เข้าสู่ระบบ“มาทำไม” “มาจีบ” “จีบ ทำไมก็ได้ไปแล้ว” “ก็อยากได้อีก” “อยากได้อีกก็เลยมาจีบ” “อืม ไม่อยากได้จะจีบทำไมละครับ” เป้าหมายเราสองคนเหมือนกัน คืออยากได้กันและกัน คำว่าอยากได้ คืออยากได้ร่างกายของกันและกัน แค่ร่างกายเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับหัวใจ “เธอคิดว่ามันเป็นไปได้เหรอบัว แค่ซั่มกัน แต่ไม่ได้รักกัน”
ดูเพิ่มเติมเธออยากจะปล่อยเรื่องผิดพลาดในคืนเมามายให้ผ่านไปแบบทางใครทางมัน แค่ได้กันเท่านั้นไม่มีอะไรมากมายในกอไผ่ จะว่าไปก็ฟิน ๆ ดี ความฟินต้องจบลงเมื่อได้รับข้อความจากเขานี่แหละ
ภีมเองครับ : มาคุยกันหน่อย
น้องใบบัว : มีอะไรต้องคุยคะ
ภีมเองครับ : พี่ไม่ได้ป้องกัน
คำด่ามากมายวิ่งในหัวของใบบัว เธออยากจะเอาเล็บที่เพิ่งทำมาเมื่อวานข่วนหน้าให้แหกจนหมดหล่อ
คนอะไรมักง่าย มีอะไรไม่ป้องกัน เป็นหมอประสาอะไร จนจะหมออยู่แล้วทำไมถึงไม่รู้จักคิด
มือเล็กของนักศึกษาวิศวกรรมปีสองกำแน่นด้วยความโมโห ตอนนั้นเธอก็เมาด้วยแต่ก็จำได้ว่าบอกให้เขาใส่ถุง
บ้าเอ้ย! เวลาไม่มีสตินี่ก็นะ อยากหยุมหัวตัวเองนัก
“บัวจะไปไหน” เสียงที่เหมือนเสียงของตัวเองเรียกเมื่อเธอแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยและกำลังจะเดินออกจากห้องพัก
“จะไปออกกำลังกายหน่อย”
“ออกกำลังกาย?” สาวสวยมีดีกรีตำแหน่งดาวมหาลัยขมวดคิ้ว ร้อยวันพันปีน้องสาวฝาแฝดของเธอไม่เคยออกกำลังกาย อย่างมากก็แค่กลิ้งไปกลิ้งมาแถว ๆ หน้าจอทีวี
วันนี้กินยาลืมเขย่าขวดหรือว่าสมองไม่ค่อยดี ถึงได้บอกว่าจะไปออกกำลังกาย
“เออ เนี่ยวันนี้วันแรกไง” คนกำลังจะไปออกกำลังกายใส่รองเท้าผ้าใบสำหรับวิ่ง
รองเท้าสำหรับวิ่งแต่เชื่อไหมตั้งแต่ซื้อมาเธอวิ่งยังไม่ถึงหมื่นก้าว เอาเถอะวันนี้ใบบัวต้องใช้มัน
ถ้าไอ้พี่หมอภีมบ้านั่นคิดจะทำอะไรไม่ดีเธออีก เธอจะถีบยอดหน้ามันแล้ววิ่งหนีออกมา
“ให้ไปเป็นเพื่อนไหม” พี่สาวอย่างใบเฟิร์นถามทั้งที่ตัวเองยังนอนเน่าอยู่บนเตียง
“ไม่ต้อง ไปแป๊บเดียว” ใบบัวรีบเดินออกจากห้องทันที จะให้พี่สาวของเธอรู้เรื่องนี้ไม่ได้
งือ...ไม่น่าเลยวันนั้น ไม่น่าหวังดี
เป็นไงละ
เนื้อไม่ได้กิน แต่เอ๊ะก็เหมือนจะได้กินอยู่นะ คับปากเลยทีเดียว ใบบัวรีบสะบัดศีรษะไล่ความคิดชั่วร้าย
หนังไม่ได้รองนั่ง แต่เนื้อหนังวันนั้นก็แน่นและตึงทั้งตัวอยู่นะ จะว่าไม่ได้นั่งได้ไง ก็นั่งคร่อมเขาอยู่นะ
“อีบัว!” ก่นด่าและเรียกสติของตัวเองก่อนจะรีบเดินข้ามสะพานลอยและตรงไปยังตึกของโรงพยาบาล
เขาบอกเธอว่าไง ให้รออยู่ที่ทางหนีไฟชั้นที่สองแล้วเขาจะลงมาหา
หึ ต้องให้มารอรับเสด็จ
ใบบัวเดินเท้าขึ้นไปยังชั้นสองของอาคารผู้ป่วยใน
ดูนาฬิกาแล้วนักศึกษาแพทย์น่าจะราวนด์วอร์ดเสร็จพอดี จากนั้นเธอก็เปิดประตูทางหนีไฟ นั่งรอเขาอยู่ตรงบันไดนักศึกษาสาวยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดปัดฟีดโดยที่ไม่ได้เปิดเสียง
“อื้อ...อย่าวิน” เสียงใคร นั่นเป็นคำถามที่ใบบัวถามกับตัวเองภายในใจ
จ๊วบ จ๊วบ
“อื้อ...อื้อ” เสียงนี้ถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอคงไม่คุ้นเคยแต่เมื่อได้ผ่านค่ำคืนแสนเร่าร้อนระหว่างเธอกับอีตาหมอหน้าด้านมักง่ายนั่น เวลานี้เธอรู้แล้วว่านั่นเป็นเสียงจูบ
แต่เป็นใครกันที่จูบกัน
เท้าเรียวก้าวย่างอย่างระมัดระวัง ค่อย ๆ ไต่ขึ้นไปสูงอีกนิดเพื่อให้มองเห็นชั้นถัดขึ้นไปอีกหนึ่งชั้น หัวจิตหัวใจของเธอเต้นระส่ำ ทั้งตื่นเต้นทั้งกลัวว่าพวกเขาจะรู้ว่าเธอเห็น
แต่ความอยากเสือกเรื่องของชาวบ้านมีมากกว่าความกลัว เรื่องชาวบ้านคืองานของเรา
เมื่อเดินขึ้นมาอีกสามสี่ขั้นของบันได เห็นหนุ่มสาวในชุดนักศึกษาแพทย์เวลานั้นใบบัวยังมองไม่ออกว่าเขาทั้งสองคนเป็นใคร ทั้งสองกำลังประกบปากกันและกันอย่างดูดดื่ม พี่ผู้หญิงเขย่งเท้าเต็มความสูง ส่วนพี่ผู้ชายก้มลงจูบแลกลิ้นกันอย่างดูดดื่มราวกับตายอดตายอยากด้วยกันทั้งคู่
และแล้ว! เมื่อผู้ชายคนนั้นเอียงหน้าเพื่อปรับองศาจูบพร้อมทั้งขยับริมฝีปากออกห่างจากกันเพราะต้องการสูดอากาศเข้าปอด
“อ๊ะ!...” ใบบัวเบิกตากว้างกับสิ่งที่เห็น เกือบจะร้องออกไปด้วยความตกใจแต่ก่อนที่เสียงเธอจะเปล่งออกไปนั้นมีมือของใครบางคนมาปิดปากไว้ได้ทันท่วงที
ก่อนที่ร่างของเธอจะลอยหวือออกจากทางเดินหนีไฟ
“หายหอบหรือยัง” ภีมที่อยู่ในชั้นนักศึกษาแพทย์ปีหกหรือที่เรียกว่า ‘Extern’ เอ่ยถามคนที่นั่งหอบอยู่นานหลายนาที เขาปิดปากเธอและพาเธอมานั่งเก้าอี้ข้างตึกได้ทันก่อนที่สองคนที่แลกลิ้นกันจะทันเห็น
“หายแล้ว ทำไมต้องปิดปากบัว”
“ไม่อยากให้สองคนนั้นรู้ว่าเธอแอบดู” ภีมว่ายิ้ม ๆ แม่สาวน้อยของเขาหื่นใช่เล่น
“ไม่ได้แอบดูสักหน่อย” คนไม่ได้แอบดูแต่เห็นเต็มสองตาทำแก้มพองลม
“หื่นนะเรา” ภีมว่ายิ้ม ๆ ยิ่งเห็นเวลาเธอทำแก้มพองแล้วอยากจะยื่นมือบีบแก้มนุ่ม ๆ นั่นแต่ก็ไม่ได้ทำ
“ไม่เท่าพี่หรอก ทำไมไม่ป้องกัน” ใบบัวทำเสียงเข้มและมองหน้าเขาอย่างเอาเรื่องเปลี่ยนจากแมวน้องเชื่องเวลานี้เปลี่ยนเป็นแมวน้องที่พองขนและกางเล็บพร้อมจะข่วนหน้าเขาทันที
“เมาน่ะ”
“มักง่าย เป็นหมอเสียเปล่า”
“หมอก็เงี่ยน หน้ามืดบ้างอีกอย่างเมาด้วย” ภีมตอบยิ้ม ๆ มองเธอไม่วางตา
“พี่ก็อยากมีตัวเล็ก ๆ น่ารัก ๆ เหมือนภูเขาแล้ว” ภีมว่า เขาได้เลี้ยงเด็กชายภูเขาตั้งแต่แรกคลอด คำว่าวังน้ำเขียวก็แค่ปากซอยเกิดขึ้นหลังจากที่เด็กชายภูเขาเกิดเขากับใบบัวเดินทางกลับมาเยี่ยมน้องบ่อยแทบเรียกว่าทุกสัปดาห์ด้วยซ้ำ นึกว่าตัวเองจะมีลูกสาวหรือลูกชายน่ารักนุ่มนิ่มแบบนี้ก็คงดีไม่น้อย“มีลูกกันนะพี่หมอ”“แล้วเราไม่อยากทำงานเหรอ”“มีลูกก็ทำงานได้ อย่าคิดว่าลูกเป็นอุปสรรคสิ ถ้าคิดว่าลูกเป็นอุปสรรคป่านนี้แม่คงเอาบัวกับเฟิร์นไปทิ้งน้ำแล้ว” ใบบัวว่าติดตลกภีมพยักหน้าเห็นด้วย เขากับใบบัวในเวลานี้ก็ถือว่าพร้อมถึงแม้จะอายุยังน้อยแต่พวกเขาทั้งสองก็มีความพร้อมที่จะเลี้ยงเด็กคนหนึ่งให้เติบโตเป็นคนดีของสังคมได้งานแต่งงานของทั้งสองถูกจัดขึ้นในเดือนธันวาคม ปีนี้เป็นปีที่อากาศเดือนธันวาคมหนาวกว่าทุกปี วังน้ำเขียวก็เช่นกันหนาวกว่าทุกปีที่ผ่านมาเพราะอากาศหนาวทำให้ทุกคนที่มาร่วมงานต่างชื่นชอบบรรยากาศและธีมงานแต่งของทั้งคู่ช่วงเช้าเป็นพิธีรดน้ำสังข์อย่างไทย ซึ่งผู้มาร่วมงานคือเหล่าญาติและเพื่อนสนิทของทั้งคู่ ช่วงกลางคืนเป็นงานเลี้ยง “ธีมตลาดนัด” โดยเจ้าภาพจ้างซุ้มอาหารดังจากช่องทางโซเชียลมาจัดบูท
“ไม่ต้องติดก็ได้ขนตาตัวเองไม่ได้สั้น” ใบเฟิร์นบ่นน้องสาว แต่งหน้านิดหน่อยก็สวยมากแล้ว“เค้ากลัวไม่สวย”“ตัวเป็นน้องเค้า ไม่สวยได้ไงสวยได้พี่”“นี่ชมน้องใช่ไหมเนี่ย” คนเป็นน้องทำปากยื่นอย่างหมั่นไส้“จ้า ชมสิ”“นึกว่าสวยได้แม่” ผู้เป็นแม่เดินเข้ามาหาลูกสาว“ก็ต้องสวยได้แม่อยู่แล้ว นี่น้องใบบัวลูกสาวสุดที่รักของแม่” ใบบัวทำมือบานประคองใบหน้างาม“ไปกันเถอะ ผู้ใหญ่มากันแล้ว” บุญญาบอกกับลูกสาวทั้งสองคนเมื่อเดินมาถึงห้องรับแขกของบ้าน โซฟาตัวหรูฝั่งหนึ่งคือนทีที่อุ้มลูกชายวัยเกือบสองขวบอยู่บนตัก ตรงข้ามคือภาสุและนุชรี คนที่ยืนอยู่ข้างหลังพ่อกับแม่ของเขาคือผู้ชายที่ทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงทุกครั้งที่ได้สบตาภีมส่งรอยยิ้มให้คนรัก วันนี้น้องของเขาสวมชุดเดรสสีชมพูแขนตุ๊กตาสั้นเท่าเข่า น่ารักเสียจริงแฟนเขาบุญญานั่งลงข้างสามียื่นมืออุ้มลูกชายคนเล็กมาไว้บนตักแทน“พีพี” เด็กชายยกแขนขึ้นจะไปหาคนที่ยืนฝั่งตรงข้าม เพราะวัยยังออกเสียงไม่ชัดทำให้เรียกชื่อแฟนพี่สาวยังไม่ชัดจาก ‘ภีม’ กลายเป็น ‘พีพี’ภีมเดินเข้ามาหาเด็กชายและอุ้มไว้ในอ้อมกอดอย่างที่ทำเป็นประจำ“เริ่มเลยแล้วกันนะ” ภาสุเริ่มก่อน ตื่นเต้นไม่น
“อ๋อ ผมบล็อก ไปก่อนนะครับผมรีบ” คำตอบของภีมทำคนฟังนิ่งอึ้ง แต่ไม่ทันจะได้พูดอะไรต่อเขาก็วิ่งหายไปทางประตูเสียแล้ว เธออยากจะร้องเรียกแต่ก็ทำไม่ได้เพราะโรงพยาบาลไม่เหมาะกับการใช้เสียงดังภีมรีบวิ่งตามทางเท้าราวกับหนีเสือ เจอกันครั้งเดียวก็พออย่าให้เจอกันอีกเลยเมื่อมาถึงห้องเขากวาดสายตามองรอบห้องแต่กลับไม่พบเจ้าของร่างบางที่แสนคิดถึง มุมปากยกยิ้มเมื่อคิดถึงคำพูดของตัวเอง เขาบอกเธอว่าให้อาบน้ำรอหอม ๆเสียงเปิดประตูห้องน้ำทำให้คนที่นอนหลับตาพริ้มอยู่ในอ่างลืมตาขึ้นมองคนที่เพิ่งเข้ามา“อาบน้ำด้วยกันไหมคะ”“ครับ” คุณหมอหนุ่มสลัดผ้าออกจากกายแกร่งทันที หย่อนกายเปลือยเปล่าลงนั่งฝั่งตรงข้ามเธอ สายตาเธอเป็นประกายด้วยความวาบหวามเมื่อเขานั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามของอ่างอาบน้ำ“เมื่อยไหมคะ” ปลายเท้าเล็กแตะต้องตรงส่วนกลางกายที่ตั้งชันตั้งแต่ก่อนจะลงน้ำ“ครับ แข็งไปหมด นวดให้หน่อยนะครับเมียจ๋า” เขาจับเท้าเล็กให้ถูไถกับส่วนที่บอกว่าแข็งไปหมดให้เธอรับรู้ความแข็ง“แข็งจริงด้วย ทำงานยืนเยอะเหรอคะ ขาแข็งเชียว” ใบบัวหัวเราะยั่วเย้าคนขาที่สามแข็ง“ครับยืนนาน อูย” ภีมครางเสียวเมื่อฝ่าเท้าเล็กทั้งสองประกบกันรูดสาวขา
เข้าใจแหละว่าของขาดมานาน แต่ก็ได้กันแล้วท้องเลยมันก็ไม่ใช่หรือเปล่ามานพท้อ มานพเหนื่อย ตั้งแต่รุ่นแม่ยันรุ่นลูก“เราสองคนด้วย มีแฟนอาจารย์ไม่ว่าแต่ห้ามท้องเข้าใจไหม” ชี้หน้าคาดโทษลูกสาวเพื่อน อย่างคิดเอาเยี่ยงเอาอย่างอย่างแม่เด็ดขาด“รู้แล้วน่า พวกเราป้องกัน” ใบบัวรับคำเสียงหวาน“แล้วเราละ” มานพถามหลานอีกคนที่นิ่งเงียบ“ค่ะ ถ้ามีจะป้องกันค่ะ” ใบเฟิร์นว่า เธอฝังยาคุมเช่นเดียวกับน้องสาว เรื่องท้องไม่ต้องกังวล แต่ที่น่ากังวลคือคนที่เธอจีบนี่สิยังไม่ยอมแตะต้องเธอเลยสักนิด ใบเฟิร์นอยากมีประสบการณ์ฟิน ๆ บ้างจัง อยากรู้จังว่ามันจะฟินมากแค่ไหนบทที่ 57 รักแรกเขาว่าคนเรามักจะเจอคนที่ไม่อยากเจอ ความบังเอิญมักทำงานตอนที่เราไม่อยากให้มันทำงานอย่างเช่นตอนนี้“พี่บีม” ภีมมองผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อสายตา แฟนคนแรกของเขาตั้งแต่ครั้งอยู่ปีหนึ่ง มิน่าวันนี้ทั้งวันตาขวากระตุกไม่หยุด“ภีมทำงานที่นี่เหรอ”“เอ่อ ครับ” เขาทำงานและเรียนไปด้วย ส่วนมากก็เน้นเรียนมากกว่า ออกตรวจแค่สัปดาห์ละสองครั้งแต่ใครจะคิดว่าวันที่ออกตรวจจะเจออดีตคนเคยรักที่นี่“พี่เพิ่งกลับมาจากลอนดอน” บีม
“อะแฮ่ม!” เสียงหนึ่งดังขึ้นอย่างจับผิดไม่ใช่ใครที่ไหน ฝาแฝดของใบบัวนั่นเอง“อะไรติดคอ” พอลลี่เอ่ยถาม“เค้กอะ มันหวานเกินเนอะแกว่าไหม” ใบเฟิร์นผู้เหม็นความหวานของน้องสาวกับว่าที่น้องเขย หมอพายุทำไมไม่รู้จักศึกษางานจากหมอภีมบ้าง ฝ่ายนั้นไม่ได้เรื่องเลยเรื่องความหวาน ความโรแมนติก“ไม่ต้องกินฉันกินเอง” คนโดนแซวทำท่าจะยึดเค้กมาไว้กินเอง“ได้ไงพี่หมอภีมซื้อมาฝากพวกฉันด้วย เห็นไหมเนี่ยแบ่งสี่” มือหนาของพอลลี่ดึงกล่องเค้กไว้ก่อนที่ยายเพื่อนตัวดีจะดึงไปกินคนเดียว“อร่อยมากค่ะ” ใบบัวดวงตาเป็นประกายเมื่อตักเค้กคำแรกเข้าปาก ของเธอเป็นเค้กมัทฉะ ใบเฟิร์นกับพอลลี่เป็นเค้กช็อกโกแลต ส่วนรินลณีเป็นเค้กกาแฟ จะเห็นได้ว่าเขาไม่ใช่ซื้อเค้กมาให้เท่านั้น เขายังเลือกและใส่ใจ รู้ว่าพวกเธอแต่ละคนชอบกินเค้กอะไร“ป้อนหน่อย” ภีมอ้าปากให้แฟนสาวช่วยป้อน ใบบัวใช้ช้อนที่เพิ่งตักให้ตัวเองก่อนหน้านี้ตักและป้อนให้แฟนหนุ่ม ภาพความสวีตของทั้งสองคนสร้างความหมั่นไส้ให้คนสถานะไม่ชัดเจนอย่างใบเฟิร์นกับพอลลี่“เรามาทำอะไรตรงนี้วะพอลลี่” ใบเฟิร์นว่าพร้อมทั้งถอนหายใจอย่างเหนื่อยล้า“นั่นสิ คนดีเขาเห็นคนรักกันเขาจะยินดีด้วย แต่ทำไ
บทที่ 56 วัยรุ่นวุ่นรัก “แกมีข่าวมาเล่า” เสียงจีบปากจีบคอของพอลลี่ทำให้ทุกคนที่นั่งลอมมวงอยู่ตาโตทันที“อะไรยังไง” ใบเฟิร์นลูกคู่เจ้าประจำของพอลลี่ทำเสียงสนใจใคร่รู้“ฉันเห็นเด็กแกพาแฟนเก่าขึ้นรถ” ‘เด็กแก’ สายตาส่งมาทางใบบัว คนฟังขมวดคิ้ว ใครคือเด็กของเธอ“ทะเลย่ะ หนุ่มคอมไง ฉันเห็นเต็มสองตาเลยนะพาสาวขึ้นรถ สาวคนนั้นก็ไม่ใช่ใครจ้าแฟนเก่านางเอง”“เหมาะแล้วที่เป็นพอลลี่ ผู้รู้ผู้ตื่นผู้เบิกบาน...นนน” ใบเฟิร์นลากเสียงคำว่า ‘บาน’ ทำคนโดนว่าทำหน้าตาดุ“จ้า” พอลลี่รับคำประชด“เขากลับมาดีกันแล้วเหรอ” ใบบัวสงสัย ไม่ค่อยรู้เรื่องความสัมพันธ์ของนาวากับอดีตแฟนสาว แต่แค่รู้ว่าจบกันไม่สวย ฝ่ายหญิงหันไปคบกับรุ่นพี่คนหนึ่ง“ไม่รู้เหมือนกัน” พอลลี่ส่ายหน้า ถึงจะเห็นว่าขึ้นรถไปด้วยกัน แต่ก็ไม่ได้ยินว่าทั้งสองพูดว่าอะไร“โน่นมาโน่นแล้ว อยากรู้ก็ถามสิ” รินลณีว่าพร้อมทั้งยกมือโบกให้กลุ่มของนาวา สามหนุ่มเดินตรงมาทันที“ไง พวกเรานั่งจะโดนหมอดักตีหัวเปล่าเนี่ย” ถึงจะพูดอย่างนั้นพฤกษาก็หย่อนกายนั่งลงข้างรินลณี“ณภพบอกว่านายเป็นลุงรหัส” น้องชายของรินลณีเพิ่งเข้าเรียนชั้นปีที่หนึ่งวิศวกรรมคอมพิวเตอร์“ใช่ มีอ
ความคิดเห็น