Home / อื่น ๆ / จิ๊ดริดที่รัก / 22. จิ๊ดริดชอบหาสมบัติ 2

Share

22. จิ๊ดริดชอบหาสมบัติ 2

last update Last Updated: 2025-09-15 12:00:39

ดวงตาเล็กของที่รักค่อย ๆ กลมโตขึ้น เธอรีบยื่นมือไปคว้าอย่างรวดเร็ว แต่คชาภัทรเร็วกว่า

“เรียกพี่ช้าง” เขาชูมือข้างที่ถือคุกกี้ไว้เหนือศีรษะ

น้ำลายของที่รักไหลซึมมาตรงมุมปากก่อนที่เธอจะรีบสูดกลับไปอย่างรวดเร็ว นัยน์ตาที่ยังคงขุ่นขึ้งจับจ้องคุกกี้ยี่ห้อโปรดที่จุอยู่ในซองเล็ก ๆ สีม่วงนั้นนิ่ง

“พี่...จ๊าง” แล้วความอยากก็ชนะทุกสิ่ง

คชาภัทรยิ้มกว้างและพยักหน้าหงึก ๆ อย่างพอใจในชัยชนะครั้งนี้

“น้องพูดแล้วก็รีบแกะขนมสิ” ฝ่ายพี่สาวหันมาเร่งเพราะทนสายตาละห้อยของที่รักไม่ไหว

สิ้นคำสั่งพี่ มือของคชาภัทรก็เพิ่มความเร็วในการฉีกถุงโดยอัตโนมัติจนแกะขนมได้สำเร็จ เขาทิ้งถุงขนมเปล่าในมือลงพื้นไปเดี๋ยวนั้น

“ม่ายยย...” ที่รักตะโกนเสียงหลง เธอรีบหยิบถุงขนมเปล่าบนพื้นขึ้นมาและวิ่งไปยังกระสอบพลาสติกใบใหญ่ที่ตั้งอยู่ริมรั้วก่อนจะหย่อนถุงคุกกี้ในมือลงในกระสอบและยิ้มออกมาอย่างโล่งใจ ณ เวลานี้ ถุงเปล่าเล็ก ๆ นี้ดูเหมือนจะมีความสำคัญมากกว่าคุกกี้ที่ยังคงอยู่ในมือของคชาภัทรเสียอีก

“ตังค์ ตังค์” ที่รักหันมาพูดกับคชาภัทรด้วยสายตาตำหนิ

วรรณารีที่ถือจานซาลาเปาอยู่ทันมาเห็นฉากนี้พอดี เธอส่ายหน้าอย่างขบขัน ไม่รู้เป็นเพราะการปลูกฝังจากเธอหรือเป็นนิสัยโดยพื้นฐานของลูก ที่รักยิ่งเติบใหญ่รู้ความมากเท่าไรเธอก็ยิ่งชอบหาเงินจากเศษขยะพวกนี้มากขึ้น

ตั้งแต่อายุได้ไม่กี่เดือน กิจกรรมโปรดของที่รักคือการได้มองแม่นั่งคัดแยกขยะต่าง ๆ โดยไม่มีอาการงอแงหรือแสดงความเบื่อหน่ายให้เห็นเลยสักครั้ง จนเมื่อถึงวัยเริ่มเดิน เธอก็ชอบที่จะหมกมุ่นเดินก้มหน้าหาเศษกระดาษและเศษพลาสติกต่าง ๆ ตามพื้น ขอเพียงได้เจอสักชิ้น เด็กหญิงจะยิ้มกว้างอย่างชอบอกชอบใจเหมือนเห็นของมีค่าก็ไม่ปาน

เมื่อเห็นดังนั้น วรรณารีก็ลองวางกระสอบพลาสติกสองใบไว้ตรงข้างรั้วและบอกให้ลูกใส่เศษขยะที่เก็บได้ในกระสอบแบบแยกเป็นประเภท คราวแรกไม่คิดว่าที่รักจะเข้าใจ แต่ที่ไหนได้ เด็กหญิงสามารถแยกออกว่าชิ้นไหนเป็นกระดาษ ชิ้นไหนเป็นพลาสติก สามารถเก็บแยกใส่ถุงได้อย่างถูกต้อง

เพื่อฝึกฝนลูกและสร้างกำลังใจ เมื่อเด็กหญิงเก็บขยะได้มากพอสมควร วรรณารีจึงนำไปชั่งน้ำหนักและให้เงินลูกตามราคาที่รับซื้อหน้าร้าน

ที่รักยิ้มแก้มแทบแตกเมื่อได้เงินยี่สิบบาทแรกจากการขายขยะของตัวเอง เธอขอให้สายช่วยหากระปุกสำหรับเก็บเงินให้ สายก็ดีใจหาย นำหีบไม้ขนาดใหญ่มาให้เธอเก็บเงินอย่างไม่รอช้า หลังจากวันนั้น เด็กน้อยก็ขยันหาเก็บขยะมากขึ้น ไม่เท่านั้น ยังนั่งเปิดดูเงินในหีบแล้วลูบ ๆ คลำ ๆ ไม่ต่ำกว่าสามครั้งต่อวัน เรียกได้ว่าที่รักเป็นแฟนพันธุ์แท้ของเงินโดยแท้

“มากินซาลาเปากันจ้ะเด็ก ๆ”

สองพี่น้องยกมือไหว้ขอบคุณก่อนหยิบขึ้นมาคนละหนึ่งลูกและกินอย่างเอร็ดอร่อย

“ว่าแต่วันนี้จะเล่นอะไรกันเอ่ย”

“เล่นหาสมบัติ” ที่รักตอบเสียงอู้อี้ด้วยซาลาเปายังอยู่ในปาก

สองพี่น้องที่เพิ่งรู้โปรแกรมสำหรับวันนี้ต่างพยักหน้าเห็นชอบ หากที่รักต้องการทำอะไร อลิสราและคชาภัทรต่างไม่เคยขัด ซึ่งก็น่าแปลกพอสมควรสำหรับคชาภัทรที่มีนิสัยค่อนข้างแก่นซนและดูเผด็จการนิด ๆ ยามเมื่ออยู่กับเพื่อน แต่เมื่อต้องมาอยู่กับที่รักแล้วเขากลับยอมอ่อนข้อให้ตลอด

“ฮึ...จะออกไปอีกแล้วหรือลูก” ทำไมเธอจะไม่รู้ความหมายของการเล่นหาสมบัติของลูก วรรณารีจึงถามออกมาด้วยความเป็นห่วง

การเล่นหาสมบัติของที่รักคือการลากรถเข็นเล็ก ๆ ที่วรรณารีให้คนงานในร้านทำออกมาเป็นพิเศษ คล้ายรถเข็นจ่ายตลาดที่บรรดาคุณย่าคุณยายชอบใช้แต่ย่อขนาดให้เล็กลงและเบาพอที่เด็กเล็กจะเข็นเดินไปไหนมาไหนได้

เมื่อได้รถเข็นคันนี้มา ที่รักก็ให้แม่วางกระสอบฟางในคอกของรถเข็นอีกที แล้วเธอก็เริ่มเข็นไปรอบ ๆ ร้านเพื่อคอยเก็บเศษขยะที่ตกหล่นอยู่กับพื้น นานวันเข้าก็เริ่มใจกล้าเข็นออกนอกร้านและเดินหาเศษขยะตามบริเวณรอบ ๆ โดยมีพี่เลี้ยงคอยเดินกำกับอยู่ด้านข้าง

แต่ในช่วงวันหยุดจะพิเศษหน่อยตรงที่คนคอยกำกับจะเป็นอลิสราและคชาภัทร

“วันนี้แดดแรง ไปกันวันอื่นดีไหม”

“ไม่แรง จิ๊ดริดไม่ร้อน” ที่รักยังคงดื้อดึง

“น้าวรรณ ผึ้งกับช้างจะดูน้องเอง ถ้าน้องเหนื่อยจะรีบพากลับมาเลย” อลิสราขันอาสา

“ถ้างั้นต้องใส่หมวกกันทุกคนก่อนไป แล้วก็ห้ามไปไกลนะเอารอบ ๆ ร้านก็พอ” สุดท้ายคนเป็นแม่ก็ใจอ่อน

“อะไรนะ พี่เขยแกโดนยาเสน่ห์งั้นเรอะ”

“ใช่แล้วป้า ตอนแรกฉันกับพี่สาวก็ไม่เข้าใจว่าทำไมนิสัยพี่สินถึงเปลี่ยนไป จนป้าฉายที่อยู่อีกซอยหนึ่งมาบอกว่าอาการเหมือนผัวแก แล้วท้าเลยว่าต้องมีรูปใบไม้สามแฉกสีแดงอยู่ที่ท้ายทอยของเขา พี่สาวฉันลองเปิดดูก็มีจริง ๆ”

เสียงสนทนาดังลอยมาจากร้านของเก่าที่อยู่อีกฝั่งของรั้ว เป็นเสียงพูดคุยของกระแต พี่เลี้ยงของที่รักกับคนงานในร้านที่กำลังนั่งล้อมวงทำงานกันอยู่

ที่รักหูตั้งตาใส เด็กหญิงรีบคว้าซาลาเปาลูกที่สองขึ้นมาแล้ววิ่งหน้าตาตื่นไปยังที่มาของเสียง

“ไปไหนลูก จะไปเล่นหาสมบัติไม่ใช่หรือ” วรรณารีรีบถาม

“วันนี้ไม่เล่น” ที่รักตะโกนตอบขณะที่ยังวิ่งหัวซุกหัวซุนคล้ายกับกำลังโดนใครวิ่งไล่ตาม

เมื่ออลิสราและคชาภัทรเห็นท่าทางของเพื่อนรุ่นน้อง สองพี่น้องก็ไม่รอช้ารีบลุกวิ่งตามไปทันที เมื่อวิ่งไปถึงร้านก็เห็นที่รักนั่งจุมปุ๊กอยู่กลางวงสนทนาของคนงานร้านสามสี่คน หัวข้อสนทนายังหนีไม่พ้นเรื่องพี่เขยของกระแตที่โดนยาเสน่ห์

ที่รักซึ่งมือทั้งสองข้างถือซาลาเปาอยู่ข้างละลูกนั่งอยู่กลางวงคนงานกำลังพยักหน้าหงึก ๆ เป็นระยะระหว่างฟังเรื่องนินทา...เอ่อ...เรื่องเล่าจากปากคนงาน ระหว่างนั้นก็ยกซาลาเปาในมือขึ้นกัดไปด้วย ข้างซ้ายที ข้างขวาที พร้อมกับยิ้มกริ่มอย่างมีความสุขราวกับว่าฟังเรื่องนิน...เรื่องเล่าเหล่านั้นรู้เรื่องทั้งหมด

สองพี่น้องต่างยืนอึ้งมองพฤติกรรมของที่รักอยู่พักใหญ่ก่อนจะพากันพยักหน้าอย่างเข้าใจ ที่จริงเรื่องทำนองนี้ก็ดูไม่แปลกใหม่สำหรับสองพี่น้องแล้ว แต่ไม่รู้ทำไมทุกครั้งที่เจอเหตุการณ์แบบนี้ ทั้งคู่เป็นต้องยืนปรับสติอารมณ์อยู่พักใหญ่ในทุกครั้ง

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • จิ๊ดริดที่รัก   33. เจอคนไม่คาดฝัน 2

    หลังปลีกตัวออกมาจากโซนเด็กเล่นได้ พีรายุเริ่มรู้สึกผ่อนคลายขึ้น เขาเร่งฝีเท้าไปยังร้านเพชร สถานที่นัดหมายกับภรรยา ระหว่างนั้น ชายหนุ่มได้ยกกาแฟที่เริ่มเย็นชืดขึ้นดื่มด้วยภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีให้หลัง เขาได้เกิดอาการหน้ามืดจนเซถลาไปชนกับคนที่เดินอยู่บริเวณนั้น“คุณเป็นอะไรหรือเปล่าครับ” ผู้ชายที่ถูกชนรีบประคองพาเขาไปนั่งพักตรงม้านั่งซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลพีรายุรีบโบกมือปฏิเสธพลางสูดหายใจเข้าลึก “น่าจะตาลายเพราะคนเยอะ ไม่เป็นอะไรมากครับแค่นั่งพักสักครู่ก็หาย ขอบคุณมากนะครับ”เมื่อเห็นว่าสีหน้าพีรายุค่อย ๆ กลับมามีสีเลือดอีกครั้ง คน ๆ นั้นจึงวางใจและเดินจากไปพีรายุยังคงมีอาการมวนในท้องไม่หยุด เขานั่งหลับตานิ่งอยู่หลายนาที แล้วทันใดนั้นเอง“วรรณ!” ชายหนุ่มเอ่ยเรียกวรรณารีออกมาเสียงดัง ดวงตาสอดส่ายไปมาโดยรอบอย่างสับสน ในเวลาเดียวกันนั้นเองก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เขาหยิบขึ้นมากดรับด้วยสีหน้าที่ยังไม่ดีขึ้น“สวัสดีครับ”“พีอยู่ไหนแล้วคะ จินนั่งรออยู่ที่ร้านเพชรนานแล้วนะ อย่าบอกนะคะว่าลืม จินไม่ยอมจริง ๆ ด้วย วันนี้ไ

  • จิ๊ดริดที่รัก   32. เจอคนไม่คาดฝัน 1

    “แม่จ๋า ไหนชุดโยคะ”“ไปหาซื้อชุดนักเรียนกับอุปกรณ์เรียนก่อน ส่วนชุดโยคะเอาไว้ทีหลัง” วันนี้วรรณารีพาที่รักมาหาซื้อชุดและอุปกรณ์การเรียน เนื่องจากเด็กหญิงจะเริ่มเข้าเรียนระดับชั้นอนุบาลในภาคการศึกษาหน้า ซึ่งนับแล้วเหลือเวลาอีกสองสัปดาห์ก็จะเปิดเทอมแล้ววรรณารีพามาที่ห้างใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ เพราะที่นี่มีสวนสนุกขนาดใหญ่อยู่ด้านใน เธอตั้งใจจะพาลูกมาเล่นสนุกที่นี่เพื่อเป็นรางวัลปลอบใจก่อนที่จะเปิดเทอม อลิสรา คชาภัทร และนับหนึ่งก็ตามมาด้วยส่วนเรื่องชุดโยคะนั้นเพราะที่รักต้องการเรียนเองเนื่องจากเห็นคชาภัทร อลิสรา และนับหนึ่งไปเรียนศิลปะการต่อสู้ทุกเสาร์อาทิตย์ที่ศูนย์กิจกรรมพิเศษใกล้บ้าน โดยคชาภัทรและนับหนึ่งเลือกเรียนมวยไทย ส่วนอลิสราเรียนเทควันโดเมื่อเห็นพี่ทั้งสามมีความสุขมากในการไปเรียนที่นั่น ที่รักก็อยากไปกับพี่ ๆ ด้วย แล้วไม่รู้เธอไปได้ยินมาจากไหนว่าการเรียนโยคะทำให้ผอมได้ เธอจึงมุ่งมั่นที่จะเรียนให้ได้ซึ่งวรรณารีเองก็ไม่ขัด สิ่งใดที่เป็นความปรารถนาของลูก เธอพร้อมที่จะสนับสนุนเสมอ“รีบไปซื้อแล้วก็กลับกันเลย ตอนเย็นจิ๊ดริดจะไปเรียน

  • จิ๊ดริดที่รัก   31. จิ๊ดริดอยากผอม 2

    “พี่ช้าง จิ๊ดริดผอมลงยัง” ที่รักร้องถามเมื่อเจอหน้าคชาภัทรสะดุดกึกและรีบกวาดตาสำรวจร่างป้อมที่ยืนอยู่ตรงหน้าโดยอัตโนมัติ ที่รักในวันนี้ใส่ชุดกระโปรงสีเหลืองอ่อนแขนกุด ทำให้เห็นแขนอวบขาวอมชมพูอย่างชัดเจน ประกอบกับใบหน้ากลมแป้นที่มีจุดเด่นตรงตาเรียวเล็ก แก้มแดงอมชมพูที่แสดงถึงความมีสุขภาพดีของเธอ ปลายนิ้วของเขาคันยิบขึ้นมาอีกครั้งด้วยอยากจิ้มแก้มนิ่ม ๆ เล่น แต่เมื่อนึกถึงแรงถีบของเธอที่เขาเจอมานับครั้งไม่ถ้วน คชาภัทรจำต้องสกัดความอยากของตัวเองลงอย่างยากเย็น“น้องถามทำไมไม่ตอบ” อลิสราหันมาเอ็ด “ตอบดี ๆ ล่ะ” แล้วก็กำชับเสียงเหี้ยมนับหนึ่งที่ยืนอยู่ด้านข้างถึงกับเผยยิ้มออกมาคชาภัทรถอยห่างจากพี่สาวโดยสัญชาตญาณ เมื่อวานตอนค่ำเขาโดนสมาชิกในบ้านเล่นงานอยู่ไม่ใช่น้อย วันนี้ให้ตายอย่างไรก็จะไม่ทำอีกเด็ดขาดเด็กชายรุ่นพี่กวาดตาสำรวจร่างป้อมที่อยู่ตรงหน้าอีกครั้งและจ้องดูพุงที่กลมกว่าทุกวันก็ลอบถอนใจยาว“อืม ดูผอมลงนิดหน่อย” น้ำเสียงดูไม่เต็มปากนักที่รักลูบพุงตัวเองอย่างชอบใจ “วันนี้จิ๊ดริดกินข้าวน้อยกว่าทุกวัน”คชาภัทร

  • จิ๊ดริดที่รัก   30. จิ๊ดริดอยากผอม 1

    “จิ๊ดริดไม่สบายหรือลูก ทำไมเดินแบบนั้น” วรรณารีร้องถามอย่างประหลาดใจเมื่อเห็นที่รักกำลังก้าวขาออกจากห้องนอนอย่างเชื่องช้าในเช้าวันต่อมา กว่าที่เธอจะก้าวเท้าสัมผัสพื้นแต่ละก้าวได้นั้นเล่นเอาคนเป็นแม่ยืนลุ้นจนใจหายใจคว่ำ“หนูไม่เป็นไข้” ที่รักบอกแม่เสียงเบา“ในเมื่อสบายดีแล้วทำไมหนูก้าวช้าแบบนั้น หรือว่าปวดขาปวดข้อตรงไหน”“หนูไม่ปวด”“งั้นก้าวขาเร็ว ๆ สิลูก ค่อย ๆ ย่างแบบนั้นเดี๋ยวเสียจังหวะหัวทิ่มได้นะ”“หนูจะเดินช้า ๆ”“ทำไมล่ะลูก”“จะได้ผอม” ที่รักตอบพร้อมกับค่อย ๆ ย่างเท้าซ้าย“ทำแบบนี้จะผอมได้ยังไง”“แม่ไม่ถามเดี๋ยวหนูอ้วน” ที่รักค่อย ๆ ย่างเท้าขวาต่อวรรณารียืนงงเป็นไก่ตาแตกที่รักซึ่งใช้เวลาสิบนาทีในการก้าวจากห้องนอนไปยังห้องครัวได้สำเร็จ เธอยกมือปาดเหงื่อที่แตกซ่กตรงหน้าผากด้วยสีหน้าสดชื่นแจ่มใสเป็นที่สุดแตกต่างจากสีหน้าของแม่และยายที่กำลังยืนมองดูเธออยู่แบบลิบลับ“ทำไมหนูเดินช้าล่ะลูก” วรรณารียังคงถามอย่างกังขา“หนูจะได้ไม่หิว”“ทำแบบนี้จะไม่หิวได้ยังไง” สายไม่เข

  • จิ๊ดริดที่รัก   29. จิ๊ดริดอ้วน

    “จิ๊ดริด มาดูปลานี่เร็ว เยอะแยะเลย” อลิสราที่เนื้อตัวมอมแมมเพราะลงไปในคลองกับเขาด้วยได้เรียกหาที่รักทันทีที่ขึ้นจากน้ำที่รักก็ลุกไปหาทันทีที่พี่เรียก เปล่า...ไม่ใช่เธอเป็นเด็กดีอะไรหรอก เพียงแต่ละครภาคต่อที่ฟังอยู่มันจบตอนไปแล้วก็เท่านั้นเอง“เอาปลาขึ้นมาให้จิ๊ดริดดูเร็วเข้า ห้ามอุ๊บอิ๊บเอาไปซ่อนเด็ดขาด” อลิสราส่งเสียงเผด็จการให้กับทุกคนที่ช่วยจับปลาอยู่ในคลอง แม้แต่กับพ่อตัวเองก็ไม่เว้นนับหนึ่งกุลีกุจอลากกะละมังใบใหญ่มาตั้งเบื้องหน้าที่รัก และเดินไปแย่งถังใบเล็กที่ใช้ใส่ปลาจากมือแต่ละคนมาเทใส่กะละมังอย่างขมีขมัน เมื่อได้จากมือครบทุกคนแล้ว เขาก็ได้หันมายิ้มให้อลิสราอย่างเอาใจอลิสราใช้มือที่เปื้อนโคลนลูบศีรษะของนับหนึ่งอย่างอารมณ์ดี “ดีมาก” เธอเอ่ยชมสั้น ๆแม้คำชมจะสั้นแต่ก็ทำให้นับหนึ่งหน้าบานเป็นจานเชิงออกมา ขณะที่คชาภัทรได้แต่กลอกตามองบนจนตาแทบกลับ“ดิ้นดุ๊กดิ๊กเต็มเลย เอาไปปล่อยกัน มันจะได้ไม่ตาย” ที่รักตาเป็นประกายเมื่อเห็นปลาจำนวนมากทั้งน้อยใหญ่กำลังว่ายเบียดกันอยู่ในกะละมัง“เราเอามากิน เหนื่อยจับจะแ

  • จิ๊ดริดที่รัก   28. จับปลาที่ร่องสวน

    “ทองแดงโลละสองร้อย ขวดใสโลละแปด กระดาษอ่อนโลห้าบาท กระดาษแข็งโลสามบาท”เสียงใสของเด็กหญิงวัยห้าขวบที่ยังพูดไม่ชัดนักเจื้อยแจ้วอยู่บริเวณหน้าร้านรับซื้อของเก่า เป็นภาพที่ชินตาสำหรับผู้คนที่ผ่านไปมาแถวนี้เป็นอย่างดีไม่เพียงแค่ตะโกนบอกราคาเสียงใส ตัวเธอเองก็ไม่อยู่นิ่ง มือคอยขยับยกข้าวของที่มีลูกค้านำมาขาย จับแยกออกเป็นประเภทอย่างชำนาญเพื่อให้สะดวกต่อการชั่งน้ำหนักและคิดราคา แม้ข้าวของจะแลดูสกปรกในสายตาผู้คนทั่วไปแต่เด็กหญิงก็หารังเกียจไม่ ภาพนี้สร้างความรู้สึกเอื้อเอ็นดูให้กับลูกค้าที่เข้ามารับบริการเป็นอย่างยิ่ง“จิ๊ดริด อย่ายกของหนักนะลูก ให้ลุงหวินกับน้าโหน่งยกแทน” วรรณารีหันมาเตือนลูกสาวเป็นระยะ“จิ๊ดริดยกไหวจ้ะแม่จ๋า แม่ไม่ต้องห่วง” เด็กหญิงพูดตอบกลับไป“ไม่ได้นะลูก กระดูกหนูยังอ่อน ยกของหนักมากกระดูกจะเสียหายได้ แล้วหนูก็จะไม่สูงด้วยนะ”พอได้ยินคำว่าไม่สูง ที่รักรีบวางกองหนังสือที่มัดเรียงกันเป็นตั้งลงทันที ไม่ได้สิเรื่องความสวยความงามต้องมาที่หนึ่งที่รักจากแรกเกิด

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status