เธออยากจะปล่อยเรื่องผิดพลาดในคืนเมามายให้ผ่านไปแบบทางใครทางมัน แค่ได้กันเท่านั้นไม่มีอะไรมากมายในกอไผ่ จะว่าไปก็ฟิน ๆ ดี ความฟินต้องจบลงเมื่อได้รับข้อความจากเขานี่แหละ
ภีมเองครับ : มาคุยกันหน่อย
น้องใบบัว : มีอะไรต้องคุยคะ
ภีมเองครับ : พี่ไม่ได้ป้องกัน
คำด่ามากมายวิ่งในหัวของใบบัว เธออยากจะเอาเล็บที่เพิ่งทำมาเมื่อวานข่วนหน้าให้แหกจนหมดหล่อ
คนอะไรมักง่าย มีอะไรไม่ป้องกัน เป็นหมอประสาอะไร จนจะหมออยู่แล้วทำไมถึงไม่รู้จักคิด
มือเล็กของนักศึกษาวิศวกรรมปีสองกำแน่นด้วยความโมโห ตอนนั้นเธอก็เมาด้วยแต่ก็จำได้ว่าบอกให้เขาใส่ถุง
บ้าเอ้ย! เวลาไม่มีสตินี่ก็นะ อยากหยุมหัวตัวเองนัก
“บัวจะไปไหน” เสียงที่เหมือนเสียงของตัวเองเรียกเมื่อเธอแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยและกำลังจะเดินออกจากห้องพัก
“จะไปออกกำลังกายหน่อย”
“ออกกำลังกาย?” สาวสวยมีดีกรีตำแหน่งดาวมหาลัยขมวดคิ้ว ร้อยวันพันปีน้องสาวฝาแฝดของเธอไม่เคยออกกำลังกาย อย่างมากก็แค่กลิ้งไปกลิ้งมาแถว ๆ หน้าจอทีวี
วันนี้กินยาลืมเขย่าขวดหรือว่าสมองไม่ค่อยดี ถึงได้บอกว่าจะไปออกกำลังกาย
“เออ เนี่ยวันนี้วันแรกไง” คนกำลังจะไปออกกำลังกายใส่รองเท้าผ้าใบสำหรับวิ่ง
รองเท้าสำหรับวิ่งแต่เชื่อไหมตั้งแต่ซื้อมาเธอวิ่งยังไม่ถึงหมื่นก้าว เอาเถอะวันนี้ใบบัวต้องใช้มัน
ถ้าไอ้พี่หมอภีมบ้านั่นคิดจะทำอะไรไม่ดีเธออีก เธอจะถีบยอดหน้ามันแล้ววิ่งหนีออกมา
“ให้ไปเป็นเพื่อนไหม” พี่สาวอย่างใบเฟิร์นถามทั้งที่ตัวเองยังนอนเน่าอยู่บนเตียง
“ไม่ต้อง ไปแป๊บเดียว” ใบบัวรีบเดินออกจากห้องทันที จะให้พี่สาวของเธอรู้เรื่องนี้ไม่ได้
งือ...ไม่น่าเลยวันนั้น ไม่น่าหวังดี
เป็นไงละ
เนื้อไม่ได้กิน แต่เอ๊ะก็เหมือนจะได้กินอยู่นะ คับปากเลยทีเดียว ใบบัวรีบสะบัดศีรษะไล่ความคิดชั่วร้าย
หนังไม่ได้รองนั่ง แต่เนื้อหนังวันนั้นก็แน่นและตึงทั้งตัวอยู่นะ จะว่าไม่ได้นั่งได้ไง ก็นั่งคร่อมเขาอยู่นะ
“อีบัว!” ก่นด่าและเรียกสติของตัวเองก่อนจะรีบเดินข้ามสะพานลอยและตรงไปยังตึกของโรงพยาบาล
เขาบอกเธอว่าไง ให้รออยู่ที่ทางหนีไฟชั้นที่สองแล้วเขาจะลงมาหา
หึ ต้องให้มารอรับเสด็จ
ใบบัวเดินเท้าขึ้นไปยังชั้นสองของอาคารผู้ป่วยใน
ดูนาฬิกาแล้วนักศึกษาแพทย์น่าจะราวนด์วอร์ดเสร็จพอดี จากนั้นเธอก็เปิดประตูทางหนีไฟ นั่งรอเขาอยู่ตรงบันไดนักศึกษาสาวยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดปัดฟีดโดยที่ไม่ได้เปิดเสียง
“อื้อ...อย่าวิน” เสียงใคร นั่นเป็นคำถามที่ใบบัวถามกับตัวเองภายในใจ
จ๊วบ จ๊วบ
“อื้อ...อื้อ” เสียงนี้ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอคงไม่คุ้นเคยแต่เมื่อได้ผ่านค่ำคืนแสนเร่าร้อนระหว่างเธอกับอีตาหมอหน้าด้านมักง่ายนั่น เวลานี้เธอรู้แล้วว่านั่นเป็นเสียงจูบ
แต่เป็นใครกันที่จูบกัน
เท้าเรียวก้าวย่างอย่างระมัดระวัง ค่อย ๆ ไต่ขึ้นไปสูงอีกนิดเพื่อให้มองเห็นชั้นถัดขึ้นไปอีกหนึ่งชั้น หัวจิตหัวใจของเธอเต้นระส่ำ ทั้งตื่นเต้นทั้งกลัวว่าพวกเขาจะรู้ว่าเธอเห็น
แต่ความอยากเสือกเรื่องของชาวบ้านมีมากกว่าความกลัว เรื่องชาวบ้านคืองานของเรา
เมื่อเดินขึ้นมาอีกสามสี่ขั้นของบันได เห็นหนุ่มสาวในชุดนักศึกษาแพทย์เวลานั้นใบบัวยังมองไม่ออกว่าเขาทั้งสองคนเป็นใคร ทั้งสองกำลังประกบปากกันและกันอย่างดูดดื่ม พี่ผู้หญิงเขย่งเท้าเต็มความสูง ส่วนพี่ผู้ชายก้มลงจูบแลกลิ้นกันอย่างดูดดื่มราวกับตายอดตายอยากด้วยกันทั้งคู่
และแล้ว! เมื่อผู้ชายคนนั้นเอียงหน้าเพื่อปรับองศาจูบพร้อมทั้งขยับริมฝีปากออกห่างจากกันเพราะต้องการสูดอากาศเข้าปอด
“อ๊ะ!...” ใบบัวเบิกตากว้างกับสิ่งที่เห็น เกือบจะร้องออกไปด้วยความตกใจแต่ก่อนที่เสียงเธอจะเปล่งออกไปนั้นมีมือของใครบางคนมาปิดปากไว้ได้ทันท่วงที
ก่อนที่ร่างของเธอจะลอยหวือออกจากทางเดินหนีไฟ
“หายหอบหรือยัง” ภีมที่อยู่ในชั้นนักศึกษาแพทย์ปีหกหรือที่เรียกว่า ‘Extern’ เอ่ยถามคนที่นั่งหอบอยู่นานหลายนาที เขาปิดปากเธอและพาเธอมานั่งเก้าอี้ข้างตึกได้ทันก่อนที่สองคนที่แลกลิ้นกันจะทันเห็น
“หายแล้ว ทำไมต้องปิดปากบัว”
“ไม่อยากให้สองคนนั้นรู้ว่าเธอแอบดู” ภีมว่ายิ้ม ๆ แม่สาวน้อยของเขาหื่นใช่เล่น
“ไม่ได้แอบดูสักหน่อย” คนไม่ได้แอบดูแต่เห็นเต็มสองตาทำแก้มพองลม
“หื่นนะเรา” ภีมว่ายิ้ม ๆ ยิ่งเห็นเวลาเธอทำแก้มพองแล้วอยากจะยื่นมือบีบแก้มนุ่ม ๆ นั่นแต่ก็ไม่ได้ทำ
“ไม่เท่าพี่หรอก ทำไมไม่ป้องกัน” ใบบัวทำเสียงเข้มและมองหน้าเขาอย่างเอาเรื่องเปลี่ยนจากแมวน้องเชื่องเวลานี้เปลี่ยนเป็นแมวน้องที่พองขนและกางเล็บพร้อมจะข่วนหน้าเขาทันที
“เมาน่ะ”
“มักง่าย เป็นหมอเสียเปล่า”
“หมอก็เงี่ยน หน้ามืดบ้างอีกอย่างเมาด้วย” ภีมตอบยิ้ม ๆ มองเธอไม่วางตา
“พี่หมอภีมนี่เปลี่ยนแฟนบ่อยจัง แต่ละคนปี ปีกว่าเองมั้ง” พอลลี่ผู้เห็นเรื่องชาวบ้านเป็นงานของเรา นอกจากนี้เพื่อนพอลลี่ยังอยู่สมาคมเราจะเสือกไปด้วยกันอย่างมีอารยธรรมบอกกับเพื่อน ๆ “บัวเป็นอะไร” ใบเฟิร์นสะกิดน้องสาวที่เวลานี้ทำหน้าเหมือนตูด “เปล่า” คนหน้าเหมือนตูดปฏิเสธ เมื่อน้องสาวฝาแฝดบอกว่าเปล่าใบเฟิร์นก็เลิกสนใจ หันกลับไปเมาท์มอยกับเพื่อนต่อ “คนมีผัวเตรียมอะไรให้ผัววันวาเลนไทน์” แม้จะรู้ว่าพี่สาวฝาแฝดไม่ได้หมายถึงตัวเองแต่คนเพิ่งเคยเสียตัวถึงกับสะดุ้ง มีอะไรกันครั้งเดียวเรียกผัวได้ไหมนะ “ไม่รู้อะ ต้องเตรียมด้วยเหรอ” รินลณีผู้มีผัวถูกต้องตามกฎหมายเอ่ยถาม “ตอนแกคบอีพี่หมอวินแกยังมีของขวัญให้เขาเลย ฉันเป็นพี่พัฒน์น้อยใจแย่เลย” “พอลลี่แกรับสินบนจากเฮียมาเปล่าเนี่ย” เมียหมอพัฒน์หรี่ตามองอย่างจับผิด “นี่หล่อน คนอย่างพอลลี่เงินซื้อไม่ได้ค่ะ” “แล้วอะไรซื้อได้” ใบเฟิร์นเอ่ยถาม“ผู้ชาย!”“ผ่าม!”“มุกห้าบาทสิบบาทก็เล่นนะพวกแก” รินลณีว่า ใบบัวส่ายศีรษะอย่างเอือมระอากับมุกของเพื่อนทั้งสองก่อนวันวาเลน์ไทน์หนึ่งวัน “ทำไมทำหน้
ภีมกดจองโรงแรมข้างบนผับแห่งนี้ วันนี้เขาคิดว่าจะกินเหล้าจนภาพตัดสักหน่อย ย้อมใจที่อกหักอีกแล้ว หรือเขาไม่ควรมีแฟน มีแฟนทีไรก็-อกหักไม่ชอบเลย ภีมกวาดตามองคนที่อยู่ในห้องทั้งหมด เพื่อนของนาวินเขาพอรู้จักเพราะเป็นรุ่นน้องในคณะฯ เพื่อนของรินลณี คนที่พูดเก่ง ๆ สาวสองที่สร้างความสดใสให้ทุกคนนั้นก็คือน้องพอลลี่ ส่วนสองสาวที่เป็นแฝดใบหน้าของทั้งคู่เหมือนกันมาก มองผ่าน ๆ คงไม่มีใครแยกออก แต่เขากลับแยกออก น้องใบเฟิร์นผู้มีสายตาปนหยิ่งคนนั้นคือดาวมหาวิทยาลัย ส่วนอีกคนที่ใบหน้าเหมือนน้องใบเฟิร์นแต่บุคลิกจะหวาน ๆ ดูไม่หยิ่งเท่าน้องใบเฟิร์น คนนั้นชื่อน้องใบบัว ‘ใบบัว’ ชื่อเธอคล้ายกับชื่อคนรักเก่าเขาด้วย ‘โบว์’ ภีมยกแก้วเหล้าในมือขึ้นจิบเรื่อย ๆ ระหว่างที่นาวินกับรินลณียังแข่งกันดื่ม “น้องใบบัวว่าใครจะชนะครับ” ภีมเอ่ยถามคนข้างกาย เธอเหมาะกับชื่อใบบัวนะ ตัวเธอหอมเหมือนดอกไม้ แต่ไม่รู้ดอกอะไร “รินณีชนะแน่นอนค่ะ พี่หมอภีมไม่ต้องห่วง” ใบบัวตอบพร้อมทั้งรอยยิ้มให้เขา ภีมต้องกะพริบตาถี่ ๆ จังหวะวิ้งเมื่อกี้ที่เธอส่งมา“พี่หมอภีมไม่ต้องห่
“อยากเล่าค่อยเล่า” ใบเฟิร์นว่าพร้อมทั้งล้มตัวลงนอนหลังจากอาบน้ำเสร็จ ใบบัวลุกไปอาบน้ำบ้างในมือถือโทรศัพท์เข้าไปด้วย แปลก! คนแปลกยังคงนั่งยิ้มกับข้อความที่ใครบางคนส่งมา ภีมเองครับ : อ่านหน่อยครับภีมเองครับ : ที่ไม่อ่านนี่เพราะอยากให้โทรไปใช่ไหม ใบบัวรีบกดเข้าไปช่องแชตระหว่างเธอกับเขาทันที เกิดเขาโทรมาแน่นอนว่าพี่สาวฝาแฝดเธอต้องได้ยินอย่างแน่นอน น้องใบบัว : มีอะไรคะ ภีมเองครับ : คิดถึง น้องใบบัว : เท่านี้นะ ภีมเองครับ : เดี๋ยวดิ น้องใบบัว : อะไรอีกภีมเองครับ : พรุ่งนี้ว่างไหมน้องใบบัว : ไม่ว่างภีมเองครับ : คิดนิดหนึ่ง น้องใบบัว : เท่านี้นะจะอาบน้ำภีมเองครับ : วิดีโอคอลได้เปล่า!น้องใบบัว : สติกเกอร์แยกเขี้ยวภีมยิ้มกับข้อความที่ส่งหาสาวที่กำลังจีบอยู่ รู้สึกชุ่มชื่นหัวใจเหลือเกิน“ทำไรมึง” เอกภพหรือหมอเอกผู้นั่งกินข้าวข้าง ๆ ถามคนยิ้มกับโทรศัพท์ไม่หยุด“เปล่า” ภีมรีบปฏิเสธพร้อมทั้งหย่อนโทรศัพท์เข้ากระเป๋ากางเกง“อย่าบอกนะว่ามึงมีความรักอีกแล้ว” พายุถามขึ้นอย่างสงสัย“ไม่เข็ดอีกเหรอวะ” เป็นระพีพัฒน์เอ่
“นั่นสิ ทำไมวันนี้อาจารย์มาช้า” พอลลี่บ่นเมื่อผ่านไปได้ห้านาทีแล้ว“เดี๋ยวก็มา” รินลณีว่า สิ้นคำของรินลณีประตูห้องก็เปิดออก“แก ๆ นั่นต้นไม้ใช่เปล่า” พอลลี่กระซิบกระซาบกับเพื่อนเมื่อเห็นหนุ่มหล่อดีกรีเดือนมหาวิทยาลัยผู้มีชื่อว่าพฤกษาชื่อเล่นว่าต้นไม้“ไม่นะ นั่นคนไม่ใช่ต้นไม้” ใบเฟิร์นว่า“อีเฟิร์น” พอลลี่จีบปากจีบคอว่าเพื่อน แต่ก็ไม่วายกวาดตามมองรอบห้องเรียน นาน ๆ จะได้เรียนรวมกับสาขาอื่น เธอเลือกเรียนวิศวะเพราะอย่างนี้นี่แหละ มีแต่ผู้ชาย“กลุ่มของต้นไม้นี่ก็มีแต่คนหล่อ ๆ เนอะ โสดอีกต่างหาก” ใบเฟิร์นกระซิบกับพอลลี่ที่กำลังสแกนหนุ่ม ๆ“หล่อจริงแหละ ทะเลก็โคตรหล่อได้ยินว่ากลับมาโสดแล้วนะ” พอลลี่อัปเดตข่าวสารให้เพื่อนรับรู้“อ้าว! เลิกกับแฟนแล้วเหรอ” ลูกคู่อย่างใบเฟิร์นถามอย่างสงสัย“ใช่น่ะสิ สาวเจ้าเขาไปคบกับรุ่นพี่มั้ง” ผู้รู้ผู้ตื่นและเบิกบานอย่างพอลลี่รู้ดีทุกอย่าง“ตั้งใจเรียนเหมือนใส่ใจเรื่องชาวบ้านพวกแกคงได้เอ” รินลณีที่นั่งติดกับพอลลี่หันมาดุเมื่อเพื่อนทั้งสองที่คุยกันจุกจิกไม่ยอมหยุดทั้งที่อาจารย์เริ่มสอนแล้ว“ใช่ ๆ” ใบบัวเองก็รำคาญเช่นกันรีบสนับสนุนสองสาวที่โดนเพื่อนทั้งสองคน
นั่นเท่ากับว่าความอยากในตัวผู้หญิงของไอ้พี่วินน่าจะเท่ากับศูนย์“แต่ที่โรงพยาบาลที่สองคนนั้นไปเรียน พวกเค้าก็แอบไปจูบกันตรงแถวบันไดหนีไฟด้วยนะ” ใบบัวยื่นหลักฐานเพิ่ม เพราะต้องการให้เพื่อนทั้งสามเชื่อ“เฮ้ย...คนหน้าเหมือนรึเปล่า” ใบเฟิร์นผู้มองโลกในแง่ดีบ้างนิดหน่อยเสนอความคิดเห็น“ไม่ใช่ สองคนนั้นจริง พี่เชอร์รี่บอกว่าเธอจะรับผิดชอบพี่วินเอง แล้วจะเลิกกับชะนีที่คั่วอยู่” อันนี้เธอก็ได้ยินเต็มสองหูในตอนที่ไอ้พี่หมอภีมลากเธอออกมา“หา!...ตกลงใครเป็นผัวเป็นเมียเหรอวะ” พอลลี่ยกมือทาบอก พี่เชอร์รี่บอกจะรับผิดชอบพี่วิน ฟังดูมันก็ทะแม่ง ๆ“จะรู้ไหม พี่เชอร์รี่ก็ห้าวอย่างที่เราเห็น ส่วนพี่วินก็นุ่มนิ่มอย่างที่เราเห็น มันอาจเป็นอะไรที่ลงตัว เดี๋ยวนี้เขาไม่จำกัดเรื่องเพศแล้ว ขอให้เข้าใจกันก็พอ” รินลณีออกความเห็น ถ้าสองคนนั้นคบกันรินลณีจะยินดีกว่าใครเพื่อน เพราะนั่นเท่ากับว่านาวินจะไม่มายุ่งกับคุณหมอระพีพัฒน์สามีของเธอ“ช่างเถอะ อาจจะเป็นแค่ข่าวลือ” พอลลี่ตัดบท“ข่าวลือที่ไหน ฉันเห็นมากับตา...อุ๊ย” คนอยากยื่นหลักฐานเพิ่มแต่กลับลืมตัวว่าแสดงตัวเกินไปรีบเอามือปิดปาก“เดี๋ยวนะ ฉันมีเรื่องสงสัย ทำไมแ
“หึ! มักง่าย อะไร” ใบบัวยังทำตาขวางใส่เขาทั้งยังมองเขาอย่างหาเรื่องเมื่อเขายื่นบางอย่างให้เธอ “ยาคุมฉุกเฉิน” “ไม่ต้อง! บัวไม่ท้องหรอก แต่กลัวติดโรคมากกว่า ขอผลตรวจสุขภาพ” ที่มาวันนี้ไม่ได้ต้องการยาคุมฉุกเฉินแต่ต้องการผลตรวจสุขภาพมากกว่า เธอน่ะสะอาดไร้โรคภัยอยู่แล้ว แต่เขาละสดมากี่คน “แล้วของเธอล่ะ” ฟังปากเขาที่พูดออกมา มาถามเธอได้ไง เขาก็รู้ไม่ใช่เหรอว่านั่นมันครั้งแรกของเธอ “บัวไม่เคย” ใบบัวตอบอย่างโมโห “เหรอ” ภีมถามยิ้ม ๆ แต่รอยยิ้มของเขาเวลานี้เธออยากจะข่วนหน้าหล่อ ๆ นั่นให้ลายไปทั้งหน้าเสียจริง “ก็ใช่น่ะสิ” คนสวยคู่แฝดดาวมหาลัยตอบพร้อมทั้งสะบัดหน้ามองไปทางอื่น รู้สึกขุ่นเคืองใจ เขาก็พูดเองคืนนั้น ‘ครั้งแรก’ ‘อืม’ ซึ่งเธอก็ครางรับไปแล้วว่าใช่ เวลานี้จะมาถามอะไรอีก “พี่ก็ครั้งแรกเหมือนกัน” “...” หญิงสาวเบิกตากว้างกับคำพูดของเขา ผู้ชายตรงหน้าเธอตอแหลได้โล่ คนอย่างเขาเนี่ยนะไม่เคย เขามีแฟนมาแล้วตั้งไม่รู้กี่คนจะบอกว่าไม่เคยXXX กันเนี่ยนะ “พี่ว่าพี่บอกเธอแล้วนะ” “เดี๋ยวน