Home / อื่น ๆ / จิ๊ดริดที่รัก / 27. จิ๊ดริดมีพี่ชายเพิ่ม

Share

27. จิ๊ดริดมีพี่ชายเพิ่ม

last update Last Updated: 2025-09-27 12:00:04

หลังเสร็จพิธีศพของสุขเกษมเมื่อช่วงบ่าย สายก็กลับบ้านมาและเอาแต่นั่งเงียบแบบนี้นานนับชั่วโมง ในใจเธอหวนนึกถึงอดีตที่ไม่มีวันย้อนกลับของตนเองเงียบ ๆ

ไม่นึกเลยว่าหลังจากกระเสือกกระสนหนีห่างจากบุคคลที่เธอมองว่าร่วมกันทำร้ายตัวเองอย่างแสนสาหัสมานานหลายสิบปี สุดท้ายก็เหลือแค่ตัวเธอเองจริง ๆ ที่ยังอยู่บนโลกใบนี้ ในใจของสายรู้สึกเย็นเยียบเหมือนโดนก้อนน้ำแข็งจำนวนมหาศาลห้อมล้อมอยู่รอบทิศ

ทันใดนั้นเอง บนหน้าตักอันเย็นเฉียบของเธอก็มีก้อนอ้วน ๆ ที่ดูอุ่นมากเป็นพิเศษปีนป่ายขึ้นมา ไม่เท่านั้นก้อนอ้วน ๆ นั้นยังได้ยืดแขนทั้งสองข้างมาโอบรอบเอวเธอไว้ด้วย

“ยายจ๋า หายเพี้ยง จิ๊ดริดกอด” แล้วเจ้าก้อนอ้วน ๆ นี้ก็ช่างปากหวานนัก

สายก้มมองร่างที่อยู่บนตักแล้วเผยยิ้มออกมา เธอกระชับวงแขนของตัวเองเข้ากอดที่รักที่ตอนนี้กายของเธอดูเหมือนจะอุ่นเป็นพิเศษ ความอุ่นของร่างน้อยนี้ได้ส่งต่อเข้าไปในกายของสายจนรู้สึกสบายเนื้อสบายตัวขึ้นทุกขณะ รวมไปถึงหัวใจของเธอด้วย

เธอเชื่อว่าการที่มีโอกาสเจอสุขเกษมเป็นครั้งสุดท้ายนี้เพราะฝีมือของที่รัก ที่รักช่วยให้เธอได้ปลดปล่อยความทุกข์ที่ตรึงใจตัวเองมาหลายสิบปีได้ แม้จะยังรู้สึกเสียใจและใจหายต่อการจากไปของสุขเกษม แต่เธอก็ต้องยอมรับว่ารู้สึกเบาใจเป็นที่สุดในตอนนี้ ไม่มีอะไรติดค้างในใจเธออีกแล้ว

“ยายหายแล้ว คาถาของจิ๊ดริดดีมากจริง ๆ” สายหอมกระหม่อมนุ่ม ๆ ของหลานอย่างชื่นใจ

ที่รักมองสำรวจทั่วใบหน้าของสายอย่างไม่ไว้ใจ เมื่อเห็นว่าสีหน้าของสายดีขึ้นอย่างที่พูด เด็กหญิงก็ยิ้มกว้างอย่างวางใจ

วรรณารีที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามมีสีหน้าสบายใจขึ้นมากเมื่อเห็นท่าทีที่ดีขึ้นของสาย

“วรรณ ไปตามหนึ่งมาหาป้าหน่อย” สายบอกวรรณารีด้วยสีหน้าปลอดโปร่งใจ

-----

เป็นหนึ่งหลบมานั่งร้องไห้อยู่ตรงมุมรั้วหลังบ้าน แม้เคยรับปากปู่เป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะเข้มแข็ง ไม่ร้องไห้อีก แต่สำหรับเด็กวัยแปดขวบแบบเขาแล้วมันยากที่จะฝืนเข้มแข็งได้อย่างใจสั่ง

ทันใดนั้นเองก็มีช็อกโกแลตห่อขนาดฝ่ามือยื่นให้ที่ด้านข้าง

เป็นหนึ่งรีบใช้มือปาดน้ำตาให้แห้งและเหลียวไปมองคนที่กำลังนั่งยองอยู่ไม่ไกล

“กินช็อกโกแลตหวาน ๆ กินแล้วจะหายเศร้า” อลิสราพูดพร้อมกับส่งยิ้มกว้างให้

เป็นหนึ่งยื่นมือมารับและจ้องนิ่งไปที่มันด้วยสีหน้าอับอาย

“คุณตาไปสบายแล้ว นายก็ต้องมีความสุขสิ คุณตาจะได้ดีใจ” อลิสราใช้มือลูบศีรษะเป็นหนึ่งไปด้วยเพื่อปลอบคล้ายกับว่าเขาคือน้องชายของเธอก็ไม่ปาน ดูเหมือนเด็กหญิงจะไม่คิดว่าเป็นหนึ่งอายุเท่าเธอ

“แต่ฉันไม่เหลือใครแล้ว” เป็นหนึ่งพูดหน้าหมอง

“ทำไมจะไม่เหลือ ยังมีน้าวรรณกับยายสายอยู่ น้าวรรณใจดีนะ ยายสายก็ใจดีถึงจะหน้าดุไปหน่อย แล้วยังมีจิ๊ดริดด้วย นายเป็นผู้ชาย ต้องเข้มแข็งคอยปกป้องจิ๊ดริดที่เป็นเด็กผู้หญิงอ่อนแอ”

คชาภัทรที่ยืนอยู่ด้านหลังทำหน้าไม่เห็นด้วยอย่างแรงเมื่อพี่สาวพูดว่าที่รักอ่อนแอ อลิสราลืมท่าจระเข้ฟาดหางที่ที่รักใช้ไล่สุนัขวันนั้นไปแล้วหรือไง ไหนจะกำลังแขนมหาศาลที่เหวี่ยงสุนัขโชคร้ายอีกตัวจนปลิวหวือไปอีก เมื่อคิดถึงตรงนี้เด็กชายก็เม้มปากแน่นด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ เขาที่อายุมากกว่าตั้งหลายปีกลับต่อสู้ไม่เก่งเท่าที่รักเลยสักนิด

ฝ่ายยี่สุ่นที่มากับหลานทั้งสองคนได้แต่ยิ้มเมื่อเห็นท่าทีปลอบที่อลิสรามีให้เป็นหนึ่ง

ไม่ทันได้พูดต่อ วรรณารีออกมาตามเป็นหนึ่งไปพบสายเสียก่อน หลังจากนั้นทุกคนก็พากันเดินเข้าบ้านไป

-----

“เคยเล่าเรียนหนังสือมาบ้างหรือยัง” สายเอ่ยถามเป็นหนึ่ง

“กำลังจะขึ้น ป.2 ครับ แต่ออกจากโรงเรียนก่อน” เป็นหนึ่งก้มหน้าและตอบออกมาเสียงเบา

“คงต้องซ้ำชั้น ป.1 อีกรอบนะคะป้า อายุเกินเกณฑ์มาสองปีเอง โรงเรียนคงรับอยู่” วรรณารีพูดต่อ

“แต่หลักฐานอะไรไม่มีติดตัวมาสักอย่างนี่สิ” สายหนักใจ

“จะยากอะไร มีฉันอยู่ทั้งคนนะ” ยี่สุ่นเลิกคิ้วมองเพื่อนยิ้ม ๆ

“เธอช่วยได้หรือ”

“พอรู้จักคน แต่...ต้องถึงนะ” ยี่สุ่นใช้นิ้วชี้และนิ้วโป้งถูไถกันเบา ๆ ให้สายเห็น

“ไม่มีปัญหาหรอกเรื่องนั้น เท่าไรฉันก็จ่าย แล้วนานไหม”

“ฉันจะรีบไปถามดูให้ ยังไงจะเร่งให้ไวที่สุด” ยี่สุ่นรู้จักคนใหญ่คนโตในจังหวัดมากพอสมควร จึงอาสาช่วยในเรื่องนี้เพราะอนาคตของเด็กสำคัญที่สุด โดยเฉพาะเด็กที่อยู่ในวัยเดียวกับหลาน ๆ แบบนี้เธอก็ยิ่งอยากช่วย

ที่รักที่นั่งเมียงมองไปมาฟังผู้ใหญ่พูดแบบเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้างได้กระโดดมายืนเบื้องหน้าสายและเงยหน้าขึ้นถาม “พี่หนึ่งจะไปโรงเรียนเหรอ”

“ใช่ จิ๊ดริดอยากไปด้วยหรือลูก” สายก้มหน้าถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนยิ่ง

ที่รักสะดุ้งน้อย ๆ เธอส่ายหน้าเหมือนกลองป๋องแป๋ง “จิ๊ดริดชอบเล่นหาสมบัติมากกว่า”

คำตอบเธอพาเอาบรรดาผู้ใหญ่หัวเราะครืน

“ถ้าพี่หนึ่งไปโรงเรียน จิ๊ดริดก็ไม่ได้เจอพี่แล้ว” เด็กหญิงทำหน้าจ๋อย แม้จะรู้จักเป็นหนึ่งได้ไม่ถึงสองสัปดาห์ แต่เธอก็ชอบความใจดีของเขา ถึงแม้เขาจะไม่ค่อยพูดแต่ก็ตามใจเธอตลอด

“จิ๊ดริดชอบพี่เขาหรือ” สายถามอีกครั้ง

“อื้อ...พี่หนึ่งใจดี”

ดูเหมือนจะมีคชาภัทรคนเดียวที่ทำหน้าบูดเมื่อได้ยินคำตอบ

“ถ้าพี่หนึ่งมาเป็นพี่ชายจิ๊ดริด แล้วอยู่บ้านเราตลอด จิ๊ดริดจะเต็มใจไหม” สายถามหยั่งเชิง ไม่ว่าอย่างไร ในใจเธอนั้นที่รักสำคัญที่สุดเสมอ

เด็กหญิงชูสองมือขึ้นเหนือศีรษะและกระโดดหมุนตัวอย่างดีใจ “เย้! จิ๊ดริดจะมีพี่ชายแล้ว พี่หนึ่งจะมาอยู่บ้านจิ๊ดริดแล้ว”

ภาพนี้พาเอาเกือบทุกคนที่นั่งอยู่เผยยิ้มออกมาโดยเฉพาะเป็นหนึ่งเอง เขายิ้มกว้างออกมาเป็นครั้งแรก แล้วก็อีกเช่นกันที่คชาภัทรหน้าบูดหนักขึ้นพร้อมเหลียวมองไปที่เป็นหนึ่งด้วยสีหน้าอิจฉาอยู่หน่อย ๆ

ยี่สุ่นใช้ทั้งพลังภายในและพลังเงินอยู่ร่วมสองเดือนก็ประสบผลสำเร็จ เป็นหนึ่งได้กลายเป็นเด็กชายนับหนึ่ง เด็กกำพร้าในสถานเลี้ยงเด็กขนาดเล็กของจังหวัด เป็นเด็กที่ไม่มีประวัติระบุว่าใครคือพ่อและแม่

ต่อมา วรรณารีได้แสดงเจตจำนงรับเด็กชายนับหนึ่งมาเลี้ยงเป็นลูก หลังจากดำเนินการมาสักระยะ นับหนึ่งก็ได้กลายมาเป็นลูกชายของวรรณารีถูกต้องตามกฎหมาย และที่รักก็มีพี่ชายเพิ่มมาหนึ่งคนนับแต่นั้น

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • จิ๊ดริดที่รัก   33. เจอคนไม่คาดฝัน 2

    หลังปลีกตัวออกมาจากโซนเด็กเล่นได้ พีรายุเริ่มรู้สึกผ่อนคลายขึ้น เขาเร่งฝีเท้าไปยังร้านเพชร สถานที่นัดหมายกับภรรยา ระหว่างนั้น ชายหนุ่มได้ยกกาแฟที่เริ่มเย็นชืดขึ้นดื่มด้วยภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งนาทีให้หลัง เขาได้เกิดอาการหน้ามืดจนเซถลาไปชนกับคนที่เดินอยู่บริเวณนั้น“คุณเป็นอะไรหรือเปล่าครับ” ผู้ชายที่ถูกชนรีบประคองพาเขาไปนั่งพักตรงม้านั่งซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลพีรายุรีบโบกมือปฏิเสธพลางสูดหายใจเข้าลึก “น่าจะตาลายเพราะคนเยอะ ไม่เป็นอะไรมากครับแค่นั่งพักสักครู่ก็หาย ขอบคุณมากนะครับ”เมื่อเห็นว่าสีหน้าพีรายุค่อย ๆ กลับมามีสีเลือดอีกครั้ง คน ๆ นั้นจึงวางใจและเดินจากไปพีรายุยังคงมีอาการมวนในท้องไม่หยุด เขานั่งหลับตานิ่งอยู่หลายนาที แล้วทันใดนั้นเอง“วรรณ!” ชายหนุ่มเอ่ยเรียกวรรณารีออกมาเสียงดัง ดวงตาสอดส่ายไปมาโดยรอบอย่างสับสน ในเวลาเดียวกันนั้นเองก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เขาหยิบขึ้นมากดรับด้วยสีหน้าที่ยังไม่ดีขึ้น“สวัสดีครับ”“พีอยู่ไหนแล้วคะ จินนั่งรออยู่ที่ร้านเพชรนานแล้วนะ อย่าบอกนะคะว่าลืม จินไม่ยอมจริง ๆ ด้วย วันนี้ไ

  • จิ๊ดริดที่รัก   32. เจอคนไม่คาดฝัน 1

    “แม่จ๋า ไหนชุดโยคะ”“ไปหาซื้อชุดนักเรียนกับอุปกรณ์เรียนก่อน ส่วนชุดโยคะเอาไว้ทีหลัง” วันนี้วรรณารีพาที่รักมาหาซื้อชุดและอุปกรณ์การเรียน เนื่องจากเด็กหญิงจะเริ่มเข้าเรียนระดับชั้นอนุบาลในภาคการศึกษาหน้า ซึ่งนับแล้วเหลือเวลาอีกสองสัปดาห์ก็จะเปิดเทอมแล้ววรรณารีพามาที่ห้างใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ เพราะที่นี่มีสวนสนุกขนาดใหญ่อยู่ด้านใน เธอตั้งใจจะพาลูกมาเล่นสนุกที่นี่เพื่อเป็นรางวัลปลอบใจก่อนที่จะเปิดเทอม อลิสรา คชาภัทร และนับหนึ่งก็ตามมาด้วยส่วนเรื่องชุดโยคะนั้นเพราะที่รักต้องการเรียนเองเนื่องจากเห็นคชาภัทร อลิสรา และนับหนึ่งไปเรียนศิลปะการต่อสู้ทุกเสาร์อาทิตย์ที่ศูนย์กิจกรรมพิเศษใกล้บ้าน โดยคชาภัทรและนับหนึ่งเลือกเรียนมวยไทย ส่วนอลิสราเรียนเทควันโดเมื่อเห็นพี่ทั้งสามมีความสุขมากในการไปเรียนที่นั่น ที่รักก็อยากไปกับพี่ ๆ ด้วย แล้วไม่รู้เธอไปได้ยินมาจากไหนว่าการเรียนโยคะทำให้ผอมได้ เธอจึงมุ่งมั่นที่จะเรียนให้ได้ซึ่งวรรณารีเองก็ไม่ขัด สิ่งใดที่เป็นความปรารถนาของลูก เธอพร้อมที่จะสนับสนุนเสมอ“รีบไปซื้อแล้วก็กลับกันเลย ตอนเย็นจิ๊ดริดจะไปเรียน

  • จิ๊ดริดที่รัก   31. จิ๊ดริดอยากผอม 2

    “พี่ช้าง จิ๊ดริดผอมลงยัง” ที่รักร้องถามเมื่อเจอหน้าคชาภัทรสะดุดกึกและรีบกวาดตาสำรวจร่างป้อมที่ยืนอยู่ตรงหน้าโดยอัตโนมัติ ที่รักในวันนี้ใส่ชุดกระโปรงสีเหลืองอ่อนแขนกุด ทำให้เห็นแขนอวบขาวอมชมพูอย่างชัดเจน ประกอบกับใบหน้ากลมแป้นที่มีจุดเด่นตรงตาเรียวเล็ก แก้มแดงอมชมพูที่แสดงถึงความมีสุขภาพดีของเธอ ปลายนิ้วของเขาคันยิบขึ้นมาอีกครั้งด้วยอยากจิ้มแก้มนิ่ม ๆ เล่น แต่เมื่อนึกถึงแรงถีบของเธอที่เขาเจอมานับครั้งไม่ถ้วน คชาภัทรจำต้องสกัดความอยากของตัวเองลงอย่างยากเย็น“น้องถามทำไมไม่ตอบ” อลิสราหันมาเอ็ด “ตอบดี ๆ ล่ะ” แล้วก็กำชับเสียงเหี้ยมนับหนึ่งที่ยืนอยู่ด้านข้างถึงกับเผยยิ้มออกมาคชาภัทรถอยห่างจากพี่สาวโดยสัญชาตญาณ เมื่อวานตอนค่ำเขาโดนสมาชิกในบ้านเล่นงานอยู่ไม่ใช่น้อย วันนี้ให้ตายอย่างไรก็จะไม่ทำอีกเด็ดขาดเด็กชายรุ่นพี่กวาดตาสำรวจร่างป้อมที่อยู่ตรงหน้าอีกครั้งและจ้องดูพุงที่กลมกว่าทุกวันก็ลอบถอนใจยาว“อืม ดูผอมลงนิดหน่อย” น้ำเสียงดูไม่เต็มปากนักที่รักลูบพุงตัวเองอย่างชอบใจ “วันนี้จิ๊ดริดกินข้าวน้อยกว่าทุกวัน”คชาภัทร

  • จิ๊ดริดที่รัก   30. จิ๊ดริดอยากผอม 1

    “จิ๊ดริดไม่สบายหรือลูก ทำไมเดินแบบนั้น” วรรณารีร้องถามอย่างประหลาดใจเมื่อเห็นที่รักกำลังก้าวขาออกจากห้องนอนอย่างเชื่องช้าในเช้าวันต่อมา กว่าที่เธอจะก้าวเท้าสัมผัสพื้นแต่ละก้าวได้นั้นเล่นเอาคนเป็นแม่ยืนลุ้นจนใจหายใจคว่ำ“หนูไม่เป็นไข้” ที่รักบอกแม่เสียงเบา“ในเมื่อสบายดีแล้วทำไมหนูก้าวช้าแบบนั้น หรือว่าปวดขาปวดข้อตรงไหน”“หนูไม่ปวด”“งั้นก้าวขาเร็ว ๆ สิลูก ค่อย ๆ ย่างแบบนั้นเดี๋ยวเสียจังหวะหัวทิ่มได้นะ”“หนูจะเดินช้า ๆ”“ทำไมล่ะลูก”“จะได้ผอม” ที่รักตอบพร้อมกับค่อย ๆ ย่างเท้าซ้าย“ทำแบบนี้จะผอมได้ยังไง”“แม่ไม่ถามเดี๋ยวหนูอ้วน” ที่รักค่อย ๆ ย่างเท้าขวาต่อวรรณารียืนงงเป็นไก่ตาแตกที่รักซึ่งใช้เวลาสิบนาทีในการก้าวจากห้องนอนไปยังห้องครัวได้สำเร็จ เธอยกมือปาดเหงื่อที่แตกซ่กตรงหน้าผากด้วยสีหน้าสดชื่นแจ่มใสเป็นที่สุดแตกต่างจากสีหน้าของแม่และยายที่กำลังยืนมองดูเธออยู่แบบลิบลับ“ทำไมหนูเดินช้าล่ะลูก” วรรณารียังคงถามอย่างกังขา“หนูจะได้ไม่หิว”“ทำแบบนี้จะไม่หิวได้ยังไง” สายไม่เข

  • จิ๊ดริดที่รัก   29. จิ๊ดริดอ้วน

    “จิ๊ดริด มาดูปลานี่เร็ว เยอะแยะเลย” อลิสราที่เนื้อตัวมอมแมมเพราะลงไปในคลองกับเขาด้วยได้เรียกหาที่รักทันทีที่ขึ้นจากน้ำที่รักก็ลุกไปหาทันทีที่พี่เรียก เปล่า...ไม่ใช่เธอเป็นเด็กดีอะไรหรอก เพียงแต่ละครภาคต่อที่ฟังอยู่มันจบตอนไปแล้วก็เท่านั้นเอง“เอาปลาขึ้นมาให้จิ๊ดริดดูเร็วเข้า ห้ามอุ๊บอิ๊บเอาไปซ่อนเด็ดขาด” อลิสราส่งเสียงเผด็จการให้กับทุกคนที่ช่วยจับปลาอยู่ในคลอง แม้แต่กับพ่อตัวเองก็ไม่เว้นนับหนึ่งกุลีกุจอลากกะละมังใบใหญ่มาตั้งเบื้องหน้าที่รัก และเดินไปแย่งถังใบเล็กที่ใช้ใส่ปลาจากมือแต่ละคนมาเทใส่กะละมังอย่างขมีขมัน เมื่อได้จากมือครบทุกคนแล้ว เขาก็ได้หันมายิ้มให้อลิสราอย่างเอาใจอลิสราใช้มือที่เปื้อนโคลนลูบศีรษะของนับหนึ่งอย่างอารมณ์ดี “ดีมาก” เธอเอ่ยชมสั้น ๆแม้คำชมจะสั้นแต่ก็ทำให้นับหนึ่งหน้าบานเป็นจานเชิงออกมา ขณะที่คชาภัทรได้แต่กลอกตามองบนจนตาแทบกลับ“ดิ้นดุ๊กดิ๊กเต็มเลย เอาไปปล่อยกัน มันจะได้ไม่ตาย” ที่รักตาเป็นประกายเมื่อเห็นปลาจำนวนมากทั้งน้อยใหญ่กำลังว่ายเบียดกันอยู่ในกะละมัง“เราเอามากิน เหนื่อยจับจะแ

  • จิ๊ดริดที่รัก   28. จับปลาที่ร่องสวน

    “ทองแดงโลละสองร้อย ขวดใสโลละแปด กระดาษอ่อนโลห้าบาท กระดาษแข็งโลสามบาท”เสียงใสของเด็กหญิงวัยห้าขวบที่ยังพูดไม่ชัดนักเจื้อยแจ้วอยู่บริเวณหน้าร้านรับซื้อของเก่า เป็นภาพที่ชินตาสำหรับผู้คนที่ผ่านไปมาแถวนี้เป็นอย่างดีไม่เพียงแค่ตะโกนบอกราคาเสียงใส ตัวเธอเองก็ไม่อยู่นิ่ง มือคอยขยับยกข้าวของที่มีลูกค้านำมาขาย จับแยกออกเป็นประเภทอย่างชำนาญเพื่อให้สะดวกต่อการชั่งน้ำหนักและคิดราคา แม้ข้าวของจะแลดูสกปรกในสายตาผู้คนทั่วไปแต่เด็กหญิงก็หารังเกียจไม่ ภาพนี้สร้างความรู้สึกเอื้อเอ็นดูให้กับลูกค้าที่เข้ามารับบริการเป็นอย่างยิ่ง“จิ๊ดริด อย่ายกของหนักนะลูก ให้ลุงหวินกับน้าโหน่งยกแทน” วรรณารีหันมาเตือนลูกสาวเป็นระยะ“จิ๊ดริดยกไหวจ้ะแม่จ๋า แม่ไม่ต้องห่วง” เด็กหญิงพูดตอบกลับไป“ไม่ได้นะลูก กระดูกหนูยังอ่อน ยกของหนักมากกระดูกจะเสียหายได้ แล้วหนูก็จะไม่สูงด้วยนะ”พอได้ยินคำว่าไม่สูง ที่รักรีบวางกองหนังสือที่มัดเรียงกันเป็นตั้งลงทันที ไม่ได้สิเรื่องความสวยความงามต้องมาที่หนึ่งที่รักจากแรกเกิด

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status