้าห้องน้ำมาอย่างไว ก่อนจะยกขันตักน้ำเทราดลงไปบนตัว เสียงแกะโซ่ล่ามและเปิดประตูเหยียบย่ำเข้ามาดังเอี๊ยดอ๊าด ก่อนที่ประตูไม้ไผ่หน้าห้องน้ำจะถูกเปิดออกและมีเรือนร่างสูงใหญ่ยืนจังก้าหน้าประตูมองเข้ามา"ฉันกลับไปตั้งนานแล้ว ทำไมยังอาบไม่เสร็จ""ก็เนื้อตัวฉันมันสกปรกมาก ก็เลยต้องอาบนา
พริมายังคงปล่อยให้ขั้นตอนในการพิสูจน์เหล่านั้นดำเนินต่อไปเรื่อยๆ จากทีแรกที่เจ็บแสนเจ็บ เวลานี้กลับกลายเป็นความหฤหรรษ์หรรษาเข้ามาแทนที่ เสียงครางระงมผลัดเปลี่ยนกันดังขึ้นอย่างเป็นช่วงจังหวะ บวกกับเสียงเนื้อกระทบเนื้อนั้นดังลั่นสนั่นกระท่อม"อ๊ะ อ๊า ฉันเสียวจะตายอยู่แล้ว เมื่อไหร่นายถึงจะพิสูจน์เสร็จซักที""ก็จนกว่าฉันจะแน่ใจไงว่าที่ผ่านมา เธอเคย หรือ ยังไม่เคย""แต่นี่นายก็พิสูจน์มาจนจะเป็นชั่วโมงสองชั่วโมงแล้วนะ ยังไม่แน่ใจอีกเหรอไอ้คนบ้า""แน่ใจแล้ว แต่แค่ ยังไม่เสร็จ""ไม่เสร็จก็เรื่องของนาย ออกไปจากตัวฉันได้แล้ว ฉันจะกลับบ้าน""เห็นแก่ตัวไม่เบาเลยนี่ อย่านึกนะว่าฉันไม่รู้ว่าเธอเสร็จไปแล้วตั้งกี่รอบ หันหลังมา"จากนั้นพริมาก็ถูกจับให้ก้มคลานสี่ขาหันหลัง โดยที่มือยังคงมีเชือกเส้นยาวผูกเอาไว้อย่างเดิม ก่อนที่สองเรียวขาจะถูกจับถ่างให้เปิดอ้ากว้างขึ้น แล้วดอกไม้งามก็ถูกสัดส่วนที่เป็นส่วนหัวหยักบานนั้นกดแทรกเข้ามาอีกรวดเดียวจนเสียวสะท้าน "อ๊า""ซี้ด แอ่นก้นขึ้นอีกนิดสิ ฉันจะได้จับเธอกระแทกถนัดๆหน่อย"พอเธอนิ่งเฉยไม่ยอมทำตาม แขนทั้งสองข้างก็ถูกจับแกะออกจากด้านหน้าแล้วเอามาผูกไว้ที่ด้านหล
หลังจากที่ตกลงจนได้ข้อสรุปที่ตรงกัน เรียวขางามทั้งสองข้างก็ค่อยแยกอ้าออกจากกันและตั้งฉากขึ้นจนเผยให้เห็นกุหลาบงามที่แสนอวบอูมและเนียนกริบ ปราศจากเส้นขนปกคลุม กลีบดอกของมันทุกดอกนั้นมีสีชมพูสดน่ามอง ที่จุดกึ่งกลางเกสรยังคงมีน้ำหวานปริ่มฉัตรายืนมองภาพนั้นด้วยความตะลึงงัน ภายในใจก็อดยอมรับไม่ได้ว่าภาพเบื้องหน้านั้นช่างปลุกปั่นความหื่นกระหายทางกามรมณ์ของเขาให้ตื่นกระเจิง ทั้งที่พยายามพูดกล่อมตัวเองมาตลอดว่าผู้หญิงคนนี้สกปรก แต่ดูเหมือนว่าเวลานี้เขากลับทำเหมือนลืมเลือนมันไป ตั้งแต่เติบโตเป็นหนุ่มมา ชีวิตของเขานั้นมีผู้หญิงมากหน้าหลายตาผลัดเปลี่ยนมาให้เชยชมอยู่มิได้ขาด หากแต่ความงดงามตรงหน้านั้นกลับทำให้เขาดั่งถูกเป่าใส่ด้วยมนต์สะกด นาทีนั้นเขาไม่แม้แต่ที่จะอยากรอช้า คนตัวใหญ่รีบพาตัวเองเข้าไปนั่งแทรกอยู่ตรงกลางระหว่างเรียวขางามนั่นแล้วจ้องมองไปยังจุดศูนย์กลางจุดเดียวที่กำลังดึงดูดสายตาเขาเอาไว้ฝ่ามือใหญ่ยกเอื้อมหมายจะลูบสัมผัส แต่อยู่ๆสะโพกงามก็ขยับถอยหนีจนเขาต้องเงยหน้าขึ้นไปมองหน้าเจ้าของมันด้วยความหงุดหงิด"เอ้า นี่เธอจะขยับหนีทำไม""ก็ฉันเห็นว่านายกำลังจะจับ..มัน""แล้วไง จับไม่ได้?
หลังจากผูกร่างขาวโพลนที่มีเพียงแค่ชุดชั้นในตัวบางปกปิดร่างกายไว้กับเสา แถมเจ้าของมันก็ยังคงแหกปากส่งเสียงร้องดังกรี๊ดๆออกมาจนเเสบแก้วหูได้สำเร็จ ฉัตราก็ถึงกับต้องยืนถอยหลังกลับมามองแล้วคิดตรึกตรองอะไรบางอย่าง ก็แค่เด็กเสี่ยคนหนึ่ง ทำไมเขาถึงจะทำไม่ได้ ปกติเขาเองก็ไม่ใช่คนดีเด่อะไรอยู่แล้ว กว่าจะมาถึงขนาดนี้ กว่าจะได้เป็น นายหัวฉัตรา เจ้าของเกาะเหมือนมุก ชีวิตที่ผ่านมาเขาก็ใช้มาจนไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ บรรดาน้องๆหนูๆที่เลี้ยงดูเอาไว้หรือไม่ก็พวกอีหนูเด็กเอ็น ไหนจะสุกี้หม้อรวมที่พวกลูกน้องคนสนิทชอบชวนไปก็เคยผ่านมา กับคราวนี้ที่ต้องจัดการอีหนูของพ่อเลี้ยงตัวเองให้สิ้นฤทธิ์เสีย หลับหูหลับตาทำไป มันก็คงจะเหมือนกับไปใช้บริการเหมือนครั้งก่อนๆแค่นั้นแหละ ลองดูสิว่าถ้าผู้หญิงคนนี้ขึ้นชื่อว่าผ่านมือเขามาแล้วเหมือนกัน ไอ้แก่ชยุตยังจะอยากเลี้ยงเด็กนี่ไว้ในกรงทองเทียบเคียงกับมารดาของเขาอยู่หรือเปล่า"ทีแรกก็ว่าจะไม่ แต่พอดีว่าช่วงนี้ฉันเองก็ของขาดมาตั้งสองอาทิตย์แล้ว ไหนๆก็ไหนๆแล้วฉันก็น่าจะลองดูหน่อยว่าเธอมีดีอะไรนักไอ้แก่นั่นถึงขนาดได้ยอมผิดคำสัญญาที่เคยให้ไว้ มานี่!""ไม่นะ กรี๊ด"พอพูดจบพริมาก็ถู
ในที่สุดเธอก็ต้องยอมทำตามคำสั่ง พริมาค่อยๆขยับเดินโขยกเขยกเท้าเปล่าหิ้วถังใส่น้ำที่พึ่งจะตักขึ้นมาจากบ่อมาเติมใส่ตุ่มข้างหน้าจนเต็ม แล้วจากนั้นจึงได้โยนถังทิ้ง ทันทีที่เสร็จงาน เชือกเส้นยาวที่ถูกนำมาผูกมัดเอาไว้ที่ขาเพื่อกันเธอหนีก็กระตุก ที่บนระเบียงหน้ากระท่อมยังมีแคร่ไม้ไผ่อีกตัววางไว้ บนนั้นมีผู้ที่ถือปลายเชือกที่ผูกล่ามเธอนอนเอกเขนกยกขาไขว่ห้างมองมาพร้อมด้วยเสียงตะโกนที่แข็งกระด้างดังขึ้นอีกครั้ง"เสร็จแล้วก็กลับขึ้นมา จะมัวมายืนแอ่นหน้าแอ่นหลังโชว์หุ่นล่อหน้าล่อตาใคร แถวนี้ไม่มีใครตาต่ำเหมือนไอ้แก่นั่นหรอกนะ เก็บนมเหี่ยวๆกับก้นแฟบๆของเธอไปให้พ้นหูพ้นตาฉันเดี๋ยวนี้"เพราะว่าต้องยกน้ำมาเติมในตุ่มตั้งสี่ห้ารอบกว่าจะเต็ม แถมยังต้องเดินเท้าเปล่าเหยียบย่ำหินก้อนเล็กๆที่มีอยู่เกลื่อนบนพื้นทั่วไปมา ทำเอาทั้งแขนและเอวนั้นตึงไปหมด พอตอนที่โยนถังตักน้ำทิ้งก็แค่อยากยืนบิดเนื้อบิดตัวนิดหน่อย สะบัดแขนไปมาเพื่อไล่ความเมื่อย แต่ก็ดันมาถูกบลูลี่รูปร่างจากคนจิตใจต่ำช้า ทำเอาความภาคภูมิใจในรูปร่างตัวเองที่เคยมีมาตลอดนั้นถึงกับเป๋สามสิบสี่ ยี่สิบสอง สามสิบห้า เอาจริงๆสัดส่วนรูปร่างที่เธอมีนั้นก็ไม
"ฉันจะเป็นอะไรกับใครมันก็ไม่ใช่เรื่องของเธอ บอกแล้วไงว่าให้แก้ผ้าออก หรือว่าต้องให้ฉันเป็นคนไปถอดให้เอง ถอด!"เสียงตะคอกยังคงดังขึ้นเสมอต้นเสมอปลาย นี่ถ้าจะว่าไปเธอกับนายคนนี้ก็ตะโกนคุยกันมาน่าจะเป็นเกือบยี่สิบนาทีได้ หลังจากที่บอกให้เธอนั้นถอดเสื้อผ้าออกให้หมด คนที่สั่งก็จัดการถอดเสื้อยืดสีน้ำเงินเข้มของตัวเองออกมาบิดน้ำด้วย เหลือไว้แค่เพียงกางเกงยีนต์ขายาวสีดำขาดเข่าที่เจ้าตัวสวมอยู่ตัดกับเข็มขัดหนังเส้นสีน้ำตาลเข้มดูเท่ ยิ่งทั้งเนื้อตัวนั้นเต็มไปด้วยมัดกล้ามอย่างกับพวกนายแบบห้องเสื้อด้วยแล้ว ทำเอาพริมาถึงกับตัวชาด้วยความตะลึงไปได้เหมือนกัน"มองอะไร อย่าบอกนะว่าพอเห็นหุ่นฉันแล้วก็เกิดอาการ คัน ขึ้นมา ถ้าอย่างงั้นก็คงต้องบอกว่าเสียใจด้วย เพราะว่าฉันไม่สามารถ เกา ให้เธอหายคันได้ อย่างที่บอกว่าฉันขยะแขยงเธอ ที่ผ่านมาเธอคงจะต้องทนกล้ำกลืนฝืนทนให้ไอ้แก่นั่นปู้ย่ำปู้ยีเพื่อแลกกับเศษเงินทองข้าวของเครื่องใช้สินะ แต่ก็ช่วยไม่ได้ที่เธอดันเลือกแบบนั้นเอง""นายชื่ออะไร"นายหัวฉัตราถึงกับคิ้วกระตุก เมื่อดูเหมือนว่าสิ่งที่เขาพึ่งจะพูดไปนั้นมันคงจะลอยผ่านเข้าหูซ้ายและทะลุออกทางหูขวา ทั้งที่เขาพูดอ
Комментарии